คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
5.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
32 ตอน
7 วิจารณ์
34.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) บทที่ 18 แผนการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันต่อมา...
องค์รานีกาลิด้าได้ให้หาคนเป็นไกด์พารีเบ็คก้า วีอารอง ฟานเชสก้า และเลโอเลออนไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของคาลอส งานนี้ทั้งชีคจาดีนและเจ้าชายอามุนต่างอาสา จนผู้เป็นมารดาต้องให้เจ้าหญิงมิเรน่าไปเป็นไกด์นำเที่ยว แล้วให้องครักษ์เจเฟลาสทำหน้าที่นำคนไปคุ้มกัน
อีกด้าน
ที่ตึกร้างนอกชานเมืองหลวง มีคนสองคนกำลังสนทนากันอยู่
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดคาฟทานสีดำมีสีหน้าเครียด ก่อนจะทุบโต๊ะทำงานอย่างขัดใจ"บัดซบ! แค่นี้ยังพลาด นี่ดีนะที่เจ้านั่นมันฆ่าตัวตายไป ไม่งั้นเรื่องของเราได้แดงขึ้นมาแน่"
ชายอีกคนในชุดดำเสนอ”ใจเย็นก่อนครับ ผมว่าเราควรจะลอบสังหาร รีเบ็คก้า สวอน นะ"
"จะดีรึ?เราต้องใช้ยัยเด็กนั่นหา 'สิ่งนั้น'นี่นา"
"หึ!คุณคิดตื้นเกินไป เด็กนั่นมันระวังตัวเเจ ไม่ต้องกะเอาให้ถึงตาย ก็แค่เบี่ยงเบนความสนใจก็เท่านั้น"
ชายวัยกลางคนทวนคำ"เบี่ยงเบนความสนใจ?"
ชายชุดดำพยักหน้า"ถูกแล้ว เราก็จะสามารถสร้างความสับสนให้พวกนั้นได้"
"ดี ชั้นเห็นด้วย"
"เริ่มวันนี้เถอะ สายของชั้นรายงานมาว่า วันนี้พวกนั้นจะเที่ยวชมคาลอส"
"ได้ ชั้นจะสั่ง ให้คนของเราไปดักซุ่มจัดการเด็กนั่น"
ชายชุดดำกำชับอีกครั้ง"ห้ามเอาถึงตายล่ะ จำไว้ เรายังต้องใช้ให้เด็กนั่นหา'สิ่งนั้น'อยู่"
"ชั้นไม่ลืมแน่ อย่าห่วงเลย คุณคาเลนโซ่"
หลังจากร่วมรับประทานอาหารเช้ากับองค์รานีกาลิด้าแล้ว รีเบ็คก้าก็เตรียมตัวสำหรับเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของคาลอส ยามสาย รีเบ็คก้าออกมาในชุดสบายๆ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วสวมเสื้อแจ๊ดเก็ตหนัง กางเกงยีนต์ รองเท้าหนัง ผมสีน้ำตาลเข้มรวบสูงพอออกมาจากห้องก็พบเจเฟลาสออกมารออยู่ก่อนแล้ว
องครักษ์หนุ่มตำหนิ"ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อยล่ะ"
"ชุดนี้สบายตัวดีน่ะค่ะ อีกอย่างมันดูสุภาพดีด้วย"
"มันดูเหมือนผู้ชายไปหน่อยนะครับ"
"ก็แหม...พอดีชั้นไม่ค่อยชอบใส่พวกชุดกระโปรงนี่ค่ะ"
องครักษ์หนุ่มส่ายหน้าก่อนจะผายมือเชิญ"เอาเถอะครับ ไปที่รถกันเถอะครับ เชิญ"
“ขอบคุณ"
พอมาถึงรถ รีเบ็คก้าต้องแปลกใจมากที่มีขบวนรถมากมาย…สงสัยเพราะเรื่องการลอบสังหารเมื่อวานแน่…
รถที่โดยสารนั้นคือรถลีมูซีนสีดำ รีเบ็คก้าถูกจัดให้นั่งข้างหลังคนขับข้างๆคือเจ้าหญิงมิเรน่า แม่นมวัยชราที่เธอมารู้ชื่อภายหลังว่า นีน่า และวีอารองที่ขอเอาเจ้าครัวซองค์มาด้วย ต่อมาก็เป็นพี่น้องดาเดนดี้ ส่วนคนเจเฟลาสนั้นนั่งข้างคนขับโดยองครักษ์นายหนึ่งทำหน้าที่คนขับ
ที่แรกที่พวกเค้ามาคือ พระราชวังฤดูร้อนที่ในอดีตบรรดาเชื้อพระวงศ์จะมาพำนักกันแต่ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม เจ้าหญิงมิเรน่าทำหน้าที่นำเที่ยวพาไปดูยังห้องต่างๆ จนมาถึงห้องๆหนึ่งที่เรียกว่าห้องสายรุ้ง กระจกทุกบานในห้องนั้นเป็นกระจกสีๆหลายสีมาปะติดปะต่อรวมกันเป็ฯรูปร่างต่างๆ ยามต้องแสงแดดมันส่งแสงสวยงามตามรูปร่างที่กระจกสีได้ปะติดปะต่อกัน หากแต่มีหน้าต่างบานหนึ่งที่สะกดสายตาของรีเบ็คก้าหน้าต่างบานนั้นคือรูปหญิงสาวที่มองผีเสื้อโผบิน มันทำให้เธอนึกถึงอดีต ในวัยเยาว์ที่ผู้เป็นพ่อมักจะอุ้มชูชี้นกชมไม้โดยผู้เป็นแม่จะยืนเคียงข้าง ทุกๆวันอาทิตย์ครอบครัวสวอนจะพากันไปที่สวนที่แคนาดาเพื่อมาดูผีเสื้อ ใช่ ในวัยเด็กของรีเบ็คก้า สวอนไม่ได้อยู่ที่อังกฤษแต่อยู่ประเทศแคนาดาเพราะผู้เป็นพ่อต้องมาทำงานที่นั่นพร้อมกับแม่ พอแม่จากไปด้วยโรคร้ายผู้เป็นพ่อตัดสินใจพาเธอกลับมาอยู่ที่อังกฤษตามเดิมถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงความทรงจำสั้นๆแต่มันก็ทำให้สุขใจ
“นึกถึงตอนนั้นเหรอ สวอน”วีอารองร้องทัก ในตอนนี้ลูกสาวเค้าครัวซองค์ห้ามเข้ามาเค้าจำต้องฝากพวกองครักษ์ไว้
“อืม ตอนนั้นที่พ่อกับแม่พาไปดูผีเสื้อ”
“เหรอ ที่นี่สวยดีจริง”
“อืม ถามหน่อยสิ”
“อะไร”
“นายมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลยรึ”
“ไม่นะ ชั้นอยู่แต่ในวังตั้งแต่มาที่ประเทศนี้ มีสอนแทบทุกวัน มีหยุดสองวันชั้นก็พักน่ะนะ”
“นายแค่มาสอนเจ้าหญิงไม่ใช่รึแล้วทำไม…”
หนุ่มลูกครึ่งแทรกขึ้น”ชั้นต้องสอนพวกลูกขุนนางด้วยแถมต้องมาแปลภาษาอีก”
“เหนื่อยน่าดูนะ”
“ก็ไม่เท่าตอนที่อยู่ห้องผ่าตัดกับโต๊ะทำงานเอกสารที่โรง’บาลน่ะนะ”
“ตอนนี้ได้หมอผู้เชี่ยวชาญพอแล้วสิ”
“อืม กว่าจะหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ก็กินเวลาไปเยอะ ตอนนี้ต้องหาสัตว์แพทย์เพิ่ม”
เจ้าหญิงมิเรน่าที่ยืนอยู่ห่างๆให้ลูกทัวร์เดินชมวังอยู่นั้น มองมาที่สองหนุ่มสาวที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เธอนึกอิจฉาที่ผู้หญิงคนนั้นสามารถพูดคุยกับชายที่เธอแอบชอบได้อย่างสบายใจ ถ้าเป็นเธอ เธอจะเจอเค้าได้แค่ในเวลาเรียนเท่านั้นนอกนั้นก็นานๆที อย่างมากก็แค่เดินสวนกันเท่านั้น ในเวลาเรียนเค้าจะทำหน้าที่เป็นครูเค้าจริงจังในหน้าที่ ไม่ชวนเธอคุยไร้สาระเลย เค้าดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ อาจจะเป็นอย่างที่พี่คนโตเคยบอก ว่าพวกเค้ามีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ คนหนึ่งคือลูกชายคนเดียวของบ้านอีกคนคือทายาทคนเดียวของตระกูล ทำให้พวกเค้าเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ
หลังจากที่เที่ยวชมพระราชวังฤดูร้อนแล้ว เจ้าหญิงแห่งคาลอสก็พาไปที่ถ้ำสุสานกษัตริย์ ซึ่งอยู่นอกเมือง
เจ้าหญิงมิเรน่าเดินนำพลางอธิบาย”ที่นี่คือที่ฝังพระศพของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ในอดีต โดยที่ทางเราจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่วันจันทร์กับวันศุกร์เท่านั้นนะค่ะ”
วีอารองเอ่ยถาม”ทำไมเหรอครับเจ้าหญิง”
“เพราะว่ามันคือประเพณีคะ โบราณเชื่อกันว่าหากเราเข้ามาที่สุสานในวันอื่นที่ไม่ใช่วันจันทร์กับวันศุกร์จะถือเป็นการรบกวนวิญญาณ”
หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้ารับ เลโอเอ่ยขึ้น”ดีนะ นี่เป็นวันศุกร์”
เจ้าหญิงน้อยเดินนำจนไปถึงห้องโดมขนาดใหญ่ที่ทำจากหิน ฟานเชสก้ามองด้วยตาเป็นประกาย”สวยจัง คล้ายกับนครใต้ดินของตุรกีที่สร้างเลียนแบบวิหารเซนต์โซเฟียเลย”
เจ้าหญิงแห่งคาลอสเอ่ยถามช่างภาพสาว”คุณฟานเคยไปที่ตุรกีด้วยเหรอค่ะ”
“คะ ชั้นเคยไปถ่ายรูปหลายที่ ตุรกีก็เคยไป แต่ก็ไม่เท่าเบ็คกี้กับอารองหรอกคะ สองคนนั้นเคยเป็นคู่หูขาลุย ที่บุกป่าผ่าดงไปแทบทุกสารทิศเลยนะค่ะ”
“จริงเหรอคะ”
เลออนสนับสนุน”ครับ พวกผมน่ะไปไม่เยอะเท่าเด็กสองคนนั้นหรอก ถ้าเจ้าหญิงอยากรู้เรื่องต่างประเทศถามสองคนนั้นได้เลยครับ”
เจ้าหญิงมิเรน่านั้นแสนอาย ท่าจะให้ไปคุยกับครูหนุ่มลูกครึ่ง หรือถ้าไปคุยกับเพื่อนสาวของเค้าก็ยิ่งไม่ค่อยกล้าเพราะไม่ค่อยสนิทกัน
เลโอหันซ้ายแลขวาพลางเอ่ย”มีใครเห็นเบ็คกับอารองไหมเนี่ย สองคนนั้นไปไหนน่ะ”
ฟานเชสก้าเท้าสะเอว”อารองไปดูครัวซองค์ ส่วนเบ็คไปห้องน้ำน่ะ”
ทางด้านรีเบ็คก้าที่เพิ่งออกจากห้องน้ำนั้น เธอรู้สึกถูกจ้องมองจากทางด้านหลัง
ร่างบางหันหลัง“ใครน่ะ”
‘ปัง!’
เสียงปืนดังขึ้นทำให้องครักษ์เจ้าหญิงและลูกทัวร์คนอื่นๆรีบไปทางต้นเสียงก็พบว่ารีเบ็คก้านอนสลบอยู่ วีอารองรีบเข้าไปดู”สวอนๆ เฮ้ อย่าแกล้งหลับดิ”
หงส์น้อยค่อยๆลืมตาพลางดูที่ช่องท้องที่ตนเพิ่งถูกยิงมาราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอถอดเสื้อออกเผยให้เห็นเสื้อเกราะกันกระสุนสีดำที่ทำมาขนาดพอดีตัว ตรงช่วงท้องมีกระสุนปืนลูกซองฝังอยู่ “จุกแฮะ ปืนลูกซองนี่”ว่าจบก็แกะกระสุนออกจากเสื้อ
วีอารองถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนสาวของตนไม่ได้เป็นอะไรมากแค่โดนแรงกระแทกของปืนลูกซองแบบในระยะใกล้ โชคดีที่รีเบ็คก้ามักจะสวมเสื้อเกราะกันกระสุนสั่งทำพิเศษที่มีขนาดเท่ากับตัว ไม่งั้นแย่แน่ เจเฟลาสสั่งให้องครักษ์คนอื่นออกตามล่ามือปืนทันที แล้วหันไปบอกกับเจ้าหญิง”เจ้าหญิงเสด็จกลับวังเถอะ ที่นี่อันตราย”
“อืม”
องครักษ์หนุ่มหันมาหาหญิงสาวที่เพิ่งถูกยิงเมื่อครู่”คุณสวอนเป็นยังไงบ้างครับ”
“แค่จุกเท่านั้นคะ ไม่เป็นไรมาก”
“ขอผมดูกระสุนหน่อย”
“นี่คะ”เธอส่งกระสุนให้องครักษ์ผิวเข้ม
เจเฟลาสถามต่อ”คุณพอจำคนที่มายิงคุณได้มั้ยครับ”
หญิงสาวพยักหน้า”มันปิดหน้าไว้คะ เป็นผู้ชายสูงประมาณ180กว่า อ้อ ที่มือซ้ายมันสักลายแมงป่องดำไว้ด้วยคะ”
“เหรอครับ คุณกลับวังเถอะ”
วีอารองจึงช่วยพยุงให้เพื่อนยืนขึ้นแล้วพาไปที่รถ”แกนี่มันดวงแข็งนะ สวอน”
“ชั้นว่ามันต้องการแค่ขู่ชั้นเท่านั้นแหละ”เพราะถ้าจะฆ่าเธอจริงๆก็น่าจะยิงมาที่หัวของเธอแล้ว
พอกลับมาถึงวังเจเฟลาสรีบรายงานให้ผู้เป็นนายได้ทราบ
ชีคหนุ่มนิ่ง เจเฟลาสออกความเห็น”ตามความเห็นของผม ผมว่าพวกมันต้องการสร้างความสับสนนะครับ พวกนั้นแค่ดึงคุณสวอนเข้ามาเกี่ยว เป็นฝีมือของพวกแมงป่องดำ เท่าที่ดูจากกระสุนแล้ว พวกมันไม่กะเอาถึงตาย แต่เป้าหมายของพวกมันก็น่าจะเป็นท่านแน่นอนท่านจาดีน”
ชีคหนุ่มหันมาสั่งน้องชาย”อามุล เพิ่มกำลังอารักขาสองเท่า และเพิ่มกำลังเวรยามอีกสองเท่านะ”
“ครับท่านพี่”
อีกด้าน
ที่ตึกร้าง ชายสองคนฟังมือปืนที่เพิ่งลอบยิงมารายงานผลอย่างพอใจ
ชายชุดดำอ่านข้อความในโทรศัพท์”แย่จริง ชีคจาดีนมันให้วางกำลังอารักขาและกำลังเวรยามสองเท่า!”ชายที่นั่งโต๊ะทำงานเอ่ยถามชายที่ยืนพิงกำแพง“ทำไมคุณดูอารมณ์ดีจัง”
“ ตอนนี้เด็กนั่นถูกกักแต่ในวัง เด็กนั่นคงเจอ'ไอ้นั่น'แน่เดี๋ยวเด็กนั่นมันก็จะออกมาหา’สิ่งนั้น’ นิสัยเด็กนั่นน่ะมันโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง ”
“หวังว่าคงจะเป็นอย่างนั้นนะ”
“แน่นอนครับ หากเด็กนั่น เจอ ไอ้นั่น ก็จะออกมาหาสิ่งนั้นแน่ เชื่อผมเถอะ ผมรู้จักเด็กนั้นดี ต่อให้โดนกักตัวไว้อย่างไงเด็กนั้นก็จะต้องหาทางออกมาจนได้ เชื่อผมสิ”
กลับมาที่รีเบ็คก้า
ตอนนี้เธอหงุดหงิดสุดๆเพราะว่าจะเดินไปไหนก็จะมีนางกำนันเดินตามและมีทหารยามคอยเฝ้ายามหน้าห้องนอนอีก เธอไม่ชอบแบบนี้เลย ตอนนี้เธอกำลังจะไปห้องสมุดเพื่อหาเบาะแสของกริชทองคำ ที่ MI6ได้มาขอให้เธอช่วยตามหา ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะทำแต่เพราะอาร็อคนั้นต้องการหากริชนั้นเช่นกัน เธอรู้ทันทีว่าหาอาร็อคได้กริชนั่นไปคงจะเอาไปขายแน่ ซึ่งเธอยอมไม่ได้ ที่สมบัติของชาติต้องถูกนำไปขายอย่างนั้น ร่างบางหันไปตวาดใส่นางกำนันที่เดินตามมาอย่างเหลืออด”พวกคุณหยุดตามชั้นซะที ชั้นแค่จะไปที่ห้องสมุดเท่านั้น”
นางกำนันสาวสะดุ้งเล็กน้อย”พวกดิฉันทำตามที่คุณบอกไม่ได้หรอกคะคุณสวอน ท่านชีคสั่งไว้”
“ชิ!”ร่างบางสบถอย่างอารมณ์เสีย “ชั้นจะออกจากวังแล้ว”
“ผมคงไม่ให้คุณไปไหนไม่ได้นะครับ คุณรีเบ็คก้า”
“ท่านจาดีน”รีเบ็คก้าหนไปประจันหน้ากับชีคหนุ่ม
“ทำไมค่ะ”
“ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณนะครับ”
“ชั้นไม่ชอบอย่างนี้คะ แค่จะไปอ่านหนังสือก็มีคนเดินตาม ไปไหนมาไหนมันไม่เป็นส่วนตัวอย่างนี้ชั้นไม่ชอบ”
ชีคหนุ่มรู้เลยว่าหญิงสาวนั้นกำลังโกรธ “ก็ได้ครับ ผมจะไม่ให้พวกนางกำนันเดินตามคุณอีกนะครับ แต่ช่วงนี้จนกว่าจะจับคนร้ายได้ คุณต้องพักอยู่ที่วังนี้ก่อนนะ ถือว่าผมขอร้อง”
“ก็ดี”
หญิงสาวเดินจากไป ชีคหนุ่มมองไปยังร่างบางด้วยความห่วง"คุณนี่ดื้อจริงๆเลยนะ รีเบ็คก้า"
อัพแล้วค่า สนุกไม่สนุกติชมได้นะค่ะ
องค์รานีกาลิด้าได้ให้หาคนเป็นไกด์พารีเบ็คก้า วีอารอง ฟานเชสก้า และเลโอเลออนไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของคาลอส งานนี้ทั้งชีคจาดีนและเจ้าชายอามุนต่างอาสา จนผู้เป็นมารดาต้องให้เจ้าหญิงมิเรน่าไปเป็นไกด์นำเที่ยว แล้วให้องครักษ์เจเฟลาสทำหน้าที่นำคนไปคุ้มกัน
อีกด้าน
ที่ตึกร้างนอกชานเมืองหลวง มีคนสองคนกำลังสนทนากันอยู่
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดคาฟทานสีดำมีสีหน้าเครียด ก่อนจะทุบโต๊ะทำงานอย่างขัดใจ"บัดซบ! แค่นี้ยังพลาด นี่ดีนะที่เจ้านั่นมันฆ่าตัวตายไป ไม่งั้นเรื่องของเราได้แดงขึ้นมาแน่"
ชายอีกคนในชุดดำเสนอ”ใจเย็นก่อนครับ ผมว่าเราควรจะลอบสังหาร รีเบ็คก้า สวอน นะ"
"จะดีรึ?เราต้องใช้ยัยเด็กนั่นหา 'สิ่งนั้น'นี่นา"
"หึ!คุณคิดตื้นเกินไป เด็กนั่นมันระวังตัวเเจ ไม่ต้องกะเอาให้ถึงตาย ก็แค่เบี่ยงเบนความสนใจก็เท่านั้น"
ชายวัยกลางคนทวนคำ"เบี่ยงเบนความสนใจ?"
ชายชุดดำพยักหน้า"ถูกแล้ว เราก็จะสามารถสร้างความสับสนให้พวกนั้นได้"
"ดี ชั้นเห็นด้วย"
"เริ่มวันนี้เถอะ สายของชั้นรายงานมาว่า วันนี้พวกนั้นจะเที่ยวชมคาลอส"
"ได้ ชั้นจะสั่ง ให้คนของเราไปดักซุ่มจัดการเด็กนั่น"
ชายชุดดำกำชับอีกครั้ง"ห้ามเอาถึงตายล่ะ จำไว้ เรายังต้องใช้ให้เด็กนั่นหา'สิ่งนั้น'อยู่"
"ชั้นไม่ลืมแน่ อย่าห่วงเลย คุณคาเลนโซ่"
หลังจากร่วมรับประทานอาหารเช้ากับองค์รานีกาลิด้าแล้ว รีเบ็คก้าก็เตรียมตัวสำหรับเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของคาลอส ยามสาย รีเบ็คก้าออกมาในชุดสบายๆ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วสวมเสื้อแจ๊ดเก็ตหนัง กางเกงยีนต์ รองเท้าหนัง ผมสีน้ำตาลเข้มรวบสูงพอออกมาจากห้องก็พบเจเฟลาสออกมารออยู่ก่อนแล้ว
องครักษ์หนุ่มตำหนิ"ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงหน่อยล่ะ"
"ชุดนี้สบายตัวดีน่ะค่ะ อีกอย่างมันดูสุภาพดีด้วย"
"มันดูเหมือนผู้ชายไปหน่อยนะครับ"
"ก็แหม...พอดีชั้นไม่ค่อยชอบใส่พวกชุดกระโปรงนี่ค่ะ"
องครักษ์หนุ่มส่ายหน้าก่อนจะผายมือเชิญ"เอาเถอะครับ ไปที่รถกันเถอะครับ เชิญ"
“ขอบคุณ"
พอมาถึงรถ รีเบ็คก้าต้องแปลกใจมากที่มีขบวนรถมากมาย…สงสัยเพราะเรื่องการลอบสังหารเมื่อวานแน่…
รถที่โดยสารนั้นคือรถลีมูซีนสีดำ รีเบ็คก้าถูกจัดให้นั่งข้างหลังคนขับข้างๆคือเจ้าหญิงมิเรน่า แม่นมวัยชราที่เธอมารู้ชื่อภายหลังว่า นีน่า และวีอารองที่ขอเอาเจ้าครัวซองค์มาด้วย ต่อมาก็เป็นพี่น้องดาเดนดี้ ส่วนคนเจเฟลาสนั้นนั่งข้างคนขับโดยองครักษ์นายหนึ่งทำหน้าที่คนขับ
ที่แรกที่พวกเค้ามาคือ พระราชวังฤดูร้อนที่ในอดีตบรรดาเชื้อพระวงศ์จะมาพำนักกันแต่ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม เจ้าหญิงมิเรน่าทำหน้าที่นำเที่ยวพาไปดูยังห้องต่างๆ จนมาถึงห้องๆหนึ่งที่เรียกว่าห้องสายรุ้ง กระจกทุกบานในห้องนั้นเป็นกระจกสีๆหลายสีมาปะติดปะต่อรวมกันเป็ฯรูปร่างต่างๆ ยามต้องแสงแดดมันส่งแสงสวยงามตามรูปร่างที่กระจกสีได้ปะติดปะต่อกัน หากแต่มีหน้าต่างบานหนึ่งที่สะกดสายตาของรีเบ็คก้าหน้าต่างบานนั้นคือรูปหญิงสาวที่มองผีเสื้อโผบิน มันทำให้เธอนึกถึงอดีต ในวัยเยาว์ที่ผู้เป็นพ่อมักจะอุ้มชูชี้นกชมไม้โดยผู้เป็นแม่จะยืนเคียงข้าง ทุกๆวันอาทิตย์ครอบครัวสวอนจะพากันไปที่สวนที่แคนาดาเพื่อมาดูผีเสื้อ ใช่ ในวัยเด็กของรีเบ็คก้า สวอนไม่ได้อยู่ที่อังกฤษแต่อยู่ประเทศแคนาดาเพราะผู้เป็นพ่อต้องมาทำงานที่นั่นพร้อมกับแม่ พอแม่จากไปด้วยโรคร้ายผู้เป็นพ่อตัดสินใจพาเธอกลับมาอยู่ที่อังกฤษตามเดิมถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงความทรงจำสั้นๆแต่มันก็ทำให้สุขใจ
“นึกถึงตอนนั้นเหรอ สวอน”วีอารองร้องทัก ในตอนนี้ลูกสาวเค้าครัวซองค์ห้ามเข้ามาเค้าจำต้องฝากพวกองครักษ์ไว้
“อืม ตอนนั้นที่พ่อกับแม่พาไปดูผีเสื้อ”
“เหรอ ที่นี่สวยดีจริง”
“อืม ถามหน่อยสิ”
“อะไร”
“นายมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปไหนเลยรึ”
“ไม่นะ ชั้นอยู่แต่ในวังตั้งแต่มาที่ประเทศนี้ มีสอนแทบทุกวัน มีหยุดสองวันชั้นก็พักน่ะนะ”
“นายแค่มาสอนเจ้าหญิงไม่ใช่รึแล้วทำไม…”
หนุ่มลูกครึ่งแทรกขึ้น”ชั้นต้องสอนพวกลูกขุนนางด้วยแถมต้องมาแปลภาษาอีก”
“เหนื่อยน่าดูนะ”
“ก็ไม่เท่าตอนที่อยู่ห้องผ่าตัดกับโต๊ะทำงานเอกสารที่โรง’บาลน่ะนะ”
“ตอนนี้ได้หมอผู้เชี่ยวชาญพอแล้วสิ”
“อืม กว่าจะหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ก็กินเวลาไปเยอะ ตอนนี้ต้องหาสัตว์แพทย์เพิ่ม”
เจ้าหญิงมิเรน่าที่ยืนอยู่ห่างๆให้ลูกทัวร์เดินชมวังอยู่นั้น มองมาที่สองหนุ่มสาวที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เธอนึกอิจฉาที่ผู้หญิงคนนั้นสามารถพูดคุยกับชายที่เธอแอบชอบได้อย่างสบายใจ ถ้าเป็นเธอ เธอจะเจอเค้าได้แค่ในเวลาเรียนเท่านั้นนอกนั้นก็นานๆที อย่างมากก็แค่เดินสวนกันเท่านั้น ในเวลาเรียนเค้าจะทำหน้าที่เป็นครูเค้าจริงจังในหน้าที่ ไม่ชวนเธอคุยไร้สาระเลย เค้าดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ อาจจะเป็นอย่างที่พี่คนโตเคยบอก ว่าพวกเค้ามีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ คนหนึ่งคือลูกชายคนเดียวของบ้านอีกคนคือทายาทคนเดียวของตระกูล ทำให้พวกเค้าเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ
หลังจากที่เที่ยวชมพระราชวังฤดูร้อนแล้ว เจ้าหญิงแห่งคาลอสก็พาไปที่ถ้ำสุสานกษัตริย์ ซึ่งอยู่นอกเมือง
เจ้าหญิงมิเรน่าเดินนำพลางอธิบาย”ที่นี่คือที่ฝังพระศพของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ในอดีต โดยที่ทางเราจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแค่วันจันทร์กับวันศุกร์เท่านั้นนะค่ะ”
วีอารองเอ่ยถาม”ทำไมเหรอครับเจ้าหญิง”
“เพราะว่ามันคือประเพณีคะ โบราณเชื่อกันว่าหากเราเข้ามาที่สุสานในวันอื่นที่ไม่ใช่วันจันทร์กับวันศุกร์จะถือเป็นการรบกวนวิญญาณ”
หนุ่มลูกครึ่งพยักหน้ารับ เลโอเอ่ยขึ้น”ดีนะ นี่เป็นวันศุกร์”
เจ้าหญิงน้อยเดินนำจนไปถึงห้องโดมขนาดใหญ่ที่ทำจากหิน ฟานเชสก้ามองด้วยตาเป็นประกาย”สวยจัง คล้ายกับนครใต้ดินของตุรกีที่สร้างเลียนแบบวิหารเซนต์โซเฟียเลย”
เจ้าหญิงแห่งคาลอสเอ่ยถามช่างภาพสาว”คุณฟานเคยไปที่ตุรกีด้วยเหรอค่ะ”
“คะ ชั้นเคยไปถ่ายรูปหลายที่ ตุรกีก็เคยไป แต่ก็ไม่เท่าเบ็คกี้กับอารองหรอกคะ สองคนนั้นเคยเป็นคู่หูขาลุย ที่บุกป่าผ่าดงไปแทบทุกสารทิศเลยนะค่ะ”
“จริงเหรอคะ”
เลออนสนับสนุน”ครับ พวกผมน่ะไปไม่เยอะเท่าเด็กสองคนนั้นหรอก ถ้าเจ้าหญิงอยากรู้เรื่องต่างประเทศถามสองคนนั้นได้เลยครับ”
เจ้าหญิงมิเรน่านั้นแสนอาย ท่าจะให้ไปคุยกับครูหนุ่มลูกครึ่ง หรือถ้าไปคุยกับเพื่อนสาวของเค้าก็ยิ่งไม่ค่อยกล้าเพราะไม่ค่อยสนิทกัน
เลโอหันซ้ายแลขวาพลางเอ่ย”มีใครเห็นเบ็คกับอารองไหมเนี่ย สองคนนั้นไปไหนน่ะ”
ฟานเชสก้าเท้าสะเอว”อารองไปดูครัวซองค์ ส่วนเบ็คไปห้องน้ำน่ะ”
ทางด้านรีเบ็คก้าที่เพิ่งออกจากห้องน้ำนั้น เธอรู้สึกถูกจ้องมองจากทางด้านหลัง
ร่างบางหันหลัง“ใครน่ะ”
‘ปัง!’
เสียงปืนดังขึ้นทำให้องครักษ์เจ้าหญิงและลูกทัวร์คนอื่นๆรีบไปทางต้นเสียงก็พบว่ารีเบ็คก้านอนสลบอยู่ วีอารองรีบเข้าไปดู”สวอนๆ เฮ้ อย่าแกล้งหลับดิ”
หงส์น้อยค่อยๆลืมตาพลางดูที่ช่องท้องที่ตนเพิ่งถูกยิงมาราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอถอดเสื้อออกเผยให้เห็นเสื้อเกราะกันกระสุนสีดำที่ทำมาขนาดพอดีตัว ตรงช่วงท้องมีกระสุนปืนลูกซองฝังอยู่ “จุกแฮะ ปืนลูกซองนี่”ว่าจบก็แกะกระสุนออกจากเสื้อ
วีอารองถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนสาวของตนไม่ได้เป็นอะไรมากแค่โดนแรงกระแทกของปืนลูกซองแบบในระยะใกล้ โชคดีที่รีเบ็คก้ามักจะสวมเสื้อเกราะกันกระสุนสั่งทำพิเศษที่มีขนาดเท่ากับตัว ไม่งั้นแย่แน่ เจเฟลาสสั่งให้องครักษ์คนอื่นออกตามล่ามือปืนทันที แล้วหันไปบอกกับเจ้าหญิง”เจ้าหญิงเสด็จกลับวังเถอะ ที่นี่อันตราย”
“อืม”
องครักษ์หนุ่มหันมาหาหญิงสาวที่เพิ่งถูกยิงเมื่อครู่”คุณสวอนเป็นยังไงบ้างครับ”
“แค่จุกเท่านั้นคะ ไม่เป็นไรมาก”
“ขอผมดูกระสุนหน่อย”
“นี่คะ”เธอส่งกระสุนให้องครักษ์ผิวเข้ม
เจเฟลาสถามต่อ”คุณพอจำคนที่มายิงคุณได้มั้ยครับ”
หญิงสาวพยักหน้า”มันปิดหน้าไว้คะ เป็นผู้ชายสูงประมาณ180กว่า อ้อ ที่มือซ้ายมันสักลายแมงป่องดำไว้ด้วยคะ”
“เหรอครับ คุณกลับวังเถอะ”
วีอารองจึงช่วยพยุงให้เพื่อนยืนขึ้นแล้วพาไปที่รถ”แกนี่มันดวงแข็งนะ สวอน”
“ชั้นว่ามันต้องการแค่ขู่ชั้นเท่านั้นแหละ”เพราะถ้าจะฆ่าเธอจริงๆก็น่าจะยิงมาที่หัวของเธอแล้ว
พอกลับมาถึงวังเจเฟลาสรีบรายงานให้ผู้เป็นนายได้ทราบ
ชีคหนุ่มนิ่ง เจเฟลาสออกความเห็น”ตามความเห็นของผม ผมว่าพวกมันต้องการสร้างความสับสนนะครับ พวกนั้นแค่ดึงคุณสวอนเข้ามาเกี่ยว เป็นฝีมือของพวกแมงป่องดำ เท่าที่ดูจากกระสุนแล้ว พวกมันไม่กะเอาถึงตาย แต่เป้าหมายของพวกมันก็น่าจะเป็นท่านแน่นอนท่านจาดีน”
ชีคหนุ่มหันมาสั่งน้องชาย”อามุล เพิ่มกำลังอารักขาสองเท่า และเพิ่มกำลังเวรยามอีกสองเท่านะ”
“ครับท่านพี่”
อีกด้าน
ที่ตึกร้าง ชายสองคนฟังมือปืนที่เพิ่งลอบยิงมารายงานผลอย่างพอใจ
ชายชุดดำอ่านข้อความในโทรศัพท์”แย่จริง ชีคจาดีนมันให้วางกำลังอารักขาและกำลังเวรยามสองเท่า!”ชายที่นั่งโต๊ะทำงานเอ่ยถามชายที่ยืนพิงกำแพง“ทำไมคุณดูอารมณ์ดีจัง”
“ ตอนนี้เด็กนั่นถูกกักแต่ในวัง เด็กนั่นคงเจอ'ไอ้นั่น'แน่เดี๋ยวเด็กนั่นมันก็จะออกมาหา’สิ่งนั้น’ นิสัยเด็กนั่นน่ะมันโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง ”
“หวังว่าคงจะเป็นอย่างนั้นนะ”
“แน่นอนครับ หากเด็กนั่น เจอ ไอ้นั่น ก็จะออกมาหาสิ่งนั้นแน่ เชื่อผมเถอะ ผมรู้จักเด็กนั้นดี ต่อให้โดนกักตัวไว้อย่างไงเด็กนั้นก็จะต้องหาทางออกมาจนได้ เชื่อผมสิ”
กลับมาที่รีเบ็คก้า
ตอนนี้เธอหงุดหงิดสุดๆเพราะว่าจะเดินไปไหนก็จะมีนางกำนันเดินตามและมีทหารยามคอยเฝ้ายามหน้าห้องนอนอีก เธอไม่ชอบแบบนี้เลย ตอนนี้เธอกำลังจะไปห้องสมุดเพื่อหาเบาะแสของกริชทองคำ ที่ MI6ได้มาขอให้เธอช่วยตามหา ถึงแม้ว่าเธอไม่อยากจะทำแต่เพราะอาร็อคนั้นต้องการหากริชนั้นเช่นกัน เธอรู้ทันทีว่าหาอาร็อคได้กริชนั่นไปคงจะเอาไปขายแน่ ซึ่งเธอยอมไม่ได้ ที่สมบัติของชาติต้องถูกนำไปขายอย่างนั้น ร่างบางหันไปตวาดใส่นางกำนันที่เดินตามมาอย่างเหลืออด”พวกคุณหยุดตามชั้นซะที ชั้นแค่จะไปที่ห้องสมุดเท่านั้น”
นางกำนันสาวสะดุ้งเล็กน้อย”พวกดิฉันทำตามที่คุณบอกไม่ได้หรอกคะคุณสวอน ท่านชีคสั่งไว้”
“ชิ!”ร่างบางสบถอย่างอารมณ์เสีย “ชั้นจะออกจากวังแล้ว”
“ผมคงไม่ให้คุณไปไหนไม่ได้นะครับ คุณรีเบ็คก้า”
“ท่านจาดีน”รีเบ็คก้าหนไปประจันหน้ากับชีคหนุ่ม
“ทำไมค่ะ”
“ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณนะครับ”
“ชั้นไม่ชอบอย่างนี้คะ แค่จะไปอ่านหนังสือก็มีคนเดินตาม ไปไหนมาไหนมันไม่เป็นส่วนตัวอย่างนี้ชั้นไม่ชอบ”
ชีคหนุ่มรู้เลยว่าหญิงสาวนั้นกำลังโกรธ “ก็ได้ครับ ผมจะไม่ให้พวกนางกำนันเดินตามคุณอีกนะครับ แต่ช่วงนี้จนกว่าจะจับคนร้ายได้ คุณต้องพักอยู่ที่วังนี้ก่อนนะ ถือว่าผมขอร้อง”
“ก็ดี”
หญิงสาวเดินจากไป ชีคหนุ่มมองไปยังร่างบางด้วยความห่วง"คุณนี่ดื้อจริงๆเลยนะ รีเบ็คก้า"
อัพแล้วค่า สนุกไม่สนุกติชมได้นะค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ