คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
5.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
32 ตอน
7 วิจารณ์
34.30K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) บทที่ 14 คำแนะนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ตอบรับคำเชิญขององค์ราณีแล้ว รีเบ็คก้าได้ตามนางกำนัลไปที่ห้องพักของตน
"เชิญคะ คุณสวอน สัมภาระของคุณเรานำมาไว้ในห้องแล้ว เดี๋ยวตอนหกโมงเย็น จะถึงเวลามื้อค่ำ ตอนนี้เชิญพักผ่อนตามสบายนะค่ะ"
"ขอบคุณ"
พอนางกำนัลปิดประตูแล้ว หงส์น้อยเอียงหูฟังเสียง เมื่อรู้ว่านางกำนัลเดินไปไกลแล้ว เธอจึงนำสมุดโน๊ตที่จดข้อมูลไว้มาอ่าน "ประเทศนี่เพิ่งเปิด ข้อมูลน้อยมากแต่ได้รับอิทธิพลของกรีกพอสมควร ท่าทางกริชนี่น่าจะเป็นของราชวงศ์นะเนี่ย มีมูลค่ามากมายมหาศาล"
รีเบ็คก้าล้มตัวนอนบนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ เธอหลับตานึกถึงคำพูดของพ่อที่จากไป
ห้าปีก่อน...
ที่อิยิปต์...
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ คณะสำรวจกำลังขุดค้นที่ค้นหาวัตถุโบราณกันอย่างแข็งขันพีระมิดของขุนนางคนสำคัญของราชวงศ์อิยิปต์ มีเด็กสาวร่างผอมบาง ผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้น ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาลสวมรองเท้าบู๊ทหนังสีเดียวกัน ในตอนนี้อยู่สภาพมอมแมมเรียกได้ว่า คลุกฝุ่นมา เธอกำลังนั่งพักที่เต็นท์ไม่ไกลจากพีระมิด ใบหน้าสวยนั้นขึ้นสีเพราะอากาศที่ร้อน เธอนำผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาซับเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า
"เหนื่อยน่าดูนะเบ็ค"ชายร่างสูงใหญ่ผมสีเดียวกับเด็กสาวทัก
"ค่ะ พ่อ เหนื่อยจริงๆ"
โรเจอร์ สวอนนั่งลงข้างๆลูกสาวแล้วลูบหัวอย่างเอ็นดู"เหนื่อย...แต่ก็คุ้มค่า"
"ขอถามหน่อยค่ะ ทำไมพ่อถึงยอมลงทุนมากมายเพื่อวัตถุโบราณพวกนี้ด้วยล่ะค่ะ พ่อไม่เคยรับเงินเลยสักบาท แต่เอาเงินพวกนั้นไปบริจาคซะหมด"
ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างอ่อนโยน"วัตถุโบราณมันมีค่ามากกว่าเงินทองที่ได้มา รู้มั้ยเพราะอะไร? เพราะวัตถุโบราณพวกนั้นคือสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตทำให้โลกได้รู้ว่าในอดีตนั้นมันเกิดอะไรขึ้น มันมีค่าทางใจไงล่ะ และการที่พ่อเอาเงินไปบริจาคตามโรงเรียนที่ยากไร้และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะว่าเด็กพวกนั้นเค้าไม่มีโอกาสเท่าเรา จำไว้นะเบ็ค ความรู้น่ะเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าทอง เพราะว่าถ้าหากมีทรัพย์สินเงินทองมากมายแต่ไม่มีความรู้ ทรัพย์สินเหล่านั้นก็จะสลายหายไป สาเหตุมาจากการที่เราไม่มีปัญญาที่จะรักษามันได้ จำคำพ่อให้ขึ้นใจนะลูก"
"คะ หนูจะจำไว้"
กลับมาปัจจุบัน
"มันผ่านมาห้าปีแล้วสินะ"ในตอนนั้นเธอพิ่งอายุสิบสาม และเป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกภาคสนามกับพ่อ คนที่เป็นเเรงบันดาลใจให้เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ในตอนแรกเธอไม่นึกว่าเธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
"ก๊อกๆ"เสียงเคาะประตูดังขึ้น รีบ็คก้ารีบเก็บสมุดโน๊ตที่กระเป๋ากางเกง
"ใคร"
"ชั้นเองเบ็คกี้"เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้น
"ฟานรึ? เข้ามาสิไม่ได้ล็อค"ว่าจบ ฟานเชสก้าก็เข้ามา
หญิงสาวแขวะใส่ญาติผู้น้องทันที"สบายจังนะ"
"อยู่แล้ว"คนถูกแขวะยักไหล่ก่อนจะถาม"มีอะไรรึ"
"ชั้นมีเรื่องอยากให้เธอช่วย"
"ช่วยอะไรรึ"รีเบ็คก้าเอนหลังพิงหมอนสีขาวใบโต
"ก็ช่วยพูดกับองค์ราณีให้หน่อย"
"เรื่องอะไรล่ะ"
"ก็ให้เจ้าชายอามุลปล่อยชั้นกลับบ้านยังไงล่ะ รู้มั้ยตอนนี้พี่เลโอเลออนเองก็เห็นดีเห็นงามกับเจ้าชายอามุลแล้วด้วย"น้ำเสียงของฟานเชสก้าเหมือนคนจะร้องไห้
หงส์น้อยยิ้มกว้าง"ชั้นว่าการที่เธอแต่งงานกับเจ้าชายอามุลก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ถ้าเธอยังไม่พร้อมก็ขอหมั้นไปก่อนก็ได้ หากเข้ากันไม่ได้จริงก็ถอนหมั้นจบ"
"เบ็คกี้!นี่เธอกะจะไม่ช่วยกันเลยรึไง"
รีเบ็คก้ายกมืออย่างยอมแพ้"ก็ได้ๆ ชั้นจะช่วย"พอลูกพี่ลูกน้องคนเก่งรับปาก ช่างภาพสาวก็ยิ้มอย่างมีความหวังหากแต่..."ชั้นไม่รับประกันนะ แต่จะพยายามเต็มที่"
ฟานเชสก้าเข้าไปกอดญาติคนเก่ง"แค่นี้ก็ดีแล้วจ้ะ ขอบใจมาก"
คนถูกกอดเริ่มรู้สึกอึดอัด"ปล่อยก่อนๆ"
ฟานเชสก้าคลายอ้อมกอด รีเบ็คก้าออกความเห็น"ชั้นว่าเจ้าชายอามุลออกจะเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ หน้าตาก็หล่อ ทำไมเธอไม่ชอบล่ะ"
ฟานเชสก้าเอ่ยเสียงเศร้า"ไม่รู้สิ ชั้นมันเป็นตัวสร้างปัญหานี่นา ถ้าหากเค้าเจอผู้หญิงคนอื่นที่ดีกว่าสวยกว่า เค้าคงไม่สนใจชั้นหรอก"
รีเบ็คก้าส่ายหน้า"เธอนี่มัน ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ แบบนี้เค้าเรียกว่า ความรัก เธอเริ่มรักเจ้าชายอามุลเข้าแล้วน้า.... ชั้นขอแนะนำให้เธอถามใจเธอเอง และ ทบทวนความรู้สึกของเธอสักหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไงกับเจ้าชายอามุลเค้า"
"อื้ม"
"ก๊อกๆ/ขออนุญาตเจ้าค่ะ"เสียงหวานดังขึ้น
"เชิญคะ"รีเบ็คก้าหันไปบอกพลางลุกนั่งให้เรียบร้อย
นางกำนัลมากมายเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดประจำชาติสีขาวนวลปักดิ้นทอง นางกำนันนางหนึ่งเอ่ยขึ้น"นี่คือชุดของคุณคะ คุณสวอน"
สีหน้าของหงส์น้อยนั้นแสนจะลำบากใจมาก เธอไม่ค่อยชอบแต่งอะไรแบบนี้ ฟานเชสก้ารู้ถึงความอึดอัดของญาติคนเก่งจึงทำได้แต่กล่อม"เบ็คกี้ ใส่ๆไปเถอะ"
รีเบ็คก้ายอมใส่ชุดประจำชาติของคาลอสแต่ มีข้อแม้ว่าพวกนางกำนัลต้องไม่เข้ามาช่วยเธอแต่งตัวให้ รอนอกห้อง
"เชิญคะ คุณสวอน สัมภาระของคุณเรานำมาไว้ในห้องแล้ว เดี๋ยวตอนหกโมงเย็น จะถึงเวลามื้อค่ำ ตอนนี้เชิญพักผ่อนตามสบายนะค่ะ"
"ขอบคุณ"
พอนางกำนัลปิดประตูแล้ว หงส์น้อยเอียงหูฟังเสียง เมื่อรู้ว่านางกำนัลเดินไปไกลแล้ว เธอจึงนำสมุดโน๊ตที่จดข้อมูลไว้มาอ่าน "ประเทศนี่เพิ่งเปิด ข้อมูลน้อยมากแต่ได้รับอิทธิพลของกรีกพอสมควร ท่าทางกริชนี่น่าจะเป็นของราชวงศ์นะเนี่ย มีมูลค่ามากมายมหาศาล"
รีเบ็คก้าล้มตัวนอนบนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ เธอหลับตานึกถึงคำพูดของพ่อที่จากไป
ห้าปีก่อน...
ที่อิยิปต์...
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ คณะสำรวจกำลังขุดค้นที่ค้นหาวัตถุโบราณกันอย่างแข็งขันพีระมิดของขุนนางคนสำคัญของราชวงศ์อิยิปต์ มีเด็กสาวร่างผอมบาง ผมสีน้ำตาลเข้มตัดสั้น ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาลสวมรองเท้าบู๊ทหนังสีเดียวกัน ในตอนนี้อยู่สภาพมอมแมมเรียกได้ว่า คลุกฝุ่นมา เธอกำลังนั่งพักที่เต็นท์ไม่ไกลจากพีระมิด ใบหน้าสวยนั้นขึ้นสีเพราะอากาศที่ร้อน เธอนำผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาซับเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า
"เหนื่อยน่าดูนะเบ็ค"ชายร่างสูงใหญ่ผมสีเดียวกับเด็กสาวทัก
"ค่ะ พ่อ เหนื่อยจริงๆ"
โรเจอร์ สวอนนั่งลงข้างๆลูกสาวแล้วลูบหัวอย่างเอ็นดู"เหนื่อย...แต่ก็คุ้มค่า"
"ขอถามหน่อยค่ะ ทำไมพ่อถึงยอมลงทุนมากมายเพื่อวัตถุโบราณพวกนี้ด้วยล่ะค่ะ พ่อไม่เคยรับเงินเลยสักบาท แต่เอาเงินพวกนั้นไปบริจาคซะหมด"
ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างอ่อนโยน"วัตถุโบราณมันมีค่ามากกว่าเงินทองที่ได้มา รู้มั้ยเพราะอะไร? เพราะวัตถุโบราณพวกนั้นคือสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตทำให้โลกได้รู้ว่าในอดีตนั้นมันเกิดอะไรขึ้น มันมีค่าทางใจไงล่ะ และการที่พ่อเอาเงินไปบริจาคตามโรงเรียนที่ยากไร้และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะว่าเด็กพวกนั้นเค้าไม่มีโอกาสเท่าเรา จำไว้นะเบ็ค ความรู้น่ะเป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าทอง เพราะว่าถ้าหากมีทรัพย์สินเงินทองมากมายแต่ไม่มีความรู้ ทรัพย์สินเหล่านั้นก็จะสลายหายไป สาเหตุมาจากการที่เราไม่มีปัญญาที่จะรักษามันได้ จำคำพ่อให้ขึ้นใจนะลูก"
"คะ หนูจะจำไว้"
กลับมาปัจจุบัน
"มันผ่านมาห้าปีแล้วสินะ"ในตอนนั้นเธอพิ่งอายุสิบสาม และเป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกภาคสนามกับพ่อ คนที่เป็นเเรงบันดาลใจให้เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ในตอนแรกเธอไม่นึกว่าเธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว
"ก๊อกๆ"เสียงเคาะประตูดังขึ้น รีบ็คก้ารีบเก็บสมุดโน๊ตที่กระเป๋ากางเกง
"ใคร"
"ชั้นเองเบ็คกี้"เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้น
"ฟานรึ? เข้ามาสิไม่ได้ล็อค"ว่าจบ ฟานเชสก้าก็เข้ามา
หญิงสาวแขวะใส่ญาติผู้น้องทันที"สบายจังนะ"
"อยู่แล้ว"คนถูกแขวะยักไหล่ก่อนจะถาม"มีอะไรรึ"
"ชั้นมีเรื่องอยากให้เธอช่วย"
"ช่วยอะไรรึ"รีเบ็คก้าเอนหลังพิงหมอนสีขาวใบโต
"ก็ช่วยพูดกับองค์ราณีให้หน่อย"
"เรื่องอะไรล่ะ"
"ก็ให้เจ้าชายอามุลปล่อยชั้นกลับบ้านยังไงล่ะ รู้มั้ยตอนนี้พี่เลโอเลออนเองก็เห็นดีเห็นงามกับเจ้าชายอามุลแล้วด้วย"น้ำเสียงของฟานเชสก้าเหมือนคนจะร้องไห้
หงส์น้อยยิ้มกว้าง"ชั้นว่าการที่เธอแต่งงานกับเจ้าชายอามุลก็ไม่ได้แย่อะไรนะ ถ้าเธอยังไม่พร้อมก็ขอหมั้นไปก่อนก็ได้ หากเข้ากันไม่ได้จริงก็ถอนหมั้นจบ"
"เบ็คกี้!นี่เธอกะจะไม่ช่วยกันเลยรึไง"
รีเบ็คก้ายกมืออย่างยอมแพ้"ก็ได้ๆ ชั้นจะช่วย"พอลูกพี่ลูกน้องคนเก่งรับปาก ช่างภาพสาวก็ยิ้มอย่างมีความหวังหากแต่..."ชั้นไม่รับประกันนะ แต่จะพยายามเต็มที่"
ฟานเชสก้าเข้าไปกอดญาติคนเก่ง"แค่นี้ก็ดีแล้วจ้ะ ขอบใจมาก"
คนถูกกอดเริ่มรู้สึกอึดอัด"ปล่อยก่อนๆ"
ฟานเชสก้าคลายอ้อมกอด รีเบ็คก้าออกความเห็น"ชั้นว่าเจ้าชายอามุลออกจะเป็นคนดี ไม่เจ้าชู้ หน้าตาก็หล่อ ทำไมเธอไม่ชอบล่ะ"
ฟานเชสก้าเอ่ยเสียงเศร้า"ไม่รู้สิ ชั้นมันเป็นตัวสร้างปัญหานี่นา ถ้าหากเค้าเจอผู้หญิงคนอื่นที่ดีกว่าสวยกว่า เค้าคงไม่สนใจชั้นหรอก"
รีเบ็คก้าส่ายหน้า"เธอนี่มัน ปากไม่ตรงกับใจเลยนะ แบบนี้เค้าเรียกว่า ความรัก เธอเริ่มรักเจ้าชายอามุลเข้าแล้วน้า.... ชั้นขอแนะนำให้เธอถามใจเธอเอง และ ทบทวนความรู้สึกของเธอสักหน่อยว่า เธอรู้สึกยังไงกับเจ้าชายอามุลเค้า"
"อื้ม"
"ก๊อกๆ/ขออนุญาตเจ้าค่ะ"เสียงหวานดังขึ้น
"เชิญคะ"รีเบ็คก้าหันไปบอกพลางลุกนั่งให้เรียบร้อย
นางกำนัลมากมายเข้ามาในห้องพร้อมกับชุดประจำชาติสีขาวนวลปักดิ้นทอง นางกำนันนางหนึ่งเอ่ยขึ้น"นี่คือชุดของคุณคะ คุณสวอน"
สีหน้าของหงส์น้อยนั้นแสนจะลำบากใจมาก เธอไม่ค่อยชอบแต่งอะไรแบบนี้ ฟานเชสก้ารู้ถึงความอึดอัดของญาติคนเก่งจึงทำได้แต่กล่อม"เบ็คกี้ ใส่ๆไปเถอะ"
รีเบ็คก้ายอมใส่ชุดประจำชาติของคาลอสแต่ มีข้อแม้ว่าพวกนางกำนัลต้องไม่เข้ามาช่วยเธอแต่งตัวให้ รอนอกห้อง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ