ตำนานรักแห่งสายลม
9.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
34 ตอน
13 วิจารณ์
38.35K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่ 4 เมื่อเจ้าหญิงจอมเวทย์แข่งยิงธนู
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่ทั้งสามได้เข้าปราสาทเฮลเทียแล้ว เจ้าชายเซตลงจากม้าปล่อยให้ข้ารับใช้เอาไปเก็บที่คอก อาเรนลงจากม้าปล่อยให้ข้ารับใช้เอาม้าไปไว้ที่คอกเช่นกัน
อาเรนเทียเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น"ที่นี่เหรอปราสาทของเฮลเทีย สวยจัง"สวยไม่แพ้ปราสาทของคาลาสเลย
"เอาล่ะ เจ้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะข้าหลวงในวังก่อนก็แล้วกัน คงไม่มีปัญหานะ เทีย"เซตหันหน้ามาถามเด็กสาวกำลังที่มองไปรอบๆปราสาทด้วยความตื่นเต้นโดยไม่นใจที่เขาพูดจนเขาต้องชื่อนางอีกครั้ง"เทีย"
"อ๊ะ!อะไรเหรอท่านเซต"คำถามของเด็กสาวทำเอาเจ้าชายหนุ่มส่ายหัว
เซตเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุๆ"เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าพูดเลยใช่ไหม"
อีกฝ่ายยิ้มเจื่อนๆ"แหะๆขอประทานอภัยเมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่ท่านพูดเลยเพคะ"
เจ้าชายหนุ่มพูดอีกครั้ง"เจ้าเข้ามาเป็นข้าหลวงในวังก่อนก็แล้วกัน ข้าไปล่ะวินเนียสเป็นธุระจัดการให้ข้าด้วยนะ"พูดจบเจ้าชายหนุ่มก็เดินจากไป
"พ่ะย่ะค่ะ"วินเนียสโค้งรับพระบัญชาก่อนจะหันมาหาเด็กสาว"เทีย ตามข้ามา"องครักษ์หนุ่มจูงมือเล็กให้เดินตามเขาไปอีกทางหนึ่ง
ทั้งคู่เดินมาที่ตึกสีขาวที่นั่นมีหญิงสาวมากมายในชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มยาวกรอมเท้าบ้างก็กำลังทำอาหารบ้างก็กำลังเช็ดถูถ้วยโถ่โอชาม
วินเนียสร้องเรียก"ท่านนีน่าอยู่รึไม่"
"ข้าอยู่นี่วินเนียส"เสียงของหญิงสูงวัยดังขึ้น พร้อมร่างผอมผมสีน้ำตาลแซมขาวในชุดกระโปรงยาวสีน้ำตาลเดินออกมา
องครักษ์หนุ่มโค้งศรีษะเล็กน้อยเป็นการเคารพหญิงสูงวัย นางถามอย่างเอ็นดู"มาคราวนี้มีเรื่องอะไรรึวินเนียส"
วินเนียสกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ"คือที่ข้ามาที่นี่ท่านเซตมีเรื่องให้ท่านช่วยนะครับ"
นีน่าหัวหน้าข้าหลวงหันมามองมาที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังขององครักษ์หนุ่มด้วยสายตาเอ็นดูก่อนจะหันกลับมาสนทนากับองครักษ์หนุ่มต่อ"เด็กคนนี้คือใครรึหน้าตาน่ารักสวยจังเลย"
"นางชื่อ เทีย นางพลัดหลงกับครอบครัว ท่านเซตสงสารเลยให้มาอยู่เป็นข้าหลวงในวังก่อนน่ะครับ"
หัวหน้าข้าหลวงพยักหน้าอย่างเข้าใจนึกสงสารเด็กสาวคนนี้ที่ต้องพลัดหลงจากครอบครัว"เอาเถอะเดี๋ยวข้าจะหาห้องและเสื้อผ้าของใช้ให้นางเอง"
อาเรนเทียขอบคุณ"ขอบคุณท่านนีน่ามากค่ะที่เมตตา"
หญิงสูงวัยหัวเราะพลางส่ายหน้า"ไม่เลยเทีย นั่นเป็นหน้าที่ของหัวหน้าข้าหลวงอย่างข้าอยู่แล้ว ตามข้ามาได้เลย"
เมื่อทุกอย่างดูเรียบร้อยแล้ววินเนียสจึงร่ำลา"งั้น ข้าขอตัวก่อนครับ โชคดีนะเทีย"ว่าแล้วองครักษ์หนุ่มก็เดินจากไป
หัวหน้าข้าหลวงนีน่าเดินนำเด็กสาวต่างถิ่นไปยังตึกอีกตึกหนึ่งทั้งสองเข้าไปที่ห้องๆหนึ่งที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมากมีเตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้งและม่านกำบังฉากสำหรับเปลี่ยนชุด ตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำส่วนตัว หญิงสูงวัยแนะนำ"ที่นี่คือห้องพักของเจ้านะเดี๋ยว ข้าจะให้คนเอาเสื้อผ้าของใช้มาให้นะ "
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะถาม"ค่ะ แล้วข้าหลวงที่นี่จะมีห้องพักส่วนตัวอย่างนี้หมดเลยเหรอค่ะ"เพราะอาเรนเทียรู้สึกว่าแทบจะไม่ต่างจากคาลาสสักเท่าไหร่เพียงแต่ในวังของคาลาสนั้นพวกข้าหลวงนั้นจะมีห้องพักส่วนตัวกันทุกคน
หญิงสูงวัยพยักหน้ารับ"ใช่จ้ะ เพราะข้าหลวงที่นี่จะมีห้องพักส่วนตัวกันทุกคนแหละจ้ะ"
'โครกคราก'
เสียงท้องร้องอาเรนเทียเอามือกุมท้องตนหน้างามขึ้นสีเพราะความอาย
หญิงสูงวัยหัวเราะเบาๆก่อนจะพูดกับเด็กสาวด้วยความเอ็นดู"ถ้าหิวก็ตามข้ามาที่ห้องครัวก่อนล่ะนะ"
เด็กสาวยิ้มแก้เขิน"ขอบคุณมากค่ะ"ว่าแล้วเธอก็เดินตามหัวหน้าข้าหลวงไปยังห้องครัวทันที
ห้องครัว
ตอนนี้อาเรนเทียกำลังกินข้าวเช้าอันประกอบไปด้วย ขนมปังและซุปร้อนๆ ที่ถึงแม้จะไม่ปราณีตเท่ากับที่เธอเคยกินเมื่ออยู่ในวังแต่เจ้าหญิงน้อยก็ไม่เกี่ยงงอนแต่อย่างใด ที่สำคัญตอนนี้ขอเพียงให้เธอมีที่พักและอาหารให้กินก็เพียงพอแล้วในยามนี้
สักพัก
เด็กสาวกินข้าวเสร็จหัวหน้าข้าหลวงบอกให้เธอเดินเล่นในวังไปพลางๆก่อนเพราะเดี๋ยวจะหางานให้เธอทำ ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธถึงแม้เธอจะเป็นถึงเจ้าหญิงจอมเวทย์แต่ก็เคยเรียนวิชางานบ้านงานเรือนแบบสามัญชนเหมือนกัน
ตอนนี้เด็กสาวได้เดินเล่นหลงเข้ามาให้เขตอุทยานหลวงซะแล้วไม่ไกลนักสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังเอื้อมหยิบผลแอปเปิ้ล
"ระวัง"อาเรนเทียร้องเตือนเด็กสาวทันทีที่ลูกธนูพุ่งมาที่ผลแอปเปิ้ลที่หญิงสาวกำลังเอื้อมหยิบ
"อ๊ะ!"เธอชักมือกลับทันที ลูกธนูนั้นเสียบเข้าที่ผลแอปเปิ้ลทำให้ผลแอปเปิ้ลร่วงลงพื้น
"เป็นอะไรรึเปล่า"อาเรนเทียเข้ามาถามหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังขวัญเสีย
"ข้าไม่เป็นไร ขอบใจ เจ้าชื่อ..."แต่ทั้งสองยังไม่ทันพูดก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
"ฮ่าๆเป็นไงล่ะฝีมือยิงธนูของข้ายิงโดนเป้าด้วย พวกเจ้าเห็นไหมฮ่าๆ"เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้น
เด็กหนุ่มห้าคนเดินเข้ามาหนึ่งในนั้นถือธนูเดินเข้ามา พลางโอ้อวดตน"เห็นไหมพวกเจ้าฝีมือยิงธนูของข้าไม่แพ้ท่านพี่เซตเลยสักนิด"
อาเรนเทียมองด้วยสายตาไม่พอใจ"ทำไมมายิงธนูแถวนี้!หรือที่นี่ไม่มีสนามฝึก เมื่อกี้ถ้าข้าไม่มาเห็นและเตือนผู้หญิงคนนี้มีหวังลูกธนูของท่านได้โดนมือนางได้รับบาดเจ็บแน่ "
ฝ่ายเด็กหนุ่มผู้ถือธนูนั้นเมื่อเจอผู้หญิงมาว่าอย่างนั้นจึงโต้กลับ"เจ้ารู้มั้ยว่าข้าคือใคร"
เด็กสาวโต้กลับ"ตัวท่านเองยังไม่รู้แล้วตัวข้าจะรู้รึ"การโต้กลับของเด็กสาวนั้นทำให้เด็กหนุ่มถือธนูหน้าเสีย
หนึ่งในนั้นจึงแนะนำ"ท่านนี่คือท่านโทมัส พระราชนัดดาของราชินีเซเล่ นะ"
เด็กสาวพยักหน้ารับรู้"งั้นเหรอ เป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่กลับรังแกคนอื่นเนี่ยใช้ได้รึ"
โทมัสตวาด"ว่าอะไรนะ!"มองมาที่เด็กสาวด้วยสายตาชิงชัง
หากแต่เด็กสาวที่กำลังเสียขวัญนั้นร้องห้าม"ข้าไม่เป็นไรหรอกนะ..."หากแต่อาเรนเทียไม่ฟัง
"ท่านต้องขอโทษนางเดี๋ยวนี้"
"ทำไมข้าต้องขอโทษข้าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์"เด็กหนุ่มผมทองโต้
อาเรนเทียสวนกลับ"เป็นเชื้อพระวงศ์แล้วไม่ใช่มนุษย์รึ หรือท่านเป็นอย่างอื่นล่ะ"
โทมัสแสยะยิ้มก่อนจะท้า"ได้ข้าจะขอโทษนางก็ได้...แต่"ตาคมสีเปลือกไม้ฉายแววเจ้าเล่ห์"เจ้าต้องแข่งยิงธนูชนะข้าให้ได้ก่อน..ตกลงไหม"
อาเรนเทียอย่างมั่นใจ"ได้ ตกลงจะแข่งตอนนี้ก็ได้นะข้าไม่เกี่ยง"
เด็กหนุ่มยิ้มรับ"ได้เลย ตามข้ามาสิ พวกเจ้าเองก็ตามไปเป็นพยานด้วย อ้อ ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะได้อะไรตอบแทนรึ"เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ
หากแต่อาเรนเทียหยิบมีดสั้นประจำตัวออกมา"ถ้าข้าแพ้ ข้าจะยกมีดสั้นเล่มนี้ให้"
โทมัสมองมีดสั้นเล่มงามลายวิจิตรนั้นด้วยตาที่เป็นประกายพลางยิ้ม"ตกลง"
หากแต่เด็กสาวผู้เป็นโจทย์ของเรื่องนี้กลับไม่สบายใจเลยสักนิด
ทั้งหมดตัดสินใจเดินทางไปสนามฝึก
อาเรนเทียเดินตรงไปหยิบธนูพร้อมลูกศรมาส่วนโธมัสนั้นเองก็หยิบลูกศรมาเช่นกันก่อนจะอธิบายกติกา"กติกาง่ายใครยิงเข้าเป้าก็ชนะตัดสินกันในครั้งเดียว ข้าเริ่มก่อน"ว่าแล้วโทมัสก็ง้างธนูยิง
'ฉึก'ลูกธนูเข้าตรงเป้าพอดี
"เข้าเป้าเด๊ะ เจ้ายอมแพ้ตอนนี้ยังทันนะ"หนึ่งในกลุ่มของโทมัสหันมาเยาะเย้ย
หากแต่อาเรนเทียกลับนิ่งเฉยก่อนจะเริ่มง้างธนูเล็งไปที่เป้าอันเดียวกับที่โทมัสเพิ่งยิงไป
'ฉึก!'ลูกธนูที่อาเรนเทียยิงออกไปนั้นกลับเข้าเป้ายิงทะลุลูกธนูของโทมัสสร้างความตะลึงให้กับทุกคน
"ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าชนะ ท่านรีบขอโทษนางซะ"อาเรนเทียทวงสัญญาพลางฉีกยิ้มหวาน...หึ!เรื่องเเบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์เลย...หากแต่โทมัสกลับมองมาที่เธอด้วยสายตาแค้นพร้อมกัดฟัน อาเรนเทียได้ทีจึงเยาะใส่ทันที"รู้ไหมว่าในสนามรบไม่มีการออมมือให้กันหรอกนะ ทีนี้ท่านขอโทษนางซะ"
โทมัสตัวสั่นเพราะความโกรธปนอายที่ตนมาแพ้ผู้หญิง"ขอโทษ!"พูดจบเขาก็ขว้างธนูทิ้งแล้วเดินจากไปพร้อมด้วยผู้ติดตาม
"ขอบคุณเจ้ามากนะว่าแต่เจ้าชื่ออะไรรึ"เด็กสาวตรงเข้ามาถาม
อาเรนเทียแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง"ข้าชื่อ เทีย อายุสิบสี่ มาใหม่น่ะแล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าชื่อ นาเดียจ้ะ อายุสิบห้า"
อาเรนเทียมองพินิจดู นาเดียมีผมสีดำตาสีน้ำตาลผิวคล้ำ รูปร่างค่อนข้างอวบหากแต่เตี้ยกว่าอาเรนเทียเล็กน้อย
แต่ก่อนสองสาวจะได้คุยกันนั้น
'แปะ!แปะ!แปะ!'เสียงปรบมือดังขึ้น ทำให้สองสาวหันไปก็พบกับ
"วินเนียส"อาเรนเทียเรียกอย่างยินดี เมื่อเห็นองครักษ์หนุ่มผิวเข้มเดินตรงมา
"เก่งจริงๆนะเทีย ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะยิงธนูได้แม่นขนาดนี้"วินเนียสชมเด็กสาวจากใจจริง
คนถูกชมนั้นหัวเราะแก้เขิน"อย่าชมข้าเลยนะ วินเนียส"
นาเดียเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนเกินจึงลา"ข้าไปก่อนนะเทีย"แล้วเดินจากไป
พอลับร่างของนาเดียวินเนียสเข้ามาถามให้ได้ยินแค่สองคน"เจ้าใช้เวทย์มนต์รึเปล่า"
อีกฝ่ายยักไหล่"เรื่องแบบนี้ข้าจะใช้เวทย์มนต์ให้เปลืองทำไมนั่นน่ะฝีมือล้วนๆ"
วินเนียสนึกสงสัย"ใครสอนเจ้า ถึงจะเป็นดินแดนผู้ใช้มนตราเขาก็ไม่น่าจะสอนวิชาต่อสู้ให้กับผู้หญิงหรอกจริงมั้ย"
"จริง คนที่สอนข้าน่ะ พี่ชายข้าเอง เอาไว้ป้องกันตัว เราพึ่งเเต่เวทย์มนต์ไปตลอดไม่ได้หรอกนะมีหวังเราใช้ชีวิตไม่ได้แน่เพราะเวทย์มนต์น่ะไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิตหรอก"คำพูดของเด็กสาวทำให้วินเนียสรู้สึกชื่นชมและยิ่งสงสัยในตัวของเด็กสาวผู้ใช้มนตราผู้นี้มากขึ้นแต่เขาก็เก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น
อาเรนเทียเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น"ที่นี่เหรอปราสาทของเฮลเทีย สวยจัง"สวยไม่แพ้ปราสาทของคาลาสเลย
"เอาล่ะ เจ้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะข้าหลวงในวังก่อนก็แล้วกัน คงไม่มีปัญหานะ เทีย"เซตหันหน้ามาถามเด็กสาวกำลังที่มองไปรอบๆปราสาทด้วยความตื่นเต้นโดยไม่นใจที่เขาพูดจนเขาต้องชื่อนางอีกครั้ง"เทีย"
"อ๊ะ!อะไรเหรอท่านเซต"คำถามของเด็กสาวทำเอาเจ้าชายหนุ่มส่ายหัว
เซตเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุๆ"เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าพูดเลยใช่ไหม"
อีกฝ่ายยิ้มเจื่อนๆ"แหะๆขอประทานอภัยเมื่อกี้ไม่ได้ฟังที่ท่านพูดเลยเพคะ"
เจ้าชายหนุ่มพูดอีกครั้ง"เจ้าเข้ามาเป็นข้าหลวงในวังก่อนก็แล้วกัน ข้าไปล่ะวินเนียสเป็นธุระจัดการให้ข้าด้วยนะ"พูดจบเจ้าชายหนุ่มก็เดินจากไป
"พ่ะย่ะค่ะ"วินเนียสโค้งรับพระบัญชาก่อนจะหันมาหาเด็กสาว"เทีย ตามข้ามา"องครักษ์หนุ่มจูงมือเล็กให้เดินตามเขาไปอีกทางหนึ่ง
ทั้งคู่เดินมาที่ตึกสีขาวที่นั่นมีหญิงสาวมากมายในชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มยาวกรอมเท้าบ้างก็กำลังทำอาหารบ้างก็กำลังเช็ดถูถ้วยโถ่โอชาม
วินเนียสร้องเรียก"ท่านนีน่าอยู่รึไม่"
"ข้าอยู่นี่วินเนียส"เสียงของหญิงสูงวัยดังขึ้น พร้อมร่างผอมผมสีน้ำตาลแซมขาวในชุดกระโปรงยาวสีน้ำตาลเดินออกมา
องครักษ์หนุ่มโค้งศรีษะเล็กน้อยเป็นการเคารพหญิงสูงวัย นางถามอย่างเอ็นดู"มาคราวนี้มีเรื่องอะไรรึวินเนียส"
วินเนียสกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ"คือที่ข้ามาที่นี่ท่านเซตมีเรื่องให้ท่านช่วยนะครับ"
นีน่าหัวหน้าข้าหลวงหันมามองมาที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังขององครักษ์หนุ่มด้วยสายตาเอ็นดูก่อนจะหันกลับมาสนทนากับองครักษ์หนุ่มต่อ"เด็กคนนี้คือใครรึหน้าตาน่ารักสวยจังเลย"
"นางชื่อ เทีย นางพลัดหลงกับครอบครัว ท่านเซตสงสารเลยให้มาอยู่เป็นข้าหลวงในวังก่อนน่ะครับ"
หัวหน้าข้าหลวงพยักหน้าอย่างเข้าใจนึกสงสารเด็กสาวคนนี้ที่ต้องพลัดหลงจากครอบครัว"เอาเถอะเดี๋ยวข้าจะหาห้องและเสื้อผ้าของใช้ให้นางเอง"
อาเรนเทียขอบคุณ"ขอบคุณท่านนีน่ามากค่ะที่เมตตา"
หญิงสูงวัยหัวเราะพลางส่ายหน้า"ไม่เลยเทีย นั่นเป็นหน้าที่ของหัวหน้าข้าหลวงอย่างข้าอยู่แล้ว ตามข้ามาได้เลย"
เมื่อทุกอย่างดูเรียบร้อยแล้ววินเนียสจึงร่ำลา"งั้น ข้าขอตัวก่อนครับ โชคดีนะเทีย"ว่าแล้วองครักษ์หนุ่มก็เดินจากไป
หัวหน้าข้าหลวงนีน่าเดินนำเด็กสาวต่างถิ่นไปยังตึกอีกตึกหนึ่งทั้งสองเข้าไปที่ห้องๆหนึ่งที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมากมีเตียงนอนและโต๊ะเครื่องแป้งและม่านกำบังฉากสำหรับเปลี่ยนชุด ตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำส่วนตัว หญิงสูงวัยแนะนำ"ที่นี่คือห้องพักของเจ้านะเดี๋ยว ข้าจะให้คนเอาเสื้อผ้าของใช้มาให้นะ "
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะถาม"ค่ะ แล้วข้าหลวงที่นี่จะมีห้องพักส่วนตัวอย่างนี้หมดเลยเหรอค่ะ"เพราะอาเรนเทียรู้สึกว่าแทบจะไม่ต่างจากคาลาสสักเท่าไหร่เพียงแต่ในวังของคาลาสนั้นพวกข้าหลวงนั้นจะมีห้องพักส่วนตัวกันทุกคน
หญิงสูงวัยพยักหน้ารับ"ใช่จ้ะ เพราะข้าหลวงที่นี่จะมีห้องพักส่วนตัวกันทุกคนแหละจ้ะ"
'โครกคราก'
เสียงท้องร้องอาเรนเทียเอามือกุมท้องตนหน้างามขึ้นสีเพราะความอาย
หญิงสูงวัยหัวเราะเบาๆก่อนจะพูดกับเด็กสาวด้วยความเอ็นดู"ถ้าหิวก็ตามข้ามาที่ห้องครัวก่อนล่ะนะ"
เด็กสาวยิ้มแก้เขิน"ขอบคุณมากค่ะ"ว่าแล้วเธอก็เดินตามหัวหน้าข้าหลวงไปยังห้องครัวทันที
ห้องครัว
ตอนนี้อาเรนเทียกำลังกินข้าวเช้าอันประกอบไปด้วย ขนมปังและซุปร้อนๆ ที่ถึงแม้จะไม่ปราณีตเท่ากับที่เธอเคยกินเมื่ออยู่ในวังแต่เจ้าหญิงน้อยก็ไม่เกี่ยงงอนแต่อย่างใด ที่สำคัญตอนนี้ขอเพียงให้เธอมีที่พักและอาหารให้กินก็เพียงพอแล้วในยามนี้
สักพัก
เด็กสาวกินข้าวเสร็จหัวหน้าข้าหลวงบอกให้เธอเดินเล่นในวังไปพลางๆก่อนเพราะเดี๋ยวจะหางานให้เธอทำ ซึ่งเธอก็ไม่ปฏิเสธถึงแม้เธอจะเป็นถึงเจ้าหญิงจอมเวทย์แต่ก็เคยเรียนวิชางานบ้านงานเรือนแบบสามัญชนเหมือนกัน
ตอนนี้เด็กสาวได้เดินเล่นหลงเข้ามาให้เขตอุทยานหลวงซะแล้วไม่ไกลนักสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังเอื้อมหยิบผลแอปเปิ้ล
"ระวัง"อาเรนเทียร้องเตือนเด็กสาวทันทีที่ลูกธนูพุ่งมาที่ผลแอปเปิ้ลที่หญิงสาวกำลังเอื้อมหยิบ
"อ๊ะ!"เธอชักมือกลับทันที ลูกธนูนั้นเสียบเข้าที่ผลแอปเปิ้ลทำให้ผลแอปเปิ้ลร่วงลงพื้น
"เป็นอะไรรึเปล่า"อาเรนเทียเข้ามาถามหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังขวัญเสีย
"ข้าไม่เป็นไร ขอบใจ เจ้าชื่อ..."แต่ทั้งสองยังไม่ทันพูดก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
"ฮ่าๆเป็นไงล่ะฝีมือยิงธนูของข้ายิงโดนเป้าด้วย พวกเจ้าเห็นไหมฮ่าๆ"เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้น
เด็กหนุ่มห้าคนเดินเข้ามาหนึ่งในนั้นถือธนูเดินเข้ามา พลางโอ้อวดตน"เห็นไหมพวกเจ้าฝีมือยิงธนูของข้าไม่แพ้ท่านพี่เซตเลยสักนิด"
อาเรนเทียมองด้วยสายตาไม่พอใจ"ทำไมมายิงธนูแถวนี้!หรือที่นี่ไม่มีสนามฝึก เมื่อกี้ถ้าข้าไม่มาเห็นและเตือนผู้หญิงคนนี้มีหวังลูกธนูของท่านได้โดนมือนางได้รับบาดเจ็บแน่ "
ฝ่ายเด็กหนุ่มผู้ถือธนูนั้นเมื่อเจอผู้หญิงมาว่าอย่างนั้นจึงโต้กลับ"เจ้ารู้มั้ยว่าข้าคือใคร"
เด็กสาวโต้กลับ"ตัวท่านเองยังไม่รู้แล้วตัวข้าจะรู้รึ"การโต้กลับของเด็กสาวนั้นทำให้เด็กหนุ่มถือธนูหน้าเสีย
หนึ่งในนั้นจึงแนะนำ"ท่านนี่คือท่านโทมัส พระราชนัดดาของราชินีเซเล่ นะ"
เด็กสาวพยักหน้ารับรู้"งั้นเหรอ เป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่กลับรังแกคนอื่นเนี่ยใช้ได้รึ"
โทมัสตวาด"ว่าอะไรนะ!"มองมาที่เด็กสาวด้วยสายตาชิงชัง
หากแต่เด็กสาวที่กำลังเสียขวัญนั้นร้องห้าม"ข้าไม่เป็นไรหรอกนะ..."หากแต่อาเรนเทียไม่ฟัง
"ท่านต้องขอโทษนางเดี๋ยวนี้"
"ทำไมข้าต้องขอโทษข้าเป็นถึงเชื้อพระวงศ์"เด็กหนุ่มผมทองโต้
อาเรนเทียสวนกลับ"เป็นเชื้อพระวงศ์แล้วไม่ใช่มนุษย์รึ หรือท่านเป็นอย่างอื่นล่ะ"
โทมัสแสยะยิ้มก่อนจะท้า"ได้ข้าจะขอโทษนางก็ได้...แต่"ตาคมสีเปลือกไม้ฉายแววเจ้าเล่ห์"เจ้าต้องแข่งยิงธนูชนะข้าให้ได้ก่อน..ตกลงไหม"
อาเรนเทียอย่างมั่นใจ"ได้ ตกลงจะแข่งตอนนี้ก็ได้นะข้าไม่เกี่ยง"
เด็กหนุ่มยิ้มรับ"ได้เลย ตามข้ามาสิ พวกเจ้าเองก็ตามไปเป็นพยานด้วย อ้อ ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะได้อะไรตอบแทนรึ"เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ
หากแต่อาเรนเทียหยิบมีดสั้นประจำตัวออกมา"ถ้าข้าแพ้ ข้าจะยกมีดสั้นเล่มนี้ให้"
โทมัสมองมีดสั้นเล่มงามลายวิจิตรนั้นด้วยตาที่เป็นประกายพลางยิ้ม"ตกลง"
หากแต่เด็กสาวผู้เป็นโจทย์ของเรื่องนี้กลับไม่สบายใจเลยสักนิด
ทั้งหมดตัดสินใจเดินทางไปสนามฝึก
อาเรนเทียเดินตรงไปหยิบธนูพร้อมลูกศรมาส่วนโธมัสนั้นเองก็หยิบลูกศรมาเช่นกันก่อนจะอธิบายกติกา"กติกาง่ายใครยิงเข้าเป้าก็ชนะตัดสินกันในครั้งเดียว ข้าเริ่มก่อน"ว่าแล้วโทมัสก็ง้างธนูยิง
'ฉึก'ลูกธนูเข้าตรงเป้าพอดี
"เข้าเป้าเด๊ะ เจ้ายอมแพ้ตอนนี้ยังทันนะ"หนึ่งในกลุ่มของโทมัสหันมาเยาะเย้ย
หากแต่อาเรนเทียกลับนิ่งเฉยก่อนจะเริ่มง้างธนูเล็งไปที่เป้าอันเดียวกับที่โทมัสเพิ่งยิงไป
'ฉึก!'ลูกธนูที่อาเรนเทียยิงออกไปนั้นกลับเข้าเป้ายิงทะลุลูกธนูของโทมัสสร้างความตะลึงให้กับทุกคน
"ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าชนะ ท่านรีบขอโทษนางซะ"อาเรนเทียทวงสัญญาพลางฉีกยิ้มหวาน...หึ!เรื่องเเบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์เลย...หากแต่โทมัสกลับมองมาที่เธอด้วยสายตาแค้นพร้อมกัดฟัน อาเรนเทียได้ทีจึงเยาะใส่ทันที"รู้ไหมว่าในสนามรบไม่มีการออมมือให้กันหรอกนะ ทีนี้ท่านขอโทษนางซะ"
โทมัสตัวสั่นเพราะความโกรธปนอายที่ตนมาแพ้ผู้หญิง"ขอโทษ!"พูดจบเขาก็ขว้างธนูทิ้งแล้วเดินจากไปพร้อมด้วยผู้ติดตาม
"ขอบคุณเจ้ามากนะว่าแต่เจ้าชื่ออะไรรึ"เด็กสาวตรงเข้ามาถาม
อาเรนเทียแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง"ข้าชื่อ เทีย อายุสิบสี่ มาใหม่น่ะแล้วเจ้าล่ะ"
"ข้าชื่อ นาเดียจ้ะ อายุสิบห้า"
อาเรนเทียมองพินิจดู นาเดียมีผมสีดำตาสีน้ำตาลผิวคล้ำ รูปร่างค่อนข้างอวบหากแต่เตี้ยกว่าอาเรนเทียเล็กน้อย
แต่ก่อนสองสาวจะได้คุยกันนั้น
'แปะ!แปะ!แปะ!'เสียงปรบมือดังขึ้น ทำให้สองสาวหันไปก็พบกับ
"วินเนียส"อาเรนเทียเรียกอย่างยินดี เมื่อเห็นองครักษ์หนุ่มผิวเข้มเดินตรงมา
"เก่งจริงๆนะเทีย ข้าไม่นึกว่าเจ้าจะยิงธนูได้แม่นขนาดนี้"วินเนียสชมเด็กสาวจากใจจริง
คนถูกชมนั้นหัวเราะแก้เขิน"อย่าชมข้าเลยนะ วินเนียส"
นาเดียเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนเกินจึงลา"ข้าไปก่อนนะเทีย"แล้วเดินจากไป
พอลับร่างของนาเดียวินเนียสเข้ามาถามให้ได้ยินแค่สองคน"เจ้าใช้เวทย์มนต์รึเปล่า"
อีกฝ่ายยักไหล่"เรื่องแบบนี้ข้าจะใช้เวทย์มนต์ให้เปลืองทำไมนั่นน่ะฝีมือล้วนๆ"
วินเนียสนึกสงสัย"ใครสอนเจ้า ถึงจะเป็นดินแดนผู้ใช้มนตราเขาก็ไม่น่าจะสอนวิชาต่อสู้ให้กับผู้หญิงหรอกจริงมั้ย"
"จริง คนที่สอนข้าน่ะ พี่ชายข้าเอง เอาไว้ป้องกันตัว เราพึ่งเเต่เวทย์มนต์ไปตลอดไม่ได้หรอกนะมีหวังเราใช้ชีวิตไม่ได้แน่เพราะเวทย์มนต์น่ะไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิตหรอก"คำพูดของเด็กสาวทำให้วินเนียสรู้สึกชื่นชมและยิ่งสงสัยในตัวของเด็กสาวผู้ใช้มนตราผู้นี้มากขึ้นแต่เขาก็เก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ