ตำนานรักแห่งสายลม

9.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.

  34 ตอน
  13 วิจารณ์
  38.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) บทที่ 30 ตลาดคนแคระ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หนึ่งคืนกับอีกครึ่งวันผ่านไป เรือสำเภาน้อย ของคณะเดินทางตามหามังกรเผือก ที่ตอนนี้มีสมาชิกเพิ่มคือ เซนทอร์สองเซนทอร์ ได้เข้าสู่เขต ของตลาดคนแคระ สวรรค์ของนักรบ ที่เต็มไปด้วยอาวุธหลากหลายแบบที่ถูกสร้างสรรค์โดยเหล่าคนแคระ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักประดิษฐ์ ที่สามารถสร้างอาวุธแปลกใหม่ เครื่องประดับอันเลอค่า
อาเรนเทีย เซต วินเนียส มาร่า มาคัส  ต่างตื่นเต้นที่ได้เห็นตลาดคนแคระ ถึงจะเป็นช่วงเวลาบ่ายๆแต่ก็คึกคัก เต็มไปด้วยคนมากหน้าหลายตา ร้านขายของมากมาย ก่อนที่พวกเค้าจะจอดเรือที่ท่า นั้น อาเรนเทียก็ปรุงยาให้สองเซนทอร์กลายเป็นมนุษย์เสียก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เป็นจุดสนใจก่อนที่จะลงจากเรือ เซตให้อาเรนเทียช่วยจัดการเรื่องหาซื้อสิ่งจำเป็นต่อการเดินทาง
งานนี้ทำเอา เจ้าหญิงจอมเวทย์โวยลั่น”ทำไมต้องเป็นข้าด้วยล่ะ!”
“เจ้าเป็นผู้หญิงนี่ อีกอย่างพวกเราสี่ไม่เคยมาที่ตลาดคนแคระเลยนะ”
เด็กสาวโต้กลับ เธอไม่ยอมหรอกนะ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชาย จะใหญ่นักรึไง เธอเองก็เป็นเจ้าหญิงเหมือนกันนะ!“ข้าเองก็ไม่เคยมานะ อย่าคิดโยนทุกอย่างมาที่ข้าคนเดียวสิ ทุกคนต้องช่วยกันหาซื้อสิ่งจำเป็นสิ”
สองหนุ่มสาวแยกเขี้ยวใส่กัน จนคนที่เหลือไม่กล้ายุ่งด้วย
วินเนียสจึงทำหน้าที่กรรมการห้ามทัพ”เอาน่าๆ เราทุกคนแยกกันไปซื้อดีกว่านะ จะได้เสร็จเร็วๆ เวลาที่เหลือจะได้เที่ยวต่อ ดีมั้ย”
เซตและอาเรนเทียหันควับพร้อมกัน ทำเอาหนุ่มผิวเข้มสะดุ้ง
ทั้งคู่เอ่ยพร้อมกัน“ก็ได้”
หนุ่มผิวเข้มเอ่ยกับเด็กสาวผู้ใช้มนตรา”เทีย ข้าขอกระดาษกับปากกาหน่อย ข้าจะจดของที่เราต้องซื้อน่ะ”
“ได้”เด็กสาวท่องมนต์อยู่ครู่ แล้วกำและแบมือทั้งสองข้าง  ในอุ้งมือของเธอนั้นก็ปรากฏกระดาษและปากกาขนนกแล้ว
วินเนียสเริ่มจดอย่างคล่องแคล่วทันที
พอจดเสร็จ
เทียชะโงกหน้าดู”ขอดูหน่อยนะ”
วินเนียสส่งกระดาษให้เด็กสาวทันที
เด็กสาวผู้ใช้มนตราทวนรายการ”เนื้อแห้ง ถั่ว ผักดอง ผลไม้  น้ำ เอาน้ำไปทำไมวินเนียส น้ำดื่มใกล้หมดแล้วรึ ? ถ้าหากน้ำใกล้จะหมดแล้ว ข้าใช้เวทย์มนต์พลิกแพลงเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืดได้นะ”
มาคัสที่เงียบมานานเอ่ยถาม”เจ้าทำได้รึ เทีย”
“ได้ ของบางอย่าง เราสามารถใช้มนต์พลิกแพลงเปลี่ยนเป็นอีกสิ่งได้นะ อย่างน้ำทะเลเป็นน้ำจืดเนี่ยแหละ”
มาร่าจึงถามบ้าง”แล้วเปลี่ยนน้ำเปล่าเป็นเหล้าล่ะ”
“ได้ เพราะน้ำกับเหล้าก็คือของเหลวเหมือนกัน ทำได้สบายมาก”ก็แหงล่ะ นี่คือเรื่องพื้นฐานของเวทย์มนต์เลยนะ
เซตถามบ้าง”แล้วทำไมเจ้าไม่ใช้เวทย์มนต์เปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าเลิศรสให้ท่าผู้รู้เสียล่ะ”
ดวงหน้างามของจอมเวทย์สาวแปรเปลี่ยนเป็นเหม็นเบื่อ “ท่านเซต การที่เราน้ำเหล้าเสกไปมอบให้ท่านผู้รู้ นั้นจะกลายเป็นว่า เราไม่มีความจริงใจ ต่อท่านผู้รู้และไม่เคารพท่านนะ ท่านผู้รู้เป็นจอมเวทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ เราต้องให้เกียรติ์ท่าน  ถ้าสมมุติว่ามีพ่อค้ามาขายเกล็ดมังกรเผือกให้กับท่าน แล้วพบว่ามันเป็นของปลอม ท่านจะรู้สึกยังไง นั่นล่ะท่านผู้รู้ก็รู้สึกอย่างนั้นถ้าเรานำสุราเสกไปมอบให้ท่าน ท่านจะผิดหวังมากนะ  ท่านนี่ช่างมักง่ายเสียจริงๆ”
เจ้าชายแห่งเฮลเทียหน้าหงิก จึงสวนคืน“แล้วเจ้าล่ะ เสกน้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด ไม่เรียกว่ามักง่ายรึ”
หากแต่เจ้าหญิงผู้ใช้มนตราไม่สะทกสะท้าน ที่โดนว่า เพียงโต้กลับแบบนิ่มๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย”ข้าทำเพื่อที่เราจะไม่ต้องแวะหลายที่โดยไม่จำเป็นเราไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะมีน้ำจืดรึไม่ เรายังไม่รู้ อย่างข้าเรียกว่ามักง่ายรึ ท่านเซต”
เจ้าชายแห่งเฮลเทียสะอึกพูดไม่ออก
อาเรนเทียมองอีกฝ่ายเขม่ง แล้วถามอีกครั้ง”อย่างข้าเรียกว่ามักง่ายรึ? ตอบมาสิ”
วินเนียสเห็นว่าบรรยากาศชักไม่ดี จึงรีบห้ามทัพ”เอ่อ เทีย เราไปซื้อของก่อนเถอะนะ เดี๋ยวช้าจะเสียเวลา งั้นเจ้าไปซื้อพวกผลไม้และสมุนไพรดีกว่านะ”
“ก็ได้ วินเนียส”
หนุ่มผิวเข้มยื่นอัญมณีจำนวนหนึ่งที่ตนได้ทำการแบ่งแล้วส่งให้เด็กสาว
“ขอบใจ แล้วเจอกัน”
“ข้าไปด้วยสิ”มาร่า ลงจากเรือตามอาเรนเทียไป
วินเนียสถอนหายใจ ที่ตอนนี้นายของเค้าโดน โต้กลับจนไปไม่เป็น มันก็จริงของเทีย ที่นางทำนั้นก็เพื่อส่วนรวม นางมองการณ์ไกลราวกับผู้นำ  บางที การที่คนธรรมดาอย่างพวกเค้าเห็นว่าเวทย์มนต์คือสิ่งอำนวยความสะดวก อาจจะทำให้หลงลืม สิ่งที่เรียกว่า การให้เกียรติ์ การแสดงความจริงใจ ซึ่งกันและกัน
เซตทำได้แต่ถอนหายใจ รอบนี้เค้ายอมรับว่า เค้าเป็นฝ่ายผิดที่ไปว่านาง ทั้งๆที่เค้านั่นแหละ ผิดที่คิดอะไรง่ายๆ การที่นางแนะให้เค้านำสุราที่ดีที่สุดไปกำนัลแด่ท่านผู้รู้ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นของกำนัล แต่จริงๆแล้ว การจะเป็นการแสดงความนอบน้อมและจริงใจก็เป็นได้ “วินเนียสเราไปซื้อของที่เหลือเถอะ”
วินเนียสหันมาทางมาคัส “แล้วท่านจะไปด้วยรึเปล่า”
“ไปสิ”
สามหนุ่มก็ลงจากเรือไป
ทางด้านสองสาวต่างสายพันธุ์ ที่กำลังเลือกซื้อของแห้ง กับผลไม้เป็นจำนวนมากอยู่นั้น สำหรับมาร่า นี่คือสิ่งแปลกใหม่ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยออกจากเกาะอัญมณีเลยสักครั้ง
“เทีย ดูนั่นสิ”เซนทอร์สาวในร่างมนุษย์ชี้ไปที่ คณะแสดงที่ท้องถนน กำลังทำการแสดง อาเรนเทียมองดู เธอเองก็เคยแอบหนีออกจากวังมาเที่ยวเล่นในเมืองเหมือนกัน และดูการแสดงที่ท้องถนน มันสนุกมาก มีโชว์การต่อตัว โยนบอล พ่นไฟ การแสดงของที่นี่ก็ไม่ต่างกับที่เธอเคยเห็นมากนัก เมื่อการแสดงจบ ผู้ชมทั้งหลายต่างโยนเหรียญเงินใส่หมวกที่ นักแสดงคนหนึ่งถือแล้วเดินไปรอบๆ ให้เป็นค่าชม มาร่านำเหรียญเงินโยนให้บ้าง จากนั้นสองสาวก็พากันไปซื้อของต่อ
ทางด้านพวกผู้ชาย
เซตและมาคัส ต้องถือของหนักๆอย่างพวก เสบียงที่จำเป็นมากมาย เต็มสองมือ ในขณะที่วินเนียสก็ทำตัวเป็นพ่อบ้าน เลือกซื้อของอย่างสบายอารมณ์ แถมมีการต่อราคากับพ่อค้า หว่านเสน่ห์ใส่แม่ค้าด้วยรอยยิ้มหวานๆเพื่อให้ราคาของถูกลง
เซตและมาคัสต้องยอมรับว่า ถ้าพวกเค้ามาเองจะได้ราคาแบบนี้มั้ยเนี่ย ไม่มีทาง
หลังจากซื้อของใช้ที่จำเป็นขนกลับมาที่เรือ พวกเค้าก็พบว่าสองสาวมารออยู่ก่อนแล้ว
“มาช้าจัง”มาร่าทักทาย ก่อนจะมาหา มาคัส พร้อมกับเล่าเรื่องเรื่องที่เธอไปเห็นให้เซนทอร์หนุ่มฟัง
อาเรนเทียคิดมองภาพนั้นอย่างเอ็นดูมาร่า ถึงจะอายุมากกว่าเธอสามปีแต่มาร่ากลับดูเหมือนเด็กๆ
“ข้าขอตัวก่อน อีกสามชั่วโมง เจอกัน”
เซตเอ่ยถาม”เจ้าจะไปไหน”
“ข้าจะไปทำธุระ สักหน่อย ก็เท่านั้น เดี๋ยวข้ามา”
วินเนียสเข้าไปกระซิบ “ท่านไม่ตามนางไปล่ะ”
เซตนั้นใจจริงอยากจะตามไปใจแทบขาดแต่ “ข้าว่า…รอให้นางอารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนน่าจะดีกว่านะ ดูเหมือนว่านางโกรธข้าอยู่”
วินเนียสเข้ามากระซิบ”นี่เป็นโอกาสที่ท่านจะได้อยู่กับนางสองต่อสองนะ รีบไปขอโทษนางเลย”
งานนี้มีหรือ เซตจะยอม เค้ารีบลงจากเรือไปทันที
วินเนียสถอนใจอย่างหน่ายๆ…เหนื่อยใจจริงๆ…
ทางด้านเจ้าหญิงแห่งคาลาส  ที่ในตอนนี้ใจนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เธอไม่ชอบเลยที่พวกมนุษย์ธรรมดา มักง่าย เห็นเวทย์มนต์เป็นอะไรกัน สำหรับผู้ใช้มนตรานั้น การที่นำสุรา หรือ ไวท์ ที่เสก ไปให้อีกฝ่ายที่เป็นผู้ใช้มนตราเหมือนกัน จะถือว่าเป็นการหยามเกียรติ์ หรือ ท้าทาย อีกฝ่ายทันที นั่นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ หลายครั้งที่อาณาจักรมนตรา เกิดปัญหาความขัดแย้ง จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สาเหตุก็เพราะ การนำของปลอมมาขาย ใช้เวทย์มนต์ปลอมของกำนัล มามอบให้
“มนุษย์เป็นเหมือนกันหมดเลยรึไงนะ”
ทางด้านเซตที่พยายามตามเด็กสาวผู้ใช้มนตราให้ทันนั้น ด้วยความที่ผู้คนเดินสันจรกันมาก ทำให้เค้าคลาดกับเด็กสาวจนได้
“โอ๊ะ ขอโทษที”เจ้าชายแห่งเฮลเทีย หันไปขอโทษผู้ทีตนไปชน
“ไม่เป็นไรขอรับ เป็นข้าต่างหากที่ต้องขอโทษ”
พอเห็นการแต่งตัวของคนตรงหน้า ก็พอจะเดาได้ว่า น่าจะเป็นผู้ใช้มนตรา เพราะถือไม้เท้า ที่หัวไม้เท้ามีพู่ห้อย ถึงจะต่างจาก คฑาของเทียก็ตามที เค้าเป็นชายหนุ่ม ท่าทางเป็นมิตร อายุน่าจะประมาณ ยี่สิบห้าสวมหมวกทรงสูงไร้ปีกสีน้ำตาลดูแปลกตา ผิวคล้ำ ผมหยักศกสีดำ เค้ามีดวงตาเรียวสีน้ำตาลดุจเหยี่ยว สวมชุดรัดกุมสีน้ำตาลและสวมผ้าคลุมสีทรายทับอีกที
“ท่านเป็นผู้ใช้มนตรารึ ขอรับ”
ชายตรงหน้ายิ้ม”ใช่ ช่างสังเกตนะ”
“พอดีข้ามี เพื่อนที่เป็นผู้ใช้มนตราน่ะขอรับ”
“อ่า...เป็นเพื่อนท่านเป็นผู้ใช้มนตราจากเมืองใดกัน ข้า ชื่อ ราอิน เป็นพ่อค้า มาจากโคเทีย  ข้ามาหาซื้อสมุนไพรที่นี่”
“พี่ชาย ที่นี่มีสมุนไพรขายด้วยรึ”
“มีสิ พอดี ที่นี่มีสินค้าจากหลายแห่งมาขาย สมุนไพรเองก็เหมือนกัน บางที่ เค้ากลัวผู้ใช้มนตรา ถ้ารู้ว่า พวกเราเข้าไปล่ะก็ ไม่แคล้ว…ก็ต้องโดนจับประหาร หรือไม่ก็ถูกหลอกใช้งาน ที่ตลาดคนแคระ เป็นสถานที่ ที่ต้อนรับทั้งผู้ใช้มนตราและมนุษย์ ให้มาทำการค้า เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า ทำให้พวกเราผู้ใช้มนตรา สามารถซื้อสินค้าได้สะดวก”
เซตขมวดคิ้ว รู้สึกงุนงง “แล้วพวกท่านเข้ามา เยี่ยงมนุษย์ทั่วไปมิได้รึ”
“ได้สิ แต่…ของบางอย่างเราต้องการของจริง จำเป็นต้องใช้เวทย์ตรวจ นั่นล่ะ พวกมนุษย์รู้แน่ ว่าแต่เราคุยกันมานาน ท่านชื่ออะไร มาจากไหนกัน และจะไปที่แห่งใด ข้าเดาว่า จุดหมายของท่านไม่ใช่ที่นี่เป็นแน่”
“ข้าชื่อเซต มาจากเฮลเทีย จุดหมายของข้านั้น ข้าไม่อาจบอกท่านได้”
“งั้นเหรอ ดูเหมือนว่า ท่านกำลังจะมีปัญหากับใครนะ”
เด็กหนุ่มหรี่ตา เกาศีรษะ“ท่านนี่ดูเหมือนว่าจะรู้ไปซะทุกเรื่องเลยนะ”
“ความรู้สึกของท่านมันแสดงออกผ่านดวงตา…ข้ามีความสามารถสัมผัสกลิ่นอายของผู้ใช้มนตราได้ ดูเหมือนว่าเพื่อนของท่าน นางนี้จะมีความสามารถในการสื่อสารกับมังกรนะ”
เซตตาเบิกกว้าง จอมเวทย์ตรงหน้ารู้ได้อย่างไง ว่า ผู้ใช้มนตราเพื่อนเค้าเป็นผู้หญิง และที่สำคัญ นางไม่ได้บอกเรื่องความสามารถในด้านนี้เลยนะ
ราอินยิ้มกว้าง”อ่า…อย่าแปลกใจ ผู้ใช้มนตราที่มีความสามารถในด้านนี้มีน้อย แทบจะนับคนได้ และพวกเค้าก็จะไม่ชอบเปิดเผยตัว มันอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเค้าได้  อย่างข้าเองก็ปกปิดเหมือนกัน”
“และทำไมท่านถึงเปิดเผยเรื่องความสามารถของท่านกับข้าล่ะ ท่านราอิน”
“ข้ารู้ว่าท่านเป็นซื่อตรง คิดอย่างไรแสดงออกมาอย่างนั้น แต่บางเรื่องท่านก็เลือกที่จะนิ่งเฉย เพราะท่านเป็นที่รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ข้าจึงไว้ใจท่าน อีกอย่างความสามารถแบบข้า ก็มีมากอยู่ ว่าแต่ท่านกับเพื่อนหญิงมีปัญหาอันใดรึ”
“คือ…ข้าตั้งใจจะหาเหล้าไปเยี่ยมลุงของนางที่เป็นผู้ใช้มนตรา เลยขอให้นางช่วยเสกเหล้าธรรมดาเป็นเหล้าดีๆ นางก็เลยโกรธข้าน่ะขอรับ”
“มันก็สมควรอยู่แล้ว เป็นข้า ข้าก็โกรธ อยากจะสาปให้กลายเป็นไส้เดือนเสียด้วยซ้ำ การที่ใช้เวทย์ปลอมของไปกำนัล ผู้อื่น ถ้าไม่ได้เสกสร้างขึ้นมาใหม่ มันถือเป็นการหยามเกียรติ์ หลอกลวงอีกฝ่าย และมันอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่โตเลยก็ได้”
“งั้นเหรอ ขอรับ”
“ข้าเข้าใจนะว่า ท่านเป็นมนุษย์ธรรมดา เห็นเวทย์มนต์เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย มันก็จริง แต่สำหรับผู้ใช้มนตราถือเป็นชีวิต จิตวิญญาณ ถ้าใช้มันมากเกินไป จนทำอะไรไม่เป็นเลยล่ะก็ พลังที่มีอาจจะเสื่อมถอย จะสลายไปในที่สุดก็ได้ นั่นคือคำสอน ที่เหล่าผู้ใช้มนตราเรียนรู้มา คำสอนนี่ มันสอนให้เราพึ่งตนเอง มิใช่เอาแต่เพิ่งเวทย์มนต์แต่เพียงอย่างเดียว มิอย่างนั้น พวกข้าอาจจะเป็นง่อยก็ได้นะ”
“งั้นรึ ถ้าใช้เวทย์มนต์มากๆ มันอาจจะหายไปได้รึ”
ชายหนุ่มผู้ใช้มนตราพยักหน้า”บางครั้ง ผู้ใช้มนตราฝืนใช้เวทย์มนต์ติดต่อกันนานๆ ร่างกายอาจจะแย่ได้”
“ขอบคุณท่านที่แนะนำ”
ชายหนุ่มหยิบบางอย่างออกมา แล้วคว้ามือขวาของเด็กหนุ่ม แล้ววางถุงผ้าเล็กๆที่บรรจุบางอย่างใส่มือของเค้าไว้ ”เอาไปสิ หากวันใด ที่เพื่อนคนเก่งของท่านล้มป่วยจนไม่อาจใช้มนตราได้ ขอท่านจงโปรยผงนี่ ให้ทั่วเรือของท่าน เรือจะแล่นเร็วเท่ากับการใช้มนตราช่วย เพียงแต่ฤทธิ์ของมันอาจจะไม่คงนาน แค่ สองวันก็เท่านั้น”ว่าจบชายคนนั้นก็หายไปราวกับอากาศธาตุ
เซตหันซ้ายแลขวาก็ไม่พบวี่แววของราอิน มีแต่เหล่าผู้คนที่กำลังสัญจรไปมา ตาสีฟ้าก็เหลือบไปเห็น คนที่เค้ากำลังตามหา นางกำลัง ดูสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในกรง สำหรับค้าขาย
เมื่อเจอแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะขอโทษนางอย่างไรนี่สิ
เซต ก็นึกบางอย่างได้
อาเรนเทียในตอนนี้นางกำลังมองดูเจ้ากระต่ายขนปุย ที่อยู่ในกรง สำหรับขาย ”ถ้ากลับคาลาส ลองขอท่านพี่เลี้ยงกระต่ายสักคู่ดีไหมนะ”
กุหลาบขาวช่อใหญ่ถูกยื่นมาข้างซ้ายของเธอ
“ท่านเซต”
เจ้าของนามยิ้มรับ “ชอบรึเปล่า”
อาเรนเทียรับช่อกุหลาบมา”ก็ชอบนะ ท่านซื้อมารึ?”
“ใช่” เจ้าชายแห่งเฮลเทียชี้ไปยังร้านดอกไม้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
ร่างสูงจับที่ต้นแขนบาง”ไปเดินเล่นกัน”
ทั้งสองจึงเดินเคียงกันพลาง มองบรรยากาศโดยรอบ อาเรนเทียงุนงงกับอารมณ์ของเจ้าชายผู้นี้เสียเหลือเกิน…มาอารมณ์ไหนเนี่ย…
“ข้าขอโทษนะ”
“หือ? ท่านขอโทษข้าเรื่องอะไร”
เซตถอนใจ”ก็ที่ข้ามักง่ายและพูดไม่ดีใส่เจ้า”
“ไม่เป็นไร”อาเรนเทียชะงัก เมื่อกลิ่นบางอย่างแตะเข้าจมูก เด็กสาวต้องเข้ามาดมใกล้ๆจนเห็นถุงเล็กๆสีขาวที่เหน็บมากับเข็มขัดของร่างสูง เธอถือวิสาสะปลดถุงนั้นออกมาดู”ท่านได้ผงนี้ มาจากไหน”
“มันคือผงอะไรล่ะ”
เด็กสาวยังคงคาดคั้น“ท่านตอบข้าก่อน”
“คนที่ชื่อราอิน สหายของข้าที่เพิ่งเจอกัน เค้ามอบผงนี้ให้กับข้าน่ะ แล้วผงนี้มันคืออะไรรึ”
“ผงวายุ เป็นผงเวทย์ที่ดีที่สุดเลยน่ะสิ”
“หือ มันแบ่งระดับด้วยรึ?”
“ธรรมดา ผงวายุ ที่ใช้กันตามปกติน่ะ จะช่วยให้เรือแล่นได้เร็ว แค่ หนึ่งชั่วยามเท่านั้น แต่ผงนี่ ราคาสูงมาก”สาเหตุที่ราคาสูงนั้น อาเรนเทียรู้ดี เพราะผงวายุนี้จะต้องผสมพลังเวทย์ของผู้ใช้มนตราเข้าไปด้วย นอกจากนี้ ยังต้องกะส่วนผสมให้ลงตัวแถมยังใช้สมุนไพรราคาแพง นั่นทำให้ราคาสูงแต่ประสิทธิภาพนั้นน่าเหลือเชื่อสมราคา มันสามารถทำให้เรือแล่นได้อย่างรวดเร็วติดต่อกันนานถึง สองวัน สำหรับตัวนางเองจะทำผงแบบนี้ก็ย่อมได้ แต่ติดที่ว่าในตอนนี้นางไม่มีอุปกรณ์มากพอน่ะสิ”ดูท่าสหายท่านช่างใจกว้างเสียเหลือเกินนะ ท่านเซต”
…สงสัยพวกท่านพี่ส่งองครักษ์มาล่ะสิ…
อาเรนเทียส่งผลวายุคืนให้เซตทันที “เราจะเดินเที่ยวกันต่อหรือจะกลับไปที่เรือดีล่ะ”
“เดินเที่ยวต่อสิ นานๆทีข้าจะได้มาผจญภัยนะ”
ว่าจบทั้งคู่ก็เดินเคียงกัน ชมเมือง

“โอ๊ะโอ๋  ดูเหมือนว่า เจ้าหญิงอาเรนเทียจะเริ่มรู้ตัวแล้วสินะ”
“ราอิน”
“ไง ซูม่า”จอมเวทย์ผมดำหันไปทักทายเพื่อนตาสีเทา ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“เจ้าชายอาเรสส่งเจ้ามางั้นสิ”
“ใช่”
สองผู้ใช้มนตราหันมาประจันหน้า  ราอินถือเป็นองครักษ์ของอาณาจักรโคเทีย ที่ขึ้นตรงต่อเจ้าชายอาเรส เช่นเดียวกับเค้า เป็นคู่ปรับคนสำคัญของซูม่า นอกจากความสามารถในการต่อสู้แล้ว ด้านการปรุงยา ถือว่าเป็นมือฉมัง ที่หาตัวจับยากยิ่ง
ราอินยิ้มหวาน แล้วยียวนกวนประสาทคู่ปรับ“เจ้าชายอาเรส คงจะเห็นว่าเจ้าทำงานไม่ได้เรื่องกระมัง”
“หึ ถึงข้าจะไม่ทำอะไร เจ้าหญิงอาเรนเทีย ก็จัดการทุกอย่างได้อยู่ดีแหละ”
“งั้นรึ ข้าว่าเจ้าใช้พลังมากเกินไปแล้วนะ สหาย พักเสียเถอะ ข้ารับช่วงต่อเอง”
“หึ”
สองหนุ่มองครักษ์จอมเวทย์ยังคงเฝ้าดู เจ้าหญิงอาเรนเทีย ต่อไป เพราะไม่รู้ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ระวังไว้นั่นแหละดีที่สุดแล้ว
 
 
มาอัพแล้วจ้า หลังจากที่ดองเค็มนาน ชอบก็เม้น ไลท์กันนะคะ รักคนอ่านทุกคน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา