ตำนานรักแห่งสายลม
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) บทที่ 29 ตลาดคนแคระ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าตรู่วันต่อมา...
อาเรนเทียพลางตัวล่องหน แอบมาหาเซตและวินเนียสที่กระโจม เพื่อปลุกให้สองหนุ่มรีบออกจากเกาะก่อนที่ใครจะตื่นมาเห็น
เซตรีบเก็บของทันที เพราะเค้าไม่อยากมีเรื่องกับเซนทอร์ วินเนียสที่เพิ่งตื่นไม่รู้เรื่องอะไรแต่ก็ทำตาม
ทั้งสามรีบเดินทางไปยังจุดที่จอดเรือเอาไว้
"ใจคอเจ้าจะไม่บอกลาพวกเราเลยรึ?"
ทั้งสามหันไปก็พบกับมาคัส ที่แบกสัมภาระและดาบประจำกายมา
อาเรนเทียรู้สึกถึงลางสังหรณ์ว่า เรื่องวุ่นวายต่างๆกำลังจะตามมาในไม่ช้า
วินเนียสยิ้มให้แห้งๆ"มีน้ำใจจริงๆอุตส่าห์เอาของฝากมาให้"
"ไม่ใช่"
ทั้งสามสะดุ้ง พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เซนทอร์หนุ่มเอ่ยขึ้น"ข้าจะไปกับพวกเจ้าด้วย"
"ไม่ได้!"สองหนุ่มต่างศักดิ์เอ่ยพร้อมกัน
เซตหันไปหาสาวน้อยผู้ใช้มนตรา"เทีย..."
"ท่านเซต วินเนียส รีบขึ้นเรือเร็ว!!"อาเรนเทียที่แอบขึ้นเรือมาตะโกน
สองหนุ่มไม่รอช้า รีบวิ่งขึ้นเรือ มาคัสวิ่งตามมาติดๆ อาเรนเทียเห็นว่า เซนทอร์ตนนี้จะตามมาทันแน่ เธอจึงรีบร่ายมนต์อย่างรวดเร็ว
มาคัสที่วิ่งตามอยู่นั้นรู้สึกว่าร่างกายชา เรี่ยวแรงจำนวนมหาศาลค่อยๆมลายหายไป
"อะไรกัน..."เซนทอร์หนุ่มหันไปหาตัวต้นเหตุ ที่มองไปที่สหายทั้งสองที่กำลังวิ่งขึ้นเรือ
…ทำไมไม่มองข้าบ้างล่ะ ข้าแค่อยากจะช่วยเจ้า…
“ท่านทั้งสาม…โปรดหยุดก่อน…”เสียงของผู้เฒ่ามาดุ๊ก ดังขึ้น
ทั้งหมดหันไปที่ผู้เฒ่ามาดุ๊ก ที่มีเซนทอร์ติดตามมาประมาณยี่สิบตนและอาวุธครบมือ ทั้งดาบและหน้าไม้
เซนทอร์ผู้เฒ่ายิ้มเอ็นดู”ให้ มาคัสไปด้วยเถิดนะ ขากลับพวกท่านค่อยแวะขาเค้ากลับมาที่นี่ก็ได้”
อาเรนเทียไม่ชอบใจ เซนทอร์ตนนี้มีหน้าที่ปกป้องพวกพ้อง”อย่าเลย ท่านผู้เฒ่า เค้ามีหน้าที่ปกป้องดูแลพวกท่าน”
เซนทอร์ตนหนึ่งเอ่ยตอบ“ไม่เป็นไร พวกเราฝั่งเหนือล้วนเป็นนักรบกันทุกคน ขาดเจ้ามาคัสไปก็ไม่เป็นไรหรอก พวกข้า รับมือได้ ขอให้สหายข้าได้ร่วมผจญภัยกับพวกเจ้าด้วยเถิด เมื่อพวกท่านจะกลับก็แวะส่งเค้าก็ได้”
อาเรนเทียหันไปหาเซตเพื่อขอความเห็น สำหรับเจ้าชายแห่งเฮลเทีย ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้เซนทอร์ ตนนี้มาร่วมเดินทางไปด้วยซักเท่าไหร่ เพราะ มาคัสคือนักรบของที่นี่แต่ในเมื่อทางเผ่ามาขอร้องแบบนี้ มันก็ “ได้…ขึ้นมาเถอะ”
อาเรนเทียจำใจต้องคลายมนต์สลายกำลัง
มาคัส เมื่อมนต์สะกดหายไป พละกำลังกลับมาดั่งเดิม
ผู้เฒ่ามาดุ๊กส่งถุงหนังขนาดใหญ่ให้ “เอานี่ ฝากให้ พวกเค้าด้วย ขอให้สนุกนะ”
มาคัสรีบกระโจนขึ้นเรือไป พร้อมส่งถุงหนังให้เทีย “ท่านผู้เฒ่าฝากให้พวกเจ้า”
เรือลำเล็กค่อยๆแล่นออกจากเกาะ มาคัสโบกมือลาพวกพ้องที่มาส่ง
อาเรนเทีย เซต และวินเนียสเปิดดูถุงหนัง ปรากฏว่ามันคือ อัญมณีจำนวนมาก
เด็กสาวผู้ใช้มนตราเดินตรงไปหา มาคัสที่มองเกาะอัญมณีที่กำลังจะลับสายตา
“ท่านคิดดีแล้วรึ ที่มากับพวกเรา”
“คิดดีแล้ว ข้าอยากเปิดหูเปิดตา”
อาเรนเทียถอนใจ “เรามีเวลาอีก ยี่สิบวันในการเดินทางครั้งนี้ วินเนียส ท่านไปดูน้ำและเสบียงด้วยว่าขาดเหลืออะไรนะ”
“ได้”
เซตที่ตอนนี้ได้มาคุมพังงา ได้เอ่ยถาม “ด่านต่อไปคืออะไร กว่าจะถึงที่ๆมังกรเผือกอยู่”
เด็กสาวร่ายมนต์สั้นๆก็ปรากฏแผนที่ ที่ ผู้รู้เขียนสำเนาให้ เด็กสาวไล่สายตาไปที่เกาะอาถรรพ์ อันเป็นที่อยู่ของมังกรเผือก แล้วไล่มาที่จุดที่พวกตนอยู่คือบริเวณเกาะอัญมณี
“ตลาดคนเคระรึ?”
มาคัสเอ่ยถามทันที “ตลาดคนแคระคือ…”
“สวรรค์ของนักรบ มันคือ ตลาดค้าอาวุธที่เหล่าคนแคระได้ประดิษฐ์ขึ้นน่ะ แถมยังเป็นตลาดที่เหล่าพ่อค้า ทั้งแดนมนุษย์และมนตราต่างมาค้าขายกันมากมายเสียด้วย มีบ่อนการพนันที่ลือชื่ออีก ด่านละลายทรัพย์ชัดๆ”
เซตเอ่ยขึ้น”น่าสนใจ อีกกี่วันล่ะ”
“หนึ่งวันครึ่ง ถึงยังไงเราก็ต้องแวะไปเติมเสบียงที่นั่นอยู่แล้ว…”
“เจ้าเป็นใคร!!!!!!”เสียงของวินเนียส ดังมาจากห้องเสบียง ทั้งสามวิ่งไปดู
มาคัสตบหน้าผากตนเองทันที”มาร่า เจ้ามาได้อย่างไร”
เซนทอร์สาว นาม มาร่า ยิ้มแฉ่ง “ก็แอบปีนตอนที่ พวกท่านกำลังคุยกันน่ะสิ ข้าเองก็อยากจะผจญภัยด้วยนะ”
อาเรนเทียยิ้มน้อยๆ”ก็ดี ข้าจะได้มีผู้หญิงมาอยู่เป็นเพื่อนบ้าง”
เซตถอนใจ”ถ้าเจ้าเห็นด้วยก็ไม่เป็นไร”
มาคัสบ่นเป็นหมีกินผึ้ง”แบบนี้ ท่านผู้เฒ่าไม่ว่ารึไง”
“ทีเจ้ายังมาได้ แล้วทำไมข้าจะมาบ้างไม่ได้ล่ะ”
วินเนียส เซต และอาเรนเทีย ต่างหัวเราะแทบจะพร้อมเพียงกัน
หลังจากนั้น สองมนุษย์ หนึ่งผู้ใช้มนตรา และสองเซนทอร์ ก็เดินทางต่อ ซึ่งลมนั้นเป็นใจ ทำให้เรือแล่นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นจนอาเรนเทียแทบไม่ต้องใช้เวทย์มนต์เข้าช่วย จนอาเรนเทียต้องแปลกใจ มันเหมือนกับว่ามีใครคอยช่วยเธออยู่
“เฮ้อ…”
“ถอนใจกับเรื่องอะไรรึเทีย”
“มาร่า”
เซนทอร์สาวยิ้มให้”ข้าเห็นเจ้าเหม่อลอยและถอนใจอยู่นาน เลยอยากรู้ว่าเจ้ามีเรื่องอะไรให้ทุกข์ใจรึ”
“ข้าแค่ มีบางอย่างที่สงสัย แต่ช่างมันเถอะมันไม่สำคัญหรอกมาร่า ตอนนี้ เราต้องเร่งเดินทางก่อนที่สายลมแห่งชะตาจะมาถึง”
“ทำไมล่ะ”เซนทอร์สาวนึกสงสัย ทำไมการเดินทางครั้งนี้ดูรีบร้อนพิกลอยู่”
จอมเวทย์สาวนึกขึ้นได้ ว่าเพื่อนใหม่ทั้งสอง คงยังไม่รู้จุดประสงค์ของการเดินทาง”ข้าคงจะลืมบอกจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ ความจริงข้าเป็นแค่จอมเวทย์มาจากคาลาส “
“โอ้โห เจ้ามาจากอาณาจักรมนตราที่ ใครๆก็พูดว่ายิ่งใหญ่ที่สุด สุดยอดๆข้าเองก็อยากไปเห็นที่นั่นสักครั้ง ได้ยินว่า สวยมากๆ ดูท่า เจ้าจะมาจากทางฝั่งเหนือนะ”
เด็กสาวเลิกคิ้ว”รู้ได้ยังไงว่าข้ามาจากฝั่งเหนือ”
“ก็ผิวขาวๆของเจ้ายังไงล่ะ คาลาสฝั่งเหนือมีแต่ภูเขาสูงและอากาศเย็นตลอดปี เดาได้ไม่ยากเลย”
“ฟังต่อเถอะ ข้าโดนสายลมแห่งชะตาพัดมาที่เฮลเทีย เจอกับท่านเซตและวินเนียส ข้าที่ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย ถ้าหาก ไม่ครบกำหนดสามสิบวัน ท่านเซตเป็นเจ้าชายของเฮลเทีย จึงช่วยเหลือข้า แล้วข้ารู้มาว่า พี่สาวของท่านเซตต้องคำสาปต้องหายามาถอน”
มาร่ายิ้ม”ให้เดา ยานั่นคือเกล็ดมังกรเผือกสินะ”
“เจ้ารู้”
“ข้ารู้แค่ว่า พวกเจ้ามาตามหามังกรเผือก ที่แท้ พวกเจ้าจะเอาไปช่วยคนนี่เอง”
“อืม แต่พวกเรามีเวลาจำกัดนะ ข้าไม่สามารถย้อนมาช่วยได้แน่ เพราะ พ่อแม่ข้าคงจะไม่ยอมให้ออกมาอีก”
“ทำไม”
“รู้มั้ย มาร่า นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าออกมาจากบ้านเกิดของข้า ข้ามาอย่างที่ใครก็ไม่ทันรู้ตั้งตัว ตอนแรกก็รู้สึกสนุกนะ แต่ในใจลึกๆข้าก็ อ้างว้าง ข้ากลัว…มนุษย์น่ะ พอเห็นใครที่แตกต่างเข้าหน่อย ก็หวาดกลัว รังเกลียดเข้าเสียแล้วล่ะ น้อยคนที่จะเปิดใจยอมรับ ยื่นมือมาช่วยเหลือ”
“พวกเราก็ไม่ต่างกันซักเท่าไหร่นะ”
เด็กสาวยิ้มให้ แล้วหันไปมองวิวทะเลต่อไป เพื่อยุติการสนทนา
อีกด้าน
“เปลืองเวทย์เหมือนกันนะเนี่ย” ซูม่าที่ขี่ม้าเปกาซัส แอบอยู่บนกลีบเมฆ กำลังใช้เวทย์มนต์ควบคู่กับผงลม เพื่อให้เรือสำลำน้อยแล่นได้รวดเร็วกว่าเรือทั่วไป… แต่ร่างกายเราเองก็มีขีดจำกัดเหมือนกันนะ เอาเถอะ เมื่อถึงตลาดคนแคระ ก็พักสักหน่อยท่าจะดี คงไม่มีเรื่องอะไรให้ห่วงหรอกมั๊ง ถ้ามี เจ้าหญิงคงจะจัดการได้เองล่ะนะ…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ