ตำนานรักแห่งสายลม
9.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
34 ตอน
13 วิจารณ์
38.37K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) บทที่ 17 เกาะโดดเดี่ยว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยามค่ำ
ทางด้านพวกอาเรนเทียที่กำลังเดินทางไปเกาะโดดเดี่ยวนั้น ในยามค่ำคืนอันมืดมิด วินเนียสจำต้องจุดตะเกียงเพื่องส่องนำทาง ในวันนี้เป็นคืนเดือนดับไม่มีแสงจันทร์คอยนำทาง อาเรนเทียเหม่อมองบนท้องฟ้าคืนนี้มีแต่ดวงดาราที่พากันส่องประกายแข่งกัน
"ดวงดาวสวยนะ"เซตที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นก่อน
"นั่นสิ ข้าว่าดวงจันทร์ที่เฮลเทียในตอนนั้นสวยกว่าเยอะนะ"
"เจ้าคิดอย่างนั้นรึเทีย"
"อื้ม"
เจ้าชายเซตหันมาถามจอมเวทย์สาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ทำไมเจ้าถึงอยากเห็นมังกรล่ะเทีย ที่คาลาสไม่มีมังกรเลยรึ"
"ก็มีนะ มังกรที่พวกผู้ใช้มนตราเค้าเลี้ยงกัน แต่มังกรเผือก ข้าเองก็ขอเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้ง มังกรแบบนี้มีพลังมากมายเพราะบำเพ็ญตบะมานานเป็นร้อยๆพันๆปี หากคิดจะไปเอาเกล็ดมาก็ไม่ต่างจากการที่เอาชีวิตไปทิ้งหรอก"
"เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำไมเจ้าถึงอยากจะไปอีก"
อาเรนเทียฉีกยิ้มหวาน"ข้าไม่หวั่นหรอก อีกอย่างข้าขอตอบแทนที่ท่านช่วยข้า ให้ที่พักแก่ข้า ช่วยปกปิดฐานะให้ข้านะ"ลมทะเลได้พัดมาทำให้ผมสั้นสีน้ำเงินพริ้วไปตามเเรงลม"ข้าจะเล่าอะไรให้ท่านฟัง....ตั้งแต่บรรพกาลทั้งมนุษย์และผู้ใช้มนตราไม่ต่างกันเลยหากแต่เหล่าผู้ใช้มนตรานั้นอำนาจพลังมากกว่าทำให้เหล่ามนุษย์นั้นหวาดเกรงในอำนาจของผู้ใช้มนตรา สุดท้ายเหล่าผู้ใช้มนตราจึงได้อัปเปหิตนออกดินแดนของมนุษย์แล้วแสวงหา ดินแดนใหม่ของตน...."
เจ้าชายเเห่งเฮลเทียสนับสนุน"มันก็จริงของเจ้า ผู้ใช้มนตรากับมนุษย์แทบไม่ต่างกันเลย ความจริงพวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้นะ"
เจ้าหญิงแห่งคาลาสส่ายหน้า"...มันยากมากที่มนุษย์กับผู้ใช้มนตราจะอยู่ร่วมกันได้ ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายมีความหวาดระแวงอยู่ มันก็เป็นไปได้ยาก"อาเรนเทียจึงตัดบท"ข้าขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงคงจะถึงเกาะโดดเดี่ยวแล้ว"จอมเวทย์สาวตรงเข้าไปที่ห้องนอนของตนที่เรือลำนี้มีห้องอยู่ห้าห้องคือห้องนอนสามห้อง ห้องหนึ่งสำหรับอาเรนเทีย อีกห้องสำหรับเจ้าชายแห่งเฮลเทียและห้องสุดท้ายคือห้องขององครักษ์คนสนิท อีกสองห้องคือ ห้องเก็บของ ห้องครัว โดยห้องของเด็กสาวนั้นคือห้องที่อยู่ด้านล่างสุด ส่วนห้องของสองหนุ่มต่างฐานะนั้นอยู่ด้านบน
ความจริงอาเรนเทียอยากให้มีผู้หญิงสักคนเดินทางมาเป็นเพื่อนอยู่เหมือนกันแต่คิดดูอีกทีการที่มีผู้หญิงมาเพิ่มจะยิ่งยุ่งยากยิ่งเธอเป็นผู้ใช้มนตราด้วยแล้ว มันอาจจะนำความยุ่งยากมาสู่ตัวได้ในภายหลังได้ เธอไม่อยากบอกสาเหตุที่ทำให้เจ้าหญิงเซร่ากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามาสามปี
ร่างบางล้มตัวนอนบนเตียงพลางเอ่ยกับตน"ความรักมันทรงอานุภาพขนาดนี้เลยเหรอ"มันสามารถเปลี่ยนคนดีๆคนหนึ่งให้ให้กลายเป็นแบบนั้น
ไม่นานเจ้าหญิงน้อยก็เข้าสู่ห้วงนิทรา...
ทางด้านเจ้าชายแห่งเฮลเทีย ที่ตอนนี้กำลังบังคับเรือแต่เพียงลำพังส่วน ส่วนองครักษ์คนสนิทนั้นกำลังพักอยู่ที่ห้องนอน คำพูดของจอมเวทย์สาวมันยังคงอยู่ในหัว"นี่ข้า...เป็นอะไรไป"
เช้าวันต่อมา...
เซตก็เปลี่ยนเวรควบคุมเรือโดยให้วินเนียสทำหน้าที่นี่แทน ส่วนตัวเค้าก็เข้าไปพัก อากาศในยามเช้านั้นแดดไม่แรงมาก อากาศกำลังสบาย
องครักษ์ผิวเข้มบ่นกับจอมเวทย์สาว"เทีย ไม่ค่อยมีลมเลย เจ้าช่วยหน่อยได้ไหม"
เด็กสาวส่ายหน้า"จริงๆเลย วินเนียสท่านหาที่จับดีๆล่ะ"
"ทำไมเหรอ เฮ้ย!"
สายลมที่รุนแรงได้พัดมา ทำเอาวินเนียสหาที่ยึดแทบไม่ทัน ในขณะที่จอมเวทย์สาวยังสามารถยืนได้เด่นเป็นสง่าไม่สะทกสะท้านอะไร
ส่วนเซตนั้นแทบจะตกจากเตียงแต่ดีที่หาที่ยึดไว้ได้ทัน "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"ว่าจบเซตก็พยายามออกจากห้องนอน ก็พบว่าเทียนั้นได้ใช้เวทย์ลมทำให้เกิดลมพัดที่ใบเรือ ตอนนี้วินเนียสเองก็ยึดเสากระโดงเอาไว้"เจ้าทำอะไรน่ะเทีย"
"อีกไม่นานก็ถึงเกาะโดดเดี่ยวแล้ว"
ไม่นาน เรือสำเภาลำน้อยก็แล่นเข้าสู่เขตเกาะโดดเดี่ยว อาเรนเทียจึงหยุดเวทย์ลม ทำให้เรือแล่นไปตามปกติ ทำเอาสองหนุ่มต่างฐานะอาเจียนกันเป็นว่าเล่น โดยที่เจ้าหญิงแดนมนตราต้องคอยลูบหลังให้ เจ้าชายเซตบ่นทันที"อึก เทียทีหลังเจ้าอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ"
"เพคะ เจ้าชายแต่วินเนียสเห็นว่าลมทะเลไม่ค่อยมี ข้าเลยต้องใช้เวทย์ลมเข้าช่วย"
วินเนียสในตอนนี้อาเจียนจนผิวที่คล้ำกลายเป็นซีดเลยทีเดียว จากนั้นก็ล้มตึงทันที
"วินเนียส"เจ้าชายแห่งเฮลเทียเข้าไปดูอาการคนสนิทที่นอนอย่างหมดสภาพ
แต่แล้วเงาทะมึนได้ผ่านเรือ เซตมองขึ้นฟ้าแล้วอุทาน"มังกร"เจ้าสัตว์ในตำนานมังกรสีดำที่โผบินบนน่านฟ้า มันบินวนรอบเรือ อาเรนเทียนั้นนิ่งเฉยก่อนจะปลอบเจ้าชายแห่งเฮลเทีย"ไม่ต้องกังวลไป นี่คงจะเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านผู้รู้เป็นแน่ เค้ามาต้อนรับเราก็เท่านั้น"
ไม่นาน สำเภาน้อยก็แล่นเข้าสู่เกาะโดดเดี่ยว ทั้งสามจึงขึ้นฝั่งโดยที่เซตนั้นได้นำขวดเเก้วเจียระไนที่บรรจุสุราอย่างดีติดมือไปด้วย เจ้ามังกรสีดำก็กลายร่างมาเป็นมังกรที่มีขนาดตัวเท่ากับแมวแล้วบินนำทั้งสามไป
พอมาถึงกระท่อมหลังน้อยที่พำนักของท่านผู้รู้ มันช่างต่างจากที่สองหนุ่มคิดไว้มากมายนึกว่าจะรกรุงรังหากแต่ภายในบ้านกลับถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบแลดูเรียบง่าย
เสียงทุ้มแห้บดังขึ้น"ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า หึ หึ หึ" ชายชราหลังค่อม ผมสีดอกเลายาวที่รวบไว้ข้างหลังในชุดคลุมสีดำเอ่ยทักทาย ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ"คงจะมากันเหนื่อยๆเชิญนั่งก่อน"
เซตนำขวดแก้วบรรจุของเหลวอำพันให้ผู้รู้"นี่ของกำนัลแด่ท่าน ท่านผู้รู้"
"ขอบพระทัยเจ้าชาย"
"ท่านรู้ด้วยรึ"
"รู้สิ เด็กคนนั้นส่งจดหมายมาล่วงหน้าแล้ว แบบนี้ข้าคงต้องขอลิ้มรสสุราของเฮลเทียเสียหน่อยว่าจะเลิศรสขนาดไหน"
เจ้าชายไปนั่งที่โซฟารับแขก ผู้รู้รินสุราใส่แก้วทรงสูงของตน แล้วใช้เวทย์มนต์ควบคุมให้กาน้ำชาที่ทำมาจากหินสีรุ้งรินน้ำชาใส่ถ้วยที่ทำมาจากหินสีรุ้งเช่นกัน
อาเรนเทียขอบคุณก่อนจะยกชาหอมกรุ่นขึ้นจิบ"ขอบคุณคะ"วินเนียสเอ่ยขึ้น"ท่าทางท่านจะสบายเลยนะครับ มีเวทย์มนต์ช่วยอย่างนี้"
"ฮี่ๆๆ ไม่หรอก นานๆทีน่ะนะ เวทย์มนต์มันไม่ใช่ทุกอย่าง แต่มันคือส่วนหนึ่งของร่างกาย หากเราใช้มันมากเกินไป มันอาจจะสูญสลายทำให้ชีวิตเราดับสูญไปก็ได้ อืม รสชาติสุรานี่ก็...ใช้ได้นะแต่...มันหยาบไปหน่อยนะเจ้าชาย..."
"อะไรนะนี่เป็นสุราชั้นเลิศของเฮลเทียเลยนะท่าน"
จอมเวทย์ชราอธิบายอย่างใจเย็น"มันจะกลายเป็นสุราชั้นเลิศแน่ถ้ามันบ่มได้สักสิบปี นี่น่ะคือสุราที่บ่มได้สักห้าปีกระมัง คงจะรีบนำมาแน่ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสุรารสดี"ผู้รู้หันไปนำขวดแก้วเจียระไนอีกใบที่บรรจุน้ำสีอำพันเข้มแล้วรินใส่แก้วทรงสูงสองใบแล้วส่งให้สองหนุ่มต่างฐานะ"ชิมสิ นี่เป็นสุราชั้นเลิศของโคเทีย อาณาจักรมนตราที่อยู่บนเกาะกลางทะเล"
สองหนุ่มรับแก้วสุรามาจิบดู เซตชม"รสดีจริงๆ"
"เยี่ยม ข้าไม่ค่อยดื่มสุรามากแต่นี่มันเยี่ยมเลย"วินเนียสกระดกทีเดียวหมดแก้ว
ผู้รู้ยิ้มแย้ม"ผู้ใช้มนตรานั้นส่วนมากจะไม่ชอบของที่ขายราคาแพงเกินจริง หากพวกท่านคิดจะทำการค้ากับผู้ใช้มนตราก็ต้องระวังกันหน่อยล่ะ ผู้ใช้มนตราก็มีทั้งดีและไม่ดีนะ และที่พวกท่านมาคงจะมาด้วยมีเรื่องที่จะถามข้าสินะ คงจะเป็นเรื่องของมังกรเผือกสินะ"
เซตถามอย่างน้อมน้อบ"ท่านพอรู้ที่อยู่มันไหม"
"รู้สิ"จอมเวทย์ชราตรงไปที่ชั้นหนังสือที่มีหนังสืออยู่มากมายแล้วกวักมือ และแล้วกระดาษแผ่นหนึ่งก็ออกมาก่อนจะตรงไปที่โต๊ะทำงานแล้วลงมือคัดลอกแผนที่"ข้าจะให้สำเนาแผนทีไปก็แล้วกันนะ ให้เด็กๆนำแผนที่จริงไปเดี๋ยวจะหาย... ที่ๆมังกรเผือกอาศัยอยู่ เป็นที่ๆนกยูงสีรุ้ง ส่วนรากสมุนไพรจากป่าอาถรรพ์ นั้นก็อยู่ที่เกาะนั่นด้วย"
"เทียบอกท่านสินะ"เซตเอ่ยขึ้น
"ใช่แล้ว พอดีที่ข้ามีน้ำผึ้งจากผาเพลิงนะ รับไปสิ"จอมเวทย์ชรานำขวดแก้วที่บรรจุของเหลวที่เหลืองอมส้มให้เจ้าชายแห่งเฮลเทียพร้อมกับแผนที่สำเนาพลางเตือน"ระวังด้วยนะท่าน น้ำผึ้งขวดนี้มันร้อนมากหากถูกผิวของมนุษย์จะเป็นอันตรายได้ ต้องระวังด้วย"
เซตรับน้ำผึ้งมา "อุ่นจัง"
ผู้รู้ยิ้ม"ขวดแก้วนั่นทำมาจากคริสตัล ที่มีคุณสมบัติเย็น ข้าว่าท่านน่าจะพักที่นี่สักครู่นะ"พลางมองไปทางวินเนียส
พอเซตหันไปมองบ้างก็พบว่าองครักษ์ผิวเข้มเมาแอ๋แล้ว โดยมีเทียมองอย่างละเหี่ยใจ
"ขอบคุณมาก สักเย็นๆข้าจะออกเดินทางเเล้ว ขออภัยที่มารบกวน"
"ไม่เป็นไร ท่านพาเพื่อนของท่านขึ้นไปพักเถอะ ท่านเองก็ควรจะพักเหมือนกัน ข้าเองก็มีเรื่องที่จะคุยกับแม่หนูคนนี้ด้วย ตามบันบันไปที่ห้องเลย" เจ้ามังกรดำตัวเท่าแมวบินมา
"งั้นข้าขอตัวก่อน"เซตเข้าไปพยุงองครักษ์คนสนิทตามเจ้ามังกรดำไป
พอสองหนุ่มต่างฐานะตามเจ้ามังกรดำขึ้นบนชั้นสองแล้ว
จอมเวทย์ผู้รู้ยิ้มแย้ม"เจ้าหญิงทำไมท่านถึงไม่บอกฐานะที่แท้จริงของท่านล่ะ"
อาเรนเทียยกชาขึ้นจิบ"อย่าเลย ท่านผู้รู้ขอบใจมากที่ท่านช่วยเป็นธุระให้กับข้า"
"ไม่เป็นไรหรอก ข้าน้อยเต็มใจ ข้าอยากให้พระองค์ระวังตัวด้วย ท่านก็น่าจะรู้นะว่ามังกรเผือกน่ะน่ากลัวแค่ไหน"
"ข้าขอบใจในความหวังดีของท่าน แต่ข้าเองก็อยากจะพบมังกรเผือกสักครั้ง"
"ข้าน้อยเข้าใจ"
"งั้นเราขอไปเดินเล่นเสียหน่อยนะท่านผู้รู้"
"พ่ะย่ะค่ะ เจ้าหญิง"
ทางด้านพวกอาเรนเทียที่กำลังเดินทางไปเกาะโดดเดี่ยวนั้น ในยามค่ำคืนอันมืดมิด วินเนียสจำต้องจุดตะเกียงเพื่องส่องนำทาง ในวันนี้เป็นคืนเดือนดับไม่มีแสงจันทร์คอยนำทาง อาเรนเทียเหม่อมองบนท้องฟ้าคืนนี้มีแต่ดวงดาราที่พากันส่องประกายแข่งกัน
"ดวงดาวสวยนะ"เซตที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นก่อน
"นั่นสิ ข้าว่าดวงจันทร์ที่เฮลเทียในตอนนั้นสวยกว่าเยอะนะ"
"เจ้าคิดอย่างนั้นรึเทีย"
"อื้ม"
เจ้าชายเซตหันมาถามจอมเวทย์สาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ทำไมเจ้าถึงอยากเห็นมังกรล่ะเทีย ที่คาลาสไม่มีมังกรเลยรึ"
"ก็มีนะ มังกรที่พวกผู้ใช้มนตราเค้าเลี้ยงกัน แต่มังกรเผือก ข้าเองก็ขอเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้ง มังกรแบบนี้มีพลังมากมายเพราะบำเพ็ญตบะมานานเป็นร้อยๆพันๆปี หากคิดจะไปเอาเกล็ดมาก็ไม่ต่างจากการที่เอาชีวิตไปทิ้งหรอก"
"เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำไมเจ้าถึงอยากจะไปอีก"
อาเรนเทียฉีกยิ้มหวาน"ข้าไม่หวั่นหรอก อีกอย่างข้าขอตอบแทนที่ท่านช่วยข้า ให้ที่พักแก่ข้า ช่วยปกปิดฐานะให้ข้านะ"ลมทะเลได้พัดมาทำให้ผมสั้นสีน้ำเงินพริ้วไปตามเเรงลม"ข้าจะเล่าอะไรให้ท่านฟัง....ตั้งแต่บรรพกาลทั้งมนุษย์และผู้ใช้มนตราไม่ต่างกันเลยหากแต่เหล่าผู้ใช้มนตรานั้นอำนาจพลังมากกว่าทำให้เหล่ามนุษย์นั้นหวาดเกรงในอำนาจของผู้ใช้มนตรา สุดท้ายเหล่าผู้ใช้มนตราจึงได้อัปเปหิตนออกดินแดนของมนุษย์แล้วแสวงหา ดินแดนใหม่ของตน...."
เจ้าชายเเห่งเฮลเทียสนับสนุน"มันก็จริงของเจ้า ผู้ใช้มนตรากับมนุษย์แทบไม่ต่างกันเลย ความจริงพวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้นะ"
เจ้าหญิงแห่งคาลาสส่ายหน้า"...มันยากมากที่มนุษย์กับผู้ใช้มนตราจะอยู่ร่วมกันได้ ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายมีความหวาดระแวงอยู่ มันก็เป็นไปได้ยาก"อาเรนเทียจึงตัดบท"ข้าขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงคงจะถึงเกาะโดดเดี่ยวแล้ว"จอมเวทย์สาวตรงเข้าไปที่ห้องนอนของตนที่เรือลำนี้มีห้องอยู่ห้าห้องคือห้องนอนสามห้อง ห้องหนึ่งสำหรับอาเรนเทีย อีกห้องสำหรับเจ้าชายแห่งเฮลเทียและห้องสุดท้ายคือห้องขององครักษ์คนสนิท อีกสองห้องคือ ห้องเก็บของ ห้องครัว โดยห้องของเด็กสาวนั้นคือห้องที่อยู่ด้านล่างสุด ส่วนห้องของสองหนุ่มต่างฐานะนั้นอยู่ด้านบน
ความจริงอาเรนเทียอยากให้มีผู้หญิงสักคนเดินทางมาเป็นเพื่อนอยู่เหมือนกันแต่คิดดูอีกทีการที่มีผู้หญิงมาเพิ่มจะยิ่งยุ่งยากยิ่งเธอเป็นผู้ใช้มนตราด้วยแล้ว มันอาจจะนำความยุ่งยากมาสู่ตัวได้ในภายหลังได้ เธอไม่อยากบอกสาเหตุที่ทำให้เจ้าหญิงเซร่ากลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามาสามปี
ร่างบางล้มตัวนอนบนเตียงพลางเอ่ยกับตน"ความรักมันทรงอานุภาพขนาดนี้เลยเหรอ"มันสามารถเปลี่ยนคนดีๆคนหนึ่งให้ให้กลายเป็นแบบนั้น
ไม่นานเจ้าหญิงน้อยก็เข้าสู่ห้วงนิทรา...
ทางด้านเจ้าชายแห่งเฮลเทีย ที่ตอนนี้กำลังบังคับเรือแต่เพียงลำพังส่วน ส่วนองครักษ์คนสนิทนั้นกำลังพักอยู่ที่ห้องนอน คำพูดของจอมเวทย์สาวมันยังคงอยู่ในหัว"นี่ข้า...เป็นอะไรไป"
เช้าวันต่อมา...
เซตก็เปลี่ยนเวรควบคุมเรือโดยให้วินเนียสทำหน้าที่นี่แทน ส่วนตัวเค้าก็เข้าไปพัก อากาศในยามเช้านั้นแดดไม่แรงมาก อากาศกำลังสบาย
องครักษ์ผิวเข้มบ่นกับจอมเวทย์สาว"เทีย ไม่ค่อยมีลมเลย เจ้าช่วยหน่อยได้ไหม"
เด็กสาวส่ายหน้า"จริงๆเลย วินเนียสท่านหาที่จับดีๆล่ะ"
"ทำไมเหรอ เฮ้ย!"
สายลมที่รุนแรงได้พัดมา ทำเอาวินเนียสหาที่ยึดแทบไม่ทัน ในขณะที่จอมเวทย์สาวยังสามารถยืนได้เด่นเป็นสง่าไม่สะทกสะท้านอะไร
ส่วนเซตนั้นแทบจะตกจากเตียงแต่ดีที่หาที่ยึดไว้ได้ทัน "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย"ว่าจบเซตก็พยายามออกจากห้องนอน ก็พบว่าเทียนั้นได้ใช้เวทย์ลมทำให้เกิดลมพัดที่ใบเรือ ตอนนี้วินเนียสเองก็ยึดเสากระโดงเอาไว้"เจ้าทำอะไรน่ะเทีย"
"อีกไม่นานก็ถึงเกาะโดดเดี่ยวแล้ว"
ไม่นาน เรือสำเภาลำน้อยก็แล่นเข้าสู่เขตเกาะโดดเดี่ยว อาเรนเทียจึงหยุดเวทย์ลม ทำให้เรือแล่นไปตามปกติ ทำเอาสองหนุ่มต่างฐานะอาเจียนกันเป็นว่าเล่น โดยที่เจ้าหญิงแดนมนตราต้องคอยลูบหลังให้ เจ้าชายเซตบ่นทันที"อึก เทียทีหลังเจ้าอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ"
"เพคะ เจ้าชายแต่วินเนียสเห็นว่าลมทะเลไม่ค่อยมี ข้าเลยต้องใช้เวทย์ลมเข้าช่วย"
วินเนียสในตอนนี้อาเจียนจนผิวที่คล้ำกลายเป็นซีดเลยทีเดียว จากนั้นก็ล้มตึงทันที
"วินเนียส"เจ้าชายแห่งเฮลเทียเข้าไปดูอาการคนสนิทที่นอนอย่างหมดสภาพ
แต่แล้วเงาทะมึนได้ผ่านเรือ เซตมองขึ้นฟ้าแล้วอุทาน"มังกร"เจ้าสัตว์ในตำนานมังกรสีดำที่โผบินบนน่านฟ้า มันบินวนรอบเรือ อาเรนเทียนั้นนิ่งเฉยก่อนจะปลอบเจ้าชายแห่งเฮลเทีย"ไม่ต้องกังวลไป นี่คงจะเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านผู้รู้เป็นแน่ เค้ามาต้อนรับเราก็เท่านั้น"
ไม่นาน สำเภาน้อยก็แล่นเข้าสู่เกาะโดดเดี่ยว ทั้งสามจึงขึ้นฝั่งโดยที่เซตนั้นได้นำขวดเเก้วเจียระไนที่บรรจุสุราอย่างดีติดมือไปด้วย เจ้ามังกรสีดำก็กลายร่างมาเป็นมังกรที่มีขนาดตัวเท่ากับแมวแล้วบินนำทั้งสามไป
พอมาถึงกระท่อมหลังน้อยที่พำนักของท่านผู้รู้ มันช่างต่างจากที่สองหนุ่มคิดไว้มากมายนึกว่าจะรกรุงรังหากแต่ภายในบ้านกลับถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบแลดูเรียบง่าย
เสียงทุ้มแห้บดังขึ้น"ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า หึ หึ หึ" ชายชราหลังค่อม ผมสีดอกเลายาวที่รวบไว้ข้างหลังในชุดคลุมสีดำเอ่ยทักทาย ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญ"คงจะมากันเหนื่อยๆเชิญนั่งก่อน"
เซตนำขวดแก้วบรรจุของเหลวอำพันให้ผู้รู้"นี่ของกำนัลแด่ท่าน ท่านผู้รู้"
"ขอบพระทัยเจ้าชาย"
"ท่านรู้ด้วยรึ"
"รู้สิ เด็กคนนั้นส่งจดหมายมาล่วงหน้าแล้ว แบบนี้ข้าคงต้องขอลิ้มรสสุราของเฮลเทียเสียหน่อยว่าจะเลิศรสขนาดไหน"
เจ้าชายไปนั่งที่โซฟารับแขก ผู้รู้รินสุราใส่แก้วทรงสูงของตน แล้วใช้เวทย์มนต์ควบคุมให้กาน้ำชาที่ทำมาจากหินสีรุ้งรินน้ำชาใส่ถ้วยที่ทำมาจากหินสีรุ้งเช่นกัน
อาเรนเทียขอบคุณก่อนจะยกชาหอมกรุ่นขึ้นจิบ"ขอบคุณคะ"วินเนียสเอ่ยขึ้น"ท่าทางท่านจะสบายเลยนะครับ มีเวทย์มนต์ช่วยอย่างนี้"
"ฮี่ๆๆ ไม่หรอก นานๆทีน่ะนะ เวทย์มนต์มันไม่ใช่ทุกอย่าง แต่มันคือส่วนหนึ่งของร่างกาย หากเราใช้มันมากเกินไป มันอาจจะสูญสลายทำให้ชีวิตเราดับสูญไปก็ได้ อืม รสชาติสุรานี่ก็...ใช้ได้นะแต่...มันหยาบไปหน่อยนะเจ้าชาย..."
"อะไรนะนี่เป็นสุราชั้นเลิศของเฮลเทียเลยนะท่าน"
จอมเวทย์ชราอธิบายอย่างใจเย็น"มันจะกลายเป็นสุราชั้นเลิศแน่ถ้ามันบ่มได้สักสิบปี นี่น่ะคือสุราที่บ่มได้สักห้าปีกระมัง คงจะรีบนำมาแน่ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสุรารสดี"ผู้รู้หันไปนำขวดแก้วเจียระไนอีกใบที่บรรจุน้ำสีอำพันเข้มแล้วรินใส่แก้วทรงสูงสองใบแล้วส่งให้สองหนุ่มต่างฐานะ"ชิมสิ นี่เป็นสุราชั้นเลิศของโคเทีย อาณาจักรมนตราที่อยู่บนเกาะกลางทะเล"
สองหนุ่มรับแก้วสุรามาจิบดู เซตชม"รสดีจริงๆ"
"เยี่ยม ข้าไม่ค่อยดื่มสุรามากแต่นี่มันเยี่ยมเลย"วินเนียสกระดกทีเดียวหมดแก้ว
ผู้รู้ยิ้มแย้ม"ผู้ใช้มนตรานั้นส่วนมากจะไม่ชอบของที่ขายราคาแพงเกินจริง หากพวกท่านคิดจะทำการค้ากับผู้ใช้มนตราก็ต้องระวังกันหน่อยล่ะ ผู้ใช้มนตราก็มีทั้งดีและไม่ดีนะ และที่พวกท่านมาคงจะมาด้วยมีเรื่องที่จะถามข้าสินะ คงจะเป็นเรื่องของมังกรเผือกสินะ"
เซตถามอย่างน้อมน้อบ"ท่านพอรู้ที่อยู่มันไหม"
"รู้สิ"จอมเวทย์ชราตรงไปที่ชั้นหนังสือที่มีหนังสืออยู่มากมายแล้วกวักมือ และแล้วกระดาษแผ่นหนึ่งก็ออกมาก่อนจะตรงไปที่โต๊ะทำงานแล้วลงมือคัดลอกแผนที่"ข้าจะให้สำเนาแผนทีไปก็แล้วกันนะ ให้เด็กๆนำแผนที่จริงไปเดี๋ยวจะหาย... ที่ๆมังกรเผือกอาศัยอยู่ เป็นที่ๆนกยูงสีรุ้ง ส่วนรากสมุนไพรจากป่าอาถรรพ์ นั้นก็อยู่ที่เกาะนั่นด้วย"
"เทียบอกท่านสินะ"เซตเอ่ยขึ้น
"ใช่แล้ว พอดีที่ข้ามีน้ำผึ้งจากผาเพลิงนะ รับไปสิ"จอมเวทย์ชรานำขวดแก้วที่บรรจุของเหลวที่เหลืองอมส้มให้เจ้าชายแห่งเฮลเทียพร้อมกับแผนที่สำเนาพลางเตือน"ระวังด้วยนะท่าน น้ำผึ้งขวดนี้มันร้อนมากหากถูกผิวของมนุษย์จะเป็นอันตรายได้ ต้องระวังด้วย"
เซตรับน้ำผึ้งมา "อุ่นจัง"
ผู้รู้ยิ้ม"ขวดแก้วนั่นทำมาจากคริสตัล ที่มีคุณสมบัติเย็น ข้าว่าท่านน่าจะพักที่นี่สักครู่นะ"พลางมองไปทางวินเนียส
พอเซตหันไปมองบ้างก็พบว่าองครักษ์ผิวเข้มเมาแอ๋แล้ว โดยมีเทียมองอย่างละเหี่ยใจ
"ขอบคุณมาก สักเย็นๆข้าจะออกเดินทางเเล้ว ขออภัยที่มารบกวน"
"ไม่เป็นไร ท่านพาเพื่อนของท่านขึ้นไปพักเถอะ ท่านเองก็ควรจะพักเหมือนกัน ข้าเองก็มีเรื่องที่จะคุยกับแม่หนูคนนี้ด้วย ตามบันบันไปที่ห้องเลย" เจ้ามังกรดำตัวเท่าแมวบินมา
"งั้นข้าขอตัวก่อน"เซตเข้าไปพยุงองครักษ์คนสนิทตามเจ้ามังกรดำไป
พอสองหนุ่มต่างฐานะตามเจ้ามังกรดำขึ้นบนชั้นสองแล้ว
จอมเวทย์ผู้รู้ยิ้มแย้ม"เจ้าหญิงทำไมท่านถึงไม่บอกฐานะที่แท้จริงของท่านล่ะ"
อาเรนเทียยกชาขึ้นจิบ"อย่าเลย ท่านผู้รู้ขอบใจมากที่ท่านช่วยเป็นธุระให้กับข้า"
"ไม่เป็นไรหรอก ข้าน้อยเต็มใจ ข้าอยากให้พระองค์ระวังตัวด้วย ท่านก็น่าจะรู้นะว่ามังกรเผือกน่ะน่ากลัวแค่ไหน"
"ข้าขอบใจในความหวังดีของท่าน แต่ข้าเองก็อยากจะพบมังกรเผือกสักครั้ง"
"ข้าน้อยเข้าใจ"
"งั้นเราขอไปเดินเล่นเสียหน่อยนะท่านผู้รู้"
"พ่ะย่ะค่ะ เจ้าหญิง"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ