อาเรเมตาเรีย - ปฐมกาลหายนะ
8.3
เขียนโดย SFWitch
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.39 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
16.57K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 22.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ผู้ที่รอด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#5 ผู้ที่รอด
6 ชั่วโมงแล้วที่เจคอบนอนสลบอยู่ระหว่างซอกของกิ่งไม้ หมิ่นเหม่ที่จะตกจากยอดไม้เหลือเกิน เขาสะดุ้งตกใจแต่ก็มีสติพอที่จะถอยตัวเองไปชิดลำต้น มองดูเบื้องล่างล้วนมืดไปหมด เขาเดาไม่ถูกว่าตนเองสลบไปนานแค่ไหน แต่ดูจากท้องฟ้ามีน่าจะเป็นเวลาหัวค่ำแล้ว
เจคอบทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เขานึกขึ้นมาได้
"ลุงบรีซ" เจคอบอุทานเบาๆ "ตอนนั้นเรากระเด็นออกจากยาน น่าจะอยู่ตรงนี้"
เจคอบปีนขึ้นต้นไม้ไปดูลาดเลาสถานที่ ถัดออกไปพอสมควรคือหอคอยที่อยู่หอคอยถัดมาอยู่ห่างไปทางขวาในระยะเกือบ 180° เค้าค่อยๆ พลิกตัวมาอีกด้านหนึ่งของต้นไม้ มีกลุ่มควันลอยพ้นยอดไม้คิดว่าออกมาจากสกูตเตอร์ที่ระเบิดแน่นอน
"ถ้าจะไกลหลายเมตรอยู่" เจคอบบ่นเบาๆ
พลันเสียงคำรามกึกก้องป่าของพวกนิมส์กำลังประสานเสียงขึ้น มันไม่น่าจะเรียกว่าการหอนเพราะฟังดูทุ้มแต่ก็ไม่โฮกฮาก ไม่ว่าอย่างไรเสียงของมันก็น่าขนลุกอยู่ดี
คงได้เวลาที่นิมส์พันธุ์เล็กออกจากหากินแล้ว อย่างที่บอกมินเองมีหลายพันธุ์ พันธุ์ กลางวันเป็น พันธุ์ที่ตัวใหญ่ก็เลยน่ากลัว แต่ไม่เท่าพันธุ์ที่ตัวเล็กกว่าเด็ก 4 ขวบนิดเดียว ที่อยู่รวมกันเป็นฝูงๆละ5-10ตัวโชคดีที่มันปีนต้นไม้ไม่เก่งเท่าตัวใหญ่
แต่เจคอบก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลงไปจุดที่สกู๊ตเตอร์ตกดีหรือไม่หรือว่ารอให้เช้าก่อน
ไม่ว่าจะลงไปตอนไหนป่านี้ก็ยังน่ากลัวอยู่วันยังค่ำ
เจคอบล้วงที่กระเป๋ากางเกงได้หลอดฟลูออเรสเซนต์มา 1 หลอด เป็นของที่นักล่านิมส์ต้องพก เขาเคาะที่ท่อเบาๆ มันก็เรืองแสงขึ้นมา ระยะแสงสามารถมองเห็นไปได้หลายเมตรอยู่
เขาคิดว่าถ้ารอถึงวันพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป ไม่รู้ว่าพวกที่กลับไปจะส่งโพรพตรวจการเข้ามาหรือยัง
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจปีนลงมาจากยอดไม้ที่สูงเกือบ 50 เมตร เจคอบปีนไปพักไป พอถึงด้านล่างสุดลงสู่ลำต้นเดียวเกือบสิบนาทีหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปีนลงมาอีกหลายนาทีลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ทันทีที่เท้าแต่พื้นที่เป็นมอสสีน้ำตาลที่ขึ้นปกคลุมไม่ลื่นอย่างที่เขาคิด เจคอบชูคบไฟให้สว่างทั่ว เจคอบชูคบไฟให้สว่างทัวให้มั่นใจว่าไม่มีตัวอะไรอยู่ใกล้แล้วจึงออกวิ่งไปยังจุดที่สกูตเตอร์ตกที่อยู่ออกไปประมาณ 20 เมตร สิ่งที่เห็นไม่ได้ดูสักเท่าไหร่
สกู๊ตเตอร์ถูกทับด้วยร่างนิมส์สาวตัวแรกที่ล่าได้ กลิ่นเลือดโชยไปทั่วบริเวณ แต่ยังไม่มีนิมส์ตัวอื่นเข้ามา แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 2เมตร เจคอบเดินหมิ่นปากหลุมแต่ไม่ปีนลงไปเขาชูไฟในมือสูงขึ้นเพื่อส่องสว่างมองหาลุงของเขา
"ลุงบรีซ" เจคอบตะโกนเรียกเสียงสะท้อนก้องไปทั่วป่าแต่ไม่มีเสียงตอบ
เจคอบเดินวนไปเดินวนไปวนมารอบปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่า นิมส์หนัก 4 ตันทับแค่สกูตเตอร์เปล่าเท่านั้น พลันเสียงคำรามต่อเนื่องของนิมส์เล็กดังขึ้นอีก ฟังเสียงดูห่างจากเขาไปไม่เท่าไหร่ มันคงได้กลิ่นเลือดของนิมส์ตัวนี้แน่นอนและกำลังพาพรรคพวกมากินบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำมื้อใหญ่กัน
เจคอบรู้ดีว่าการที่เขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปนั้นไม่มีประโยชน์ได้เมื่อแน่ใจว่าลุงบรีซ ไม่ได้ระเบิดไปกับสกู๊ตเตอร์แล้ว เขาก็ควรวิ่งหนีไปซะให้พ้นบริเวณนี้ก่อนที่ตัวเขาเองจะกลายเป็นออเดิร์ฟ
เจคอบออกวิ่งและวิ่ง
แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวได้ตามตามติดเข้ามาเจคอบชูคบไฟและเหลียวหันกลับไปมองเป็นระยะมีดวงตาสีแดงหลายขนาดสะท้อนกลับแต่มองไม่เห็นตัวนั้น ยิ่งทำให้เขารีบวิ่งอ้าว โดยไม่มองข้างทางวิ่งจนพลัดตกหลุมดินกว้างหลายสิบเมตรเข้า เขาไถลตัวลงไปกองอยู่กับพื้นดินสีแดง
เจคอบพยุงตัวนั่งด้วยความมึนงง เขารีบคว้าคบไฟตกข้างทางมาส่องทันทีหลุมนี้อยู่ต่ำมากจึงมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ปากหลุม
เจคอบถอยห่างปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรตามมา เพราะถอยแบบไม่ระวังจึงสะดุดบางอย่างหงายหลังอีกรอบเล่นเอาจุกอยู่หลายนาที
เขาก้มลงมองของที่เขาสะดุดดูเหมือนก้อนหินที่โผล่พ้นขึ้นมาซักซัก 50 เซนติเมตรเป็นสีเงินประหลาด
เลือดในกายของเขาเย็นเฉียบลงทันทีหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นบัดนี้เขายืนอยู่ในหลุมที่วัตถุประหลาดตกลงมาเมื่อคืนนี้ เหมือนเป็นก้อนหินขนาดเล็กจมอยู่ในดิน มันคงตกลงมาเวลาเดียวกับวัตถุแรกที่จะตก หรืออาจจะเป็นส่วนที่ออกมา
พลันมีเสียงคำรามของนิมส์ก้องทั่วป่า สิ่งหนึ่งที่จะเจคอบรู้คือนิมส์จะไม่มีวันมาที่โล่งแจ้งที่ไม่ได้อยู่ใต้เงาไม้ จุดที่วัตถุตกกินบริเวณป่า ถอนรากถอนโคนต้นไม้ในแถบนี้ไปหลาย 100 ตารางเมตรเจคอบจึงมีเวลามากมายที่จะขุดเอาหินสีเงินก้อนนี้ขึ้นมา
พอขุดไปได้สักหน่อย เขาก็ต้องตกใจเพราะใน่โลหะนั้นเหมือนมีเงาของมือมนุษย์อยู่ในนั้นอีกที
มันอาจจะไม่ใช่โลหะหรือหินมันอาจจะเป็นแคปซูลหรืออะไรซักอย่าง
เด็กหนุ่มยังคงขุดต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งแท่งหินอันนั้นเริ่มหลวมหลุดจากพื้นที่ซึ่งเจ้าหินนี้ถูกฝังลงพื้นดินในลักษณะ 45°เจคอบผลักให้มันล้มลงกับพื้นดินสีแดง
พอดีกับที่เขาเหลือบไปเห็นลูกบอลเรืองแสงสีชมพูขนาดประมาณหัวกะโหลกมนุษย์ลอยผ่านมา แล้วหยุดตรงหน้าเขาพอดี
"เจ. ...เจ....นั้นนายเหรอ" เสียงจากลูกบอลเรืองแสงที่เรียกว่าโพรพ
"ฮาลเหรอ " เจคอบพูดโต้ตอบกับโพรพสีชมพู "
ทำไมมาช้าจังไม่ใช่อินฟราเรดหาละ"
"จะบ้าหรอในป่า 500 กว่าตารางกิโลเมตรมีลิงเปรตนั่นเป็นแสนๆตัวจะใช้อินฟราเรด ค้นหาจะแน่ใจได้ยังไงว่านายคือลิงตัวไหน"
"ก็เจอแล้วนี่ว่าฉันคือลิงตัวไหน" "
ก็ได้จากสัญญาณชีพจากชิปทีคอหอยของนายนั่นแหละ" ฮาลเด็กหนุ่มอายุ18เพื่อนของเจคอบและเป็นหนึ่งในทีมของลุงบรีซ
"เจอลุงบรีซหรือยัง" เจคอบถามต่อไปเค้านั่งลงกับพื้นทางเข้าวัตถุโลหะที่เพิ่งขุดมาได้เบาๆระหว่างรอคำตอบ
"ทีมเราส่งโพรพออกไปตามหานายกับตาเฒ่าบรีซ13เครื่อง 12เครื่อง เงียบหายหลังจากส่งมา 8ชั่วโมง ก็มีแต่เจ้านี้แหละที่เจอลิงอย่างนายเข้า"
"แสดงว่าสัญญาณชีพของลุง" เจคอบพูดขึ้นลอยๆสิ้นหวัง
"เรายังไม่แน่ใจโพรพสำรวจหาได้แค่ 70% ของป่าเท่านั้น"
"แล้วจะมารับฉันกับเจ้าก้อนนี้ได้เมื่อไหร่"
"นายอยู่ในเขตที่วัตถุตกเมื่อคืนวานนี้นี่ ทางการปล่อยให้นายไปได้ยังไงกัน"
"เพราะฉันบังเอิญวิ่งหนีนิมส์แล้วตกลงมาในนี้ และลิงบ้านั้นไม่ตามลงมายังไงละ"
“แล้วทางการล่ะที่นั่นเป็นเขตหวงห้ามไม่ใช่หรือ” ฮาลถาม “น่า นายมาได้ ทุ่นกั้นเขตที่บ้านี่มันไปหมดแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้คงมีเจ้าหน้าที่ดูแลป้ามาจัดการเรื่องปลูกต้นไม้ ถ้านายจะมารับก็ควรรีบมารับเลยฉันไม่อยากมีปัญหา ก็ถึงได้บอกให้รีบมารับไง” “เอาน่ากำลังขับยานล่านิมส์ไปรับเนี่ยแหละขับออกมาแล้วไม่มีใครสงสัยดี”
“งั้นก็รีบรีบเลยเดี๋ยวจะเช้าซะก่อนไอ้เจ้ายักษ์มันไม่ด้วยที่โล่งแจ้งแถมปีนต้นไม้เก่งอีกต่างหาก” “ตำราเรียนไม่มีบอกว่านิมส์ปีนต้นไม้ได้”
“เออสิวะโรงเรียนแกเค้าถึงว่าเรียน 6 ปีแล้วไม่ต้องไปตอบเมืองหลวง ก็ได้เดี๋ยวนะ….เฮ้ย….เจ้าโพรพตัวหนึ่งมันแจ้งมาแวบๆว่าเจอสัญญาณชีพอีกคน ลุงบรีซของนาย"
เจคอบนิ่งอึ้งไปเขายกลูกบอลสีชมพูมาเขย่าตื่นเต้น
“เจอที่ไหน”
“รู้สึกว่าใกล้นายมากจากที่นายอยู่ เดินย้อนไปทางใต้ประมาณ 30เมตร เท่านั้นนายจะไปไหน อย่าทำอะไรบ้าๆแถวนั้น นิมส์มีเยอะแยะเลยแต่เดียวลุงกำลังวิ่งหนีวิ่งหนี ไปทางใต้วิ่งไปวิ่งหาเขา ใกล้ถึงหรือยังนายต้องบอกฉันนะ”
เจคอบลูกบอลสีชมพู 2 แสงต่างโคมไฟ แสงสีชมพูส่อง ให้เห็นทางเดินโดยรอบระยะ 5m เขายังคงวิ่งไม่หยุด “ฉันจะไปถึงอีกซักสองสามนาที หน้าอยู่ไหนแล้วเราจะเห็นกันได้ละนะ” เจคอบ ชะลอฝีเท้าพอเห็นใครรองเท้าตกอยู่เจคอบก็รีบวิ่ง ไปทันที “ลุงบรีซ”
เจคอบต้องผงะเมื่อเห็นเงาดำที่กำลังคล่อมร่างที่นอนแผอยู่เจ้าลิงถูกกำลังรุมทึ้งร่างของลุงบรีซ อย่างเอร็ดอร่อยเจคอบปิดปากเขาทิ้งลูกบอลลงกับพื้นมันกลิ้งไปหาหลังลำดับที่กำลังแผ่ลงอยู่แสงสีชมพูส่อง
ทั่วให้เห็นภาพอันน่าสยองที่เกิดขึ้นชัดเจน เจคอบค่อยๆ เดินถอยหลังไป
ฮาลมาพอดีเขาตะโกนเรียกเจคอบแต่แว่วมาๆ เจคอบหันหลังทันทีและฮาลเห็นภาพสยองนั้นเช่นกัน “รีบไปกันเถอะ” ฮาลบอก
“เดี๋ยว มาเอาของกับฉันทางนี้ก่อน” เจคอบว่าเค้ายังไม่หายตกใจ
to be continue...
6 ชั่วโมงแล้วที่เจคอบนอนสลบอยู่ระหว่างซอกของกิ่งไม้ หมิ่นเหม่ที่จะตกจากยอดไม้เหลือเกิน เขาสะดุ้งตกใจแต่ก็มีสติพอที่จะถอยตัวเองไปชิดลำต้น มองดูเบื้องล่างล้วนมืดไปหมด เขาเดาไม่ถูกว่าตนเองสลบไปนานแค่ไหน แต่ดูจากท้องฟ้ามีน่าจะเป็นเวลาหัวค่ำแล้ว
เจคอบทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เขานึกขึ้นมาได้
"ลุงบรีซ" เจคอบอุทานเบาๆ "ตอนนั้นเรากระเด็นออกจากยาน น่าจะอยู่ตรงนี้"
เจคอบปีนขึ้นต้นไม้ไปดูลาดเลาสถานที่ ถัดออกไปพอสมควรคือหอคอยที่อยู่หอคอยถัดมาอยู่ห่างไปทางขวาในระยะเกือบ 180° เค้าค่อยๆ พลิกตัวมาอีกด้านหนึ่งของต้นไม้ มีกลุ่มควันลอยพ้นยอดไม้คิดว่าออกมาจากสกูตเตอร์ที่ระเบิดแน่นอน
"ถ้าจะไกลหลายเมตรอยู่" เจคอบบ่นเบาๆ
พลันเสียงคำรามกึกก้องป่าของพวกนิมส์กำลังประสานเสียงขึ้น มันไม่น่าจะเรียกว่าการหอนเพราะฟังดูทุ้มแต่ก็ไม่โฮกฮาก ไม่ว่าอย่างไรเสียงของมันก็น่าขนลุกอยู่ดี
คงได้เวลาที่นิมส์พันธุ์เล็กออกจากหากินแล้ว อย่างที่บอกมินเองมีหลายพันธุ์ พันธุ์ กลางวันเป็น พันธุ์ที่ตัวใหญ่ก็เลยน่ากลัว แต่ไม่เท่าพันธุ์ที่ตัวเล็กกว่าเด็ก 4 ขวบนิดเดียว ที่อยู่รวมกันเป็นฝูงๆละ5-10ตัวโชคดีที่มันปีนต้นไม้ไม่เก่งเท่าตัวใหญ่
แต่เจคอบก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลงไปจุดที่สกู๊ตเตอร์ตกดีหรือไม่หรือว่ารอให้เช้าก่อน
ไม่ว่าจะลงไปตอนไหนป่านี้ก็ยังน่ากลัวอยู่วันยังค่ำ
เจคอบล้วงที่กระเป๋ากางเกงได้หลอดฟลูออเรสเซนต์มา 1 หลอด เป็นของที่นักล่านิมส์ต้องพก เขาเคาะที่ท่อเบาๆ มันก็เรืองแสงขึ้นมา ระยะแสงสามารถมองเห็นไปได้หลายเมตรอยู่
เขาคิดว่าถ้ารอถึงวันพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไป ไม่รู้ว่าพวกที่กลับไปจะส่งโพรพตรวจการเข้ามาหรือยัง
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจปีนลงมาจากยอดไม้ที่สูงเกือบ 50 เมตร เจคอบปีนไปพักไป พอถึงด้านล่างสุดลงสู่ลำต้นเดียวเกือบสิบนาทีหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปีนลงมาอีกหลายนาทีลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ทันทีที่เท้าแต่พื้นที่เป็นมอสสีน้ำตาลที่ขึ้นปกคลุมไม่ลื่นอย่างที่เขาคิด เจคอบชูคบไฟให้สว่างทั่ว เจคอบชูคบไฟให้สว่างทัวให้มั่นใจว่าไม่มีตัวอะไรอยู่ใกล้แล้วจึงออกวิ่งไปยังจุดที่สกูตเตอร์ตกที่อยู่ออกไปประมาณ 20 เมตร สิ่งที่เห็นไม่ได้ดูสักเท่าไหร่
สกู๊ตเตอร์ถูกทับด้วยร่างนิมส์สาวตัวแรกที่ล่าได้ กลิ่นเลือดโชยไปทั่วบริเวณ แต่ยังไม่มีนิมส์ตัวอื่นเข้ามา แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 2เมตร เจคอบเดินหมิ่นปากหลุมแต่ไม่ปีนลงไปเขาชูไฟในมือสูงขึ้นเพื่อส่องสว่างมองหาลุงของเขา
"ลุงบรีซ" เจคอบตะโกนเรียกเสียงสะท้อนก้องไปทั่วป่าแต่ไม่มีเสียงตอบ
เจคอบเดินวนไปเดินวนไปวนมารอบปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่า นิมส์หนัก 4 ตันทับแค่สกูตเตอร์เปล่าเท่านั้น พลันเสียงคำรามต่อเนื่องของนิมส์เล็กดังขึ้นอีก ฟังเสียงดูห่างจากเขาไปไม่เท่าไหร่ มันคงได้กลิ่นเลือดของนิมส์ตัวนี้แน่นอนและกำลังพาพรรคพวกมากินบุฟเฟ่ต์อาหารค่ำมื้อใหญ่กัน
เจคอบรู้ดีว่าการที่เขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปนั้นไม่มีประโยชน์ได้เมื่อแน่ใจว่าลุงบรีซ ไม่ได้ระเบิดไปกับสกู๊ตเตอร์แล้ว เขาก็ควรวิ่งหนีไปซะให้พ้นบริเวณนี้ก่อนที่ตัวเขาเองจะกลายเป็นออเดิร์ฟ
เจคอบออกวิ่งและวิ่ง
แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวได้ตามตามติดเข้ามาเจคอบชูคบไฟและเหลียวหันกลับไปมองเป็นระยะมีดวงตาสีแดงหลายขนาดสะท้อนกลับแต่มองไม่เห็นตัวนั้น ยิ่งทำให้เขารีบวิ่งอ้าว โดยไม่มองข้างทางวิ่งจนพลัดตกหลุมดินกว้างหลายสิบเมตรเข้า เขาไถลตัวลงไปกองอยู่กับพื้นดินสีแดง
เจคอบพยุงตัวนั่งด้วยความมึนงง เขารีบคว้าคบไฟตกข้างทางมาส่องทันทีหลุมนี้อยู่ต่ำมากจึงมองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ปากหลุม
เจคอบถอยห่างปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรตามมา เพราะถอยแบบไม่ระวังจึงสะดุดบางอย่างหงายหลังอีกรอบเล่นเอาจุกอยู่หลายนาที
เขาก้มลงมองของที่เขาสะดุดดูเหมือนก้อนหินที่โผล่พ้นขึ้นมาซักซัก 50 เซนติเมตรเป็นสีเงินประหลาด
เลือดในกายของเขาเย็นเฉียบลงทันทีหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นบัดนี้เขายืนอยู่ในหลุมที่วัตถุประหลาดตกลงมาเมื่อคืนนี้ เหมือนเป็นก้อนหินขนาดเล็กจมอยู่ในดิน มันคงตกลงมาเวลาเดียวกับวัตถุแรกที่จะตก หรืออาจจะเป็นส่วนที่ออกมา
พลันมีเสียงคำรามของนิมส์ก้องทั่วป่า สิ่งหนึ่งที่จะเจคอบรู้คือนิมส์จะไม่มีวันมาที่โล่งแจ้งที่ไม่ได้อยู่ใต้เงาไม้ จุดที่วัตถุตกกินบริเวณป่า ถอนรากถอนโคนต้นไม้ในแถบนี้ไปหลาย 100 ตารางเมตรเจคอบจึงมีเวลามากมายที่จะขุดเอาหินสีเงินก้อนนี้ขึ้นมา
พอขุดไปได้สักหน่อย เขาก็ต้องตกใจเพราะใน่โลหะนั้นเหมือนมีเงาของมือมนุษย์อยู่ในนั้นอีกที
มันอาจจะไม่ใช่โลหะหรือหินมันอาจจะเป็นแคปซูลหรืออะไรซักอย่าง
เด็กหนุ่มยังคงขุดต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งแท่งหินอันนั้นเริ่มหลวมหลุดจากพื้นที่ซึ่งเจ้าหินนี้ถูกฝังลงพื้นดินในลักษณะ 45°เจคอบผลักให้มันล้มลงกับพื้นดินสีแดง
พอดีกับที่เขาเหลือบไปเห็นลูกบอลเรืองแสงสีชมพูขนาดประมาณหัวกะโหลกมนุษย์ลอยผ่านมา แล้วหยุดตรงหน้าเขาพอดี
"เจ. ...เจ....นั้นนายเหรอ" เสียงจากลูกบอลเรืองแสงที่เรียกว่าโพรพ
"ฮาลเหรอ " เจคอบพูดโต้ตอบกับโพรพสีชมพู "
ทำไมมาช้าจังไม่ใช่อินฟราเรดหาละ"
"จะบ้าหรอในป่า 500 กว่าตารางกิโลเมตรมีลิงเปรตนั่นเป็นแสนๆตัวจะใช้อินฟราเรด ค้นหาจะแน่ใจได้ยังไงว่านายคือลิงตัวไหน"
"ก็เจอแล้วนี่ว่าฉันคือลิงตัวไหน" "
ก็ได้จากสัญญาณชีพจากชิปทีคอหอยของนายนั่นแหละ" ฮาลเด็กหนุ่มอายุ18เพื่อนของเจคอบและเป็นหนึ่งในทีมของลุงบรีซ
"เจอลุงบรีซหรือยัง" เจคอบถามต่อไปเค้านั่งลงกับพื้นทางเข้าวัตถุโลหะที่เพิ่งขุดมาได้เบาๆระหว่างรอคำตอบ
"ทีมเราส่งโพรพออกไปตามหานายกับตาเฒ่าบรีซ13เครื่อง 12เครื่อง เงียบหายหลังจากส่งมา 8ชั่วโมง ก็มีแต่เจ้านี้แหละที่เจอลิงอย่างนายเข้า"
"แสดงว่าสัญญาณชีพของลุง" เจคอบพูดขึ้นลอยๆสิ้นหวัง
"เรายังไม่แน่ใจโพรพสำรวจหาได้แค่ 70% ของป่าเท่านั้น"
"แล้วจะมารับฉันกับเจ้าก้อนนี้ได้เมื่อไหร่"
"นายอยู่ในเขตที่วัตถุตกเมื่อคืนวานนี้นี่ ทางการปล่อยให้นายไปได้ยังไงกัน"
"เพราะฉันบังเอิญวิ่งหนีนิมส์แล้วตกลงมาในนี้ และลิงบ้านั้นไม่ตามลงมายังไงละ"
“แล้วทางการล่ะที่นั่นเป็นเขตหวงห้ามไม่ใช่หรือ” ฮาลถาม “น่า นายมาได้ ทุ่นกั้นเขตที่บ้านี่มันไปหมดแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้คงมีเจ้าหน้าที่ดูแลป้ามาจัดการเรื่องปลูกต้นไม้ ถ้านายจะมารับก็ควรรีบมารับเลยฉันไม่อยากมีปัญหา ก็ถึงได้บอกให้รีบมารับไง” “เอาน่ากำลังขับยานล่านิมส์ไปรับเนี่ยแหละขับออกมาแล้วไม่มีใครสงสัยดี”
“งั้นก็รีบรีบเลยเดี๋ยวจะเช้าซะก่อนไอ้เจ้ายักษ์มันไม่ด้วยที่โล่งแจ้งแถมปีนต้นไม้เก่งอีกต่างหาก” “ตำราเรียนไม่มีบอกว่านิมส์ปีนต้นไม้ได้”
“เออสิวะโรงเรียนแกเค้าถึงว่าเรียน 6 ปีแล้วไม่ต้องไปตอบเมืองหลวง ก็ได้เดี๋ยวนะ….เฮ้ย….เจ้าโพรพตัวหนึ่งมันแจ้งมาแวบๆว่าเจอสัญญาณชีพอีกคน ลุงบรีซของนาย"
เจคอบนิ่งอึ้งไปเขายกลูกบอลสีชมพูมาเขย่าตื่นเต้น
“เจอที่ไหน”
“รู้สึกว่าใกล้นายมากจากที่นายอยู่ เดินย้อนไปทางใต้ประมาณ 30เมตร เท่านั้นนายจะไปไหน อย่าทำอะไรบ้าๆแถวนั้น นิมส์มีเยอะแยะเลยแต่เดียวลุงกำลังวิ่งหนีวิ่งหนี ไปทางใต้วิ่งไปวิ่งหาเขา ใกล้ถึงหรือยังนายต้องบอกฉันนะ”
เจคอบลูกบอลสีชมพู 2 แสงต่างโคมไฟ แสงสีชมพูส่อง ให้เห็นทางเดินโดยรอบระยะ 5m เขายังคงวิ่งไม่หยุด “ฉันจะไปถึงอีกซักสองสามนาที หน้าอยู่ไหนแล้วเราจะเห็นกันได้ละนะ” เจคอบ ชะลอฝีเท้าพอเห็นใครรองเท้าตกอยู่เจคอบก็รีบวิ่ง ไปทันที “ลุงบรีซ”
เจคอบต้องผงะเมื่อเห็นเงาดำที่กำลังคล่อมร่างที่นอนแผอยู่เจ้าลิงถูกกำลังรุมทึ้งร่างของลุงบรีซ อย่างเอร็ดอร่อยเจคอบปิดปากเขาทิ้งลูกบอลลงกับพื้นมันกลิ้งไปหาหลังลำดับที่กำลังแผ่ลงอยู่แสงสีชมพูส่อง
ทั่วให้เห็นภาพอันน่าสยองที่เกิดขึ้นชัดเจน เจคอบค่อยๆ เดินถอยหลังไป
ฮาลมาพอดีเขาตะโกนเรียกเจคอบแต่แว่วมาๆ เจคอบหันหลังทันทีและฮาลเห็นภาพสยองนั้นเช่นกัน “รีบไปกันเถอะ” ฮาลบอก
“เดี๋ยว มาเอาของกับฉันทางนี้ก่อน” เจคอบว่าเค้ายังไม่หายตกใจ
to be continue...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ