อาเรเมตาเรีย - ปฐมกาลหายนะ
เขียนโดย SFWitch
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.39 น.
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 22.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ฆาตกรรม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#10 ฆาตกรรม
ฟาร่าเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เธอเดินนำฟรองซัวร์ไปยังห้องโถงกลางบ้าน ที่ซึ่งมีเด็กหนุ่มสองคนนั่งเล่นดูภาพยนตร์ฮอลโลแกรมกันอยู่
เจคอบและฮาลลุกพรวดจากที่นั่งทันที
“แม่กลับมาแล้วเหรอครับ” เจคอบพูดขึ้นสีหน้าดูตื่นๆ เขารีบไปรับกระเป๋าจากผู้เป็นแม่ไปวางที่มุมห้องทันที เจคอบผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นผู้ชายผมทองสั้นเกรียนที่เดินตามหลังฟาร่ามา
“ใครครับ” เจคอบถาม
“เพื่อนของแม่ จะมาพักที่นี่สักสองสามสัปดาห์” ฟาร่าแนะนำ “ฟรองซัวร์ นี่เจคอบ ลูกชายของฉัน ส่วนนั้นก็ ฮาล เพื่อนของเจคอบ”
ฟรองซัวร์ยื่นมือมาให้เจคอบ เจคอบตกใจ ฟาร่าลดมือของฟรองซัวร์ลง
“เขามาจากมาร์ส พวกเขาค่อนข้างล้าหลังในเรื่องธรรมเนียมบางอย่าง” ฟาร่าบอกเจคอบแล้วหันมาพูดกับฟรองซัวร์ว่า “ในโซลัน เราจะแตะต้องตัวกันน้อยที่สุดเท่าที่จะ เป็นไปได้”
ฟรองซัวร์ดูขัดเขิน แต่ก็อมยิ้มให้เจคอบ แล้วเขาก็กวาดตาไปเจอของบางอย่างตกอยู่ที่พื้น มันคือป้ายชื่อของโจนนี่นั่นเอง
“โจนนี่” ฟรองซัวร์อุทาน เขารีบเก็บป้ายโลหะนั้นขึ้นมาทันที “คุณพบโจนนี่แล้วเหรอ” ฟรองซัวร์พูดภาษาฝรั่งเศสรัว เพราะมีฟาร่าที่สวมเครื่องแปลภาษา เธอจึงฟังออกอยู่คนเดียว เจคอบไหวตัวทัน รีบคว้าเครื่องแปลภาษามายัดหูทันที
“โจนนี่ โจนนี่เดอกีย์น่ะ”
“โจนนี่เหรอ” เจคอบทวนถาม
“ใช่ นี่มันป้ายชื่อของเธอ เธอมาที่นี่ใช่ไหม”
ฟาร่ามองหน้าเจคอบอย่างสงสัย
“อ่า”เจคอบจึงพูดไปว่า “คุณรู้จักโจนนี่เหรอ”
“ใช่ โจนนี่”
โจนนี่ซึ่งอยู่ในห้องลุงบรีซ ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็เปิดประตูออกมา
“ฟรองซัวร์”
โจนนี่โผเข้ากอดพี่ชายทันที ทั้งฟาร่า เจคอบ และฮาลต่างก็ตกใจ เพราะยุคนี้สมัยนี้ การแตะเนื้อต้องตัวกันเป็นเรื่องที่ไม่นิยม ยิ่งหญิงชายต่างเพศด้วยแล้ว ถึงแม้จะเป็นคนในครอบคร้ว ก็จะไม่แตะเนื้อต้องตัวกันถ้าไม่จำเป็น
“อ่า ผมขอตัวดีกว่า” ฮาลเอ่ยขึ้น ซึ่งข้ออ้างอะไรก็แล้วแต่ เจคอบเข้าใจดี เขาออกไปพร้อมฮาลเพื่อไปรับเสบียงจากจุดจ่ายเสบียงประจำชั้น
ฟาร่าขอตัวไปหลับพักผ่อนที่ห้องของเธอ ส่วนพี่น้องที่พลัดกันมาสามพันปีก็นั่งคุยกันด้วยความ
คิดถึง
“แสดงว่า เราถูกแช่แข็งผ่านเวลามาสามพันหนึ่งร้อยหกปี ทั้งที่ตัวเราเหมือนแค่หลับไปสองสามวัน งั้นเหรอ” โจนนี่ก็ดูจะเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นเมื่อได้ฟังพี่ชายพูด เธอเชื่อพี่ชายของเธอมากกว่าใคร
หลังมื้อเย็น เจคอบจัดที่นอนเพิ่มอีกที่ให้ฟรองซัวร์ พักในห้องของเขา ส่วนโจนนี่พักห้องลุงบรีซตามเดิม ฟรองซัวร์หันไปมองหน้าต่างบานใหญ่ที่นอกชาน เลยระเบียงไปสองเมตรเป็นรั้วกั้นความสูงเกือบสี่เกือบหกร้อยเมตรของผืนป่าเบื้องล่าง
กลางดึก เจคอบนอนไม่หลับ เขาไม่ชินกับการนอนร่วมห้องกับชายแปลกหน้า ที่นอนบนพื้น เขาจึงเอาผ้าห่มจะมานอนที่ฟูกนั่งเล่นกลางโถง ท่ามกลางแสงไฟสลัว เจคอบเห็นเงารางๆ ร่างหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขาสวมหูฟังแปลภาษาเอาไว้ตลอดเวลา
“ไม่ง่วงเหรอ” เจคอบถาม
“ฉันหลับมาสามพันปี ตอนนี้ก็ไม่ง่วงแล้ว” โจนนี่กล่าว เจคอบลงนั่งข้างๆ ลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดไว้
“แล้วทำไมเธอยังไม่นอนละ” โจนนี่ถาม
“ฉันไม่ชินกับการนอนร่วมห้องกับคนแปลกหน้า” เจคอบบอก
“พี่ชายของฉันไม่มีอะไรหรอก” โจนนี่อมยิ้ม “เขาชอบผู้หญิง”
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันหมายถึง เสียงกรนน่ะ” เจคอบแก้ตัว
“นึกว่าอะไร” โจนนี่หัวเราะเบาๆ แล้วเธอก็ยื่นมือไปสัมผัสมือของเจคอบที่เท้าอยู่บนพื้น เจคอบสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยิบมือของเขามาเทียบกับมือของตน
โจนนี่พูดเบาๆ ขึ้นว่า “เธออายุเทาไหร่กันแน่”
“17” เจคอบตอบ
“แม่ของเธอ หน้าเด็กมากเลยนะ” “แม่ฉันอายุ 40 แล้ว”
“จริงเหรอ แม่เธอมีเธอตอนอายุ 23 เหรอ”
“พ่อกับแม่แต่งงานช้า เพราะพ่อฉันเป็นชาวลูนส์ คุณตาไม่ค่อยยอมรับเรื่องการแต่งงาน ข้ามเผ่าสักเท่าไหร่ พ่อเลยต้องพิสูจน์ตัวเองหลายอย่าง กว่าที่จะได้แต่งงานกัน”
“ แต่ก็ถือว่าแต่งงานไวมากเลย ในที่ที่ฉันมา หญิงชายจะมีความพร้อมแต่งงานเมื่ออายุ สามสิบไปแล้ว”
“ก็เรียนหนังสือตั้งสิบหกปีแล้วนี่” เจคอบพูด ทั้งคู่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
ครู่หนึ่งเหมือนมีลมพัดวูบเข้ามามีแสงวูบผ่านนอกหน้าต่างและลูกแก้วพิฆาตสามลูกถูกขว้างเข้ามา
ในห้อง มันกระแทกเข้าที่โคมไฟแตกกระจาย
“หลบเร็ว” เจคอบดึงโจนนี่ กระโจนไปหลบใต้โต๊ะในหลุมฟูกที่นั่งเล่น ลูกแก้วมันกระเด้งกระดอนทำลายข้าวของในห้องพัง เจคอบกับโจนนี่ดึงฟูกมาบังตัวด้วยความหวาดกลัว
“แม่ครับ” เจคอบตะโกนเรียกแม่ ลูกแก้วทำลายหลอดไฟดับ ในความมืดสลัว โจนนี่ดึงเจคอบไปหลบในห้องน้ำ ลูกแก้วกระเด้งกระดอนอย่างบ้าคลั่ง
“มีอะไร” ฟรองซัวร์ได้ยินเสียงเอะอะจึงตื่นเปิดประตูออกมา
“อย่าออกมา..” โจนนี่ตะโกนในจังหวะที่เธอกับเจคอบกำลังเข้าไปหลบ
ไม่ทันสิ้นเสียงเตือน ลูกแก้วลูกหนึ่งกระแทกเข้ากลางหน้าผากของฟรองซัวร์ เมื่อทำลายเป้าหมายลงได้ มันก็หยุดกระเด้งทันที ทว่าชั่วอึดใจ บอลที่เหลืออีกสองลูกก็หยุดกระเด้ง มันลอยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง และตกลงกับพื้น
เจคอบและโจนนี่ค่อยๆ ย่องออกมาจากห้องน้ำ พอเจคอบเปิดไฟกลางห้องก็พบกับภาพที่สยดสยอง ยิ่งนัก ฟรองซัวร์นอนหงายหน้าจมกองเลือดลูกแก้วที่กระเด้งด้วยความเร็วกระแทกทะลุหัวเขาไป ส่วนที่หน้าห้องข้างๆ เจคอบถึงกับช็อกเมื่อพบ ร่างของฟาร่าแหลกเละคาห้อง
“พี่ชายยย” โจนนี่โผเข้ากอดร่างของฟรองซัวร์ เจคอบยืนอึ้งอยู่ เขาหยิบลูกแก้วที่ชุ่มเลือดขึ้นดู มันก็เรืองแสงขึ้น
“ดูนั้นสิ” โจนนี่ชี้ไปยังเพดานที่แสงจากลูกแก้ว ส่องเป็นข้อความว่า
“กบฏจงพินาศ ผู้สมคบต้องถูกกำจัด” เจคอบอ่านออกเสียง โจนนี่ที่น้ำตานองหน้า เจคอบเดินไปดูร่างของมารดาของตนที่นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สีแดงสาดเต็มห้องจากแรงกระแทกของลูกแก้ว
“แย่แล้ว คนขององค์การตามเก็บแม่กับหลักฐานเพื่อกลบเกลื่อนว่าพี่ของเธอไม่ได้มาจากอดีต แต่เป็นกบฎ มีคนพยายามป้ายความผิดให้กลุ่มกบฏ” เจคอบว่า
“แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” โจนนี่ตะเบ็งทั้งน้ำตา
ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยดังก้องพร้อมเสียงประกาศที่ดังจากลำโพงที่ติดตั้งในบ้าน
“มีผู้บุกรุก บ้านเลขที่ 336 ดรอยพิทักษ์เข้าทำการตรึงพื้นที่ ห้ามผู้ใดออกนอกเคหสถาน”
เสียงประกาศพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก
“แย่แล้ว” เจคอบอุทาน เขาหยิบชุดจากในตู้ข้างประตูมาให้โจนนี่ เขาเองก็สวมเสื้อคลุมอีกชั้น และยื่นเสื้อขนนิมส์สีเทาให้โจนนี่สวม
“ใส่ชุดนี้ทับไว้ อย่าให้พวกเขาเข้าใจว่าเธอคือลูน” “แต่ฉันเป็นชาวดาวอังคารนะ” โจนนี่กางชุดออกมันเป็นขนาดของฟาร่าที่ใหญ่กว่าเธอสามไซซ์
“ใส่สิ”
โจนนี่สวมชุดทางหัว อึดใจเดียวชุดก็ปรับขนาดรัดเข้ารูปเองทันที เจคอบติดต่อเพื่อนรักที่อยู่เหนือไปหนึ่งชั้น
“ฮาล มารับที”
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงตามสายถาม
“เร็วเข้า”
ฮาลขับยานดิ่งลงมาหาทันที
ด้านนอกหอคอย ดรอยพิทักษ์จะสแกนวนไล่ขึ้นมาจากชั้นล่าง ซึ่งก็ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ
“เจ”
เหมือนรู้ใจ ฮาลจอดสกู๊ตเตอร์เทียบหน้าระเบียง เขาบีบแตรเรียก ขณะที่ทั้งเสียงกริ่ง เสียงประกาศดังก้อง เจคอบและโจนนี่กระโจนขึ้นสกู๊เตอร์ทันที
“ไปเร็วๆๆ”
“ไปไหน” ฮาลถาม
ใต้พวกเขาลงไปสองสามชั้น ดรอยพิทักษ์กำลังลอยตามขึ้นมา
ฮาลเร่งเครื่องดิ่งขึ้น สูงขึ้น สูงขึ้น โจนนี่เกาะฮาลแน่นด้วยความกลัว ส่วนเจคอบที่นั่งประกบเธอ ทางส่วนหลังของสกู๊ตเตอร์
“เกิดอะไรขึ้น” ฮาลถาม
“มันตรวจพบผู้บุกรุก” เจคอบตะโกนบอกฮาล
“ฉันตกใจเหมือนกัน แต่ดรอยพิทักษ์จะไม่ตรวจแบบนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ อย่างเช่น มีคนตาย” ฮาลบอก “ทำไมเขาถึงส่งดรอยไปที่บ้านนาย”
“แม่ฉันตายแล้ว” เจคอบว่า “ทางการมาเก็บแม่ฉันกับฟรองซัวร์ เพราะหาว่าเป็นกบฏลูน”
ฮาลพาวนรอบหอคอยเป็นเกลียวสูงขึ้น สูงขึ้น เพื่อหลบดรอยที่ไล่ตามมา
“นายจะพาฉันไปไหน” เจคอบถาม
“ไปหลบบนยอดหอคอยก่อน” ฮาลว่า “ดรอยสิ้นสุดการสแกนแค่ชั้นโซล่าเซลล์ เหนือขึ้นไปนั้น เป็นเขตบอดของดรอย หลบที่นั่นก่อน ....จะพานายไปหาผู้เฒ่าทริเวียส”
การผจญภัยของเจคอบ เมื่อได้เริ่มต้นแล้วดูเหมือนจะไม่หมดลงง่ายๆ ตั้งแต่เห็นวัตถุตก ล่านิมส์ ยานตก เจอโจนนี่และ มาตอนนี้ยังถูกคนจากทางการตามล่าตัวอีก
to be continue..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ