อาเรเมตาเรีย - ปฐมกาลหายนะ
เขียนโดย SFWitch
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.39 น.
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 22.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตำนานหรือคำทำนาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#8 ตำนานหรือคำทำนาย
ในยานโดยสารข้ามเขต ฟรองซัวร์นั่งติดหน้าต่าง เขาเห็นทัศนียภาพของโซลันเต็มสองตา ผ่านอุโมงค์แก้วสูญญากาศที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวง กับเขตเบลดิซซิโค่ คล้ายๆ รถราง หรือรถไฟ ในอดีต
“การขนส่งโดยท่อสูญญากาศขับเคลื่อนด้วยคลื่นแม่เหล็ก โครงการที่เคยคิดกันยุคปี 2300 ไม่น่าเชื่อว่า ทุกวันนี้ยังใช้กันอยู่” ฟรองซัวร์พูดขึ้น
“เส้นทางพวกนี้สร้างขึ้นปี 2350 แล้วก็ถูกทำลายไปโดยพวกอานุ” ฟาร่าบอก “ไม่ใช่ไม่มีใครสนใจสงครามนะ ไม่มีใครรู้เรื่องสงครามที่ดาวของคุณเลยด้วยซ้ำ”
ฟรองซัวร์นั่งเงียบ
“อานุคือใคร” ฟรองซัวร์ถาม
“ในตำนานเล่าว่า พวกเขาเป็นยักษ์ ยักษ์ที่มาจากอวกาศอันไกลโพ้น พวกเขามากับยานอวกาศทรงกลมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า นิบิรุ ยานอวกาศที่เหมือนดาวเคราะห์นี้ เดินทางข้ามระบบสุริยะ ด้วยความเร็วสี่สิบห้ากิโลเมตรต่อวินาที พวกเขามาโซลัน ครั้งแรกตั้งแต่เมื่อสี่แสนห้าหมื่นปีก่อน และพวกเขาก็มาระบบสุริยะอีกครั้งเมื่อปี 2900”
“พวกเขามาทำอะไร”
“คนโบราณไม่สนใจเรื่องตำนานจริงๆ ด้วย” ฟาร่าหัวเราะ “พวกเขามาเอาทองคำ”
“สหประชาชาติบอกว่าทองบนโลกหมดไปตั้งแต่ปี 2250 แล้ว จะมาขุดทองทำไม” ฟรองซัวร์สงสัย
“ฉันก็ไม่รู้ แต่พวกเขาก็มา”
“ไม่เข้าใจ คำทำนายเป็นจริงหรือนี่” ฟรองซัวร์รำพึงรำพัน
“คำทำนายอะไร” ฟาร่าถาม
“ไม่รู้สิ ผมก็จำไม่ค่อยได้ มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดถึงเรื่องเอเลี่ยนยักษ์ที่จะมาพร้อมดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ และเอ่อ ผมจำชื่อเธอไม่ได้หรอก ตอนนั้น เป็นที่ถกเถียงว่าคำพูดของเธอเริ่มเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ”
“คำทำนายของออโรร่า ใช่ไหม”
“ใช่ ใช่แล้ว”
“มันเป็นการทำนายก่อนที่อานุจะมาจริงๆ แต่ จากตำนานโบราณว่าอานุได้เดินทางมาโซลัน ทุกๆสามพันสี่ร้อยห้าสิบปีหรือบวกลบสามร้อยถึงห้าร้อยปี แล้วหลังจากนั้นละ คุณจำได้ไหมว่า คำทำนายของออโรร่า เขียนไว้ว่าอย่างไร” ฟาร่าถาม
“คุณไม่เคยได้ยินเหรอ คนอนาคตไม่สนใจคำทำนายจริงๆ ด้วย” ฟรองซัวร์ย้อน
“นั่นมันสามพันปีมาแล้วนะ พวกเราไม่เคยสนใจคำทำนายนั้น นับตั้งแต่อานุมา เอาทองคำ แล้วจากไป”
“แต่ออโรร่าก็ทำนายถูก จริงไหม”
“ฉันไม่เคยสนใจเรื่องนี้ คงต้องหาข้อมูลกันหน่อย คุณอยู่ยุคนั้น คุณน่าจะจำได้”
“มันเป็นข่าวดังมากนะ ตอนนั้นผมเพิ่งจะ15-16 เอง ตอนที่ออโรร่า เปิดเผยคำทำนายแรกออกมาว่า มูนจะเกิดสงครามชิงทรัพยกรกับมาร์ส มันเป็นคำทำนายระยะสั้นๆ แต่สิบปีต่อมา มันก็เกิดจริงๆ จากนั้น ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ นางก็ทำนายครบถ้วนถูกหมด”
ฟาร่ายกแผ่นกระจกขึ้นมา เธอเปิดหาข้อมูลว่า “ออโรร่า ดาพรีดิต้า” หรือ คำทำนายของออโรร่า ขึ้นมา
“ออโรร่า เป็นนักพลังจิตและนักพยากรณ์ ชาวดาวอังคาร มีชีวิตอยู่ช่วง 2300-2399 เอดี คำทำนายที่โด่งดังคือ สงครามลูนมาร์ส การสิ้นสุดของราชวงศ์มาร์ส การครอบครองดาวโซลันของชาวดิซ และการมาของอานุ” ฟาร่าอ่านข้อมูล
“มีกี่ข้อแล้วที่ออโรร่าทำนายถูก” ฟรองซัวร์ถาม
“ชาวดิซมาที่โซลันหลังจากคุณหลุดมิติมา งั้นข้อนี้ก็ถูก” ฟาร่าอ่านข้อความที่เขียนต่อว่า “กลุ่มกบฎก็เข้ายึดครองเซนเตอร์ และเจทองค์ที่13 ก็ปราบกบฎราบคาบ ด้วยความช่วยเหลือของอานุผู้เมตตาที่ผ่านเข้ามาแล้วจากไป อันนี้ก็ถูก”
“ออโรร่าเขียนคำทำนายหลังจากที่ผมหลุดมิติมาไหม” ฟรองซัวร์ถามต่อ
ฟาร่าอ่านข้อความต่อจากที่ค้นหา
“คำทำนายสุดท้ายก่อนที่นางจะเสียชีวิตเมื่อปี 2399 บอกว่า จะเกิดสงครามครั้งใหญ่ที่สุด ในระบบสุริยะ บุรุษทั้งสามจะก่อสงครามนี้ แค่นั้น” ฟาร่าอ่าน
“ทำไมถึงบอกว่าอานุเป็นผู้เมตตาล่ะ เพราะเขาช่วยปราบบฏลูนอะไรนี่เหรอ” ฟรองซัวร์สงสัย
“ยุคต้นหลังการมาของอานุ บรรพชนโซลันสรรเสริญอานุมาก ชาวดิซยอมขายวิญญาณ เป็นทาสการขุดทองมาตลอดหลายพันปีเพื่อแลกกับความช่วยเหลือในครั้งนั้น” ฟาร่าอ่านต่อ
“แล้ว...อานุจะกลับมาอีกไหม”
“ในคำทำนายไม่มีบอก แต่สิ่งที่อานุช่วยเราไว้ในครั้งนั้น แลกกับการจัดเตรียมทองคำ เราจึงรอวันที่อานุกลับมา” ฟาร่า ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฟรองซัวร์และกระซิบ ว่า
“เพื่อส่งมอบบรรณาการดาวทองคำ”
“ทำไมต้องกระซิบละ” ฟรองซัวร์กระซิบตาม
ฟาร่าขยับตัวลุกขึ้นดูลาดเลา มุมที่พวกเขานั่ง อยู่ริมประตู ที่นั่งอื่นๆ หันหน้าเข้าหากัน เป็นกลุ่มๆ ในโบกี้ที่เขานั่ง ไม่มีใครอื่น เพราะเป็นที่นั่งสำหรับเจ้าหน้าที่ และส่วนของที่นั่งในยานโดยสารจะ แบ่งกลุ่มผู้โดยสารเป็นกลุ่มๆ กลุ่มชาวดิซ คนงาน ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ทางการ
“เรื่องนี้เป็นความลับระดับระบบสุริยะ ผู้นำสามดาวต่างร่วมมือกันทำงานนี้อย่างลับๆ มานานหลายพันปี” ฟาร่าว่า“ดาวทองคำ บรรณาการของอานุ โซลันทั่วไป ถูกให้ข้อมูลว่า มันคือข่าวลือ แต่ มันมีจริงๆ ชาวดิซบริสุทธ์เท่านั้นถึงจะได้ไปทำงานที่ยานสกัดทองคำที่ดวงอาทิตย์ พวกเขาไม่ปล่อยให้เรื่องนี้รั่วออกมา แต่ก็มีหลุด ทางการเลยทำเฉยๆ ซะ และบอกว่า มันก็แค่ข่าวลือ”
ฟาร่าพิมพ์ข้อมูลค้นหาบางอย่างลงไป มันขึ้นจอสีแดงและแจ้งบอกว่า
“ข้อมูลที่ท่านค้นหาอยู่ในชั้นความลับระดับโอเมก้า”
“อะไรน่ะ” ฟรองซัวร์ถาม
“เรื่องดาวทองคำ เป็นความลับระดับโอเมก้า เจ้าหน้าที่ระดับ 8 อย่างฉัน เข้าไม่ถึงหรอก” ฟาร่าว่า
“แล้วคุณรู้เรื่องดาวทองคำได้อย่างไร” ฟรองซัวร์สงสัย
“ปู่ของฉัน เป็นชาวดิซเลือดบริสุทธ์ที่ทำงานบนยานสกัดทองบนดวงอาทิตย์ท่านเล่าเรื่องชาวอานุมา เอาทองคำ ตั้งแต่สมัยฉันเป็นเด็ก ท่านทำงานที่ยานสกัดจนเกษียณ คนอื่นๆ จะรู้แค่ว่า อานุมา ช่วยเจทองค์ที่ 13 ปราบกบฎ แค่นั้น”
“ทองคำเป็นของมีค่ามากนะครับ เรื่องนี้สมควรปกปิดเป็นความลับอยู่แล้วครับ” ฟรองซวร์เห็นด้วย
“แน่นอน ถ้าไม่ใช่คนในก็ไม่มีทางรู้ แต่ที่ทุกคนรู้ในตอนนี้คือ มีทองคำบนดวงอาทิตย์มากมาย และถ้าสกัดอย่างจริงจัง เราต้องใช้เวลากว่าสี่ล้านปีเลยทีเดียวกว่าอนุภาคทองในดวงอาทิตย์จะหมด ถึงตอนนั้นเผ่าพันธุ์ของเราก็คงดับสูญไปนานแล้ว” ฟาร่าบอก
“เรื่องดาวทองคำอะไรนั่น ถ้ามันเป็นความลับ คุณมาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังทำไมกัน”
“คุณเป็นคนนอก เราแค่คุยกันสนุกๆ” ฟาร่าหัวเราะ “เรายังคงรอการติดต่อของอานุอยู่ บอกไว้เลย ถ้าพวกเขามาเราก็ส่งดาวทองคำไป แค่นั้น”
ตอนนี้ยานโดยสารมุดลงอุโมงค์ใต้ดินที่เชื่อมต่อไปยังหอคอยทั้ง 20 แห่ง ในเขตเบลดิซซิโค่แล้ว
มีเสียงประกาศดังขึ้น “สิบนาทียานโดยสารจะเทียบชานชลาที่สี่ เบลดิซซิโค่ หอคอยซี 16”
ฟรองซัวร์นั่งเงียบจนถึงจุดหมาย
เมื่อยานโดยสารจอดเทียบ ฟาร่าเดินนำฟรองซัวร์ขึ้นบันไดเลื่อนหลายชั้นจนมาถึงส่วนเทอมินัล ซึ่งเป็นโถงขนาดใหญ่ที่มีหน้าต่ากระจกฝั่งหนึ่ง เผยทัศนียภาพที่น่าประหลาดของผืนป่าสน ขนาดใหญ่ กับสถาปัตยกรรมทรงเสาสีเทาเข้มขนาดมหึมาที่ปลูกห่างออกไป
“นั่นอะไร” ฟรองซัวร์ถาม
“หอคอยแห่งโฮราเธีย สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยแทนการปลูกหมู่บ้าน มันสูงประมาณสองไมล์” ฟาร่าตอบ
“แล้ว ตรงนี้ที่เราอยู่นี่ สูงแค่ไหนกัน”
“ประมาณร้อยเมตร”
ฟรองซัวร์ยังพิศวงกับการสร้างบ้านสร้างเมืองของคนในยุคอนาคต
ฟาร่าเดินนำฟรองซัวร์ไปยังท่าจอดยานส่วนบุคคล จริงอยู่ที่บ้านของฟาร่าไม่มีโรงจอด แต่ไม่ได้ไหมายความว่า เธอจะมียานขับส่วนบุคคลไม่ได้ เมื่อขับยานถึงที่หมายแล้ว ฟาร่าจะตั้งคำสั่งให้มันกลับมาจอดยังโรงจอดยานส่วนบุคคลในพื้นที่ส่วนกลางนี้
ฟาร่าสั่งขับแบบแมนน่วล ถนนในหอคอยจะเป็นทางลาดขนาดสี่เลนที่วนเป็นเกลียวไปเรื่อยๆ มีซอยเลี้ยวเข้าตามซอก ท่อตรงกลางเป็นส่วนของลิฟท์ลำเลียงสาธารณูปโภค บ้านคนจะอยู่เรียงกันไป ใหญ่บ้างเล็กบ้างตามแต่ขนาดครอบครัว ฟาร่าจอดรถ เข้าซอยหนึ่งที่มีประตูบ้านตรงทางตัน ประตูมีป้ายชื่อว่า ฟาลูเนตต์ เป็นภาษาโซลติดเอาไว้
to be continue...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ