The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?

9.5

เขียนโดย Kreota

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.

  21 ตอน
  9 วิจารณ์
  26.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) รักสามเราและเราสองคน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

[15 :: รักสามเราและเราสองคน]

 

            “ปิง...เรารักปิงนะ!”  มิวพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มก่อนจะก้มลงมาหาฉัน แต่ฉันเบี่ยงตัวหลบได้ทันทำให้มิวจูบลงมาที่แก้มของฉันแทนที่จะเป็นริมฝีปาก

            “ช่วยด้วย...ใครก็ได้!! ฮือๆๆ ช่วยฉันที!!!!”  ฉันตะโกนพร้อมกับเสียงสะอื้น เสียงของฉันดังก้องไปทั่วชายหาดแต่มันกลับมีเพียงสะท้อนกลับมาหาฉันเท่านั้น ไม่มีใครมาช่วยฉันเลย! ฉันกลัวจนไร้เรี่ยวแรงและตัวสั่นไปหมด แต่ก็พยายามปัดป้องมิวทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้มิวได้ทำอะไรตามใจตัวเองไปมากกว่านี้

            “ปิงอย่าร้องสิ...ไม่ต้องกลัว”  มิวเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้กับฉันก่อนจะตรึงแขนทั้งสองข้างของฉันไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างพยายามจับหน้าของฉันไว้ให้อยู่กับที่แต่ฉันยังคงพยายามเบี่ยงหลบตลอดเวลาทำให้มิวจูบที่ปากของฉันไม่ได้

            “ช่วยด้วย!! อุ๊บ!” 

            มิวใช้มืออีกข้างที่ว่างมาปิดปากของฉันเอาไว้แทน ก่อนจะระดมจูบที่ซอกคอและใบหูของฉันอย่างหื่นกระหาย แล้วค่อยๆ เลื่อนลงเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเนินอกที่โผล่พ้นชุดเดรสสั้นที่ฉันใส่อยู่

            “อื้ม!!!”  ฉันส่งเสียงอู้อี้ผ่านฝ่ามือหนาของมิวออกมาทันที พร้อมกับส่ายหน้าไปมาจนผมปัดทรายขึ้นมาเต็มหน้า มิวเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยแววตาเย็นชาก่อนจะดึงชุดเดรสส่วนบนของฉันขาดเป็น 2 ท่อน เผยให้เห็นเกาะอกสีเนื้อขนาดสั้นที่ฉันใสอยู่และหน้าท้องแบนราบที่กระเพื่อมขึ้นลงเร็วๆ ตามจังหวะการหายใจ

            “ไม่นะ!!! อุ๊บ!”  ฉันร้องออกมาสุดเสียงเมื่อมิวเอามือออก แต่ก็พูดได้แค่ 2 คำมิวก็ใช้มือมาปิดไว้ตามเดิม ลมเย็นๆ ที่พัดมาปะทะร่างที่เกือบเปลือยของฉันยิ่งทำให้ตัวฉันสั่นมากยิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนมิวจะไม่ได้สนใจแล้วว่าตอนนี้ฉันจะมีสภาพน่าสมเพชขนาดไหน

            มิวก้มลงจูบที่เนินอกของฉันเนิ่นนานจนฉันแทบจะหยุดหายใจ ความร้อนผ่าวแผ่ซ่านไปทั่วตัวกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคย ฉันพยายามจะอ้าปากงับนิ้วของมิวแต่มันก็ไม่ได้ผล..

            “ฮึ! จะกัดเราหรอน้ำปิง”  มิวยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเลห์ก่อนจะเลื่อนตัวผละจากหน้าอกของฉันขึ้นมา แล้วมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน

            “ทำไมไม่ยอมให้เราจูบล่ะ หวงไว้ให้ไอ้ปาร์กหรอ”

            ฉันตอบคำถามไม่ได้ ดิ้นก็ไม่ได้ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ตอนนี้คือ ร้องไห้...ฉันพยายามส่งสายตาอ้อนวอนไปให้แต่มิวกลับไม่เห็นใจฉันเลย

            “เราจะให้ปิงเลือกว่าจะยอมเราดีๆ แล้วกลับไปที่ห้องด้วยกัน หรือว่าจะยังขัดขืนอยู่เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง...เราจะทำตรงนี้เลย”  ประโยคสุดท้าย มิวก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉันด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบและเด็ดขาด

            มิวที่ฉันเคยรู้จักหายไปไหน!! คนคนนี้น่ะหรอคือมิวที่ฉัน...เคยรัก!

            “ฮือ!...ฮือๆๆ...ฮือ!!!”  ฉันปล่อยโฮออกมาภายใต้ฝ่ามือหนาของมิวพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่าบ้าคลั่ง

            ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย ฉันไม่อยากให้เราจบแบบนี้! ฉันพยายามทุกวิถีทางให้เราสองคนจบกันด้วยดีแต่เป็นฝ่ายของมิวเองที่ไม่ยอมจบ และดูเหมือนมันจะยากยิ่งขึ้นเมื่อมีคนที่ 3 คนที่ 4 อย่างพะแพงและผู้หญิงคนอื่นมาเกี่ยวข้อง ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันก็ยังพยายาม...พูดดีก็แล้ว ทำใจแข็งก็แล้ว แต่ดูเหมือนความพยายามของฉันมันจะไร้ผลสิ้นดี!

            “อะไรนะ อยากให้ทำตรงนี้หรอ? ได้...”  พูดจบมิวก็เอามือออกจากปากแล้วบีบคางฉันไว้แน่น ดูเหมือนคราวนี้ฉันจะไม่รอดจริงๆ ซะแล้ว!

            ฟึบ!

            “ไอ้เลว!!!!” 

            ผั๊วะ!!

            พลั่ก!!

            ตุบ!!

            ผั๊วะ!!! ผั๊วะ!!!

            เสียงหมัดรัวๆ ลอยมาให้ได้ยินหลังจากที่มิวถูกใครบางคนกระชากออกไป ฉันได้แต่นอนอยู่ท่าเดิมพร้อมกับหายใจหอบอย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกปวดตุบๆ ที่หว่างคิ้วและแขนขาที่รู้สึกชา ไร้ความรู้สึกจนทำให้ฉันไม่สามารถลุกขึ้นไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

            “แกห้ามแตะต้องผู้หญิงคนนี้อีกจำไว้!!!”  เสียงของพี่ปาร์เกต์ดังเข้ามาในหู ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนมาช่วยฉัน แต่...ฉันไม่อยากให้พี่เขามาเห็นสภาพของฉันตอนนี้เลย

            ฉันไม่อยากให้พี่เขารังเกียจฉัน!

            “น้ำปิง...”  เสียงเรียกเบาๆ จากพี่ปาร์เกต์ทำให้น้ำตาไหลออกมามากยิ่งขึ้น ฉันพยายามเบือนหน้าหนีไปอีกทางอื่นเพื่อหลบหน้าพี่ปาร์เกต์ พร้อมกับดันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด

            “ฉะ...ฉันช่วย”  พี่ปาร์เกต์เข้ามาโอบไหล่ฉันไว้เพื่อช่วยพยุงให้ฉันลุกขึ้นนั่ง มิวสลบหมดสภาพอยู่ไม่ไกลจากที่ฉันนั่งอยู่ ส่วนพี่ปาร์เกต์รีบถอดเสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่มาสวมให้ฉัน และมองฉันด้วยแววตาที่หลากหลายอารมณ์จนฉันเองก็เดาไม่ถูกว่าพี่เขากำลังคิดอะไร อาจจะเป็นเพราะม่านน้ำตาที่มันบดบังภาพต่างๆ ตรงหน้านี้ก็ได้ที่ทำให้ฉันมองไม่ออก

            แต่ดีแล้วล่ะที่มองไม่ออก ถ้าเกิดพี่เขากำลังมองฉันด้วยสายตารังเกียจ ฉันคงใจสลาย...

            “ลุกไหวไหม”  พี่ปาร์เกต์ถามเสียงแหบพร่า ฉันพยักหน้านิดหน่อยพี่ปาร์เกต์จึงช่วยพยุงฉันยืนขึ้น แต่ฉันทรงตัวไม่ได้เลย...มันไร้ความรู้สึกไปทั้งตัว

            “ไม่ไหวทำไมไม่บอก”  พี่ปาร์เกต์บ่นแต่น้ำเสียงกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

            พี่ปาร์เกต์ค่อยๆ ช้อนตัวฉันขึ้นไปอุ้มไว้แนบอก ศีรษะของฉันเอนพิงไหล่ที่เปลือยเปล่าของพี่เขาอย่างอัตโนมัติ กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆ จากตัวพี่ปาร์เกต์และความอบอุ่นของแผงอกกว้างทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

            “พี่ปาร์เกต์...”  อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกอยากจะเรียกชื่อพี่เขาขึ้นมา ฉันไม่รู้หรอกว่าเรียกเพราะอะไรแต่ฉันแค่อยากเรียกเพื่อให้รู้สึกว่ายังมีพี่เขาอยู่ตรงนี้เท่านั้นเอง...

            “ว่าไง”  พี่ปาร์เกต์ถามกลับมาโดยที่ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ

            “พี่ปาร์เกต์...”  ฉันเรียกซ้ำ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้งฉันซุกหน้าเข้าไปในอกของพี่ปาร์เกต์แล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย พี่ปาร์เกต์หยุดฝีเท้าลงแล้วค่อยๆ วางฉันลงที่พื้น ก่อนจะกอดฉันไว้แน่นด้วยแขนทั้ง 2 ข้าง ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยยิ่งทำให้ฉันร้องไห้ออกมามากยิ่งขึ้นราวกับคนบ้า

            “....ฉะ...ฉันกลัว...มิวทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง! ฮือ..มิวทำร้ายฉันขนาดนี้ได้ยังไง ฮือๆๆๆ”  ฉันพูดไปร้องไห้ไปด้วยความผิดหวัง ที่ผ่านมาฉันคิดเสมอว่ามิวเป็นที่ดีมากคนหนึ่ง แต่ว่าวันนี้มันทำให้ฉันต้องกลับมาคิดใหม่ว่าจริงๆ แล้วมิวเป็นคนยังไง!

            “...ต่อไปจะไม่มีใครทำร้ายเธอได้อีก ฉันสัญญา...”  พี่ปาร์เกต์พูดพร้อมกับลูบศีรษะฉันเบาๆ

          ฉันสัญญา

          คำๆ นี้ดังก้องอยู่ในใจฉันตลอดเวลาจนกระทั่งฉันควบคุมตัวเองได้ ฉันค่อยๆ ผละออกจากพี่ปาร์เกต์ช้าๆ แล้วเหม่อมองไปที่ผืนทรายสีน้ำตาลตรงหน้า สิ่งต่างๆ มันเกิดรวดเร็วมากจนฉันอยากจะให้มันเป็นเพียงฝันร้ายไปซะ...!

            “ดีขึ้นรึเปล่า”  พี่ปาร์เกต์ถามขึ้นมาเบาๆ

            “...ค่ะ” 

            “กลับเลยไหม” 

            “ฉันอยากอยู่ตรงนี้อีกหน่อย”  ฉันบอก พี่ปาร์เกต์เลยมานั่งข้างๆ ฉัน แล้วเงียบ...เราไม่ได้คุยอะไรกัน เพียงแค่ปล่อยให้เสียงคลื่นจากทะเลดังขับกล่อมอยู่อย่างนั้น

            ยิ่งเงียบ...ภาพความเลวร้ายเมื่อกี๊ก็ยิ่งเข้ามาหลอกหลอนฉัน ข้อมือที่ยังคงเป็นรอยแดงจากการถูกตรึงไว้อย่างแรงเป็นเวลานานมันยิ่งตอกย้ำให้ฉันรู้ว่ามันไม่ได้เป็นฝันร้ายเหมือนอย่างที่ฉันอยากจะให้เป็น เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง ทรายที่เปื้อนเปรอะเต็มตัว ยิ่งเป็นหลักฐานชั้นดีที่ตอกย้ำให้ฉันเจ็บปวดยิ่งขึ้น

            “น้ำปิง...”

            แปะ!

            ฉันเผลอปัดมือพี่ปาร์เกต์ออกจากไหล่ทันทีที่พี่เขาแตะตัว ฉันไม่แน่ใจว่าปัดแรงขนาดไหนแต่มือของพี่เขาถึงกับแดงขึ้นมาเลยทีเดียว!

            “พี่...พี่ปาร์เกต์ ฉันขอโทษค่ะ”  ฉันรีบเข้าไปกุมมือนั้นไว้อย่างรวดเร็ว นี่ฉันเป็นบ้าอะไรไปเนี่ย!

            “เธอไหวรึเปล่าเนี่ย”

            “ปิงขอโทษ...ขอโทษจริงๆ ค่ะ”  ฉันยังคงพูดได้แต่คำว่าขอโทษเพราะว่าฉันรู้สึกผิดมากจริงๆ ที่ระบายออกไปแบบนั้น

            “นี่!”

            “ขอโทษค่ะ!”  ฉันพูดพร้อมกับน้ำตาเริ่มรื้อขึ้นมาอีกครั้ง ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า!!!

            “น้ำปิง!!!”  พี่ปาร์เกต์จับไหล่ของฉันเขย่าแรงๆ ทีหนึ่ง ทำให้ฉันได้สติขึ้นมาทันที...

            “ไม่เป็นไร...พี่ไม่เป็นไร...เลิกขอโทษสักที”  พี่ปาร์เกต์บอกพร้อมกับเอามือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ใบหน้าของพี่เขาจะเลื่อนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราแตะกัน...ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของฉันทันทีเพียงการสัมผัสเดียว พี่ปาร์เกต์ขยับริมฝีปากลุกล้ำเข้ามามากยิ่งขึ้น มือข้างหนึ่งโอบรอบคอของฉันเอาไว้ส่วนมืออีกข้างรวบที่เอวไว้หลวมๆ แต่ก่อนที่การสัมผัสจะร้อนแรงขึ้นพี่ปาร์เกต์ก็ถอนจูบออก

            เรามองนิ่งเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายเงียบๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองคลื่นที่ซัดเข้ามายังชายฝั่งแทน ความเงียบเริ่มเข้าโถมเข้ามาพร้อมกับเกลียวคลื่นเรื่อยๆ จนกระทั่งความอึดอัดมันกดดันให้ฉันต้องพูดอะไรบางอย่าง

            “พี่...ทำแบบนี้ทำไม”  ฉันถามออกหลังจากที่รวบรวมความกล้าอยู่นาน แต่ไม่ได้มองไปที่พี่เขาตรงๆ เพราะว่าฉันไม่รู้จะทำหน้ายังไง

            “ไม่รู้สิ...รู้แค่ว่า ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำแบบนี้กับเธออีก...นอกจากฉัน”

            “หมายความว่ายังไงคะ?”  ฉันหันไปมองพี่ปาร์เกต์เพราะไม่เข้าใจที่พี่เขาพูด ไม่ยอมตอบคำถามแล้วยังทำให้ฉันงงอีก -*-?

            “ไปเถอะ”  พี่ปาร์เกต์พูดแล้วพยุงฉันลุกขึ้นยืน

            “เฮ้อ...สภาพหรอเนี่ย คนยิ่งขี้เหร่ๆ อยู่”  พี่ปาร์เกต์บ่นแกมยิ้มที่มุมปากนิดๆ พร้อมกับปัดเศษทรายออกจากตัวและผมให้ฉัน  “ถ้าเกิดเธอกลับห้องสภาพนี้มิกกิต้องตกใจมากแน่ๆ” 

            “นั่นสิคะ”

            “งั้นไปที่หนึ่งก่อนแล้วกัน” 

 

            พี่ปาร์เกต์พาฉันเดินมายังบ้านพักอีกหลังหนึ่งที่อยู่ถัดมาจากบ้านของพี่เขา มันเป็นบ้านปูน 2 ชั้นดูหรูหราและน่าอยู่กว่าบ้านของพี่ปาร์เกต์เยอะเลย เมื่อเข้ามาเคาะประตูแล้วเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับ ฉันถึงได้รู้ว่าที่นี่เป็นเรือนหอของพี่ปั้นหยากับพี่แม็กซ์นี่เอง

            “อ้าวน้องสาวของพี่ มาทำไมดึกๆ ดื่นๆ เนี่ย ^_^”  พี่ปั้นหยาแซวพี่ปาร์เกต์ทันทีที่เปิดประตูออกมา

            “ประสาท =_=”  พี่ปาร์เกต์สบถออกมาดังๆ

            “อ้าว ทำไมสภาพเป็นงี้อ่ะ ทั้ง 2 คนเลย!! ระ..หรือว่าไปทำอะไรกันมา O.O!”  พี่ปั้นหยายกมือขึ้นมาปิดปากทันทีที่มองเห็นชัดๆ ว่าสภาพของผู้มาเยือนอย่างพวกเราเป็นยังไง...คนหนึ่งเปลือยท่อนบน ส่วนอีกคนเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใครไม่คิดก็บ้าละ -_-;

            “คิดอะไรบ้าๆ อย่างฉันกับ ยะ..ยัยนี่เนี่ยนะ -///-”  พี่ปาร์เกต์พูดแล้วรีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่มีความเกรงอกเกรงใจ ทั้งที่พี่แม็กซ์ก็นั่งดูทีวีอยู่ในนั้นแท้ๆ

            “เข้ามาสิจ้ะน้ำปิง ^^”  พี่ปั้นหยาพาฉันเข้ามาในบ้านแล้วพามานั่งบนโซฟาตัวข้างๆ กันกับพี่แม็กซ์

            “สรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมสภาพเป็นแบบนี้กัน”  พี่ปั้นหยาเริ่มเปิดประเด็น ฉันกับพี่ปาร์เกต์มองหน้ากันนิ่ง ก่อนที่พี่เขาจะเป็นคนตอบคำถามให้

            “อุบัติเหตุนิดหน่อย...” 

            “งั้นหรอ”  พี่ปั้นหยามองหน้าฉันกับพี่ปาร์เกต์สลับกันไปมาอย่างไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ก่อนจะพาฉันขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่ชั้นบน

            “ชุดพอดีเลยนะเนี่ย ^^”  พี่ปั้นหยามองชุดเดรสยาวแขนกระบอกแนวทะเลๆ ที่อยู่บนตัวของฉันอย่างภูมิใจ  “ชุดนี้เพื่อนพี่ออกแบบเองเลยนะ แต่พี่ไม่ค่อยได้ใส่หรอกเพราะว่ามันหวานเกิน”

            “อ๋อ ค่ะ...งั้นเดี๋ยวปิงจะรีบซักแล้วก็เอามาคืนให้นะคะ”

            “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ให้เลย”

            “จะดีหรอคะ”

            “ดีสิ อยู่กับพี่ก็คงได้แค่แขวนไว้ในตู้ ให้น้ำปิงดีกว่า”

            “งั้นก็...ขอบคุณมากค่ะ”

            “พี่ถามอะไรหน่อย...ได้ไหม”

            “คะ?”  ฉันเลิกคิ้วมองพี่ปั้นหยา ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคำถามที่พี่เขาจะถามเป็นอะไรก็เถอะ

            “เกิดอะไรขึ้น...มีอะไรบอกพี่ได้นะ...”  พี่ปั้นหยาเข้ามาบีบที่ไหล่ของฉันเบาๆ ความอบอุ่นจากแววตาและการกระทำจากความเป็นพี่สาวแผ่ออกมาจนฉันรับรู้และสัมผัสถึงมันได้ในทันที

            “พี่ปั้นหยา...”  น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลรินออกมาเป็นสาย พร้อมๆ กับเรื่องราวต่างๆ ที่ฉันเพิ่งจะเผชิญมาก็พลั่งพลูออกมาเช่นกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกันแต่ฉันกลับกล้าเล่าเรื่องน่าอับอายแบบนี้ให้พี่ปั้นหยาฟัง อาจจะเป็นเพราะว่าพี่ปั้นหยาเป็นผู้หญิงเหมือนกันล่ะมั้ง

            “โชคดีจริงๆ ที่ปาร์กมันตามไป เห็นประโยชน์ของน้องชายพี่บ้างแล้วล่ะสิ”  พี่ปั้นหยายิ้มขณะเช็ดน้ำตาให้ฉันเบาๆ หลังจากที่กอดพี่เขาร้องไห้อยู่นานสองนาน

            “ถ้าเกิดพี่ปาร์เกต์ไม่ช่วย ปิงก็คงแย่น่ะค่ะเพราะว่ามิวก็เมามาก”

            “ต่อไปก็ระวังตัวให้ดี คนเมาเขาควบคุมตัวเองไม่ได้หรอกถึงเราจะรู้จักเขาดีก็เถอะ”

            “ปิงจะจำไว้ค่ะ” 

            “แน่ใจนะว่าจะไม่ค้างที่นี่”

            “ค่ะ เดี๋ยวมิกกิจะเป็นห่วง”

            “เฮ้อ...รายนั้นคงหลับไปแล้วล่ะ แต่ถ้าอยากกลับก็ไม่เป็นไร แต่ระวังตัวด้วยล่ะ” 

            “ค่ะพี่”  หลังจากนั้นพี่ปั้นหยาก็ลงมาส่งฉันที่ชั้นล่าง พี่ปาร์เกต์เปลี่ยนชุดใหม่แล้วเหมือนกัน เป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงสามส่วนสีดำดูสบายๆ

            “ไปส่งน้ำปิงให้ถึงห้องเข้าใจไหมไอ้น้องสาว”  พี่ปั้นหยายังคงแซวพี่ปาร์เกต์จนวินาทีสุดท้าย

            “เฮ้อ...รู้แล้วน่า”

            “พรุ่งนี้เจอกันนะน้ำปิง ^_^”

            “ค่ะพี่หยา ^^”  ฉันยิ้มให้ก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณบ้านพักพร้อมกับพี่ปาร์เกต์ เราเดินกันมาได้สักพัก อยู่ๆ พี่ปาร์เกต์ก็เอื้อมมือจับมือฉันเอาไว้ ฉันจึงหยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองพี่ปาร์เกต์ ถึงจะใจเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเพราะการสัมผัสของเขาแต่ฉันก็ต้องทำใจแข็งเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร

            “ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ เดินเองได้”

            “เดินได้เองแล้วไง เผื่อสะดุดขาตัวเองล้มล่ะ”

            “เฮ้อ...ฉันไม่ได้เซ่อขนาดนั้นหรอกค่ะ”

            “เดินๆ ไปเถอะน่า เธออยากอยู่รอดูพระอาทิตย์ขึ้นรึไง”

            “ถ้าฉันจะดูพี่จะอยู่เป็นเพื่อนไหมล่ะ”

            “...แล้วแต่เธอสิ”

            “จะอยู่เป็นเพื่อน?”

            “อืม”

            กรี๊ดดดด...ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาให้ซึนามิขึ้นจริงๆ!! ทำไมวันนี้พี่ปาร์เกต์น่ารักจังเลย >////<

            “ยอมง่ายๆ แบบนี้ก็น่าเบื่อแย่สิคะ”  ฉันบ่นขณะที่เราเริ่มออกเดินช้าๆ ต่อโดยที่มือยังจับกันไว้แน่น

            “งั้นก็เตรียมตัวเบื่อไว้ได้เลยเพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไร...ฉันยอม”

            กึก!

            คราวนี้เท้าของฉันหยุดกึกทันที...เพราะน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังและมีความหมายทำให้หัวใจของฉันทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม

 

 

 

*******************************************************

เอิ่ม...ไม่อยากจะบอกว่าไรท์แต่งเองฟินเองเจ้าค่าาาาา 

แต่...หายไปไหนกันจ้ารีดเดอร์ที่รัก T^T

หายไปแบบนี้ไรท์ใจหายนะ

กลับมาอ่านนิยายของเราเถอะ พลีสสสส

ไว้รอติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ

:: รอการกลับมาของรีดเดอร์อยู่น้าาาาา

:: ถ้ากลับมาแล้วเราจะขยันๆ อัพให้อ่านเลยเอ้า!

*******************************************************

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา