The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?

9.5

เขียนโดย Kreota

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.

  21 ตอน
  9 วิจารณ์
  26.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) คำสัญญา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
[13 :: คำสัญญา]
 
            [น้ำปิง : Talk]
            “ถ้าแกทำให้น้องสาวฉันเสียใจล่ะก็!!...”  อยู่ๆ เสียงของพี่ยศดังเข้ามาในการรับรู้ นี่ฉันหลับไปหรอเนี่ย...
            “เฮ้ย! เบาๆ เดี๋ยวน้ำปิงก็ตื่นหรอก”  เสียงพี่ปาร์เกต์ดังขึ้นมาอีกคน แต่เสียงเบามากจนคล้ายกระซิบ
            “...ความเป็นเพื่อนสิบปีของเราก็เอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้ จำไว้!!”  พี่ยศพูดต่อด้วยเสียงที่ลดความดังลง แต่จากที่ฟัง เหมือนพี่ยศกำลังโกรธเอามากๆ เลย
            “แสดงว่า...แกยอมให้ฉันคบกับมิกกิแล้วใช่ไหม”  เสียงของพี่มาร์ชสั่นๆ ขณะที่พูดประโยคนี้ออกมา
            “ก็เออดิ! ถึงฉันจะห่วงมิกกิมากขนาดไหน แต่ฉันก็ทนเห็นยัยนั่นเศร้าไม่ได้นานหรอก...”
            “ขอบใจนะ”
            “คราวนี้ก็เหลือด่านสุดท้ายแล้ว แกต้องพิสูจน์ตัวเองให้มิกกิเห็นให้ได้”  พี่ปาร์เกต์พูดด้วยเสียงที่ร่าเริงขึ้น
            “เรื่องนั้นสบายมาก”  พี่มาร์ชรับคำ ขนาดฉันหลับตาอยู่ยังรู้เลยว่าหน้าของพี่มาร์ชตอนนี้กำลังยิ้มแก้มปริขนาดไหน
            “แกนี่ก็เหลือเกินนะไอ้ปาร์ก ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับแกเลย รู้มานานแล้วรึยังว่าไอ้มาร์ชมันอ่านกินน้องสาวฉันอยู่”
            “อ้าวๆ คุณพี่เขยครับ พูดจาแบบนี้ผมเสียหายนะ”  พี่มาร์ชร้องขึ้นมาทันทีพร้อมกับเปลี่ยนสถานะให้เพื่อนเสร็จสรรพ
            ป๊าบ!
            “ไอ้มาร์ช!! เกินไปละแก!!!”  พี่ยศร้องขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงคุ้นๆ อย่าบอกนะว่าพี่ยศตบหัวพี่มาร์ชอ่ะ เล่นแรงกันจริง =_=
            “โอ้ย! เจ็บนะไอ้ยศ”
            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
            “ใครวะ”  พี่ปาร์เกต์สบถ ก่อนจะมีเสียงเปิดประตูตามมา
            “อุ้ย! ขอโทษค่ะ พอดีมิกกิให้มาตามพี่ๆ แล้วก็น้ำปิงไปทานข้าวน่ะค่ะ”  เสียงของหมี่เกี๊ยวดังขึ้นมาอีกคน
            “อ๋อ ขอบใจนะ”  พี่ยศตอบ ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะดังเข้ามาใกล้ที่ที่ฉันนอน (แอ๊บ) หลับอยู่
            “น้ำปิง...น้ำปิง...”  เสียงของพี่ยศดังอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ที่ต้นแขน
            “อ้าวพี่ยศ!”  ฉันทำเป็นตาปรือๆ แล้วลุกขึ้นนั่งบนโซฟาหวายที่นอนอยู่ หวังว่าพวกเขาคงเชื่อนะว่าฉันเพิ่งจะตื่น...อ้าว! แล้วฉันมานอนบนนี้ได้ไงเนี่ย -_-;
            “บิดขี้เกียจเสร็จแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว เขาจะกินข้าวเที่ยงกันอยู่แล้วเนี่ย”  อันนี้ให้ทายว่าใคร -_-?
            พี่ปาร์เกต์ไม่พูดเปล่าแต่เขาเดินมาดึงฉันให้ลุกจากที่ด้วย แน่จริงไปแปรงฟันให้ฉันเลยไหมล่ะ!
            “พูดเกินไป นี่มันเพิ่งจะแปดโมงครึ่งเองนะ บ้านแกกินข้าวเที่ยงกันตอนนี้รึไง”  พี่มาร์ชค้านขึ้นมาขำๆ แบบไม่รับมุขของพี่ปาร์เกต์
            “พูดมากน่ะแก รออยู่นี่แหละเดี๋ยวยกข้าวมาให้กิน เกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาไม่มีใครช่วยอุ้มแกส่งห้องนะเว้ย” 
            “ใช่ซี่!! ฉันมันไม่ได้ตัวเล็กๆ เหมือนน้ำปิงนี่หว่าก็เลยไม่มีใครอยากอุ้ม ^_^”
            “แกพูดอะไรของแกวะมาร์ช?”  พี่ยศขมวดคิ้วถาม
            “ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันก็แค่เปรียบเทียบเท่านั้นแหละ เสียงเข้มเชียวพี่เขย ^O^”
            “ฉันคงต้องคิดเรื่องมิกกิใหม่แล้วล่ะ =_=”
            “อ้าวเฮ้ย! ลูกผู้ชายพูดแล้วห้ามคืนคำดิวะ”
            “เฮ้อ...”  พี่ยศพ่นลมออกจากปากอย่างเหนื่อยใจก่อนจะเดินออกไปก่อนเพื่อน
            “จะทำอะไรระวังหน่อยนะเพื่อน ถึงใครๆ จะไม่รู้แต่โลกรู้นะ ^^”  พี่มาร์ชพูดกับพี่ปาร์เกต์ทันทีที่พี่ยศออกไปพ้นประตูห้องแล้ว
            “อะไรของแก? เฮ้ย! อย่าบอกนะว่า...!!”  พี่ปาร์เกต์ตาเบิกโพลงขึ้นมาทันที พวกเขาเป็นอะไรกัน =_=;
            “อะไร?”  พี่มาร์ชเลิกคิ้วขึ้นสูง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
            “หุบปากไว้เลยนะแก!”  พี่ปาร์เกต์ฆาตโทษพี่มาร์ชเอาไว้ ก่อนจะลากฉันออกมาจากห้องบ้างโดยมีหมี่เกี๊ยวเดินตามมาเงียบๆ เดินมาได้สักพักฉันก็รู้สึกแปลกๆ เพราะรู้สึกว่าหมี่เกี๊ยวจะมองมาที่ฉันตลอดเวลา โดยเฉพาะที่มือของฉัน...มือหรอ?
            “เฮ้ย!”  ฉันร้องแล้วหยุดฝีเท้าลงทันที
            “อะไรของเธอ”  พี่ปาร์เกต์หันกลับมาขมวดคิ้วมองอย่างเซ็งๆ
            “ฉันลุกจากที่นอนได้แล้วค่ะ ไม่ต้องช่วยดึงแล้ว”  ฉันบอกพร้อมกับมองลงไปที่มือของพี่เขาที่จับมือฉันแน่น
            “อ้าว!...ก็เธอชักช้านี่”  พี่ปาร์เกต์ปล่อยมือฉันออกแล้วเดินนำหน้าไปทันที เฮ้อ...ชอบทำให้ฉันใจเต้นแปลกๆ เรื่อยเลย -///-
            “พวกแกสองคนดูพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ”  หมี่เกี๊ยวเดินมาอยู่ข้างๆ ฉัน
            “ไม่นะ ฉันว่าก็เหมือนเดิม”
            “หรอ?”  หมี่เกี๊ยวพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินนำไปอีกคน...ความรู้สึกเหมือนตอนไปออกค่ายไม่มีผิด U_U;
            ฉันแวะมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะไปที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอไปถึงก็เหลือที่นั่งอยู่ 1 ที่ ซึ่งเป็นที่กึ่งกลางระหว่างหมี่เกี๊ยวและพี่ยศ มันก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดไว้สักเท่าไหร่หรอกเพราะฉันคิดอยู่แล้วว่าหมี่เกี๊ยวต้องนั่งข้างๆ ที่ปาร์เกต์แน่นอน
            “ฉันนึกว่าหลับคาห้องน้ำไปแล้วนะเนี่ย”  พี่ปาร์เกต์บ่นขณะวางแก้วกาแฟตัวเองลง
            “มาสิ อาหารเพิ่งเสริฟพอดี”  พี่ยศบอก ฉันเลยเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวเดียวที่เหลืออยู่ แต่อยู่ๆ พี่ปาร์เกต์ก็ลุกจากที่ตัวเองแล้วลากเก้าอี้ของโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ มานั่งข้างฉัน จนพี่ยศและฉันต้องเขยิบเก้าอี้ออกเพื่อให้พี่ปาร์เกต์แทรกตัวเข้ามาได้ สรุปคือ ตอนนี้ที่ขนาบข้างฉันอยู่ก็คือพี่ยศและพี่ปาร์เกต์ =_=;
            “อะไรกันสามคนนี้ มิกกิเห็นแปลกๆ ตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วนะ”  มิกกิหรี่ตามองอย่างจับผิด
            “อะไรของแกมิกกิ...”  ฉันขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ ที่บ้าน?...อะไรกัน -_-?
            “นั่นสิ”  พี่ยศเห็นด้วย
            “ตรงนั้นมันแค่อึดอัด พี่เลยย้ายนี่ ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย”  พี่ปาร์เกต์พูดบ้าง แต่ดูเหมือนจะเป็นการแก้ตัวมากกว่า
            “เอาล่ะค่ะมิกกิยอมแล้ว กินข้าวกันเถอะ”  มิกกิยิ้มน้อยๆ แล้วเริ่มลงมือกินอาหารบนโต๊ะ ฉันมองพี่ทั้ง 2 คนที่อยู่ข้างๆ อย่างงงๆ พี่ยศยักไหล่นิดหน่อยก่อนที่เราจะเริ่มลงมือกินข้าวโดยไม่ได้เซ้าซี้ถามมิกกิอีก
           
            ช่วงเย็นของวันนี้ งานเลี้ยงรุ่นของห้องฉันถูกจัดขึ้นที่ริมทะเลใกล้ๆ รีสอร์ท บรรยากาศอบอุ่นและสนุกสนานอย่างที่คิดเอาไว้ และที่สร้างสีสันให้งานยิ่งขึ้นก็เห็นจะเป็นการแสดงของเพื่อนผู้ชายที่พากันแต่งตัวเป็นสาวฮาวายมาเต้นประกอบเพลงฮูลาฮูล่า ทำเอาเพื่อนๆ ในห้องกรี๊ดสลบกันไปตามๆ กัน เห็นอุ๊บอิ๊บทำอะไรกันตั้งแต่เมื่อวานที่แท้ก็ซุ่มซ้อมเต้นนี่เอง ฮ่าๆๆ
            หลังจากการแสดงเปิดงานสุดฮาของเพื่อนๆ จบลง ฉันก็ต้องหอบของทั้งมือถือและเสื้อผ้าไปให้เพื่อนๆ ที่หลังเวที เพราะว่ามีเพื่อนคนหนึ่งฝากโทรศัพท์ไว้แล้วแฟนมันโทรเข้ามา ไอ้เราก็ไม่กล้ารับกลัวว่าจะมีปัญหากันเลยต้องรีบหน่อย
            “มา เราช่วย”  มิวเดินเข้ามาแย่งของที่ฉันหอบมาไปถือไว้
            “เฮ้ย! ของอยู่นี่นะ”  มิวตะโกนบอกเพื่อนพร้อมกับวางมันไว้บนโต๊ะยาวๆ ด้านหลังเวที วันนี้รู้สึกว่ามิวจะรับหน้าที่เป็นมือกลองของวงดนตรีที่จะแสดงต่อจากนี้ ก็เลยไม่ได้แต่งตัวเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่ถึงจะไม่ได้เล่นดนตรีฉันว่ามิวก็คงไม่แต่งตัวแบบนี้หรอก เป็นคนถือตัวจะตาย -_-;
            “แฟนหมอกโทรมาด้วยน่ะ ฝากบอกด้วยนะ”  ฉันบอกแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น แต่มิวก็ยังเดินตามมาอีก
            “เดี๋ยวปิง! นี่ไม่คิดจะคุยกับเราเลยหรอ...”
            “เราไม่รู้จะคุยอะไรนี่”
            “ทักทายกันหน่อยก็ได้...แบบเพื่อนน่ะ”
            “อ้าวๆ คู่จิ้นประจำห้องหันมาหน่อยเร็ว ^O^”  อยู่ๆ เสียงหมี่เกี๊ยวก็ดังเข้ามา ทำให้ฉันกับมิวหันไปมองต้นเสียงแต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแสงแฟลชก็สว่างวาบเข้ามาในตา
            “ทำอะไรเนี่ย”  ฉันบ่น แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เดินไปดูรูปที่ออกมาอยู่ดี
            แอร๊ย >_<! หน้าเหวอสุดๆ อ่ะ!!
            “ลบเลยเกี๊ยว! หน้าตาดูไม่ได้เลย”
            “ถ้าลบจะยอมให้ถ่ายคู่กันไหมล่ะ”  เพราะคำถามของหมี่เกี๊ยวทำให้ฉันต้องคิดหนัก...ถ้าเกิดเกี๊ยวมันเอาไปแชร์ในโซเชียลแล้วบรรดากิ๊กใหญกิ๊กน้อยของมิวเห็นเข้าล่ะก็ สุขภาพหนังศีรษะของฉันน่าเป็นห่วงแน่ Y_Y
            “แล้วแกจะเอาไปอัพลงเฟสรึเปล่าเนี่ย”  ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
            “ไม่หรอกน่า จะถ่ายเก็บไว้ในเฟรนชิปเฉยๆ...มาๆ เอาใหม่”  หมี่เกี๊ยวบอกพร้อมกับจัดท่าทางให้ฉันกับมิวยืนอยู่คู่กัน แต่...มันใกล้ไปนะ =_=
            “เอ้า! หนึ่ง...สอง...ซั่ม!!” 
            แชะ!
            แสงแฟลชสว่างวาบขึ้นอีกครั้งเมื่อหมี่เกี๊ยวกดชัตเตอร์ ระหว่างที่หมี่เกี๊ยวกำลังจะขอถ่ายเพิ่มอีกรูป ก็เกิดเสียงกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาภายในงาน เรา 3 คนเลยชะงักการถ่ายรูปไป
            “ปิง!! แกมานี่เลย >_<!!!”  มิกกิเดินเข้ามาลากฉันออกจากหลังเวทีด้วยท่าทางตื่นเต้นยิ่งหว่าเห็นพี่ยศกับพี่มาร์ชตีกันซะอีกฉันเลยต้องรีบตามออกไป ไม่แน่...คราวนี้อาจจะเป็นพี่มาร์ชกับพี่ปาร์เกต์ตีกันก็ได้!
            ว่าแต่...สองคนนั้นจะกันเรื่องอะไร =_=;
            “เกิดอะไรขึ้นกับพี่ปาร์กก็ไม่รู้!”  มิกกิพาฉันเข้ามาในงาน และฝ่ากลุ่มคนที่กำลังมุงดูผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่กลางวง
            “ไหนล่ะพี่ปาร์กของแก”  ฉันถามแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เห็นแต่เพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมยืนกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ แต่ไม่เห็นจะเจอพี่ปาร์เกต์อย่างที่มิกกิบอกเลย
            “ก็นี่ไง”  มิกกิพูดแล้วชี้ไปที่ผู้หญิงแปลกหน้าซึ่งตอนนี้ยืนหันหลังให้ฉันอยู่
            “คนนี้เนี่ยนะ!”  ฉันชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น เธอแต่งตัวด้วยชุดสาวฮาวายสุดเอ๊กและเซ็กซี่สุดๆ จนเพื่อนชายของฉันที่ทำการแสดงเมื่อกี๊ชิดซ้ายไปเลย
            “ใช่...”  เสียงทุ้มนุ่มฟังคุ้นหูดังมาจากผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหันหน้ามามองฉันตรงๆ
            ห๊า!!! =[ ]=!! พี่ปาร์เกต์เปลี๊ยนไป๋!!!!
            โอ้ว...พระเจ้าท่านไม่ช่วยกล้วยจะทอดได้ยังไง!!! พี่ปาร์เกต์จริงๆ น่ะหรอ! เกิดอะไรขึ้นกับพี่เขาเนี่ย หรือเพิ่งจะรู้ตัวว่าจริงๆ แล้วอยากเป็นผู้หญิง! โธ่!...ความหวังของชะนีไทยลดลงไปหนึ่งคนแล้ว TOT
            “น้ำปิง...เฮ้!!! ยัยขี้เหร่!”  ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าจ้องพี่ปาร์เกต์นานเท่าไหร่แล้ว แต่มารู้ตัวอีกทีพี่ปาร์เกต์กำลังโบกมือไปมาตรงหน้าฉันพร้อมกับร้องเรียกเสียงดังจนฉันสะดุ้ง
            “พะ...พี่ปาร์เกต์หรอคะ?”
            “ใช่สิ”  พี่ปาร์เกต์ตอบเสียงเรียบๆ แก้มพี่เขาดูชมพูระเรื่อขึ้นนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือว่าเพราะบรัชออนที่ปัดมากันแน่
            แต่...ยอมรับเลยว่าแต่งแบบนี้พี่เขาสวยมากจริงๆ +O+...ฉันต้องบอกพี่เขาไปเลยไหม ว่ามาถูกทางแล้ว T^T
            “ฉันทำตามสัญญาแล้วนะ”  พี่ปาร์เกต์บอกพร้อมเหลือบไปมองซ้ายทีขวาทีแต่ไม่ยอมมองหน้าฉันตรงๆ นี่พี่เขากำลังเขินอยู่ใช่ไหม >///<
            ทันทีที่พี่ปาร์เกต์พูดถึงเรื่องคำสัญญา เพื่อนๆ ร่วมห้องของฉันก็โห่ฮิ้ว~ แซวกันลั่นชายหาด
            “บ้าน่า คบกันจริงๆ หรอกหรอ”
            “ไม่คบจะมาทะเลด้วยกันได้ไง”
            “อ๋อ!! นั่นสิๆ จริงๆ ด้วย”  เสียงพูดคุยหลากหลายอารมณ์ดังมาจากทุกทิศ เอาแล้วไงกลายเป็นข่าวกับพี่ปาร์เกต์อีกจนได้ =_=;
            “สัญญา?...สัญญาอะไรคะ”  ฉันตะโกนแข่งกับเสียงแซวของเพื่อนๆ
            “ก็ที่ฉันเคยพูดกับเธอไง”  พี่ปาร์เกต์เข้ามากระซิบใกล้ๆ เพราะเสียงโห่และเสียงพูดคุยของเพื่อนที่ยืนมุงอยู่ ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
            “ตอนไหนคะ?”
            “ใช่ตอนที่ไปกินข้าวที่โรงแรมของพี่มาร์ชรึเปล่าคะ”  มิกกิที่ยืนอยู่กับฉันตลอดถามแทรกขึ้นอย่างคิดได้
            “อื้ม”  พี่ปาร์เกต์พยักหน้ารับน้อยๆ ฉันเลยรีบขุดเอาความทรงจำตอนนั้นกลับมาทันที และในที่สุดฉันก็คิดออก
          ... ‘เห๊อะ! ถ้าสวยกว่านี้ได้โดยไม่ศัลยกรรมล่ะก็ ฉันจะยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลย!’ ...
            คำพูดของพี่ปาร์เกต์ลอยเข้ามาในหัวทันที พร้อมกับสีหน้าท่าทางดูถูกฉันเมื่อตอนนั้นก็กลับมาอยู่ในความทรงจำอย่างครบถ้วน
            “อ๋อ!...มิน่าล่ะ อยู่ดีๆ ก็ให้มิกกิแต่งตัวให้ มิกกิใจหายหมดเลยนึกว่าพี่จะกลายเป็นสาวซะแล้ว ^_^”  มิกกิพูดอย่างโล่งอก
            “เป็นไง...ฉันสวยกว่าเธออีกใช่ไหมล่ะ”  พี่ปาร์เกต์พูดแบบอวดๆ
            “ใช่ค่ะ ปิงว่าแต่งแบบนี้ตลอดไปก็ดีเหมือนกันนะ เข้ากับพี่ม๊าก มากกก...”  ฉันแกล้งลากเสียงยาวๆ ใส่
            “นี่แน่ะ!”  พี่ปาร์เกต์เขกหัวฉันเบาๆ ที่หนึ่งอย่างหมั่นเขี้ยว
            เอ๊ะ! ทำแบบนี้มันรู้สึกสนิทกันยังไงบอกไม่ถูก ปกติพี่ปาร์เกต์ไม่ชอบให้ใครแตะเนื้อตัวด้วยซ้ำทำแบบนี้แสดงว่าเราสนิทกันมากขึ้นแล้วสิ >.<
            เอ่อ...นี่ฉันโรคจิตไปแล้วรึไง เขาเขกหัวแทนที่จะเจ็บ =_=;
            “โอ้ย!”  ฉันร้องทันที (ที่คิดได้ว่าต้องเจ็บ -_-;)
            “ถือว่าหายกันแล้วนะ...”  พี่ปาร์เกต์ยิ้มให้ฉันน้อยๆ ครั้งนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากเพื่อนๆ ได้อีกระรอก อย่ากรี๊ดกันได้ไหมยะ ฉันเขิน! >////<
            “พี่เกลียดฉันไม่ใช่หรอคะ...ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ให้ฉันล่ะ”  ฉันพูดเบาๆ เพื่อให้ได้ยินแค่สองคน พี่ปาร์เกต์นิ่งไปสักพักแล้วไม่ได้พูดอะไร มิกกิก็เลยขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก ใช่แล้วค่ะ...ไม่ได้พิมพ์ผิด =_=; ถ่ายไว้ให้ลูกหลานดูเป็นที่ระทึกจริงๆ
            “ถ่ายพี่คนเดียวได้ไง”  พี่ปาร์เกต์พูดแล้วคว้าฉันไปยืนร่วมเฟรมซะงั้น ร่วมเฟรมยังไม่พอ...ยังกอดไหล่ฉันไว้อีกแน่ะ คงกลัวฉันหนีไม่ถ่ายคู่ด้วยล่ะสิ -///-
            แชะ! แชะ!
            “โอเคแล้วค่ะ ^O^”   มิกกิบอกพร้อมกับลดกล้องลง
            “ฉันว่ารูปนี้เธอดับแน่ ฉันสวยกว่าเห็นๆ ^_^”  พี่ปาร์เกต์ยิ้มให้ฉันอย่างสดใส
            “ก็งั้นๆ แหละค่ะ แบร่~...”  ฉันแลบลิ้นใส่พี่ปาร์เกต์อย่างหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรการกระทำของพี่ปาร์เกต์ในวันนี้มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายแล้วก็กล้าพูดกล้าคุยกับพี่เขามากขึ้น
            “เอ้อ! เดี๋ยวกัดลิ้นขาดเลยนี่!”  พี่ปาร์เกต์ตอบกลับอย่างกวนๆ
            “อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆ”  อยู่ๆ มิกกิก็หัวเราะออกมา
            “เป็นไรมิกกิ รูปมันตลกหรอ”  ฉันถามแล้วเดินเข้าไปหามิกกิเผื่อว่าจะดูรูปกับมิกกิซะหน่อย กลัวว่ายัยนั่นจะเอารูปทุเรศๆ ของฉันไปแบล็คเมล์ ซึ่งเป็นงานประจำของยัยมิกกิอยู่แล้ว =_=
            “เปล่าๆ ฉันแค่เขินแทนอ่ะ”  มิกกิบอกพร้อมกับทำทีเป็นเปิดรูปในกล้องให้ฉันดู
            “เขินอะไรของแก ฮาแตกขนาดนี้ -_-”
            “ก็มันทั้งขำทั้งเขินน่ะสิ ประโยคที่พี่ปาร์กบอกว่า ‘เดี๋ยวกัดลิ้นขาดเลย’ น่ะ มันสองแง่สองง่ามยังไงไม่รู้ ฟังแล้วมันเขินขึ้นมาเลย อิอิ ^///^”
            “เขินตรงไหน?...ฉันแลบลิ้นใส่พี่ปาร์เกต์ พี่เขาหมั่นใส่ก็เลยพูดแบบนี้เท่านั้นเอง...”  ฉันยังคงไม่เข้าใจที่มิกกิบอก  ไม่เข้าใจว่ามันน่าเขินตรงไหน -_-?
            “เฮ้อ...แม่คุณ! คนเรามันจะกัดลิ้นกันได้ มันต้องทำยังไงล่ะ =_=!”  มิกกิอธิบายอย่างเซ็งๆ
            ...‘เดี๋ยวกัดลิ้นขาดเลย’...จะกัดลิ้นกันได้ มันก็ต้อง...
            อ้าวเฮ้ย!! O_O!!!
            “เข้าใจแล้วใช่ป่ะ >/////<”  มิกกิส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ฉันทันที
            “ยัยบ้า! คิดอะไรเนี่ย คนพูดยังไม่เห็นจะคิดเลย >////<”  ฉันพูดพร้อมกับชี้ไปที่พี่ปาร์เกต์ที่ยังคงยืนก้มหน้าก้มตาไม่สบตาใครอยู่ที่เดิม
            “เฮ้อ...ฉันสงสารพี่ปาร์เกต์อ่ะ ให้พี่เขาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะ”  ฉันบอก
            “เออ นั่นดิ”  มิกกิรับคำอย่างเห็นด้วย ถึงจะอยากแกล้งพี่เขาที่เคยพูดดูถูกฉันไว้ก็เถอะ แต่เห็นแบบนี้มันใจอ่อนอ่ะ แกล้งไม่ได้จริงๆ U_U;
            “เฮ้ย! จริงหรอเนี่ย!!!”  ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินไปบอกพี่ปาร์เกต์ให้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จู่ๆ พี่ปั้นหยาก็เดินเข้ามาในงานและทักพี่ปาร์เกต์ซะลั่นงาน
            “น้องฉันเป็นสาวจริงๆ ด้วย >O<”
            ...ซวยแล้วพี่ปาร์เกต์ U_U!
 
 
***********************************************
ในที่สุดก็มาถึงตอนนี้สักที หลังจากหายไปหลายวัน
หวังว่าคงจะไม่นานเกิดรอนะคะ ^_^
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะไรท์ไม่อยากจะบอกว่าตอนต่อไปสนุกมาก
(สปอยเวอร์เกินไปโปรดอภัย U_U)
:: ถ้าชอบก็โหวตด้วยนะเค๊อะ ติดตามด้วยก็จะมีมากเลยจ้า ^O^
***********************************************
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา