[Y]ซวยฉิบหาย!ถ้ากูร้าย...ก็อย่ารัก2

9.7

เขียนโดย DPR_Fox

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.32 น.

  56 ตอน
  51 วิจารณ์
  237.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) Chapter 39 : กลัวเมีย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
[ถ้ากูร้าย...ก็อย่ารัก2] Chapter 39 : กลัวเมีย
 

 

“เรื่องที่พี่จะไปดื่มกับฝ่ายผมไม่ได้ห้ามนะ  เข้าใจด้วย  แต่ที่ผมหาเรื่องมารั้งพี่ไว้ก็เพราะผมอยากลองใจว่าระหว่างผมกับเหล้าพี่จะเลือกอะไร  แต่ก็น่าผิดหวัง” ผมหุบยิ้มแล้วเม้มปาก

“บอกแล้วไงว่ากูตามใจมึง  ไม่อยากให้ไปก็จะไม่ไป  วันนี้กูตั้งใจจะไม่ไปแล้วล่ะ” พี่ลุกซ์บอก  ท่าทางดูอ้อนซะน่าหมั่นเขี้ยว  มีจับมือผมแล้วแกว่งไปมาด้วย  เป็นเด็กหรือไง

“โปรโมชั่น...มันจะหมดไปเมื่อไหร่?” ผมถามออกไป  พี่ลุกซ์นิ่ง  มือที่กำลังแกว่งมือผมอยู่หยุดลง “ผมได้ยินพี่คุยกับพี่ถังเรื่องนี้  ผมไม่ชอบที่พี่ต้องมาฝืนใส่หน้ากากอ้อนผม ไม่ชอบที่ต้องฝืนเอาใจทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากทำ” พูดจบผมก็เม้มปากนิดๆ ด้วยอาการติดจะน้อยใจ

“เฮ้อ” พี่ลุกซ์ปล่อยมือผมแล้วถอนหายใจออกมา “ยอมรับนะว่าฝืนทำตัวน่ารัก ขี้อ้อน  พูดแล้วก็ขนลุกว่ะแม่ง  แต่กูไม่ได้ฝืนเอาใจมึงหรอกนะ  กูอยากเอาใจมึงมาตั้งนานแล้วแต่อีโก้สูงไง  หยิ่ง ไม่กล้าทำเพราะกลัวเสียฟอร์ม  อยู่กับเพื่อนก็ทำปากดีพูดไปว่าตัวเองข่มเมียได้  ที่ไหนได้ กูยอมมึงจะตาย  โอเค ไอ้ท่าทางบ้องแบ๊วห่าเหวนี่กูตอแหลทำเองแหละเพราะคิดว่ามึงชอบ  ถ้ามึงไม่ชอบที่กูเอาใจมึงแบบนี้ มึงจะยอมให้กูเอาใจมึงตามแบบของกูไหมล่ะ?” ท่าทางกับคำพูดของพี่ลุกซ์ดูผ่อนคลายลงเรื่อยๆ จนเหมือนจะเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมซะแล้ว  ผมก้มหน้ายิ้มรับกับตัวตนของพี่มัน

“ผมน่ะรู้จักสันดานพี่ดี  ที่สำคัญ...รับได้ด้วย” ผมเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มกว้าง “เอ่อ อาจจะมีบางอย่างที่รับไม่ได้แต่ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่จะยอมรับ” ผมบอกอย่างนึกขึ้นได้  ไอ้นิสัยบางอย่างของพี่ลุกซ์ผมรับไม่ได้จริงๆ นั่นแหละแต่ก็ใช่ว่าจะต่อต้านจนไปกันไม่ได้ซักหน่อย  อะไรที่ปรับเข้าหากันได้ผมก็ปรับนะ

“มึงยอมเปลี่ยนตัวเองจากเด็กเกเร จอมหาเรื่องมาเป็นคนแบบนี้ได้ทำไมกูจะเปลี่ยนบ้างไม่ได้ล่ะ  จริงไหม?” พี่ลุกซ์วางมือไว้บนหัวของผมแล้วโยกไปมาด้วยรอยยิ้ม  สีหน้าท่าทางดูจะเอ็นดูผมเหลือเกิน  เอ๊ะ หรือว่าเราจะเหมาะกับการเป็นพี่น้องมากกว่านะ  ว่าไปนั่น ฮ่าๆ

“ถ้างั้นเรากลับมาดีกันนะ” ผมปัดมือพี่ลุกซ์ออกจากหัวแล้วยื่นนิ้วก้อยออกไป  พี่ลุกซ์นิ่งไปนิดก่อนจะดีดหน้าผากผมซะแรง

“ปัญญาอ่อนละมึง  แก่ขนาดนี้ยังจะมาเกี่ยวก้อยห่าอะไรอีก  ที่สำคัญ กูไม่ได้ทะเลาะกับมึงซักหน่อย  คิดเองเออเองงอนเองทะเลาะเองคนเดียวก็เป็นนะมึงเนี่ย” พี่ลุกซ์หัวเราะในลำคอก่อนจะเดินมากอดคอผมแล้วพากลับเข้าไปในบ้าน

ตอนเดินกลับผมเห็นหลังคนอื่นไวๆ เหมือนกำลังวิ่งเข้าบ้าน  สงสัยมาแอบดูล่ะมั้ง  แหม...แต่ละคนไม่ค่อยจะอยากรู้เลย  แต่ก็นะ...ถ้าเป็นผมก็คงจะมาแอบดูแบบนี้ด้วยแน่ๆ

 

ขณะที่กำลังรอพี่ลันกับไอ้ไอเปลี่ยนชุด ไอ้กรกับน้องไลลาก็กลับมาที่บ้าน  พี่ลุกซ์รีบลากไอ้กรเข้าไปที่ยิมด้วยสีหน้าเหี้ย...มๆ  ผมแอบหัวเราะกับคุณแม่นิดๆ แล้วเดินตามพี่ลุกซ์ไปเพื่อห้ามไม่ให้พี่มันเล่นน้องหนักเกินไป

อันดับแรก พี่ลุกซ์บังคับให้ไอ้กรเปลี่ยนเสื้อผ้า  พอเปลี่ยนไม่เร็วทันใจก็ให้ไอ้กรถอดจนเหลือแค่บอกเซอร์  ผมนี่ทั้งขำทั้งสงสารเลยล่ะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“จับเป้าให้มันดีๆ หน่อยดิวะ!!” พี่ลุกซ์ตะคอกสั่งขณะกำลังซ้อมเตะเป้า  มือขวาของไอ้กรจับเป้าเตะส่วนมือซ้ายนี่จับเป้าตัวเองแน่นเลยล่ะครับ  พี่ลุกซ์ก็เอาแตะสั่งให้จับต่ำๆ เพราะอยากซ้อมเตะต่ำแต่เตะทีนี่เฉียดไข่ไอ้กรตลอด ฮ่าๆ  ผมนี่ขำขี้แตกขี้แตน

“พี่เปอร์ ทำไมพี่กรอยู่ในสภาพนี้ล่ะคะ?” น้องไลลาที่เข้ามาในยิมพร้อมคนอื่นๆ ถามเสียงอ่อน  ตอนนี้ไอ้กรกำลังวิ่งหนีพี่ลุกซ์ในสภาพเปลือยท่อนบนอยู่ครับ  ถึงจะไม่ล่ำเท่าพวกพี่ๆ แต่ไอ้กรก็ถือว่าหุ่นดีระดับหนึ่งเลยทีเดียว

“พี่ลุกซ์แกล้งน่ะสิ  หวิดเป็นหมันมาเป็นสิบๆ รอบละ” ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะทำให้ได้ยินเสียง หึ ออกมาจากใครบางคน   ไม่ต้องเดาครับ  พี่ลันนั่นเองที่กำลังทำหน้าสะใจอยู่

“ไลลา ไอ้กรมันทำอะไรเรามากที่สุด?” พี่ลันหันมาถาม  น้องไลลารีบก้มหน้าซ่อนสีหน้าเขินอายทันที  อย่าบอกนะว่าไปถึงขั้นนั้นกันแล้ว

“พี่ลัน ถามอะไรแบบนั้นครับ” ไอ้ไอตีแขนพี่ลันเบาๆ

“บอกมานะไลลา!” พี่ลันเดินไปจับไหล่ของน้องสาวไว้แล้วตะคอกถาม

“พี่ลัน...ไลลาอายนะ” น้องไลลาก้มหน้างุดด้วยท่าทางเขินสุดๆ

“อย่าบอกนะว่ามีอะไรกับมันแล้ว” พี่ลันกัดฟันถามเสียงเหี้ยมจนน้องไลลาหน้าตื่นอย่างตกใจ

“ไม่ใช่ค่ะ  แค่...” น้องไลลารีบปฏิเสธก่อนจะก้มหน้าแล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะที่ปาก  ผมพอจะเข้าใจแล้วครับว่ามากสุดคงจะแค่จูบ  แต่ดูเหมือนพี่ลันจะไม่เข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจน่ะสิ

“ใช้ปากงั้นเหรอ!?! นี่เรากล้าใช้ปากให้มันเลยเรอะ!?!” พี่ลันตะคอกเสียงดังจนพี่ลุกซ์หยุดวิ่งไล่เตะไอ้กรแล้วหันมาสนใจพวกเราแทน

“เฮ้ยพี่ลัน  ไปกันใหญ่แล้ว  น้องคงหมายถึงจูบน่ะครับ” ไอ้ไอรีบกระโดดไปดึงพี่ลันออกมาเพราะท่าทางเมื่อครู่ของพี่ลันเหมือนกำลังจะบีบคอน้องไลลาก็ไม่ปาน  โหดนะเนี่ย

“จุ๊บกันนิดเดียวเอง” น้องไลลาที่เซมาหาผมเพราะผมดึงมาโอบเอาไว้เบาๆ พูดเสียงอ่อนประหนึ่งว่ากลัวพี่ลันมาก

“ฮะ!?! จูบเรอะ! นี่มึงกล้าจูบน้องกูเลยเหรอวะไอ้กร!!” พี่ลุกซ์หันไปจ้องไอ้กรตาเขียวปั้ดก่อนจะวิ่งเข้าไปหวังจะชาร์จตัว  ส่วนไอ้กรเห็นท่าไม่ดีก็วิ่งสิครับ

“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ  คือ...ก็แบบ...อุบัติเหตุปากก็เลยแตะกันเฉยๆ  พี่กรไม่เคยรุ่มร่ามกับไลลาเลยนะคะพี่ลัน” น้องไลลาเข้าไปกอดแขนอ้อนพี่ชายซึ่งนั่นก็ได้ผลชะงัด  พี่ลันยอมเข้าใจแต่โดยดี “เอ่อ...พี่ลันบอกพี่ลุกซ์หยุดแกล้งพี่กรเถอะค่ะ” น้องไลลาขอร้องเพราะตอนนี้ไอ้กรกำลังร้องโหยหวนเนื่องจากถูกพี่ลุกซ์ล็อกตัวเอาไว้แล้วเอาแขนอีกข้างสอดเข้าไปใต้หว่างขาแล้วยกแขนขึ้นซึ่งนั่นคงทำให้ไข่ระบมไม่น้อย

“ไอ้ลุกซ์ เหลือให้กูเล่นบ้างสิโว้ย!” พี่ลันตะโกนบอกก่อนจะวิ่งไปจัดการไอ้กรด้วยคนจนน้องไลลาต้องวิ่งเข้าไปช่วย

“พี่เปอร์ พี่โอเคแน่นะกับการกลับไปคบกับเขา?” ไอ้ป้องถามพลางยืดเส้นยืดสายอยู่กับที่เบาๆ

“ไม่รู้ว่ะ” ผมยักไหล่แล้วถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะวอร์มอัพไปพร้อมๆ กับไอ้ป้องแล้วค่อยลงสนามซ้อม

 

พวกเราฝึกต่อยลมเตะเป้าแล้วก็เข้าคู่ซ้อมกันอย่างจริงจังโดยผมถูกจับให้เข้าคู่แข่งกับพี่ลุกซ์โดยที่เราจะแข่งกันบนเบาะแล้วสวมอุปกรณ์ป้องกัน คือสนับแข้งและนวม

ไอ้ผมก็งงนะว่าทำไมถึงให้ผมมาแข่งกับพี่ลุกซ์  ผมนี่กากชนิดรากหญ้าส่วนพี่ลุกซ์นี่เทพระดับแชมป์  แถมยังมีสายดำสองดั้งการันตีความเก่งอีกต่างหาก  ถ้าพี่ลุกซ์ไม่ออมมือถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลยนะครับพี่น้อง

เราเริ่มจ้องจับทางกันทันทีเมื่อพี่ลันที่เป็นกรรมการสั่งเริ่ม  ผมน่ะมีทักษะเทควันโดติดตัวส่วนพี่ลุกซ์คาราเต้  ที่ผมเป็นเทควันโดเพราะพี่ลันกับไอ้ไอสอนเทควันโดให้ผมซึ่งจะเน้นใช้ขาเตะซะส่วนใหญ่

“โทษนะ ให้มาแข่งไม่ได้ให้มาเล่นจ้องตากัน” พี่ลันสั่งหยุดก่อนจะพูดขึ้นเพราะผมกับพี่ลุกซ์เอาแต่เดินไปมาพลางจ้องหน้ากันอย่างจับทาง  ผมน่ะจ้องด้วยสีหน้าจริงจังส่วนพี่ลุกซ์ก็ดูสบายๆ  ไม่ยอมออกหมัดออกเท้าซักที

ตุบ!

ฟึ่บ!

จังหวะที่พี่ลุกซ์หันไปพยักหน้าให้พี่ลันผมก็รีบตวัดเท้าไปหวังจะเตะที่หัวแต่พี่ลุกซ์รู้ตัวทันรีบหลบแล้วคว้าขาผมเอาไว้ก่อนจะกระชากเข้าหาตัวจนผมเสียหลักเซไปซบพี่ลุกซ์เต็มๆ

ผมอึ้งไป ทั้งอายทั้งเสียหน้า  พี่ลันที่เป็นกรรมการแม่งก็ไม่ยอมสั่งให้หยุด  ปล่อยให้พี่ลุกซ์มันกอดรัดผมเอาไว้โดยมีผมดิ้นขลุกขลักอยู่ได้

“สั่งหยุดสิพี่ลัน!” ผมหันไปบอกพี่ลันอย่างหัวเสีย

“เอ้า หยุดๆ” พี่ลันตีหน้ามึนก่อนจะสั่งหยุด  เดิมทีเทควันโดและคาราเต้จะมีการสั่งของตัวเองอยู่แล้วแต่เพราะแต่ละคนเล่นไม่เหมือนกันเราจึงตกลงกันว่าจะสั่งเป็นภาษาไทย

“ฮึ่ย!” ผมรีบถอยกลับไปหลังเส้นฝั่งของตัวเองทันทีด้วยท่าทางฮึดฮัด  ผมอายมากเลยนะครับ  ไม่ได้อายพี่ลันไอ้ไอหรอกแต่อายคนอื่นๆ มากกว่า  ยิ่งน้องไลลาเขินกับคู่เราผมยิ่งเขินกว่า

หลังจากนั้นเราก็เริ่มแข่งกันต่อโดยมีผมเป็นฝ่ายบุกอยู่ฝ่ายเดียว  พี่ลุกซ์ไม่สวนเลยครับเอาแต่หลบกับป้องกันเท่านั้นทำให้พอหมดเวลาจึงไม่มีใครได้แต้ม  พี่ลุกซ์เก่งมากจริงๆ ครับ  ไม่มีหลุดแต้มมาให้ผมเลย

คู่ต่อไปเป็นน้องไลลากับไอ้ป้องครับ  ตอนนี้ไอ้ป้องมันเตี้ยกว่าน้องไลลาด้วยซ้ำและคิดว่าฝีมือคงน้อยกว่า  ที่สำคัญ มันคงไม่กล้าทำอะไรผู้หญิงหรอก  จริงๆ แล้วน้องไลลาเป็นผู้หญิงที่สูงมากทีเดียว  เตี้ยกว่าผมนิดเดียว  จนบางทีผมยังคิดว่าตัวเท่ากันด้วยซ้ำ  ตอนอยู่ม.ต้นตัวเล็กๆ เอง  ทำไมสูงวะเนี่ย? บ้านนี้เขาเลี้ยงลูกด้วยเสาไฟฟ้าหรือเปล่าวะ?

แข่งจบน้องไลลาก็ชนะไปตามระเบียบแต่คะแนนก็ไม่ได้เยอะ  ดูฟอร์มของไอ้ป้องแล้วตอนนี้มันอาจจะเก่งกว่าผมด้วยซ้ำเพราะผมไม่ค่อยได้ซ้อม  ท่าเตะต่อยและความคล่องแคล่วก็ดีอยู่หรอกแต่แรงไม่ค่อยจะมีเพราะไม่ได้ออกกำลังกายเลย  หลังจากนี้คงต้องฟิตหน่อยแล้วล่ะ  ผมผอมเกินไปแล้วจริงๆ

ถัดมาเป็นคู่ของพี่ลันกับไอ้ไอครับ  คู่นี้มีพี่ลุกซ์เป็นกรรมการและช่วยโกงคะแนนให้ไอ้ไอตลอด  แต่ไอ้ไอมันเก่งมากจริงๆ ครับ  ที่สำคัญ มันโหดมาก  มันกล้าเอาตีนตบหน้าผัวมันได้ไงวะ  มีเตะหัวด้วยแต่เตะไม่แรงหรอกครับเพราะไม่ได้ใส่เครื่องป้องกัน  สองคนนี้เขาเทพละ ยั้งมือยั้งเท้าได้  ทำเบาๆ พอให้เห็นว่าได้คะแนนเท่านั้นแหละ

และแล้วก็มาถึงคู่โหด  คู่พี่ลุกซ์กับพี่ลัน  ตอนแรกไอ้ไอต้องแข่งกับพี่ลุกซ์เพราะมันชนะพี่ลันมาแต่พี่ลันอาสาแข่งแทน  ส่วนน้องไลลาไม่ให้แข่งครับเพราะน้องเป็นผู้หญิง  สู้สองพี่ไม่ได้อยู่แล้ว

ไอ้ไอที่เป็นกรรมการสั่งเริ่มปุ๊บทั้งคู่ก็เข้าหั่นหำ เอ้ย! ห้ำหั่นกันทันทีโดยมีพี่ลัน(นวมแดง)เปิดฉากบุกด้วยการเตะไปที่หัวของพี่ลุกซ์(นวมน้ำเงิน)แต่พี่ลุกซ์เอี้ยวตัวหลบแล้วพุ่งเข้าไปต่อยที่บริเวณลิ้นปี่ของพี่ลันทันทีแต่พี่ลันปัดได้ทำให้พี่ลุกซ์รีบกระโดดถอยหลังป้องกันการโดนสวน

เมื่อเห็นว่าฝ่ายน้ำเงินเสียหลักเล็กน้อย ฝ่ายแดงก็รีบพุ่งเข้าไปหวังจะเตะลำตัวแต่ฝ่ายน้ำเงินไม่ได้เสียหลักนะครับทำให้ฝ่ายแดงถูกล็อกขาเอาไว้ จากนั้นฝ่ายน้ำเงินก็โยกให้ฝ่ายแดงล้มลงไป  ขณะที่ฝ่ายน้ำเงินจะเข้าไปซ้ำ! ฝ่ายแดงก็รีบกลิ้งหลุนๆ หลบรัศมีหมัดของฝ่ายน้ำเงินแล้วก็เข้าโกลไป  เอ้ย ไม่ใช่! แล้วกรรมการก็สั่งหยุดสิวะ เออ!

จะว่าไป ฟอร์มของทั้งสองฝ่ายไม่เหมือนกันเลยครับ  ไม่ว่าจะท่าการเตะต่อยหรือแม้กระทั่งฟุตเวิร์ก  ในการเตะ  พี่ลุกซ์มักจะสแนปขาเสมอส่วนพี่ลันจะเตะออกไปทันที  ส่วนการต่อย พี่ลันไม่ค่อยต่อยให้เห็นเพราะเน้นเตะซะส่วนใหญ่ส่วนพี่ลุกซ์จะต่อยบ่อย  เวลาต่อพี่ลุกซ์จะมีการเก็บหมัดและชักหมัดกลับเสมอ  ผมว่าบางทีพี่ลุกซ์ก็จะผสมการต่อสู้แบบทหารอเมริกันเข้าไปด้วยเพราะท่าบางท่าผมไม่เคยเห็นพี่ลันหรือใครใช้เลย

“ไอ้ลุกซ์ ไอ้ขี้โกง! มึงจะทุ่มอะไรนักหนา!!” หลังจากสั่งหยุดแป๊บๆ ไอ้ไอก็สั่งแข่งต่อและนั่นก็ทำให้พี่ลันบ่นออกมาเนื่องจากพี่ลุกซ์จับพี่ลันทุ่มไปแล้วถึงสองรอบ  ถึงจะไม่ได้คะแนน(เพราะไม่ได้แข่งยูโด)แต่ผมคิดว่าพี่ลุกซ์คงได้ความสะใจกลับมาไม่น้อย  ดูจากสีหน้าน่ะนะ

“บอกแล้วว่าให้มาเรียนยูโดด้วยจะได้ไม่เสียเปรียบ ฮ่าๆ” พี่ลุกซ์ปล่อยแขนพี่ลันที่นอนแผ่อยู่บนเบาะออกก่อนจะถอยกลับไปยืนหลังเส้นของตัวเอง

เห็นพี่ลุกซ์เคยบอกว่า คนที่เรียนคาราเต้มักจะเรียนพื้นฐานของยูโดไปด้วยเพราะสามารถใช้ได้ในการแข่งขัน

ทั้งสองหนุ่มงัดกลยุทธ์มาทำคะแนนกันอย่างเต็มที่โดยมีการโกงกันแบบหน้าด้านๆ เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง  ด้วยความที่ว่าพี่ลันเป็นคนซื่อตรงส่วนพี่ลุกซ์เป็นไม้เลื้อยทำให้พี่ลันแพ้ไปจากการโกงคะแนนของพี่ลุกซ์นั่นเอง  ส่วนไอ้ไอนี่ก็กลัวพี่ผัวจนต้องเออออห่อหมกไปด้วยตลอด




50% left




พอเหนื่อยกันแล้วพวกเราก็ไปอาบน้ำแล้วมาทานข้าวที่คุณแม่กับแม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้  ดูเหมือนว่าไอ้กรกับไอ้ป้องจะคุยถูกคอกันมากเพราะเห็นคุยงุ้งงิ้งกันอยู่สองคน  หัวเราะบ้างแข่งกันคุยบ้างดูน่าเอ็นดูดี

“เออลุกซ์  ได้ยินว่าวันนี้ไปกินเหล้าเหรอ?” พี่ลันถามขึ้นขณะที่เรากำลังทานข้าวกันอยู่

“เออ” พี่ลุกซ์พยักหน้าตอบแล้วตักข้าวเข้าปาก

“กูก็ว่าจะไปเหมือนกัน  นัดไอ้ไทไอ้ขลุ่ยไว้  เปอร์ ไปด้วยกันไหม?” พี่ลันบอกพลางหันมาถาม  พี่ไทกับพี่ขลุ่ยเขาแยกกันไปทำงานช่วยที่บ้านแต่ก็ยังมาพบปะกับพี่ลันอยู่บ่อยๆ  ก็พวกเขาเป็นเพื่อนรักกันนี่ครับ  พูดไปก็คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ แฮะ

“ไปๆ ผมไปด้วย” ผมรีบบอก  ไม่ได้เจอพวกพี่ๆ นานแล้ว  คิดถึงมาก

“เฮ้ย ไม่ให้ไป” พี่ลุกซ์หันมาว้ากใส่หน้าผมที่นั่งข้างๆ ทันทีที่ผมพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

“อะไรกันลุกซ์? ตัวเองไปได้แต่น้องไปไม่ได้งั้นเหรอ?” คุณแม่เย้า

“ผมไม่ให้ไป” พี่ลุกซ์ยื่นคำขาดด้วยสีหน้าซีเรียสทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเริ่มมาคุ  ผมหน้างอทันทีที่ถูกห้าม

“เฮอะ ทีตัวเองยังไปได้แต่ไม่ให้ไปเนี่ยนะ  เห็นแก่ตัวชะมัด” ผมบ่นอุบอิบเสียงเบา

“อย่าดื้อน่าเปอร์  ไม่ให้ไปคือไม่ให้ไป” พี่ลุกซ์ยืนยันจนผมหน้าหงิกกว่าเดิม

“เอางี้ไหม? เดี๋ยวกูไปร้านเดียวกับมึงแต่นั่งแยก  ไอ้เปอร์จะได้อยู่ในสายตา” พี่ลันเสนอ

“ยังไงก็ไม่ได้  ไม่ให้กินเหล้า  เป็นโรคกระเพาะอยู่ทำไมไม่ดูแลตัวเองฮึ?” พี่ลุกซ์หันมาว่าผมแล้วตบหัวเบาๆ  ผมจึงได้แต่ทำปากยื่นอย่างเซ็งๆ  ก็รู้อยู่หรอกว่าที่ห้ามเพราะเป็นห่วง แล้วไม่คิดว่าผมจะห่วงพี่ลุกซ์บ้างหรือไงนะ

“แล้วถ้าผมห้ามพี่บ้างล่ะ? ผมเป็นโรคกระเพาะแต่พี่อาจจะตับแข็งก็ได้นะ” ผมหันไปตอบโต้ทำให้คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย

“ก็ไม่ได้ตั้งใจจะกินเยอะนี่หว่า” พี่ลุกซ์บอกแล้วตักหมูมะนาวใส่ปากให้ผม

“ผมก็ไม่ได้จะกินเยอะซักหน่อย” ผมเคี้ยวหมูพลางพูดจนพี่ลุกซ์ขำ

“เป็นห่วง” พี่ลุกซ์บิดจมูกผมก่อนจะพูดออกมาเสียงอ่อนเล่นเอาผมเขินเลย

“นึกว่ากลัวเมีย” พี่ลันว่า

“มึงนี่ไม่รู้อะไร” พี่ลุกซ์พูดขึ้นมาทำให้คนอื่นๆ หันมามองพี่ลุกซ์เพื่อรอฟังว่าพี่มันจะพูดอะไรต่อ “กูนี่รองประธานชมรมกลัวเมียนะเว้ย ฮ่าๆ” ทันทีที่พี่ลุกซ์พูดจบทุกคนก็ระเบิกเสียงหัวเราะออกมาไม่เว้นแม้แต่ไอ้ป้องก็ตาม

“ใครประธานวะ?” คุณพ่อถามกลั้วเสียงหัวเราะ

“พ่อไง” พี่ลุกซ์ยักคิ้วนิดๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นไปอีก  คุณพ่อนี่ถึงกับตบโต๊ะอย่างชอบอกชอบใจ

“ถ้ากลัวแล้วทำไมถึงไม่ตามใจ?” ผมถามเสียงเบา

“กูตามใจมึงทุกเรื่องไม่ได้หรอกเปอร์  อยากทำ อยากได้แต่ละอย่างดีๆ ทั้งนั้น” พี่ลุกซ์ประชดพลางขยี้หัวผมเบาๆ

“ว่าแต่น้องนะลุกซ์  ตัวเองทำแต่ละอย่างนี่ก็ดีๆ ทั้งนั้น” คุณแม่ว่ากลับบ้างผมจึงหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่พี่ลุกซ์อย่างสะใจ

“แม่ก็เข้าข้างแต่ไอ้เปอร์  นี่ผมเป็นลูกนะครับ ทำไมไม่เข้าข้างผมบ้าง?” พี่ลุกซ์ทำท่าหาเรื่อง

“เอ้า ก็น้องเปอร์น่ารักนี่นา  ไม่เหมือนเรา ทำตัวกร้านโลกไปได้” ผมยิ้มกริ่มทันทีที่คุณแม่ว่าพี่ลุกซ์แล้วอวยผม

“ปกติแม่สามีกับลูกสะใภ้ต้องไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอ?” พี่ลุกซ์บ่นอุบอิบ

“ยกเว้นบ้านนี้จ้ะ เนอะน้องเปอร์ น้องไอ” คุณแม่ยิ้มให้พวกผมทั้งสองคนก่อนจะหันไปเบ้ปากให้ลูกชายทั้งสองของตัวเอง

 

เราทานข้าวกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนานจนกระทั่งอิ่มจึงแยกย้ายโดยพี่ลุกซ์ไปส่งผมกับไอ้ป้องที่บ้านส่วนตัวเองก็จะไปสังสรรค์ต่อ  ผมตั้งใจจะไปกินเหล้ากับพี่ลันแม้จะถูกห้ามก็ตาม  ทีพี่ลุกซ์ยังไปได้ทำไมผมจะไปบ้างไม่ได้  นี่ผมงดเหล้ามานานแล้ว ขอซักหน่อยแล้วกัน

ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วโทรหาพี่ลันเพื่อถามว่าจะไปร้านไหนจากนั้นก็ขับรถตามไปทันที  ตื่นเต้นว่ะ  ครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่จะได้พบปะกับพวกพี่ๆ  ไปกินเหล้ากันแบบนี้ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ เลยแฮะ  หวังว่ารอบนี้ผมจะไม่โดนมอมนะเออ

“ไอ้เปอร์ๆ มานี่เร็วไอ้น้อง” เมื่อผมเดินเข้าไปในร้านแล้วชะโงกหน้ามองหน้าพวกพี่ลันผมก็ได้ยินเสียงคุ้นหูเรียก  เมื่อผมมองไปตามเสียงก็เห็นพี่ไทกวักมือเรียกหย็อยๆ  ผมยิ้มแล้วรีบเดินเข้าไปหาทันที

“หวัดดีพี่” ผมยกมือไหว้พี่ขลุ่ยกับพี่ไทแล้วรับไว้ไอ้เมฆกับไอ้คิมที่ติดสอยห้อยตามพวกพี่ๆ มาด้วย

“พี่ลุกซ์ไม่มาเหรอครับ?” ไอ้เมฆถามพลางมองไปเรื่อยๆ ด้วยสายตาหวั่นๆ  จนถึงตอนนี้ไอ้เมฆก็ยังกลัวพี่ลุกซ์อยู่เลยครับ  ก็โดนทำไว้เยอะสมัยเรียนนี่หว่า ฮ่าๆ

“ไม่มาๆ” ผมโบกมือไปมาพลางนั่งบนโซฟาตัวเดียวเดียวกันกับพี่ขลุ่ยและไอ้เมฆโดยผมนั่งอยู่ข้างนอก

“ผัวไม่มาคุมก็เต็มที่เลยนะมึง  กูไม่ฟ้อง คึๆ” พี่ขลุ่ยว่าผมจึงยิ้มให้แล้วยืดตัวจัดเสื้อตัวเองเล็กน้อยเพื่อเสริมหล่อ

“”ไม่มาห่าอะไร” พี่ลันพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองอย่างสงสัย “ไอ้ลุกซ์อยู่ห้องวีไอพีของร้านนี้” ทันทีที่พี่ลันบอกผมก็ยืนขึ้นอัตโนมัติก่อนจะถูกพี่ขลุ่ยดึงให้นั่งลง

“ไอ้ฉิบหาย!” ผมอุทานพลางเขย่าขารัวๆ อย่างลนลานและตกใจ  คงไม่ใช่ว่าพี่มันจะเดินออกมาเล่นข้างนอกแล้วมาป๊ะกับพวกเราหรอกนะ  ไอ้พวกพี่ๆ นี่ก็เลือกที่นั่งดีเหลือเกิน  เอาซะติดทางเดินเข้าห้องวีไอพีเลย

“งั้นมึงมานั่งนี่มา” พี่ไทดันไอ้คิมขยับเข้าไปนั่งติดพี่ลันแล้วขยับให้ผมเพื่อให้นั่งหันหลังให้กับทางเดินเข้าห้องวีไอพี

ไม่รู้ว่าพี่ไทแกล้งเมียตัวเองหรือเปล่านะ  ก็รู้ว่าไอ้คิมไม่ถูกกับพี่ลันยังจะให้มันไปนั่งติดกับพี่ลันอีก  ดูสีหน้าของทั้งสองคนสิ  ทำหน้าเบื่อกันเสียเต็มประดา ฮ่าๆ เห็นแล้วก็ตลกว่ะ

“เอาเถอะ ในห้องวีไอพีมีสาวๆ นุ่งสั้น นมโตเฮียคงไม่ออกมาหรอก ฮึๆ” พี่ไทพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์หลังจากผมเดินไปนั่งกับพี่แกแล้ว

“เฮียคงไม่ชอบนมโตๆ หรอก  ไม่งั้นคงไม่เอาไอ้เปอร์ ฮ่าๆ” พี่ขลุ่ยแซว ผมจึงหยิบเฟรนช์ฟรายแล้วโยนใส่ทำให้พี่มันรีบเอนตัวหลบไปซบไอ้เมฆอย่างเนียนๆ  คบกันมาตั้งนานแล้วยังต้องหาโอกาสแต๊ะอั๋งอีกเนอะ  พี่ขลุ่ยนี่อ่อนจริงๆ ฮ่าๆๆ

“เฮ้ย! พี่ลุกซ์มา!” ไอ้ไอนี่นั่งอยู่ข้างพี่ลัน เยื้องๆ กับผมเหลือกตาแล้วชี้ไปที่ด้านหลังของผม  ผมรีบดึงชายเสื้อนอกของพี่ไทมาคลุมหัวตัวเองแล้วเอนตัวนอนเกือบจะราบไปกับโซฟาทันที “อิๆ ล้อเล่นนะพี่เปอร์  ซ้อมไว้เผื่อพี่ลุกซ์มาจริงๆ” ผมมุดหัวออกจากเสื้อพี่ไทแล้วยืดตัวตรงอย่างมีมาดทันที  ผมนิ่งไปสักพักแล้วโยนนักเก็ตใส่ไอ้ไออย่างรวดเร็วชนิดที่มันตั้งตัวไม่ทันทำให้นักเก็ตโดนกลางหน้าผากมันเต็มๆ ไอ้ไอรีบเอากระดาษทิชชู่มาเช็ดหน้าผากของตัวเองทันที

ตุบ!

“แกล้งเมียกู” พี่ลันแตะขาเบาๆ ก่อนจะพูด  แหม...รักกันดีเหลือเกิน  หมั่นไส้

“ทำร้ายน้องแบบนี้ชงเหล้าให้น้องเลย” ผมหยิบแก้วเปล่าของตัวเองไปวางไว้ตรงหน้าพี่ลัน  พี่มันส่ายหน้าไปมาแล้วทำท่าจะเทเหล้าใส่ลงไปในแก้วของผม “อ๊ะๆ ถ้าเข้มแล้วผมเมาล่ะก็ผมจะฟ้องพี่ลุกซ์ว่าพี่ลันบังคับให้ผมกินหนัก” ผมรีบขู่ทันทีเพราะดูเหมือนพี่มันจะเทเหล้าลงไปเยอะๆ

“ก่อนกูจะโดนมึงโดนก่อนแน่ ข้อหาหนีเที่ยว” พี่ลันยิ้มมุมปากอย่างเป็นก่อนแล้วเทเหล้าลงไปซะเยอะ  ผมกรอกตามองเพดานอย่างเซ็งเป็ดทันที

“มึงก็แกล้งน้องตลอดไอ้ลัน นี่น้องรหัสมึงนะ  ใส่ลงไปอีกดิสัตว์” พี่ขลุ่ยยิ้มหวานต่อว่าพี่ลันก่อนจะยกขวดเหล้าเทใส่แก้วผมไปอีก  ผมทำตาเหลือกแล้วทิ้งตัวลงไปพิงพนักโซฟา

“ผมเมารอแล้วละกัน” ผมแกล้งหลับทำให้พี่ไทเอาศอกมากระทุ้งท้องเพื่อปลุกให้ผมลุกขึ้นมาดื่ม

“รุ่นพี่ชงเหล้าให้แล้วนะมึง  ไม่แดกไม่ได้” พี่ไทยกแก้วเหล้ามาตั้งไว้ตรงหน้าผมด้วยสีหน้าสะใจสุดๆ  ผมถอนหายใจ ทำปากยื่นนิดๆ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ

“กินเร็วๆ ดิเปอร์” พี่ขลุ่ยเร่งเพื่อให้ผมดื่มเยอะกว่าการจิบเมื่อครู่

“นี่พี่กะให้ผมเมาเลยหรือไงวะ?” ผมย่นคิ้วนิดๆ แต่ก็ยอมดื่มท่ามกลางสีหน้าพอใจของพวกพี่ๆ ขี้แกล้ง

 

พวกเราดื่มกันไปซักพักจนผมเริ่มคึกขึ้นมานิดๆ จึงออกไปเต้นเบาๆ ข้างหน้าเวทีกับพี่ไทและพี่ขลุ่ย  ตอนแรกสองคนนี้จะไม่ได้มากับผมหรอกครับเพราะถ้าพวกพี่มันมาเมียก็จะตามมาด้วยแต่พี่ลันบอกให้พี่สองคนมาดูผมด้วยน้องๆ จึงปล่อยมา  ไม่รู้ว่าจะตามมาดูทำไม

“พี่ ผมว่าชวนไอ้เมฆกับไอ้คิมมาด้วยดีกว่านะ” ผมบอกพี่ๆ เพราะตอนนี้เริ่มมีสาวเข้ามาหาพวกพี่แกแล้ว  คนหล่อก็งี้แหละครับ  เดินอ่อยนิดๆ หน่อยๆ สาวๆ ก็เข้ามาหาเอง

“ไม่ต้องๆ แบบนี้แหละดีแล้ว ฮึๆ” พี่ไทรีบบอก  สงสัยอยากเต๊าะสาวแต่ถูกเมียคุมตลอดล่ะสิ  ร้ายไม่เบา  แอบหม้อสาวต่อหน้าเมียแบบเนียนๆ เลยนะเนี่ย

“เปอร์ มึงไหวป่ะเนี่ย? ดูเซๆ นะ” พี่ขลุ่ยถามขณะที่ผมกำลังโยกไปมาตามจังหวะเพลง  ผมโยกเฉยๆ นะ ไม่ได้เซซักหน่อย

“แค่นี้สบายมากพี่” ผมหันไปยักคิ้วให้พี่ขลุ่ยเพื่อยืนยัน

ขณะที่กำลังเต้นๆ อยู่ผมก็แอบไปกระแซะสาวสวยข้างๆ บ้างบางครั้งโดยการไปเต้นเบียดๆ พอชนกันหน่อยก็ทำเป็นขอโทษโดยแอบส่งสายตาให้เจ้าหล่อนบ้าง  บอกตรงๆ นะว่าถึงผมจะเป็นแฟนของผู้ชายแต่หน้าตาแบบผมนี่เรียกได้ว่าหล่อเลยนะเออ  ไม่ได้น่ารักอะไรด้วย  ไม่ว่าจะมองมุมไหนผมก็หล่อแบบแมนๆ ชัดๆ ไม่เชื่อถามผู้หญิงคนข้างๆ ผมได้ ฮ่าๆ

“ชื่ออะไรเหรอคะ?” โอ๊ะ! ถูกผู้หญิงคนข้างๆ ทักแล้วหลังจากส่งสายตาให้ตั้งหลายครั้ง

“ชื่อเปอร์ครับ มีผัวแล้ว” พี่ไทตอบแทนซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรีบหันไปตีแขนพี่มันทันที

“ฮ่าๆ พี่เขาล้อเล่นน่ะครับ” ผมหันกลับไปบอกผู้หญิงคนนั้น  ท่าทางของผมกับพี่ไทเมื่อกี้ก็เหมือนคนที่กำลังล้อกันเล่นจริงๆ นั่นแหละ

“แล้วตกลงชื่ออะไรคะ?” ผู้หญิงคนนั้นถามอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มไม่ถือสาการล้อเล่นเมื่อครู่

“ชื่อเปอร์ครับ แล้วคุณล่ะ” ผมถามกลับพลางยิ้มหล่อ(?)ๆ ให้

“น้องคะ อยากรู้ชื่อพี่นี่จบม.ปลายหรือยัง?” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ผมอย่างเอ็นดูจนผมหน้าเสีย

“ฮ่าๆๆ” เสียงพี่ขลุ่ยกับพี่ไทหัวเราะประสานเสียงกันทันทีที่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูด  โห เสียงเพลงดังขนาดนี้ยังจะกล้าได้ยินอีกเนอะ  อายเลย

“โทษนะครับ ผมอายุ 25 แล้ว” ผมทำหน้าเซ็งๆ ใส่ยัยนั่นก่อนจะรีบเดินหนีไปเต้นที่อื่น  ไม่เอาก็ได้วะ  มีอย่างที่ไหนมาว่าผมยังไม่จบม.ปลาย  นี่จบปริญญาโทแล้วนะเฟ้ย! เกียรตินิยมด้วย ไม่อยากจะโม้ เฮอะ!

เมื่อผมย้ายที่พวกพี่ๆ ก็ตามมาโดยไม่ลืมหัวเราะขำผมมาด้วย  ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา  ก็แค่หน้าเด็กจนถูกผู้หญิงเข้าใจผิดแบบซึ่งๆ ไปสองครั้งเท่านั้นเอง  ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคนอื่นๆ ถึงอยากจะดูหน้าเด็กนัก  ผมว่าบางทีมันก็ไม่ดีเสมอไปหรอกเพราะบางทีก็ทำให้โดนเด็กลูบคมเอาได้  แต่ก็นะ ผมก็ไม่อยากหน้าเหี่ยวหรอกแต่แค่อยากให้ดูมีอายุนิดๆ ตามวัยจะได้ดูน่าเกรงขามบ้าง  ยัยผู้หญิงที่ผมกะจะจีบเมื่อกี้ผมว่ายังเป็นเด็กมหาลัยอยู่แน่ๆ

เฮอะ! พูดแล้วก็เซ็งโว้ย!!





 
++++++++++++++++++++++++++++++

เปอร์เอ๊ยเปอร์ ฮ่าๆๆ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา