นักเขียนจอมติส กับ นายมาเฟียเอาแต่ใจ

-

เขียนโดย ZerMay

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 01.17 น.

  18 ตอน
  1 วิจารณ์
  21.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) นักเขียนจอมติส กับ นายมาเฟียเอาแต่ใจ #12

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     
     ผมเดินตามพี่กิจเข้าไป ก็พบว่า มีผู้คนใส่สูทสีดำ หน้าตาดูน่ากลัว แต่พอเห็นหัวหน้าสาขาอย่างพี่กิจเดินเข้ามาก็หยุดยืนพร้อมโค้งตัวทักทายอย่างพร้อมเพรียง แถมยังหันมามองผมด้วยสีหน้าสงสัย ว่าผมเป็นใคร แล้วมากับหัวหน้าสาขาของพวกเค้าได้ยังไง

 

"เข้ามานั่งในห้องพี่ก่อนสิ" พี่กิจพูดขึ้น พร้อมเปิดประตูห้องให้ผม

 

"โหห ห้องพี่ใหญ่จัง แล้ววันๆพ่อให้พี่ทำอะไรบ้างอ่ะ" ผมถามขึ้นทันที ที่เหยียบเข้ามาในห้อง

 

"ก็ทุกอย่างนั่นแหละ หัวหน้าไว้ใจให้พี่ดูแลทางนี้" พี่กิจพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"โหหหห ทำไมพ่อผมใช้งานพี่หนักแบบนี้เนี่ย อย่างนี้ต้องเล่นงานซะหน่อยแล้ว" ผมพูดขึ้นอย่างขำๆ

 

"ไม่หรอก พี่เต็มใจทำ คนในครอบครัวพี่ มีทุกวันนี้ได้เพราะหัวหน้า พี่อยากทำทุกอย่างเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระท่านบ้าง" พี่กิจพูด พร้อมเปิดแฟ้มต่างๆ เพื่อเช็คอะไรก็ไม่รู้

 

"แล้วพี่ไม่มีคนสนิทหรอ" ผมถามขึ้น

 

"มีสิ แต่พี่ใช้เค้าไปตรวจสอบอะไรนิดหน่อย วันนี้ก็เลยไม่เห็นหน้า ปกติก็อยู่ข้างๆพี่ตลอดนั่นแหละ" กิจพูดบอก

 

"แล้ววันนี้ที่สาขามีงานยุ่งอะไรมั้ย ผมมารบกวนพี่รึเปล่า" ผมพูดขึ้นอย่างเกรงใจ

 

"หัวค่ำมีประชุม เดี๋ยวเราเข้าไปฟังการประชุมกับพี่แล้วกัน จะได้เรียนรู้งานไว้บ้าง" พี่กิจพูดขึ้น ส่วนผม หน้ามู่ทันที เพราะผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาซะเลย

 

"ไม่เข้าไม่ได้หรอ ผมไม่ชอบอ่ะ อึดอัดตายเลย" ผมพูดบอก

 

"เอาหน่า แค่เข้าไปนั่งเฉยๆก็พอ โอเคมั้ย หัวหน้าจะได้ดีใจ ที่ลูกชายคนเดียวของเค้า ยอมเข้าฟังการประชุม" กิจพูดบอกออกมาอีก

 

"ก็ได้ หวังว่าคงไม่นานนะ ผมไม่ชอบรออะไรนานๆ เดี๋ยวจะสติแตก เหวี่ยงลูกน้องพ่อ" ผมพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"เรานี่นะ จริงๆเลย" พี่กิจพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"พี่ทำงานกับพ่อมานานแบบนี้พี่ก็รู้จัก โยชิ กับ ยัยเรกะ หน่ะสิ" ผมถามขึ้น

 

"เอ่อออ กะก็รู้จัก" พี่กิจตอบกลับเสียงตะกุกตะกัก ผมเลยหันไปจ้องหน้าพี่เค้านิ่งๆ

 

"มีอะไรรึเปล่าพี่ พอพูดถึงสองคนนี้ก็ดูพี่แปลกๆไปนะ" ผมพูดขึ้น

 

"ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เราเถอะรู้จักคุณโยชิ ด้วยรึไง"

 

"รู้จักสิพี่ เด็กๆ ผมเล่นกับมันบ่อย ถึงจะโตกว่าผมก็เถอะ แต่เราก็สนิทกันมาก ผมเลยไม่ได้เรียกพี่" ผมตอบคำถามพี่กิจ

 

"เอ้ออ อีก 2 อาทิตย์ โยชิ จะพา เรกะ มาเที่ยวหาผมนะ พ่อบอกให้พี่ ช่วยส่งคนมาดูแลพวกนั้นด้วย" ผมพูดขึ้น

 

"เดี๋ยวพี่ลงไปดูแลเองดีกว่า เพราะไหนจะลูกของท่านโมชิ ไหนจะลูกของหัวหน้า ถ้าพลาดเป็นอะไรขึ้นมา พวกพี่คงไม่มีหน้าไปพบหัวหน้า" พี่กิจพูดขึ้น

 

"ผมอยากไปเที่ยว ต่างจังหวัดอ่ะพี่ ขอแบบสงบๆ คนไม่เยอะนะ ช่วยหาที่ให้ผมด้วยได้ป่ะพี่" ผมพูดขึ้น

 

"ได้สิครับน้องชาย ลองบอกไม่ได้สิ มีหวัง บ้านพังแน่ๆ" พี่กิจพูดขึ้น ก่อนจะ บอกให้ผมเตรียมตัว เพราะใกล้ได้เวลาประชุมสาขาแล้ว

 

 

ก๊อกๆๆๆ

 

 

"พวกเรามากันครับแล้วครับบอส" ลูกน้องคนสนิทของพี่กิจพูดขึ้น ก่อนจะมองผมด้วยสีหน้าสงสัย

 

"นี่ลูกชายของหัวหน้าแก๊งค์ ชื่ออากิ" พี่กิจพูดแนะนำผม

 

"สวัสดีครับนายน้อย ยินดีจริงๆครับ ที่ได้เจอตัวจริง" ลูกน้องของพี่กิจพูดขึ้น

 

"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับพี่ ผมไม่ได้ถือยศถืออย่างอะไร อีกอย่าง พี่โตกว่าผม เรียกผมว่าอากิเฉยๆเถอะนะครับพี่..." ผมพูดขึ้น

 

"ผมชื่อเคนครับ" พี่เคนพูดขึ้น

 

"ครับพี่เคน ถ้าเดาไม่ผิด พี่คงเป็นทั้งเพื่อนสนิท ทั้งลูกน้องของพี่กิจเลยใช่มั้ยครับ" ผมพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"ใช่แล้วหล่ะอากิ ปกติ พี่กับเคน จะไม่ได้คุยกันแบบห่างเหินอะไรแบบนี้หรอก นอกจากจะอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ" พี่กิจพูดขึ้น

 

"เพื่อนพี่ชายผม ก็เหมือนพี่ชายผมสินะครับ งั้นต่อไปนี้ พูดกับผมเหมือนที่คุยกับพี่กิจนะครับ นี่คือคำสั่ง" ผมพูดขึ้นพร้อมยิ้มอ่อนๆไปให้พี่เคน

 

"เอ่อ ก็ได้ งั้นพี่ฝากตัวด้วยนะอากิ" พี่เคนพูด พร้อมยิ้มบางๆให้ผม

 

"งั้นไปเถอะครับ เดี๋ยวคนอื่นๆจะรอ" ผมพูดตัดบท ก่อนจะเดินตามพี่เคนและพี่กิจ ไปที่ห้องประชุม

 

"เอ่ออ หัวหน้าสาขาครับ เด็กนั่น เป็นใครครับ ทำไมให้คนนอกแก๊งค์เข้ามาในห้องประชุมของแก๊งค์หล่ะครับ" ชายคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่างหยันๆ

 

"อย่าพูดแบบนั้นจะดีกว่านะคุณโซมะ มันไม่เป็นผลดีต่อตัวคุณหรอกนะ" พี่เคนพูดขึ้น

 

"ผมพูดผิดตรงไหน ก็นี่คือกฎ หัวหน้าสาขาไม่สมควรพาคนนอกเข้ามาร่วมประชุม ถ้าเกิดเป็นสายของฝั่งศัตรูขึ้นมาจะทำยังไง" โซมะพูดขึ้น หมอนี่ ดูจากท่าทางแล้ว ถึงจะเหมือนหยิ่งๆ และดูถูกคนอื่น แต่อย่างน้อย หมอนี่ก็ห่วงแก๊งค์ และความปลอดภัยของแก๊งค์อย่างมาก

 

"ผมขอบคุณนะครับ ที่คุณห่วงแก๊งค์ไม่เปลี่ยน แต่เด็กคนนี้ไม่ใช่คนนอกหรอกนะครับ" พี่กิจพูดขึ้นเสียงเรียบ พอมองจากตรงนี้ พี่กิจดูเป็นคนใจเย็น สุขุม แถมยังดูน่าเกรงขามอีกต่างหาก

 

"ผมขอแนะนำตัวเองแล้วกันนะครับพี่กิจ" ผมสะกิดพี่กิจแล้วพูดขึ้น

 

"สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมชื่ออากิ พวกคุณคงเคยได้ยินชื่อผมมาพอสมควร จากพ่อของผมนะครับวันนี้ผมก็แค่อยากเข้ามาเยี่ยมเยียนลูกน้องของพ่อผมก็เท่านั้นเอง ผมไม่ใช่คนน่าสงสัยอะไรหรอกนะครับ" ผมพูดขึ้น ก่อนเสียงฮือฮาจะดังขึ้น

 

"เอาหล่ะๆ เงียบได้แล้ว อากิ ก็คือลูกของหัวหน้า คงไม่มีอะไรข้องใจกันแล้วนะ วันนี้ผมแค่ชวนเค้ามานั่งฟังการประชุมเท่านั้นเอง เพราะยังไง อนาคต อากิก็ต้องมาเป็นหัวหน้าของพวกเรา" พี่กิจพูดขึ้น ก่อนที่จะเริ่มการประชุม ผมก็นั่งฟังอย่างสนใจ

 

 


2 ชั่วโมงผ่านไป

 

 

     ตอนนี้การประชุมจบแล้ว ผมมานั่งรอพี่กิจเคลียเอกสารนิดหน่อย เพราะพี่เค้าสัญญาว่าจะพาผมไปทานข้าว

 

"ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ย ว่าพ่อเป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย จะว่าไป งานของพ่อ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถ้าไม่มีเรื่องใต้ดินบางเรื่องที่ไม่สามารถพูดได้ ผมก็อยากจะรับตำแหน่งนะพี่กิจ" ผมพูดขึ้น

 

"เรื่องบางเรื่อง ถ้าเราไม่มีเส้นสาย หรือใต้ดินบ้าง มันก็ไม่สามารถเคลียได้หรอก" พี่กิจพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"เสร็จแล้ว ไปกันรึยัง หิวแล้วไม่ใช่รึไง" พี่กิจพูดก่อนจะพาผม ไปทานข้าวที่ร้านประจำ โดยมีพี่เคนเป็นคนขับรถมาให้

 


ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

 

 

"ร้านนี้สวยจังเลยพี่กิจ" ผมพูดอย่างตื่นเต้น เพราะบรรยากาศภายในร้านเงียบสงบ ได้สูดอากาศธรรมชาติ แถมติดแม่น้ำอีกต่างหาก

 

"ร้านนี้ แก๊งค์เราก็เป็นคนคอยดูแลให้ เพราะเจ้าของร้านรู้จักกับหัวหน้า" พี่กิจพูดขึ้น

 

"ทำไมต้องมีแก๊งค์เราดูแลหล่ะ มันมีอะไรหรอกครับ" ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

 

"ก็พวกนักเลง พวกเก็บค่าครองชีพไง ถ้าพวกมันรู้ว่าร้านไหนมีแก๊งค์ใหญ่ๆหนุนหลัง มันก็จะไม่กล้ามาวุ่นวาย" พี่กิจพูดอธิบาย

 

"อ่อครับ" ผมตอบกลับ ก่อนจะมองบรรยากาศรอบๆอย่างสบายใจ แต่สายตาของผมดันไปเห็นร่างสูงคุ้นตา กับสาวสวยหุ่นดีคนเดิม นั่งอยู่ด้านในของร้าน แถมยังจู๋จี๋กันโดยไม่อายคนในร้าน

 

"ชิส์ ทำอะไรไม่เกรงใจร้านเค้าเลยรึไงนะ" ผมสบถขึ้นอย่างหงุดหงิด

 

"มีอะไรหรออากิ" พี่กิจถามขึ้น ก่อนจะหันตามสายตาที่ผมมอง

 

"นั่นมันคุณกายกับเทญ่าเด็กของเค้านี่" พี่กิจพูดขึ้น

 

"เอ่ออ รู้จักด้วยหรอครับพี่กิจ" ผมถามขึ้น

 

"ก็เราทำการค้ากันมาตั้งแต่รุ่นพ่อของคุณกายแล้วหน่ะ" พี่กิจพูดบอกผม

 

"เอ่อออ เป็นคนรู้จักของพ่ออีกแล้วหรอเนี่ย" ผมถามขึ้น

 

"ก็ประมาณนั้น ท่านหัวหน้า เคยได้พ่อคุณกายช่วยไว้ เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่มีคนคิดจะล้มท่าน" พี่กิจพูดบอกออกมาอีก

 

"พี่กิจ ช่วยอย่าให้เค้ารู้ทีนะครับ ว่าผมเป็นใคร" ผมพูดบอก

 

"ทำไมหล่ะ เรารู้จักคุณกายด้วยงั้นหรอ" พี่กิจพูดบอก

 

"ก็ประมาณนั้น แต่ผมไม่เข้าใจ เค้าเคยเห็นรอยสักผม แต่ทำไมเค้าไม่รู้ว่าผมเป็นใคร" ผมตอบคำถามพี่กิจ ก่อนจะถามออกไปด้วยความคาใจ

 

"อาจจะเพราะ พ่อของคุณกายไม่ได้บอกหน่ะ อีกอย่าง รอยสักเรา มันไม่เหมือนรุ่นอื่นๆ ที่มองทีเดียวก็รู้ เพราะมันเหมือนๆกัน แต่ของอากิ มันเป็นลายพิเศษ" พี่กิจตอบคำถามผม ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเห็นว่า ร่างสูงเดินตรงเข้ามาหาพี่กิจและผม

 

"สบายดีนะครับคุณกิจ" กายทักขึ้นแต่มองผมอย่างไม่วางตา

 

"ครับ คุณกายมาทานข้าวกับแฟนหรอครับ" พี่กิจถามขึ้น

 

"ประมาณนั้นครับ" กายตอบพร้อมยิ้มมุมปาก ส่วนผมตอนนี้รู้สึกมันปวดจี๊ดๆ ที่ใจยังไงไม่รู้ ที่ร่างสูงพูดบอกออกไปแบบนั้น

 

"อ่อนี่อากิครับ เป็นน้องร่วมสาบานผม" พี่กิจพูดแนะนำผม

 

"เรารู้จักกันแล้วหล่ะครับ รู้จักดีด้วย จริงมั้ย อากิ" กายพูดขึ้น

 

"อ่ะ อื้ม คงแบบนั้น" ผมตอบนิ่งๆ

 

"พี่กิจ ผมอยากกลับแล้ว ไปส่งผมหน่อยสิ" ผมพูดขึ้น ก่อนพี่กิจจะร่ำลากับร่างสูง แล้วเดินพาผมออกจากร้านทันที

 

"เป็นอะไรรึเปล่าอากิ" พี่กิจถามขึ้น

 

"เอ่ออ เปล่าครับ" ผมตอบกลับ พร้อมฝืนยิ้มให้พี่กิจ

 

"เรากับกาย รู้จักกันแบบไหนกันแน่อากิ" พี่กิจถามพร้อมมองหน้าผมอย่างคาดคั้น

 

"อ่ะเอ่อออออ..." ผมพูดไม่ออก

 

"อากิ ไหนบอกว่าเราเป็นพี่น้องกันไง แล้วทำไมมีอะไรไม่สบายใจแล้วไม่ปรึกษาพี่" พี่กายพูดบอกออกมาอีก

 

"ก็ได้ครับผมจะบอกพี่" ผมพูดขึ้นก่อนจะเล่าทุกอย่างให้พี่กิจฟัง เพราะอย่างน้อย ผมก็อยากมีที่พึ่งพิงเวลาผมไม่สบายใจบ้าง

 

"ก็อย่างนี้แหละครับ" ผมพูดพร้อมก้มหน้างุด เพราะไม่รู้ว่าพี่กิจจะรับเรื่องแบบนี้ได้มากน้อยแค่ไหน

 

"เลว" พี่กิจพูดออกมาอย่างโมโห

 

"อะไรนะครับพี่" ผมถามขึ้นเพราะได้ยินไม่ชัด

 

"พี่บอกว่าไอเหี้ยนั่นมันเลว" พี่กิจพูดขึ้นเสียงเข้ม

 

"ให้พี่ส่งคนไปจัดการเลยมั้ยอากิ" พี่กิจถามผมเสียงเรียบ

 

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมบอกพี่แล้วไง ผมไม่อยากให้ใครรู้ อีกอย่าง ถ้าเรื่องนี้ถึงหูพ่อ เรื่องมันคงไม่จบแน่ๆ ยังไงเค้าก็เป็นคู่ค้ากับบ้านผม" ผมพูดขึ้น

 

"แล้วเราจะยอมเป็นที่รองรับอารมณ์มันแบบนี้ต่อไปหน่ะหรอ" พี่กิจถามผมเสียงเครียด

 

"ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่าง ผมหน่ะแสบจะตาย อีกไม่นานหมอนั่นต้องปล่อยผมไปแน่" ผมพูดขึ้นยิ้มๆ

 

"แน่ใจแล้วหรอ ว่าจะไม่ให้พี่ยื่นมือเข้ามายุ่ง" พี่กิจถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆที่ ถ้าผมจะให้คนของพี่กิจไปแย่งคลิปนั้นคืนมาก็ได้ แต่ผมกลับไม่ยอม เพราะกลัวว่า คนของพี่กิจจะทำร้ายร่างสูง แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่อยากเห็นร่างสูงโดนทำร้าย ทั้งๆที่ร่างสูงทำร้ายผมสารพัด

 

"ครับ ที่ผมเล่าให้พี่ฟังเพราะผมไว้ใจพี่ ผมแค่อยากระบายเวลาที่ผมอึดอัดใจ พี่คงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อนะครับ" ผมพูดขึ้น

 

"ก็ได้ๆ แต่ถ้าหมอนั่นทำให้เราเจ็บตัวหรือร้องไห้ มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม จำคำของพี่ไว้นะอากิ" พี่กิจพูดขึ้นเสียงเหี้ยม

 

"คร้าบๆๆๆๆ พี่ชายผมโหดจริงๆเลยนะเนี่ย" ผมพูด ก่อนที่รถจะมาจอดหน้าโรงแรมที่ผมพัก

 

"โรงแรมนี้มันของไอกายหนิ อย่าบอกนะว่า เรา..." พี่ถามขึ้น

 

"ครับ มันบังคับให้ผมย้ายมาอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงผมหรอกพี่ มันทำอะไรผมไม่ได้หรอก ผมกำลังสนุกมากกว่า ที่จะปั่นหัวไอคนเอาแต่ใจนั่น" ผมพูดขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

 

"เรานี่มันแสบจริงๆเลยนะ แต่จำคำพี่ไว้นะ อย่าไปรักมันเข้าหล่ะ ไม่งั้นเราจะเจ็บเอง เข้าใจพี่ใช่มั้ยอากิ" พี่กิจพูดขึ้น พร้อมลูบหัวผมอย่างเอ็นดู

 

"ผมไม่มีวันรักคนเอาแต่ใจแบบนั้นหรอก" ผมพูดขึ้นจริงจังแต่ในใจกลับรู้สึกใจหายแปลกๆ เมื่อพูดว่าไม่มีวันรักร่างสูง

"งั้นผมไปก่อนนะพี่ พรุ่งนี้ผมต้องทำงาน แต่เลิกงานแล้วจะไปหาที่สาขานะครับ" ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินลงจากรถ

 

 


กาย Part

 

 

     ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ตอนที่เห็นเด็กน้อยของเล่นของผม อยู่กับผู้ชายคนอื่น ตอนแรกก็กะจะไปโวยเด็กน้อยซะหน่อย แต่ก็ต้องชะงัก เพราะคนๆนั้น คือคนของแก๊งค์ยากูซ่า ซึ่งเป็นคู่ค้าของผมมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ถ้าผมมีเรื่องด้วย พ่อคงเอาผมตายแน่ๆ เพราะท่านค่อนข้างจะเกรงใจ หัวหน้าแก๊งค์นี้พอสมควร

 


"กายค่ะ เหม่ออะไรอยู่ค่ะ" หญิงสาวพูดขึ้น

 

"คุณอิ่มรึยังเทญ่า ผมจะเข้าผับ ผมมีงานต้องทำ" ผมพูดขึ้นเสียงเรียบ

 

"เทญ่าไปด้วยนะค่ะ หลังผับปิด กายไปนอนห้องเทญ่านะค่ะ" หญิงสาวพูดขึ้นเสียงออดอ้อน

 

"ก็ได้" ผมพูดบอก

 

"กายน่ารักที่สุดเลย" หญิงสาวพูดบอก ก่อนจะหอมแก้มผม

 

"งั้นไปได้แล้วผมต้องทำงาน" ผมพูดขึ้น ก่อนจะรีบไปที่ผับเพื่อเคลียงานของผมต่อ

 

พอผับปิด ผมก็ขับรถตรงไปที่ห้องเทญ่าทันที เพราะหญิงสาว แทบจะลากผมกลับห้องทันทีที่ผับปิด

 

"กายค่ะ เทญ่าอยากกอดคุณ" หญิงสาวพูดขึ้นอย่างยั่วยวน

 

"อื้มมมมมม" ผมครางในลำคอเบาๆ เมื่อหญิงสาวกดเน้นไปที่กลางกาย

 

"กายค่ะ กอดเทญ่าหน่อยสิค่ะ" หญิงสาวพูดบอกเสียงพร่า แต่อยู่ๆ ภาพของเด็กน้อยก็วิ่งเข้ามาในหัวผม ก่อนผมจะหยุดการกระทำลง

 

"ทำไมค่ะกาย คุณไม่อยากกอดเทญ่าหรอค่ะ" หญิงสาวพูดขึ้นอย่างขัดใจ

 

"ผมลืมว่ามีงานต่อ ผมกลับก่อนนะ" ผมพูดขึ้นก่อนจะควักแบงค์พัน ออกมาปึกใหญ่แล้ววางไว้ที่หัวเตียง แล้วเดินออกจากห้องทันที

 

 

     ผมกลับมาจากห้องของเทญ่า ตอนนี้ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไป ห้องเงียบสงบ ไฟปิดหมดทุกดวง ผมตรงเข้าไปในห้องนอนทันที เพราะคิดว่า เด็กน้อยของผม ยังไม่กลับห้อง แต่ก็ต้องรู้สึกโล่งใจ เพราะเด็กน้อยของผม นอนหลับท่าทางจะสบายมาก

 

 

"กลับมานานแล้วหรอ" ผมกระซิบถามข้างหูเด็กน้อย

 

"อื้ออออ ตั้งแต่ 4 ทุ่มแล้ว" เด็กน้อยตอบ แต่ตาไม่ยอมลืมขึ้นมามองผมแม้แต่น้อย

 

"งั้นนอนต่อเถอะ" ผมพูดบอก ก่อนจะเดินคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

"ฝันดีนะเด็กน้อย" ผมพูดขึ้นพร้อมรั้งเอวบางของร่างเล็กตรงหน้าเข้ามากอด ร่างเล็กซุกหน้ากับอกผมด้วยความงัวเงีย

 

"อื้ออออ ฝันดี" เด็กน้อยพูดบอกเสียงงัวเงีย ก่อนที่ผมจะหลับตาลง แล้วหลับไปในที่สุด

 


อ๊ายยยยย ตัดฉึบบบบบบ ชอบตอนนี้จังเลยยยยยยยยยยย

 

 

ZerMay ❤.

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา