อุบัติรักเล่ห์มายา
เขียนโดย pangpangjay
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เรียกฉันว่าบอสใหญ่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่5 เรียกฉันว่าบอสใหญ่
ในกลางดึกเอเลนรู้สึกหายใจไม่ค่อยออกเหมือนมีใครมาทับจึงค่อยลืมตาอย่างงัวเงีย แต่พอเห็นว่าใครที่ทับบนร่างสมบูรณ์แบก็ทำให้เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ก็แข็งทื่อขึ้นมาซะงั้น
“คุณเลย์ขา”
ร่างเปลือยเปล่าของกรัณฑานอนคร่อมเอเลนพลางส่งสายตาหวานเยิ้มจนคนถูกคร่อมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก พลั้นสายตาก็สอดส่องทั่วเรือนร่างงามโดยเฉพาะตรงช่วงหน้าอกขาว แล้วจินตนาการไว้ว่าหากได้ลิมลองรสชาติอกอิ๋มอีกครั้งคงสุขใจใช่น้อย ร่างบางเห็นคนใต้ร่างจ้องอกอิ๋มนานและรู้จุดประสงค์จึงปัดผมยาวที่ปิดหน้าอกมารวบไว้แล้วจึงขยับร่างกายเข้าไปใกล้หน้าหล่อ อกจึงกระพรึ้มตามแรงขยับสร้างความปั่นป่วนแปลกๆขึ้นมา
“เชิญกินเลยซิค่ะ เหมี้ยว~~”
เธอร้องเสียงแมวข้างหูชายหนุ่มอย่างเชื้อเชิญพลางตีก้นมลของตัวเองแล้วทำเสียงเสียวซาน เอเลนไม่ปล่อยให้เวลาที่รอคอยนานจนเกินรอเมื่อแม่แมวน้อยเชื้อเชิญแล้วเห็นทีจะต้องสนอง กรัณฑายิ้มหวานอย่างได้ใจ
มือใหญ่จึงผลักคนตัวเล็กให้อยู่ใต้ร่างก่อนที่มือหนาจะจับอกทั้งสองข้างบีบเบาสลับหนักจนแม่สาวน้อยร้องครางอย่างเสียวซาน เขาดูดยอดดอกบัวงามเม็ดเล็กสีชมพูอย่างเด็กหิวนมแม่ไม่มีผิดพลางบีบนวดอกงามทั้งสองมือสร้างความเสียวซานใครแก่คนใต้ร่างเพิ่มขึ้นจนเผลอจิกไปที่หลังหุ่นล่ำอย่างเผลอไผล
“อื้อ แรงกว่านี้อีกค่ะ ฉันชอบ”
“เธอก็ซาดิสท์กว่าที่ฉันนึกอีกนะ แม่แมวน้อย”
เขาบีบเคล้นอกงามเพิ่มขึ้นสลับกับลิ้นเรียวที่กำลังลิ้มรสกับยอดดอกบัวสีชมพู จนเปลี่ยนเป็นสีแดง เขามอบรสจูบแสนหวานอย่างเนิ่นนานให้ริมฝีปากรูปกระจับแดงระเรื่อ ไล่มาขบเม้นเป็นรอยแดงที่ต้นคอขาวเนียน เขามาถอดชุดนอนอย่างรวดเร็วจนร่างกายไม่เหลืออาภรณ์ใดเหมือนกับคนใต้ร่าง
กรัณฑายิ้มหวานให้อีกครั้งแล้วโอบรอบคอของคนตัวสูงแล้วตั้งใจขยับให้ชิดมากที่สุดโดยเฉพาะช่วงล่างจนคนตัวสูงครางอย่างพอใจเมื่อเนื้อเนียนลูบอกกว้างก่อนที่อีกข้างจะลูบตั้งแต่ต้นขาขึ้นมาถึงแขน
“คุณกำลังทำให้ผมคลั่งนะแม่แมวสาว”เอเลนพูดอย่างกับคนละเมอ
“ก็คลั่งไปซิค่ะใครจะว่าอะไรคุณ ยิ่งคลั่งในตัวฉันก็ยิ่งดีค่ะฉันชอบรุนแรง”มือเรียวเริ่มต่ำลงไปในระหว่างช่วงขาของคนใหญ่จนคนที่ว่ามีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงเยอะแล้วยังรู้ว่าเป็นแค่เด็กๆไปเลยสำหรับเรื่องบนเตียง เขารอบมือบางไม่ให้ต่ำมากกว่านี้ไม่งั้นเขาคงแทบคลั่ง
“ถ้าคุณพูดอย่างนี้แล้วก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผมแล้วนะ แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะหากผมทำรุนแรง”
“เชิญเลยซิค่ะ รอให้ทำจะแย่อยู่แล้ว”
เธอส่งยิ้มพิมพ์ใจแล้วกางท่อนขาเรียวให้กว้างมากกว่าเดิม ร่างสูงยอมรับว่าปรารถนาเธอมากและพอได้ลิ้มรสของเธอแล้วก็อยากถลำลึกให้มากกว่าเดิม เขาหัวเราะในลำคอแล้วจึงเริ่มบทเพลงสวาทที่ทั้งแรงและดุดันอย่างที่เจ้าตัวต้องการ เสียงครวญครางแห่งความสุขสมสลับกับเสียงหอบของคนทั้งสองดังแข่งกัน คืนนี้ยังอีกยาวไกลนักไม่ใช่เพียงแค่ยกเดียวคืนนี้เห็นทีว่าจะไม่ได้นอนกันทั้งคืน
กรัณฑาหยุดเดินแล้วยืนต้องปลายเตียงของว่าที่เจ้านายและคิดว่าคงตื่นแล้วเพราะเห็นเจ้านายหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงโดยคลุมโปร่งไว้ท่าทางน่าจะกำลังเล่นเกมสนุกสนาน และนี่คืองานแรกที่เธอต้องทำงานในฐานะเลขา กรัณฑายังคิดอยู่เลยว่านี่ตกลงเธอเป็นเลขาหรือคนใช้ส่วนตัวกันแน่
“คุณเอเลนค่ะ ดิฉันชื่อ กรัณฑาหรือรวงผึ้ง ต่อไปนี้จะเป็นเลขาของคุณ และงานแรกที่ฉันจะต้องทำก็คือปลุกคุณให้ลุกจากเตียง คุณเอเลน คุณค่ะ”
เมื่อเห็นว่าที่เจ้านายไม่ทีท่าว่าจะตื่นหรือลุกที่นอน ปล่อยให้เธอพูดพร่ำคนเดียวเธอจึงผ้าหุ้มผืนใหญ่ออกแต่ขาดันไปสะดุดกับผ้าหุ้มที่ยาวทำให้ตัวของเธอล่มทับชายหนุ่มอย่างจังจนลุกแทบไม่ทัน แต่มือใหญ่ก็ไวกว่าจับตะคลุบได้ทันแต่ไม่ใช่มือแต่เป็นหน้าอกอิ๋มสองคู่ถูกตะคลุบเต็มสองมือ
“จะหนีไปไหนจ๊ะแม่แมวน้อย มาให้ฉันทำโทษซะดีๆ”
เขาพูดทั้งที่ยังงัวเงียพอตื่นได้เต็มตาแล้วก็อยากจะกลับไปที่ฝันเหลือเกินเพราะอย่างน้อยสาวเจ้าก็ไม่มองหน้าเขาอย่างกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับไม้เบสบอลที่อยู่บนหัวเตียงของเขา
“แมวน้อยของนายไม่มีหรอก มีแต่นรกอย่างเดียวรอนายอยู่ ไปตายซะตาเฒ่าหัวงูเอ๊ย!!”
“เฮ้ย!”
เอเลนวิ่งหลบไม้เบสบอลให้จ่าระหวั่นโดนไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าซักชิ้น ส่วนกรัณฑาก็ไม่รู้สึกเหมือนกันรู้แต่ว่าความโมโหและโกรธมันทำให้ควันออกหูแล้ว
“เฮ้ยอย่า ยอมแล้วเห็นไหม”
เขายกมือขึ้นสองข้างอย่างยอมแพ้ทำให้กรัณฑาหยุดตามแล้วคิดว่าไม่กี่วินาทีข้างหน้าจะตีไปที่หัวแรงๆแต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อตาไปเจอเข้ากับสิ่งประหลาดที่ผู้ชายมีแต่ผู้หญิงไม่มี
“เฮ้ย!!ลืมไปโป๊นี่หว้า เดี๋ยวก่อน!!”
“แกตาย!!”
มือเรียวจับไม้เบสบอลแน่นก่อนจะยกขึ้นสองและเตรียมฟาดที่หน้าของคนที่ทำให้เธออับอายถึงสองครั้ง แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งราวกับมีนาฬิกาหยุดเวลาไว้อย่างงั้นเมื่อเสียงเคว้กดังขึ้น ดวงตาเรียวจ้องไม่ขยับไปไหนจนกรัณฑามองตามสายตาก็เห็นคนตัวสูงกำลังจ้องหน้าอกของตัวเองอยู่ จนสิ่งนั้นของผู้ชายก็แสดงถึงความต้องการต่อหน้าสตรีผู้ไม่เคยมือชายใดมาก่อน
“อัปรีย์ อัปรีย์จริงๆ!!”
กรัณฑาหลับตาปี๋แล้วฟาดคนตัวสูงอย่างมั่วๆด้วยความสึกเสียหน้าอย่างที่สุดที่ต้องมาเจออะไรน่าเกียจอย่างนี้ แต่ไอ้การที่เธอตีมั่วๆนั้นก็ทำให้โดนเขาบางไม่โดนบางและรามปรามไปถึงแจกันและสิ่งของในห้อง เขาที่เจ็บไปทั้งตัวก็วิ่งทั่วห้องอย่างไม่คิดชีวิตแล้วมาอยู่บนเตียงพลางหยิบหมอนมาปิดสิ่งที่หวงแหน
“คุณผึ้งครับฟังก่อนนะครับ คือไม่ตั้งใจเลยนะครับ มันคืออุบัติเหตุ”
“อุบัติเหตุหรอ แล้วถ้าฉันฟาดไปที่หัวของคุณก็เรียกว่าอุบัติเหตุได้ซินะ”
“เขาไม่ได้เรียกอุบัติเหตุแล้วครับ เขาเรียกฆาตกรรมต่างหาก ยิ่งตั้งใจด้วยโทษหนักนะคุณ แล้วยิ่งเป็นผมที่เป็นทายาทของตระกูลแล้วด้วย ข่าวดังนะครับ”
“ฉันไม่สนหรอก ดีเสียอีกฉันจะได้ดังข้ามวันข้ามคืนไงล่ะ แต่ถ้าวันนี้ถ้าฉันไม่ได้เลือดของนายเห็นทีว่าฉันจะนอนไมหลับแน่ แกตาย!!”
“เห้ย!!”
เป็นรอบของรอบวันที่เธอลื่นผ้าหุ้มเจ้ากรรมจนไถลล่ม แต่ช่วงที่กำลังล่มนั้นเองร่างกำยำก็รับได้ทันด้วยท่วงท่าลีลาดเหมือนเช่นที่เจอกันครั้งแรก ใบหน้างามกับใบหน้าหล่อห่างกันไม่เท่าไหร่ ใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย ดวงตารีสบเข้ากับดวงตากลมโตอย่างลึกซึ้งมันช่างเป็นฉากที่โรแมนติกเสียเหลือเกินหากไม่มีเสียงวี๊ดว๊ายของคนสนิทอย่างแม่บ้านเทียนพร้อมการปรากฎตัวของสตรีสูงวัย
“นี่มันอะไรกันเนี๋ย!!”คุณหญิงธัญยามองหลานชายที่ล่อนจ้อนกับเลขาคนใหม่สลับกันอย่างสับสน ร่างสูงตกใจจึงปล่อยกรัณฑาร่วงกับพื้นเรียบจนก้นกระแทกพื้นเสียงดัง เขาคว้าสิ่งของที่ใกล้ตัวที่สุดมาปิดสิ่งที่หวงแหน
“เลย์ ย่าว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันแล้วล่ะ”
แม้ว่าช่วงแรกที่ทั้งคู่คุยกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่ากรัณฑาจะได้เปรียบ แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของเอเลนก็สามารถทำให้ทุกคนดูจะเห็นด้วยกับเหตุผลที่ว่า ‘เธอเป็นคนผิดที่เข้าห้องของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต!!’ ถ้าไม่ติดว่ามีคุณหญิงธันยานั่งตรงนั้นเธอคงตอกกลับไปว่า ‘แล้วใครจะรู้ล่ะค่ะว่าคุณจะทำเรื่องอนาจารในห้องตอนนั้น ถ้าดิฉันรู้คงไม่เข้าไปให้เสียตัวหรอก!!’ แต่เหมือนยิ่งพูดยิ่งทำให้ตัวเองเสียหายไปมากกว่าเดิมที่ว่าเขาได้จับหน้าอกอิ๋มไป
กรัณฑาจึงเลี่ยงที่จะต่อสู้ที่มีแต่เสียกับเสียมาทำใจริมขอบสระว่ายน้ำที่มีพืชพันธุ์ต้นไม้มากมายดูสบายตาจนทำให้ความรู้สึกเจ็บแค้นเมื่อครู่หายไปครึ่งหนึ่ง
“คุณคงเป็นเลขาของพี่เลย์ใช่ไหมครับ”
ไม่มีแม้แต่เงาของผู้ถามมีเพียงแค่เสียงล้อรถเข่นที่ใกล้เข้ามาทุกทีพร้อมกับการปรากฎตัวของชายหนุ่มที่อายุประมาณ22ปี มีใบหน้าหล่อเหลาและมีส่วนที่คล้ายเอเลนมาก เขายิ้มให้กรัณฑาอย่างเป็นมิตร
“ที่พูดว่าพี่นี่แสดงว่าคุณคือ....น้องชายของคุณเลย์ใช่ไหมค่ะ”
เธอลุกขึ้นก่อนที่จะพูดและไม่ลืมที่จะยกมือไหว้
“อย่าไหว้ผมเลยครับ ผมอายุน้อยกว่าคุณอีก”คิรากรพูดอย่างเป็นกันเอง
“เอ่อ..ค่ะ”เธอลดมือลง
“อย่างที่คุณถามว่าผมเป็นน้องชายของเขาหรือเปล่า..ใช่ครับ จะไม่แนะนำตัวหรือครับ”
“เอ่อ...ค่ะ ฉันกรัณฑา ชื่อเล่นว่ารวงผึ้งค่ะแต่จะเรียกผึ้งเฉยๆก็ได้”
“สวัสดีครับคุณผึ้ง ผมชื่อคิรากรหรือที่คนในบ้านเรียกคุณชายกรจนติดปาก จะว่าอะไรไหมครับถ้าผมจะขอให้คุณขยับมาจับมือผมหน่อย”ตอนแรกกรัณฑาก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมต้องเดินไปหาแต่เมื่อเห็นว่าเขานั่งรถเข่นอยู่และตรงที่เธอยืนอยู่ก็เป็นสระว่ายน้ำซึ่งมันคงอันตรายมากสำหรับ...เขา
“ขอโทษนะครับที่ต้องให้คุณต้องเดินมาจับมือเพราะผมคงไม่สะดวกเรื่องของขา”เขากล่าวอย่างยิ้มๆเพราะรู้สึกชินชากับสายตาเสียแล้ว “ตอนนี้เราก็รู้จักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับคุณเลขา”
“ไม่เป็นไรค่ะ”เธอยื่นมือไปจับมือเขา “ดิฉันว่าคุณรู้จักฉันก่อนมากกว่าค่ะ”
“ฮ่าๆจะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ก็คงเพราะผมรู้จักพี่สาวของคุณ คุณรันไงครับเธอเป็นคนเก่งและขยันมากนะครับ และน่าสงสารมากที่ต้องมาเจอกับเอเลน”
“หมายความว่าไงค่ะ”
“อย่าว่าผมปากมากหรืออย่างไงเลยนะครับ แต่เพราะเอเลนเป็นคนที่นิสัยแย่ หื่นไม่เลือกเวลา และหลายๆอย่างที่คนเลวๆเป็นกัน เลขาที่คุณย่าหาให้แต่ละคนจึงเสียท่าให้เขาจนต้อง.........หาเลขาให้ขวักอย่างกับหาทองในทะเลกว้างเสียอีก แล้วก็มาลงตัวที่คุณ”เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพราะกำลังคิดตามอย่างที่คิรากรบอก โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืนระหว่างเธอและเขามันเกือบจะบานปลาย เพราะหากเมื่อคืนมันเกิดทั้งเธอและเขามีอะไรกันเธอก็คงจะทำใจทำงานต่อไปกับเขาไม่ไหวขนาดแค่ตอนนี้เธอก็อยากจะลาออกอยู่แล้ว
“ผมเห็นว่าคุณดูเห็นว่าจะเป็นคนดีผมจึงขอเตือนนะครับ ส่วนการตัดสินใจผมก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ”คิรากรเกลี้ยกล่อมอย่างคนเจ้าเล่ห์พลางลอบสังเกตท่าทีของคนตรงหาที่โอนอ่อนไปตามคำพูด
“ขอบคุณค่ะ เห็นทีว่าดิฉันต้องกลับไปคุยกับพี่สาวให้มากกว่าเดิม”
“ขอให้คุณเจอทางออกที่ดีที่สุดนะครับ”เขาบอกและไม่ลืมที่จะยิ้มพิมพ์ใจมาให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้ในสมองกำลังเครียดคิดไม่ตก ต่างจากคิรากรที่หลังจากเข่นรถเข่นเข้าบ้านแล้วใบหน้าจริงใจเมื่อครู่ก็แปรเป็นเป็นรอยยิ้มสะใจแล้วมองคนตัวเล็กที่ยังยืนนิ่งที่เดิม อยากรู้นักว่าถ้าแกขาดคนเกื้อหนุนแล้วแกจะเหลวแหลกแค่ไหน!!
“ทำไมพี่รันไม่รับโทรศัพท์นะ”
ตอนนี้เธอเดินมานั่งหลบแดดใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีเก้าอี้สำหรับให้นั่ง เพราะต้องการที่จะไม่ให้ใครมาได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ที่เธอจะคุณกับพี่สาวแต่โทรเป็นสิบรอบได้เจ้าหล่อนก็ไม่รับเสียเลย โดยกรัณฑาไม่รู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของเอเลนทั้งหมด เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมาแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์แต่เป็นเพราะเขานอนอยู่บนต้นไม้ก่อนแล้วต่างหาก
“พี่รันนะพี่รัน ทำไมถึงปล่อยน้องให้อยู่กับตัวอันตรายอย่างเอเลนด้วยนะ ถ้าเป็นก่อนที่จะเจอเขาผึ้งคงไม่คิดมากแต่เมื่อมาเจอกับตัวเองเมื่อคืนนี้....ผึ้งเชื่อแล้วว่ามันเป็นความจริง พี่รันรับทีเถอะ!!”
เธอคุยอยู่กับตัวเองอย่างกังวลแต่ก็มีบุคคลที่สองซึ่งถูกพาดพิงก็ได้ยินทุกประโยคทุกคำ กรัณฑากระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดแล้วจะเดินไปลาคุณหญิงธัญยาเพื่อกลับบ้านเสียหน่อยแต่ก็ต้องตกใจหัวใจแทบวายจนเซไปเล็กน้อย เอเลนนั่นเองที่เกี้ยวขากับกิ่งไม้ใหญ่แล้วห้อยหัวพลางทำหน้านิ่ง
“กรี๊ด!เล่นอะไรค่ะเนี่ยตกใจหมด”
“เปล่าเล่นสักหน่อย แค่มีเรื่องจริงจังจะมาพูด”
“อะแฮ่ม มีอะไรก็พูดมาซิค่ะ”เธอไอเบาๆไว้ท่าทีก็จะผายมือให้พูด เอเลนกระโดดลงจากต้นไม้ด้วยทวงท่าสวยงามประจันหน้ากับกรัณฑา เธอมองคนตัวสูงที่แม้จะไว้หนวดยาวไม่ต่างจากผมเผ้าที่รุงรังแต่ก็เห็นเคล้าความหล่อที่ไม่น้อยเลย นั่นทำให้แก้มเนียนร้อนเผลาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
“ไม่สบายหรอแก้มแดงๆ”เขายื่นมือมาเตะหน้าผากมนของเธออย่างเป็นห่วงแต่เธอก็ปัดมือหนานั้นออกอย่างรวดเร็วเพราะหากมือหนานั้นเตะอีกนานแก้มคงแดงยิ่งกว่านี้
“มะ...มีอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะ”
“อะ...อืม อะแฮ่ม..เอ่อ..จะเริ่มอย่างไงดีล่ะ”เขาเริ่มพูดตะกุกตะกัก “คือ....ฉันขอโทษกับเรื่องเมื่อวาน”
“เอ๋!”
“คือฉันรู้สึกผิดน่ะว่าฉันมันพวก......หื่นกาม ไม่มีจิตสำนึกที่ดีพอ ฉันขอโทษเพราะงั้น...ให้อภัยแล้วเริ่มต้นใหม่นะ”
เขาก้มหน้ามองพื้นเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยต้องมาขอโทษใครแต่เธอคือคนเดียวที่เขาขอโทษ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ว่าเพราะอะไรแต่เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะมาทำงานร่วมกันกับเขา และมันจะอึดอัดใจกันเปล่าๆ
“ก็ได้ค่ะ”
“ห๊า!!ทำไมมันง่ายจัง ฉันนึกว่าเธอจะทำโทษอะไรโหดพิศดาสอะไรเสียอีก เช่น หอนรอบๆบ้าน ทำท่าฉี่หมา หรือวิ่งกระโดดงับของซะอีก”
“อยากทำไหมล่ะค่ะ ดิฉันจะได้สั่ง”
เขาส่ายหัวไวๆ
“ไม่ๆๆไม่อยากทำอะไรอย่างนั้น ขอร้อง”
“ขำๆน่ะค่ะ ที่จริงแล้วดิฉันเป็นพวกประเภทโกทธง่ายหายง่ายน่ะค่ะแล้วก็ขี้ลืมด้วยค่ะ”
“ดีแล้วล่ะ งั้นต่อไปเราก็มาทำงานร่วมกันแบบที่คนดีๆเขาทำกันนะ และนี่เป็นสัญญาแห่งมิตรภาพที่ดีงาม”
ร่างบางรับกระดาษA4ที่เขียนรายละเอียดเอาไว้พร้อมปากกา แต่ก็ต้องอ่านก่อนที่จะเซ็นสัญญามิตรภาพนี้ เพราะเธอเป็นคนรอบครอบคิดก่นทำเสมอๆ แม้ว่าจะรู้สึกแปลกตั้งแต่เขามาขอโทษแล้วแต่เมื่อเห็นใบหน้าหล่อที่ยิ้มให้อย่างไร้เดียงสาความคิดทั้งหมดจึงค่อยคลาย แต่ยังไม่ทันที่จะอ่านซักประโยคก็มีเสียงดังขึ้น
“เสียงอะไรกันค่ะ เอะอะโวยวายกันอยู่หน้าบ้าน”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันว่าคเธอรีบเซ็นดีกว่านะครับจะได้รีบไปดู”
เขาเร่งเลาทำให้เธอลนลานและรีบเซ็นชื่อลงในกระดาษและส่งคืนให้แก่คนที่ยื่นมาให้ก่อน คนที่รับมาอย่างยิ้มๆแต่พอพ้นสายตาของเธอก็แปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์แล้วรีบยัดกระดาษใส่ในกระเป๋ากางเกงวิ่งตามคนตัวเล็ก ถึงจะสวยและฉลาดแค่ไหนก็ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมพันเล่มเกรียวของผู้ชายหรอก ยัยโคโยตี้เรายังมีเรื่องให้สนุกกันอีกยาวนานเลยล่ะ!!หึ
เสียงที่เอะอะโวยวายนั้นเป็นเสียงของบอดี้การ์ดที่กันกฤติกาที่บุกมาเพื่อมาหาเตโชดมแถมอีกอย่างคือ แทบพยายามที่จะปล้ำเลยล่ะสร้างความตกใจและเสียขวัญแก่หนุ่มตัวใหญ่ร่างกายสมบูรณ์ผู้ไม่เคยถูกจูโจมรุนแรงและบ้าคลั่งอย่างนี้มาก่อน ขนาดบอดี้การ์ดตั้งสิบเขายังเอาลูกไก่ตัวน้อยๆอย่างเธอไม่ได้ กรัณฑาซึ่งนั่งอยู่นอกบ้านหลังจากที่เคลียรสถานการณ์น้องสาวตัวป่วนได้แล้วก็มานั่งคิดอย่างขำๆ
“คิดอะไรอยู่ล่ะ”
“กำลังคิดถึงน้องอยู่ค่ะ นึกแล้วขำ”
“ท่าทางจะชอบเตมากเลยซิท่า”
“เข้าขั้นหลงเลยค่ะ”
“ขอนั่งด้วยนะ”
“เชิญค่ะ”
เธอบอกอย่างยิ้มให้เขานั่งที่ข้างๆก่อนที่เขาจะเงยหน้ามองท้องฟ้ายามคล่ำ
“วันนี้ดาวสวยนะ”
เธอมองตามแต่ก็ไม่เห็นมีดาวซักดวงแต่ถ้าจะมีก็คงมีแต่ดวงจันทร์เท่านั้น
“ไม่เห็นมีดาวเลยค่ะมีแต่ดวงจะ...อุ๊บ!!”
ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบประโยคริมฝีปากยักได้รู้ของคนตัวสูงก็ประกบเข้าที่ริมฝีปากแดงระเรื่อของกรัณฑาจนไม่ทนตั้งตัว กรัณฑาพยายามขัดขืนคนที่มีแรงเยอะกว่าแต่ยิ่งทำก็ยิ่งทำให้เขาขยับเข้ามาใกล้ จนกรัณฑารู้สึกจะขาดลมหายใจเพราะเขามัวแต่จูบเอาๆจนเธอตบเข้าที่แก้มซ้ายทั้งๆที่เขายังอยู่ในท่าจูบ ซึ่งได้ผลเขาผลักออกแม้จะเสียดาย
เพียะ!
“ไหนเรามาทำสัญญามิตรภาพกันแล้วไงค่ะ ทำไมยังจะล่วงเกินดิฉันค่ะ”
“เธออ่านแล้วหรอว่ามันคือสัญญามิตรภาพอย่างที่ฉันบอก”
“ว่าไงนะ!!”เขาชูกระดาษขึ้นให้เธอดูเธอรีบหยิบมาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ “นายมันจอมหลอกลวง”
“ฉันรู้นะว่าเธอคิดจะออก แต่ฉันไม่ให้เธอออกหรอกจนกว่า........”
“จนกว่าอะไร”
“จนกว่า...ฉันจะได้เธอ”
“หยาบคาย!! ไอ้ทุเรศ”
“ไม่ทุเรศนะฉันออกจะหล่อดุจเทพบุตรมาจุติ”
“หลงตัวเองสุดๆ และก็ชั่วสุดๆด้วยที่หลอกให้ฉันเซ็นสัญญาทำงานกับคุณตลอด 2 เดือน โดยจะไม่ออกถ้าออกจะเสียเงินค่าปรับสิบล้านนี่นะ เอ็งโคตรเลวเลยว่ะ”
“อุต๊ะ! พูดหยาบคายอย่างนี้ต้องถูกลงโทษ”
“อย่านะ ไอ้ชั่วเลย์แกไปตายซะ!!”เธอผลักเขาออกเพราะเขาเริ่มจะทำเหมือนเมื่อครู่และเธอก็ผลักสำเร็จก่อนจะลุกขึ้นยืนถอยห่างเขาหลายก้าว
“ทนๆหน่อยละกันนะแม่คนสวยปากจัด จะได้เจอกันอีกแค่ 2 เดือนก่อนเปิดเทรอมของนักเรียนของคุณ”
“ตั้ง 2เดือนย่ะ!! ไม่ใช่แค่ ต่อไปฉันต้องเหมือนตกนรกแน่ๆเลยเมื่อเจอกับซาตานอย่างคุณ”
“ชื่อซาตานก็ดีนะน่ารักแอ๊บแบ๊วดี แต่ฉันไม่ชอบชื่อนั้นเลย งั้นเอาชื่อใหม่เป็น...บอสใหญ่ ต่อแต่นี้คุณต้องเรียกฉันว่าบอสใหญ่”เขายักคิ้วกวนประสาท
“สำหรับแกเรียกไอ้สาระเลวก็พอแล้ว กลับล่ะ”
“แล้วเจอกันใหม่นะและฉันหวังอย่างมากว่าต่อไปเราจะได้เจอกันบนเตียง”
“อย่างนายไปอยู่ในโรงศพเลยไป๊!!”เธอตะโกนด่าทั้งๆที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งออกจากบ้านเขาโดยไม่ลาคุณหญิงธัญยาเลยซักนิด เขามองตามหลังก่อนจะโบกมือให้อย่างเจ้าและลูบคางเรียวพลางสมองก็จินตนาการถึงแม่สาวสวยเมื่อครู่ว่าเวลาที่อยู่บนเตียงเขามันจะสุขอารมณ์เพียงใด ครั้งนี้จะไม่ใช่เพียงแค่ฝันหรือมะโนไปเองแต่มันต้องเป็นเรื่องจริง!!
ช่วยแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้เขียนด้วยนะค่ะขอบคุณค่ะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ