Past-memories อดีต-ความทรงจำรักวุ่นๆกับยัยตัวร้าย
เขียนโดย Ryoko
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.34 น.
แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) สิ่งที่ได้กลับคืนมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
สิ่งที่ได้กลับคืนมา
ณ ห้องเรียน
หลังจากที่เมื่อวานฉันได้บอกเรื่องที่เธอเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกนั้นอยากได้กับมายูมิ เธอก็ดูเหมือนจะกังวงนิดหน่อยแต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เพราะฉันเองก็ไม่ได้ว่างขนาดที่จะสามารถดูแลมายูมิได้ตลอด 24 ชั้วโมงสักหน่อย เลยทำได้แค่บอกให้เธอระวังตัวไว้บ้างก็เท่านั้นแต่สิ่งที่สำคัญกว่าเวทย์ปราบพระเจ้าก็น่าจะเป็นศิลาทั้งสาม ศิลาแห่งความปรถณา ศิลาแห่งพลัง ศิลาแห่งการเหยี่ยวยา ถ้าศิลาทั้งสามมารวมกันจะก่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่แต่ว่า... มันไม่เคยมีใครหาพบเลยสักครั้งยังไม่แน่นอนด้วยซ้ำไปว่าศิลาทั้งสามจะมีอยู่จริง ปราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าศิลาทั้งสามมีอยู่จริง แต่ถ้าเจ้าพวกนั้นเคลื่อนไหวเกี่ยวกับศิลาก็พอจะมั่นใจขึ้นมานิดหน่อยว่าศิลาทั้งสามพอจะมีความเป็นไปได้ว่ามีอยู่จริง
"นักเรียนครับ เงียบๆ กันหน่อยครับ!" อาจารย์ที่ไม่รู้เข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ตะโกนขึ้นให้นักเรียนทุกคนเงียบ และเมื่อทุกๆ คนเงียบอาจารย์จึงเริ่มสิ่งที่จะพูด "ตามที่อาจารย์ได้แจ้งไปเมื่อวานนะครับว่าจะมีการประลองเวทย์จัดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฉะนั้นการเรียนการสอนจึงยุติลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเพื่อให้นักเรียนทุกคนได้ฝึกฝนเวทย์ของตนเอง" และเมื่ออาจารย์พูดจบก็มีเสียงเฮฮาดังลั่นห้องเพราะดีใจที่ไม่ต้องเรียน แต่อาจารย์ตบโตะเชิงว่าให้นักเรียนทุกคนเงียบเมื่อทุกคนเงียบจึงเริ่มเอ่ยปากพูดอีกครั้งหนึ่ง
"กติกาการแข่งขันก็จะมีดังนี้นะครับ การแข่งขันจะแบ่งเป็นระดับสายชั้นพอถึงรอบสุดท้ายซึ่งก็คือได้ผู้ชนะในระดับสายชั้นแล้ว จึงจะให้ผู้ชนะทั้งหมดมามาประลองกันในรอบสุดท้ายและการประลองจะแบ่งหญิง-ชายนะครับ รางวัลผู้ชนะรางวัลที่หนึ่งคือ ได้เป็นนักเรียนพิเศษส่วนข้อมูลต่างๆ จะสามารถฟังได้จากผู้อำนวยการ รางวัลชนะเลิศที่สองก็คือได้เป็นนักเรียนพิเศษเช่นกันแต่เครื่องจะต่างจากนักเรียนที่พิเศษที่เป็นตัวจริงหรือนักเรียนพิเศษระดับหนึ่ง รางวัลชนะเลิศที่สามจะได้จัดว่าเป็นนักเรียนพิเศษเช่นกัน แต่จะเป็นนักเรียนพิเศษระดับสามเช่นเดียวกันรางวัลชนะรางวัลที่สอง แต่จะเขียนว่า 'นักเรียนพิเศษระดับสาม' แต่ถ้าเป็นรางวัลที่หนึ่งจะไม่มีปลอกแขนแต่จะเป็นตัวอักษรที่ปักอยู่ตรงหน้าอกหน้าซ้ายว่า 'S.P' นะครับ" อาจารย์อธิบายยาวเยียดจนฉันรู้สึกง่วงทันทีนักเรียนในห้องบางคนก็หลับไปแล้วด้วยซ้ำ แต่บางคนก็ยังหาวๆ อยู่ "อาจารย์คงอธิบายยาวไป งั้นเชิญไปฝึกได้เลยครับ"
"เย้~~~! ได้ฝึกสักที!!"
หลังจากที่อาจารย์พูดประโยคหลังยังไม่ทันได้จบประโยคดีก็เกิดเสียงเฮฮาขึ้นทันที และนักเรียนทุกคนในห้องก็วิ่งออกไปจากห้องทันทีอย่างไม่รีรออะไรเลยเหลือแต่ฉันที่ยังคงนั่งติดอยู่กับโต๊ะไม่ขยับไปไหน ฉันถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องอย่างไม่รีบร้อนอะไร
ณ สนามใหญ่
หลังจากที่ฉันลงมาที่สนามใหญ่ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่านักเรียนทุกๆ คนในห้องไม่ได้รีบร้อนกันมาฝึกแต่รีบร้อนกันมาเล่น - - ฉันมองภาพตรงหน้าอยู่เป็นเวลานานมาก บางก็วิ่งไล่จับกัน บางก็นั่งจู๋จี๋กัน บางก็นั่งอยู่เฉยๆ แต่มีอยู่แค่ส่วน(โคตร)น้อยเท่านั้นที่จะฝึกฝนเวทย์แต่ดูจะท่าทางแล้วหน้าจะไม่รอดเพราะฝึกได้แค่พักเดียวก็ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนต่อ เฮ้อออ~ ทำไมชอบทำตัวเป็นเด็กกัน?
และฉันก็ตัดสินใจเดินไปซื้อน้ำที่ตู้ขายน้ำในตัวอาคารและเดินออกมาตรงม้านั่งใต้ต้นไม้ ฉันนั่งลงและดื่มน้ำที่ซื้อมาจากตู้ขายน้ำ นั่งดื่มอยู่ได้สักพักก็มีเสียงทักฉันมาจากด้านหลัง
"เอิ่ม..ขอโทษนะครับ" อยู่ๆก็มีเสียงนุ่มทู้มของผู้ชายดังขึ้นข้างๆฉัน ฉันจึงหันกลับไปมองทางที่ต้นเสียง เมื่อหันไปดูก็ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่
"คะ?" ฉันขานรับและอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย
และมองเขาไล่ตั้งแต่หันจรดเท้า และไล่ขึ้นไปมองหน้าของเขาอีกครั้ง เขาทำหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา ผ่านไปสักพักเขาจึงจะยอมเอ่ยปากพูด
"เอิ่ม...ผมขอนั่งด้วยคน..ได้ไหมครับ?" เขาเอามือจับหัวและยิ้มแห้งๆมาให้ฉัน
"ได้ค่ะ" ฉันเอ่ยตอบเขาไปก่อนจะหันกลับมามองวิวท้องฟ้าเหมือนเช่นเคย และไม่นานเขาก็เดินมานั่งข้างๆ ฉันและเปิดฝาขวดน้ำออกก่อนจะดื่มมันหลังจากดื่มมันเสร็จก็ทำท่าทางชื่นใจและหันมามองฉันก่อนจะเอ่ยถามว่า
"คุณมานั่งพักเหรอครับ?" เขาเอ่ยถามพร้อมมองหน้าฉัน ...นี่หน้าฉันเหมือนคนที่ดูเหนื่อยมากจนต้องมานั่งพักเลยหรือไงกัน? = =
"เปล่าค่ะ โดดการฝึกมา" ฉันตอบเขาไปตามความจริงซึ่งเขาก็ขยักหน้าเชิงว่าเข้าใจแล้วอะไรประมาณนี้
"จริงสิ! คุณชื่ออะไรเหรอครับผมชื่อ โยชิบะ ทัตสึยะ แต่เรียกว่า ทัตสึยะ ก็ได้ครับ"
"นากามุระ คุรุมิ" ฉันเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบาโดยที่ใบหน้าก็ไม่ได้หันไปมองอย่างสนใจเขาเลยเสียนิด
"คุรุมิจังสินะครับ แล้วคุณใช้เวทย์อะไรเหรอครับ?" ทัตสึยะยังคงเอ่ยถามเพื่อสร้างสัมพันธ์ต่อ
"นภา" ฉันเอ่ยตอบด้วยท่าทีที่ไม่ได้สนใจเขาเช่นเดิม
"...ครับ ผมใช้ธาตุไฟบริสุทธิ์น่ะครับ" เขายิ้มแห้งๆ มาให้ฉันประมาณว่ากลัวว่าฉันจะไม่เชื่อเขา ...ธาตุไฟบริสุทธิ์งั้นเหรอ? หายากนะเนี่ย...ธาตุบริสุทธิ์? .....ถ้าเป็นธาตุบริสุทธิ์ก็หน้าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกนั้นอยากได้น่ะสิ!! อีกอยากการที่จะให้ศิลาทั้งสามก็ต้องใช้ธาตุบริสุทธ์ทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และใช้พลังของเวทย์ปราบพระเจ้าช่วยเติมอีกแรงหนึ่ง มีส่วนเป็นไปได้ว่าเขาคนนี้จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่พวกนั้นอยากได้!
"ธาตุไฟ..บริสุทธิ์?" ฉันเอ่ยทวนคำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจซึ่งก็ขยักหน้าเชิงว่าใช่ฉันเข้าใจถูกต้องแล้ว "ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะคะ" ฉันว่าเสร็จก็ลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากที่ตรงนั้นแต่ดูเหมือนเจ้าตัวที่ฉันเพิ่งบอกให้ระวังตัวแต่ไม่เข้าใจ เขาวิ่งมาจับมือฉันไว้และรั้งไม่ให้ฉันเดินต่อไป
หมับ..
เขาเอื้อมมือมาคว้าข้อมือของฉันไว้ก่อนที่ฉันจะได้เดินหนีออกจากเขาไปไหน ฉันหันกลับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจที่เขาถือวิสาสะมาแตะเนื้อต้องตัวของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต
"นี่คุณ-----" คำพูดของฉันขาดช่วงไปเพราะภาพความทรงจำที่อยู่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน... ภาพเมื่อตอนฤดูใบไม้ร่วง...ผู้ชายคนนี้...เดินไปที่โลงที่ฉันถูกผลึกไว้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เขา...เขาเป็นคนที่ปลดผลึกให้กับฉัน เป็นเขางั้นเหรอ!?
ฉันรีบสะบัดมือของเขาออกทันทีด้วยความตกใจ เมื่อเขาสังเกตุเห็นท่าทีของฉันเริ่มแปลกๆ ก็เลยเอ่ยถามฉันเกี่ยวกับสุขภาพ
"เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ?" เขาว่าพลางจะเอามือมาแตะหน้าผากฉัน แต่ฉันรีบปัดมือเขาออกก่อนเขาแล้วทำหน้างงๆ ประมาณว่าเขาทำอะไรผิด
"ผมทำอะไร--" เขายังไม่ทันพูดจบประโยคก็มีเสียงหญิงสาวคนหนึ่งเรียกชื่อเขาดังขึ้นมา
"ทัตสึยะคุง~" ไม่นานนักเจ้าของเสียงก็วิ่งเข้ามาใกล้ๆ กับทัตสึยะก่อนจะมองมาทางฉันและหันไปถามทัตสยะว่า "ทัตสึยะคุง นี่ใครเหรอ?"
"อ่อ..นี่คุรุมิจังน่ะ" ทัตสึยะหันไปตอบหญิงสาวที่เอ่ยถามเขาเมื่อครู่
ไม่นานนักหญิงสาวตรงหน้าฉันก็หันกลับมามองฉันอีกครั้งและไล่ตาตั้งแต่หัวจรดเท้าและทำหน้าตาดูถูกสุดขั่วเลย มันน่ากระทืบนักนะ! - -^ มองกันแบบนี้หาเรื่องนี่หว่า (แล้วที่เธอมองทัตสึยะล่ะคืออะไร? - -)
"อ่อ..คุรุมิจัง ที่ลือกันว่าสามารถจัดการนักเรียน ม.4 สามคนที่ว่ากันว่าฝีมือเก่งกาจมากได้ภายในไม่กี่นาทีน่ะเหรอ? แหม่~ ท่าทางจะเก่งน่าดูนะจ๊ะ" หญิงสาวคนนั้นพูดประมาณชื่นชมฉัน
แต่ดูจากหน้าของเธอแล้ว ฉันว่าเธอจำใจพูดมากกว่า - -
"ฝีมือเก่งกาจ? โฮ~ ถ้านั้นเรียกว่าฝีมือเก่งกาจ นักเรียนทั้งโรงเรียนนี้ก็คงยังไม่ได้ครึ่งของครึ่งของครึ่งของฉันเลยมั้งคะ พวกนั้นก็ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของฉันเลยด้วยค่ะ!" ฉันฉีกยิ้มที่แสร้งที่สุดในสามโลกไปให้หญิงสาวตรงหน้าฉัน ซึ่งก็ทำหน้าตาไม่พอใจอย่างมาก
"โอ้! เด็กน้อย~ พูดอวดเกินไปแล้ว เด็กม.1 จะสู้เด็ก ม.4 ได้ยังไงกัน พวกนั้นอาจจะฝีมือด้อยก็ได้ใครจะไปรู้"
ยัยนั่น (ยัยนั่นเลยเหรอ?) ทำหน้าตาประมาณว่า 'ก็ไม่รู้สินะ' อะไรประมาณนี้แล้วก็ทำท่าทางดูถูกฉันมันอย่างเคย
"ก็ไม่รู้สินะคะว่าฝีมือด้อยไม่ด้อย แต่ได้ข่าวว่าอาจารย์บางคนก็ยังสู้ไม่ได้เลยนิคะ.." ประโยคหลังฉัยพูดเน้นๆ แล้วก็ทำท่าไม่รู้ไม่ขี้มองฝูงนกฝูงกา
ยัยนั่นกัดริมฝีมือของตัวเองไว้แน่น แสดงถึงอาการไม่พอใจอย่างแรง แต่สักพักใบหน้าที่แสดงอาการโกรธก็กลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่เข้าเหล่ซะงั้น
"เหอะๆ! งั้นมาดวลกันหน่อยมั้ยล่ะจ๊ะแม่เด็กน้อย~? ถือซะว่าฝึกไปในตัวก็เลยกัน วันหน้าวันหลังจะได้ไม่ต้องมาพูดจาไม่รู้จักสถาณะตัวเองแบบนี้อีก" พูดเสร็จเจ้าหล่อนก็เดินมากอดอกทำท่าท้าทายฉัน เรื่องแบบนี้ใครจะไปยอมวะ! ยอมไม่ได้ต้องสู้!!
"น้อมรับคำท้าค่ะ!"
และฉันก็หันหลัวเดินไปยังสนามใหญ่ที่ยังมีพื้นที่ว่างสำหรับการดวลอยู่ซึ่งเจ้าหล่อนเองก็เดินตามมาติดๆ รวมถึงทัตสึยะที่ไม่ได้มีบทมาซะนานด้วย (เกี่ยวมั้ย?) ฉันและยัยนั่น (ไม่รู้ชื่ออะไร) ก็ยืนหันหน้าเข้ามาหากันและมองกันอย่างท้าทาย นักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มหันมามองทางเราอย่างสนอกสนใจ
"งั้นเริ่มเลยแล้วกัน!" พูดเสร็จเจ้าหล่อนก็ไม่รีรออะไร ร่ายเวทย์โจมตีใส่ฉันทันที "River night!!" เวทย์ของเธอโจมตีเข้ามาที่ฉันทันที
ใช้เวทย์วารีงั้นเหรอ? งั้นเจอนี่หน่อยเป็นไง!!
"กรงเล็บ มังกรฟ้า!!" ฉันร่ายเวทย์โจมตีใส่เวทย์ของยัยนั่นซึ่งน้ำของเธอกระจายไปไม่โดนตัวฉันเมื่อแต่นิดเดียว ซึ่งเธอก็ยืนทำหน้าอึ้งอยู่สักหัก่อนที่จะเรียกสติกลับมาได้และเอ่ยปากถามฉันถึงเรื่องเวทย์ของฉัน
"นี่เธอ..เป็น Dragon Slayer งั้นเหรอ!?" เธอถามฉันด้วยหน้าตาที่ยังคงอึ้งๆ อยู่
"ใช่ งั้นก็ขอจบการประลองเลยแล้วกัน" ฉันอ้าแขนออกแล้วก็มีวงแหวนเวทย์ตรงมือทั้งสองข้าง
และเริ่มมีลมมันหมุนวนเหวียนรอบฉันเลยยันนั่นเรื่อยๆ จนสมมันมากจนมองไม่เห็นสองข้างเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่มองได้ก็มีแค่ด้านบนกับด้านหน้าที่ตอนนี้ยัยนั่นยืนทำหน้าตาอึ้งๆ อยู่เท่านั้น
"อะ..อะไรกัน! เวทย์เรียกลมงั้นเหรอ!?" เธอยังคงทำหน้าอึ้งๆ อยู่และมองไปรอบๆ
"เวลาต่อสู้มองไปทางอื่นได้ยังไงกัน!" เมื่อฉันเอ่ยทักเธอจึงได้สติและหันมาทำหน้าจะโจมตีฉันแต่ว่า.. "มันสายไปแล้วล่ะ ระเบิด มงกรฟ้า!!" และฉันก็เหวี่ยงแขนข้างหลังไปทันทีเวทย์โจมตีเข้าไปโดนยัยนั่นเต็มๆ ซึ่งเธอคงจะเลี่ยงไม่ได้เพราะลมที่มาหมุนรอบๆ ตัวฉันกับยัยนั่นคือทางปิดไม่ให้หนีไปไหนได้
ถ้าฟ่าออกไปก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ครบ 32 หรือเปล่าอ่ะนะ..
เมื่อเวทย์ของฉันคลายลงก็ได้เห็นสภาพของยัยนั่นว่าเละแค่ไหน ก็โดนไปซะเต็มๆ ขนาดนั้นไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตอ่ะนะ (เปรียบเทียบเท่านั้น)
"ยูกิโนะ!!" ทัตสึยะรีบวิ่งเข้ามาหาผู้หญิงคนนั้นทันที
อ่อ! ยัยนี่ชื่อยูกิโนะสินะ จะจำไว้แล้วกัน
"มะ..ไม่เป็นไร..ฉะ..ฉัน ฉันไม่เป็นไร" แล้วเจ้าหล่อนก็ยิ้มแห้งๆ ออกมา
โอ๊ย! เจ็บขนาดนั้นยังจะมาทำปากดีอีก!
และฉันก็เดินเข้าไปใกล้ๆ ยูกิโนะ ซึ่งเธอก็มองมาที่ฉันรวมทั้งทักสึยะด้วย ฉันนั่งลงและใช้เวทย์รักษา รักษาอาการบาดเจ็บของยูกิโนะจนหายหมด
"ค่อยยังชั่วหรือยัง?" ฉันถามยูกิโนะหลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บของเธอเสร็จ
"อืม..ขอบใจ" ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืนโดนที่มีทักสึยะคอยช่วยประครอง
แหวะ! หวานกันซะจริงจริ๊งง~ พ่อคุ๊ณณณณ! หวานได้ไม่เว้นวัน! หวานได้ไม่เว้นสถานที่!
"ถือว่าครั้งนี้ฉันชนะนะ" ฉันบอกยูกิโนะซึ่งเธอก็จยักหน้าเชิงเข้าใจ
อีกส่วนก็คงไม่อยากจะเถียงกับฉันแล้วอ่านะ สักพักก็มีเสียงเรียกชื่อฉันขึ้นจากด้านหลัง
"แคลอ..." อยุ่ๆก็มีเสียงทุ้มๆของผู้ชายดังขึ้นจากด้านหลังฉัน... แคลอ? เดี๋ยวนะ! คนที่รู้ว่าชื่อจริงของฉันคือแคลอ มีแค่คนที่คฤหาสน์และก็อาจารย์ประจำชั้นอีกคน แค่นี่ไม่ใช่เสียงที่ฉันคุ้นเคยเลย แต่เหมือนเคยได้ยินเสียงนี้ที่ไหนมาก่อน!
และเมื่อฉันหันหลังกลับไปดูก็ได้พบบุคคลที่เรียกชื่อจริงๆ ของ บุคคลคนนี้ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ คนที่อยู่ๆ ก็หายตัวไปเมื่อ 12 ปีก่อน คนที่ฉันคิดว่าเขาจะตายไปแล้วก็กลับมายืนอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าฉัน คนคนนั้นก็คือ...
"พี่..เรียว..." ฉันเอ่ยชื่อของเขาอย่างแผ่วเบา... ยอมรับเลยว่าตอนนี้ฉันทั้งตกใจมาก ทั้งดีใจมากเลยล่ะ แต่...มันหน้าแปลกพี่หาฉันเจอได้ยังไงกัน?
"เฮ้อออ~ หาตัวตั้งนานแหนะ" พี่เรียวพูดเสร็จก็ยิ้มบางๆ ให้ฉันพร้อมกับยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
ตอนนี้น้ำตาของฉันไหลออกมาทั้งสองข้างไม่ขาดสายเลย พี่เรียวเมื่อเห็นดังนั้นก็ตกใจและเอ่ยถามว่าเป็นอะไรทันที ฉันขยี้ตาและก็ยิ้มบางๆ ไปให้พี่เรียวพร้อมกับบอกในคิดที่ฉันคิดไป
"เปล่า..แค่ดีใจน่ะที่ได้เจอพี่อีกครั้ง อึก!" ฉันใช้มือทำสองข้างปิดตาเอาไว้ ก่อนที่จะเอ่ยว่า "หนู..หนูคิดว่าพี่จะตายไปแล้วซะอีก ดีใจจริงๆ ที่พี่ยังไม่ตาย!" และฉันก็โผมเข้าไปกอดพี่เรียวทันที พี่เรียวตกใจนิดหน่อยแต่ก็กอดตอบฉันแต่โดยดีและก็พูดปลอบฉันยกใหญ่
"โอ๋ๆ ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พี่ขอโทษที่ทิ้งให้เธออยู่คนเดียว อย่าร้องไห้นะคนดี" พี่เรียวเอามือมาลูบหัวฉันเบาๆ
"ต่อจากนี้พี่จะไม่ทิ้งหนูไปไหนอีกใช่มั้ย?" ฉันเงยหน้าขึ้นจากที่ใช้ซุกหน้าอกพี่เรียวเอาไว้ พี่เรียวยิ้มบางๆ มาให้ฉันพร้อมกับจูบขมับของฉันหนึ่งครั้งก่อนจะเอ่ยว่า
"อืม..พี่จะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีกแล้ว" คำตอบของพี่เรียวทำให้ฉันนั้นยิ้มออกมาได้ทันที
ผ่านไปสักพักหนึ่งฉันก็ถอดกอดจากพี่เรียวและเช็ดคราบน้ำตาออกให้หมด พี่เรียวก็เอาแต่ว่าฉันว่าฉันเป็นเด็กขี้แย แต่ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วก็ไม่ได้ขี้แยด้วยก็แค่ดีใจที่พี่เรียวยังไม่ตายก็เท่านั้นเอง และหลังจากนั้นฉันก็กลับไปที่คฤหาสน์พร้อมกับพี่เรียว...ตอนนี้ฉันก็ได้พี่ชายของฉันคืนมาแล้วเวลาจะทำอะไรก็คงจะง่ายขึ้นหน่อยเพราะฉันจะได้ไม่ต้องทำคนเดียวแล้ว อันที่จริงฉันก็ค่อนข้างที่จะติดพี่ชายอยู่บ้างนิดๆ อ่านะแต่ก็ไม่ได้ติดมากอะไร แล้วเมื่อพวกเราเดินทางมาถึงคฤหาสน์พี่เรียวก็อ้าปากค้างทันทีที่เห็นคฤหาสน์
"นะ..นี่แคลอสร้างเองเลยเหรอ?"
"ใช่"
"สร้างคนเดียวงั้นเหรอ?"
"ใช่"
"โอ้พระเจ้า! ทำไมไม่ให้ผมเกิดมาเก่งเหมือนน้องผมบ้าง~ \TOT/"
พี่เรียวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และก็ไปนั่งคุกเข่าเงยหน้ามองฟ้าเหมือนหมามองเครื่องบินไม่ใช่ล่ะ! ฮ่าๆ ท่าทางตอนนี้พี่เรียวตลกมากเลยล่ะ ทำตัวอย่างกะตัวเองยังเด็กอยู่ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอายุตั้ง 27 แล้ว โอ๊ย! พี่ฉันจะบ้าไปไหนเนี่ย ฮ่าๆ
[30 นาทีผ่านไป...]
หลังจากที่ฉันและพี่เรียวเข้ามาในคฤหาสน์ฉันก็ให้เรียสเทียสพาพี่เรียวไปยังห้องนอนของเขาแล้วก็ให้อาบน้ำและลงมาทานอาหารเย็นกัน อาการเย็นวันนี้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่กินมาเลยล่ะพอพวกเราทานอาหารกันเสร็จก็ไปเล่นตีหมอนกัน ฮ่าๆ พวกเราเล่นอะไรเด็กๆ กันใช่มั้ยล่ะ? แต่ฉันก็มีความสุขจริงๆ นะที่ได้พี่ชายของฉันกลับคืนมา พอตกดึกฉันก็พี่ชายก็นอนด้วยกัน แต่อย่าคิดลึกนะเพราะเมื่อก่อนพวกเราก็นอนด้วยกันแบบนี้ล่ะ พี่เรียวจูบขมับฉันก่อนเข้านอน คืนนี้ต้องคืนดีแน่ๆ เลย ^^
วันต่อมา...
ฉันและยูริโกะพาพี่เรียวมาที่โรงเรียนเพื่อมาสมัครเป็รนักเรียนโรงเรียนเดียวกับที่ฉันอยู่เพื่อที่จะช่วยกันระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับนักเรียนคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยฝีมือของพวก 'JMT' นั้นล่ะ
พี่เรียวได้อยู่ ม.3 ห้องA ซึ่งห้องเรียนของพี่เรียวอยู่กับอาคารฝั่งตรงข้ามของฉันถึงจะขนาดนั้นแต่ว่าฉันกับพี่เรียวไม่ค่อยจะได้พบได้เจอกันเท่าไหร่นักหรอก เห็นว่าพี่เรียวไปเป็นนักกีฬาบาสเหมือนทำตัวให้เป็นปกติสุดๆ ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่า การที่จะทำตัวให้เหมือนเป็นนักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่งจะต้องไปเล่นบาส? คงเป็นวิธีการของผู้ชายเขาแหละนะ พอรู้มาบ้างเหมือนกันว่า ถ้าผู้ชายไม่เล่นกีฬามักจะถูกมองว่า อ่อนแออ หรือเป็นเกย์ - -!
แต่ก็นะ...นั้นมันก็วิธีของพี่เรียวฉันจะก้าวก่ายก็ไม่ได้ด้วย อันที่จริงก็ไม่อยากก้าวก่ายด้วยล่ะนะ ยังไงก็ต้องปล่อยให้เขาทำตามวิธีของเขาไปนั้นแหละนะ...เพราะฉันน่ะยังไงก็ได้ขอแค่ได้ข่าวหรือเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องของผู้ชายคนนั้น 'JMT' ก็พอแล้ว..
I'll make you crazy
In memory next
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ