Past-memories อดีต-ความทรงจำรักวุ่นๆกับยัยตัวร้าย
เขียนโดย Ryoko
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.34 น.
แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) หนึ่งในสิ่งที่ต้องการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หนึ่งในสิ่งที่ต้องการ
ณ สนามใหญ่
หลังจากที่ฉันได้ฟังข้อมูลของคนที่คิดจองจะทำอะไรสักหย่างภายในโรงเรียน ฉันก็ลงมายังสนามใหญ่ที่ๆ พวกเราทุกคนในห้องจะฝึกฝนเวทย์ของตัวเองกัน แต่ว่านะ..จากที่ดูๆ แล้วโรงเรียนก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือเด่นสะดุดตาที่จะทำให้คนๆ นั้นต้องการจนเข้ามาทำลายโรงเรียนเลยสักนิด นักเรียนกับอาจารย์ก็ไม่มีใครใช้เวทย์อะไรที่น่าสนใจเลย มีก็แต่เวทย์ซ้ำๆ หรือได้ทั่วๆ ไป เช่น เวทย์วารี นภา อคีย์ แต่เวทย์พวกนี้ก็เป็นเวทย์ผสมทั้งนั้น ไม่ใช่เวทย์บริสุทธิ์เลย
'ธาตุผสมคือ เวทย์มนต์ที่ใครๆ ก็สามารถฝึกฝนได้ แต่ธาตุผสทนี้เป็นแค่พลังครึ่งหนึ่งของธาตุบริสุทธิ์หรือบางทีอาจจะไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ นักเวทย์ส่วนใหญ่ก็เป็นธาตุผสมจึงหายากมานักเวทย์ที่เป็นธาตุบริสุทธิ์ ธาตุบริสุทธิ์คือ เวทย์มนต์ที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ เพราะมันจะมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด เชื่อกันว่าธาตุบริสุทธิ์นี้ทรงพลังกว่าธาตุผสมเป็นไหนๆ ทุกๆ คนจึงใฝ่หาพลังที่เหนือกว่าทุกสิ่งแม้แต่พระเจ้า ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมาก เมื่อสมัยก่อนชนเผ่าโบราณได้ตัดสินใจประหารนักเวทย์หรือเด็กทุกๆ คนที่มีธาตุบริสุทธิ์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้ายไปมากกว่านี้ คนที่มีธาตุบริสุทธิ์ส่วนใหญ่ในสมัยนี้จึงถูกตามล่าฆ่าแย่งชิงพลังกัน'
จากที่ฉันดูคราวๆ แล้วโรงเรียนนี้น่าจะมีแต่ฉันคนเดียวที่เป็นธาตุบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่มั่นใจนักหรอกเพราะโรงเรียนนี้มีนักเรียนตั้งมากมาย คงจะได้รอจนกว่าจะถึงงานประลองเวทย์ล่ะนะถึงจะแน่ใจ และก่อนที่ฉันจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ก็มีเสียงหนึ่งเรียกขึ้นมาทำให้ฉันตกใจ
"คุรุมิจัง!" ฉันสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของฉัน และเมื่อฉันหันไปจึงได้รู้ว่าเป็นคินจินั้นเองที่มาเรียกฉัน
"มะ มีอะไรเหรอคะ?" ฉันตอบคินจิไปหลังจากที่เรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้
"ผมจะชวนไปฝึกเวทย์น่ะครับ แต่เห็นคุรุมิจังนั่งคิดอะไรอยู่พอเรียกก็สะดุ้งเลย กังวนเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่าครับ?" คินจิถามฉันด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความนัยต์ที่ฉันเองก็ไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน
"เปล่าค่ะ ฉันแค่กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่น่ะค่ะ เราไปฝึกกันเถอะค่ะ" ฉันเอ่ยปากบอกคินจิที่ก็ขยักหน้าและเราก็เดินไปพร้อมกัน
"งั้นเราฝึกกันตรงนี้แล้วกันนะครับ" คินจิที่เดินนำหน้าฉันอยู่นิดหน่อย หยุดฝีเท้าก่อนจะหันมาบอกฉัน
"ค่ะๆ" ฉันตอบคินจิแบบส่งๆ
เพราะในหัวของฉันในตอนนี้ก็เอาแต่คิดเรื่องของผู้ชายคนนั้น 'JMT'
"ครับ ผมใช้เวทย์สายฟ้านะครับ สาย Infinity ครับ" คินจิบอกข้อมูลของเวทย์ของเขาคราวๆ ตามมรยาท
"ค่ะ ฉันใช้เวทย์นภา สาย Infinity เช่นกันค่ะ" และฉันก็บอกข้อมูลเวทย์ของฉันคราวๆ กับคินจิตามมรยาท
'สายเวทย์มนต์แบ่งเป็น 2 สายคือ สาย Infinity กับสาย objects สาย Infinity คือเวทย์มนต์ที่ไม่จำเป็นต้องให้ไอเทมหรือวัตถุอุปกรณ์ต่างๆ ในการใช้เวทย์ไม่ว่าจะโจมตีหรือรักษา สาย objects คือเวทย์มนต์ที่จำเป็นต้องให้ไอเทมหรือวัตถุอุปกรณ์ต่างๆ ในการใช้เวทย์'
"งั้นเริ่มเลยนะครับ คัมภีร์สายฟ้า!!" คินจิเริ่มร่ายเวทย์ของเขา ไม่นานท้องฟ้าก็เริ่มมืด อยู่ๆ เสียงฟ้าร้องดังขึ้นมาและก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ มีสายฟ้าผ่าลงมาที่ฉันแต่ฉันไหวตัวทันเลยสามารถหลบได้ "หลบได้สวยนิครับคุรุมิจัง" คินจิเอ่ยชมฉันที่สามารถหลบสายฟ้าของเขาได้
"งั้นต่อไปตาฉันบ้างล่ะนะคะ! มังกรฟ้า คำราม!!" และฉันก็ร่ายเวทย์ของตัวเองพร้อมโจมตีไปที่คินจิทันที แต่เขาก็สามารถหลบการโจมตีของฉันได้หลังจากที่เขาหลบการโจมตีของฉันแล้วก็ทำหน้าอึ้งเมื่อได้เห็นเวทย์ของฉัน แต่การโจมตีของฉันมันยังไม่จบหรอกนะ ถ้าโจมตีแค่ครั้งเดียวก็ไม่ใช่ฉันสิ หึ! "เวทย์สนับสนุน speed!" ฉันใช้เวทย์สนับสนุนความเร็วแล้วใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ไปโผล่ข้างหลังของเขา "กงเล็บ มังกรฟ้า!" และฉันก็โจมตีใส่เขาอีกครั้งหนึ่งที่กลางหลังเต็มๆ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บไปพอตัวเลย ฉันทำแรงไปรึเปล่านะ
"โอ๊ยยย!!" คินจิร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดที่เขาเพิ่งโดนไปเมื่อกี้นี้ที่กลางหลังเต็มๆ
"เท่ากับว่าครั้งนี้ ฉันชนะ นะคะ" ฉันเอ่ยก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เขาเพื่อที่จะรักษาบาดแผลให้
"ว้าาาา...นี่ผมแพ้คุรุมิจังเหรอเนี่ย~? เอาเถอะ!" คินจิว่าก่อนที่จะนั่งลงและหันหลังให้ฉันพร้อมกับเอ่ยปากบอกอีกทีว่า "งั้นก็ช่วยรักษาแผลให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ ^^" คิจิยิ้มอย่างไม่รู้สึกโกรธอะไรฉันเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าเขาต้องโกรธฉันแน่ๆ แต่เปล่าเลยกลับยิ้มแย้มอย่างไม่รุ้ร้อนรู้หนาว - -
"ก็กะจะทำอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ" ฉันนั่งลงและว่าพลางเอามือไปอยู่ตรงบาดแผลของเขาก่อนจะเริ่มใช้เวทย์รักษา รักษาอาการบาดแผลของเขาให้ค่อยๆ หายไป
"ขอบคุณครับ" คินจิขอบคุณฉันและก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมือมาให้ฉันเพื่อจะช่วยยึดฉันลุกขึ้นยืนอีกแรง และฉันก็ยื่นมาไปจับมือของเขา เขาช่วยยึดฉันขึ้นเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือและเอ่ยว่า "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ค่ะ" ฉันยิ้มและยืนมองคินจิที่หันหลังเดินจากไปจนเขาหายลับจากสายตาของฉันไป
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกลับหันหลังและเดินไปหาคนที่ยังไม่มีคู่ฝึกเพื่อที่จะฝึกด้วย แต่ก่อนที่จะได้หาอะไรไปมากกว่านั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับเอ่ยว่า
"คุรุมิ! เธอมาประลองกับฉันซะ!" หญิงสาวคนนั้นเอ่ยท้าฉันพร้อมกับเอานิ้วชี้หน้าและทำสายตาประมาณว่าดูถูกฉันมาก
ที่ถ้าฉันไม่รับคำท้าเธอก็คงหาว่าฉันเป็นพวกยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสินะ เอาเถอะยังไงๆ ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วจะรับคำท้าของผู้หญิงคนนี้หน่อยแล้วกัน
"ก็ได้ แต่ถ้าเธอแพ้ล่ะ?"
การประลองก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนสิ ไม่มีฉันไม่ประลองด้วยหรอกนะ
"ถ้าฉันแพ้ ฉันยอมทำตามเธอหนึ่งอย่างเลยจะสั่งอะไรก็ได้! แต่ถ้าเธอแพ้เธอก็ต้องทำตามฉันนึงอย่างเหหมือนกัน!" หญิงสาวคนนั้นว่าพลางทำหน้าตาจริงจังเหมือนมีอะไรที่ต้องการจะสั่งฉันอยู่
"เธอมั่นใจเหรอว่าจะชนะฉันได้?" ฉันเอ่ยปากถามหญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าตาจริงจัง ก่อนที่เธอจะโต้กลับมาในทันทีที่เอ่ยถามไปว่า
"มั่นใจสิ! มั่นใจมากด้วย!!" หญิงสาวตรงหน้าฉันกล่าวเสียงดัง แสดงถึงความมั่นใจเต็มเปี่ยม "อย่ามัวเสียเวลาเลย! มาประลองกันได้แล้ว!" หญิงสาวตรงหน้าฉันตัดบทไม่ให้ฉันถามอะไรไปมากกว่านี้ ก่อนที่เธอจะร่ายเวทย์โจมตีใส่ฉัน "พระเจ้า คำราม!!" เวทย์โจมตีของเธอทำให้ฉันอึ้งไปชั่วขณะแต่ก็ไม่ลืมที่จะหลบการโจมตีนั้น
อะไรกัน! ผู้หญิงคนนี้ใช้เวทย์ God Slayer งั้นเหรอ!? เจอแล้ว! ในที่สุดก็เจอตัวสักที! หนึ่งในเหตุผลที่โรงเรียนตกเป็นเป้าหมายของผู้ชายคนนั้น God Slayer เพราะมีเวทย์เวทย์นี้อยู่ ถึงได้ตกเป็นเป้าหมาย ต้องรีบจำการเรื่องนี้ต้องรีบบอกเจ้าตัวให้รู้เรื่องโดนเร็ว!
"ฉันขอจบการประลองนี้เลยแล้วกัน!" ฉันว่าพลางรวบรวมพลังเวทย์ให้มากที่สุดและโจมตีใส่ผู้หญิงตรงหน้าให้จบในครั้งเดียว "พระเจ้า!" เมื่อฉันเริ่มร่ายเวทย์แค่คำแรกก็ทำให้ผู้หญิงตรงหน้าอึ้งไปชั่วขณะ ฉันใช้โอกาสในครั้งนี้โจมตีไปยังผู้หญิงคนนั้นที่ยังคงอึ้งอยู่สักพัก "คำราม!!" ฉันได้โจมตีไปที่ผู้หญิงคนนั้นซึ่งเธอก็โดนเข้าเต็มๆ เท่ากับจบการประลอง
"แอะๆ!" ผู้หญิงตรงหน้าที่โดนฉันโจมตีเข้าไปเต็มๆ ไอออกมา
ตามตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลเพราะการโจมตีเมื่อกี้แค่ครั้งเดียวของฉัน ฉันรีบตรงเข้าไปรักษาให้เธอทันทีและเมื่อรักษาบาดแผลทั้งหมดให้เธอเสร็จก็ขอให้เธอเดินตามมา ทีแรกเธอก็นึกว่านี่คือคำสั่งแต่เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อมันไม่ใช่อย่างที่เธอได้คิดไว้
"ก่อนอื่นฉันขอทราบชื่อของเธอหน่อย" ฉันถามชื่อของผู้หญิงที่ยังทำได้งงๆ อยู่นิดหน่อย แต่เธอพอเรียกสติกลับคืนมาได้ก็รีบตอบคำถามฉันทันทีทันใด
"มายูมิ" มายูมิตอบฉันเบาๆ และก้มหน้าลงคิดอะไรบางอย่างซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดอะไร
"เอาล่ะ! มายูมิ" เมื่อฉันเรียกเธอ มายูมิก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันทันที ท่าทีของเธอเหมือนจะกลัวฉันยังไงไม่รู้คงจะกังวนเรื่องที่ฉันจะสั่งสินะ "ฉันไม่ได้จะสั่ง แต่ฉันมีอะไรจะบอกให้เธอได้รับรู้เอาไว้สักหน่อย" มายูมิมองหน้าฉันอย่างงงๆ แต่ก็เงียบตั้งใจฟังในสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ "เธอเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้โรงเรียนนี้ตกเป็นเป้าหมายของผู้ชายคนนั้น ซึ่งง่ายๆ ก็คือ...เขาต้องการตัวเธอ" มายูมิทำหน้าอึ้งและอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ
ฉันก็เข้าใจความรู้สึกนี้ พอรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ เพราะความโลภของมนุษย์ถึงทำให้ต้องสูญเสียอะไรต่างๆ นาๆ ไปมากมาย เพียงเพราะของเป็นคนที่เหนือกว่าสิ่งใดทั้งมวล เพียงเพราะเหตุผลแค่นั้นก็ทำให้ต้องฆ่าคนไปนับร้อย เนี่ยล่ะ...ความไร้สาระของมนุษย์ แค่ตนเองเป็นใหญ่ก็พอ ไม่เคยคำนึงถึงความเป็นอยู่ของอีกหลายๆ คนว่าเขาจะต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน เพราะอย่างนี้ ฉันถึงได้เกลียดมนุษย์! พวกมนุษย์มักไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า...พวกเขาได้สร้างปีศาจที่หน้ากลัวขึ้นมาหนึ่งตัว!
"ธะ..เธอกำลังจะบอกว่า มีใครบางคนที่จองจะทำร้ายฉันงั้นเหรอ!?" มายูมิถามด้วยอาการตกใจและก็หวาดกลัวเล็กน้อย
"ใช่ พวกนั้นต้องการพลังในตัวเธอ แต่เธอก็ไม่มั่นใจว่าเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ...เธอคือหนึ่งในสิ่งที่พวกนั้นอยากได้แน่นอน!" มายูมิเหงื่อแตกพลากสายตาบงบอกถึงความหวาดกลัว
"เธอบอกว่า 'หนึ่งในสิ่งที่พวกนั้นอยากได้' แสดงว่าก็มีอย่างอื่นอีกน่ะสิที่พวกนั้นอยากได้" หลังจากที่มายูมิเรียกสติของเธอกกลับมาได้ เธอก็เอ่ยถามฉันด้วยความอยากรู้
"ใช่ แต่ฉันยังหาไม่เจอว่าสิ่งๆ นั้นมันคืออะไร แต่ฉันมั่นใจต้องมีบางสิ่งบางอย่างอีกแน่นอน ถ้าเพียงเพราะต้องการพลังของเธอพวกนั้นคงไม่ลงทุนขนาดทำลายโรงเรียนซะเสียหายหรอก ถ้าต้องการแค่ตัวเธอคงฉุกตัวเธอไปตั้งนานแล้ว แต่นี่มันยังไม่ทำอะไรเธอเลยแสดงว่ามีบางอย่างที่สำคัญยิ่งกว่าพลังของเธอ" ฉันตอบคำถามมายูมิตามที่ฉันได้ตั้งคำสันนิษฐานไว้ ซึ่งมายูมิก็ขยักหน้าประมาณว่าเข้าใจแล้ว
[เลิกเรียน]
ณ คฤหาสน์
ตอนนี้ฉันก็กลับมาที่คฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว เมื่อมาถึงฉันก็ตรงเข้าไปยังห้องนอนของฉันทันที ในหัวของฉันก็เต็มไปด้วยเรื่องของผู้ชายคนนั้น และก็กำลังคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญกว่าพลังระดับ God Slayer เวทย์นี้เป็นถึงเวทย์ปราบพระเจ้า แต่พวกนั้นกลับเห็นมันสำคัญน้อยกว่าของบางสิ่งบางอย่างอีกงั้นเหรอ!? ในโรงเรียนนั้นยังมีของที่สำคัญและล้ำค่ามากกว่า God Slayer อีกงั้นเหรอ!? ฉันนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าสิ่งๆ นั้นคืออะไรทำไมถึงได้สำคัญมากนัก มันจะต้องล้ำค่ามากแน่ๆ จากที่ดูๆ พวกนั้นเหมือนต้องการพลังที่ยิ่งใหญ่ พลังที่ทำให้เหนือกว่าพระเจ้า...ถ้าเป็นศิลาทั้งสามก็ว่ากันไปอย่างนะ...
ศิลาทั้งสาม? ใช่! อาจจะมีก็ได้! หนึ่งในสามของศิลาแท่งที่หนึ่ง ถ้างั้นมันต้องอยู่ส่วนไหนสักที่ในโรงเรียนนั้น! และนั้นล่ะคือสิ่งที่พวกมันต้องการ ถ้ามันมีจริงๆ ก็คงจะเดาได้ไม่ยากแล้วว่าพวกมันตั้งใจจะทำอะไรกันแน่...
I'll make you crazy
In memory next
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ