Past-memories อดีต-ความทรงจำรักวุ่นๆกับยัยตัวร้าย

7.7

เขียนโดย Ryoko

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.34 น.

  25 ความทรงจำที่
  44 วิจารณ์
  28.97K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทนำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
   
 บทนำ
 
     ปีศาจ... สิ่งๆ นี้เป็นสิ่งที่ฟังแล้วทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวหรือรังเกลียด เพราะมันคือสัตว์ประหลาดที่ส่วนใหญ่จะชอบอยู่ในร่างของมนุษย์ สิ่งที่ทำให้พวกมันอิ่มได้คือ..ความสิ้นหวัง พวกปีศาจเลยต้องฆ่าคนตั้งหลายต่อหลายครั้งเพื่อความรู้รอดของตนเอง แต่ก็มีปีศาจที่ใช้ร่างมนุษย์ให้เป็นประโยชน์ไปมอบความสิ้นหวังให้มนุษย์ทั้งๆ ที่ตนยังไม่ได้ฆ่าเขา...
     แวมไพร์... สิ่งๆ นี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวและรังเลียด พวกมันก็เป็นสัตว์ที่อยู่ในร่างมนุษย์เช่นกัน พวกมันจะอิ่มได้เพราะเลือดของมนุษย์ แวมไพร์แบ่งไปชนชั้น 5 ชนชั้นด้วยกัน
     1. แวมไพร์เลือดบริสุทร์
     2. แวมไพร์ชนชั้นสูง
     3. แวมไพร์ธรรมดาๆทั่วไป
     4. มนุษย์ที่โดนเปลี่ยนเป็นแวมไพร์
     5. Crazy
ทำไมแวมไพร์ถึงแบ่งชนชั้นน่ะหรือ?
ก็เพราะว่าแวมไพร์บางตนมีพลังอำนาจน้อยแต่คิดจะต่อกรกับแวมไพร์ที่มีพลังอำนาจมากโดยไม่ได้สนใจตนเองที่มีพลังอันน้อยนิดนั้น ทำให้เหล่าแวมไพร์พากันค่อยๆ ตายไป จนใกล้จะสูญพันธุ์
และเพื่อไม่ให้เป็นเช่นนั้นหลายร้อยปีต่อมาแวมไพร์ก็ได้จัดชนชั้นเพื่อให้รู้ถึงฐานะของตนและสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าแวมไพร์ที่มีพลังน้อยหรือไม่มีพลังเลยไม่สามารถต่อกรกับแวมไพร์ที่มีพลังอำนาจมหาสาร ซึ่งก็คือแวมไพร์เลือดแท้ ในปัจจุบันนี้ได้...
     ยมทูต... ถ้าพูดถึงยมทูตทุกๆ คนคงนึกถึงคนที่จะมารับเราหลังจากที่เราตายไปแล้ว... แต่ยมทูตที่มาเพื่อมอบความตายให้ก็มีเช่นกัน ยมทูตจะกินวิญญาของมนุษย์เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายของตนไป วิญญาของมนุษย์ทุกคนจะต้องถูกลิขิตโดยยมมทูตอย่างเลี่ยงไม่ได้
     
 
 
          และฉัน...ที่มีทั้งสามสิ่งอยู่ในตัว มันทำให้ฉันไม่มีเพื่อนแม้แต่ตัวเดียว อำนาจ? เกรียติยศ? เงินทอง? ใช่...สิ่งนอกกายฉันมีหมดทุกอย่าง เป็นที่น่าอิจฉาของใครหลายๆ คน คนที่มาเข้าหาก็มีแต่พวกผู้ใหญ่ที่คิดจะยัดเหยียดลูกชายตัวเองให้ได้เป็นลูกเขยของท่านพ่อท่านแม่ก็เท่านั้น...แต่ก็มีแต่พวกแวมไพร์ชั้นชนสูงทั้งนั้น..ที่ดินแดนของเรา อาณาจักรฮิว มีแต่พวกแวมไพร์ กับ นักเวทย์เท่านั้น ไม่มียมทูต ไม่มีปีศาจ แต่ฉันมันตัวประหลาดที่มีทั้ง ปีศาจ แวมไพร์ ยมทูตในตัว นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันไม่มีเพื่อน ผู้ใหญ่บางคนก็รังเกลียดฉัน
          ฉันเป็นองค์หญิงของอาณาจักรฮิว แล้วไง? ตำแหน่งมันก็แค่ของนอกกายที่มีไว้ใช้สั่งให้คนก้มหัวลงแท้บเท้าเท่านั้น... เป็นว่าที่ราชินีตัวต่อไป แล้วไง? ถ้าฉันเป็นสิ่งที่ทุกคนในเมืองหวาดกลัวเป็นไปมันก็เหมือนใช้กำลังข่มเท่านั้น ใช่...ฉันเกิดมามีทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้... แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันไม่เคยได้... คือความรักจากคนรอบข้าง จริงอยู่ที่ฉันได้ความรักจะท่านพ่อท่านแม่พี่เรียว แต่ไม่เคยเลย ที่คนอื่นๆ นอกจากทั้งสามคนนี้จะมารักฉัน
          ฉันเกลียด...ที่จะต้องเป็นแบบนี้ที่สุด ฉันเลือกเกิดไม่ได้ ฉันไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้สักหน่อย ทำไม ทำไมไม่มีใครเข้าใจฉันเลย! บางทีก็โดนคนในเมืองหาว่าเป็นปีศาจบ้างล่ะ เป็นตัวหายนะบ้างล่ะ จะทำให้เมืองวิบัตบ้างล่ะ ทำไม...ฉันน่ารังเกลียดขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ? มีบางสิ่งที่ฉันยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวฉันอีกงั้นเหรอ? โลกนี้...มันบ้าที่สุด!!
    
 
 
          "องค์หญิงอยู่ในนี้ก่อนนะเพคะ" เซร่าพยายามบังฉันไม่ให้ฉันเห็นภาพตรงหน้า
          ถึงฉันจะจยับไปซ้ายจะต้องเอาตัวมาบังตลอด ที่ฉันเห็นคราวๆ ก็คือ ทุกๆ คนกำลังเร่งรีบวุ่นวายเต็มไปหมด ต่างคนต่างวิ่งเพื่อเอาตัวรอด นี่มัน..เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ!?
          "ทำไมเหรอ? ข้างนอกมีอะไรงั้นเหรอ?" ฉันพยายามมองออกไปข้างนอกแต่เซร่าก็เอาตัวมาขว้างและบังทันทีและฉันก็ตัดสินใจดันตัวเซร่าออกไป
          เมื่อฉันได้มองออกไปข้างนอก ฉันก็ได้เห็น ... เมืองของฉันกำลังถูกกำลาย มีทั้งเพลิงที่กำลังลุกไหม้ กองเลือดมากมาย และ... คนตาย
          ในนั้นมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งเขาถือดาบเปื้อนเลือดอยู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น..?
          "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเซร่า?" ฉันหันไปถามเซร่าที่ก้มหน้าทำท่าทางสำนึกผิด ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่สักพักเซร่าก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยว่า
          "หลบอยู่ในนี้ก่อนเถอะนะคะองค์หญิง" และเซร่าก็พยายามดันฉันเข้าไปในโลงที่เหมือนกับโลงศพนี่อีกครั้งหนึ่ง แต่ฉันกก็ขัดขืนเต็มที่
          "มันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันสิ! ทำไมเมืองของฉันถึงถูกทำลายแบบนั้น!!?"
          ฉันโมโหมากจึงตะโกนไปด้วยความโกรธที่เซร่าไม่ยอมตอบคำถามของฉันให้รู้เรื่อง
          "องค์หญิงเพคะ..." เซร่าทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ออกมา แต่เธอกลับกลั้นไวแล้วก็ก้มหน้าลงเช่นเคย
          "มันเกิดอะไรขึ้น! แล้วท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะ!?" 
          ฉันโมโหมากที่เซร่าไม่ยอมบอกอะไรเลยจึงถามออกไปอีกครั้ง และถามถึงท่านพ่อกับท่านแม่ของฉัน เพราะฉันไม่เห็นพวกท่านเลย ฉันเร่งเร้าพยายามให้เซร่าตอบคำถามและในที่สุดเธอก็ยอมเปิดปากบอกว่า
          "เอ่อ...องค์หญิงเพคะ พวกท่านทั้งสองไม่อยู่แล้วเพคะ...เพราะชายผู้นั้นได้รอบสังหารท่านพ่อและท่านแม่ขององค์หญิงแล้วค่ะ หม่อนฉันขอประธารอภัยเป็นอย่างสูงเพคะ ที่มิอาจที่จะปกป้องท่านทั้งสองได้ แต่พวกท่านทั้งสองบอกให้หม่อนฉันพาองค์หญิงมาที่นี่เพคะ หม่อนฉันก็มิอาจกล้าขืนขัดคำสั่ง" เซร่าก้มหน้าก้มตาไม่มองหน้าฉันไม่สบตาฉันสักนิดเดียว
          "มะ..ไม่จริง" 
          เมื่อฉันรู้ว่าพวกท่านทั้งสองไม่อยู่แล้วน้ำตาของฉันก็ไหลออกมาไม่หยุด ทำไมล่ะ? ถ้าไม่มีพวกท่าน แล้วฉันจะอยู่ยังไง?
          "องค์หญิงเพคะ ท่านควรหลบอยู่ในนี้ก่อนนะเพคะ" เซร่าเงยหน้าขึ้นมาและพยายามดันฉันเข้าไปอีกครั้ง
          ทำไม..ทำไมถึงขีดกันฉันไม่ให้ไปอยู่กับพวกท่าน! ทำไม!!
          "ไม่! ฉันจะไปหาท่านพ่อกับท่านแม่" ฉันพยายามจะออกจะโลงที่เหมือนกับโลงศพนี่ แต่กลับถูกเซร่าดันกลับเข้ามาในโลงศพนี่เหมือนเช่นเคย
          "ขอโทษเป็นอย่างสูงเพคะองค์หญิง ถ้าองค์หญิงออกไปตอนนี้จะได้รับอันตรายนะเพคะ ยังไงพระองค์ควรอยู่ในนี้ เพื่อความปลอดภัยของพระองค์เอง" และเซร่าก็ดันฉันเข้ามาในโลงนี่ได้สำเร็จฉันก็ไม่คิดจะขัดขืนอีกแล้วเพราะมัน... เปลือกแรงเปล่า
          "เซร่า..." ฉันเรียกชื่อเซร่าเบาๆ
          เพราะความเศร้าของฉันตอนนี้มันมากมายเหลือเกินฉันเสียท่านพ่อกับท่านแม่ถ้าฉันต้องเสียเซร่าไปอีกคนคงไม่ไหวแน่ๆ...
          "อยู่ในนี้ก่อนเถอะเพคะองค์หญิง" เซร่าว่าพลางเอามือจับฝาโลง
               "แล้วเซร่าล่ะ?" ฉันเอ่ยถามก่อนที่เซร่าจะปิดฝาโลงลง
          "ไม่ต้องห่วงหม่อนฉันหรอกเพคะ" เซร่ายิ้มให้กับฉัน
          แต่รอยยิ้มนั้นช่างเศร้าเหลือเกิน เกินที่ฉันจะบรรยายมันออกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรใดๆ
          "เซร่า.." ฉันได้แต่เรียกชื่อของเซร่าอย่างแผ่วเบา
     
     ช่วยบอกทีสิว่าเธอจะอยู่รอดและอยู่กับฉันตลอดไป..
     
          "หลับให้สบายเถอะนะคะองค์หญิง ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องใดๆทั้งสิ้น โชคดีค่ะ" และเซร่าก็ได้ปิดฝาโลงลง
          รอบข้างตัวฉันก็มืดสนิท ภาพสุดท้ายก่อนที่ความมืดมิดจะกลืนกินทุกสิ่งคือภาพของเซร่าที่ยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย แต่ทำไม...น้ำตาถึงไหลกัน? และความมืดก็เข้ามาในหัวใจของฉัน ฉันไม่อาจจะทำอะไรได้เลย...ไม่สามารถช่วยใครได้เลย มันเกิดอะไรขึ้นข้างนอกกันนะ...และผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันทำไมต้องฆ่าท่านพ่อกับท่านแม่ของฉันด้วย? และการตัดสินใจของฉันก็คือ...การผลักฝาโลงนี่ออกซะ ฉันไม่รู้ว่าการกระทำของฉันที่ฉันกำลังจะทำมันลงไปถูกหรือผิด แต่ฉันก็ได้เปิดมันออกแล้ว...ฉันผลักฝาโลงออกประมาณพอที่จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกได้
          ฉึบ!!!
          เมื่อฉันผลักฝาโลงนี่ออกภาพที่เห็นคือ...เซร่า...ผู้ชายคนนั้น...ดาบเล่มนั้นที่ผู้ชายคนนั้นถืออยู่มันทลุกร่างของเซร่าออกมา เลือดค่อยๆ ไหลออกมาดั่งสายน้ำ เซร่าหันมามองฉันและขยับปากพูดประมาณว่า 'รีบปิดฝาโลงลงเถอะค่ะองค์หญิง' สายตานั้น น้ำตานั้น...เซร่า...น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด ทำไม!? ทำไม!!? ทำไมคนที่สำคัญของฉันต้องมาตายจากฉันไปหมด ทั้งท่านพ่อท่านแม่ เซร่า .. และไหนจะพี่เรียวที่หายตัวไปอย่างไร้ล่องรอยอีก...สายตานั้นของเซร่ามันสื่อกับฉันว่า 'ไม่ต้องการให้ฉันตาย'
          ผู้ชายคนนั้นดึงดาบเล่มนั้นออกจากร่างเซร่า และร่างของเซร่าก็ล้มลงนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ฉันสังเกตเห็นฝ่ามือหลังข้างขวาของผู้ชายคนนั้นมีตัวหนังสือเขียนไว้อยู่คือ 'JMT' นัตย์ตาที่แดงกล่ำเหมือนเลือดนั้นและตัวหนังสือ 'JMT' นั้น ฉันจะไม่มีวันลืม ผู้ชายคนนั้นฆ่าท่านพ่อและท่านแม่ของฉันรวมถึงเซร่าด้วย สักวันฉันจะแก้แค้นให้กับท่านพ่อท่านแม่และเซร่าให้ได้ และหลังจากนั้นฉันก็ปิดฝาโลงลงความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่ง ฉันค่อยๆ หลับตาลงและหลับในที่สุด แต่การหลับของฉันครั้งนี้ไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนกัน...
 
 
 
          I'll make you crazy
 
                              In memory next
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา