EAT ME IF YOU CAN [[ Yaoi ]]

9.9

เขียนโดย iamkin

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.

  28 ตอน
  8 วิจารณ์
  84.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) ตอนที่ : 24

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

EAT ME IF YOU CAN [24]

 

[Thunder]

ผมกำลังยืนรอเจ้าตัวเล็กอยู่ที่หน้าคณะน้องเช่นเคยและเช่นเดิมครับบลูเลิกเรียนตอนบ่ายสอง ก็อีกประมาณสิบนาทีแหละครับ ผมมักจะมาก่อนเวลาเสมอผมไม่อยากให้คนตัวเล็กรอผมนี่ครับ เพราะบางทีบลูอาจจะต้องรอผม...นานกว่านี้ก็ได้

'โย่วๆๆ'

'ยังไม่บ่ายสองเลย โดดมารึเปล่าเนี่ย' ผมว่าคนตัวเล็กที่กระโดดกอดเอวผมจากทางด้านหลังพร้อมกับส่งเสียงแปลกประหลาดที่ไม่เคยซ้ำกันสักวัน

'บ้า เค้าทำตัวดีกันต่างหาก อาจารย์เลยปล่อยเร็ว' คนตัวเล็กว่าแล้วทำหน้างอ ผมใช้มือขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆมีสายตาหลายคู่จับจ้องและมองมาที่ผมกับคนตัวเล็กแบบไม่วางสายตาและหนึ่งในสายตาคู่นั้น เป็นสายตาของคนรู้จักผมเองซะด้วย...

'เหรองั้นในฐานะที่ทำตัวดี วันนี้อยากกินอะไรล่ะ จะพาไปเลี้ยง' ผมพูดกับร่างเล็กครับ แล้วมองตรงไปยังเจ้าของคู่สายตาที่ผมรู้จักที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ที่อีกฟากหนึ่งของถนนหน้าตึกเรียน

'อืออยากกินปูอลาสก้า ไข่ปลาคาเวียร์ แล้วก็ซาชิมิกุ้งมังกรอ้อๆไวน์สักขวดด้วยนะไหวป่ะ'

'อื้อหือกินปูดำ ไข่ปลาช่อน ซาชิมิกุ้งเต้นแล้วก็เหล้าข้าวไปก่อนแล้วกันนะ'

'โอ้โห แล้วทำมาเป็นพูดว่าจะเลี้ยง'

'เลี้ยงอ่ะเลี้ยงได้แต่จ่ายเองนะ'

'เรื่องอะไร พี่ธันจะเลี้ยงน้องแล้วนี่ ก็ต้องจ่ายให้น้องสิถึงจะถูก'

'โอเคๆครับ แต่คงไม่ใช่วันนี้หรอกนะ วันนี้กินชาบูไปก่อนแล้วกันพี่โทรนัดเนียร์กับไอ้กัสไว้ให้แล้ว'

'เนียร์อ่ะโอเค เฮียกัสมาได้ไง'

                'ไม่รู้มัน พี่โทรไปหาเนียร์ไอ้กัสมันรับพอพี่โทรไปหาไอ้กัสเนียร์รับไปคุยกันเองแล้วกัน' ผมพูดแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้บลูครับ ก่อนจะเดินอ้อมรถไปอีกฝั่งเพื่อเข้าไปยังที่นั่งคนขับ และไม่วายสบสายตาคนรู้จักอีกครั้งก่อนจะเอ่ยคําประกาศสิทธิฝ่าสายลมไป

                'ของกู...อย่ายุ่ง'

                'พี่ธันรู้จักคนคนนั้นหรอ' พอผมเข้ามาในตัวรถแล้ว บลูก็ถามผมครับพร้อมกับหันมองคู่อริทางสายตาของผม ที่อยู่ฝั่งโน้น

                'อือ ทำไมเหรอ'

                'เปล่าหรอกหมอนั่นชอบมองหน้าน้องบ่อยๆ น้องไม่ชอบ'

                'จะให้พี่บอกไอ้กัส แล้วให้ไอ้กัส ส่งคนมาดูแลน้องไหมล่ะ' ผมว่าแล้วดึงสายเบลท์มาคาดให้บลูครับ

                'ไม่เอาหรอก ให้ไอ้พวกนั้นมาคุม น้องคงเหมือนตายทั้งเป็น!' บลูทำหน้าแหยๆครับ ก็แน่ล่ะสิ เหี้ยกัสดังจะตาย ไอ้พวกเรื่องโฉดๆเนี่ย

                'ดูสิตายยากจริงๆ พูดถึงก็โทรมาเลย' ผมว่าแล้วโชว์ไอโฟนที่มีไอ้กัสเป็นสายเรียกเข้า ให้น้องดูครับ บรูไนส่ายหน้ารัวเพื่อเป็นการปฏิเสธผมว่าจะไม่รับสายนั้นด้วยตัวเอง ผมเลยกดสไลด์รับสายครับ

                'ว่าไงวะ..อ้อ...เออๆ...ไม่เป็นไร...อือ...แล้วเจอกัน' ผมกดตัดสายแล้วเก็บมือถือลงกระเป๋าดังเดิมครับ

                'มีอะไรเหรอ'

                'พวกมันมากันไม่ได้แล้ว เห็นกัสมันบอกจะพาพี่รหัสอะไรสักอย่างไปหาหมออะไรนี่แหละ'

                'อ้องั้นเราก็ไปเหอะ หิวข้าวจะแย่ข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินเลยนะเนี่ย'

                'เอ้าก็บอกให้กินแฟนเค้กมาตอนเช้าก็ไม่กิน ช่วยไม่ได้' ผมพูดไปขำไปพร้อมกับออกตัวรถช้าๆครับ

                'บ้า!! แฟนเค้กมันกินแล้วอิ่มเหมือนแพนเค้กซะที่ไหนเล่า!'

                'ไม่อิ่ม แต่อร่อยนะครับ...หึๆ'

 

                'อะไรของมึงเนี่ยกัสรถยางแตกเหรอไง คิดจะมาก็มาคิดบอกจะไม่มามึงก็ไม่มา' ผมกำลังสวดไอ้กัสยกใหญ่เลยครับเพราะแม่งอยู่ดีๆก็โผล่มาร่วมแจมด้วย อะไรของมันวะถ้าไม่เห็นแก่เนียร์นะกูด่ามึงยับแน่ไอ้กัส

                'เออเอาเหอะก็กูมาแล้วไง' แต่น่าแปลกครับที่ไอ้กัสตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆหงอยๆ คล้ายคนกำลังหมดแรงแต่ก็จริงแหละ 

                'วันนี้มึงดูหงอยๆนะกัส' ผมทักมันครับแต่ไอ้กัสกลับตอบผมเป็นเสียงจิ๊จ๊ะที่ปาก แล้วหันไปทางเนียร์แทน

                'ช่างกูเหอะน่าจะเข้าไปแดกกันได้หรือยัง จะรออะไรอีกหรือจะรอให้กูเปิดอีก' 

                'เฮีย! มาแหกตาดูนี่ก่อนมา จะได้รู้ว่ากำลังรอคิวกันอยู่!' 

                'เอาบัตรคิวมานี่ดิ๊' ไอ้กัสกระดิกนิ้วเอาบัตรคิวมาจากบลูครับ บลูทำหน้างงๆ แล้วหันไปทางเนียร์ ที่ยืนกอดอกมองไอ้กัสตาขวาง

                'เฮียจะทำอะไรวะ' บลูน้อยผมก็จ้องไอ้กัสไม่แพ้กับเนียร์เลยครับ

                'ทำให้เราได้กินไอ้ร้านนี้เร็วขึ้น หึๆ' ไอ้กัสหัวเราะในลำคอครับหน้าแม่งเหี้ยมากอ่ะ ก่อนจะตีเนียน

                'มันจะทำอะไรของวะ' ผมว่าแล้วดึงบลูเข้ามาหาตัวแล้วกอดเอวไว้หลวมๆ

                'ทำเรื่องเหี้ยๆ!' แต่คำพูดลอยๆของผมกลับได้คำตอบเป็นน้ำเสียงดุดันของน้องเนียร์แทนผมกับบลูหันไปทางไอ้กัสต้นตอของเรื่อง

                'ตัว!หวังว่าตัวคงไม่เที่ยวไปมีเด็กทิ้งไว้ที่ไหนแบบไอ้เฮียกัสมันหรอกนะ'

                'มะ..ไม่มีหรอกน่า'

                ผมไม่ได้มั่วขนาดเอาเด็กเสิร์ฟมาทำเมียหรอกนะครับ

                พวกเราสี่คนเดินเข้าร้านกันมา ก่อนจะแยกย้ายกันไปตักอาหารครับพอกลับมาเจอกันที่โต๊ะ ก็ได้อาหารติดไม้ติดมือกันมาเต็มจนพนักงานเดินมาบอกพวกเราที่โต๊ะว่า 'เอ่อ ย้ายไปโต๊ะที่มีสองหม้อไหมคะ' กันเลยทีเดียว

                'พี่ธันจะไปเรียนต่อเหรอครับ' บลูเดินออกไปเข้าห้องน้ำครับส่วนไอ้กัสก็ไปตักอาหารมาลงหม้อเพิ่มผมกับเนียร์เลยนั่งกันอยู่ที่โต๊ะสองคนครับ

                'อือไอ้กัสบอกเราเหรอ'

                'เปล่าครับ พี่เนี๊ยสบอกผม'

                'อ้อแล้วตอนเนียร์รู้ว่าพี่ชายกำลังจะไปเรียนต่อเนียร์รู้สึกยังไงบ้าง'

                'โกรธครับโกรธที่พี่เนี๊ยสไม่ยอมบอกผมด้วยตัวเองแม่มาบอกผมเอาสามวันสุดท้าย ก่อนที่พี่จะไปเรียน'

                '.....'   

                'ผมรู้ว่าพี่ธัน จะไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม'

'อือพี่ไม่ทำแบบนั้นหรอกคือพี่ว่าจะ...' ผมเริ่มพูดคิดขัดเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในคืนนี้

'ทำไมหรอครับ'

                'ขอบลูหมั้น.....'

                'ได้กันไม่รู้กี่รอบแล้ว เพิ่งมาขอหมั้น เป็นกูนี่กูโกรธนะเนี่ย'

                'กัส!! มึงแดกไปเหอะปากมึงจะได้ไม่ว่างดีแล้วครับดีแล้วจะได้เป็นหลักฐานอยู่ทางนี้ผมจะช่วยดูแลบลูมันให้อีกทางหนึ่งรับรอง ไม่มีใครมาจีบมันได้แน่นอน'

                'ถ้าเนียร์พูดแบบนี้ พี่ก็ค่อยสบายใจหน่อย กลัวบลูเหงาน่ะไม่ใช่อะไรหรอก'

                'โอ๊ย มันไม่เหงาหรอกครับ เชื่อผมได้ พี่ธันทำใจให้สบายเหอะผมว่าเพราะพี่คิดมากไปมากกว่า เรื่องที่ว่าเล็กๆ มันเลยดูยุ่งๆ'

                'อือ งั้นเดี๋ยวพี่ไปกดน้ำก่อนนะ เราจะเอาด้วยไหม' 

                'อ้อไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มจนจะอ้วกแล้ว พี่ธันตามสบายเหอะ' ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกออกไปจากโต๊ะพร้อมแก้วน้ำที่หมดไปแล้วครับ พอลุกขึ้นยืนก็เห็นบลูกำลังยืนตักอาหารอยู่พอดีผมเลยรีบก้าวเท้าเลยครับ แต่ถ้าผมก้าวเร็วกว่านี้ผมคงไม่ได้ยินอะไรดีๆที่มันลอยมาเข้าหูหรอกครับ หึๆ

                'ไอ้กัส!'

                'อะไร'

                'คะ..เค้าจะ..มะ..หมั้นกันแล้ว...ทะ..ทำไม!'

                'มึงจะบอกกูว่า ทำไมกูไม่ขอมึงบ้างใช่ไหมนิเนียร์'

                'ไอ้สัดเบาๆดิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน'

                'กูบอกไว้เลยนะ กูไม่ขอมึงหมั้นหรอกนิเนียร์ระดับกู...วิวาห์เหาะเท่านั้นแหละโว้ย!!!!'

                นี่สิครับ เจ้าสำนักผมไม่มีใครเหมือน

                และ... ไม่เหมือนใคร 

               

หลังจากผมแยกกับไอ้กัสและน้องเนียร์ ผมก็พาบลูกลับบ้านครับระหว่างทางเจ้าตัวเล็ก โวยวายจะกินขนมร้านประจำซึ่งเป็นทางผ่านให้ได้แรกๆผมก็ไม่ยอมครับ แต่พอเจอมุขแยกห้องนอนนี่ต้องจอดทันที

                'กินก่อนเนอะ แล้วค่อยขับ' บรูไนว่าพร้อมกับถุงขนมที่มันเยอะกว่าสองคนจะกินหมด บลูค่อนข้างเป็นห่วงผมมากครับเวลาขับรถดังนั้นบลูมักจะไม่กวนผมเวลาผมขับรถ หรือ แม้กระทั่งจะส่งอะไรให้กินเวลาผมขับรถแม้ว่าผมจะหิวโคตรๆก็ตาม

                'เอาไอ้กลมๆ ในถุงนั้นให้กินหน่อย' เพราะซื้อมาเยอะชิ้นทางร้านเลยแยกขนมออกเป็นหลายถุงเลยครับ แต่มันก็สมควรแยกอยู่หรอกเพราะสองถุงกระดาษในมือผม ก็อัดแน่นไม่รู้กี่ชิ้นแล้วแถมวันนี้รู้สึกบลูจะซื้อตุ๊กตามาไว้หลังรถผมอีกตัวด้วยล่ะมั้ง

                'อันนี้อ่ะเหรอ' ผมว่าแล้วหยิบขนมที่เป็นพายวงกลมแล้วตรงกลางจุไส้ครีมไว้

                'ใช่แล้ว เค้าบอกออกใหม่เลยซื้อมากินดู' เจ้าตัวว่าพร้อมกับรับขนมจากมือผมไป ผมเหลือบมองขนมชนิดที่เจ้าตัวบอกว่าลองซื้อมากินแล้วนับดูด้วยสายตาคราวๆ เกือบสิบชิ้น มันคงไม่แค่ซื้อมาลองแล้วล่ะบลูเอ๋ย

                'อร่อยดีแหะ' บลูว่าแล้วโยนขนมพายอีกครึ่งเข้าปากหลังจากกัดครึ่งหนึ่งเข้าไปแล้ว ก่อนจะตามด้วยน้ำพั้นช์สีสดใส

                'เอาอีกไหม' ผมถาม แล้วลองหยิบขนมชนิดนั้นกินบ้างมันก็อร่อยดีเหมือนกันนะ ถ้ามันไม่ติดหวานไปหน่อยอ่ะ

                'อีกดิ' ผมหยิบขนมใส่มือน้องไปครับ แล้วหยิบใส่ปากตัวเองเราต่างคนต่างเงียบกันอยู่นาน เพราะขนมที่อัดแน่นกันอยู่ในปากจนกระทั่งชิ้นสุดท้าย

                'หมดแล้วนี่หว่า...' ผมพูดเบาๆกับตัวเอง ไม่น่าเชื่อขนมพายวงกลมสิบกว่าชิ้นเราสองคนฟาดเรียบด้วยเวลาไม่นาน 

                'เอาอีก' 

                'เอาอีกอะไรหมดแล้ว' ผมว่าแล้วหยิบถุงกระดาษขึ้นมา เทลงกลับหัว

                'หมดแล้วเหรอ'

                'อือ แต่จะว่าไปมันยังมีอีกชิ้นนึงนะ'

                'อ้าวไหนบอกว่าหมดแล้วไงอะไรของพี่ธันเนี่ย'

     [End Thunder]

 

     [Brunei]

                ผมกำลังจะใส่พี่ธันต่อเลยครับ แต่พี่แกกับไม่สนใจเสียงผมซะงั้นแต่กลับหันไปสนใจกล่องอะไรก็ไม่รู้อ้า!

                'อะไรเหรอ ของกินอ่ะป่าว' ผมตาลุกเลยครับผมเห็นกล่องอะไรไม่รู้แบบเต็มๆตา มันก็ไม่ได้ใหญ่มากหรอกครับแต่มันกลับทำให้ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

                'อือแต่ไม่รู้เราจะกินลงหรือเปล่านะ' พี่ธันว่าแล้วเปิดกล่องนั้นออกมาครับ ผมถึงกับพูดต่อไม่ออกเลยแหละ

                'ตั้งสี่กะรัตแหน่ะ...หึๆ'

                หะ..แหวนครับ

                'คบกับไอ้เฮียกัสแล้วนิสัยตัวถึงได้เสียแบบนี้ไง ทำอะไรไม่ปรึษา...' ผมเริ่มหาทางไปไม่ถูกแล้วครับ แหวนตรงหน้าผม มันมีค่ามากเกินกว่าจะเป็นแหวนสำหรับแทนใจในฐานะคนเป็นแฟนแล้วอีกอย่างสองสามวันก่อนที่ผมไปบ้านหม่าม้าพี่ธันมา หม่าม้าพี่ธันก็ยัดเยียดลูกชายท่านให้ผมเสียเหลือเกิน ไอ้รักผมก็รักนะครับ แต่ว่า

 

                'ผะ..ผม..ผมรักพี่ธันนะครับ ตะ..แต่ว่า..ผมเป็นผู้ชาย' ผมกล้าๆกลัวๆที่จะพูดออกไป ถึงพี่ธันจะพูดกับผมเช้าเย็นว่า ยังไงป๊าม้าก็ไม่แคร์เรื่องที่พี่ธันกับผมรักกัน... อยู่แล้ว 

                'ไม่เป็นไรจ๊ะหม่าม้าขาวายหม่าม้าสนับสนุน!ขอให้น้องบลูรักพี่ธันของหม่าม้าให้มากๆหม่าม้าก็ปลื้มแล้ว'

                บ๊ะ ถ้าแม่สามีจะสนับสนุนขนาดนี้ ไม่ต้องแต่งหรอกครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมย้ายไปอยู่บ้านด้วยเลย!!

 

                'หมั้นกันไหมบลู...หมั้นกับพี่ไหม'

                ช็อค... ไปหลายวิเลยครับ ผมเริ่มเลิกลักขึ้นมาแล้วสิคุณเชื่อไหมตอนผมถ่ายแบบคู่กับดาราท็อปวันของประเทศผมยังไม่สั่นเท่าตอนนี้เลย

                'แต่ถ้าเรายังไม่พร้อม ก็ไม่เป็นไรนะ มันคงเร็วไปสำหรับเราทั้งคู่...' พี่ธันเก็บแหวนลงไปแล้วครับ ผมเห็นคำว่า ผิดหวัง เต็มใบหน้าพี่ธันไปหมด

                'จะบ้าเหรอไง! น้องเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ อยากจะขอเค้าก็ไปขอกับพ่อแม่น้องสิมาขอกันโต้งๆแบบนี้ ไม่โรแมนซ์เอาซะเลย!เฮียกัสไม่ได้สอนเลยไง๊ ว่าจะขอใครสักคนนะ...ต้องทำกันยังไง!!' ผมวีนแก้เขินไปยกใหญ่เลยครับ เขินก็เขิน ดีใจก็ดีใจ ...ดีใจจนผมอยากจะให้มีวันแต่งงานของเราเร็วๆด้วยซ้ำ... 

                'พี่ไม่ได้บ้าอีกอย่างพี่จะขอบลูหมั้นนะไม่ได้ขอป๋ากับม้าบลูหมั้นพี่จะไปขอท่านได้ยังไงต้องขอกับเราสิ ถึงจะถูก'

                'ยังจะด้านพูดออกมาอีกไม่รู้แหละไปคุยกับแม่น้องเองน้องไม่เกี่ยวถ้าแม่น้องเซย์เยสน้องก็โอเค' ผมพูดด้วยน้ำเสียงชิวๆครับแต่ใจกูไม่ชิวตามเลย!

                'โอเคๆงั้นขอจองไว้ก่อนนะครับ' พี่ธันว่า แล้วดึงมือผมเข้าไปหาตัวก่อนจะสวมแหวนวงนั้นให้ผม มิน่าล่ะ วันก่อนขอแหวนผม (แหวนคู่เรา) ไปซะเฉยใจหายหมด

                'จองแล้วอย่าหนีนะ จำไว้ซะด้วย' ผมว่าแล้วใช้มือข้างซ้ายที่เพิ่งโดนตีตราเป็นเจ้าของ ชกไปที่อกของคนตรงข้ามเบาๆ

                'รู้แล้วครับพี่มีอีกเรื่องหนึ่งอยากจะบอกเรา' รอยยิ้มพี่ธัน ค่อยๆหายไปน้อยๆ ก่อนที่น้ำเสียงจะกลายเป็นเสียงเครียดๆแทนอย่าบอกนะจะขอแต่งปีหน้า!!

'วะ..ว่ามาสิ' ขอหนูเรียนจบก่อนได้ไหมแค่นี้หนูก็ใจแตกมากมายแล้วครับพี่น้อง!

                'เอ่อ...'

                'พี่ธัน...เรารักกันนะ...' ผมจับมือพี่เค้าไว้แน่นเลยครับ คุณก็รู้อยู่แล้วผู้ชายคนนี้เพอร์เฟคขนาดไหน แล้วตอนนี้เราก็ร่วมทางรักกันมาจะครบปีแล้วความเพอร์เฟคของผู้ชายคนนี้ก็แทบไม่มีวันจางหายเลยด้วยซ้ำเจ้าพ่อประคุณรุนช่องนายนี้มีแต่จะแสนดี แสนดี๊ ขึ้นทุกวัน แถมนับวันพี่เค้าก็เกรงใจผมสุดๆ เชื่อไหมตั้งแต่ทะเลาะกันครั้งนั้น เราไม่เคยทะเลาะกันอีกเลย....

                'พี่ต้องไป...เรียนต่อ'

                '...' อึ้งสิครับกู 'กี่ปี กี่เดือน กี่วัน'

                '...สี่ปี'

                'ป.โท สองปีก็จบแล้วเหอะ'

                'ทำงานด้วย'

                'ที่ไหน'

                'อังกฤษ...'

                'มีหิมะตกด้วยอ่ะสิ'

                'อือ..' พี่ธันหน้าเสียไปเยอะเลยครับ ผมดึงใบหน้าหล่อๆของสุดที่รักผมมาใกล้ๆก่อนจะจุ๊บปากไปทีนึง

                'รอได้...เสมอ' ผมพูดทั้งๆที่ริมฝีปากเรายังชิดกันอยู่

                รอยยิ้มค่อยๆ กลับมาหาใบหน้าของเจ้าชายของผมอีกครั้งครับ

                'จริงเหรอ'

                'กว่าเราจะเจอกันตั้งหลายปี...แค่ไม่ได้เจอกันสามสี่ปี ไม่เป็นอะไรหรอกอีกอย่างแค่อังกฤษปิดเทอมเดี๋ยวบลูบินไปหาก็ได้ เด็กๆ'

                'เฮ้อ ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าจะโวยวายกว่านี้ซะอีก'

                'บลูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ...คิดเป็นนะ'

                'ชักไม่อยากไปเรียนต่อแล้วสิพี่ไม่อยู่ คงมีคนมาขายขนมจีบเราเยอะแน่ๆ' พี่ธันว่าแล้วขยี้หัวผมครับ ไอ้คนมาขายก็มี แต่ผมไม่เล่นด้วยอ่ะ

                'ไปอยู่นู่นดูแลตัวเองดีๆนะอย่าคิดมากล่ะ เดี๋ยวแก่เร็ว' ผมว่าแล้วดึงปลายจมูกพี่ธันเล่นครับ

                'แล้วชอบไหมล่ะ แกๆแบบนี้อ่ะ'

                'เหอะไม่ชอบอ่ะ...' 

                '...'

                'แต่รักเลยต่างหาก' พี่ธันดึงผมเข้าไปกอดครับ ถึงที่ในรถมันจะไม่กว้างมากแต่เราก็สัมผัสถึงกันและกันได้อย่างดี

                'พี่ธัน...วันนี้น้องอยากกิน...'

                'กินอะไรเหรอ แต่พี่ไม่รู้นะ ว่าของในตู้จะพอหรือเปล่า แต่ไม่เป็นไรพี่ออกมาซื้อให้ก็ได้'

                'น้องอยากกิน...แฟนเค้กหาซื้อที่ไหนได้ล่ะ'

                'งั้นเชิญธันเดอร์ซุปเปอร์มาเก็ตเลยครับ มีที่นี่ที่เดียว หึๆ'

 

                'อั๊ยย๊ะ!!! เพื่อนกูขายออกแล้วโว้ยยยยย!!!'

                'แต่งเมื่อไรบอกนะ จะรีบไปกั้นประตูเงินประตูทองถ้าไม่ใส่ซองละพันไม่ให้ผ่านนะจะบอกให้ ฝากบอกพี่ธันด้วย'

                'ไอ้เนียร์ไอ้มิลาน เกินไปแล้วๆ' ผมปรามไอ้สองแสบด้วยเสียงโหดครับ คือผมคุย MSN กับไอ้สองตัวนี้ไม่สนุกปากผมเลยโทรหาพวกมันสองคน แล้วจับประชุมสายเล่าเรื่องเมื่อเย็นให้พวกมันสองคนฟังพร้อมๆกันเลยทีเดียว ผลที่ได้หรอครับ แม่งแซวกูสนุกปากเลย

                'กูว่านะ ความจริงมึงไม่ต้องหมั้นกับพี่เค้าหรอกบลู ได้ๆกันแล้วมึงก็ไปอยู่กับเค้าเลยเด้' ไอ้เนียร์ครับ สาธุกูขอให้ไอ้พี่กัสได้ยินแล้วจับแม่งลากเข้าห้องไปสักทีเหอะ (เรื่องแบบนี้ผมไม่ได้โง่ขนาดมองกันไม่ออกนะครับ แล้วไอ้มิลานที่ถอยลงมาก็คงน่าจะรู้ด้วย)

                'ไม่ได้หรอกเนียร์พี่ธันเค้าเป็นพวกเข้าตามตรอกออกตามประตูเค้าจะทำอะไรก็ต้องให้ผู้ใหญ่รับรู้เนอะ!' ดอกนี้ไอ้มิลานครับ รู้สึกตั้งแต่กลับตัวกลับใจเป็นคนดีปากมันจะฉอเลาะขึ้นเยอะเลยนะ

                'ถูกต้อง ดีนะตอนได้กัน พี่ธันไม่โทรไปบอกแม่ไอ้บลูก่อนอ่ะ ฮ่าๆ' ไอ้เนียร์นี่ก็อีกตัวครับ พอมันมีแบล็คหลังดีเข้าหน่อย แขวะเพื่อนกันสนุกปากสองสามวันก่อน แม่งก็เดินไปแซวเพื่อนผมถึงตึกคณะเรียนเลยนะครับเพื่อนผมนี่อายหน้าดำหน้าแดงกันเลยทีเดียว สงสัยจะติดเชื้อผัวมา!

                แต่ก็แน่แหละครับ พี่ธันสุดแสนเทพบุตรจะคิดจะทำอะไรก็เข้าตามตรอกออกตามประตูอยู่แล้ว จะให้กระปีนกำแพงแล้วเข้าทางหน้าต่างแบบไอ้เฮียกัส คงไม่ไหว

                'อันนี้ก็เยอะไปเนียร์! เดี๋ยวมึงจะโดน!'

                'มึงมาๆๆ เดี๋ยวกูจะให้ไอ้กัสเป่ามนต์ใส่พี่ธันแล้วให้พี่ธันลากมึงเข้าห้องอีก!'

                'โอ๊ยเนียร์ มึงไม่ต้องถึงมือพี่กัสหรอก ไม่รู้ว่า ก่อนจะโทรมาหาเราเค้าเล่นจ้ำจี้กันไปกี่ยกแล้ว' ไอ้เนียร์พูดจบปุ๊บไอ้มิลานก็แทรกขึ้นมาทันทีเลยครับ อารมณ์ผมเหมือน กำลังฟังเมียหลวงกับเมียน้อยคุยกันเองอยู่

                แต่ก็นะ... เรื่องของพวกมัน

                'นั่นดิพี่ธันยิ่งร้ายลึกอยู่ด้วย หึๆ' 

                'เนียร์กูเกลียดเสียงหัวเราะมึงอ่ะ' 

                ผมเริ่มจะตั้งรับไอ้สองตัวนี้ไม่ไหวซะแล้วสิครับผมหันกลับเข้าไปมองในห้อง พี่ธันหลับอยู่ที่เตียงครับ ก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมไปกินแฟนเค้กถึงไหนต่อไหน ก็ในเมื่อคนขายแฟนเค้กหลับเป็นตายขนาดนั้น

                'จะว่าไปก็อิจฉาบลูมันเนอะมิลานได้เจอคนดีๆ รักมันจริงๆ ไม่เจ้าชู้ไม่หน้าม่อ ไม่โลเล ลอกแลก ตอแหล เหี้ย! เหมือนใครบางคน' ไอ้เนียร์จัดมาชุดใหญ่เลยครับ ผมเดาได้เลยว่า ไอ้พี่กัสอยู่แถวนั้นแน่นอน

                'นั่นสิพี่ธันดีพร้อมไปซะทุกอย่าง อยากได้บ้างว่ะ พี่ธันมีน้องไหมวะกูขอเหอะ' ดอกนี้ไอ้มิลานครับ 

                'มีมัธยมมั้งรู้สึก ถ้ามึงอยากแดกเด็ก เดี๋ยวกูบอกพี่ธันให้ติดต่อให้' ผมบอกแล้วนึกถึงใบหน้าน้องพี่ธันครับ อยากจะบอกว่าน้องพี่ธันแม่ง... โคตรหล่อหล่อตามแบบพี่มันเลย แต่พี่มันหล่อกว่า!

                'หยี้!! ไม่เอาหรอก กูเกลียดเด็ก!!!' ไอ้มิลานสวนผมกลับมาทันทีเลยครับก่อนจะบ่นกระปอดกระแปดตามมาติดๆ 

                'ทำไมวะ ช่วงนี้เทรนแดกเด็กมันน้อยลงหรือไง ถึงได้แอนตี้กันจังวะพี่กูก็คนนึงแหละ ไม่ชอบเด็กๆ กูแอบไปเปิดโทรศัพท์ดูนะ อื้อหือ!เด็กทั้งนั้น! ' คราวนี้ไอ้เนียร์มันเล่นคนกันเองบ้างแล้วครับพี่เนี๊ยสรู้นี่หักคอยกบ้านเลยนะโว้ย!

                'เนียร์ มึงห้ามลืมไอ้พี่กัสนะ นั่นน่ะแดกเด็กตัวพ่อ'

                'เออ!!!!'

                มึงไม่ต้องเออแรงขนาดนี้ก็ได้ กูกลัว... 

                'มิลานกูถามอะไรมึงหน่อยดิ' คราวนี้ไอ้เนียร์เป็นคนตั้งคำถามบ้างแล้วครับ

                'ว่ามา'

                'มึงคิดอะไรกับพี่กูเปล่าเนี่ย'

                'เห้ยยยยย!!! ไม่ได้คิด มึงมั่วแล้วเนียร์!' ไอ้มิลานเถียงเสียงแข็งเลยครับ ส่วนผมไม่เกี่ยว เลยได้แต่ฟังเงียบๆพ่อทูนหัวผมก็ลุกขึ้นจากเตียงขึ้นมาพอดี สงสัยจะไปเข้าห้องน้ำล่ะมั้งพี่ธันจะไปเรียนต่ออีกสามสี่เดือนข้างหน้า (ถูกย่นเข้ามา ใจร้ายที่สุด!)แต่ยังไงปีใหม่นี้ เราก็ยังจะอยู่นับดาวด้วยกัน จนถึงสว่างแน่นอนครับ...

                'ก็วันนี้กูได้ยินพี่เนี๊ยสขอเบอร์มึงจากเหี้ยกัสอ่ะ'

                'เห้ยๆ ไม่ได้คิด กูสาบานได้เนียร์ พูดจริงๆ'

                'เออๆ กูเชื่อมึงนะ แต่กูก็ไม่ได้ว่าอะไรมึงหรอกถ้ามึงจะคบกับพี่กูจริงๆ... ก็เรื่องของมึงนี่เนอะเรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้นี่หว่า ตัดสินใจกันเอาเองละกัน'

                เยสสสสส เนียร์มึงโคตรพระเอกอ่ะ... 

                ผมคิดในใจ พลางเอาเท้าแหย่ไอ้โอเล่ที่นอนอยู่ที่พื้นไปด้วยครับปกติมันนอนในห้องกับผมกับพี่ธันนะ แต่เมื่อกี้ฉึกๆกันอยู่ไงพี่ธันเลยเอาลูกออกมาไว้ข้างนอก กลัวขัดจังหวะ...

                'โอเล่! ไปนอนข้างในไป๊' แต่มันไม่ยอมลุกครับ ผมเลยเรียกมันไอ้หมาน้อยนี่มันฉลาดจะตายไป มันกำลังงอนผมอยู่แหละ

                'มันไม่เข้ามาหรอก งอนๆ' มาแล้วครับพ่อทูนหัวผมเดินถอดเสื้อมาเลยทีเดียว

                'เอามันเข้าไปนอนข้างในหน่อยสิพี่ธัน สงสารมัน...' ผมว่าพี่ธันก้มลงไปอุ้มไอ้โอเล่ขึ้นมา ก่อนจะคลอเคลียกันอยู่นานกว่าจะเดินกันเข้าไป

                'คุยเสร็จแล้วก็รีบๆมานอนล่ะ คิดถึง'

                'ค้าบ...'

                'อั๊ยย่ะ!! มีคิดถง คิดถึง คุยกับเพื่อนยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะเนี่ย!!!!' อิเนียร์ครับ มึงไม่พูด ไม่มีใครว่ามึงหรอกครับ เลิกแซวกูเหอะ

                'มันสิบนาทีตรงไหนวะ จะสามชั่วโมงแล้วนะโว้ย!' ไอ้มิลานใส่ตามมาติดๆเลยครับ

                'ไอ้เนียร์มันหมายถึงสิบนาทีแรกของชั่วโมงที่สามน่ะมิลานมึงตามมุขมันไม่ทันเหรอ'

                'อ้อฮ่าๆ'

                'เหี้ยบลูขัดมุขกู!'

                'มึงไปหามุขใช้ใหม่ได้แล้วเนียร์ เก่าชิบหาย!' จากนั้นเราสามคนก็คุยสัพเพเหระต่อกันอีกยาวเลยครับ จนกระทั่ง

                'เห้ยยยย!! เหี้ยกัสลุก ไอ้อุลตร้าหนีไปอีกแล้ว!!!!! '

                'อะไรวะ อะไรต้าๆนะ พยานรักมึงหร๊อ!'

                'พ่อมึงสิ!! แมวกูไอ้สัด แค่นี้นะ กูวิ่งไปจับแมวก่อน เหี้ยกัสกูบอกให้ลุก ไม่งั้นกูถอดปลั๊กมึงแน่ไอ้สัด!!! ตู๊ดดดด...'

                งง... สิครับ

                เนียร์ มึงเลี้ยงแมวด้วยเหรอ... 

 

ผมคุยต่อกับไอ้มิลานสักพักครับ ไม่เห็นไอ้เนียร์มันโทรกลับมาอีกเลยเราเลยเลิกคุยกัน ไอ้มิลานบอกเริ่มจะเจ็บคอบ้างแล้วเช่นเดียวกับผมที่เริ่มคอแห้งจนต้องรีบเดินออกไปหาน้ำดื่มกิน

                'ยังไม่นอนอีกหรอ...' ผมกำลังกระดกน้ำเปล่าดื่มอยู่ที่ห้องครัวครับอยู่ๆเสียงหล่อก็โหยหวนออกมาจากห้อง

                'นอนแล้วนอนแล้ว กินน้ำอยู่' ผมว่าพร้อมกับปิดฝาขวดน้ำดื่มและหยิบมือถือเดินเข้าไปในห้องนอน

                'โอเล่....' พอผมกระโดดขึ้นเตียงผมก็สัมผัสกับหมาตัวน้อยที่นอนกินที่ทันที

                'อยากเลี้ยงแมวอ่ะตัว'

                'ตลกละ แมวกับหมาเจอกันคงสนุกดีหรอกเนอะ' ทูนหัวผมว่าแล้วเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงข้างแทน

                'ก็เนียร์เลี้ยงแมวอ้าอยากเลี้ยวแมวบ้างอะไรบ้างแต่ก็รักโอเล่นะลูก...' ผมว่าแล้วลูบหัวเจ้าโอเล่เบาๆมันเป็นหมาขี้กลัวนะครับไอ้โอเล่อ่ะ เวลานอนผมเลยชอบเอามันขึ้นมานอนด้วยกันบ่อยๆแต่ไม่รู้ทำไมตอนเช้ามันหล่นไปอยู่ใต้เตียงทุกที

                'เนียร์นี่นะเลี้ยงแมว'

                'อือ บอกไอ้พี่กัสกับพี่เนี๊ยสไปไล่จับกันมาได้'

                'ไอ้กัสกับเนี๊ยสน่ะเหรอ'

                'อือ'    

                'เหอะๆ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้กัสจะเอาแมวเข้าบ้านได้ปกติไอ้แมวพูดได้ที่บ้านก็ตีกันจะตายแล้วไม่ใช่เหรอ'

                'เฮียกัสมันชอบของแปลก ก็น่าจะรู้กันไม่ใช่เหรอ'

                'ก็ว่างั้นแหละพี่ว่าเราอย่าเอาแมวมาเลี้ยงเลยหาคู่ให้โอเล่ดีกว่าเนอะอยากได้คู่ตัวผู้หรือตัวเมียลูก หือ...' พี่ธันว่าแล้วไปซุกไซร้กับเจ้าโอเล่ครับ จะว่าไปก็สงสารโอเล่มันนะ คือมันจะนอนผมสองคนก็กวนมัน

                'ตอนพี่ไม่อยู่ สงสัยพี่ต้องฝากโอเล่ไว้กับเราแล้วแหละพ่อไม่อยู่สามสี่ปีทำตัวดีๆนะลูก' พี่ธันพูดกับไอ้โอเล่แล้วลูบหัวมันครับ คิดแล้วก็เศร้านะสุดที่รักผมไม่อยู่ตั้งสี่ปี คิดถึงตายอ่ะ แต่ไม่เป็นไร คิดในแง่ดีเข้าไว้ผมปิดเทอม ผมจะบินไปหาพี่เค้าครับ ก็ได้เจอกันแล้ว แค่นี้เองคิดในแง่ดีเข้าไว้กู

                'ก็บอกแล้วไงรอได้ อย่าทำหน้าแบบนี้ได้ป่ะ เดี๋ยวหนีตามไปด้วยเลย' ผมว่าแล้วยิ้มแยกเขี้ยวครับ

                'ไปด้วยก็ดีสิ จะได้ไม่ต้องแยกกัน เจอหน้ากันทุกวันแบบนี้ไงแต่พี่กลัวบลูจะเบื่อเท่านั้นเอง...'

                พี่ธันแคร์ผมเสมอครับ ในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นผมจะคิดถึงหรือคิดไม่ถึงก็ตาม....

                'งั้นก็ตั้งใจเรียน เผื่อที่นู่นเค้าจะเห็นใจแล้วให้ตัวกลับมาหาเค้าเร็วๆ'

                'ก็ว่างั้นแหละ..'

                'นอนเหอะ ง่วงแล้ว' ผมว่าแล้วทิ้งตัวลงนอนพี่ธันจับไอ้โอเล่ที่น็อคไปแล้ว ให้ไปนอนที่ปลายเตียงครับ หรือเรียกอีกอย่างว่าที่ของมัน

                'กินแฟนเค้กกันอีกสักรอบไหม'

                'ตลกและ อยากไปนอนนอกห้องหรอไง!' ผมเริ่มเข้าโหมดโหดครับพี่ธันเลยหัวเราะเบาๆ แล้วล้มตัวลงนอน

                'พี่รักบลูมากน๊า'

                'บลูก็รักพี่ธันมากเหมือนกัน'

     [EndBrunei]

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา