EAT ME IF YOU CAN [[ Yaoi ]]

9.9

เขียนโดย iamkin

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.

  28 ตอน
  8 วิจารณ์
  84.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) ตอนที่ : 22

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

EAT ME IF YOU CAN [22]

 

     [Casso]

     !ผัวะ!

     'เห้ยยย!!! เฮียกัส!!' พอนิเนียร์ลุกเดินออกไปจากโต๊ะหมูกะทะผมก็จัดการปล่อยหมัดหนักใส่หน้าของเนียร์ที่ผมกำลังกระชากคอเสื้อมันอยู่ทันทีเลยครับด้วยแรงควายสามตัวของผมทำให้เนียร์ล้มลงกับพื้นทันทีเมื่อใบหน้ามันรับหมัดผมแบบไม่ได้ทันตั้งตัว

     'อย่าสะเออะอีก ไม่งั้นเจอดีแน่!' ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบก้าวเท้าให้เร็วเพื่อให้ทันร่างเล็ก ที่เดินเชิดไปเสียก่อนนิเนียร์ไม่ได้หนีไปไหนไกลหรอกครับ มันทำเป็นเดินไปตักอาหาร แต่ก็ไม่ได้ตักอะไรเดินถือจานวนไปวนมาอยู่แบบนั้นแหละ

     'อิ่มแล้วเหรอ ไม่กลับไปที่โต๊ะ'

     'ยัง...แค่ไม่อยากเห็นหน้าคนสองคน'

     'จบแล้วก็จบไปดิ คิดมากแก่เร็วนะ ไม่สวยไม่รู้ด้วย' ผมว่าแล้วเอามือบีบเอวร่างเล็กเบาๆ แต่ก็ยังไม่ทันจะออกแรงมากเท่าไรร่างเล็กก็สบัดตัวออกห่างผมไปอีกจนได้

     'เรื่องของกู.. รับไม่ได้ ก็เลิกดิ'

     'โหย ไอ้สัด พูดงี้จับหัวกูกดบ่อกุ้งเหอะว่ะ' 

     'ก็มึงไม่ชัดเจนอ่ะกัส ทีกูพูดกับพี่เต็นท์คำสองคำมึงจะเป็นจะตายให้ได้แล้วทีมึงอ่ะ ออกไปแรดๆกับคนอื่น นอนกับคนอื่น กูเคยว่ามึงบ้างไหม!'

     'นั่นมันของเก่า ของใหม่กูไม่มีแล้ว มือถือกี่เครื่อง กุญแจรถ กุญแจห้องกี่อันต่อกี่อันของกู ก็อยู่กับมึง แล้วกูจะไปกกเด็กที่ไหนบอกกูดิ๊' ผมเถียงมันกลับครับ ตั้งแต่เราเริ่มคบกันใหม่ ผมก็ทำตัวเองใหม่หมดเลย กลับบ้านเร็วไม่ค่อยดื่ม ไม่ค่อยเที่ยว ฝากของส่วนตัวแทบทุกอย่างไว้กับมัน บีบงบีบีที่ผมอัดรายชื่อเด็กผมไว้ ถึงผมจะไม่ได้ลบออกแต่ผมก็ฝากไว้กับนิเนียร์มันนะครับ

     'เชื่อใจกูไม่ได้เลยหรอ'

     'ให้กูเชื่อใจมึงได้บ้างไหมล่ะ' นิเนียร์ย้อนผมกลับครับ

     'ได้สิ' ผมตอบกลับอย่างมั่นใจ

     'งั้นก็อย่าให้กูได้เห็นอีก ไม่งั้นมึงเจอเป็ดแน่!' คนตัวเล็กคาดโทษผมด้วยใบหน้าโหดครับ ผมเลยได้แต่พยักหน้าเบาๆไปต้องแอ๊บเป็นกลัวมันไว้ก่อน ไม่งั้นกูซวยยาว

'เออๆ'

     'จำไว้เลยนะกัส... จะมาก่อนมาหลังกูไม่รู้ จะนอนก่อนนอนหลังกูก็ไม่สนใจแต่ที่กูสนใจคือ มาหลังกูชู้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย!!' 

     นิเนียร์พูดจบ ก็เดินชนไหล่ผมออกไปทางห้องน้ำครับ ส่วนผมเหรอ...

     ยืนสำนึกผิดไปสิ แล้วคืนนี้ค่อยว่ากัน...

     [End Casso]

 

     [Near]

     'กัส! ไอ้ตรงนี้มันหมายความว่าอะไรวะ กูไม่เข้าใจมึงมาอธิบายให้กูฟังหน่อย' ผมว่า แล้วยกหน้าหนังสือขึ้นชี้จุดที่ผมอ่านแล้วไม่เข้าใจให้กัสมันดู

     'ความหมายมันก็อยู่บรรทัดต่อไปไง' กัสมันเหลือบตามองผมแค่นิดเดียวก่อนจะหันหน้าไปกดบีบีมันต่อ เอิ่ม.. แลดูช่วงนี้มึงติดบีบีนะ

     'เออ จริงว่ะ'

     ผมก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไปครับ ตอนนี้ผมอยู่ห้องนอนไอ้กัสมันครับ เฮ้ๆอย่ามองผมอย่างนั้นสิ แอร์ห้องผมมันเสียอ่า! ทำไงได้ ผมเลยมานอนกับไอ้กัสมันอีกอย่างช่วงนี้พี่เนี๊ยสก็ไม่ค่อยเข้าบ้านด้วย ไม่รู้ไปนอนที่ไหนผมถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ ไอ้กัสบอกว่าพี่ผมมีเด็กซ่อนไว้อยู่ครับ แต่ผมไม่เชื่ออ่ะพี่ผมออกจะเป็นคนดี

     'วันหลังดูให้ดีก่อนแล้วค่อยถาม' ไอ้กัสมันว่าผมแล้วเอามือดันหัวผมเล่นเบาๆ มันนอนกดบีบีอยู่บนเตียงครับส่วนผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงพื้นข้างล่าง อ่านบนเตียงกูเสร็จมันแน่เลยครับ

     ผมอ่านไปได้สักพัก ผมก็เริ่มไม่มีสมาธิครับเสียงบีบีไอ้กัสแม่งเข้ามาไม่หยุด ผมเลยเงยหน้าออกจากหน้าหนังสือแล้วหันไปมองไอ้กัสมันแทนครับ

     'บีบีกับใครวะ'

     'เพื่อน'

     'เพื่อนเยอะจริงนะมึง' ผมพูดแนวไม่พอใจ

     'เอ้า ดูซะให้เต็มตา' มันว่า แล้วยื่นจอบีบีมาให้ผมดูครับ อื้อหือพวกมึงคุยเรื่องเหี้ยอะไรกันเนี่ย ท่าไหนดี ท่าไหนเด็ด มึงจะถามกันทำม๊ายยย!! เคยอายกันบ้างไหม!

     'ลบไปแล้วอ่ะดิ'

     'หึงกูทีไร เปรี้ยวทุกทีเลยนะมึง'

     'ไอ้สัด กูไม่ได้หึง' ผมโวยวาย แล้วเอาสันหนังสือตีหัวมันครับผมใช้ไอโฟนแล้ว เลยเลิกใช้บีบีส่วนนังกัสมันก็ใช้ทั้งคู่แหละครับ

      'เนียร์ กอดหน่อยดิ คิดถึง'

      'พ่อมึงสิครับ เจอกันทุกวัน อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆมึงจะคิดถึงกูหาหอกอะไรครับ'

     'ก็นั่นมันเจอกันแบบพี่น้อง ไม่ได้เจอกันแบบแฟน...' มันว่าแล้วเอามือมันมาหยิกแก้มผมครับ

     'นั่น..ถึงกับพูดไม่ออกเลยล่ะสิเมียยั่ว..' ผมส่ายหน้าแทนคำตอบมันครับ ตราบใดที่ผมกับมันยังอยู่ภายใต้บ้านหลังนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้แหละครับ

     'พรุ่งนี้มึงมีเรียนเปล่า' ไอ้กัสถามผมต่ออีกแล้วครับ

     'ไม่มี พรุ่งนี้หยุด'

     'งั้น...ไปเดทกันไหม'

     

     ผมเหมือนเป็นความจำเสื่อมชั่วคราว เพราะผมจำไม่ได้ว่าผมตอบอะไรไอ้กัสมันไปเมื่อคืน แต่รู้อีกทีเที่ยงนี้ผมกับไอ้กัสก็มายืนทำหน้าเด๋อด๋ากันอยู่ที่หน้าห้างแห่งหนึ่งแล้วอยากจะบอกว่าวันนี้เหี้ยกัสแต่งตัวจัดเต็มมาก มาเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมกันเลยทีเดียว 

     'มึงจะไปเดินฮาราจูกุเหรอ' ผมถามมันครับ ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆแทนที่มันจะให้ผมมากับมัน มันกลับบอกให้เรากันแยกกันมาครับ มันบอกจะได้เหมือนเดทกันจริงๆไม่ใช่เดินออกจากบ้านพร้อมกัน มันบอกว่าสิบโมงให้ผมมารอมันหน้าลานน้ำพุแต่ขอโทษเหอะ ตอนสิบโมงมึงกับกูยังนอนไม่รู้เรื่องกันอยู่เลยไอ้เหี้ย!ผลสรุปเราเลยมาด้วยกันครับ... (เข้าใจไหม)

     'ก็เปล่า..' ไอ้กัสว่า แล้วเงยหน้ามองฟ้า ส่วนผมก็ได้แต่มองเสื้อลายสก๊อตตารางสีแดงดำที่มันใส่ กับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำคู่กับรองเท้าผ้าใบลายเรียบๆ แต่ได้ข่าวคู่นี้เป็นหมื่น! 

     'จะเข้าไปกันได้หรือยัง ร้อน..' กัสมันว่าแล้วเอามือขึ้นมาพัดดับร้อนตัวเอง วันนี้มันไม่ได้ขับรถมาครับมันยอมนั่งรถเมล์มากับผม เชื่อไหม ไอ้กัสทำหน้าเหมือนจะเป็นลมให้ได้เลยอ่ะตอนอยู่บนรถเมล์ แถมโดนกระเป๋ารถเมล์หยอดใส่อีกต่างหาก 'พ่อหนุ่ม.. ป้ามีหลานสาวเอาไหม ฮ่าๆ'

     แต่ผมอยากจะบอกป้าเหลือเกินครับ ไอ้กัสมันไม่เอาหลานสาวป้าหรอกแต่ถ้าป้ามีหลานชาย แม่งเอาแน่!

     'ทนไม่ได้เหรอไง คบกับกูมึงก็ต้องทนแบบนี้แหละ' ผมว่าแล้วยกมือขึ้นกอดอกไว้หลวมๆ คิดแล้วก็สงสารกัสมันนะครับเพราะผมก็สั่งเปลี่ยนแปลงชีวิตมันไปตั้งหลายอย่างอย่างแรกคือการไปกลับการเรียนหนังสือ คนที่ขับรถไปเรียนทุกวันอย่างไอ้กัสต้องเปลี่ยนมานั่งรถเมล์ไปเรียนกับผมแทน ถ้ามันไม่ยอมมานั่งรถเมล์กับผมวันนั้นมันก็ต้องไปเรียนคนเดียวครับ ซึ่งคุณคิดว่ามันจะยอมหรอไอ้หอกหักนี่แค่ผมหันไปมองสาวหน่อย แม่งก็ด่าผมถึงพระรามแปดแล้วแต่บางทีเราก็ช่วยกันวิจารณ์สรีระของสาวๆที่เดินผ่านกันนะครับ 

     'ทนได้..'

     'ทนได้ก็อย่าบ่น' ผมพูดแล้วเดินนำหน้าไอ้กัส เข้าห้างฯไปครับแอร์เย็นๆของห้างทำให้ผมกับไอ้กัส รู้สึกดีขึ้นหลังจากทนร้อนทนหนาวบนรถเมล์มาประมาณครึ่งชั่วโมง (ทั้งๆที่ไอ้กัสขับรถใช้เวลาเพียงสิบห้านาที)

     'อยากกินอะไร อยากทำอะไรล่ะ' ผมหันไปถามร่างสูงทางด้านหลังครับไอ้กัสพยามจับมือผมนะ แต่ผมสะบัดออก มีคนมากมายที่เราไม่รู้จัก และคนเหล่านั้นอาจจะเป็นคนรู้จักของคนรู้จักเราก็ได้...

     'เดินดูของกัน' มันว่า แล้วพาผมเดินไปยังจุดที่ทางห้างกำลังจัดงานเกี่ยวกับขนมหวานจากต่างประเทศครับ ไอ้กัสดูมีความสุขมากเมื่อเห็นขนมเหล่านั้น ที่กองนอนรอให้มันกวาดซื้อจนเรียบส่วนผมเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย เมื่อได้เห็นร่างสูงที่เคยตบตีกันมานานยิ้มออกได้อย่างมีความสุขแบบนี้... ถ้ากัสมันจะเป็นแบบนี้ ทำแบบนี้ตลอดไป...มันก็คงไม่ผิดหรอกครับ ถ้าผมจะรักมันมากขึ้นทุกวันทุกวันไป...

     'เห้ย อันนี้มึงชอบกินด้วยหรอ' ผมถามมันอย่างแปลกใจครับเมื่อไอ้กัสมันหยิบขนมที่ผมชอบกินขึ้นมาด้วย กัสมันชอบของหวานก็จริงนะครับแต่กัสมันแพ้พวกถั่ว คาราเมลอะไรพวกนี้ มันบอกกินแล้วปวดหัว เวียนหัวแต่ไอ้ที่มันหยิบติดมือนี่ ถั่วกับคาราเมลล้วนๆ

     'กูไม่ชอบ แต่มึงชอบไม่ใช่เหรอ' กัสมันว่าแล้วหยิบขนมที่ผมชอบลงตะกร้าครับ คือผมก็ไม่ได้ชอบอะไรมากนะครับ เพราะแม่งแพงอ่ะอาศัยคนซื้อมาฝากวันวาเลนไทน์ ฮ่าๆ 

     แต่มันแพงนะโว้ย' ผมค้านครับ กล่องที่ผมชอบกล่องตั้งเกือบพันบาทแหน่ะ

     'กล่องนี้ของมึง ไม่แพงเท่าไอ้แท่งนี้ของกูหรอก' มันว่าแล้วหยิบขนมสองชิ้นขึ้นมาเปรียบเทียบให้ผมดู

     'ไว้จะจ่ายตังค์คืน'

     'ดอกร้อยละยกนะ โปรดจำไว้ด้วย'

     'งั้นมึงเอาออกจากตะกร้าเลย!'

     'มึงจะไม่เอาจริงเหรอ นี่เค้าบอกว่าถ้าซื้อครบพันห้าได้ตุ๊กตาควายด้วยนะ มึงชอบไม่ใช่เหรอ กูกำลังจะทำยอดเพื่อซื้อตุ๊กตาควายให้มึงนะ'

     'เหี้ย กูไม่ชอบตุ๊กตาควายแล้ว กูชอบเท็ดดี้แล้วโว้ย รู้จักป่ะเท็ดดี้อ่ะเท็ดดี้แบร์'

     'เหอะๆ ดีเลย เค้าบอกซื้อครบสองพันได้เท็ดดี้แบร์ตัวนั้นรอผัวสักห้านาทีนะจ๊ะ รับรองเมียรักได้เท็ดดี้ตัวนั้นแน่ๆ’ ผมกับไอ้กัสเดินทัวร์กันในซุ้มขนมอยู่นานครับไอ้กัสมันได้ขนมกลับบ้านเต็มถุงเลยครับส่วนผมก็ได้บ้างนิดหน่อยอาศัยจังหวะที่มันเผลอ ผมก็หยิบใส่ตะกร้าแม่งเลยส่วนตอนจ่ายเงินผมก็แค่ชวนมันคุยๆๆ ไปเท่านั้นแหละ สบาย... ส่วนน้องหมีหรอครับ ได้ครับได้ แต่เห็นเค้าบอกจะจัดส่งไปให้ที่บ้านน่ะ

     'ทำหน้าแบบนี้ หิวแล้วล่ะสิมึง' ผมหันไปหาร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังครับ

     'อือ'

     'บุฟเฟ่ต์เปล่า กูเลี้ยง' ผมเสนอครับ ถ้าหากจะเลี้ยงอะไรไอ้กัสบุฟเฟ่ต์นี่แหละ คุ้มและประหยัดสุด ถ้าเลี้ยงอย่างอื่นแม่งกูจนพอดี

     'ทำมาเป็นใจปล้ำ'

     'จะแดกไม่แดก'

     'เออๆ กินสิวะ'

     'งั้นก็ไป' ผมว่าแล้วเดินนำหน้าร่างสูงไปครับ ไอ้กัสคว้ามือผมไว้อีกรอบผมพยายามสบัดให้หลุดเช่นเคย แต่คราวนี้สบัดยังไงก็สบัดไม่ออก 

     'จับหน่อยไม่ได้หรอไง' มันว่าแล้วหันหน้าหนีครับมือมันยังจับมือผมอยู่เลย ไม่จับเปล่าๆออกแรงยึดมือผมไว้อีกต่างหาก

     'แล้วทำไมต้องจับ เดินเองไม่เป็นเหรอไง ถึงจะต้องมีคนจูง' 

     'เออ กูยอมเป็นควาย ให้ควาญอย่างมึงจูง' มันว่าแล้วจับมือผมให้แน่นขึ้นครับ

     จังหวะนั้นแหละที่ผมรู้สึกว่า... มือกัสมันใหญ่แล้วก็นุ่มดีจัง

     'ถุ๊ย เสี่ยวเอ๊ย'

     'ที่กูยอมเชื่องขนาดนี้ ก็เพราะมึงนะ อยากให้กูพยศใช่ไหมล่ะพูดจาแบบนี้อ่ะ '

     'มึงจะเป็นยังไงก็เรื่องของมึง แต่อย่ามาลงไม้ลงมือกับกูก็พอเจ็บเป็น!'

     'โอ๊ย ไม่กล้าทำเจ็บหรอก...เมียทั้งคน' มันอาศัยจังหวะที่ผมหันหน้าหนีมันบ้าง โน้มลงมากระซิบช้างหูผมครับ

     'จำคำพูดตัวเองไว้เลยนะ ไอ้ชั่ว' ผมว่า แล้วก็จูงมือมันที่จับมือผมอยู่ให้เดินตามหลังมา บางคนก็เริ่มมองเรา บางคนก็เริ่มยิ้มและบางคนก็เริ่มหันมาสนใจเราด้วยสายตาแปลกๆ

     ทำไมผมเดินจูงมือ แฟนผม ผิดตรงไหน!

     'เอ้า พี่กัส!'

     เราเดินผ่านตรงบริเวณงานขนมได้ไม่เท่าไรก็มีคนมาทักพ่อทูนหัวผมอีกแล้วล่ะครับ ไอ้กัสหน้าไปหาต้นเสียงช้าๆเช่นเดียวกับผมที่หันหน้าตามเสียงนั้นไป(แทบจะทันที...) 

     '....' 

     '.....' ภาพตรงหน้าผม เป็นผู้ชายครับ หน้าตาดี ออกแนวน่ารักเสียด้วยและที่สำคัญ ผมรู้จักมันครับ 

     'มีไร' ไอ้กัสยังทักทายคนที่เข้ามาทักมันด้วยน้ำเสียงไร้มารยาทเช่นเคยครับ ผมเคยบอกมันนะ ถ้าผมเป็นคนมาทักมันแล้วมันตอบผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้นะ ผมจะขอโดดถีบหน้ามันสักรอบเหอะ

     'จำไม่ได้หรอ ผมเป็นน้องรหัสพี่นะ'

     'อือ จำไม่ได้' ไอ้กัสยังตอบเพื่อนร่วมเซคผมด้วยน้ำเสียงเดิมๆครับ อ้อ ไอ้คนนี้เองน่ะหรอที่ได้ไอ้กัสเป็นพี่รหัสได้ข่าวว่ามันร้ายใช่ย่อยเลยนะครับ เพื่อให้ได้ไอ้กัสมาเป็นพี่รหัสมันอ่ะ 

     'ใจร้าย! เคยจำอะไรได้บ้างไหมเนี่ย!!'

     อุ๊ย..แรง กูว่าถ้ามึงไม่หุบปาก มึงโดนสวามีกูกระทืบแน่ๆ

     'ลิฟท์มาแล้ว ไปเหอะว่ะ' แต่อีกัสกลับลากผมเข้าลิฟท์อย่างหน้าตาเฉยครับเพื่อนคนนั้นเลยเอ๋อแดกไปเลย 

     !หมับ!

     'เห้ยยๆๆ' กลายเป็นว่าผลความซวยมาลงที่ผมแทนครับ เพื่อนคนนั้น (ไม่รู้ชื่อ รู้แค่ว่าเรียกเซคเดียวกัน) ดึงแขนผมไว้ ไอ้กัสมองหน้าไอ้เพื่อนคนนั้นด้วยสายตาอาฆาตทันทีเลยครับ ตกลงมึงจะแย่งกูหรือแย่งไอ้กัสมันวะ!

     'ปล่อย..น้องกู'

     'ไม่ จนกว่าพี่จะจำชื่อผมได้!'

     'อย่าแรดให้มันมากได้ไหม เป็นแค่น้องรหัส อย่าสะเออะ ถ้ารู้จักกูดีมึงก็น่าจะรู้ กูแรงได้กว่านี้!!' ไอ้กัสประกาศศักดาตัวเองให้ไอ้คนนั้นมันฟังครับ

     'พี่กัส!!!'

     'อะไร!! จะเยอะมากไปแล้วนะมึงอ่ะ ชื่อมึงเองยังจำไม่ได้แล้วมึงจะมายุ่งอะไรกับกู จะไปไหนก็ไปอย่ามายุ่งกับกูอีก!!!' ไอ้กัสวีนเสร็จก็ลากผมเข้าลิฟท์ไปเลยครับ เป็นอีกครั้งที่แม่งวีนใครต่อใครให้ผมเห็นเรียกได้ว่าวีนแบบไม่ไว้หน้าใครเลย 

     'ทำไมมึงไม่คุยกับมันดีๆวะ' โชคดีที่ในลิฟท์ไม่มีใครครับเราเลยคุยกันได้

     'ถ้ากูคุยกับมันดีๆ มึงจะเดือดร้อน'

     'ทำไมอีกอ่ะ'

     'อย่ายุ่งน่า รกสมองเปล่าๆ'

     'รักกูไหม..'

     'มึงนี่จริงๆเลย มันจะขอนอนกับกู! พอใจหรือยัง แต่เพราะกูรักมึงกูเลยไม่นอนกับมัน! พอใจไหม' 

     '...พูดงี้รักตายเลยว่ะ'

     'เหอะ มันแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเมียไม่รักผัวผัวจะกระซวกไส้เมียหมกลิฟท์ก็วันนี้แหละ!' กัสว่าแล้วดึงผมเข้าไปกอดแรงๆรอบหนึ่งครับ กูรักมึงจังกัส...กูเริ่มจำไม่ได้แล้วอ่ะดิว่า

     กูเผลอบอกรักมึงในใจ ไปกี่รอบแล้ว.....     

     [End Near]

 

     [Casso]

     ตอนนี้ผมกำลังหน้าเครียดอยู่หน้าหม้อสุกี้แบบบุฟเฟ่ต์อยู่ครับก็ของที่ผมเดินไปตักแล้วก็เอามาโยนลงหม้ออะ แม่งหายหมดเลยมันไม่หายไปไหนไกลหรอกครับ ตกไปอยู่ในท้องไอ้จอมเขมือบตรงหน้าผมนี่แหละกินเอากินเอา ไม่ยอมลุกเดินเลยก็จริงอยู่ที่ทางร้านเค้ากำหนดเวลาให้ได้แค่หนึ่งชั่วโมงกับสามสิบนาทีแต่มึงก็ไม่จำเป็นต้องตั้งใจแดกขนาดไหนก็ได้นะครับไอ้คุณเมีย!

     'มองหน้ากูแล้วอิ่มเหรอ แดกสิแดก' นั่นแน่ ยังมีหน้ามาว่ากูอีก!ก็ของที่กูตักมา อยู่ในปากมึงหมดแล้วนี่!!

     'แดกเยอะเดี๋ยวก็อ้วนหรอกมึง หรือว่าท้องถึงได้แดกได้แดกดีขนาดนี้' ผมพูดแล้วยกน้ำดื่มครับ กูมีลางว่าต้องลุกเดินไปตักของกินมาอีกแล้วว่ะ

     'เออ กูท้อง...แปดเดือนแล้วด้วย'

     'ใครเป็นพ่อวะ' ผมถามไปก็อมยิ้มไป มันต้องตอบว่าเป็นผมอยู่แล้วก็เราน่ะ...แทบจะคืนเว้นคืน!

     '...พี่เต็นท์!! หวัดดีพี่'

     'นั่นไงกูว่าแล้วต้องเป็นกะ..ไอ้เหี้ย!!' ผมถึงกับสบถออกมาเลยครับเมื่อคำตอบที่ออกมาจากปากร่างเล็ก ไม่ใช่ผมผมมองตามร่างเล็กที่ลุกขึ้นเดินตามหลังไอ้เหี้ยเต็นท์ไปต่อหน้าต่อตา!

     มึงหยามกูมากเลยรู้ไหม นิเนียร์!

     ผมได้แต่สะกดความโกรธไว้ในใจ คนรักกัน คนเป็นแฟนกันต้องเชื่อใจกันสิวะกัส นิเนียร์เป็นเมียมึงแล้วนะ อย่าลืมสิ!

     'พี่เต็นท์เค้ามากับแฟนเค้าน่ะ' นิเนียร์กลับมาที่โต๊ะอีกครั้งพร้อมกับเมนูกุ้งเต็มมือ และบ่งบอกข่าวดีให้ผมรู้

     'เหี้ยนั่นตัดใจจากมึงได้แล้วเหรอ' ผมว่าแล้วตีเนียนหันหลังไปมองโต๊ะที่ไอ้เต็นท์มันนั่งอยู่ครับ เหี้ยจริงๆด้วย

     'ถ้าตัดใจจากกูไม่ได้ แล้วเค้าจะเป็นแฟนกันได้ยังไงล่ะ ไอ้หอกเอ้า กินเข้าไปซะ ทำเป็นฟอร์มนิ่ง หักช้อนเค้าไปกี่อันแล้วล่ะ' นิเนียร์พูดแล้วตักกุ้งลวกใส่จานผมครับ หน้าบานเลยกู แบบอารมณ์ดีอ่ะบอกแล้วคนรักกันต้องเชื่อใจกัน!ดีนะกูไม่อาละวาด..กูก็คนดีเหมือนกันนะเนี่ย

     'แล้วตกลงมึงท้องกับใคร' ผมถามมันต่อครับ อยากรู้อ่ะ อยากรู้ ผมกำลังเพ้อคุณจะทำไม!

     'มึงนี่เพ้อเจ้อ กูเป็นผู้ชายจะท้องได้ไง แดกกุ้งจนสมองกลับแล้วรึไง' นิเนียร์ว่าผมครับ แล้วตักขนมจีบเข้าปาก โดยที่ไม่ลืมหยิบมาเผื่อผมหนึ่งเข่ง

     'โห่ ช่วยเพ้อไปกับกูหน่อยก็ไม่ได้' ผมแอบบ่นครับ ถึงมันจะเพ้อเจ้อแต่ช่วยเพ้อไปกับกูหน่อยเหอะครับ!

     'ถ้ากูไม่ท้องกับมึง กูจะไปท้องกับปลวกที่ไหนเล่า ไอ้บ้า!'

     เยสสส!!! ชื่นใจไปสามวัน!

     พอครบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง (นั่งแม่งจนพนักงานต้องเดินมาเชิญออก)ผมก็พานิเนียร์ออกมาจากร้านครับ เพราะไอ้เต็นท์มันมานั่งกินก่อนมันเลยออกไปก่อนครับ ไม่งั้นผมกับมันคงได้ปะทะกันแน่ๆ แต่ก็ช่างเหอะมันไม่ยุ่งกับคนของผมแล้วนี่ ผมก็ไม่สนใจอะไรมันแล้ว อีกอย่างแม่งเรียนจบไปแล้วอย่ามายุ่งเรื่องรักในวัยเรียนเลย

     'มึง เอาสีไหนดีวะ สีแดงหรือฟ้า' นิเนียร์ช่วนผมมาซื้อเครื่องเขียนครับคือมึงปีหนึ่งแล้วนะ มึงยังจะใช้เครื่องเขียนแบบกุ๊กกิ๊กอีกเหรอวะ!อ้อ ไอ้ที่มันชูให้ผมดู คือปากกาน้ำเงินสองแท่งครับ สีแดงกับสีฟ้า

     'สีแดง'

     'โห แรงไปเปล่าวะ กูออกจะเรียบร้อย น่ารัก เฟรชชี่ให้กูใช้อะไรแรงๆได้ไง'

     'เอ้า แล้วมึงชอบสีไร'

     'สีฟ้า' ถ้าไม่ใช่เมียนี่กูอัดหน้าไปแล้วนะ ถามกูเพื่อ?

     'งั้นก็เอาไปแม่งสองอันนั่นแหละ'

     'เอาไปทำไมวะสองอัน'

     'เอ้า อันนึงสีฟ้าของมึงเลือก ส่วนอีกอันนึงสีแดงกูเลือกให้เวลามึงใช้มึงจะได้นึกถึงกูไง'

     เยสสสส มุขสดกู เจอดอกนี้เข้าไปหน้าแดงเลย...

     'เสี่ยว'

     ปากก็ว่า แต่คนตัวเล็กก็จับปากกาสองด้ามไว้ด้วยกันเลยครับ เอาสิผมจะให้นิเนียร์คิดถึงผมตลอดเวลา อย่างที่ผมคิดถึงมันตลอดเวลาเลย... จริงๆนะ

     'มึงยังจะซื้ออีกหรอกัส ได้ข่าวปากกามึงมีเป็นโหล' นิเนียร์ว่าเมื่อหันมาเจอผมหยิบปากกาสีฟ้าและสีแดงแบบเดียวกับที่นิเนียร์ซื้อติดมือมาด้วยคือความจริงผมเป็นพวกสะเพร่าไง พกพวกเครื่องเขียนอะไรพวกนี้ พกได้ไม่กี่วันก็หายไม่กี่วันก็ตก หล่น เพื่อนยืมบ้าง ผมเลยซื้อแบบยกแพคอ่ะ สิบสองแท่งโยนใส่หลังรถไว้เวลาจะเรียนก็หยิบออกมาใช้ พอหมดแพคกูก็ซื้อใหม่ครับ

     'อือ'

     'ซื้อไปทำไมวะ เปลืองชิบหาย กูขอมึงก็ไม่ให้'

     'กูจะได้คิดถึงมึง แบบที่มึงคิดถึงกูไง...'

     เยสสส!! โดนไปอีกดอก คราวนี้เอ๋อเลย ไม่รักกู ก็ให้มันรู้ไป๊!

     'รักษาให้ดีก็แล้วกัน..' นิเนียร์พูดจบ ก็เดินห่างออกไปเลยครับผมรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังเขิน ผมเลยปล่อยให้คนตัวเล็กเดินห่างออกไป แต่ยังอยู่ในสายตา... 

     'อือ จะรักษามากกว่าอะไรเลยแหละ'

     แม้มันจะเป็นแค่ปากกาด้ามละไม่กี่บาท แม้มันจะไม่ใช่ของสำคัญอะไรมากมายแต่สำหรับผมมันสำคัญมากเลยนะครับ เพราะปากกาสองด้ามนี้

     คนรักผมซื้อให้…

     ของที่ว่ามีมูลค่าไม่กี่สิบบาท แต่มีค่ามากกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น... 

     [End Casso]

 

     [Thunder]

     ผมกำลังรอครับ.. ผมกำลังรอ แฟน ผมอยู่

     บรูไนปีหนึ่งแล้ว ผมเรียนจบแล้ว และที่สำคัญผมกำลังจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาโทในไม่อีกกี่สิบเดือนข้างหน้านี้ครับทำไมผมถึงไม่ไปหางานทำงั้นหรือครับ... ก็ทำงานมันไม่สนุกเหมือนกับตอนเรียนนี่นา อีกอย่างผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยด้วยและผมก็คุยกับทางบ้านแล้ว พ่อแม่พี่น้องผมไม่มีปัญหาครับ ตัวผมเองก็ไม่มีปัญหาแต่ที่จะมีปัญหาก็ตรงที่..

     ผมยังไม่ได้บอก... หัวใจผมเลย

     'อันยองฮาเซโย!! มายืนทำหน้าหล่อแบบนี้เดี๋ยวก็โดนอุ้มหรอกพ่อคุณ!'ผมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อร่างเล็กเรือนผมสีน้ำตาลที่เพิ่งไปทำมาได้สามวันโผล่มาทักทายผมจากทางด้านหลังครับ

     ยิ่งเห็นบลูยิ้ม ผมก็ยิ่งไม่กล้าบอก แล้วยิ่งผมไม่กล้าบอก... สุดท้ายอาจจะเป็นบลูที่ต้องทรมาน

     'ยังจะทำหน้าหล่ออีก' คนตัวเล็กว่า แล้วยกสองมือขึ้นมาหยิกแก้มผมทั้งสองข้างครับ บนบ่าคนตัวเล็กมีกระเป๋าเป้ที่ผมซื้อให้ด้วย...ชื่นใจจัง

     'ว่าไง วันนี้แสดงเป็นนางใน ในวังหลวงหรอไง' ผมแซวร่างเล็กเล่นครับ บลูมักจะเอามาบ่นให้ผมฟังเสมอที่ห้องพักก่อนเราจะเข้านอนกัน(นอนกันเฉยๆนะครับ ไม่ได้ทำอะไรกันทั้งนั้น)ว่าอาจารย์ประจำวิชาการแสดง ชอบให้ทำอะไรแปลกๆในห้องเรียนเสมอบางวันก็แสดงเป็นคนบ้าบ้างล่ะ บางวันก็คนต่างประเทศบ้างล่ะบางวันก็นายแบบบ้างล่ะ รู้สึกว่าเมื่อวานก่อนเค้าจะให้แฟนผมแสดงเป็นตัวตลกมั้งครับ เจ้าตัวมาบ่นกับผมใหญ่เลยบอกว่าเสียภาพพจน์ตัวเองหมด

     'จะบ้าเหรอ เค้าเล่นเป็นกูจุนเพียวในเอฟโฟว์ต่างหาก มั่ว!' 

     'อ้าวเหรอ เห็นสวยๆแบบนี้ นึกว่าเค้าจะให้เล่นเป็นนางในซะอีก'

     'บ้า!'

     'ฮ่าๆ กลับบ้านกันเถอะ วันนี้จะทำอะไรให้บรูไนกินดีน๊า' ผมว่าแล้วทำหน้าครุ่นคิดครับ พอเรียนจบผมก็เหมือนพ่อบ้านอ่ะครับอยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือน ตื่นเช้าไปส่งตัวเล็กที่ม. เย็นก็มารับบางวันผมก็กลับบ้านผม บางวันบลูเองก็ต้องกลับบ้านตัวเองเป็นอย่างนี้มาเกือบปีแล้ว... ไม่ให้เกือบปีได้ยังไงล่ะครับ ก็ทำกันแบบนี้

     ตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆ จนถึงวันนี้...

     'อือ อยากกินแพนเค้กอ่ะ ที่ทำให้กินวันนั้นอ่ะ อยากกินอีกได้ไหม'

     'กินตอนเย็นนี่นะ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวทำตอนเช้าให้กิน'

     'ไม่เอา ตอนเช้าต้องรีบกิน ไม่อร่อย'

     'งั้นเช้าวันหยุดก็ได้ ไว้จะทำให้กิน'

     'ตกลง งั้นวันนี้กินไข่ยัดไส้นะ เค้าจะทำให้ตัวกิน' คนตัวเล็กเสนอพร้อมด้วยใบหน้าสดใส ส่วนผมก็คิดถึงวัตถุดิบในตู้เย็นว่าเพียงพอหรือเปล่า

     'เอาสิ ตกลงอย่าไหม้ก็พอ'

     'ไม่ไหม้หรอกน่า! ฝีมือระดับนี้แล้วว่าแต่อยากกินแพนเค้กอ๊า ทำให้กินหน่อยน๊า'

     'ก็บอกว่าเช้าวันหยุดจะทำให้กิน แต่ถ้าจะกินเย็นนี้จริงๆ แพนเค้กพี่ไม่มีให้เราหรอกนะ พี่มีแต่...' ผมพูดเว้นช่วง ก่อนจะโน้มหน้าไปหาร่างเล็กใกล้ๆครับ

     'มีแต่อะไร โน้มมาซะ จูบกันเลยไหม'

     'มีแต่...แฟนเค้กหน่ะ กินได้ไหม...จุ๊บ'

     มื้อเย็นของเราดำเนินไปอย่างช้าๆครับ บลูน้อยของผมโวยวายยกใหญ่เมื่อโทรไปหาเพื่อนสาว(?)อย่างเนียร์ เพื่อโทรชวนมากินข้าวเย็นที่ห้องแต่เนียร์มาไม่ได้ ไม่รู้เพราะอะไร แต่พอผมเห็นสเตตัสบีบีไอ้กัส ผมก็พอรู้แล้วว่าทำไมเนียร์ถึงไม่มากินข้าวบ้านเรา

     CasJung // with @ love

     อื้อหือ @ Love ออกหน้าออกตาไปไหมมึง!

     'นี่จะทำไข่ยัดไส้ หรือ ไส้ยัดไข่เนี่ยทำไมไส้มันถึงเยอะแบบนี้ล่ะครับ หือ' ผมเดินเข้าไปในห้องครัวทันเห็นบลูน้อยกำลังตักไส้หมูสับผัดกับผักสามสีใส่ไข่เจียวที่ล่อนเป็นแผ่นบางๆ อยู่ในกระทะพอดิบพอดี

     'กลัวตัวไม่อิ่มไง' บลูว่า แล้วจัดการพับไข่ยัดไส้ที่ดูเหมือนไส้มันจะเยอะมาก จนปริออกมา

     'รักตายเลย พูดแบบนี้อ่ะ' ผมพูด แล้วขยี้หัวน้องเล่นเบาๆครับผมพาบลูเข้าบ้านแล้วนะ! พ่อแม่พี่น้องผมโคตรปลื้มอ่ะหม่าม้าผมนี่ดูฤกษ์รอบลูมันเรียบจบแล้วด้วยซ้ำ หม่าม้าผมปลื้มน้องมากครับถึงขนาดให้ทองเส้นมาแล้วด้วยเส้นหนึ่ง (บ้านอาม่าผมขายทอง) อะไรมันจะปลื้มขนาดนั้นขนาดผมเป็นลูกชาย อย่าเรียกได้เป็นเส้นเลยครับ สักสลึงผมยังไม่เคยได้สรุปเราเข้ากันได้ดีครับ...

     'หม่าม้าโทรมา บอกให้พี่ธันพาน้องไปหาหม่าม้าด้วย' บลูหันมาพูดกับผมที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังครับ

     'วันไหนดีล่ะ'

     'พรุ่งนี้ดีไหม หยุดไม่ใช่เหรอ'

     'อื้อ'

     'อยากตื่นสายๆล่ะสิ'

     'อาฮะ'

     'ก็บ่ายๆก็ค่อยไปหาหม่าม้าแล้วกัน เราจะได้นอนได้เต็มที่ครึ่งวันคงชาร์จพลังให้เราพอใช่ไหม' ผมถามบลูกลับครับบลูมีปัญหามากกับการตื่นนอนและการเข้านอน คือเข้าใจไหมครับเวลาผมจะนอนบลูมันจะไม่นอน แล้วเวลาผมไม่นอนบลูมันจะนอนอ่ะ!

     ขัดใจตลอด

     'โอเค'

     'งั้นพี่โทรไปบอกหม่าม้าก่อนนะ ว่าเราจะเข้าไปหาพรุ่งนี้ท่านคงจัดโต๊ะจีนรอเราเลยล่ะมั้ง ว่าที่ลูกสะใภ้จะไปหาเนี่ย' ผมว่าแล้วเตรียมยกมือถือขึ้นกดครับบลูเอามือข้างที่ไม่ได้จับตะหลิวตีที่แขนผมดังเปี๊ยะ! ก่อนจะพูดต่อครับ 

     'บ้า ใครบอกว่าที่... ลูกสะใภ้เลยต่างหาก ฉึกๆกับลูกชายหม่าม้าแล้วนี่'

     'หึ เออจริงสินะ'

     'ไม่ต้องโทรแล้วด้วย น้องบอกหม่าม้าไปแล้วว่าพรุ่งนี้จะไปหาตอนบ่ายๆ'

     'อ้าว นี่จัดการเองหมดแล้วเหรอ'

     'ใช่ ก็รู้ไงว่าต้องเป็นแบบนี้เลยจัดการเองไปหมดแล้ว ไม่เสียเวลาด้วย' 

     'ดีมาก แล้วจะไม่เสียเวลาอะไรเหรอ' ผมถามบลูกลับด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่มครับก่อนจะขโมยจูบที่แก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่

     'กะ..ก็..วะ..เวลาจัดโต๊ะจีนไง ถามมากอีกแล้วนะ'

     'เหรอออ พี่นึกว่าเวลา...'

     'เวลาอะไร! อย่าพูดนะ อย่าพูดออกมานะ พูดออกมาโกรธจริงๆด้วย!!'

     'เวลา...'

     'พี่ธันอ่า!'

     'ฉึกๆ...'

     'ไม่พูดด้วยแล้ว! งอน!!' คนตัวเล็กพูดจบก็ตักไข่ยัดไส้ใส่จาน (ยังไม่ลืมครับ ยังไม่ลืม..)ก่อนจะเดินหน้างอแก้มแดงออกจากห้องครัวไป ถ้ายังเป็นอย่างนี้ ผมจะทำยังไงถ้าบลูยังทำตัวน่ารักอยู่แบบนี้... แล้วถ้าผมยังไม่กล้าอยู่แบบนี้

 

     'หม่าม้าครับ ผมได้ทุนไปเรียนต่อโท ที่ต่างประเทศครับ'

     'จริงเหรอธัน! ดีเลยลูก ธันอยากต่อโทอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ' 

     หม่าม้าหันมาพูดกับผมด้วยใบหน้าดีใจครับ ท่านไม่บังคับหรอกว่า ผมจะจบอะไรแค่ขอให้ผมเป็นคนดี ท่านก็พอใจกับผมแล้วความจริงผมเรียนจบมาได้หลายเดือนแล้วนะครับ ผมลองไปฝึกงาน และลองไปสมัครงานอยู่หลายต่อหลายที่ แต่เวลาทำงาน มันไม่สนุกเหมือนตอนเรียนเอาเสียเลยผมเลยมีความคิดว่าผมจะไปเรียนต่อครับ... ผมเลยติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยดูครับและสุดท้ายผมก็ได้ทุนมาในที่สุด... ทุนสองปีกว่าๆ สำหรับปริญญาโทของผม....

 

     'ครับ ผมอยากไป แต่ผม...'

     'ธันไม่อยากทิ้งน้องไปใช่ไหมลูก'

     'ครับ ผมไม่อยากทิ้งน้องไป'

     'ธันก็ชวนน้องไปเรียนต่อที่นู่นสิลูก'                                                                                   

     'ไม่ได้หรอกครับ บลูมีงานอยู่ที่นี่ น้องไปกับผมหรอกครับน้องรักงานของน้องจะตายไป ผมไม่อยากให้น้องทิ้งสิ่งที่น้องรักหรอกครับ'

     'หม่าม้าว่า ธันไปคุยกับน้องก่อนดีกว่า แล้วค่อยตัดสินใจหม่าม้าไม่อยากให้ธันตัดสินใจด้วยตัวเองบางทีน้องอาจจะอยากไปเรียนกับธันที่นู่นก็ได้นะลูก ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงหม่าม้าอยากให้ธันคุยกับน้องดีๆ และเป็นคนบอกกับน้องด้วยตัวของลูกเอง ลูกชายหม่าม้าทำได้อยู่แล้วเนอะ'

 

     ผมจะทำยังไงดีครับ

     ถ้าบลูไม่ไปเรียนกับผม.. เราต้องไม่เจอหน้ากันตั้งสองปี

     แล้วรักของเรา... จะมั่นคงแบบนี้ต่อไปไหม....

     อนาคต คือสิ่งที่ผมและทุกคน...ไม่รู้   

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา