Tsundere ซึนอย่างนี้รักตายล่ะ!
7.0
เขียนโดย HaRUnA
วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.23 น.
4 บท
1 วิจารณ์
7,484 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) คู่หมั้นกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ II
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเลยจริงๆ ฆาตกรที่จู่ๆก็โพล่มาต่อหน้ายูจิและฮารุนะ คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดแน่นอนว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ทว่าตอนนี้มันได้เกิดขึ้นกับทั้งสองเสียแล้ว
ยูจิกดแผลที่หัวใหล่ของตัวเองเอาไว้และจ่องหน้าชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ฆาตกรที่กำลังยืนอยู่เอามีดที่มีเลือดติดอยู่ขึ้นมาเลีย ด้วยสีหน้าที่เรียกได้เลยว่า ‘โรคจิต’ มันทำให้รู้สึกขนลุก ยูจิคิดเช่นนั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเลยจริงๆ
“แบบนี้ไม่ดีแน่.... ฮารุนะรีบหนีไปเร็วเข้า!”
ยูจิรีบตั้งสติแล้วรีบลุกขึ้นมาจากพื้นโดยที่เอามือกดแผลของตัวเองที่ไหล่ขวาเอาไว้ จากนั้นจึงบอกให้ฮารุนะที่ยืนนิ่งอยู่ให้หนีไป ส่วนตัวเองคิดว่าจะถ่วงเวลาจนกว่าฮารุนะจะไปเรียกคนมาช่วยหรือโทรแจ้งตำรวจ ยูจิพยายามที่จะทำตัวให้เป็นพระเอกที่สามารถปกป้องคนอื่นได้ ทั้งๆที่ควรเป็นแบบนั้นแต่ทว่า.......
“อ๊ากกกกก……………..”
“......!?”
เสียงร้องดังลั่นไปทั่ว เสียงนั้นไม่ใช่ทั้งของยูจิหรือฮารุนะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของยูจิคือ ฆาตกรที่ ’เคย’ ยืนอยู่ตรงหน้า’ก่อนหน้านี้’ แต่กลับกลายเป็นว่า ดันไปนอนสลบอยู่บนพื้นแทนเสียแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนั้นน่ะเหรอ นั่นก็เพราะว่า......
“ฮ....ฮารุนะ นี่เธอทำอะไรลงไปน่ะ?”
ยูกิโนะ ฮารุนะที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้ายูจิอยู่ในขณะนี้ เธอกำลังเอาเท้าข้างขวาเหยียบบนกลางหลังของฆาตกรที่กำลังสลบอยู่บนพื้นพร้อมกับบิดข้อเท้าไปมา
“ถามได้ ก็กระโดดถีบไอ้หมอนี่ยังไงล่ะ”
ใช่ครับเธอกระโดดถีบไปแล้ว ใส่ไอฆาตกรนั่น ต่อหน้าต่อตา.....
“เอ่อ..... แล้วไหนเป็นงั้นล่ะ?”
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้น มันก็จะเป็นฝ่ายที่จะมาทำกับพวกเราเองนะ”
ดูเหมือนคนที่มีสติจะไม่ใช่ยูจิคนเดียวซะแล้วสิแบบนี้ อดทำตัวเป็นพระเอกเลยขนาดเกิดสถานการณ์แบบนี้เธอยังคงสติเอาไว้ได้ แถมยังเข้าไปสู้กับฆาตกรนั่นได้อีก ท่าเทียบกับยูจิแล้วมันคนละระดับกันเลยจริงๆ คงต้องยอมรับเธอในระดับหนึ่งล่ะนะ
“เธอนี่มันชอบใช้ความรุนแรงซะจริงเลยนะ”
“มีปัญหารึไงยะ? หรือว่านายอยากจะโดนไปอีกคน”
เธอหันกลับมา (เท้ายังคงอยู่ที่เดิม) พร้อมกับหักข้อมือไปด้วยจนเกิดเสียง ‘กร๊อก’
“เรื่องสิ ทำไมชั้นต้องให้เธอมากระโดดถีบใส่จนสลบไปอีกคนด้วยล่ะ”
(ยอมให้กระโดดถีบก็บ้าแล้วยัยบ๊อง)
“ก็นายเป็นพวกเดียวกันกับเจ้านี่ไม่ใช่เหรอไง?”
“ที่พูดน่ะ มันหมายความว่าไงมิทราบ?!”
(พูดยังกะว่าชั้นเหมือนกับเจ้านี่รึยังไงยังงั้นล่ะ?!)
“ก็นายน่ะ ทั้งโรคจิต วิปริต หื่นกาม ชอบทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ เหมือนกับตอนที่เจอกับชั้นตอนนั้นไง!”
“อย่าไปรวมชั้นกับเจ้าพวกนั้นสิเว้ยยย! ชั้นไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แถมตอนนั้นมันก็เป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจที่จะมองด้วยซ้ำ!….”
จู่ๆฮารุนะก็หน้าแดงระเรือขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งขัดกับอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนของเธอ สงสัยจะนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ (ตอนที่เจอกับยูจิครั้งแรก)
“นั่นไง นายยังจำมันได้อยู่เลย อย่าเข้ามาใกล้นะ ไอโรคจิต! วิปริต! หื่นกาม!”
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ววววว……!!!”
ทั้งสองก็ยังคงเถียงกันต่อจนดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ในระหว่างที่ฆาตกรยังคงนอนสลบอยู่ทั้งๆแบบนั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใครจริงๆจนเวลาไหลผ่านไปหลายนาที จนยูจิต้องขอหยุดการถกเถียงเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะโทรแจ้งตำรวจและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนฮารุนะจะไม่ยอมหยุดง่ายๆเธอยังคงพูดต่อ แต่ยูจิก็ไม่ได้สนใจจนกระทั้งรถตำรวจมาถึง
หลังจากพาตัวฆาตกรไปแล้ว ยูจิและฮารุนะก็ถูกเชิญให้ไปให้ปากคำ นั่นคือตอนที่ฮารุนะหยุดพูดหลังจากที่พูดเป็นเวลานาน และนั่งเงียบไม่ยอมพูดกับใครรวมทั้งยูจิจนถึงสถานีตำรวจ
เมื่อการให้ปากคำเสร็จสิ้น ยูจิก็เดินออกมาจากห้องของเจ้าหน้าที่แล้วเดินตรงไปทางประตูทางออกเพื่อที่จะกลับบ้าน โดยที่คิดว่ายัยฮารุนะคงจะกลับบ้านไปแล้วเพราะเธอเข้าไปให้ปากคำก่อนยูจิ....
“เธอตรงนั้นน่ะ ช่วยหยุดก่อน….”
“…….?”
ยูจิหยุดเดินตามเสียงที่ได้ยิน และเมื่อเขาหันไปมองก็เห็นเจ้าหน้าที่หญิงวิ่งเข้ามาหา แล้วถามคำถาม....
“เด็กผู้หญิงที่มากับเธอน่ะ ใช่เพื่อนของเธอรึปล่าวจ๊ะ?”
“เด็กผู้หญิง.....?”
(คงหมายถึงฮารุนะสินะ)
“ใช่ครับผมรู้จักเธอ มีอะไรเหรอครับ?”
“คือแบบว่านะ…..”
“…….?”
ในตอนแรกยูจิก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพยายามจะอธิบายมากซักเท่าไหร่ จนกระทั้งเธอบอกให้ตามมาด้วยกันหน่อย จึงทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที ว่าสิ่งที่เธอต้องการอธิบายคืออะไร
“ฟี้______”
“..................”
“ฟี้______”
กำลังหลับอยู่.... กำลังหลับอยู่ตรงนั้น.... สิ่งที่ยูจิกำลังมองอยู่นั้นคือฮารุนะที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินทั้งๆที่น่าจะกลับบ้านไปแล้วแท้ๆ แต่เหมือนเธอจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เลยอาจจะทำให้เผลอหลับไปสินะ
“เฮ้อ..... เธอเนี่ยน้า”
(จะปล่อยเธอเอาไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ซะด้วย.... ให้ตายสิชอบก่อปัญหาให้ฉันตลอดเลยนะเธอน่ะ....)
เมื่อคิดได้เช่นนั้นยูจิจึงเดินตรงไปหาฮารุนะและทำการคว้านตัวของเธอและอุ้มขึ้นมาอยู่บนแขนของตัวเองจนเจ้าหน้าที่หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับทำตาโต เพราะตอนนี้ฮารุนะถูกยูจิอุ้มในท่าเจ้าหญิงที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่หา น้ำหนักไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยซักนิด ลมหายใจที่ปล่อยออกมาจากปากเล็กๆของเธอทำให้หน้าเอ็นดูและน่ารักไปอีกแบบในมุมมองแบบนี้แต่ยูจิก็ไม่ได้สนใจมากนักตรงส่วนนั้น ก่อนที่จะหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่หญิงที่กำลังยืนตาโตอยู่ด้านหลัง
“งั้นเดี๋ยวผมพาเธอไปเองครับ ช่วยพาไปส่งให้หน่อยจะได้ไหมครับ?”
เจ้าหน้าที่นิ่งอยู่ซักพักก่อนที่จะได้สติแล้วตอบมา
“ค...ค่ะ ได้เลยค่ะ งั้นเชิญทางนี้เดี๋ยวพาไปที่รถ ส่วนสำภาระของเธอเดี๋ยวชั้นถือให้”
“ขอบคุณมากครับ”
เมื่อพูดจบเธอก็นำทางยูจิให้ไปที่รถที่จอดอยู่หน้าสถานีตำรวจ โดยที่ยูจิยังคงอุ้มฮารุนะอยู่ในท่านั้นจนถึงรถและวางให้เธอนอนอยู่บนเบาะหลังของรถ ส่วนยูจินั่งอยู่เบาะหน้ากับเจ้าหน้าที่เพื่อคอยบอกทางไปที่บ้าน........
และเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็มีคนวิ่งออกมาต้อนรับทันที
“พี่ไปไหนมาน่ะ ทำไมถึงได้กลับมาจนดึกดื่นป่านนี้?”
ซากุระก็วิ่งออกจากประตูมาทันที สงสัยคงเห็นเป็นรถตำรวจมาจอดที่หน้าบ้านเลยอาจจะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้
“โทษทีๆ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก....”
“หืม........”
ดูเหมือนเธอจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนเธอเหลือบไปมองด้านหลังของยูจิและเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงกำลังอุ้มฮารุนะลงมาจากรถตำรวจทั้งๆที่กำลังหลับอยู่ เธอตกใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมากจึงรีบหันกลับมาถามยูจิเป็นการใหญ่
“คุณฮารุนะเป็นอะไรไปน่ะ! ทำไมถึงได้หลับไปแบบนั้นเธอถูกทำร้ายมาเหรอ หรือว่าเกิดเหตุมิดีมิร้ายกับเธอ หรือไม่สบายจนเป็นลมล้มพับไป หรือว่าพี่ไป......กับเธอกัน? ”
“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!!! แค่ระหว่างที่คุยกันและถูกโจรที่กำลังหลับหนีพบเจอโดยบังเอิญ และถูกเชิญไปที่สถานีตำรวจในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ พอเสร็จแล้วเธอก็หลับไปทั้งๆอย่างนั้นเพราะความเพลียน่ะไม่มีอะไรมากนักหรอกไม่ต้องเป็นห่วงไป”
“อย่างงั้นหลอกเหรอ หนูก็นึกว่าพี่ไป....”
“หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! นี่พี่ชายร่วมสายเลือดแท้ๆของเธอเองเลยนะรักษาภาพพจน์หน่อยสิ ตำรวจก็อยู่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยนะ”
(แล้วทำไมเธอถึงไม่ตกใจเรื่องที่ไปเจอกับฆาตกรเลยล่ะ....)
“ค่า____”
เมื่อจบเรื่องความเข้าใจผิดของน้องสาวตัวแสบได้แล้วยูจิจึงบอกให้ซากุระมาช่วยยกสัมภาระของฮารุนะเข้าไปในบ้าน ส่วนตัวเองก็อุ้มฮารุนะต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงแล้วพาเธอเข้าไปในบ้านตามหลังซากุระไป.......
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดในคืนนั้น.... ยูจิคิดในใจระหว่างที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ภายในห้องของตัวเอง เขาลุกจากเตียงโดยที่ไม่ทำให้ฮารุนะตื่นขึ้นมา แต่สิ่งที่เขากำลังสงสัยอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือ....
(ทำไมยัยนี่ถึงได้มานอนอยู่บนเตียงได้ล่ะ?)
เนื่องจากเมื่อคืนนี้หลังจากที่พาฮารุนะเข้ามาในบ้านแล้วก็มอบหน้าที่ดูแลให้กับซากุระทันที เพราะถ้าจะให้ผู้ชายอายุ16ปีที่ยังโสด/ซิงอยู่มาดูแลเธอในขณะที่กำลังหลับมันก็กระไรอยู่ จึงปล่อยหน้าที่นั้นให้ซากุระที่เป็นผู้หญิงด้วยกันดูแลแทนหน้าจะดีกว่า....
....แต่ไหนถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ? .....เอาเถอะเดี๋ยวค่อยไปถามซากุระเอาทีหลัง
เมื่อยูจิใส่เสื้อเสร็จแล้วก็กำลังจะเดินออกประตูห้องไป แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกมาจนเกิดเสียงดังขึ้น........
“งือ____ เสียงอะไรน่ะ....?”
คนที่ไม่อยากให้ตื่นขึ้นมามากที่สุดในตอนนี้ก็ดันตื่นขึ้นมาซะได้ แต่ตอนนี้อาจจะยังทัน ยูจิจึงพยายามที่จะเอาตัวออกจากห้องไปแต่ทว่า........
“ใครกำลังยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ....?”
ฮารุนะที่กำลังอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นมองไปรอบๆห้องที่ยังไม่สว่างมากนักจึงทำให้มองไม่ค่อยเห็น แต่แสงไฟที่ลอดผ่านหน้าประตูมาทำให้เธอแสบตา เธอจึงขยี่ตาไปเพื่อทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น และรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูหรือก็คือยูจินั่นเอง เธอจ่องมองไปที่ยูจิซักพักก่อนที่จะปรับสายตาจนสามารถมองเห็นได้แล้ว........
“หือ! น...นะ นี่นาย! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันน่ะและนี่มันที่ไหน? ทำไมชั้นถึงอยู่ในสภาพแบบนี้และมานอนอยู่บนเตียงได้ยังไงเนี่ย!!!”
เหมือนเธอจะตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยูจิจึงพยายามจะอธิบาย
“คือว่านะ ฮารุนะ....”
ฮารุนะหันมาจ่องยูจิด้วยสายตาที่กำลังเขินอายแบบสุดๆ
“ย.... อย่าเข้ามาใกล้นะอีตาบ้าาาาา!!!”
ไม่ทันขาดคำเธอก็หยิบหมอนที่วางอยู่ใกล้ๆตัว ขว้างใส่เข้าที่หน้าของยูจิโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวจนทำให้เสียหลักจนทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่และหงายหลังล้มลงกับพื้นเพราะแรกกระแทกจนนอนอยู่ที่หน้าประตูห้อง....
“เห้อออออ....”
ยูจิหายใจออกมาเฮื้อกใหญ่พร้อมกับพูดออกมาว่า....
“ให้ชั้นได้พักซักหน่อยจะได้ไหมเนี้ย!.....”
***************
ยูจิกดแผลที่หัวใหล่ของตัวเองเอาไว้และจ่องหน้าชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ฆาตกรที่กำลังยืนอยู่เอามีดที่มีเลือดติดอยู่ขึ้นมาเลีย ด้วยสีหน้าที่เรียกได้เลยว่า ‘โรคจิต’ มันทำให้รู้สึกขนลุก ยูจิคิดเช่นนั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเลยจริงๆ
“แบบนี้ไม่ดีแน่.... ฮารุนะรีบหนีไปเร็วเข้า!”
ยูจิรีบตั้งสติแล้วรีบลุกขึ้นมาจากพื้นโดยที่เอามือกดแผลของตัวเองที่ไหล่ขวาเอาไว้ จากนั้นจึงบอกให้ฮารุนะที่ยืนนิ่งอยู่ให้หนีไป ส่วนตัวเองคิดว่าจะถ่วงเวลาจนกว่าฮารุนะจะไปเรียกคนมาช่วยหรือโทรแจ้งตำรวจ ยูจิพยายามที่จะทำตัวให้เป็นพระเอกที่สามารถปกป้องคนอื่นได้ ทั้งๆที่ควรเป็นแบบนั้นแต่ทว่า.......
“อ๊ากกกกก……………..”
“......!?”
เสียงร้องดังลั่นไปทั่ว เสียงนั้นไม่ใช่ทั้งของยูจิหรือฮารุนะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของยูจิคือ ฆาตกรที่ ’เคย’ ยืนอยู่ตรงหน้า’ก่อนหน้านี้’ แต่กลับกลายเป็นว่า ดันไปนอนสลบอยู่บนพื้นแทนเสียแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนั้นน่ะเหรอ นั่นก็เพราะว่า......
“ฮ....ฮารุนะ นี่เธอทำอะไรลงไปน่ะ?”
ยูกิโนะ ฮารุนะที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้ายูจิอยู่ในขณะนี้ เธอกำลังเอาเท้าข้างขวาเหยียบบนกลางหลังของฆาตกรที่กำลังสลบอยู่บนพื้นพร้อมกับบิดข้อเท้าไปมา
“ถามได้ ก็กระโดดถีบไอ้หมอนี่ยังไงล่ะ”
ใช่ครับเธอกระโดดถีบไปแล้ว ใส่ไอฆาตกรนั่น ต่อหน้าต่อตา.....
“เอ่อ..... แล้วไหนเป็นงั้นล่ะ?”
“ก็ถ้าไม่ทำแบบนั้น มันก็จะเป็นฝ่ายที่จะมาทำกับพวกเราเองนะ”
ดูเหมือนคนที่มีสติจะไม่ใช่ยูจิคนเดียวซะแล้วสิแบบนี้ อดทำตัวเป็นพระเอกเลยขนาดเกิดสถานการณ์แบบนี้เธอยังคงสติเอาไว้ได้ แถมยังเข้าไปสู้กับฆาตกรนั่นได้อีก ท่าเทียบกับยูจิแล้วมันคนละระดับกันเลยจริงๆ คงต้องยอมรับเธอในระดับหนึ่งล่ะนะ
“เธอนี่มันชอบใช้ความรุนแรงซะจริงเลยนะ”
“มีปัญหารึไงยะ? หรือว่านายอยากจะโดนไปอีกคน”
เธอหันกลับมา (เท้ายังคงอยู่ที่เดิม) พร้อมกับหักข้อมือไปด้วยจนเกิดเสียง ‘กร๊อก’
“เรื่องสิ ทำไมชั้นต้องให้เธอมากระโดดถีบใส่จนสลบไปอีกคนด้วยล่ะ”
(ยอมให้กระโดดถีบก็บ้าแล้วยัยบ๊อง)
“ก็นายเป็นพวกเดียวกันกับเจ้านี่ไม่ใช่เหรอไง?”
“ที่พูดน่ะ มันหมายความว่าไงมิทราบ?!”
(พูดยังกะว่าชั้นเหมือนกับเจ้านี่รึยังไงยังงั้นล่ะ?!)
“ก็นายน่ะ ทั้งโรคจิต วิปริต หื่นกาม ชอบทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ เหมือนกับตอนที่เจอกับชั้นตอนนั้นไง!”
“อย่าไปรวมชั้นกับเจ้าพวกนั้นสิเว้ยยย! ชั้นไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย แถมตอนนั้นมันก็เป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ตั้งใจที่จะมองด้วยซ้ำ!….”
จู่ๆฮารุนะก็หน้าแดงระเรือขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งขัดกับอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนของเธอ สงสัยจะนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ (ตอนที่เจอกับยูจิครั้งแรก)
“นั่นไง นายยังจำมันได้อยู่เลย อย่าเข้ามาใกล้นะ ไอโรคจิต! วิปริต! หื่นกาม!”
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ววววว……!!!”
ทั้งสองก็ยังคงเถียงกันต่อจนดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ในระหว่างที่ฆาตกรยังคงนอนสลบอยู่ทั้งๆแบบนั้น ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใครจริงๆจนเวลาไหลผ่านไปหลายนาที จนยูจิต้องขอหยุดการถกเถียงเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะโทรแจ้งตำรวจและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนฮารุนะจะไม่ยอมหยุดง่ายๆเธอยังคงพูดต่อ แต่ยูจิก็ไม่ได้สนใจจนกระทั้งรถตำรวจมาถึง
หลังจากพาตัวฆาตกรไปแล้ว ยูจิและฮารุนะก็ถูกเชิญให้ไปให้ปากคำ นั่นคือตอนที่ฮารุนะหยุดพูดหลังจากที่พูดเป็นเวลานาน และนั่งเงียบไม่ยอมพูดกับใครรวมทั้งยูจิจนถึงสถานีตำรวจ
เมื่อการให้ปากคำเสร็จสิ้น ยูจิก็เดินออกมาจากห้องของเจ้าหน้าที่แล้วเดินตรงไปทางประตูทางออกเพื่อที่จะกลับบ้าน โดยที่คิดว่ายัยฮารุนะคงจะกลับบ้านไปแล้วเพราะเธอเข้าไปให้ปากคำก่อนยูจิ....
“เธอตรงนั้นน่ะ ช่วยหยุดก่อน….”
“…….?”
ยูจิหยุดเดินตามเสียงที่ได้ยิน และเมื่อเขาหันไปมองก็เห็นเจ้าหน้าที่หญิงวิ่งเข้ามาหา แล้วถามคำถาม....
“เด็กผู้หญิงที่มากับเธอน่ะ ใช่เพื่อนของเธอรึปล่าวจ๊ะ?”
“เด็กผู้หญิง.....?”
(คงหมายถึงฮารุนะสินะ)
“ใช่ครับผมรู้จักเธอ มีอะไรเหรอครับ?”
“คือแบบว่านะ…..”
“…….?”
ในตอนแรกยูจิก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพยายามจะอธิบายมากซักเท่าไหร่ จนกระทั้งเธอบอกให้ตามมาด้วยกันหน่อย จึงทำให้เขาเข้าใจได้ในทันที ว่าสิ่งที่เธอต้องการอธิบายคืออะไร
“ฟี้______”
“..................”
“ฟี้______”
กำลังหลับอยู่.... กำลังหลับอยู่ตรงนั้น.... สิ่งที่ยูจิกำลังมองอยู่นั้นคือฮารุนะที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดินทั้งๆที่น่าจะกลับบ้านไปแล้วแท้ๆ แต่เหมือนเธอจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เลยอาจจะทำให้เผลอหลับไปสินะ
“เฮ้อ..... เธอเนี่ยน้า”
(จะปล่อยเธอเอาไว้แบบนี้ก็ไม่ได้ซะด้วย.... ให้ตายสิชอบก่อปัญหาให้ฉันตลอดเลยนะเธอน่ะ....)
เมื่อคิดได้เช่นนั้นยูจิจึงเดินตรงไปหาฮารุนะและทำการคว้านตัวของเธอและอุ้มขึ้นมาอยู่บนแขนของตัวเองจนเจ้าหน้าที่หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับทำตาโต เพราะตอนนี้ฮารุนะถูกยูจิอุ้มในท่าเจ้าหญิงที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่หา น้ำหนักไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยซักนิด ลมหายใจที่ปล่อยออกมาจากปากเล็กๆของเธอทำให้หน้าเอ็นดูและน่ารักไปอีกแบบในมุมมองแบบนี้แต่ยูจิก็ไม่ได้สนใจมากนักตรงส่วนนั้น ก่อนที่จะหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่หญิงที่กำลังยืนตาโตอยู่ด้านหลัง
“งั้นเดี๋ยวผมพาเธอไปเองครับ ช่วยพาไปส่งให้หน่อยจะได้ไหมครับ?”
เจ้าหน้าที่นิ่งอยู่ซักพักก่อนที่จะได้สติแล้วตอบมา
“ค...ค่ะ ได้เลยค่ะ งั้นเชิญทางนี้เดี๋ยวพาไปที่รถ ส่วนสำภาระของเธอเดี๋ยวชั้นถือให้”
“ขอบคุณมากครับ”
เมื่อพูดจบเธอก็นำทางยูจิให้ไปที่รถที่จอดอยู่หน้าสถานีตำรวจ โดยที่ยูจิยังคงอุ้มฮารุนะอยู่ในท่านั้นจนถึงรถและวางให้เธอนอนอยู่บนเบาะหลังของรถ ส่วนยูจินั่งอยู่เบาะหน้ากับเจ้าหน้าที่เพื่อคอยบอกทางไปที่บ้าน........
และเมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็มีคนวิ่งออกมาต้อนรับทันที
“พี่ไปไหนมาน่ะ ทำไมถึงได้กลับมาจนดึกดื่นป่านนี้?”
ซากุระก็วิ่งออกจากประตูมาทันที สงสัยคงเห็นเป็นรถตำรวจมาจอดที่หน้าบ้านเลยอาจจะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้
“โทษทีๆ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรมากหรอก....”
“หืม........”
ดูเหมือนเธอจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนเธอเหลือบไปมองด้านหลังของยูจิและเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงกำลังอุ้มฮารุนะลงมาจากรถตำรวจทั้งๆที่กำลังหลับอยู่ เธอตกใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมากจึงรีบหันกลับมาถามยูจิเป็นการใหญ่
“คุณฮารุนะเป็นอะไรไปน่ะ! ทำไมถึงได้หลับไปแบบนั้นเธอถูกทำร้ายมาเหรอ หรือว่าเกิดเหตุมิดีมิร้ายกับเธอ หรือไม่สบายจนเป็นลมล้มพับไป หรือว่าพี่ไป......กับเธอกัน? ”
“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!!! แค่ระหว่างที่คุยกันและถูกโจรที่กำลังหลับหนีพบเจอโดยบังเอิญ และถูกเชิญไปที่สถานีตำรวจในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ พอเสร็จแล้วเธอก็หลับไปทั้งๆอย่างนั้นเพราะความเพลียน่ะไม่มีอะไรมากนักหรอกไม่ต้องเป็นห่วงไป”
“อย่างงั้นหลอกเหรอ หนูก็นึกว่าพี่ไป....”
“หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! นี่พี่ชายร่วมสายเลือดแท้ๆของเธอเองเลยนะรักษาภาพพจน์หน่อยสิ ตำรวจก็อยู่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วยนะ”
(แล้วทำไมเธอถึงไม่ตกใจเรื่องที่ไปเจอกับฆาตกรเลยล่ะ....)
“ค่า____”
เมื่อจบเรื่องความเข้าใจผิดของน้องสาวตัวแสบได้แล้วยูจิจึงบอกให้ซากุระมาช่วยยกสัมภาระของฮารุนะเข้าไปในบ้าน ส่วนตัวเองก็อุ้มฮารุนะต่อจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงแล้วพาเธอเข้าไปในบ้านตามหลังซากุระไป.......
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดในคืนนั้น.... ยูจิคิดในใจระหว่างที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ภายในห้องของตัวเอง เขาลุกจากเตียงโดยที่ไม่ทำให้ฮารุนะตื่นขึ้นมา แต่สิ่งที่เขากำลังสงสัยอยู่ ณ ตอนนี้ก็คือ....
(ทำไมยัยนี่ถึงได้มานอนอยู่บนเตียงได้ล่ะ?)
เนื่องจากเมื่อคืนนี้หลังจากที่พาฮารุนะเข้ามาในบ้านแล้วก็มอบหน้าที่ดูแลให้กับซากุระทันที เพราะถ้าจะให้ผู้ชายอายุ16ปีที่ยังโสด/ซิงอยู่มาดูแลเธอในขณะที่กำลังหลับมันก็กระไรอยู่ จึงปล่อยหน้าที่นั้นให้ซากุระที่เป็นผู้หญิงด้วยกันดูแลแทนหน้าจะดีกว่า....
....แต่ไหนถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ? .....เอาเถอะเดี๋ยวค่อยไปถามซากุระเอาทีหลัง
เมื่อยูจิใส่เสื้อเสร็จแล้วก็กำลังจะเดินออกประตูห้องไป แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกมาจนเกิดเสียงดังขึ้น........
“งือ____ เสียงอะไรน่ะ....?”
คนที่ไม่อยากให้ตื่นขึ้นมามากที่สุดในตอนนี้ก็ดันตื่นขึ้นมาซะได้ แต่ตอนนี้อาจจะยังทัน ยูจิจึงพยายามที่จะเอาตัวออกจากห้องไปแต่ทว่า........
“ใครกำลังยืนอยู่ตรงนั้นน่ะ....?”
ฮารุนะที่กำลังอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นมองไปรอบๆห้องที่ยังไม่สว่างมากนักจึงทำให้มองไม่ค่อยเห็น แต่แสงไฟที่ลอดผ่านหน้าประตูมาทำให้เธอแสบตา เธอจึงขยี่ตาไปเพื่อทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น และรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของใครบางคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูหรือก็คือยูจินั่นเอง เธอจ่องมองไปที่ยูจิซักพักก่อนที่จะปรับสายตาจนสามารถมองเห็นได้แล้ว........
“หือ! น...นะ นี่นาย! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันน่ะและนี่มันที่ไหน? ทำไมชั้นถึงอยู่ในสภาพแบบนี้และมานอนอยู่บนเตียงได้ยังไงเนี่ย!!!”
เหมือนเธอจะตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยูจิจึงพยายามจะอธิบาย
“คือว่านะ ฮารุนะ....”
ฮารุนะหันมาจ่องยูจิด้วยสายตาที่กำลังเขินอายแบบสุดๆ
“ย.... อย่าเข้ามาใกล้นะอีตาบ้าาาาา!!!”
ไม่ทันขาดคำเธอก็หยิบหมอนที่วางอยู่ใกล้ๆตัว ขว้างใส่เข้าที่หน้าของยูจิโดยที่ไม่ได้ตั้งตัวจนทำให้เสียหลักจนทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่และหงายหลังล้มลงกับพื้นเพราะแรกกระแทกจนนอนอยู่ที่หน้าประตูห้อง....
“เห้อออออ....”
ยูจิหายใจออกมาเฮื้อกใหญ่พร้อมกับพูดออกมาว่า....
“ให้ชั้นได้พักซักหน่อยจะได้ไหมเนี้ย!.....”
***************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ