Tsundere ซึนอย่างนี้รักตายล่ะ!
เขียนโดย HaRUnA
วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.23 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) คู่หมั่นกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ I
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยามเช้าของวันอังคารที่แสนจะสดใจได้มาถึงในวันต่อมา แสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องนอนของยูจิซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงของตน แสงนั้นตกกระทบเข้ากับใบหน้าของยูจิจนทำให้แสบตาแม้ว่าจะหลับตาอยู่ก็ตาม เขาพยายามจะพลิกตัวและเอามือมาบังตาเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเหมือนมีอะไรบางอย่างทับเขาอยู่จนขยับไม่ได้ สัมผัสที่อ่อนนุ่มและอบอุ่นนี้มันคืออะไรกันแถมยังหนักอีกตากหาก
"อะไรมันหนักๆเนี่ย!"
ยูจิตื่นขึ้นมาพร้อมกับบ่นออกมาในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นพลางขยับตัวไปมาเพราะความเมื่อยแต่ทำได้เพียงเล็กน้อยเพราะเหมือนจะติดอะไรซักอย่าง
"หือ? ทำไมผ้าห่มมันนูนๆขึ้นมาล่ะ"
ผ้าห่มที่นูนสูงขึ้นมาผิดปกตินั้นทำให้ยูจิเกิดความสงสัยขึ้นมา นึกในใจว่าซากุระแกล้งอะไรอีก เขาจึงเปิดผ้าห่มออกเพื่อดูว่าอะไรอยู่ข้างในแต่ทว่า มันกลับทำให้เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นมากกว่าที่คิด
"ท...ทำไมเธอมานอนอยู่บนเตียงของชั้นได้ละ?!"
ยูจิสะดุ้งตัวขึ้นมาพร้อมกับหน้าแดงก่ำจนถึงใบหูด้วยความตกใจ เพราะมีคนมานอนทับตัวเขาอยู่นั่นเอง แถมคนที่นอนทับเขาอยู่นั้นไม่ใช่ซากุระแต่กลับเป็นฮารุนะที่กำลังกอดตัวเขาอยู่แทน เธอใส่เสื้อยืดสีขาวเพียงตัวเดียวส่วนท่อนล่างไม่ได้ใส่กางเกงหรือกระโปรงเอาไว้ ขาอันเรียวยาวของเธอพันเกี่ยวกับขาของยูจิเอาไว้อย่างแนบชิดจึงทำให้ขยับไม่ได้ อุณหภูมิจากตัวของเธอส่งมาถึงตัวของยูจิโดยตรง จึงทำให้เขารู้สึกแปลกๆกับสัมผัสความอบอุ่นนี้ ยูจิพยายามทำใจในร่มก่อนที่จะพยายามลองนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตอนที่เธอมาหาที่บ้าน......
"หาาาาาาาาา!"
ยูจิและซากุระตะโกนเสียงดัง และตกใจกับคำพูดของฮารุนะที่พูดออกมา โดยเฉพาะยูจิที่หน้าแดงก่ำเป็นพิเศษกับคำพูดนั้น เพราะปกติตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษถึงขนาดมีผู้หญิงสวยๆอย่างนี้มาสารภาพรักกับเขาเลยซักครั้ง แต่นี้ถึงขั้น "คู่หมั่น" แถมยังเป็นคนที่ต่อยเขาเมื่อตอนเที่ยงอีกตากหาก เลยทำให้เขาแปลกใจยิ่งไปกว่าเดิม ยูจิจึงถามกลับไปด้วยความสับสน
"หมายความว่าไงน่ะ? ทำไมฉันจะต้องไปเป็นคู่หมั่นให้กับเธอด้วย!"
"ก็มันช่วยไม่ได้หนิ ฉันก็ไม่อยากเป็นซักหน่อย""แล้วใครบอกให้เป็นล่ะ?""ระ...เรื่องนั้นคือว่า...."
"....?"
ฮารุนะเหมือนจะไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้ซักเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ค่อยๆล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบซองจดหมายขึ้นมา แล้วยื่นไปให้ยูจิ
"อ่านข้อความที่อยู่ในจดหมายนี้สิ แล้วจะเข้าใจเอง"
"....?"
ยูจิหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอ่าน มันจ่าหน้าซองถึงฮารุนะ ข้อมูลที่จ่าหน้าซองครบถ้วนเหมือนจดหมายปกติทั่วๆไป แต่พออ่านชื่อผู้ส่งก็เกิดแปลกใจขึ้นมา....
___อาสุมะ ริโตะ....หือเดี๋ยวก่อนนะ.......อาสุมะ ริโตะ......อาสุมะ....!
"อาสุมะ ริโตะ งั้นเรอะ!!!"
"คุณพ่อน่ะเหรอ!!!?"
ยูจิแล้วซากุระตะโกนเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เพราะอาสุมะ ริโตะ คือพ่อแท้ๆของทั้งสองคนที่กำลังไปทำงานต่างประเทศกับ อาสุมะ ฮานะผู้เป็นแม่อยู่ในขณะนี้ แต่ทำไมชื่อของพ่อถึงได้เป็นชื่อผู้ส่งจดหมายให้กับฮารุนะได้ล่ะ ยูจิรีบเปิดซองจดหมายขึ้นมาอ่านทันที
"ถึงยูกิโนะ ฮารุนะ ฉันอาสุมะ ริโตะ เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของเธอที่ทำงานอยู่ด้วยกัน พอดีว่า...คือ...จะอธิบายยังไงดีหล่ะเอาแบบง่ายๆเลยละกัน พ่อของเธออยากให้แต่งงานกับลูกชายบ้านของฉันน่ะ แค่นี้แหละลูกชายฉันถึงแม้จะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ก็เป็นคนใจดีและอ่อนโยนมากเลยนะแถมยังอายุเท่ากันกับหนูด้วย ถ้ายังไงๆก็ลองไปหาเขาดูก็แล้วกัน"
(ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด! นี่มันบังคับกันชัดๆ ไม่ถามความเห็นคนทางนี้บ้างเลยรึไง!)
"ปล. ถ้าไปถึงแล้วลองขึ้นไปบนห้องของเขาแล้วลองมองไปใต้เตียงก็จะเจอกับหนังสือ...."
ยูจิหยุดอ่านแต่เพียงเท่านั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองฮารุนะด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและถามขึ้นมาว่า
"เอ่อ...คุณฮารุนะครับ เธอได้อ่านจดหมายจนจบรึปล่าวครับ?"
ฮารุนะสงสัยและมึนงงกับคำถามที่ยูจิพูดออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะปฏิเสธไป
"เปล่าหลอกแค่อ่านเกือบจบน่ะ ยังไม่ได้อ่านตรง 'ปล.' เลย กะจะอ่าน.......น...นี่นายกำลังทำอะไรเนี่ย!?"
"!"
"!"
ฮารุนะและซากุระถึงกับยืนอึ้งไปเลย เพราะยูจิกำลังฉีกจดหมายที่อ่านไปเมื่อซักครู่นี้จนไม่เหลือชิ้นดีและปล่อยรังสีอมหิตออกมา เพราะข้อความที่เขียนต่อจากนั้นคือที่ซ่อนหนังสืออย่างว่าที่ยูจิซ่อนเอาไว้นั่นเองที่ แต่ทำไมอีตาพ่อคนนี้ถึงได้รู้เรื่องนั้นได้ ยูจิคิดในใจ
"เอ่อ....คือว่า....?"
"หืม? มีอะไรงั้นหรอ..."
ยูจิหันไปมองฮารุนะด้วยสีหน้าที่นิ่งๆแต่ดูก็รู้ได้เลยว่ากำลังโมโหอยู่
"นะ...นี่นาย ชั้นยังอ่านไม่จบเลยนะ!"
"มันไม่มีอะไรสำคัญหรอกน่า"
ยูจิถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วบอกให้ซากุระเข้าไปในบ้านก่อนเพราะอากาศข้างนอกเริ่มหนาวแล้ว ก่อนที่จะทำใจให้ร่มแล้วกลับไปคุยต่อกับฮารุนะ
"ยังไงก็เถอะ ลืมเรื่องจดหมายนั่นซะ เราเข้าบ้านกันดีกว่าขืนยืนอยู่ข้างนอกนานๆจะเป็นหวัดเอา ส่งกระเป๋ามาสิเดี๋ยวช่วยถือเข้าไปให้"
"หา!.... แล้วทำไมฉันจะต้องเข้าไปในบ้านของอีตาโรคจิตอย่างนายด้วยล่ะ?!"
"แล้วเธอมาที่นี่ทำไมล่ะ?"
"อึก!..."
ฮารุนะนิ่งไปอยู่ซักพักเพราะตนเองพูดเองว่าจะเป็นคู่หมั่นให้กับยูจิ แต่กลับบอกว่าไม่อยากเข้าบ้านของยูจิซะงั้น
"ช.... ชั้นแค่เอาจดหมายมาให้เฉยๆเองย่ะ ตอนนี้ฉันก็หมดธุระกับนายแล้ว งั้นชั้นขอตัวกลับก่อนล่ะ"
"เหรองั้นก็โชคดีละกัน เดินคนเดียวในที่มืดก็ระวังตัวด้วยล่ะ หรือว่าจะให้ไปส่ง?"
"พ.... พูดอะไรของนายน่ะ ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงชั้นเลยนะ!"
"หึหึ ตามสบายละกันนะ ถ้าเป็นอะไรไปอย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน"
"หนวกหู หนวกหู ชั้นไม่อยากเจอหน้านายอีกแล้ว!"
ฮารุนะตะโกนกลับมาเสียงดัง แล้ววิ่งออกห่างจากยูจิโดยไม่หันกลับมามองซักนิด
"เข้าใจยากจริงๆแหะ อารมณ์ของผู้หญิงเนี่ย "
ยูจิพึมพัมออกมาเบาแล้วมองแผ่นหลังของฮารุนะจนละสายตาไป จากนั้นจึงเดินกลับเข้าบ้านไปยูจิกลับไปนั่งดูทีวีต่อตามเดิม ส่วนซากุระกลับไปห้องของตนเองเพราะตอนนี้เวลาเกือบจะสี่ทุ้มแล้ว และระหว่างที่ยูจิกำลังเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆด้วยความเบื่ออยู่นั้น ก็มีข่าวที่บอกว่าตอนนี้มีฆาตกรต่อเนื่องกำลังหลบหนีอยู่นั่นเอง
"อยู่ใกล้ๆนี้เองไม่ใช่เหรอนั่นน่ะ ต้องบอกให้ซากุระปิดหน้าต่างให้ดีๆแล้วสิ...."
ยูจิลุกจากโซฟาและกำลังจะขึ้นบันไดไปชั้นสอง แต่ก็ต้องหยุดกลางคัน เพราะยูจินึกถึงหน้าของใครบางคนที่เพิ่งจะกลับไปเมื่อซักครู่นี้ คนที่บอกว่า'ไม่อยากเจอหน้ายูจิอีก' แต่ยูจิอดเป็นห่วงคนๆนั้นไม่ได้จริงๆ เขาไม่เข้าใจกับความรู้สึกนี้จริงๆ มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ถึงคนๆนั้นจะเป็นคนที่ยูจิไม่อยากสนใจมากที่สุดก็เถอะ และคนๆนั้นก็คือ ฮารุนะนั่นเอง
ยูจิรีบเดินจากลงบันไดทันทีแล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความกังวลใจ ตรงไปทางที่เห็นฮารุนะครั้งสุดท้ายก่อนที่จะลับตาไป ยูจิไม่เข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลย แต่เขาก็ยังวิ่งต่อไป วิ่งไปหาเธอคนนั้น! วิ่งไปหาฮารุนะ!
ยูจิวิ่งนานหลายนาทีแล้ว แต่ก็ไม่เจอฮารุนะซักที ไม่แปลกเพราะนี่ก็ผ่านมา 30 นาทีกว่าๆแล้ง หลังจากที่เห็นข่าวนั่น
"แฮ่กๆ..."
ยูจิหยุดวิ่งพักหายใจแล้วเอามือยันกำแพงเอาไว้เพราะความเหนื่อยล้าของร่างกาย เพราะปกติก็ไม่ใช่คนที่จะออกกำลังกายอยู่แล้ว และยังต้องมาวิ่งเป็นเวลานานๆหลายนาทีแบบนี้อีกก็เกินความสามารถของร่างกายมากกว่าที่เขาคิด ยูจิตั้งสมาธิแล้วพยายามคิดว่ายัยนั่นน่าจะไปที่ไหน เขาย้อนคิดกลับไปตอนที่เจอกับฮารุนะเป็นครั้งแรก..... และเขาก็คิดออก ที่นั่นก็คือทางเดินกลับจากร้านสะดวกซื้อนั่นเอง ยูจิจึงออกแรงวิ่งอีกครั้งแล้วตรงไปทางร้านสะดวกซื้อ
เมื่อยูจิวิ่งมาถึงร้านสะดวกซื้อก็ถึงกับหอบจนแทบหายใจไม่ทัน เขามองไปรอบๆบริเวณร้านสะดวกซื้อเพื่อจะหาฮารุนะ แต่ก็ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อย ตอนนี้เวลาก็สี่ทุ้มกว่าๆแล้วเธอคงกลับไปถึงบ้านแล้วก็เป็นได้ ยูจิคิดในใจก่อนที่จะตัดใจแล้วหันหลังเดินกลับบ้าน
ทันใดนั้นเอง! เมื่อยูจิหันหลังกลับมาก็มีหญิงสาวคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าของยูจิ เธอมีสีผมสีบานเย็นกับดวงตาสีฟ้าคราม ทรงผมทรงทวินเทลที่ปล่อยผมด้านหลังให้ตกลงมา แต่ที่ขัดกันคือเธอกำลังยืนกอดอกพร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่นั่นเอง และเธอคนๆนั้นก็คือ....
"ฮ.. ฮารุนะ!"
ฮารุนะที่อยู่ตรงหน้าของยูจินั้น พอได้ยินเรียกชื่อขึ้นมาก็ทำท่าตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะกลับไปทำหน้าไม่สบอารมณ์ตามเดิม
"อะไรกันยะ! ทำไมถึงต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นด้วยล่ะ ชั้นไม่ใช่ผีสักหน่อย"
"โทษทีๆ ไม่นึกว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ก็เลยตกใจนิดหน่อยน่ะ ฮา ฮา ฮา"
(ก็แหงล่ะเล่นโพล่หน้าออกมาแบบนี้ไม่ตกใจก็บ้าแล้วยัยบ๊อง) ยูจิคิดในใจ
"ให้ตายสินายเนี่ยน้า... แล้วมีอะไรกับชั้นอีกล่ะ ที่ออกมาตอนกลางดึกแบบนี้คงไม่ใช่ออกมาวิ่งเล่นเฉยๆใช่ไหม?"
ยูจิทำใจให้ร่มเพื่อระบายความเหนื่อยออกไปให้หมดก่อนที่จะเริ่มอธิบายถึงข่าวที่เขาได้เห็นก่อนที่จะวิ่งออกมา ว่ามีฆาตกรกำลังหลบนี้อยู่แถวๆนี้ และคิดว่าเธอจะเป็นๆอะไรรึปล่าวจึงออกตามหา....
"ฮา ฮา ฮา....."
หลังจากที่ฮารุนะยืนฟังยูจิบรรยายจู่ๆเธอก็ระเบิดหัวเรอะออกมา จนยูจิต้องหยุดบรรยายและหันมาสนใจกับเสียงหัวรำเราะของฮารุนะ
"เธอหัวเราะอะไรของเธอน่ะ มันน่าขำขนาดนั้นเลยรึไง?"
"หึ หึ โทษที มันอดหัวเราะไม่ได้น่ะ แค่มีฆาตกรอยู่แถวๆนี้เนี่ยนะ ถึงขั้นออกมาตามหาฉัน มันจะไม่ขำได้ยังไงกันล่ะ"
"และนั่นมันน่าขำตรงไหนกัน ถ้าเธอเป็นอะไรไปรู้ไหมว่าจะมีคนเป็นห่วงแค่ไหน พ่อกับแม่ของเธอจะรู้สึกยังไงล่ะ!"
"เรื่องนัั้นไม่ต้องห่วงไปหลอกน่า เห็นอย่างนี้ฉันก็เก่งในด้านกีฬาเหมือนกันนะ แค่วิธีป้องกันตัวน่ะฉันรู้อยู่แล้ว อะ!... หรือว่านายเป็นห่วงชั้นรึไง?"
"...อึก!"
พอยูจิได้ยินประโยคนั้นก็ถึงกลับนิ่งไปเลยทีเดียว เพราะฮารุนะก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย ถึงจะถูกมัดมือชกให้มาเป็นคู่หมั่นกันก็เถอะ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องวิ่งออกจากบ้านกลางดึกเพื่อออกตามหาเธอแม้แต่น้อย
"ใครบอกว่าฉันเป็นห่วงเธอกันล่ะ แค่มาดูให้แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรก็แค่นั้นเอง"
"มันก็ไม่ต่างกันหลอกน่า ยอมรับมาซะว่านายนะหลงชั้นเข้าให้แล้วยังไงล่ะ"
"ใครหลงเธอกันมิทราบ? คิดเหรอว่าฉันจะหลงเธอง่ายๆน่ะ!"
"น..นายนี่มัน...."
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยืนเถียงอยู่นั้นเองก็มีเสียงของบุคคลที่สามแทรกเข้ามา
"เห้ย! พวกแกน่ะมาทำอะไรแถวนี้กัน?"
"หือ/หือ!?"
ยูจิและฮารุนะฉงักแล้วหันมามองบุคคลที่สามที่แทงเข้า เป็นชายสูงผอมใหญ่ใส่เสื้อกันหนาวมีฮู้ดปิดหน้าเอาไว้ ท่าทางแปลกๆ
"หนุ่มสาวออกมาข้างนอกตอนกลางดึกแบบนี้มันไม่ดีนะจ๊ะ ไม่กลัวบ้างเหรอ"
ฮารุนะไม่ค่อยเข้าใจกับคำพูดทั้งหมดซะทีเดียวแต่ก็มีบางประโยคที่มันขัดใจ เธอจึงตอบกลับไปแบบไม่สบอารมณ์
"ที่พูดน่ะหมายความว่ายังไง และอีกอย่างฉันกับอีตานี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันซักหน่อย คนนอกอย่าเข้ามาแทรกจะได้ไหม ทำยังกะเป็นฆาตกรที่กำลังหลบหนีอยู่อย่างนั้นแหละ"
"นี่เธอระวังคำพูดหน่อยก็ดีนะ ถ้าเกิดมันเป็นฆาตกรที่กำลังหลบหนีจริงๆล่ะจะทำยังไง"
"นายน่ะเงียบไปเลย ถ้าไอฆาตกรมันมาจริงๆชั้นไม่กลัวมันหลอกนะ ชั้นจะต่อยมันให้กระจุยไปเลย""ทำเป็นพูดดีนะเธอน่ะ ท่ามันจริงล่ะก็......"
"หึ.. หึ.. หึ.. ปากดีกันนักนะพวกแกน่ะ...!!!"
"หือ?....อ..โอ้ย!!"
ผู้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ยูจิตอนไหนก็ไม่รู้และเอาของมีคมที่น่าเป็นมีดฟันเข้าที่หัวไหล่ขวาของยูจิจนเขาทรุดตัวลงไปทันทีและมีเลือดไหลออกมาจากแผลของยูจิเล็กน้อย ถือว่าโชคดีที่ไม่ลึกมาก ฮารุนะยืนอึ่งกับสิ่งที่เห็นเพราะเป็นสิ่งไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ยูจิเอามือกดแผลเอาไว้และเงยหน้าขึ้นมามองชายคนนั้นที่กำลังถือมีดที่มีเลือดของยูจิติดอยู่ ด้วยสายตาที่แค้นเคือง
"หรือว่าแกคือ...."
"เป็นความผิดของยัยผู้หญิงคนนั้นเองนะที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา จนฉันหยุดความอยาก'ฆ่า'จนทนไม่ไหวเลยจริงๆ"
ความหวาดกลัวเริ่มเข้าครอบงำยูจิ แขนและขาสันจนหยุดไม่ได้ อารมณ์เมื่อครู่นี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที จนตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกแล้ว เพราะชายที่ยืนอยู่ต่อหน้าทั้งสองคือ......
"อย่าบอกนะว่าแกคือ.... ฆาตกรที่กำลังหลบหนีอยู่ตัวจริงอย่างงั้นเรอะ?!!"
***************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ