Where are you my Princess? (Yaoi)

10.0

เขียนโดย C_W_C

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.

  25 บท
  3 วิจารณ์
  34.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) ความในใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

               ร่างบางวิ่งน้ำตานองหน้าผ่านผู้คนมากมายที่มองมาด้วยความสนใจ ซีวิ่งเปะปะไปอย่างไร้จุดหมายเมื่อสมองไม่สั่งการถึงอะไรทั้งนั้นบอกเพียงให้วิ่ง ซีไม่รับรู้ถึงอะไรทั้งนั้น เขารู้แค่ว่าตอนนี้เขาต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไปที่ไหนก็ได้ให้ไกลจากพี่ดันเต้ให้มากที่สุด เขาไม่อยากเห็น ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่เขาไม่อยากเห็นพี่ดันเต้กับพี่กวางอยู่ใกล้กันเลย

               “ซีเดี๋ยว!”ดันเต้ตะโกนเรียกร่างบางมาตลอดทางเช่นกัน แต่ซีก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดจนขายาวๆนั้นจะวิ่งมาฉุดต้นแขนเล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันได้

               “พะ พี่ดันเต้”ซีมองหน้าร่างสูงอย่างอึ้งๆ ร่างบางหอบจนตัวโหยงน้ำตาเม็ดไหลยังไหลลงมาไม่หยุด ตอนนี้เขาวิ่งมานอกห้างแล้วแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน รอบบริเวณไม่มีใครอยู่เลยซักคน

               “ซี ฟังพี่ก่อน”ดันเต้พูดไปหอบไป แต่มือแกร่งยังจับยึดที่ต้นแขนทั้งสองข้างของร่างงบางไว้แน่น

               “พะ..พี่ดันเต้ทำไมถึงตามผมมาละ ไม่ได้นะ..ผม..ผมไม่เป็นไร..ผม…พี่ปล่อยผมเถอะ”ซีพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักแบบไม่ได้เรียบเรียงคำพูด ใบหน้างามเบือนหลบไม่สบตา  มือไม้ก็พยายามแงะแกะมือหนาออกจากแขน

               “ซี..ซี…ฟังพี่”ดันเต้ก็พยายามขืนแรงดิ้นของร่างบางไว้ไม่ให้ซีหลุดมือไป

               “พี่มาแบบนี้ แล้ว…แล้วพี่กวาง พี่กวางรออยู่นะ ผมไม่ได้เป็นอะไร”ซีไม่สนใจยังคงดิ้นรนออกจากการดึงรั้งให้ใด้ ริมฝีปากเริ่มปวมเจ่อจากการที่ถูกเจ้าของขบกัดสลับกับพูดเพ้อไปมา

               “ซี!”ดันเต้พยายามเรียกสติ แต่ไม่เป็นผลแม้ร่างบางจะเริ่มหมดแรงจะดิ้นแล้วก็ตามแต่ก็ยังคงพูดกันไม่รู้เรื่อง น้ำตาเม็ดใสเปรอะเปื่อนไปทั่วใบหน้า ฟันคมก็ยังคงขบแน่นเพื่อกลั้นสะอื้น

               “เดี๋ยวพี่กวางจะโกรธเอานะครับ ตามผมมาแบบนี้ไม่ได้นะ.. ผม..ผม…ผมโอเค พี่ไม่ควรตามผมมาเลย..ผม..ผม” ซีไม่รับรู้อะไรอีกแล้วสิ่งที่อยู่ในหัวพร่างพรูออกมาไม่หยุดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ใบหน้างามเบี่ยงหลบจนแทบเอี้ยวไปด้านหลัง มือทั้งสองก็ยกขึ้นมาบังหน้าตัวเองไว้…อะไร เขากำลังพูดอะไรอยู่น่ะ

               “ขอร้องละครับ ให้ผมอยู่คนเดียว..ได้โปรดอย่ามองผม อย่าเข้ามาใกล้ผมตอนนี้ ผมนิสัยไม่ดี ผมมันน่ารังเกียจ ทั้งพี่กวางทั้งพี่ดันเต้อุส่าดีกับผมแท้ๆ แต่ผมกลับไม่อยากให้ทั้งคู่สนิทกัน ไม่อยากเห็นพวกพี่ใกล้กันไปมากกว่านี้”ซียังคงพูดต่อไป

               “ผมอยากเก็บความอ่อนโยนของพี่ดันเต้ไว้คนเดียว ผมมันเห็นแก่ตัว..ผม…ผมขอโทษครับ อย่าใส่ใจผมเลย ทั้งที่ผมไม่ได้สำคัญอะไรเลย ผมกลับ..ผมขอโทษ..ทั้งที่ผมมันก็แค่รุ่นน้อง..” ..ไม่ได้..เขาหยุดไม่ได้แล้ว

               “ใครว่าไม่สำคัญกันละ!”

               ซีนิ่งอึ้งไปกับการกระทำของคนตรงหน้า สติที่แตกกระจายและความคิดมากมายที่สับสนเหมือนถูกดูดกลืนให้หายวับไปกับตา เมื่อริมฝีปากหนาของพี่ดันเต้ประทับลงมาอย่างแนบแน่น!

               ดวงตาคู่สวยเบิกโตสบจ้องกับดวงตาสีอ่อนลึกล้ำอย่างใกล้ชิด และราวกับมีมนต์สะกดให้ซีไม่อาจละไปจากมันได้ น้ำตาพากันหยุดไหลเหมือนมีใครมาปิดก๊อก แม้เพียงสัมผัสที่แนบชิดไม่มีการรุกล้ำใดๆ แต่กลับทำให้ร่างทั้งร่างเหมือนถูกไฟช๊อตให้หยุดนิ่ง มือหนาทั้งสองข้างของพี่ดันเต้ที่ประคองสองแก้มร้อนผ่าว สมองของซีหยุดสั่งการและเหมือนวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่าง ทั้งร่างกายเหมือนหมดเรียวแรงแข้งขาอ่อนไปเสียเฉยๆ

               ดันเต้ค่อยๆผละริมฝีปากออกอย่างเชื้องช้า จ้องมองใบหน้าที่ยังคงตกตะลึงแต่กลับแดงก่ำของซีแล้วก็ต้องกระตุกยิ้มให้อย่างเอ็นดู

               “สงบสติได้รึยังหือ”ซีไม่ได้ตอบอะไรเนื้องจากยังคงสติหลุดอยู่แบบนั้น ดันเต้จึงดึงคนตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอด ก่อนจะกดใบหน้างามให้ซุกซบอยู่ที่อกแล้วลูบไปบนเส้นผมนุ่มลื้นมืออย่างปลอบขวัญ

               “ที่นี่ก็ฟังพี่พูดได้แล้วนะครับ”เมื่อซีปะทะเข้ากับไออุ่นถึงได้สติและรู้ว่าตนกำลังถูกพี่ดันเต้กอดอยู่ เมื่อคิดได้แบบนั้นใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาจนแทบไหม้ จึงคิดจะดันตัวออกจากอกคนตรงหน้าทันที

               “กวางเป็นแฟนของตึก”แต่คำบอกเล่าที่มาพร้อมอ้อมกอดที่กระชับขึ้นก็ทำให้ซีต้องนิ่งฟัง

               “เพราะฉะนั้นพี่กับกวางไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันเท่านั้นเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ พี่ยอมรับนะว่าพี่เคยคบกับกวางแต่มันก็จบลงไปแล้ว เราต่างรู้กันดีว่าเป็นได้แค่เพื่อนกัน แล้วกวางก็ได้เจอคนดีๆอย่างตึกแล้วด้วย”ดันเต้อธิบาย

               “แต่ที่พี่ทำไปทั้งหมดไม่ใช่เพราะพี่ยังคิดอะไรกับกวาง แต่พี่ทำแบบนี้ก็เพราะเรา..”หูของซีที่แนบอยู่บนอกกว้างทำให้ซีได้ยินเสียงบางสิ่งที่อยู่ในอกของพี่ดันเต้กำลังเต้นกระหน่ำ

               “ตอนแรกพี่ก็จะให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพราะเรื่องแบบนี้จะให้ยอมรับกันมันก็คงยาก แต่พอห่างกับซี ซีตัดสายพี่ ไม่รับสายพี่ พี่ก็เริ่มกระวนกระวายใจ พี่รอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว พี่ขอโทษจริงๆที่ทำแบบนี้ จริงๆแล้วพี่ไม่อยากทำให้ซีต้องเสียใจเลยแท้ๆ”มือหนาค่อยๆดึงแว่นกรอบบางออกแล้วปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเนียนให้อย่างแผ่วเบา

                “แต่พี่เองก็ทนเห็นซีไปใกล้ชิดกับคนอื่นไม่ได้เหมือนกัน พี่ยอมให้ใครมาแย่งซีไปไม่ได้จริงๆ”

               คำบอกเล่าจากร่างสูง ทำให้ตอนนี้ใจของซีเริ่มเต้นแรงขึ้นมาแข่งกับเสียงที่ได้ยิน ความรู้สึกมากมายกำลังขึ้นมาตีตื้นอยู่ที่อกแต่เขาก็พยายามกดมันไว้แล้วถามออกไปให้แน่ใจ

               “พี่หมายความว่าไง”ซีได้ยินเสียงสูดหายใจเข้าลึกๆอยู่เหนือหัวก่อนที่จะถูกดึงออกจากอ้อมอก แล้วปลายคางก็ถูกเชยขึ้นให้ไปสบตาสีอ่อนที่ถ่ายทอดความหมาย และความรู้สึกทั้งหมดออกมาอย่างลึกซึ้ง

               “พี่หมายความว่า…พี่รักซียังไงละ”ความอุ่นวาบเหมือนพุ่งเข้ากลางอก หัวใจรัวกระหน่ำราวกับจะเด้งออกมา แต่ซีก็ยังเสนัยน์ตาหลบไปทางอื่นด้วยคิดว่าคงเข้าข้างตัวเองมากเกินไปหากคิดอะไรแบบนั้น

               “คือ..คือ…ผมก็รักพี่ดันเต้นะครับพี่ใจดีกับผมมาก…”พอพูดไปซีก็ได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนตรงหน้าออกมาเฮือกใหญ่

               “ไม่ใช่แบบนั้น อย่าหนีกันแบบนี้สิ”

               สิ้นเสียงริมฝีปากหนาก็ประทับลงมาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับทั้งกดย้ำและดูดดึง ตอกย้ำทุกความหมายที่ต้องการสื่อ ซีเบิกตาโพลงอีกครั้ง ก่อนที่สัมผัสที่ได้รับจะทำให้ซีเริ่มโอนอ่อนปิดเปลือกตารับสัมผัสอย่างเต็มที่

               เมื่อดันเต้เห็นร่างบางเริ่มคล้อยตามก็ใช้มือหนึ่งรั้งเอวบางเขามาแนบชิด ส่วนอีกมือก็รั้งที่ท้ายทอยให้ร่างบางรับสัมผัสให้แนบชิดมากขึ้น

               หวาน….

               ดันเต้คิดพรางดูดดึงริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆเริ่มรุนแรงขึ้นอย่างลุ่มหลง เรียวลิ้นอุ่นร้อนแตะชิมไปบนเรียวปากเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะสอดแทรกเข้าไปลิ้มรสความหวานภายใน

               “อ๊ะ”ซีเผลอครางในลำคอเสียงสั่นเครือยามถูกรุกล้ำ ลิ้นหนากวาดตอนอยู่ในโพลงปากก่อนจะเกี่ยวกระหวัดเข้ากับลิ้นเล็กอย่างหลงไหล

               ซีรู้สึกร้อนรุมไปทั้งร่างและเริ่มไร้เรี่ยวแรงจนต้องใช้มือทั้งสองข้างต้องกำเสี้อของอีกฝ่ายไว้แน่น  ซีเคลิบเคลิ้มล่องลอยไปกับสัมผัสที่ได้รับจนไม่อาจคิดอะไรอื่นนอกจากโอนอ่อนไปตามการชักนำของร่างสูง

               “อือ”ดันเต้ครางเสียงต่ำในลำคออย่างอดกลั่นก่อนจะค่อยๆละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะกระซิบแผ่วชิดริมปาก

               “ไม่ขัดขืนกันเลยแบบนี้ พี่ก็แย่สิ”

               “ที่นี่เข้าใจแล้วนะ”ดันเต้ถอยหน้าออกแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้แต่แขนยังคงกระชับอยู่ที่เอวบาง และดูเหมือนซีจะไม่ทันคิดเสียด้วยเพราะในหัวซีตอนนี้เหมือนได้ยินเสียงบรึ้มดังอยู่ข้างในแล้วสมองก็หยุดสั่งการทำได้แต่นิ่งค้างอยู่แบบนั้น ให้คิดถึงเพียงสัมผัสที่พึ่งได้รับไปเมื่อครู่

               “พี่จะยังไม่เอาคำตอบตอนนี้ แต่ก็จะไม่พูดว่าไม่รีบเหมือนกัน แค่ซีไปคิดให้ดีๆแล้วค่อยให้คำตอบพี่ ว่าที่ซีหนีออกมาแบบนี้เพราะอะไร…แล้วเพราะอะไรเมื่อกี้…”ดันเต้ว่าแล้วก้มลงมากระซิบที่ใบหูร่างบาง

               “…ถึงไม่ได้ขัดขืนพี่เลย”น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ว่าอย่างยั่วเย้าอยู่ข้างหูทำให้ซีรู้สึกร้อนไปทั้งหน้าและใจกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง รสสัมผัสที่ผ่านไปก็วนเวียนเข้าตอกย้ำถึงเรื่องที่ตนพึ่งทำไปพาลให้รู้สึกอับอายจนทำอะไรไม่ถูกเลย

               ดันเต้เห็นคนในอ้อมแขนเอาแต่อึกอักหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกก็ต้องหัวเราะเบาๆในลำคอ แล้วยอมปล่อยแขนออกจากเอวบางแล้วเปลี่ยนมากุมมืออีกฝ่ายแทน

               “ไปที่ร้านกันดีกว่านะ”ซียังคงหาเสียงตัวเองไม่เจอเลยได้แต่พยักหน้าหงึกหงักตอบรับแล้วปล่อยให้ร่างสูงจูงนำเดินไปที่รถอย่างว่าง่าย ดันเต้เองก็เดินอมยิ้มไปพรางคิดถึงตอนที่เริ่มแผนการนี้

              

               “เต้มึงเอาแบบนี้จริงดิ”ฟาสต์ถามเพื่อนลูกครึ่งอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

               “อือ”ดันเต้รับคำทั้งที่ดวงตาคมยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างบาง

               ตอนนี้เขาและเพื่อนคนอื่นกำลังแอบดูปฏิกิริยาของซีในวันที่กลับมาจากการเข้าค่าย ด้วยตัวดันเต้เองอยากรู้ว่าร่างบางจะเป็นอย่างไรหากเขาไม่ได้ไปรับเหมือนอย่างทุกที

               ดันเต้เห็นร่างบางมองหาเขาไปทั่วก็รู้สึกดีใจอย่างประหลาด แต่พอเห้นไม้เดินเข้ามาใกล้ชิดซีแถมยังเดินไปนั่งเคียงข้างกันอีกดันเต้ก็นึกฉุนขึ้นมาตะหงิดๆ

               แต่พอยิ่งนานไปก็เห็นร่างบางมีสีหน้าเศร้าลงทุกที ทำให้คนมองอย่างดันเต้ทั้งดีใจทั้งรู้สึกผิดที่ซีแคร์เขาแต่ตัวเขาเองทำแบบนี้ ร่างบางกำมือถือไว้แน่น ดันเต้เองก็ไม่ต่างก็ไม่ยอมมองไปที่มือถือในมืออย่างพยายามหักห้ามใจ อีกใจก็จดจ่ออยากรู้ว่าเมื่อไรร่างบางจะโทรหาเขาเสียที

               แต่สุดท้ายแล้วซีก็ไม่ได้โทรหา อีกทั้งยังลุกเดินไปพร้อมกับไม้อีกด้วย ดันต้ทำท่าจะออกไปหาแต่โดนตึกรั้งไว้ซะก่อนจึงยอมหยุด

               “เอาน่าๆ ใจเย็นๆ”

               ตึ๊งดึ๊ง

               เสียงข้อความเข้าทำให้ดันเต้ก้มลงไปอ่านแล้วเงยหน้าขึ้นมองส่งร่างบางขึ้นรถไป

               ‘ถ้าพี่ติดธุระอยู่ผมไม่รบกวนดีกว่า ผมกลับกับไม้แล้วนะครับ’

               เพื่อไม่ให้ระหว่างที่เขาทำตามแผนโดนไม้คาบไปกินซะก่อน วันนั้นเขาเลยติดต่อหาน้องทอฝันเพื่อให้เป็นคนช่วยกันไม้ออกจากซี ซึ่งรุ่นน้องสาวเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาจะทำและคำไหว้วานของเขาแล้วก็ดูจะตื่นเต้นเป้นพิเศษและรับคำเขาเป็นอย่างดี

               “คุณดันเต้คะ”หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาถามดันเต้ที่นั่งคิดอะไรเงียบๆอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น

               “ครับ ป้าเกด”ดันเต้ยืดตัวนั่งตรงแล้วส่งยิ้มให้ ป้าเกดที่เป็นแม่บ้านเก่าแก่ที่ทำงานมานาน

               “นี่ใช่มือถือคุณดันเต้รึเปล่าคะ ป้าไปเจออยู่ในเตาอบในครัวนู้น ลืมไว้หรอคะ?”ว่าแล้วก็ชูเครื่องไอโฟนสีดำขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู

               “เปล่าหรอกครับ ผมแค่กลัวอดใจไม่ไหวเฉยๆ เลยเอาไปไว้ไกลหูไกลตาหน่อย”คำตอบของดันเต้ทำให้ป้าเกดถึงกับงง

               “ทำไมต้องทำแบบนั้นละคะ?”

               “ไม่มีอะไรหรอกครับ ยังไงผมรบกวนป้าเอาไปไว้ที่เดิมก่อนนะครับ แล้วไว้ผมจะไปเอาเอง”ดันเต้ส่งยิ้มให้คนสูงวัยกว่าเป็นเชิงขอร้อง

               “ถ้าคุณเต้ว่าอย่างนั้น”

               “ขอบคุณครับ”ดันเต้ส่งยิ้มให้อีกครั้งทำให้ป้าเกดหมุนตัวกลับเพื่อเอาไอโฟนไปคืนไว้ที่เดิมถึงจะยังสังสัยอยู่ไม่หายก็ตาม…เดี๋ยวนี้คุณดันเต้ชักจะแปลกๆขึ้นทุกที

               แล้วหลังจากนั้นถึงน้องซีอาจจะเห็นว่าบังเอิญแต่จริงๆหลายครั้งที่ดันเต้ตั้งใจเดินไปให้ซีเห็นเพื่อนทำเป็นสนิทสนมกับกวาง

               แต่ถึงอย่างนั้นก็เกือบทำแผนล่มเหมือนกันอย่างตอนที่เห็นไม้จะไปส่งซีถึงที่ร้าน…

               “เฮ้ยเต้! ไม่ได้นะ!”กวางที่ยืนอยู่ด้วยพยายามคว้าแขนเพื่อนหนุ่มลูกครึ่งไว้แต่สู้แรงไม่ไหวเลยโดนลากออกไปด้วย

               “พี่มารับ”

               “ซีกับผมตกลงจะไปด้วยกันแล้ว”ไม้เดินนำขึ้นมาทำให้ดันเต้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไม่น้อยแต่ภายนอกก็ยังคงรักษายิ้มบางไว้

               “ยังไงก็ไปทางเดียวกันอยู่แล้ว ไปกับพี่พร้อมกันเลยน่ะดีแล้ว”ดันเต้แอบเห็นสายตาของซีมองกวางที่ยังคงเกาะแขนเขาอยู่และเจ้าตัวกำลังพยายามปั้นยิ้มแหยๆไปให้รุ่นน้อง

               “ผมไม่รบกวนพี่ดีกว่าครับ เชิญพี่กับพี่กวางตามสบาย เดี๋ยวผมจะไปกับไม้กันฝันแล้ว”

               เมื่อซีลากเพื่อนคนอื่นจนลับไปแล้ว ถึงจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่รอบนี้เขาเป็นคนโดนปฎิเสธ แต่ปากก็ยังคงกระตุกยิ้มเมื่อเห็นร่างบางประชดประชันตน

               แต่ถึงอย่างนั้นคงจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเขาเองที่ทนไม่ได้ เลยรีบเร่งรัดชวนน้องซีไปซื้อของด้วยกัน

               แม้จะติดขัดไปหน่อยที่มีไอ้พวกนั้นมารังควาญแล้วบังอาจแตะต้องน้องซีของเขา เพราะยัยกวางดันไม่รู้จักระวังเลยทำให้น้องซีต้องเดือดร้อนไปด้วยเลย เห็นแล้วอยากจะชกพวกนั้นซักสองสามหมัดจริงๆแต่กลางห้างจะมีเรื่องก็คงไม่ดีเลยต้องยอมปลีกออกมา

               ถึงไม่คิดว่าจะถึงขึ้นทำให้น้องซีร้องไห้แต่สุดท้ายแล้วแผนที่วางไว้ก็ได้ผลละนะ ตอนนี้ก็เหลือแค่รอให้น้องซีได้เรียบเรียงความคิดเท่านั้น…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา