Where are you my Princess? (Yaoi)
เขียนโดย C_W_C
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) เรื่องของนิว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
กวางมองตามสองร่างวิ่งไปจนลับตาโดยไม่ได้ตามไปอีกคนด้วยแววตาให้กำลังใจ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งอก
“เฮ้ๆ เล่นแรงไปมั้ยเนี่ย”เสียงฟาสต์ที่อยู่ๆก็ดังมาจากด้านหลังไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจแต่อย่างใด
“ถ้าไม่กระตุ้นมันก็ไม่คืบหน้ากันพอดีสิ”กวางว่าขณะเหลือบไปมองตึกที่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้เข้ามายืนอยู่ข้างๆ
“แต่พวกพี่เล่นไม่ถนอมความรู้สึกเพื่อนผมหน่อยเลยนะครับ”นิวบ่นเมื่อเดินมาสมทบกับคนอื่นๆพร้อมพี่รักษ์…เขาตามมาดูด้วยความเป็นห่วงเมื่อพี่ดันเต้มาบอกว่ากำลังจะทำอะไร
“แต่ก็ได้ผลเร็วกว่าที่คิดนะ”ตึกพูดบ้าง
“เร็วน่ะดีแล้ว ถ้าช้ากว่านี้จะกลายเป็นไอ้ดันเต้ซะเปล่าที่ทนไม่ไหวน่ะ”กวางว่าแล้วก็นึกไปถึงเวลาเพื่อนเธอเวลาเห็นน้องซีอยู่ใกล้ไม้ทีไรจะกระโจนเข้าไปขวางซะทุกที
“ผมแค่ขอให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดีก็พอครับ”
“จะว่าไปพี่ยังแปลกใจ นิวก็น่าจะรู้ว่าไม้ชอบซีนิ แล้วทำไมถึงไม่เชียร์เพื่อนตัวเองแต่กลับมาช่วยเพื่อนพี่ที่พึงรู้จักกันไม่นานซะละ”ฟาสต์ถามถึงเรื่องที่คาใจ
“เอาตรงๆผมก็ยังไม่ไว้ใจพี่ดันเต้มากนักหรอกนะครับ แล้วเรื่องไม้ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้ขัดขวางอะไรด้วย”
“งั้นทำไมละ?”
“เพราะซีครับ”
“หือ”คำพูดของนิวทำให้ทุกสายตาหันมามองอย่างสงสัย
“พอซีได้รู้จักกับพี่ดันเต้ซีก็เปลี่ยนไปนะครับ”
“หรอ พี่ก็ว่าไม่เห็นเปลี่ยนอะไรตรงไหนนิ”กวางพูดเมื่อคิดว่ารุ่นน้องหนุ่มก็ยังคงเหมือนเดิม
“นั้นแค่สิ่งที่ซีอยากให้คนอื่นๆเห็นเท่านั้นเองครับ ว่าตัวเองก็เป็นคนปกติธรรมดาคนหนึ่ง”นิวพูดแล้วเงยขึ้นส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนเอ่ยชวน
“ไปหาที่นั่งกันเถอะครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง”
เมื่อเห็นท่าว่าเรื่องที่นิวพูดคงจะอีกยาว ด้วยความอยากรู้ทุกคนจึงตกลงกันว่าจะไปนั่งคุยกันต่อที่ร้านกาแฟร้านหนึ่งในห้างนั้น แต่ละคนสั่งเครื่องดื่มมาเป็นของตัวเองและมีกวางกับนิวที่สั่งเค้กมากินแกล้มด้วย และเมื่อทุกอย่างพร้อมนิวจึงเริ่มเล่าเรื่องของซีให้ฟัง
“ผมคบกับซีมานาน ตั้งแต่ก่อนที่พ่อของซีจะเสียซะอีก ตอนนั้นซีก็ยังเป็นเหมือนคนอื่นๆ เรียนๆเล่นๆเฮฮากับเพื่อนฝูง แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุจนต้องเสียพ่อไปสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของซีก็กลายเป็นงาน เหมือนพยายามทำตัวเองให้ยุ่งโดยอ้างกับตัวเองว่าเป็นการหาเงินเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรฟุ้งซ่านหรือไม่ก็ไม่ให้ตัวเองต้องเหงา”นิวเงียบไปพักนึกก่อนจะพูดต่อ
“ซีดูเหมือนจะอัธยาศัยดี เข้าถึงง่ายแต่จริงๆแล้วกลับสร้างกำแพงบางๆกันตัวเองออกจากคนอื่น ซ่อนความอ่อนแอจากสายตาใครๆไม่ให้มองว่าตัวเองมีปัญหา ซีไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครๆเห็นเลยแม้แต่กับผม ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครค่อยๆถอยห่างออกมาจากคนอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ หากใครขอให้ทำอะไรก็ทำไปแบบนั้น เหมือนคนที่เรียนรู้ว่าก็แค่ทำตามความต้องการของคนอื่นไปทุกอย่างก็จะเรียบร้อยไม่มีเรื่องวุ่นวาย ผมคิดว่าคงเป็นเพราะพี่สาวของซีทั้งสองคนที่ทำให้ซีคิดแบบนั้น”
นิวพูดมาถึงตรงนี้ก็ได้แต่กำมือแน่นด้วยความเจ็บใจตัวเองที่ช่วยอะไรซีไม่ได้เลยจนต้องกลายเป็นแบบนั้น แต่พอนิวรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่เข้ามากอบกุมจากมือกว้างของรักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆนิวก็หันไปยิ้มให้นิดนึงแล้วหันกลับมาเล่าต่อ
“แต่ไม่ว่าผมจะพยายามช่วยยังไง ซีก็จะยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร ซีถนัดที่จะดูแลคนอื่นแต่กลับไม่เคยยอมเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาดูแลตัวเองเลยซักนิด ไม่เคยคิดที่จะพึ่งพาใคร พยายามแบกทุกอย่างไว้บนบ่าด้วยตัวคนเดียว คิดแค่ว่าจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน จนกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยวกว่าที่ใครๆคิด”นิวยกเครื่องดืมขึ้นจิบ แล้วหยุดเรียบเรียงความคิดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ
“ตอนที่ผมรู้ว่าไม้คิดอะไรกับซีนั้น จะว่าไงดีละ ที่ผมไม่ได้ขัดขวางอะไรเพราะคิดว่าเขาอาจจะช่วยเยียวยาซีได้ แต่ที่ผมไม่ได้เชียร์เพราะผมเห็นว่าไม้ก็แค่เข้ามาใกล้ๆมากกว่าใครๆก็เท่านั้น”
“เปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนเข้ามาชิดกำแพงแต่ทำลายมันไม่ได้ใช่มั้ย”ฟาสต์เสริมนิวจึงพยักหน้าว่าที่ชายหนุ่มพูดนั้นคือสิ่งที่เขาหมายถึง
“ครับ ผมคิดว่าไม่พยายามแล้วแต่ไม่ถูกจุดมากกว่า แล้วคนที่มาทำลายกำแพงของซีลงได้ก็คือพี่ดันเต้ ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ดันเต้พยายามเข้าใกล้ซีด้วยเหตุผลอะไร แต่เขาก็เข้ามาเร็วมากจนก้าวมาชิดกำแพงได้ ตอนแรกผมก็แค่เห็นเขาเหมือนไม้ที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรซักอย่าง แต่ไปๆมาๆหรือเพราะพี่เขารู้ตัวว่าชอบซีถึงได้ค่อยๆลงมือกระเทาะกำแพงของซีออกขนาดที่ซีไม่ทันรู้ตัว เพราะความเอาใจใส่ที่แทบจะไม่เคยได้รับ ทำให้ซีเริ่มจะโหยหาความอ่อนโยนจากพี่ดันเต้แบบไม่รู้ตัว เริ่มมองหาพี่ดันต้ เริ่มต้องการความสนใจและค่อยๆเคยชินที่จะได้รับการดูแล”
“ถึงผมจะยังไม่รู้จักพี่ดันเต้ดีเท่าไร แต่ถ้าซีเจอที่ๆสามารถจะพักพิงได้แล้วผมก็พร้อมจะสนับสนุนครับ แต่ผมไม่ยอมให้เพื่อนพี่ๆมาทำร้ายเพื่อนผมแบบนี้อีกแล้วนะครับ”
“แน่นอนๆ ถ้าเต้มันทำนะ พี่นี่แหละจะเป็นคนจัดการมันเอง ส่วนเรื่องนี้โทษมันสองคนเลยคนเสนอ”กวางว่าแล้วชี้โยนไปให้อีกสองคนที่ถึงกับเหวอ
“อ่าว โยนๆพวกกูแค่เสนอให้แกกับเต้สนิทสนมกับต่อหน้าน้องซีเฉยๆ ส่วนที่เหลือนู้น ไอ้เต้นู้นอยากเห็นผลชัดๆวางแผนออกมาเป็นฉากๆคนเดียวเลย”ท้ายเสียงฟาสต์ลากยาวโบ้ยความผิดไปอีกต่อให้คนที่ไม่อยู่แก้ตัว
“แกนั้นแหละที่เห็นดีเห็นงามด้วยสุดๆ”ตึกว่าพรางมองไปทางหญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มที่พอได้ยินก็ได้แต่ทำปากยู่อย่างขัดใจ
“ผลมันก็ออกมาดีใช่มั้ยเล่า”
“จะดีไม่ดีต้องรอดูหลังจากนี้ต่างหาก”ตึงยังคงขัดคอให้กวางจะอ้าปากเถียงกลับ ฟาสต์เลยต้องเป็นคนออกมาห้ามทัพเสียก่อนที่จะกลายเป็นเป้าสายตาเพราะเสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“เอ้าๆเลิกเถียงกันได้แล้วไอ้คู่รักติ๊งต๊องนี่ เดี๋ยวพรุ้งนี้ก็รู้เองละน่า”พอโดนห้าม’คู่รักติ๊งต๊อง’ถึงได้เลิกเถียงกันแต่ฝ่ายหญิงก็ยังคงส่งค้อนวงโตไปให้ชายหนุ่มอยู่ดี
“แล้วนี่เราจะเอาไงต่อหรือจะกลับเลย”ตึกหันมาถามนิว เหมือนไม่สนใจท่าทางของกวางแต่มือหนากลับเอื้อมไปจับมือบางของหญิงสาวข้างกายมากอบกุมแล้วใช่นิ้วโป้งลูบวนไปบนหลังมืออีกฝ่ายอย่างง้อๆ
“เดี๋ยวผมว่าจะไปซื้อของก่อนน่ะครับ”
“โอเค งั้นแยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน”ตึกว่า แล้วทั้งหมดก็พากันออกจากร้านก่อนจะร่ำลาแยกย้ายกันที่หน้าร้าน
ฟาสต์มองส่งรุ่นน้องที่เดินไปพร้อมกับชายหนุ่มผิวเข้มที่ตลอดการสนทนาไม่ได้พูดอะไรเลยจนแทบจะไม่มีตัวตน แล้วหันกลับมามองอีกฝั่งที่เพื่อนเขาทั้งสองคนกำลังเดินจูงมือง้องอนกันไปอีกทาง
สงสารคนไม่มีคู่กันบ้างเซ่!!!...
นิวกับพี่รักษ์เดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง ซึ่งทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้ามาก็กลายเป็นเป้าสายตาของคนในร้านทันใด ด้วยคนหนึ่งก็ตัวเล็กน่ารัก ส่วนอีกคนก็มาดเข้มน่าหลงไหล
“พี่รักษ์ๆ โอเคมะ”นิวหยิบเสื้อตัวหนึ่งมาแนบกับตัวเองแล้วหันใปให้อีกคนดู
หงึกๆ…พี่รักษ์พยักหน้ารับ
“ตัวนี้ละ”นิวหยิบอีกตัวมานาบบ้าง
หงึกๆ
“แล้วตัวนี้”
หงึกๆ
“พี่จะพยักหน้าทุกตัวเลยใช่มั้ยเนี่ย”นิวโวยเมื่อไม่ว่าจะหยิบตัวไหนอีกฝ่ายก็ทำหน้านิ่งๆแล้วพยักหน้าให้เหมือนๆกันหมด
“นิวใส่อะไรก็น่ารักหมดนั้นละ”รักษ์เปิดปากพูดในรอบ…เอ่อ..หลายชั่วโมง แต่เป็นคำพูดที่ทำให้นิวถึงกับยิ้มแฉ่งด้วยใบหน้าที่ออกจะแดงๆ
“จริงหรอครับ”
หงึกๆ
นิวกับรักษ์เดินออกจากร้านเสื้อผ้าโดยมีถุงกระดาษติดมือคนร่างสูงมาด้วยใบหนึ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าออกร้านนู้นร้านนี้กันไปเรื่อย นิวซื้อบ้าง นานๆพี่รักษ์ซื้อทีผลัดกันไป แม้ของจะไม่เยอะแต่ทุกอย่างจะไปอยู่ในมือของหนุ่มผิวเข้มเสมอ
นิวเดินไปชวนคุยไปเรื่อยโดยมีร่างสูงของรักษ์ที่ถึงจะไม่พูดอะไรแต่ร่างสูงก็ยังก้มลงมานิดๆอย่างบ่งบอกว่ากำลังตั้งใจฟังคนตัวเล็กพูด เป็นภาพน่ารักที่ใครก็ต้องมองตามแล้วอมยิ้มในความเข้ากันของคนทั้งคู่
จนมาถึงส่วนที่คนเยอะเป็นพิเศษร่างเล็กของนิวโดนเบียดแทรกห่างออกจากอีกคนมากขึ้นเรื่อยๆ จนนิวเริ่มมองหาพี่รักษ์ไม่เจอ ร่างเล็กจึงหยุดเดินแล้วพยายามมองไปรอบๆเพื่อหาร่างสูงท่ามกลางผู้คนมากมาย จนสัมผัสได้ถึงมือหนึ่งที่พุ่งเข้ามาจับแขนนิวไว้เจ้าตัวจึงรีบหันไปมอง
ถึงได้เห็นคนที่กำลังตามกลับมายืนอยู่ข้างๆ ของทั้งหมดถูกรวบไปอยู่ในมือข้างเดียวสวนอีกข้างก็ยึดแขนเล็กไว้แน่น
“พี่รักษ์ นึกว่าจะหลงกันซะแล้ว”นิวพูดอย่างโล่งอกซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเลื่อนมือลงมาจับที่มือบาง แล้วพาไปจับไว้ที่ชายเสื้อด้านหลัง
จากนั้นรักษ์ก็เอาของมาถือว่าในมือทั้งสองข้างแบบเดิม หันมาส่งสายตาให้ร่างเล็กนิดๆที่ส่งยิ้มให้ ก่อนจะเริ่มออกเดินต่อ
นิวมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้ายิ้มๆนี่เขาก็รู้จักพี่รักษ์มาได้จะปีกว่าแล้ว คนตรงหน้าก็ยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่ที่ซีแนะนำให้รู้จักในฐานะของรุ่นพี่ที่คณะ ถึงจะเป็นคนเงียบและรูปลักษณ์ภายนอกดูขรึมๆแต่จริงๆแล้วข้างในนั้นทั้งใจดีและน่ารัก…และตั้งแต่วินาทีแรกที่สายตาของพี่รักษ์ที่ใช้มองเขานั้นเปลี่ยนไปมันก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เขาไม่ใช่ซี เขารู้ว่าสายตาที่พี่รักษ์ใช่มองเขานั้นอ่อนโยนกว่าใครๆและเขาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับเขา ซึ่งดูจากท่าทางแล้วพี่รักษ์ก็ไม่ได้ต้องการปิดบังอะไรก็เพียงแค่ไม่พูดออกมาเท่านั้น
แล้วก็เพราะเขาไม่ใช่ซีอีกนั้นละ ที่จะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นรู้สึกยังไงกับรุ่นพี่หนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆนี้ และเขาคิดว่าสิ่งที่แสดงออกไปอีกฝ่ายก็คงจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาเช่นกัน แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะพูดมันออกไป
เพราะส่วนตัวแล้วเขาคิดว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึก สิ่งนี้ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไร ชนชาติไหน หรือเพศอะไรก็ตาม แต่ไม่ได้ขึ้นกับคำพูดคำยืนยัน เข้าไม่ต้องการคำพูดอะไรมาพร่ำบอก เพราะคำพูดมันก็คือคำพูด ออกจากปากแล้วหายไปกับสายลมไม่มีหลักประกันอะไรที่แน่นอน เขาไม่เชื่อในคำพูดเพราะบางคนก็สามารถพูดอะไรก็ตามออกมาได้แม้จะไม่รู้สึกแบบนั้นเลยก็ตาม สำหรับเขาสิ่งสำคัญที่ต้องการคือการกระทำที่บรรจงถ่ายทอดความรู้สึกออกมาให้รับรู้ในความจริงใจที่มีต่างหาก
พวกเขาทั้งคู่รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน และพอใจที่จะให้มันดำเนินต่อไปในรูปแบบนี้ ความสัมพันธ์ที่ครุมเครือที่ไม่อาจยืนยันสถานะที่แน่นอนให้แก่กันได้ แต่พวกเขากลับรู้สึกเป็นสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แค่อีกฝ่ายเต็มใจที่จะยืนอยู่ข้างๆโดยไม่ต้องสรรหาคำพูดใดๆมาผูกมัด ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกการกระทำ ทุกความรู้สึก พวกเขารับรู้กันได้ด้วยสิ่งเล็กๆที่เต้นเป็นจังหวะอยู่ใจอก มันถ่ายทอดออกมาจากทุกสิ่ง สายตา สัมผัส ความอบอุ่น จนไม่จำเป็นที่จะต้องเอื่อนเอ่ยมันออกมา แค่นี้สิ่งที่นิวได้รับก็มากเกินพอแล้ว
เขาคิดว่าอีกฝ่ายก็คงคิดเช่นกัน ที่คิดจะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่าซึ่งก็เหมาะแล้วกับคนที่ไม่ถนัดเรื่องการพูดแบบรุ่นพี่ตัวโตๆผิวเข้มๆปากหนักๆที่คอยเดินอยู่ข้างๆเขาตอนนี้….
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ