Where are you my Princess? (Yaoi)
10.0
เขียนโดย C_W_C
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.
25 บท
3 วิจารณ์
34.93K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) น้องรหัส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เป็นเหมือนกับหลายๆวันที่ผ่านมา ดันเต้เลิกคลาสของตัวเองเสร็จก็บอกลาเพื่อนในกลุ่มแล้วจะตรงไปดักรับร่างบางไปที่ร้านเหมือนเช่นเคย แต่หากคราวนี้โดนฟาสต์รั้งไว้เสียก่อน
“เต้มึงจะไปไหนเนี่ยกูถามหน่อย เดี๋ยวนี้มึงหายหัวตลอดเลยนะ”
“ไปรับเด็ก”ดันเต้ก็หันมายิ้มตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ โดยหารู้ไม่ว่าทำให้เพื่อนอ้าปากหวอ…อย่างไอ้เต้เนี่ยนะถ่อไปหาเด็กถึงที่!
“เด็ก? เด็กไหนวะ จริงจังเรอะคนเนี้ยเห็นไปหาจัง”
“จริงจังสิจริงใจด้วย แต่ก็พึ่งรู้ตัวละนะ”ว่าแล้วก็ส่งสายตามีความหมายไปหาเพื่อนสาวที่พึ่งเดินตามออกมา ซึ่งเมื่อกวางได้เห็นแบบนั้นก็ตาโต ยกยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจแล้วเกาะบ่าเพื่อนๆหนุ่มพรางกระโดดๆด้วยความตื่นเต้น
“เต้..เต้ อย่าบอกนะว่ามึง…”
“ใช่กูรู้ตัวแล้ว น้องซีนั้นแหละ”
“เยส! เต็มที่เลยเพื่อน กูเชียร์ขาดใจ”แล้วสาวเจ้าก็เอามือนึงเท้าเอวแล้วอีกมือก็ตบป๊าบๆไปบนไหล่หนาอย่างร่าเริงแบบไม่เห็นหัวคนไม่รู้เรื่องที่ได้แต่มองตาแป่ว งงเป็นไก่ตาแตกว่าเพื่อนสองคนมันคุยไรกัน
“เฮ้ย!เดี๋ยวๆทำไมมึงรู้เรื่องกันสองคนวะ สงสารกูกับตึกที่ไม่รู้บ้างดิวะ”ฟาสต์โวยวาย แล้วรีบดึงตึกที่เงียบมาตลอดมาร่วมร้องอุธรณ์ด้วย
“กูรู้แล้ว มีมึงอะที่อยู่หลังเขา”
“อ่าวไหงกูรู้สุดท้ายวะ เล่ามาเลยไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงไปหาเด็กแน่ บอกมาซะดีๆว่าใคร”ว่าแล้วก็กระโจนเข้าล๊อคคอมาเค้นถามให้ได้เรื่อง
กวางกุมขมับมองเพื่อนหนุ่มที่วันๆเอาแต่จีบสาวเลยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกะเขาอย่างอ่อนใจ แล้วเป็นฝ่ายแถลงข้อสงสัยให้
“เด็กคหกรรมที่พูดถึงกันคราวก่อนไงเล่า”
“อ้อ คนนั้นนี่เอง”พอได้คำตอบก็พยักหน้าเอ่อออ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นตกใจ“แต่เฮ้ยเดี๋ยว น้องเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่เรอะ!”
“เต้มึงเปลี่ยนแนวแล้วสินะ”จบก็กอดคอตบไหล่ทำหน้าแบบคนที่เข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งเรียกให้ดันเต้หัวเราะเสียงดัง
“เปล่า กูรู้สึกกับน้องเขาแค่คนเดียว กับผู้ชายคนอื่นกูเซโนวะ”
“น่านนนนน กูชักอยากเห็นแล้วแฮะว่าตัวจริงเป็นไง ป่ะไหนๆมึงก็ต้องไปหาน้องเขาแระ กูไปด้วย”แล้วฟาสต์ก็ออกเดินนำไปก่อนเพื่อน
“นานๆทีไอ้เต้จะต้องเป็นฝ่ายไล่ตามซักที ขอไปดูหน้าให้เห็นเป็นบุญตาหน่อยแล้วกัน”ตึกว่าพร้อมกับเดินตามเพื่อนไปอีกคน ซึ่งดันเต้ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมายิ้มๆแล้วเดินคู่ไปกับกวาง
“แล้วมึงบอกน้องเขาไปยัง”หญิงสาวถามขึ้นระหว่างทาง
“ยัง”
“ทำไมไม่บอกวะ”
“ไว้เมื่อไรแน่ใจก่อนว่าจะไม่โดนปฎิเสธ เมื่อนั้นแหละกูถึงจะบอก”บอกตามตรงเลยว่าเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะไม่ถูกปฎิเสธ เพราะครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาเพราะน้องเขาเป็นผู้ชาย การจะให้คนไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นหันมาชอบเพศเดียวกันก็คงยาก แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าการจีบผู้ชายด้วยกันจะต้องทำยังไง
เมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อนหนุ่ม กวางก็ได้แต่หัวเราะแหะๆอย่างปลงๆ นี่ละนะนิสัยเพื่อนเธอ เธอกับดันเต้นั้นคบกันมานานตั้งแต่เด็กๆเพราะครอบครัวของพวกเธอสนิทกัน เพราะงั้นนิสัยของคนข้างๆนี้เธอรู้จักดี จะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการเพราะฉะนั้นจะไม่ยอมโดยปฎิเสธเป็นอันขาด
พวกดันเต้เดินมาดักรอที่ห้องเรียนตามตารางที่น้องทอฝันช่วยบรรณาการมาให้ทันทีที่ดันเต้เอ่ยปากขอ แต่ตอนที่พวกเขามาถึงนั้น พวกซียังไม่เลิกจึงต้องยืนรอกันอยู่ด้านหน้า
และโดยไม่รู้ตัวหรือเลือกจะไม่ใส่ใจจะถูกกว่า พวกเขาได้กลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เพราะกลุ่มของพวกเขานั้นนับได้ว่าดังพอสมควร
เนื้องด้วยตัวดันเต้ที่ดังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วยังมีฟาสต์พ่อหนุ่มคารมดีที่คอยจับหัวใจสาวๆใด้อยู่หมัด ยังไม่นับรวมตึกชายหนุ่มโลกส่วนตัวสูงที่ใครๆก็อยากแทรกตัวเข้าไปค้นหา และกวางสาวสวยผู้มาพร้อมกับลุคที่มาดมั่นที่ละลายใจหนุ่มๆทุกคนที่ได้เห็น
กลุ่มของพวกดันเต้นั้นจึงถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมคนดังอย่างไม่ได้ตั้งใจเลยทีเดียว ทำให้ตอนนี้รอบๆเริ่มเต็มไปด้วยคนที่มามุงดูอย่างสนใจว่ากลุ่มคนดังมาทำอะไรที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นภาพหนุ่มหล่อสาวสวยที่ยืนคุยกันอยู่นั้นก็เหมือนอยู่กันคนละโลกจึงได้แต่มองกันอยู่ห่างๆไม่มีใครกล้าเข้าไปทัก
ดันเต้ยืนคุยกับเพื่อนไปเรื่อย และคอยเหลือบสายตาไปดูที่ประตูห้องอยู่ตลอดจนมันเปิดออก เหล่านักศึกษาเริ่มทยอยกันออกมา ดันเต้เห็นทอฝันออกมาก่อนเพื่อนและเมื่อสบตากับเขารุ่นน้องสาวก็พยักหน้าให้เขาทีนึงอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องอีกครั้ง ซักพักก็ออกมาจากอีกประตูที่ห่างออกไปพร้อมร่างเพื่อนหนุ่มแล้วฉุดลากเพื่อนไปอีกทางทันที
ดันเต้แอบยิ้มชั่วร้ายอย่างที่ตัวเองไม่รู้ตัวเมื่อทอฝันทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด เขานั้นผูกมิตรกับรุ่นน้องสาวคนนี้ทันทีที่รู้ตัวว่าชอบซี และเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเสียด้วย
แล้วเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางที่ตั้งใจมาหาเดินออกมาจากห้องเพียงคนเดียว รอยยิ้มของดันเต้ก็เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มใจดีทันใด แล้วขายาวๆก็เดินตรงเข้าไปหาซึ่งเพื่อนคนอื่นๆก็เดินตามมาด้วยเช่นกัน
“พี่เต้พี่กวางสวัสดีครับ พี่ๆสวัดดีครับ”ซีทักทันทีเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่รู้จัก และไม่ลืมทักคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนของพี่ดันเต้อย่างน่ารัก ดันเต้เลยแนะนำเพื่อนตัวเองให้ร่างบางได้รู้จัก
“นี่พี่ตึก ส่วนนี่พี่ฟาสต์นะเพื่อนพี่เอง”
“ครับ”ซีส่งยิ้มสุภาพให้
“อ่าน้องคนนี้เองสินะ เราชื่ออะไรเอ่ย”ฟาสต์พุ่งเข้าประชิดตัวถามอย่างรวดเร็วแบบที่ซีไม่ทันตั้งตัว
“ซะ..ซีครับ”
“ชื่อน่ารักจังเลย ได้ข่าวว่าเราทำขนมอร่อยด้วยใช่มั้ยไว้ทำให้พี่กินบ้างซิ”ชายหนุ่มว่าแล้วยื้นหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งรู้สึกได้ถึงแรงกดหนักๆที่ไหล่จากเพื่อนหนุ่มลูกครึ่งฟาสต์ถึงยอมหยุดแล้วหันกลับไปยิ้มล้อเลียน
แต่พอหันกลับไปเห็นรอยยิ้มเฉียดเฉียนกับบรรยากาศกดดันแบบแปลกๆแล้ว ยิ้มก็เจือนลงทันใดพร้อมกระเด้งตัวออกจากร่างบางทันที
“แค่นี้ทำหวง”ฟาสต์เดินไปกระซิบข้างหูเพื่อนแบบแสร้งทำน้อยอกน้อยใจ จึงโดนเพื่อนกวางโบกกบาลเข้าไปทีนึงเต็มๆ
“เยอะแระมึง”
ดันเต้ไม่สนเพื่อนที่เริ่มจะตีกันอยู่ข้างหลัง ขยับมายืนต่อหน้าร่างบางที่เริ่มออกอาการงงๆ“ไปกันเลยมั้ย”
“ครับ”แต่ยังไม่ทันที่จะไปจริงๆกลับมีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ พี่ใช่พี่ฉันทกรรึเปล่าครับ”
ซีหันไปตามเสียงเรียกเมื่อได้ยินชื่อตน จึงได้พบกับชายหนุ่มร่างเพรียวที่สูงพอๆกับเขา แต่ขาวกว่า ผมสีดำซอยระคออย่างเก๋ไก๋ รับกับใบหน้าที่มีแววง่วงงุนนั้นได้เป็นอย่างดี
พอซีเห็นว่าเป็นใครปุ๊ปก็ยิ้มออกมาทันที“ครับ มีอะไรหรอ”
“อ่าสวัสดีครับ ผมชื่อแอล ปีหนึ่งรหัส235ครับ พี่เป็นพี่รหัสผมใช่มั้ยครับ”รุ่นน้องผู้มาใหม่แนะนำตัวพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแม้ตาจะยังดูตกๆแบบคนง่วงอยู่ก็ตาม
“อ่า ใช่ๆ หาเจอซักทีนะ”
“งั้นผมขอลายเซ็น…”ว่าแล้วก็ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเอาสมุดมาให้พี่รหัสตัวเองเซ็นสำหรับเป็นหลักฐานแต่กลับถูกซีห้ามเอาไว้ซะก่อน
“ไว้ก่อนนะวันนี้พี่มีธุระต้องไป ไว้พรุ้งนี้เที่ยงมาหาพี่ที่ชมรมคหกรรมนะ”
“อ่าครับ”
แล้วซีก็หันไปลาพี่ๆคนอื่นพร้อมดันเต้ก่อนจะหันมาโบกมือให้น้องรหัสอีกทีแล้วเดินคู่ไปกับร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่ง พอพ้นกลุ่มมาได้ซักพักดันเต้ก็เอ่ยทัก
“จะแกล้งน้องหรอเราน่ะ”
“มันเป็นธรรมเนียมอยู่แล้วนิครับ เซ็นให้ฟรีๆได้ไง”
ดังนั้นยามเที่ยงของวันต่อมาห้องชมรมคหกรรมที่ยังไม่มีสมาชิกคนอื่นมาใช้งานจึงมีโอกาสได้ต้อนรับแขกถึงสี่คน อันได้แก่น้องแอล พี่ดันเต้ที่โผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม้ที่ขอมาด้วยเมื่อเห็นหนุ่มลูกครึ่งแล้วน้องรหัสยังหาตนไม่เจอ และนิวที่ไม่ได้เจอมาหลายวันเพราะเจ้าตัวมัววุ่นกับการรับน้องของคณะตัวเอง เมื่อมีโอกาสซีเลยชวนมาด้วย ส่วนทอฝันนั้นกำลังไปทำการต้อนรับน้องรหัสตัวเองอยู่เช่นกันไม่สามารถมาเป็นผู้ช่วยรุ่นพี่หนุ่มได้
“เอานี้ กินให้หมดแล้วพี่ถึงจะเซ็นให้นะ”ซีว่าพรางวางจานข้าวผัดน้ำพริกนรกลงตรงหน้ารุ่นน้องที่ได้แต่จ้องตาแป่วตั้งแต่เข้าห้องมาก็ถูกบอกให้นั่งแล้วก็เห็นรุ่นพี่ร่างผอมคนนี้เดินไปทำอาหารอย่างไม่บอกอะไร
“แค่นี้หรอครับ”ยอมรับเลยว่าชายหนุ่มเตรียมตัวมาโดนแกล้งอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
“แค่นี้แหละ”ซีว่ายิ้มๆขณะที่แจกจ่ายจานข้าวให้คนอื่นๆแล้วนั่งลงเตรียมตัวจัดการข้าวในจานตัวเอง
แอลเห็นดังนั้นจึงลองตักข้าวเข้าปากคำนึง พอรู้รสชาติเท่านั้นก็รู้สึกเหมือนตื่นเต็มตารีบคว้าแก้วน้ำที่พี่รหัสยื้นมารออยู่แล้วมาซดอึกๆ
“เผ็ดงะ”
ซีหัวเราะเมื่อเห็นรุ่นน้องติดกับ“แน่นอน”
“แต่อร่อยดีนะครับ”ร่างบางยิ้มให้กับคำกล่าวนั้น แม้รุ่นน้องคนนี้จะดูง่วงซึมอยู่ตลอดเวลาแต่ก็มีส่วนน่ารักไม่ใช่น้อย ได้มาเป็นน้องรหัสก็ถือว่าเขาโชคดี
ดันเต้ทอดสายตามองซีอย่างเอ็นดู ที่การแกล้งของเจ้าตัวนั้นเหมือนการเลี้ยงข้าวรุ่นน้องเสียมากกว่า แต่ชายหนุ่มไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีสายตาหนึ่งสังเกตอยู่อย่างพิจารณา
แล้วพวกซีก็ลงมือกินกัน พวกเขากินไปคุยไปถึงได้รู้ว่าน้องแอลนั้นจะเลือกเรียนวิชาเอกเป็นสิ่งทอผิดกับเขาที่เรียนเอกอาหาร แล้วจากการคุยกันทำให้รู้ได้ว่ารุ่นน้องคนนี้ขี้เซาทีเดียว
เมื่อทั้งหมดจัดการอาหารในส่วนของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ซีก็ยอมเซ็นชื่อลงสมุดให้น้องแอลอย่างใจดี“เอ้าเรียบร้อย”
“ขอบคุณครับ อ่าผมขอนอนอยู่ที่นี่ซักพักได้มั้ยครับ”
“ได้สิ”พอได้รับอนุญาติเจ้าตัวก็จัดการเลื้อยลงไปฟุบกับโต๊ะทันใด แต่ยังไม่ทันจะหลับเสียงเรียกก็ดังกระหึมมาจากภายนอกก่อนที่เจ้าของเสียงจะปราฎกตัวเสียอีก
“แอล!!!”
“อาร์ต?”คนถูกเรียกผงกหัวขึ้นมาตอบรับนิดหน่อยแล้วทำท่าจะลงไปนอนต่อแต่กลับโดนมือของชายหนุ่มผู้มาใหม่คว้าคอไว้เสียก่อน
“มึงจะนอนไม่เลือกที่ไปถึงเมื่อไรกันฮะ! มึงมีเรียนบ่ายไม่ใช่เรอะไปได้แล้ว”ว่าแล้วก็ลากคอไปเลย“ผมขอตัวเพื่อนผมนะครับ”
คนโดนลากก็ไม่ได้ขัดขืนเพียงหันมากล่าวลาคนในห้องเท่านั้นแล้วทำท่าจะหลับต่อซะอย่างนั้น“พี่ๆหวัดดีครับ”มาไวไปไวขนาดที่นิวยังต้องอายเลยทีเดียว
ทุกคนก็ได้แต่มองตามอึ้งๆ ซีส่ายหัวไปมาขำๆแล้วรวบเก็บจานของคนอื่นๆเตรียมไปล้างที่อ่าง
“ซีเดี๋ยวเราช่วย”ไม้ขันอาสาแล้วเดินตรงไปทันที แล้วยังไม่ทันที่ดันเต้จะทำอะไรก็โดนนิวเรียกเอาไว้ซะก่อน
“พี่เต้ครับ ผมขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย”
“อ่าได้สิ”แล้วชายหนุ่มก็ตามการนำของร่างเล็กไปที่นอกห้อง เมื่อเรียบร้อยนิวก็เข้าประเด็นทันที
“เอาตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมนะครับ พี่คิดอะไรกับเพื่อนผมรึเปล่า”
“คิด”ดันเต้ตอบกลับทันไดแบบไม่เสียเวลาคิด จนคนถามเองยังอึ้ง
“ไม่คิดจะปกปิดกันเลยนะครับ พี่รู้ใช่มั้ยว่าซีเป็นผู้ชาย”
“พี่รู้อยู่แล้ว”
“ต่อให้ซีไม่มีทางคิดเกินเลยกับเพศเดียวกันก็ตามน่ะหรอครับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดเปลี่ยนใจ?”นิวถามย้ำเสียงเข้ม
“ถึงอยากจะเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆแล้วละนะ แต่ถึงอย่างงนั้นพี่ก็ไม่เคยมีความคิดจะเปลี่ยนใจ”หนุ่มลูกครึ่งเองก็ตอบกลับอย่างหนักแน่นไม่แพ้กัน
ซึ่งนั่นทำให้นิววางใจ หากจะมีใครซักคนที่ซีสามารถพักพิงได้อย่างสบายใจ คนนั้นอาจจะเป็นพี่ดันเต้ก็ได้ เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนของตนนั้นเปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมือนจะสดใสร่าเริงขึ้น และดูผ่อนคลายกว่าที่เคยเป็นมา
“งั้นพี่ต้องพยายามมากหน่อยละนะครับ ถึงซีจะไม่ใช่คนหัวช้า แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้อยู่ในความคิดเลยเหมือนกัน ในหัวมีแต่เรื่องทำงานหาเงิน กับเรื่องเรียนให้จบ เรื่องความรักน่ะมันไม่เคยคิดเลยซักนิด ต้องใช้คำว่าไม่สนสินะ”
“พี่จะไม่ยอมแพ้หรอก”
“ก็ดีครับ”เมื่อเห็นแบบนี้แล้วหากบอกความจริงว่าซีคือคนเดียวกับผู้หญิงในงานเลี้ยงคืนนั้นคงจะไม่เป็นอะไรแน่นอน“งั้นผมคิดว่าถ้าพี่รู้เรื่องนี้คงไม่เป็นไร”
“หือ?”
“จริงๆแล้วซี…”
เพล้ง!!!
-------------------------------------------------------
ดีใจที่มีคนตามอ่านนะคะ^^
“เต้มึงจะไปไหนเนี่ยกูถามหน่อย เดี๋ยวนี้มึงหายหัวตลอดเลยนะ”
“ไปรับเด็ก”ดันเต้ก็หันมายิ้มตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ โดยหารู้ไม่ว่าทำให้เพื่อนอ้าปากหวอ…อย่างไอ้เต้เนี่ยนะถ่อไปหาเด็กถึงที่!
“เด็ก? เด็กไหนวะ จริงจังเรอะคนเนี้ยเห็นไปหาจัง”
“จริงจังสิจริงใจด้วย แต่ก็พึ่งรู้ตัวละนะ”ว่าแล้วก็ส่งสายตามีความหมายไปหาเพื่อนสาวที่พึ่งเดินตามออกมา ซึ่งเมื่อกวางได้เห็นแบบนั้นก็ตาโต ยกยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจแล้วเกาะบ่าเพื่อนๆหนุ่มพรางกระโดดๆด้วยความตื่นเต้น
“เต้..เต้ อย่าบอกนะว่ามึง…”
“ใช่กูรู้ตัวแล้ว น้องซีนั้นแหละ”
“เยส! เต็มที่เลยเพื่อน กูเชียร์ขาดใจ”แล้วสาวเจ้าก็เอามือนึงเท้าเอวแล้วอีกมือก็ตบป๊าบๆไปบนไหล่หนาอย่างร่าเริงแบบไม่เห็นหัวคนไม่รู้เรื่องที่ได้แต่มองตาแป่ว งงเป็นไก่ตาแตกว่าเพื่อนสองคนมันคุยไรกัน
“เฮ้ย!เดี๋ยวๆทำไมมึงรู้เรื่องกันสองคนวะ สงสารกูกับตึกที่ไม่รู้บ้างดิวะ”ฟาสต์โวยวาย แล้วรีบดึงตึกที่เงียบมาตลอดมาร่วมร้องอุธรณ์ด้วย
“กูรู้แล้ว มีมึงอะที่อยู่หลังเขา”
“อ่าวไหงกูรู้สุดท้ายวะ เล่ามาเลยไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงไปหาเด็กแน่ บอกมาซะดีๆว่าใคร”ว่าแล้วก็กระโจนเข้าล๊อคคอมาเค้นถามให้ได้เรื่อง
กวางกุมขมับมองเพื่อนหนุ่มที่วันๆเอาแต่จีบสาวเลยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกะเขาอย่างอ่อนใจ แล้วเป็นฝ่ายแถลงข้อสงสัยให้
“เด็กคหกรรมที่พูดถึงกันคราวก่อนไงเล่า”
“อ้อ คนนั้นนี่เอง”พอได้คำตอบก็พยักหน้าเอ่อออ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นตกใจ“แต่เฮ้ยเดี๋ยว น้องเขาเป็นผู้ชายไม่ใช่เรอะ!”
“เต้มึงเปลี่ยนแนวแล้วสินะ”จบก็กอดคอตบไหล่ทำหน้าแบบคนที่เข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งเรียกให้ดันเต้หัวเราะเสียงดัง
“เปล่า กูรู้สึกกับน้องเขาแค่คนเดียว กับผู้ชายคนอื่นกูเซโนวะ”
“น่านนนนน กูชักอยากเห็นแล้วแฮะว่าตัวจริงเป็นไง ป่ะไหนๆมึงก็ต้องไปหาน้องเขาแระ กูไปด้วย”แล้วฟาสต์ก็ออกเดินนำไปก่อนเพื่อน
“นานๆทีไอ้เต้จะต้องเป็นฝ่ายไล่ตามซักที ขอไปดูหน้าให้เห็นเป็นบุญตาหน่อยแล้วกัน”ตึกว่าพร้อมกับเดินตามเพื่อนไปอีกคน ซึ่งดันเต้ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมายิ้มๆแล้วเดินคู่ไปกับกวาง
“แล้วมึงบอกน้องเขาไปยัง”หญิงสาวถามขึ้นระหว่างทาง
“ยัง”
“ทำไมไม่บอกวะ”
“ไว้เมื่อไรแน่ใจก่อนว่าจะไม่โดนปฎิเสธ เมื่อนั้นแหละกูถึงจะบอก”บอกตามตรงเลยว่าเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะไม่ถูกปฎิเสธ เพราะครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาเพราะน้องเขาเป็นผู้ชาย การจะให้คนไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นหันมาชอบเพศเดียวกันก็คงยาก แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าการจีบผู้ชายด้วยกันจะต้องทำยังไง
เมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อนหนุ่ม กวางก็ได้แต่หัวเราะแหะๆอย่างปลงๆ นี่ละนะนิสัยเพื่อนเธอ เธอกับดันเต้นั้นคบกันมานานตั้งแต่เด็กๆเพราะครอบครัวของพวกเธอสนิทกัน เพราะงั้นนิสัยของคนข้างๆนี้เธอรู้จักดี จะต้องได้ในสิ่งที่ต้องการเพราะฉะนั้นจะไม่ยอมโดยปฎิเสธเป็นอันขาด
พวกดันเต้เดินมาดักรอที่ห้องเรียนตามตารางที่น้องทอฝันช่วยบรรณาการมาให้ทันทีที่ดันเต้เอ่ยปากขอ แต่ตอนที่พวกเขามาถึงนั้น พวกซียังไม่เลิกจึงต้องยืนรอกันอยู่ด้านหน้า
และโดยไม่รู้ตัวหรือเลือกจะไม่ใส่ใจจะถูกกว่า พวกเขาได้กลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เพราะกลุ่มของพวกเขานั้นนับได้ว่าดังพอสมควร
เนื้องด้วยตัวดันเต้ที่ดังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วยังมีฟาสต์พ่อหนุ่มคารมดีที่คอยจับหัวใจสาวๆใด้อยู่หมัด ยังไม่นับรวมตึกชายหนุ่มโลกส่วนตัวสูงที่ใครๆก็อยากแทรกตัวเข้าไปค้นหา และกวางสาวสวยผู้มาพร้อมกับลุคที่มาดมั่นที่ละลายใจหนุ่มๆทุกคนที่ได้เห็น
กลุ่มของพวกดันเต้นั้นจึงถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมคนดังอย่างไม่ได้ตั้งใจเลยทีเดียว ทำให้ตอนนี้รอบๆเริ่มเต็มไปด้วยคนที่มามุงดูอย่างสนใจว่ากลุ่มคนดังมาทำอะไรที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นภาพหนุ่มหล่อสาวสวยที่ยืนคุยกันอยู่นั้นก็เหมือนอยู่กันคนละโลกจึงได้แต่มองกันอยู่ห่างๆไม่มีใครกล้าเข้าไปทัก
ดันเต้ยืนคุยกับเพื่อนไปเรื่อย และคอยเหลือบสายตาไปดูที่ประตูห้องอยู่ตลอดจนมันเปิดออก เหล่านักศึกษาเริ่มทยอยกันออกมา ดันเต้เห็นทอฝันออกมาก่อนเพื่อนและเมื่อสบตากับเขารุ่นน้องสาวก็พยักหน้าให้เขาทีนึงอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องอีกครั้ง ซักพักก็ออกมาจากอีกประตูที่ห่างออกไปพร้อมร่างเพื่อนหนุ่มแล้วฉุดลากเพื่อนไปอีกทางทันที
ดันเต้แอบยิ้มชั่วร้ายอย่างที่ตัวเองไม่รู้ตัวเมื่อทอฝันทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด เขานั้นผูกมิตรกับรุ่นน้องสาวคนนี้ทันทีที่รู้ตัวว่าชอบซี และเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเสียด้วย
แล้วเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางที่ตั้งใจมาหาเดินออกมาจากห้องเพียงคนเดียว รอยยิ้มของดันเต้ก็เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มใจดีทันใด แล้วขายาวๆก็เดินตรงเข้าไปหาซึ่งเพื่อนคนอื่นๆก็เดินตามมาด้วยเช่นกัน
“พี่เต้พี่กวางสวัสดีครับ พี่ๆสวัดดีครับ”ซีทักทันทีเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่รู้จัก และไม่ลืมทักคนที่คาดว่าจะเป็นเพื่อนของพี่ดันเต้อย่างน่ารัก ดันเต้เลยแนะนำเพื่อนตัวเองให้ร่างบางได้รู้จัก
“นี่พี่ตึก ส่วนนี่พี่ฟาสต์นะเพื่อนพี่เอง”
“ครับ”ซีส่งยิ้มสุภาพให้
“อ่าน้องคนนี้เองสินะ เราชื่ออะไรเอ่ย”ฟาสต์พุ่งเข้าประชิดตัวถามอย่างรวดเร็วแบบที่ซีไม่ทันตั้งตัว
“ซะ..ซีครับ”
“ชื่อน่ารักจังเลย ได้ข่าวว่าเราทำขนมอร่อยด้วยใช่มั้ยไว้ทำให้พี่กินบ้างซิ”ชายหนุ่มว่าแล้วยื้นหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งรู้สึกได้ถึงแรงกดหนักๆที่ไหล่จากเพื่อนหนุ่มลูกครึ่งฟาสต์ถึงยอมหยุดแล้วหันกลับไปยิ้มล้อเลียน
แต่พอหันกลับไปเห็นรอยยิ้มเฉียดเฉียนกับบรรยากาศกดดันแบบแปลกๆแล้ว ยิ้มก็เจือนลงทันใดพร้อมกระเด้งตัวออกจากร่างบางทันที
“แค่นี้ทำหวง”ฟาสต์เดินไปกระซิบข้างหูเพื่อนแบบแสร้งทำน้อยอกน้อยใจ จึงโดนเพื่อนกวางโบกกบาลเข้าไปทีนึงเต็มๆ
“เยอะแระมึง”
ดันเต้ไม่สนเพื่อนที่เริ่มจะตีกันอยู่ข้างหลัง ขยับมายืนต่อหน้าร่างบางที่เริ่มออกอาการงงๆ“ไปกันเลยมั้ย”
“ครับ”แต่ยังไม่ทันที่จะไปจริงๆกลับมีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับ พี่ใช่พี่ฉันทกรรึเปล่าครับ”
ซีหันไปตามเสียงเรียกเมื่อได้ยินชื่อตน จึงได้พบกับชายหนุ่มร่างเพรียวที่สูงพอๆกับเขา แต่ขาวกว่า ผมสีดำซอยระคออย่างเก๋ไก๋ รับกับใบหน้าที่มีแววง่วงงุนนั้นได้เป็นอย่างดี
พอซีเห็นว่าเป็นใครปุ๊ปก็ยิ้มออกมาทันที“ครับ มีอะไรหรอ”
“อ่าสวัสดีครับ ผมชื่อแอล ปีหนึ่งรหัส235ครับ พี่เป็นพี่รหัสผมใช่มั้ยครับ”รุ่นน้องผู้มาใหม่แนะนำตัวพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรแม้ตาจะยังดูตกๆแบบคนง่วงอยู่ก็ตาม
“อ่า ใช่ๆ หาเจอซักทีนะ”
“งั้นผมขอลายเซ็น…”ว่าแล้วก็ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเอาสมุดมาให้พี่รหัสตัวเองเซ็นสำหรับเป็นหลักฐานแต่กลับถูกซีห้ามเอาไว้ซะก่อน
“ไว้ก่อนนะวันนี้พี่มีธุระต้องไป ไว้พรุ้งนี้เที่ยงมาหาพี่ที่ชมรมคหกรรมนะ”
“อ่าครับ”
แล้วซีก็หันไปลาพี่ๆคนอื่นพร้อมดันเต้ก่อนจะหันมาโบกมือให้น้องรหัสอีกทีแล้วเดินคู่ไปกับร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่ง พอพ้นกลุ่มมาได้ซักพักดันเต้ก็เอ่ยทัก
“จะแกล้งน้องหรอเราน่ะ”
“มันเป็นธรรมเนียมอยู่แล้วนิครับ เซ็นให้ฟรีๆได้ไง”
ดังนั้นยามเที่ยงของวันต่อมาห้องชมรมคหกรรมที่ยังไม่มีสมาชิกคนอื่นมาใช้งานจึงมีโอกาสได้ต้อนรับแขกถึงสี่คน อันได้แก่น้องแอล พี่ดันเต้ที่โผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม้ที่ขอมาด้วยเมื่อเห็นหนุ่มลูกครึ่งแล้วน้องรหัสยังหาตนไม่เจอ และนิวที่ไม่ได้เจอมาหลายวันเพราะเจ้าตัวมัววุ่นกับการรับน้องของคณะตัวเอง เมื่อมีโอกาสซีเลยชวนมาด้วย ส่วนทอฝันนั้นกำลังไปทำการต้อนรับน้องรหัสตัวเองอยู่เช่นกันไม่สามารถมาเป็นผู้ช่วยรุ่นพี่หนุ่มได้
“เอานี้ กินให้หมดแล้วพี่ถึงจะเซ็นให้นะ”ซีว่าพรางวางจานข้าวผัดน้ำพริกนรกลงตรงหน้ารุ่นน้องที่ได้แต่จ้องตาแป่วตั้งแต่เข้าห้องมาก็ถูกบอกให้นั่งแล้วก็เห็นรุ่นพี่ร่างผอมคนนี้เดินไปทำอาหารอย่างไม่บอกอะไร
“แค่นี้หรอครับ”ยอมรับเลยว่าชายหนุ่มเตรียมตัวมาโดนแกล้งอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
“แค่นี้แหละ”ซีว่ายิ้มๆขณะที่แจกจ่ายจานข้าวให้คนอื่นๆแล้วนั่งลงเตรียมตัวจัดการข้าวในจานตัวเอง
แอลเห็นดังนั้นจึงลองตักข้าวเข้าปากคำนึง พอรู้รสชาติเท่านั้นก็รู้สึกเหมือนตื่นเต็มตารีบคว้าแก้วน้ำที่พี่รหัสยื้นมารออยู่แล้วมาซดอึกๆ
“เผ็ดงะ”
ซีหัวเราะเมื่อเห็นรุ่นน้องติดกับ“แน่นอน”
“แต่อร่อยดีนะครับ”ร่างบางยิ้มให้กับคำกล่าวนั้น แม้รุ่นน้องคนนี้จะดูง่วงซึมอยู่ตลอดเวลาแต่ก็มีส่วนน่ารักไม่ใช่น้อย ได้มาเป็นน้องรหัสก็ถือว่าเขาโชคดี
ดันเต้ทอดสายตามองซีอย่างเอ็นดู ที่การแกล้งของเจ้าตัวนั้นเหมือนการเลี้ยงข้าวรุ่นน้องเสียมากกว่า แต่ชายหนุ่มไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีสายตาหนึ่งสังเกตอยู่อย่างพิจารณา
แล้วพวกซีก็ลงมือกินกัน พวกเขากินไปคุยไปถึงได้รู้ว่าน้องแอลนั้นจะเลือกเรียนวิชาเอกเป็นสิ่งทอผิดกับเขาที่เรียนเอกอาหาร แล้วจากการคุยกันทำให้รู้ได้ว่ารุ่นน้องคนนี้ขี้เซาทีเดียว
เมื่อทั้งหมดจัดการอาหารในส่วนของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ซีก็ยอมเซ็นชื่อลงสมุดให้น้องแอลอย่างใจดี“เอ้าเรียบร้อย”
“ขอบคุณครับ อ่าผมขอนอนอยู่ที่นี่ซักพักได้มั้ยครับ”
“ได้สิ”พอได้รับอนุญาติเจ้าตัวก็จัดการเลื้อยลงไปฟุบกับโต๊ะทันใด แต่ยังไม่ทันจะหลับเสียงเรียกก็ดังกระหึมมาจากภายนอกก่อนที่เจ้าของเสียงจะปราฎกตัวเสียอีก
“แอล!!!”
“อาร์ต?”คนถูกเรียกผงกหัวขึ้นมาตอบรับนิดหน่อยแล้วทำท่าจะลงไปนอนต่อแต่กลับโดนมือของชายหนุ่มผู้มาใหม่คว้าคอไว้เสียก่อน
“มึงจะนอนไม่เลือกที่ไปถึงเมื่อไรกันฮะ! มึงมีเรียนบ่ายไม่ใช่เรอะไปได้แล้ว”ว่าแล้วก็ลากคอไปเลย“ผมขอตัวเพื่อนผมนะครับ”
คนโดนลากก็ไม่ได้ขัดขืนเพียงหันมากล่าวลาคนในห้องเท่านั้นแล้วทำท่าจะหลับต่อซะอย่างนั้น“พี่ๆหวัดดีครับ”มาไวไปไวขนาดที่นิวยังต้องอายเลยทีเดียว
ทุกคนก็ได้แต่มองตามอึ้งๆ ซีส่ายหัวไปมาขำๆแล้วรวบเก็บจานของคนอื่นๆเตรียมไปล้างที่อ่าง
“ซีเดี๋ยวเราช่วย”ไม้ขันอาสาแล้วเดินตรงไปทันที แล้วยังไม่ทันที่ดันเต้จะทำอะไรก็โดนนิวเรียกเอาไว้ซะก่อน
“พี่เต้ครับ ผมขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย”
“อ่าได้สิ”แล้วชายหนุ่มก็ตามการนำของร่างเล็กไปที่นอกห้อง เมื่อเรียบร้อยนิวก็เข้าประเด็นทันที
“เอาตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมนะครับ พี่คิดอะไรกับเพื่อนผมรึเปล่า”
“คิด”ดันเต้ตอบกลับทันไดแบบไม่เสียเวลาคิด จนคนถามเองยังอึ้ง
“ไม่คิดจะปกปิดกันเลยนะครับ พี่รู้ใช่มั้ยว่าซีเป็นผู้ชาย”
“พี่รู้อยู่แล้ว”
“ต่อให้ซีไม่มีทางคิดเกินเลยกับเพศเดียวกันก็ตามน่ะหรอครับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดเปลี่ยนใจ?”นิวถามย้ำเสียงเข้ม
“ถึงอยากจะเปลี่ยนมันก็เปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆแล้วละนะ แต่ถึงอย่างงนั้นพี่ก็ไม่เคยมีความคิดจะเปลี่ยนใจ”หนุ่มลูกครึ่งเองก็ตอบกลับอย่างหนักแน่นไม่แพ้กัน
ซึ่งนั่นทำให้นิววางใจ หากจะมีใครซักคนที่ซีสามารถพักพิงได้อย่างสบายใจ คนนั้นอาจจะเป็นพี่ดันเต้ก็ได้ เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมานั้น เขาก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนของตนนั้นเปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมือนจะสดใสร่าเริงขึ้น และดูผ่อนคลายกว่าที่เคยเป็นมา
“งั้นพี่ต้องพยายามมากหน่อยละนะครับ ถึงซีจะไม่ใช่คนหัวช้า แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้อยู่ในความคิดเลยเหมือนกัน ในหัวมีแต่เรื่องทำงานหาเงิน กับเรื่องเรียนให้จบ เรื่องความรักน่ะมันไม่เคยคิดเลยซักนิด ต้องใช้คำว่าไม่สนสินะ”
“พี่จะไม่ยอมแพ้หรอก”
“ก็ดีครับ”เมื่อเห็นแบบนี้แล้วหากบอกความจริงว่าซีคือคนเดียวกับผู้หญิงในงานเลี้ยงคืนนั้นคงจะไม่เป็นอะไรแน่นอน“งั้นผมคิดว่าถ้าพี่รู้เรื่องนี้คงไม่เป็นไร”
“หือ?”
“จริงๆแล้วซี…”
เพล้ง!!!
-------------------------------------------------------
ดีใจที่มีคนตามอ่านนะคะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ