Where are you my Princess? (Yaoi)
10.0
เขียนโดย C_W_C
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.
25 บท
3 วิจารณ์
35.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) แค่ยอมรับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “ซี”เสียงทุ่มนุ่มของคนที่คุ้นเคยดังเรียกมาจากด้านหลังเมื่อซีเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมไม้กับทอฝัน
ซีที่วันนี้ไร้รอยปกปิดจากแว่นกรอบบางอยากจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและเดินต่อไปหากหนุ่มลูกครึ่งไม่พูดว่าเอาแว่นมาคืนเขาเสียก่อน ถึงตอนนี้เขาจะใส่คอนแทคเลยส์แต่ก็ไม่ค่อยชอบมันเท่าไร
“พี่เอาแว่นมาคืน”
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปนะครับ”ซีรับแว่นมาและหมุดตัวกลับเดินจากไปอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะสบตาซักนิด
ดันเต้ยื้นมือไปหวังจะรั้งแขนร่างบางไว้แต่กลับโดนไม้แทรกตัวมาขวางไว้เสียก่อนจนร่างบางเดินลับไปไกล ดวงตาแข็งกร้าวของรุ่นน้องหนุ่มจ้องเขม็ง ก่อนจะหันกลับวิ่งตามเพื่อนตนไป เหลือไว้แต่ทอฝันที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละล้าละหลังอย่างไม่รู้ว่าจะทำไงดี
ดันเต้จึงหันไปยิ้มบางๆให้เป็นเชิงไม่เป็นไรแล้วให้หญิงสาวตามเพื่อนไป ทอฝันจึงพงกหัวเร็วให้รุ่นพี่หนุ่มทีหนึ่งแล้ววิ่งตามเพื่อนไปอีกคน
ดวงตาเรียวคมเหม่อมองตามไปชั่วครู่ ก่อนจะออกเดินกลับไปที่คณะของตนพรางคิดไปด้วยว่าหลังจากวันนั้นเขาก็เพียรพยายามหาคำตอบจากคำพูดที่ครุมเครือของเพื่อนสาวแต่ก็ไร้ผล เขายังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่ออยู่ดี แล้วยังต้องมาโดนรุ่นน้องหนุ่มหลบหน้าหนักกว่าเดิม
ดันเต้คิดเรื่องคำพูดของกวางและเรื่องของซีตลอดจนกลับไปเรียนพอเลิกก็ยังค่อยมีภาพดวงตาคู่สวยบนใบหน้าเนียนใสของรุ่นน้องหนุ่มตามหลอกหลอนอยู่ไม่ขาด
ร่างสูงเดินตามหลังเพื่อนไปอย่างเงียบๆ สายตามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างตามทางเดิน ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อมองไปเห็นร่างผอมบางที่กำลังทำกิจกรรมรับน้องอยู่ด้านล่าง
สถานที่จัดกิจกรรมรับน้องของคณะคหกรรมถูกจัดอยู่ใกล้ๆกับคณะเขานี่เอง วันนั้นถึงได้บังเอิญเจอร่างบางมาติดฝนอยู่ที่นี่
หนุ่มลูกครึ่งหยุดทอดสายตามองร่างบางกำลังวิ่งไปช่วยเพื่อนผู้หญิงถือของ บ่อยครั้งที่เขาบังเอิญเห็นซีโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก แต่เขามักเห็นร่างบางคอยช่วยคนอื่นอย่างเอื้อเฟื้อด้วยรอยยิ้มเต็มใจ แม้บางครั้งเขาจะเห็นว่ารอยยิ้มนั้นถูกฝืนให้คนมองสบายใจ
มันจึงชักนำให้เขาอยากเข้าไปใกล้ อยากไปมองรอยยิ้ม อยากได้ยินเสียง อยากเห็นใบหน้านั้นให้ชัดๆแต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นเหมือนจะเป็นไปได้อยากเหลือเกินเมื่อเขาดูเหมือนจะทำพลาดไปครั้งใหญ่
ร่างผอมบางของซีเดินไปมาภายในร้านอาหารอย่างขมักเขม่น หลักจากวันนั้นซีใจจดใจจ่ออยู่กับงานที่ทำมากขึ้น เข้าไปรับงานทำงานทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองยุ่งจนไม่มีเวลาว่างคิดถึงใบหน้าของหนุ่มลูกครึ่ง เขายังรู้สึกละอายใจในความเห็นแก่ตัวของตัวเองเกินกว่าจะสู้หน้าชายหนุ่มได้
เขาหลบหน้าอีกฝ่ายอย่างจงใจแบบที่รู้ว่ายังไงพี่ดันเต้ก็รู้ตัวแน่ๆ บังเอิญเจอเขาก็จะหนี หรือพี่เขามาดักที่ร้าน ตัวเขาก็จะหนีไปหลังร้าน
“ซี แกจะไม่บอกความจริงกับพี่ดันเต้แล้วหรอ” นิวถามขึ้นเมื่อเพื่อนนำอาหารที่สั่งมาเสริฟ วันนี้เขาตามมาที่ร้านด้วยยังห่วงอาการของเพื่อนที่ดูไม่ปกติดี
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้…อีกนิดน่ะ ขอเวลาอีกนิด”
เมื่อนิวกินข้าวเสร็จก็กลับเลยเพื่อไปจัดการงานที่บ้านต่อ ซีเองพอเสร็จงานที่ร้านออกมาเขาก็ต้องชะงักเมื่อออกมาเจอกับสายฝนที่ตกกระหน่ำ ดวงตาคู่สวยเหม่อมองเศร้าๆก่อนที่ร่างบางจะก้มมองนาฬิกาอย่างชั่งใจ หากเขาไม่ไปตอนนี้ละก็จะไปเข้างานที่บาร์สายได้ เจ้าตัวเลยตวัดเอาเป๋มากอดแนบอกแต่ก็ต้องสะดุดไปนิดที่จู่ๆคำพูดและเสียงที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในหัว
‘ถ้าคิดจะฝ่าฝนละก็ไม่เอาเป๋มาบังหัวไว้ละ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ’
ซีรีบสะบัดหัวไล่เสียงนั้นทิ้งไปก่อนจะก้าวออกไปเผชิญกับสายฝน แล้วรีบรุดตรงไปที่บาร์ทันที ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ชอบฝนเลยจริงๆ
“ซีเป็นอะไรหรือเปล่าสีหน้าไม่ดีเลย”ไม้ทักเหมือนเห็นหน้าเพื่อนซีดขาวและดูสีหน้าไม่ค่อยดีระหว่างที่เขา ทอฝันและซีกำลังลงบันไดอาคารเพื่อเดินไปที่รับน้อง
“อ่าไม่เป็นไรๆ”
“ถ้าไม่ไหวไปห้องพยาบาลก่อนมั้ยซี”ฝันร้องบอกอย่างเป็นห่วงซึ่งซีเพียงหันกลับมาส่งยิ้มให้เพื่อนเป็นเชิงไม่ต้องเป็นกังวลแล้วเดินนำลงบันไดไป
ซีพอจะรู้ว่าเขาคงถูกหวัดกินเข้าให้ซะแล้ว ตั้งแต่ตากฝนเมื่อเย็นวานตื่นเช้ามาก็รู้สึกครั้นเนื้อครั้งตัวไปหมด แม้เขาจะกินยาดักเข้าไปแล้ว แต่ดูไม่ดีขึ้นเท่าไรเมื่อตอนเช้าเขาต้องขับรถมาส่งพี่สาวที่มหาลัยแล้วพากลับในตอนเที่ยง ลงจากรถเย็นๆมาต่อขึ้นรถเมล์เดินกลางแดดร้อนๆตอนเที่ยงวัน เล่นเอาเขาเพลียและตาลายไปหมด
ซีเดินนำลงจากเชิงบันไดมาได้สองสามขั้น ก็เห็นขั้นบันไดเป็นภาพซ้อน มือบางจับราวไว้แน่นส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นคลึงที่ขมับครู่เดียวก็ดีขึ้น แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินต่อภาพทุกอย่างก็ดับมืดลง
“ซี!!!”
“ไงรักษ์”ดันเต้ทักเมื่อเห็นเพื่อนผิวเข้มเดินผ่านหน้าไป วันนี้เขาก็มาที่คณะคหกรรมอีกเพื่อหวังมาดักเจอร่างบางอีกเหมือนเคย
คนถูกทักหันกลับมามองคนเรียกด้วยใบหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นเดิม ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าหนุ่มลูกครึ่งมาทำอะไรที่นี่ ตามแบบฉับบคนขี้เกียจพูด
“พอดีจะมาหาน้องซีน่ะ แล้วแกละจะไปไหน?”รักษ์ตอบกลับโดยชี้ไปตรงทางเดิน อย่างไม่คิดว่าจะมีใครไม่เข้าใจ
“ห้องชมรมสินะ”เขาก็อุส่าเดาออกนะ ขำกับตัวเองอยู่ในใจก่อนจะเดินคู่ไปกับเพื่อนเมื่อเห็นว่าเป็นทางเดียวกัน
“ซี!!!”เสียงตะโกนลั่นดังไปทั่วทั้งทางเดิน เรียกให้สองหนุ่มต้องหันไปมองตามโดยฉับพลัน
ดันเต้เห็นร่างบางของคนที่เขากำลังจะมาหาโงนเงนอยู่บนบันได ร่างสูงก็รีบพุ่งตรงไปก่อนสมองสั่ง รอรับร่างบางที่กำลังล้มลงมาเบื้องล่าง แต่สิ่งที่รับไว้มีเพียงความว่างเปล่า เมื่อข้อมือของซีถูกฉุดเข้าสู่อ้อมอกของเพื่อนชายข้างกายไปเสียก่อน
ไม้โอบประคองร่างของคนที่เขาคิดเกินเพื่อนอย่างทะนุถนอม อุณหภูมิของร่างกายที่ส่งผ่านผิวเนื้อมานั้นร้อนจี๊ ทำให้เขารีบช้อนร่างผอมบางขึ้นแล้วจะเดินลงบันไดเพื่อตรงไปห้องพยาบาล แต่แล้วสายตาก็สบเข้ากับคนที่ยืนอยู่เบื้องล่าง คนที่เขาไม่ถูกชะตาเป็นที่สุด
ไม้อุ้มซีลงบันไดมาจนเผชิญหน้ากับร่างสูง ทั้งคู่สบประสานนัยน์ตากันอยู่ชั่วครู่ บันยากาศรอบข้างเย็นเหยียบ ก่อนที่ดันเต้จะเป็นฝ่ายหลบแล้วเบี่ยงตัวให้ไม้เดินผ่านไป
ดันเต้มองตามหลังชายหนุ่มอย่างสบสน ชั่ววินาทีที่ได้เห็นร่างบางตกอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นมันทำให้เขาอยากตรงไปกระชากชายคนนั้นออกมา
“อ่า พี่ดันเต้ตามไปดูซีด้วยกันมั้ยคะ”ทอฝันถามอย่างกล้าๆกลัวเมื่อเห็นรุ่นพี่หนุ่มยืนทำหน้าน่ากลัวอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึก
“จู่ๆน้องซีเป็นอะไร?”
“เหมือนจะไม่สบายอะค่ะ หน้างี้ซีดมากเลย”
“ซี เป็นยังไงบ้าง!”นิววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตะโกนเสียงดังในห้องพยาบาลเมื่อพี่รักษ์โทรไปบอกว่าซีเป็นลมเข้าห้องพยาบาล
“นิว เบาๆหน่อยสิยะ นี่มันห้องพยาบาลนะ”ทอฝันหันไปเอ็ดเพื่อนเมื่อเห็นอาจารย์ห้องพยาบาลหันมาทำตาเขียวใส่
นิวหันไปพงกๆหัวขอโทษขอโพยอาจารย์ยกใหญ่ ซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงส่งสายตาคาดโทษมาให้แล้วเดินออกจากห้องไปทำธุระ
“แล้วอาการซีเป็นไง”
“ก็มีไข้น่ะ ตั้ง38องศา ยังอุส่ามาเรียนอีก”หยิงสาวตอบแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนที่ยังคงนอนหลับไม่ได้สติอย่างเป็นห่วง ตอนนี้พวกเธออยู่กันที่ห้องพยาบาลโดยมีเธอยืนอยู่กับไม้แล้วอีกฝั่งใกล้ประตูมีพี่ดันเต้กับพี่รักษ์ยืนมองอยู่
“มันเป็นของมันแบบนั้นละนะ กี่ครั้งแล้วที่ไม่สบายแบบนี้แล้วยังจะฝืน ต้องมานั่งทำงาน มานั่งตามใจยัยสองสาวนั่น ไม่เหนื่อยตายซะก่อนก็บุญแล้ว พูดแล้วเตือนแล้วก็ไม่ยอมฟังกันมั้ง”นิวบ่นร่ายยยาวอย่างนึกฉุนเพื่อนตัวเอง จนไปสะกิตความสงสัยของหนุ่มลูกครึ่งเข้า
“ทำไมซีต้องทำงานเยอะแบบนั้นด้วย”
“หาเงินไงละ เพื่อนจะได้ออกจากบ้านที่ไม่เคยคิดแยแสซีเลยนั่นน่ะ”นิวหันมาตอบกลับทันควัน แต่ก็ดูยังไม่กระจ่าง ทอฝันเลยเงยหน้าขึ้นไปอธิบายเพิ่มเติม
“คือว่าซีเป็นลูกเลี้ยงน่ะค่ะ”
“ลูกเลี้ยง?”
“พ่อของซีแต่งงานใหม่ แล้วจู่ๆก็เสียไปแบบกระทันหันค่ะ หลังจากนั้นคนที่มาเป็นแม่ใหม่ซีก็ไม่เคยสนใจซีอีก ซีเลยต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองค่ะ”
“แล้วยัยสองสาวแพรวพิณนั้นก็เอาแต่ใจเข้าขั้น ใช้งานซีเป็นว่าเล่น!”นิวแทรกอย่างเคืองๆเมื่อนึกไปถึงหน้ายัยสองคนนั้น
“เพราะใจดีและใจอ่อนแบบนี้ไงละ”ไม้กล่าวขึ้นเบาๆพรางทอดสายตาห่วงใยเป็นพิเศษให้ร่างบางอย่างไม่ปิดบัง
ดันเต้ได้แต่มองสายตานั้นแล้วนิ่งเงียบ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับร่างบางเลยซักนิด…
และในขณะนั้นเองร่างบางก็ส่งเสียงคราง แล้วเริ่มขยับตัวลุกขึ้นไม้จึงเข้าไปช่วยประคองให้ซีนั่งพิงหัวเตียงได้ถนัด คนพึ่งฟื้นยกมือขึ้นกุมขมับเมื่อมันจู่ๆก็รู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมา
“อ่า เราสงบไปงั้นหรอ”
“ใช่ โชคดีที่ไม้คว้าไว้ทันนะ”ทอฝันตอบ ไม้จึงหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนหนุ่ม
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร ไม้ไม่ยอมให้ซีเป็นอะไรหรอก”ไม้ว่าพร้อมส่งสายตาสื่อความหมายที่ซีไม่อาจเข้าใจ แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นคนที่เขาไม่เจอหน้าที่สุดในขณะนี้
“พี่ดันเต้”
ซีอุทานชื่อรุ่นพี่หนุ่มก่อนจะเงียบและหลบสายตาไป บรรยากาศระหว่างทั้งสองหนักอึ้งต่างฝ่ายต่างมีเรื่องที่อยากพูดแต่กลับไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขึ้นก่อน ทอฝันเห็นท่าไม่ดีเลยเริ่มจัดการในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควรทำ
“อ๊าย~ ไม้เราไปช่วยงานรับน้องกันเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ตรงนู้นคนเยอะแยะ”
“ไม่ได้ๆ ปัดหน้าที่ให้คนอื่นไม่ดีน้า ซีก็มีคนดูแลเยอะแยะแล้ว”ไม่ว่าเปล่ายังตรงไปฉุด(กระชาก)ร่างเพื่อนให้ตรงไปที่ประตูทันทีแม้ชายหนุ่มจะพยายามขัดขืนก็ตาม
“แต่ว่า…”
“ไปเถอะไม้ เราโอเคแล้ว”เมื่อซีเห็นฉากยื้อยุดระหว่างเพื่อนสองหนุ่มสาวที่แสนจะทุลักทุเลแล้วก็อดจะพูดอะไรออกมาไม่ได้
ทอฟ้ายิ้มแฉ่งผิดกับไม้ที่มีสีหน้าลังเลใจแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เมื่อโดนเพื่อนสาวตัวดีลากออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อความวุ่นวายย่อมๆผ่านพ้นไป เรื่องวุ่นใหม่ก็ตามมาเมื่ออยู่ๆชายหนุ่มหน้านิ่งก็ก้าวพรวดไปประชิดตัวนิวก่อนจะคว้าหมับเข้าที่แขนแล้วจับลากทันทีเช่นเดียวกัน
“เฮ้ย! พี่รักษ์ทำไรเนี่ย”
“ซื้อของ”
“ซื้ออีกแล้วงั้นหรอ! ปล่อยนิวน้า นิวจะอยู่กับซี ไม่ไป!”คราวนี้คนตัวเล็กไม่ยอมให้โดนลากไปง่ายๆทั้งดิ้นทั้งสะบัดจนรุ่นพี่หนุ่มทนไม่ไหวก้มลงจับร่างเล็กขึ้นพาดบ่าให้เจ้าตัวต้องร้องเหวอ และก่อนจะจากไปรักษ์หันกลับมาพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินลับประตูห้องไปอีกคน
“เต้”
“หือ?”
“ที่กวางพูด แค่ยอมรับก็จะเข้าใจ”
ซีที่วันนี้ไร้รอยปกปิดจากแว่นกรอบบางอยากจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและเดินต่อไปหากหนุ่มลูกครึ่งไม่พูดว่าเอาแว่นมาคืนเขาเสียก่อน ถึงตอนนี้เขาจะใส่คอนแทคเลยส์แต่ก็ไม่ค่อยชอบมันเท่าไร
“พี่เอาแว่นมาคืน”
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปนะครับ”ซีรับแว่นมาและหมุดตัวกลับเดินจากไปอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะสบตาซักนิด
ดันเต้ยื้นมือไปหวังจะรั้งแขนร่างบางไว้แต่กลับโดนไม้แทรกตัวมาขวางไว้เสียก่อนจนร่างบางเดินลับไปไกล ดวงตาแข็งกร้าวของรุ่นน้องหนุ่มจ้องเขม็ง ก่อนจะหันกลับวิ่งตามเพื่อนตนไป เหลือไว้แต่ทอฝันที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละล้าละหลังอย่างไม่รู้ว่าจะทำไงดี
ดันเต้จึงหันไปยิ้มบางๆให้เป็นเชิงไม่เป็นไรแล้วให้หญิงสาวตามเพื่อนไป ทอฝันจึงพงกหัวเร็วให้รุ่นพี่หนุ่มทีหนึ่งแล้ววิ่งตามเพื่อนไปอีกคน
ดวงตาเรียวคมเหม่อมองตามไปชั่วครู่ ก่อนจะออกเดินกลับไปที่คณะของตนพรางคิดไปด้วยว่าหลังจากวันนั้นเขาก็เพียรพยายามหาคำตอบจากคำพูดที่ครุมเครือของเพื่อนสาวแต่ก็ไร้ผล เขายังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการสื่ออยู่ดี แล้วยังต้องมาโดนรุ่นน้องหนุ่มหลบหน้าหนักกว่าเดิม
ดันเต้คิดเรื่องคำพูดของกวางและเรื่องของซีตลอดจนกลับไปเรียนพอเลิกก็ยังค่อยมีภาพดวงตาคู่สวยบนใบหน้าเนียนใสของรุ่นน้องหนุ่มตามหลอกหลอนอยู่ไม่ขาด
ร่างสูงเดินตามหลังเพื่อนไปอย่างเงียบๆ สายตามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างตามทางเดิน ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อมองไปเห็นร่างผอมบางที่กำลังทำกิจกรรมรับน้องอยู่ด้านล่าง
สถานที่จัดกิจกรรมรับน้องของคณะคหกรรมถูกจัดอยู่ใกล้ๆกับคณะเขานี่เอง วันนั้นถึงได้บังเอิญเจอร่างบางมาติดฝนอยู่ที่นี่
หนุ่มลูกครึ่งหยุดทอดสายตามองร่างบางกำลังวิ่งไปช่วยเพื่อนผู้หญิงถือของ บ่อยครั้งที่เขาบังเอิญเห็นซีโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก แต่เขามักเห็นร่างบางคอยช่วยคนอื่นอย่างเอื้อเฟื้อด้วยรอยยิ้มเต็มใจ แม้บางครั้งเขาจะเห็นว่ารอยยิ้มนั้นถูกฝืนให้คนมองสบายใจ
มันจึงชักนำให้เขาอยากเข้าไปใกล้ อยากไปมองรอยยิ้ม อยากได้ยินเสียง อยากเห็นใบหน้านั้นให้ชัดๆแต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นเหมือนจะเป็นไปได้อยากเหลือเกินเมื่อเขาดูเหมือนจะทำพลาดไปครั้งใหญ่
ร่างผอมบางของซีเดินไปมาภายในร้านอาหารอย่างขมักเขม่น หลักจากวันนั้นซีใจจดใจจ่ออยู่กับงานที่ทำมากขึ้น เข้าไปรับงานทำงานทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองยุ่งจนไม่มีเวลาว่างคิดถึงใบหน้าของหนุ่มลูกครึ่ง เขายังรู้สึกละอายใจในความเห็นแก่ตัวของตัวเองเกินกว่าจะสู้หน้าชายหนุ่มได้
เขาหลบหน้าอีกฝ่ายอย่างจงใจแบบที่รู้ว่ายังไงพี่ดันเต้ก็รู้ตัวแน่ๆ บังเอิญเจอเขาก็จะหนี หรือพี่เขามาดักที่ร้าน ตัวเขาก็จะหนีไปหลังร้าน
“ซี แกจะไม่บอกความจริงกับพี่ดันเต้แล้วหรอ” นิวถามขึ้นเมื่อเพื่อนนำอาหารที่สั่งมาเสริฟ วันนี้เขาตามมาที่ร้านด้วยยังห่วงอาการของเพื่อนที่ดูไม่ปกติดี
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้…อีกนิดน่ะ ขอเวลาอีกนิด”
เมื่อนิวกินข้าวเสร็จก็กลับเลยเพื่อไปจัดการงานที่บ้านต่อ ซีเองพอเสร็จงานที่ร้านออกมาเขาก็ต้องชะงักเมื่อออกมาเจอกับสายฝนที่ตกกระหน่ำ ดวงตาคู่สวยเหม่อมองเศร้าๆก่อนที่ร่างบางจะก้มมองนาฬิกาอย่างชั่งใจ หากเขาไม่ไปตอนนี้ละก็จะไปเข้างานที่บาร์สายได้ เจ้าตัวเลยตวัดเอาเป๋มากอดแนบอกแต่ก็ต้องสะดุดไปนิดที่จู่ๆคำพูดและเสียงที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในหัว
‘ถ้าคิดจะฝ่าฝนละก็ไม่เอาเป๋มาบังหัวไว้ละ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ’
ซีรีบสะบัดหัวไล่เสียงนั้นทิ้งไปก่อนจะก้าวออกไปเผชิญกับสายฝน แล้วรีบรุดตรงไปที่บาร์ทันที ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ชอบฝนเลยจริงๆ
“ซีเป็นอะไรหรือเปล่าสีหน้าไม่ดีเลย”ไม้ทักเหมือนเห็นหน้าเพื่อนซีดขาวและดูสีหน้าไม่ค่อยดีระหว่างที่เขา ทอฝันและซีกำลังลงบันไดอาคารเพื่อเดินไปที่รับน้อง
“อ่าไม่เป็นไรๆ”
“ถ้าไม่ไหวไปห้องพยาบาลก่อนมั้ยซี”ฝันร้องบอกอย่างเป็นห่วงซึ่งซีเพียงหันกลับมาส่งยิ้มให้เพื่อนเป็นเชิงไม่ต้องเป็นกังวลแล้วเดินนำลงบันไดไป
ซีพอจะรู้ว่าเขาคงถูกหวัดกินเข้าให้ซะแล้ว ตั้งแต่ตากฝนเมื่อเย็นวานตื่นเช้ามาก็รู้สึกครั้นเนื้อครั้งตัวไปหมด แม้เขาจะกินยาดักเข้าไปแล้ว แต่ดูไม่ดีขึ้นเท่าไรเมื่อตอนเช้าเขาต้องขับรถมาส่งพี่สาวที่มหาลัยแล้วพากลับในตอนเที่ยง ลงจากรถเย็นๆมาต่อขึ้นรถเมล์เดินกลางแดดร้อนๆตอนเที่ยงวัน เล่นเอาเขาเพลียและตาลายไปหมด
ซีเดินนำลงจากเชิงบันไดมาได้สองสามขั้น ก็เห็นขั้นบันไดเป็นภาพซ้อน มือบางจับราวไว้แน่นส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นคลึงที่ขมับครู่เดียวก็ดีขึ้น แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินต่อภาพทุกอย่างก็ดับมืดลง
“ซี!!!”
“ไงรักษ์”ดันเต้ทักเมื่อเห็นเพื่อนผิวเข้มเดินผ่านหน้าไป วันนี้เขาก็มาที่คณะคหกรรมอีกเพื่อหวังมาดักเจอร่างบางอีกเหมือนเคย
คนถูกทักหันกลับมามองคนเรียกด้วยใบหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นเดิม ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าหนุ่มลูกครึ่งมาทำอะไรที่นี่ ตามแบบฉับบคนขี้เกียจพูด
“พอดีจะมาหาน้องซีน่ะ แล้วแกละจะไปไหน?”รักษ์ตอบกลับโดยชี้ไปตรงทางเดิน อย่างไม่คิดว่าจะมีใครไม่เข้าใจ
“ห้องชมรมสินะ”เขาก็อุส่าเดาออกนะ ขำกับตัวเองอยู่ในใจก่อนจะเดินคู่ไปกับเพื่อนเมื่อเห็นว่าเป็นทางเดียวกัน
“ซี!!!”เสียงตะโกนลั่นดังไปทั่วทั้งทางเดิน เรียกให้สองหนุ่มต้องหันไปมองตามโดยฉับพลัน
ดันเต้เห็นร่างบางของคนที่เขากำลังจะมาหาโงนเงนอยู่บนบันได ร่างสูงก็รีบพุ่งตรงไปก่อนสมองสั่ง รอรับร่างบางที่กำลังล้มลงมาเบื้องล่าง แต่สิ่งที่รับไว้มีเพียงความว่างเปล่า เมื่อข้อมือของซีถูกฉุดเข้าสู่อ้อมอกของเพื่อนชายข้างกายไปเสียก่อน
ไม้โอบประคองร่างของคนที่เขาคิดเกินเพื่อนอย่างทะนุถนอม อุณหภูมิของร่างกายที่ส่งผ่านผิวเนื้อมานั้นร้อนจี๊ ทำให้เขารีบช้อนร่างผอมบางขึ้นแล้วจะเดินลงบันไดเพื่อตรงไปห้องพยาบาล แต่แล้วสายตาก็สบเข้ากับคนที่ยืนอยู่เบื้องล่าง คนที่เขาไม่ถูกชะตาเป็นที่สุด
ไม้อุ้มซีลงบันไดมาจนเผชิญหน้ากับร่างสูง ทั้งคู่สบประสานนัยน์ตากันอยู่ชั่วครู่ บันยากาศรอบข้างเย็นเหยียบ ก่อนที่ดันเต้จะเป็นฝ่ายหลบแล้วเบี่ยงตัวให้ไม้เดินผ่านไป
ดันเต้มองตามหลังชายหนุ่มอย่างสบสน ชั่ววินาทีที่ได้เห็นร่างบางตกอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่นมันทำให้เขาอยากตรงไปกระชากชายคนนั้นออกมา
“อ่า พี่ดันเต้ตามไปดูซีด้วยกันมั้ยคะ”ทอฝันถามอย่างกล้าๆกลัวเมื่อเห็นรุ่นพี่หนุ่มยืนทำหน้าน่ากลัวอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้สึก
“จู่ๆน้องซีเป็นอะไร?”
“เหมือนจะไม่สบายอะค่ะ หน้างี้ซีดมากเลย”
“ซี เป็นยังไงบ้าง!”นิววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตะโกนเสียงดังในห้องพยาบาลเมื่อพี่รักษ์โทรไปบอกว่าซีเป็นลมเข้าห้องพยาบาล
“นิว เบาๆหน่อยสิยะ นี่มันห้องพยาบาลนะ”ทอฝันหันไปเอ็ดเพื่อนเมื่อเห็นอาจารย์ห้องพยาบาลหันมาทำตาเขียวใส่
นิวหันไปพงกๆหัวขอโทษขอโพยอาจารย์ยกใหญ่ ซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงส่งสายตาคาดโทษมาให้แล้วเดินออกจากห้องไปทำธุระ
“แล้วอาการซีเป็นไง”
“ก็มีไข้น่ะ ตั้ง38องศา ยังอุส่ามาเรียนอีก”หยิงสาวตอบแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนที่ยังคงนอนหลับไม่ได้สติอย่างเป็นห่วง ตอนนี้พวกเธออยู่กันที่ห้องพยาบาลโดยมีเธอยืนอยู่กับไม้แล้วอีกฝั่งใกล้ประตูมีพี่ดันเต้กับพี่รักษ์ยืนมองอยู่
“มันเป็นของมันแบบนั้นละนะ กี่ครั้งแล้วที่ไม่สบายแบบนี้แล้วยังจะฝืน ต้องมานั่งทำงาน มานั่งตามใจยัยสองสาวนั่น ไม่เหนื่อยตายซะก่อนก็บุญแล้ว พูดแล้วเตือนแล้วก็ไม่ยอมฟังกันมั้ง”นิวบ่นร่ายยยาวอย่างนึกฉุนเพื่อนตัวเอง จนไปสะกิตความสงสัยของหนุ่มลูกครึ่งเข้า
“ทำไมซีต้องทำงานเยอะแบบนั้นด้วย”
“หาเงินไงละ เพื่อนจะได้ออกจากบ้านที่ไม่เคยคิดแยแสซีเลยนั่นน่ะ”นิวหันมาตอบกลับทันควัน แต่ก็ดูยังไม่กระจ่าง ทอฝันเลยเงยหน้าขึ้นไปอธิบายเพิ่มเติม
“คือว่าซีเป็นลูกเลี้ยงน่ะค่ะ”
“ลูกเลี้ยง?”
“พ่อของซีแต่งงานใหม่ แล้วจู่ๆก็เสียไปแบบกระทันหันค่ะ หลังจากนั้นคนที่มาเป็นแม่ใหม่ซีก็ไม่เคยสนใจซีอีก ซีเลยต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองค่ะ”
“แล้วยัยสองสาวแพรวพิณนั้นก็เอาแต่ใจเข้าขั้น ใช้งานซีเป็นว่าเล่น!”นิวแทรกอย่างเคืองๆเมื่อนึกไปถึงหน้ายัยสองคนนั้น
“เพราะใจดีและใจอ่อนแบบนี้ไงละ”ไม้กล่าวขึ้นเบาๆพรางทอดสายตาห่วงใยเป็นพิเศษให้ร่างบางอย่างไม่ปิดบัง
ดันเต้ได้แต่มองสายตานั้นแล้วนิ่งเงียบ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับร่างบางเลยซักนิด…
และในขณะนั้นเองร่างบางก็ส่งเสียงคราง แล้วเริ่มขยับตัวลุกขึ้นไม้จึงเข้าไปช่วยประคองให้ซีนั่งพิงหัวเตียงได้ถนัด คนพึ่งฟื้นยกมือขึ้นกุมขมับเมื่อมันจู่ๆก็รู้สึกปวดจี๊ดขึ้นมา
“อ่า เราสงบไปงั้นหรอ”
“ใช่ โชคดีที่ไม้คว้าไว้ทันนะ”ทอฝันตอบ ไม้จึงหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนหนุ่ม
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร ไม้ไม่ยอมให้ซีเป็นอะไรหรอก”ไม้ว่าพร้อมส่งสายตาสื่อความหมายที่ซีไม่อาจเข้าใจ แต่แล้วดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นคนที่เขาไม่เจอหน้าที่สุดในขณะนี้
“พี่ดันเต้”
ซีอุทานชื่อรุ่นพี่หนุ่มก่อนจะเงียบและหลบสายตาไป บรรยากาศระหว่างทั้งสองหนักอึ้งต่างฝ่ายต่างมีเรื่องที่อยากพูดแต่กลับไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขึ้นก่อน ทอฝันเห็นท่าไม่ดีเลยเริ่มจัดการในสิ่งที่คิดว่าตัวเองควรทำ
“อ๊าย~ ไม้เราไปช่วยงานรับน้องกันเถอะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ตรงนู้นคนเยอะแยะ”
“ไม่ได้ๆ ปัดหน้าที่ให้คนอื่นไม่ดีน้า ซีก็มีคนดูแลเยอะแยะแล้ว”ไม่ว่าเปล่ายังตรงไปฉุด(กระชาก)ร่างเพื่อนให้ตรงไปที่ประตูทันทีแม้ชายหนุ่มจะพยายามขัดขืนก็ตาม
“แต่ว่า…”
“ไปเถอะไม้ เราโอเคแล้ว”เมื่อซีเห็นฉากยื้อยุดระหว่างเพื่อนสองหนุ่มสาวที่แสนจะทุลักทุเลแล้วก็อดจะพูดอะไรออกมาไม่ได้
ทอฟ้ายิ้มแฉ่งผิดกับไม้ที่มีสีหน้าลังเลใจแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เมื่อโดนเพื่อนสาวตัวดีลากออกจากห้องไปเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อความวุ่นวายย่อมๆผ่านพ้นไป เรื่องวุ่นใหม่ก็ตามมาเมื่ออยู่ๆชายหนุ่มหน้านิ่งก็ก้าวพรวดไปประชิดตัวนิวก่อนจะคว้าหมับเข้าที่แขนแล้วจับลากทันทีเช่นเดียวกัน
“เฮ้ย! พี่รักษ์ทำไรเนี่ย”
“ซื้อของ”
“ซื้ออีกแล้วงั้นหรอ! ปล่อยนิวน้า นิวจะอยู่กับซี ไม่ไป!”คราวนี้คนตัวเล็กไม่ยอมให้โดนลากไปง่ายๆทั้งดิ้นทั้งสะบัดจนรุ่นพี่หนุ่มทนไม่ไหวก้มลงจับร่างเล็กขึ้นพาดบ่าให้เจ้าตัวต้องร้องเหวอ และก่อนจะจากไปรักษ์หันกลับมาพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินลับประตูห้องไปอีกคน
“เต้”
“หือ?”
“ที่กวางพูด แค่ยอมรับก็จะเข้าใจ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ