Where are you my Princess? (Yaoi)

10.0

เขียนโดย C_W_C

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.

  25 บท
  3 วิจารณ์
  35.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) รู้สึกตัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

               หลังเสียงเอะอะจบลงก็เหลือไว้พียงความเงียบน่าอึดอัด ชายหนุ่มสองคนที่เหลืออยู่ในห้องไม่มีใครยอมเอ่ยอะไรขึ้น จนสุดท้ายแล้วซีก็ทนไม่ไหวกับสายตาที่จับจ้องมาจึงทำท่าจะลุกขึ้นและทำลายความเงียบขึ้นก่อน

               “พี่ดันเต้กลับเถอะครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว เดี๋ยวผมก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน”อาจเพราะลุกเร็วเกินไปบวกกับพิษไข้ที่โจมตี ทำให้ซีโลกหมุนซวยเซจะล้มลงหากไม่มีอ้อมแขนแกร่งเข้ามาโอบประครองไว้เสียก่อน

               “คุยกันก่อนสิ”

               “ผมต้องไปทำงาน”ร่างบางพยามจะดันตัวออกแต่ขากลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรง หัวก็ปวดตุบๆ หายใจก็ลำบากจึงไม่อาจหลุดพ้นไปได้เลยซ้ำยังต้องคอยยึดคนตรงหน้าไม่ไห้ล้มลงไปด้วยซ้ำ

               “ไม่สบายแบบนี้เราไปทำไม่ไหวหรอก พักเถอะ”

               “ผมดีขึ้นมากแล้วครับ”

               เมื่อดูท่าคนตรงหน้าจะดื้อกว่าที่คิดหนุ่มลูกครึ่งจึงต้องงัดนิสัยของเจ้าตัวมาใช้“จะเอาหวัดไปติดลูกค้างั้นหรอ”

               “ผมไม่….”

               “แรงจะยืนยังไม่มีเลย จะไปทำให้ร้านเขาเดือดร้อนมากกว่านะ”ดันเต้แทรกขึ้นอย่างไม่ยอมให้ร่างบางคัดค้าน

               พอโดนพูดแบบนี้เข้า ซีก็หมดข้ออ้างที่จะเถียงจึงได้แต่ยอมให้รุ่นพี่หนุ่มประคองกลับลงไปที่เตียงแต่โดยดี และยอมหยิบเอามือถือขึ้นมาต่อสายถึงที่ร้านอาหารและที่บาร์เพื่อขอลาหยุดงาน

               ในขณะที่ซีคุยโทรศัพย์อยู่นั้นร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่งก็เดินไปลื้อๆตู้ภายในห้องพยาบาลแล้วหยิบเอายาแก้ไข้มาสองเม็ดพร้อมเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาให้เสร็จสรรพเมื่อเห็นร่างบางคุยโทรศัพท์เสร็จจึงยื้นทั้งสองสิ่งไปให้ตรงหน้า      

               “กินยานะ”ซีรับไปกินแต่โดยดีก่อนจะยื้นแก้วน้ำคืนให้ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไว้ล้างเก็บให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะเดินลากเก้าอี้มานั่งลงที่ข้างเตียง

               “พี่ขอโทษ”ดันเต้พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้คนที่นั่งอยู่บนเตียงชะงักไป

               “ที่พูดกับซีแบบนั้น คงไม่ชอบใจสินะ”

               “ไม่หรอกครับ”คนที่ไม่ดีคือเขาต่างหากที่เห็นแก่ตัว ไม่ยอมพูดความจริงออกไป

               “แต่ซีหลบหน้าพี่ ใช่มั้ย?”

               “ผม…”ซีหวังจะแก้ตัวแต่ก็ไม่อาจหาคำดีๆมาอธิบายอะไรได้เลยว่าเหตุที่ตนหลบหน้าอีกฝ่ายเพราะรู้สึกละอายใจจนไม่กล้าสู้หน้า จึงได้แต่เงียบไปและก้มหน้ามองมือทั้งสองข้างนิ่ง

               ดันเต้เห็นดังนั้น มือหนาจึงเอื้อมไปประคองแก้มบางให้หันมาเผชิญหน้ากัน“พี่ขอโทษ พี่จะไม่พูดแบบนั้นอีก ซีอย่าหลบหน้าพี่เลยได้มั้ย”

               ดวงตาสีอ่อนลึกล้ำเต็มไปด้วยแววอ้อนวอนที่ซีไม่อาจปฎิเสธได้เลย“ครับ”

               “เราดีกันแล้วนะ”เมื่อเห็นร่างบางยอมรับคำ หนุ่มลูกครึ่งก็ระบายยิ้มกว้าง ดวงตาพราวระริกอย่างดีใจราวเด็กเล็กๆที่ได้ของเล่นใหม่

               ท่าทางดีใจเหลือเกินนั้น ทำให้คนมองอย่างซีรู้สึกเหมือนไข้ขึ้น หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเป็นกลองศึก เลือกในกายต่างพากันสูบฉีดขึ้นไปรวมกันอยู่ที่ใบหน้าจนเจ้าตัวรู้สึกได้

               “เอ้าไข้ขึ้นแล้วนะหน้าแดงเชียว นอนพักอีกซักหน่อยแล้วค่อยกลับนะ”

               เพื่อหลบซ่อนใบหน้าแดงๆนั้น ซียอมนอนลงตามการประคองของรุ่นพี่หนุ่มอย่างว่าง่าย แต่เมื่อลมตัวลงนอนเรียบร้อยแล้วร่างสูงก็กลับไปนั่งที่เดิมอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน ซีจึงต้องพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ

               “เอ่อ พี่ดันเต้กลับก่อนก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร”

               “ไม่เป็นไรพี่ว่าง เราตื่นแล้วพี่จะได้ไปส่ง”

               “ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้”

               “ถือเป็นการไถ่โทษที่พี่พูดไม่ดีกับเราไง”ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมมาดึงแว่นสายตาของร่างบางออก

               “แต่ว่าผม..”

               “คนป่วยห้ามดื้อนะ นอนได้แล้ว”

               แล้วซีก็เห็นทุกอย่างมืดลงเมื่อถูกมืออุ่นยื้นมาแนบปิดที่ดวงตาเป็นเชิงว่าให้หยุดพูดแล้วนอนซะ อุณหภูมิที่ถูกส่งต่อมาจากมือหนาทำให้ซีรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด แล้วร่างบางก็พล่อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

               พอสังเกตเห็นซีหายใจเข้าออกสม่ำเสมอดันเต้จึงดึงมือกลับ แต่ก็อดจะใช้หลังมือไล้ไปบนแก้มนุ่มอย่างเอ็นดูไม่ได้ ใบหน้ายามหลับของเจ้าตัวช่างไร้เดียงสา ใครจะรู้ว่าผ่านประสบการณ์เหนื่อยยากอะไรมาบ้าง ในเมื่อร่างบางเอาแต่เก็บซ่อนมันไว้ภายใต้รอยยิ้มแห้งเหือด

               ชายหนุ่มนั่งเท้าคางพินิจใบหน้าของคนนอนหลับอยู่แบบนั้น พินิจทุกสิ่งที่ร่างบางตรงหน้านี้เป็น ใบหน้าเนียนใส ขนตายาวเป็นแพ และริมฝีปากสีกุหลาบ รูปร่างผอมบาง เป็นคนใจดี ถึงแม้ตัวเองจะลำบากแต่ก็ไม่เคยร้องขอความเห็นใจจากใคร แต่กลับยืนหยัดด้วยสองขาของตัวเองอย่างเด็ดเดียว อ่อนโยน แต่ก็อ่อนไหว แถมยังปฎิเสธใครไม่เป็นอีกต่างหาก อ้ออีกอย่างทำขนมอร่อยด้วย

               ดันเต้ยิ้มบางเมื่อนึกถึงคนตัวเล็กที่ไม่เคยปฎิเสธอะไรเขาได้ซักครั้ง แต่ก็เป็นเพราะเขาเองนั้นละที่ดูจะเผด็จการกับซีเสียเหลือเกิน เพราะออกจะดูเป็นคนขี้เกรงใจจนจะถูกเอาเปรียบได้ เขาเลยไม่อาจปล่อยไป ตั้งแต่เมื่อไรกันนะที่เขามีเรื่องของรุ่นน้องคนนี้อยู่เต็มหัว สายตาก็เอาแต่จะมองหาร่างผอมบางนั่น

               ดันเต้คิดขณะที่ร่างสูงโน้มตัวเข้าไปใกล้คนบนเตียงมากขึ้น สายตาจับจ้องที่ใบหน้านวลเนียนอย่างหลงไหล

               เริ่มแรกก็เพียงแค่อยากจะแกล้งเล่น แต่ต่อมาก็กลายเป็นว่าอยากเจอใบหน้านั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ร่างบางที่เคยคิดเอาแต่จะหนีเขา ตอนนี้นอนอยู่ตรงนี้ไม่หนีหายไปไหน

               ดันเต้ขยับใบหน้าเข้าใกล้ร่างบางมากขึ้นราวต้องมนต์สะกด และแล้วริมฝีปากก็ประทับลงอย่างแผ่วเบาบนเรียวปากนุ่ม เพียงชั่วครู่แล้วผละออก แต่ใบหน้ายังไม่ละจากไปไหนยังคงคอยจับจ้องใบหน้านวลเนียนนั้น

               “อือ~”ซีครางออกมาช่วยเรียกสติให้กลับเข้าร่างของดันเต้ได้ในฉับพลัน จนร่างสูงผงะหงายออกจากเตียง มือหนาดึงขึ้นปิดปากอย่างตกใจ ดวงตาเบิกโพลง เดินถอยห่างออกไปจนหลังชนประตู

               อะไร!

               เมื่อกี้เราทำอะไรลงไป!

               นั่นรุ่นน้องนะ ผู้ชายด้วย!!!

               ‘…แค่ยอมรับก็จะเข้าใจ’

               จู่ๆคำพูดของเพื่อนหน้านิ่งก็ลอยเข้ามาในหัว ทำให้ร่างสูงชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่มือที่ใช่ปิดปากจะเลื่อนขึ้นเสยผมแทนพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดังอยู่ในลำคอ ราวนึกออกในอะไรบางอย่าง

               ตลอดมาใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจที่กวางพูด แต่เขาทำเป็นไม่รู้เองต่างหาก เพราะไม่ยอมรับว่าตัวเขานั้นที่เป็นผู้ชายแท้และไม่เคยมีรสนิยมแบบนั้นจะไปเกิดความรู้สึกแบบนี้กับคนที่เป็นผู้ชายเหมือนกันได้

               ‘…เพราะว่าเป็นน้องเขา แกถึงหวังอยากให้เป็นคนเดียวกับที่แกกำลังตามหา’

               เพราะเป็นซี ถึงหวังอยากให้เป็นคนเดียวกับรักแรกพบของเขา

               เมื่อยอมรับ ก็เหมือนทุกอย่างจะกระจ่างชัดขึ้นมาทันใดถึงเหตุผมในทุกๆการกระทำของตนเอง เพราะอะไรถึงได้คอยหาข้ออ้างไปใกล้ชิด เพราะอะไรถึงได้ค่อยเป็นห่วง เพราะอะไรถึงไม่ชอบใจเวลาร่างบางไปสนิทสนมกับคนอื่น เพราะอะไรถึงรู้สึกไม่ดีเมื่อโดนหลบหน้า เพราะอะไรถึงได้ชอบมองหน้าใสๆและรอยยิ้มสวยๆนั้น

               คำตอบง่ายๆก็เพราะว่าเขาตกหลุมรักรุ่นน้องคนนี้เข้าให้ซะแล้ว

 

               “ขอโทษนะครับที่ต้องรบกวนแบบนี้”ซีกล่าวพรางปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อรุ่นพี่ดันเต้ขับพาเขามาส่งถึงที่บ้าน โชคดีที่พี่สาวทั้งสองของเขายังไม่กลับบ้านไม่งั้นละก็เกิดเรื่องวุ่นวายแน่

               “เล็กน้อยน่า แล้วนี่เราจะไม่ไปโรงพยาบาลจริงๆหรอ”ชายหนุ่มหันมาถามย้ำอย่างเป้นห่วย

               “ครับ ผมดีขึ้นมากแล้ว”

               “คืนนี้ก็อย่าลืมกินยาแล้วรีบนอนละ”มือหนาเอื้อมมาอังที่หน้าผากเพื่อวัดไข้ก่อนจะเลยขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มด้วยสัมผัสอ่อนโยนที่ทำเอาซีรู้สึกเหมือนจะไข้ขึ้นอีกรอบ

               “ครับ ขอบคุณมากนะครับ”ซีบอกอย่างลนๆแล้วรีบเปิดประตูรถหนีลงมาอย่างรวดเร็วแม้จะแอบรู้สึกดีกับสัมผัสนั้นอยู่ไม่น้อยก็ตาม

               ร่างบางลงมายืนอยู่ข้างรถเพื่อรอส่งให้อีกฝ่ายขับออกไป แต่หน้าต่างรถกลับถูกเลือนลงแทน“ซี”

               “ครับ?”

               “ฝันดีนะครับคนเก่ง”ว่าจบก็ออกรถไปทันที โดยหารู้ไม่ว่าได้ทิ้งร่างบางให้ยืนไข้ขึ้นอยู่หน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย

ในเมื่อรู้ตัวแล้ว…ก็ได้เวลารุกกันซักที

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา