โฉมงามกับเจ้าชายอสูร yaoi
-
เขียนโดย บันนี่โจแจ็ค
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.31 น.
4 ตอน
1 วิจารณ์
10.10K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) โฉมงามกับเจ้าชายอสูร yaoi 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
รถม้าควบไปบนถนนลาดอิฐ ทิวทัศน์บอกว่าเข้าเขตเมืองไนเซตย่าแล้ว บทสนทนาของทั้งสามคนตระกูลอาร์วาร์ตถูกขัดขึ้นกลางคันด้วยเสียงริงโทนจากเข็มขัด นายเจมส์ ฮาร์วาร์ต
" ภารกิจเข้า " เขาเอ่ยเจตนาบอกน้องเล็กผู้มาใหม่มากกว่านายแอล
" นายไปส่งอัลเบิร์ตต่อเลยแล้วกัน " เจมส์บอกเรื่อยๆแอลส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงเข้าใจ
" ไม่ผ่านไม่ต้องเสียใจไป เข้าโรงเรียนเสนาธิการรึมหาดเล็กต่อเลย"
" ขอบคุณครับ " อัลเบิร์ตเอ่ยทั้งสองมองเจมส์ลุกขึ้นยืนแล้วหายไปในอากาศต่อหน้าต่อตา อัลเบิร์ตเห็นร่องรอยอึดอัดกังวลในดวงตแอลที่ละสายตาจากจุดนั้นมาทางเขา
" เพิ่งเห็นคนหายตัวได้ละสิ "
" ครับ พี่ก็ทำได้ใช่ใหมครับ "
" แหงอยู่แล้ว ถ้านายได้เป็นเซียนปราบ นายจะสนุกเซียนปราบทำได้ทุกคน "
" ทำไมพี่เจมส์เขาไม่อยากให้ผมเป็นละครับ " สำหรับอัลเบิร์ต ดวงตาสีเขียวและการแสดงออกของชายหนุ่มผมทองผู้นั่งเอกเขนกตรงหน้าชวนให้เขาเชื่อใจบอกไม่ถูก
" ก็จะอะไร เขาเป็นห่วงนายน่ะสิ ถึงนายจะมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ แต่เอาเข้าจริงๆอาชีพที่มีอนาคตกับความเจริญก้าวหน้าไม่ใช่เซียนปราบแน่นอน "
" คนทั้งแผ่นดินไม่คิดอย่างงี้หรอกครับ ก็เซียนปราบรวยจะตาย มี อำนาจยิ่งกว่าเชื้อพระวงศ์เมืองใหนซะอีก "
ใช่แล้ว ถนนไนเซตย่ายามนี้มีเพื่อนร่วมทางคับคั่ง ทั้งผู้ที่ควบม้าและเกวียนเทียมม้า ก่อนเข้าชานเมือง อัลเบิร์ตเห็นขบวนเสด็จจากต่างเมืองผ่านล่วงหน้าไปหลายขบวน เบียดรถม้าของเขาเกือบตกข้างทาง ฝุ่นตลบอบอวล ธงสัญลักษณ์ประจำเมืองโบกสะบัดเหนือแถวบอกดินแดนที่มาทั้งใกล้และไกล พวกเขาเข้าเขตไนเซตย่ามาทำไมไม่ต้องบอกก็รู้ โรงเรียนมหาดเล็ก นักปกครอง เสนาธิการ แพทย์ อยู่เมืองอืน แต่ฐานทัพเซียนปราบอยู่ไนเซตย่า ซึ่งวันนี้มีพิธีคัดเลือกบุคคลที่ปีหนึ่งมีครั้งเดียว โชคดีที่ไนเซตย่ามีถนนไว้รองรับขบวนเสด็จแยกไปอีกทางมิเช่นนั้นในถนนที่แออัดอยู่นี้คงสนุกพิลึก ทั้งบนฟ้าก็มีมังกรจับจองเส้นทาง ทุกอย่างบอกความปรารถนาในตำแหน่งเซียนปราบเป็นอย่างดี
" หึ หึ คนหนุ่มเลือดร้อนก็อย่างนี้ละนะ เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก แม้แต่ชีวิตผูกติดกับความตายยังเห็นเป็นเรื่องท้าทาย " สีหน้ากับเสียงบ่นคล้ายคนแก่ทำให้อัลเบิร์ตนึกขันในใจ แอล ฮาวาร์ต พี่ชายคนรองอายุมากกว่าเขาหนึ่งปี
" ดูสิ มากันมืดฟ้ามัวดิน " ที่บ่นก็เพราะมันทำให้การจราจรติดขัดน่ารำคาญเสียจริง พลอยทำให้กำหนดการในใจล่าช้าไปด้วย
" แต่เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ความสะดวกสบายในชีวิต ที่ผมจะสามารถสร้างได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ มันก็น่าเสี่ยงนะครับใครๆก็บอกว่านี่คือยุคสมัยของเซียนปราบ "
" นายเคยได้ยินข่าวลือเรื่องราชาปิศาจบ้างใหม " จู่ๆแอลก็เอ่ยขึ้น อัลเบิร์ตนิ่งไปชั่วครู่ ตอบเสียงแหบตำ
" ไม่แน่ใจ... ทำไมหรือครับ "
" มีข่าวลือว่าปีนี้ครบสามร้อยปีทำนายที่ราชาปิศาจจะฟื้นคืนชีพ คงไม่ใช่แค่ข่าวลือ เพราะเซียนปราบตายในภารกิจเยอะขึ้นเป็นสองเท่าตัว คนที่ตายมีระดับอาจารย์เซียนปราบอยู่ด้วย ตอนนี้มีปิศาจที่ล้มอาจารย์เราได้รอเราไปฆ่าอยู่ข้างนอก เพื่อนเจมส์ก็พลาดในภารกิจสี่คน เพราะอย่างนี้เจมส์ถึงไม่สนับสนุนความคิดนายเท่าไหร่ เป็นเซียนปราบอันตราย เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ... คนเก่งก็พลาดป็นนะ "
" เมื่อกี้พี่ถึงได้เป็นห่วงพี่เจมส์ใช่ใหมครับ " แอลละจากเข็มขัดขึ้นมองเขา อัลเบิร์ตหน้าซื่อ แปลกใจที่ดวงหน้าคร้ามขึ้นสีเรื่อ ดวงตามรกตเบิกกว้าง
" ก็ใช่นะสิ " แอลตอบขรึมๆ นึกว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติอะไรออกมา อัลเบิร์ตสังเกตูเห็นได้ไงนะ
" เข็มขัดแอลดังพร้อมเจมส์ แอลต้องไปทำภารกิจใช่ใหม "
" ใช่ เราเป็นคู่หูกัน " แอลยิ้มให้กับคำถา " ผมทำให้แอลพลาดภารกิจ ผมไปต่อคนเดียวได้ แอลไปช่วยเจมส์เถอะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงผม "
" ไม่เป็นไร ภารกิจเดียวกัน เจมส์ไปทำแล้ว เราอยากไปกับนายเอาไว้รุ้ผลการคัดเลือกฉันค่อยตามเขาไปทีหลัง พวกเราก็ลุ้นพอๆกับนาย ถึงเจมส์จะไม่เห็นด้วย แต่นายมีสิทธ์เลือกและตัดสินทางเดินของตัวเองอยู่แล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่เราจะสนับสนุนและก็ช่วยเหลือ ให้นายบอกมา"
" ขอบคุณครับ " อัลเบิร์ตเอ่ยจากใจจริง " ผ่านรึไม่ผ่าน อย่างน้อยผมก้ได้มาลอง ถึงไม่ผ่านผมก็แค่เดินทางกลับ "
" ตอนนี้เตรียมตัวให้พร้อม เวลาเข้าทดสอบทำให้เต็มที่ แค่นี้พอ " อัลเบิร์ตพูดอย่างไม่ยี่หระ ทั้งสองยิ้มให้กัน
แอลเอนหลัง พวกเขาเอ็นดูอัลเบิร์ตเหมือนน้องไม่อยากให้เข้าไปข้องแวะเสี่ยงอันตราย เพราะมั่นใจว่าอัลเบิร์ตไม่ผ่านทดสอบ ทุกปีมีคนเป็นพันจากทั่วสารทิศเข้าร่วมพิธีทว่าผู้ผ่านคัดเลือกมีไม่ถึงร้อย แอลจึงใจเย็นนอนใจอยู่อัลเบิร์ตมองกำแพงสีขาวเคลื่อนใกล้เข้ามาทุกที แม้จะพูดคล้ายตัดใจได้ แพขนตาสีบรอนซ์หลุบลงงำความลับ มีเพียงเขาที่รู้แก่ใจดีที่ตนมุ่งมาดเป็นเซียนปราบเพราะอะไร...
~~~~~\\\\\~~~~~
" ดาบที่ทุกท่านเห็นคือวิธีทดสอบ ขอให้ท่านดึงมันออกแล้วชูขึ้นให้เราเห็นคมของมัน เราจะตัดสินว่าท่านผ่านการคัดเลือก คนของเราจะนำทางท่านไปเข้าเฝ้าจอมเวทย์เลโอนาร์ทเพี่อรายงานตัวและรับการแต่งตั้งเป็นเซียนปราบ และหากหมดเวลานาฬิกาทรายดาบยังอย่ในศิลา ท่านต้องถอยให้คิวถัดไปขึ้นมา " เจ้าหนาที่เป็นชายวัยกลางคนยืนผงาดข้างศิลา เสียงของเขาดังกังวานด้วยเวทมนตร์ถึงทั่วท้องพระโรงที่มีผู่เข้าร่วมพิธีหนาแน่นจนท้องพระโรงแคบลงถนัดตา ต่างชนชั้นทั้งเชื้อพระวงศ์ เจ้าขุนมูลนาย และสามัญชน มีสิทธ์เข้าคัดเลือก ขอเพียงแค่... ดึงดาบให้ได้เท่านั้นก่อนขึ้นไปดึงดาบต้องรับจอกจากหน้าที่มาดื่มซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามันเป็นนำยาต้านเวทมนตร์เท่านั้นปลอดภัยต่อร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าดาบถูกดึงด้วยความสามารถพิเศษส่วนบุคคล ป้องการทุจริตด้วยเวทมนตร์ผิดกฎหมาย ตามมาด้วยสวมแหวนจากเจ้าหน้าที่ อันนี้ป้องกันและดักจับปิศาจแฝงเร้นตัวมา
" เป็นปีศาจที่ฉลาดน่าดูเลยนะครับ มาร่วมพิธีในทัพเซียน พอเห็นเขาดึงดาบกันก็มีอารมณ์ขันขึ้นไปลองดึงกับเขาด้วย พอแหวนกับนำยานั่นส่งสัญญาณเลยถูกจับเข้าคุกไปเล่นๆ "
" เค้าอาจจะอกหัก " แอลรับมุข " ครอบครัวปล่อยปละละเลยไม่ก็เครียดกับชีวิต แต่เคยมีปิศาจแฝงตัวเข้ามาสี่หน ตัวล่าสุดก็เร็วๆนี้เอง คนแตกตื่นกันเลยอ้ะ ดีที่เค้าระเบิดร่างมันทัน "
" มีปีศาจที่อกหักจริงเสียด้วย " อัลเบิร์ตเหลียวมองฝูงชน " แล้วแอลว่าปีนี้จะมีใหมครับ " แอลหัวเราะกับอากัปกิริยาระแวงภัยของอัลเบิร์ต
" ไม่ต้องห่วงน่า ลืมไปแล้วรึไงนายมากับเซียนปนาบนะ มีพีรูปหล่ออยู่ตรงนี้ทั้งคนถ้าบังเอิญมีปิศาจขี้เล่นลงมาทึ้งหลังนายพี่จะฆ่ามันเอง " อัลเบิร์ตยิ้ม ในสายตาแอลเขาเป็นเด็กน้อยน่าสงสารรึไงนะ เขาต้องผ่านด่านทั้งสองได้แน่ เขาเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ปิศาจ
" สี่ตัวนั่นยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อเข้าไปโค่นจอมเวทย์เลโอนาร์ท แต่ถึงจะหลุดเข้าไปได้ก็ฆ๋าเลโอนาร์ทไม่สำเร็จหรอกเพราะเลโอนาร์ทเป็นอมตะ เผลอๆจะตายตั้งแต่เซียนปราบในทัพคนแรกได้กลิ่น
" ตอนนี้พวกเขากำลังสนทนาฆ่าเวลา ฝั่งราชนิกูลและครอบครัวเซียนปราบได้อภิสิทธิ์ลงชือ่ก่อนสามัญชนล่วงหน้าสามวัน เจ้าหน้าที่จึงโค้งคำนับ ขานนามเจ้าชายตามลำดับซึง่ตอนนี้ไล่จนถึงสองร้อยเศษ แต่ละองค์สิริโฉมงดงามเพียงใด ครั้นสัมผัสด้ามดาบสีหน้าจะบิดเบี้ยวเหยเก บ้างก็หน้าขึ้นสี ปากเบี้ยว บ้างก็ตาปลิ้น รึไม่ก็นำลายใหลกันไปเลยทีเดียวเพระทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดลงไป ทว่ายังปราศจากผู้ใดในท้องพระโรงได้เห็นคมของมัน ถ้าอัลเบิร์ตได้ยลโฉมมันคนแรกเขาอาจจะคุกเข่าขอมันแต่งงาน วันนี้จึงเป็นวันนัดเชื้อพระวงศ์มาขายหน้า กลับไปถูกพระราชากริ้ว " อะไรกัน กะอีแค่ดาบด้ามเดียวยังดึงไม่ออก เห็นที่ชั้นต้องส่งแกไปเรียนอนุบาลอีกรอบแล้ว " เจ้าชายก็แย้ง" โธ่เด็จพ่อ ถ้าช่นนั้น เจ้าหญิงเจ้าชายทั้งแผ่นดินต้องไปเรียนกับลูกแล้วล่ะ ดึงไม่ออกทั้งนั้น ผมละอยากให้เด็จพ่อลองขึ้นไปดึงบ้างจัง เด็จพ่อจะได้ทราบว่ามันไม่ใช่แค่ดึงดาบ "" ไม่ดีมั้งลูก พ่อแก่แล้ว "
" ถ้าเจ้าชายรู้ว่าดาบเล่มนั้นผลิตที่ใหน วันหลังคงพากันไปถล่มร้านเละเลยมั้งครับ " อัลเบิร์ตตั้งข้อสันนิษฐาน แอลกระพริบตาปริบก่อนทำเสียงชู่ว์
" ใช่แล้ว!!! " ทั้งสองตกใจเล็กน้อย จากเสียงใส่อารมณ์ที่จู่ๆทะลึ่งพรวดด้านหล้ง พระราชาพักตร์เถื่อนชูหมัด ถลึงตาใส่เวที " ลูกข้าเข้าคัดเลือกตั้งสองคนแล้วยังดึงไม่ออก อย่าให้ข้าสืบรู้ละกันไอ้ดาบงี่เง่า ออกแรงเยอะๆลูก เบนจามิน "
ลำดับคิวที่สองร้อยหกสิบเจ็ด เจ้าชายเบนจามินกำลังออกแรงดึงด้ามดาบ แต่เสียงคำรามที่ดังท่ามกลางเสียงหึ่งๆอย่างไม่มีใครสนใจใครก็ถูกกลบด้วยเสียงฮือฮาทั่วท้องพระโรง ดาบกำลังเคลื่อนหลุด ส่งแสงสีส้มอาบกายและดาบเรืองรอง เจ้าชายมีสีพระพักตร์ปิติโสมนัส เขาชูดาบขึ้นฟ้าอวดโฉมคมดาบ ไอ้ดาบงี่เง่าอาจได้ยินคำอาฆาตลอยไปกับสายลมมันเลยเลิกเล่นตัวเสียที ทั่วท้องพระโรงปรบมือฮือฮาให้กับผู้ผ่านคัดเลือกคนเเรก
" เบนจามินลูกพ่อ!! เจ้าดึงออกแล้ว ได้เป้นเซียนปราบแล้ว นั่นเบนจามินลูกคนที่สามของข้า ยิปปปปปี้ " ร่างเตี้ยหนามีอาการที่อัลเบิร์ตเรียกว่ากระโดดโลดเต้นไปมาอยุ่ข้างหลัง
" นั่นลูกข้าเอง " เขาบอกพี่น้องตระกูลฮาร์วาร์ตทั้งสองยิ้มแสดงความยินดีด้วย แล้วเขาก็ตะโกนบอกคนอื่นทั้งสี่ทิศด้วยความดีใจ
พิธีคัดเลือกดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มีผู้ผ่านคัดเลือกเพิ่มขึ้นทีละคนแบบทิ้งห่างสร้างความกดดันต่อคิวหลังๆมาก ห้าร้อยกว่าสี่สิบคน ได้เซียนปราบเพียงยี่สิบสาม ดาบเล่มเล็กหนักปานภูเขาเลากา พลอยทำให้ผู้ที่มาเป็นกำลังใจให้เครียดไปด้วย
" ตอนแรกผมเข้าใจว่านอกจากแอลทุกคนที่เข้ามาในนี้ลงชื่อคัดเลือกเหมือนกัน เหมือนกับลุงพระราชาคนนั้น แต่กลับมาในฐานะผู้ปกครอง "
" หึ หึ พี่ไม่ได้มาเป็นผู้ปกครอง พี่แค่มารอดูผลด้วยเฉยๆ " ขืนเป็นผู้ปกครองก็แก่กันพอดีอ่ะดิ แอลออกตัว อัลเบิร์ตมองแล้วอมยิ้มอีกล่ะ ชักหมั้นใส้ท่าทางมีนัยแบบนี้จัง
" แต่พี่กับเจมส์ก็เป็นผู้ปกครองที่โซคดีนะครับ มีลูกแบบผม "
" อิ อิ จะชมตัวเองรึไง "
" ปล่าวครับ ผมจะบอกว่าจู่ๆพี่กับเจมส์โชคดีที่ได้ลูกมาแบบกึงสำเร็จรูป แกะกล่องใช้ได้เลยไม่ต้องเสียเวลาทำไงครับ แถมหล่อตะหาก " อัลเบิร์ตหัวเราะเบาๆซึ่งแอลเงียบไป
" เพราะพี่ทั้งสองคนคงเป็นหมัน "
" นายรู้ได้ไงว่าเราจะเป็นหมัน " แอลถามซื่อ
" ก้อ.....เมื่อคืนนั้น "
" เมื่อคืนนั้นทำไม " บังเกิดความกดดันเล็กๆในอกแอล
" ผมเห็นพี่สะดุดขาเก้าอี้ล้ม แถมตอนหลังยังทำหัวโขกโต๊ะอีก อาจทำให้เป็นหมันก็ได้นะครับ "
" ............... "
" แหะ แหะ ผมเป็นน้องชายพี่ทั้งสองไม่ใช่เหรอคร้าบ ก็เลยเป็นห่วงไว้ก่อน เป็นน้องต้องอยากให้พี่มีความสุขมากๆอยู่แล้ว "
" ลำดับที่หกร้อยหกสิบสี่ นายอัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต "
" อวยพรให้ผมด้วยนะครับ " แอลเงยหน้าบอกเจ้าของนามที่ลุกขึ้น
" โชคดีนะ " ทุกสายตาจับจ้องมายังลำดับคิวปัจจุบัน เด็กหนุ่มร่างสูงแต่งกายเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา เขารับจอกมาดื่มองเหลวรสเฝื่อนลงคอ ยัดแหวนเข้านิ้วส่งๆเดินขึ้นไปที่ศิลา อัลเบิร์ตเพิ่งมั่นใจตนเองเป็นมนุษย์แท้จริง งั้นที่เพื่อนเรียกเขาสารพัดสัตว์ก็เป็นเรื่องหลอกลวงงั้นสิ เจ้าหน้าที่ควำนาฬิกาทรายเป้นสัญญาณ เขาสัมผัสด้ามดาบอุณหภูมิที่คนหกร้อยหกสิบสามคนทิ้งไว้....พ่อครับแม่ครับ หนทางไปสู่ความสำเร็จอยู่ตรงหน้าผมแล้ว คนเราบางที่ต้องเสียสละเพื่อจะได้ในสิ่งที่ใหญ่กว่า ขอแค่ประตูตรงหน้าจะเปิดออก..... มือดึงดาบ ใจครุ่นคิดแน่วแน่แต่สิ่งที่มุ่งหวัง แสงสีเขียวปะทะเข้าตา ดาบคลายออกแล้ว!!! ดาบหลุดง่ายดายดุจปลิดดอกไม้ด้วยปลายนิ้ว....อัลเบิร์ตชูดาบขึ้นฟ้า คมเหล็กนำ้งามสะท้อนรัศมีสีเขียวเป็นประกาย
รถม้าควบไปบนถนนลาดอิฐ ทิวทัศน์บอกว่าเข้าเขตเมืองไนเซตย่าแล้ว บทสนทนาของทั้งสามคนตระกูลอาร์วาร์ตถูกขัดขึ้นกลางคันด้วยเสียงริงโทนจากเข็มขัด นายเจมส์ ฮาร์วาร์ต
" ภารกิจเข้า " เขาเอ่ยเจตนาบอกน้องเล็กผู้มาใหม่มากกว่านายแอล
" นายไปส่งอัลเบิร์ตต่อเลยแล้วกัน " เจมส์บอกเรื่อยๆแอลส่งเสียงในลำคอเป็นเชิงเข้าใจ
" ไม่ผ่านไม่ต้องเสียใจไป เข้าโรงเรียนเสนาธิการรึมหาดเล็กต่อเลย"
" ขอบคุณครับ " อัลเบิร์ตเอ่ยทั้งสองมองเจมส์ลุกขึ้นยืนแล้วหายไปในอากาศต่อหน้าต่อตา อัลเบิร์ตเห็นร่องรอยอึดอัดกังวลในดวงตแอลที่ละสายตาจากจุดนั้นมาทางเขา
" เพิ่งเห็นคนหายตัวได้ละสิ "
" ครับ พี่ก็ทำได้ใช่ใหมครับ "
" แหงอยู่แล้ว ถ้านายได้เป็นเซียนปราบ นายจะสนุกเซียนปราบทำได้ทุกคน "
" ทำไมพี่เจมส์เขาไม่อยากให้ผมเป็นละครับ " สำหรับอัลเบิร์ต ดวงตาสีเขียวและการแสดงออกของชายหนุ่มผมทองผู้นั่งเอกเขนกตรงหน้าชวนให้เขาเชื่อใจบอกไม่ถูก
" ก็จะอะไร เขาเป็นห่วงนายน่ะสิ ถึงนายจะมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ แต่เอาเข้าจริงๆอาชีพที่มีอนาคตกับความเจริญก้าวหน้าไม่ใช่เซียนปราบแน่นอน "
" คนทั้งแผ่นดินไม่คิดอย่างงี้หรอกครับ ก็เซียนปราบรวยจะตาย มี อำนาจยิ่งกว่าเชื้อพระวงศ์เมืองใหนซะอีก "
ใช่แล้ว ถนนไนเซตย่ายามนี้มีเพื่อนร่วมทางคับคั่ง ทั้งผู้ที่ควบม้าและเกวียนเทียมม้า ก่อนเข้าชานเมือง อัลเบิร์ตเห็นขบวนเสด็จจากต่างเมืองผ่านล่วงหน้าไปหลายขบวน เบียดรถม้าของเขาเกือบตกข้างทาง ฝุ่นตลบอบอวล ธงสัญลักษณ์ประจำเมืองโบกสะบัดเหนือแถวบอกดินแดนที่มาทั้งใกล้และไกล พวกเขาเข้าเขตไนเซตย่ามาทำไมไม่ต้องบอกก็รู้ โรงเรียนมหาดเล็ก นักปกครอง เสนาธิการ แพทย์ อยู่เมืองอืน แต่ฐานทัพเซียนปราบอยู่ไนเซตย่า ซึ่งวันนี้มีพิธีคัดเลือกบุคคลที่ปีหนึ่งมีครั้งเดียว โชคดีที่ไนเซตย่ามีถนนไว้รองรับขบวนเสด็จแยกไปอีกทางมิเช่นนั้นในถนนที่แออัดอยู่นี้คงสนุกพิลึก ทั้งบนฟ้าก็มีมังกรจับจองเส้นทาง ทุกอย่างบอกความปรารถนาในตำแหน่งเซียนปราบเป็นอย่างดี
" หึ หึ คนหนุ่มเลือดร้อนก็อย่างนี้ละนะ เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุก แม้แต่ชีวิตผูกติดกับความตายยังเห็นเป็นเรื่องท้าทาย " สีหน้ากับเสียงบ่นคล้ายคนแก่ทำให้อัลเบิร์ตนึกขันในใจ แอล ฮาวาร์ต พี่ชายคนรองอายุมากกว่าเขาหนึ่งปี
" ดูสิ มากันมืดฟ้ามัวดิน " ที่บ่นก็เพราะมันทำให้การจราจรติดขัดน่ารำคาญเสียจริง พลอยทำให้กำหนดการในใจล่าช้าไปด้วย
" แต่เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ความสะดวกสบายในชีวิต ที่ผมจะสามารถสร้างได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ มันก็น่าเสี่ยงนะครับใครๆก็บอกว่านี่คือยุคสมัยของเซียนปราบ "
" นายเคยได้ยินข่าวลือเรื่องราชาปิศาจบ้างใหม " จู่ๆแอลก็เอ่ยขึ้น อัลเบิร์ตนิ่งไปชั่วครู่ ตอบเสียงแหบตำ
" ไม่แน่ใจ... ทำไมหรือครับ "
" มีข่าวลือว่าปีนี้ครบสามร้อยปีทำนายที่ราชาปิศาจจะฟื้นคืนชีพ คงไม่ใช่แค่ข่าวลือ เพราะเซียนปราบตายในภารกิจเยอะขึ้นเป็นสองเท่าตัว คนที่ตายมีระดับอาจารย์เซียนปราบอยู่ด้วย ตอนนี้มีปิศาจที่ล้มอาจารย์เราได้รอเราไปฆ่าอยู่ข้างนอก เพื่อนเจมส์ก็พลาดในภารกิจสี่คน เพราะอย่างนี้เจมส์ถึงไม่สนับสนุนความคิดนายเท่าไหร่ เป็นเซียนปราบอันตราย เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ... คนเก่งก็พลาดป็นนะ "
" เมื่อกี้พี่ถึงได้เป็นห่วงพี่เจมส์ใช่ใหมครับ " แอลละจากเข็มขัดขึ้นมองเขา อัลเบิร์ตหน้าซื่อ แปลกใจที่ดวงหน้าคร้ามขึ้นสีเรื่อ ดวงตามรกตเบิกกว้าง
" ก็ใช่นะสิ " แอลตอบขรึมๆ นึกว่าเขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติอะไรออกมา อัลเบิร์ตสังเกตูเห็นได้ไงนะ
" เข็มขัดแอลดังพร้อมเจมส์ แอลต้องไปทำภารกิจใช่ใหม "
" ใช่ เราเป็นคู่หูกัน " แอลยิ้มให้กับคำถา " ผมทำให้แอลพลาดภารกิจ ผมไปต่อคนเดียวได้ แอลไปช่วยเจมส์เถอะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงผม "
" ไม่เป็นไร ภารกิจเดียวกัน เจมส์ไปทำแล้ว เราอยากไปกับนายเอาไว้รุ้ผลการคัดเลือกฉันค่อยตามเขาไปทีหลัง พวกเราก็ลุ้นพอๆกับนาย ถึงเจมส์จะไม่เห็นด้วย แต่นายมีสิทธ์เลือกและตัดสินทางเดินของตัวเองอยู่แล้ว ที่เหลือเป็นหน้าที่เราจะสนับสนุนและก็ช่วยเหลือ ให้นายบอกมา"
" ขอบคุณครับ " อัลเบิร์ตเอ่ยจากใจจริง " ผ่านรึไม่ผ่าน อย่างน้อยผมก้ได้มาลอง ถึงไม่ผ่านผมก็แค่เดินทางกลับ "
" ตอนนี้เตรียมตัวให้พร้อม เวลาเข้าทดสอบทำให้เต็มที่ แค่นี้พอ " อัลเบิร์ตพูดอย่างไม่ยี่หระ ทั้งสองยิ้มให้กัน
แอลเอนหลัง พวกเขาเอ็นดูอัลเบิร์ตเหมือนน้องไม่อยากให้เข้าไปข้องแวะเสี่ยงอันตราย เพราะมั่นใจว่าอัลเบิร์ตไม่ผ่านทดสอบ ทุกปีมีคนเป็นพันจากทั่วสารทิศเข้าร่วมพิธีทว่าผู้ผ่านคัดเลือกมีไม่ถึงร้อย แอลจึงใจเย็นนอนใจอยู่อัลเบิร์ตมองกำแพงสีขาวเคลื่อนใกล้เข้ามาทุกที แม้จะพูดคล้ายตัดใจได้ แพขนตาสีบรอนซ์หลุบลงงำความลับ มีเพียงเขาที่รู้แก่ใจดีที่ตนมุ่งมาดเป็นเซียนปราบเพราะอะไร...
~~~~~\\\\\~~~~~
" ดาบที่ทุกท่านเห็นคือวิธีทดสอบ ขอให้ท่านดึงมันออกแล้วชูขึ้นให้เราเห็นคมของมัน เราจะตัดสินว่าท่านผ่านการคัดเลือก คนของเราจะนำทางท่านไปเข้าเฝ้าจอมเวทย์เลโอนาร์ทเพี่อรายงานตัวและรับการแต่งตั้งเป็นเซียนปราบ และหากหมดเวลานาฬิกาทรายดาบยังอย่ในศิลา ท่านต้องถอยให้คิวถัดไปขึ้นมา " เจ้าหนาที่เป็นชายวัยกลางคนยืนผงาดข้างศิลา เสียงของเขาดังกังวานด้วยเวทมนตร์ถึงทั่วท้องพระโรงที่มีผู่เข้าร่วมพิธีหนาแน่นจนท้องพระโรงแคบลงถนัดตา ต่างชนชั้นทั้งเชื้อพระวงศ์ เจ้าขุนมูลนาย และสามัญชน มีสิทธ์เข้าคัดเลือก ขอเพียงแค่... ดึงดาบให้ได้เท่านั้นก่อนขึ้นไปดึงดาบต้องรับจอกจากหน้าที่มาดื่มซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามันเป็นนำยาต้านเวทมนตร์เท่านั้นปลอดภัยต่อร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าดาบถูกดึงด้วยความสามารถพิเศษส่วนบุคคล ป้องการทุจริตด้วยเวทมนตร์ผิดกฎหมาย ตามมาด้วยสวมแหวนจากเจ้าหน้าที่ อันนี้ป้องกันและดักจับปิศาจแฝงเร้นตัวมา
" เป็นปีศาจที่ฉลาดน่าดูเลยนะครับ มาร่วมพิธีในทัพเซียน พอเห็นเขาดึงดาบกันก็มีอารมณ์ขันขึ้นไปลองดึงกับเขาด้วย พอแหวนกับนำยานั่นส่งสัญญาณเลยถูกจับเข้าคุกไปเล่นๆ "
" เค้าอาจจะอกหัก " แอลรับมุข " ครอบครัวปล่อยปละละเลยไม่ก็เครียดกับชีวิต แต่เคยมีปิศาจแฝงตัวเข้ามาสี่หน ตัวล่าสุดก็เร็วๆนี้เอง คนแตกตื่นกันเลยอ้ะ ดีที่เค้าระเบิดร่างมันทัน "
" มีปีศาจที่อกหักจริงเสียด้วย " อัลเบิร์ตเหลียวมองฝูงชน " แล้วแอลว่าปีนี้จะมีใหมครับ " แอลหัวเราะกับอากัปกิริยาระแวงภัยของอัลเบิร์ต
" ไม่ต้องห่วงน่า ลืมไปแล้วรึไงนายมากับเซียนปนาบนะ มีพีรูปหล่ออยู่ตรงนี้ทั้งคนถ้าบังเอิญมีปิศาจขี้เล่นลงมาทึ้งหลังนายพี่จะฆ่ามันเอง " อัลเบิร์ตยิ้ม ในสายตาแอลเขาเป็นเด็กน้อยน่าสงสารรึไงนะ เขาต้องผ่านด่านทั้งสองได้แน่ เขาเป็นคนธรรมดาไม่ใช่ปิศาจ
" สี่ตัวนั่นยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อเข้าไปโค่นจอมเวทย์เลโอนาร์ท แต่ถึงจะหลุดเข้าไปได้ก็ฆ๋าเลโอนาร์ทไม่สำเร็จหรอกเพราะเลโอนาร์ทเป็นอมตะ เผลอๆจะตายตั้งแต่เซียนปราบในทัพคนแรกได้กลิ่น
" ตอนนี้พวกเขากำลังสนทนาฆ่าเวลา ฝั่งราชนิกูลและครอบครัวเซียนปราบได้อภิสิทธิ์ลงชือ่ก่อนสามัญชนล่วงหน้าสามวัน เจ้าหน้าที่จึงโค้งคำนับ ขานนามเจ้าชายตามลำดับซึง่ตอนนี้ไล่จนถึงสองร้อยเศษ แต่ละองค์สิริโฉมงดงามเพียงใด ครั้นสัมผัสด้ามดาบสีหน้าจะบิดเบี้ยวเหยเก บ้างก็หน้าขึ้นสี ปากเบี้ยว บ้างก็ตาปลิ้น รึไม่ก็นำลายใหลกันไปเลยทีเดียวเพระทุ่มเรี่ยวแรงทั้งหมดลงไป ทว่ายังปราศจากผู้ใดในท้องพระโรงได้เห็นคมของมัน ถ้าอัลเบิร์ตได้ยลโฉมมันคนแรกเขาอาจจะคุกเข่าขอมันแต่งงาน วันนี้จึงเป็นวันนัดเชื้อพระวงศ์มาขายหน้า กลับไปถูกพระราชากริ้ว " อะไรกัน กะอีแค่ดาบด้ามเดียวยังดึงไม่ออก เห็นที่ชั้นต้องส่งแกไปเรียนอนุบาลอีกรอบแล้ว " เจ้าชายก็แย้ง" โธ่เด็จพ่อ ถ้าช่นนั้น เจ้าหญิงเจ้าชายทั้งแผ่นดินต้องไปเรียนกับลูกแล้วล่ะ ดึงไม่ออกทั้งนั้น ผมละอยากให้เด็จพ่อลองขึ้นไปดึงบ้างจัง เด็จพ่อจะได้ทราบว่ามันไม่ใช่แค่ดึงดาบ "" ไม่ดีมั้งลูก พ่อแก่แล้ว "
" ถ้าเจ้าชายรู้ว่าดาบเล่มนั้นผลิตที่ใหน วันหลังคงพากันไปถล่มร้านเละเลยมั้งครับ " อัลเบิร์ตตั้งข้อสันนิษฐาน แอลกระพริบตาปริบก่อนทำเสียงชู่ว์
" ใช่แล้ว!!! " ทั้งสองตกใจเล็กน้อย จากเสียงใส่อารมณ์ที่จู่ๆทะลึ่งพรวดด้านหล้ง พระราชาพักตร์เถื่อนชูหมัด ถลึงตาใส่เวที " ลูกข้าเข้าคัดเลือกตั้งสองคนแล้วยังดึงไม่ออก อย่าให้ข้าสืบรู้ละกันไอ้ดาบงี่เง่า ออกแรงเยอะๆลูก เบนจามิน "
ลำดับคิวที่สองร้อยหกสิบเจ็ด เจ้าชายเบนจามินกำลังออกแรงดึงด้ามดาบ แต่เสียงคำรามที่ดังท่ามกลางเสียงหึ่งๆอย่างไม่มีใครสนใจใครก็ถูกกลบด้วยเสียงฮือฮาทั่วท้องพระโรง ดาบกำลังเคลื่อนหลุด ส่งแสงสีส้มอาบกายและดาบเรืองรอง เจ้าชายมีสีพระพักตร์ปิติโสมนัส เขาชูดาบขึ้นฟ้าอวดโฉมคมดาบ ไอ้ดาบงี่เง่าอาจได้ยินคำอาฆาตลอยไปกับสายลมมันเลยเลิกเล่นตัวเสียที ทั่วท้องพระโรงปรบมือฮือฮาให้กับผู้ผ่านคัดเลือกคนเเรก
" เบนจามินลูกพ่อ!! เจ้าดึงออกแล้ว ได้เป้นเซียนปราบแล้ว นั่นเบนจามินลูกคนที่สามของข้า ยิปปปปปี้ " ร่างเตี้ยหนามีอาการที่อัลเบิร์ตเรียกว่ากระโดดโลดเต้นไปมาอยุ่ข้างหลัง
" นั่นลูกข้าเอง " เขาบอกพี่น้องตระกูลฮาร์วาร์ตทั้งสองยิ้มแสดงความยินดีด้วย แล้วเขาก็ตะโกนบอกคนอื่นทั้งสี่ทิศด้วยความดีใจ
พิธีคัดเลือกดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มีผู้ผ่านคัดเลือกเพิ่มขึ้นทีละคนแบบทิ้งห่างสร้างความกดดันต่อคิวหลังๆมาก ห้าร้อยกว่าสี่สิบคน ได้เซียนปราบเพียงยี่สิบสาม ดาบเล่มเล็กหนักปานภูเขาเลากา พลอยทำให้ผู้ที่มาเป็นกำลังใจให้เครียดไปด้วย
" ตอนแรกผมเข้าใจว่านอกจากแอลทุกคนที่เข้ามาในนี้ลงชื่อคัดเลือกเหมือนกัน เหมือนกับลุงพระราชาคนนั้น แต่กลับมาในฐานะผู้ปกครอง "
" หึ หึ พี่ไม่ได้มาเป็นผู้ปกครอง พี่แค่มารอดูผลด้วยเฉยๆ " ขืนเป็นผู้ปกครองก็แก่กันพอดีอ่ะดิ แอลออกตัว อัลเบิร์ตมองแล้วอมยิ้มอีกล่ะ ชักหมั้นใส้ท่าทางมีนัยแบบนี้จัง
" แต่พี่กับเจมส์ก็เป็นผู้ปกครองที่โซคดีนะครับ มีลูกแบบผม "
" อิ อิ จะชมตัวเองรึไง "
" ปล่าวครับ ผมจะบอกว่าจู่ๆพี่กับเจมส์โชคดีที่ได้ลูกมาแบบกึงสำเร็จรูป แกะกล่องใช้ได้เลยไม่ต้องเสียเวลาทำไงครับ แถมหล่อตะหาก " อัลเบิร์ตหัวเราะเบาๆซึ่งแอลเงียบไป
" เพราะพี่ทั้งสองคนคงเป็นหมัน "
" นายรู้ได้ไงว่าเราจะเป็นหมัน " แอลถามซื่อ
" ก้อ.....เมื่อคืนนั้น "
" เมื่อคืนนั้นทำไม " บังเกิดความกดดันเล็กๆในอกแอล
" ผมเห็นพี่สะดุดขาเก้าอี้ล้ม แถมตอนหลังยังทำหัวโขกโต๊ะอีก อาจทำให้เป็นหมันก็ได้นะครับ "
" ............... "
" แหะ แหะ ผมเป็นน้องชายพี่ทั้งสองไม่ใช่เหรอคร้าบ ก็เลยเป็นห่วงไว้ก่อน เป็นน้องต้องอยากให้พี่มีความสุขมากๆอยู่แล้ว "
" ลำดับที่หกร้อยหกสิบสี่ นายอัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต "
" อวยพรให้ผมด้วยนะครับ " แอลเงยหน้าบอกเจ้าของนามที่ลุกขึ้น
" โชคดีนะ " ทุกสายตาจับจ้องมายังลำดับคิวปัจจุบัน เด็กหนุ่มร่างสูงแต่งกายเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา เขารับจอกมาดื่มองเหลวรสเฝื่อนลงคอ ยัดแหวนเข้านิ้วส่งๆเดินขึ้นไปที่ศิลา อัลเบิร์ตเพิ่งมั่นใจตนเองเป็นมนุษย์แท้จริง งั้นที่เพื่อนเรียกเขาสารพัดสัตว์ก็เป็นเรื่องหลอกลวงงั้นสิ เจ้าหน้าที่ควำนาฬิกาทรายเป้นสัญญาณ เขาสัมผัสด้ามดาบอุณหภูมิที่คนหกร้อยหกสิบสามคนทิ้งไว้....พ่อครับแม่ครับ หนทางไปสู่ความสำเร็จอยู่ตรงหน้าผมแล้ว คนเราบางที่ต้องเสียสละเพื่อจะได้ในสิ่งที่ใหญ่กว่า ขอแค่ประตูตรงหน้าจะเปิดออก..... มือดึงดาบ ใจครุ่นคิดแน่วแน่แต่สิ่งที่มุ่งหวัง แสงสีเขียวปะทะเข้าตา ดาบคลายออกแล้ว!!! ดาบหลุดง่ายดายดุจปลิดดอกไม้ด้วยปลายนิ้ว....อัลเบิร์ตชูดาบขึ้นฟ้า คมเหล็กนำ้งามสะท้อนรัศมีสีเขียวเป็นประกาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ