Once-F รักร้ายร่ายเวทย์

8.3

เขียนโดย Tham

วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.58 น.

  3 บท
  3 วิจารณ์
  8,397 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 12.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) แอเรียล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 เย้ๆ ตอนที่ 3 นามว่า แอเรียลมาแล้วจ้า~ ห่างหายไปนานแต่ยังคงไม่ลืมที่จะเอานิยายมาอัพนะเออ~
     ไปดูเลยละกันว่าในตอนนี้ มิว บราวน์ เบล และโทรุจะได้เจอกับเหตุการณ์อะไรให้ใจหาย เอ๊ะ! หรือจะได้เจอฉากโรแมนติกอีกกันนะ? อ๊ะๆ จะช้าอยู่ทำไมล่ะ เราก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าพวกเขาทั้งสี่คนจะได้เจออะไรกันบ้าง~
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
              และแล้ว  พวกเราทั้งสี่คนก็ได้ออกจากป่าวงกตบ้าๆนั่นสักที กว่าจะออกจากป่านั่นได้ก็ล่อซะเย็นเลย พอออกจากป่านั่นได้ก็มาเจอเข้ากับด้านหลังของปราสาทหินอันใหญ่โต เบลที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยเข้าไปในปราสาท คฤหาสน์ หรือบ้านคนรวยถึงกับร้องว้าวกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าปราสาทหลังนี้ก็มีผลกับฉันอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นี่แค่หลังปราสาทแห่งนี้ยังทำให้ฉันกับเบลอึ้งและร้องว้าวกันได้ขนาดนี้ แล้วข้างในปราสาทหลังใหญ่นี่ล่ะ?? แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว //ตอนนี้ฉันกับเบลจับมือกันแน่นด้วยความตื่นตาตื่นใจ
                “@0@”<<< นี่คือสายตาของฉันกับเบลตอนนี้
                “= =”<<< นี่คือสายตาของนายบราว์ที่มองมายังฉันสองคน และปราสาทหลังนั้น
                “^^;”<<< และนี่คือสายตาของโทรุที่มองมายัง ฉัน เบล และนายบราว์
                สักพักนายบราว์ก็เรียกเพื่อดึงสติของพวกฉันกลับมา แล้วบอกว่าจะให้เมดที่ชื่อ ซิลเวียร์ พาไปดูห้องพักเพื่อเปลี่ยนชุด พูดจบนายนั่นก็พาฉันกับเบลผ่านเข้าประตูหลังปราสาทที่มีทหารยามเฝ้าอยู่ แล้วก็มีเมดหน้าตาน่ารักหลายคน เว้นแต่คนที่อยู่หัวแถวสุด ที่เหมือนจะมีอายุมากที่สุด ยืนเรียงกันเป็นแถวแล้วโค้งคำนับให้พวกฉันที่เดินเข้ามา นายบราว์กับโทรุเข้าไปคุยกับคุณยายคนนั้น ถ้าฉันไม่ตาฝาดคุณยายคนนั้นหันมายิ้มให้ฉันด้วย ดูเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจขึ้นมากเลยล่ะ เบลก็คงจะรู้สึกเหมือนกันเพราะเบลก็ยิ้มตอบกลับให้คุณยายคนนั้นด้วย แล้วนายบราว์กับโทรุเดินออกไป ทิ้งไว้ให้ฉันกับเบลยืนเอ๋ออยู่แค่สองคนกับพวกเมดกลุ่มนั้นที่ยังคงยืนเรียงแถวกันอย่างสงบเสงี่ยม มีแต่คุณยายคนนั้นที่เดินมาหาฉันกับเบล
                “เดี๋ยวดิฉันจะพาคุณหนูทั้งสองไปที่ห้องพักนะคะ ไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งนั้น พวกเราจะคอยดูแลคุณหนูทั้งสองเอง ว่าแต่...คุณหนูทั้งสองมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไรกันบ้างคะ พวกเราจะได้เรียกถูก” คุณยายคนนั้นถามแล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้ฉันกับเบล
                “มิวค่ะ” คุณยายคนนั้นยังคงส่งยิ้มให้ฉันและเบล
                “เบลค่ะ คุณเมดชื่ออะไรเหรอคะ” คุณยายคนนั้นก็ยังคงส่งยิ้มให้เบลกับฉันเหมือนเดิม
                “ซิลเวียร์ค่ะคุณหนู เรียกดิฉันว่าเมดซิลก็ได้นะคะ...เดี๋ยวเราไปที่ห้องพักของคุณหนูทั้งสองที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ดีกว่านะคะ คุยกันตรงนี้เห็นจะไม่สะดวกเพราะคุณหนูทั้งสองเดินทางมาไกลคงจะเพลียกันมาก” คุณยายคนนั้นพูดแล้วโค้งให้ฉันกับเบล
                “อ๊ะ ไม่ได้นะคะคุณยาย” เบลรีบห้าม แล้วฉันกับเบลก็รีบไปประคองคุณยายคนนั้นไว้
                “ให้ผู้ใหญ่โค้งให้แบบนี้พวกหนูจะบาปเอานะคะคุณยาย” ฉันอธิบายให้คุณยายคนนั้นฟัง
                “โฮะโฮะ คุณหนูทั้งสองเป็นแขกของปริ๊นซ์ บราวิน และปริ๊นซ์โทรุเราต้องให้เกียรติคุณหนูทั้งสองคนสิคะ” คุณยายคนนั้นพูด แล้วเดินไปกระซิบอะไรก็ไม่รู้กับเมดคนนึง แล้วเมดคนนั้นก็ไปกระซิบข้างหูทหารคนที่เฝ้าประตูทางด้านขวา แล้วทหารสองคนนั้นก็วิ่งหายไป
                “เอ่อ...ทหารคนนั้นเค้าไปไหนเหรอคะคุณยาย” ในขณะที่กำลังเดินไปตามทางพื้นหินกระเบื้องที่ได้รับการขัดเงามาอย่างดีฉันก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่าคุณยายกระซิบอะไรกับเมดคนนั้น แล้วเมดคนนั้นกระซิบอะไรกับทหารคนนั้น ฉันงง!
                “อ๋อ ทหารคนนั้นเขาไปตามทหารคนอื่นๆไปช่วยกันจับก๊อซเข้ากรงเหมือนเดิม ตามที่ดิฉันบอกน่ะค่ะคุณหนู รีบเดินกันเถอะค่ะเดี๋ยวคุณหนูต้องรีบไปล้างเนื้อล้างตัว ดูสิคะมอมแมมกันเชียว”คุณยายพูดพลางใช้มือจับเสื้อผ้าฉันกับเบลเบาๆ เห็นคุณยายคนนี้แล้วฉันชักจะคิดถึงคุณยายของฉันซะแล้วสิ
                “เดี๋ยวพอถึงห้องพักของคุณหนูทั้งสองคน พวกเราจะช่วยกันขัดตัวให้คุณหนูเองค่ะ”เมดคนที่คุณยายไปกระซิบคนนั้นก็พูดขึ้นแล้วโค้งให้
                “แล้วพวกเราก็จะแต่งตัวให้คุณหนูทั้งสองให้คนทั้งปราสาทตาค้างไปเลยค่ะ”เมดคนฝาแฝดอีกคนนึงก็พูดขึ้น
                “ขอแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนธรรมดาแทนได้มั้ย” ฉันพูดขึ้นถ้าเกิดให้คนทั้งปราสาทมองตาค้างฉันคงต้องตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหินแน่เลย อีกอย่าง ฉันไม่ชอบแต่งตัวแบบหวานๆน่ารักๆอะไรแบบนั้นด้วย
                “นั่นสิ เราไม่ค่อยชอบแต่งตัวหวานๆน่ะค่ะ”เบลพูดขึ้นในขณะที่เราเดินเลี้ยวไปตามทางเดินรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และตอนนี้เราก็หยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่ถูกแกะสลักด้วยลวดลายสวยงาม เมดฝาแฝดสองคนนั้นจึงเดินไปเปิดประตูและเมื่อฉันได้เหยียบเข้าไปในห้องนี้ สิ่งแรกที่สายตาของฉันรับรู้เข้าโสตประสาทเลยก็คือ ภาพเตียงนอนที่เหมือนกับของเจ้าหญิงในนิทานแป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งมีอยู่สองเตียงข้างๆกัน มีเพียงแค่ตู้เล็กๆที่ด้านบนมีโคมไฟขนาดกลางวางกั้นตรงกลางระหว่างเตียงทั้งสองไว้เพียงเท่านั้น ห่างออกไปจากขอบเตียงทั้งสองประมาณสองวาก็จะเป็นชั้นวางหนังสือ ซึ่งก็มีตำราเล่มหนาปึ้กเรียงรายในแต่ละชั้นไว้อย่างเป็นระเบียบ และถัดไปจากชั้นวางหนังสือทั้งสอง ก็จะมีประตูอยู่อีกข้างล่ะหนึ่งบาน ด้านบนคือโคมไฟที่ห้อยระย้าอยู่อย่างสวยงาม โดยรวมแล้วห้องนี้ถือว่าหรูเลยล่ะ
                “ว้าววววว~ *0*” ฉันและเบลเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัวอีกครั้ง  
                “คุณหนูทั้งสองชอบหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ชอบดิฉันจะได้ให้เด็กๆจัดหาห้องใหม่ให้ค่ะ” คุณยายพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มหลังจากที่มีเสียงหัวเราะคิกคักของเมดสองคนฝาแฝดนั่น
                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณยายห้องนี้สวยมากเลยค่ะ” ฉันต้องรีบดึงกิริยากลับคืนมาให้เหมือนเดิมอีกครั้ง
                “ใช่แล้วค่ะคุณยาย เบลชอบมากเลยค่ะ”เบลหันไปยิ้มหวานให้กับคุณยาย ฉันเพิ่งสังเกตุเห็นว่าเมดคนอื่นๆจากที่มีเยอะๆ ตอนนี้เหลือแค่สองฝาแฝดนั่นเท่านั้น สักพักคุณยายก็แนะนำห้องที่เหลือนั่นคือ ประตูด้านซ้ายมือนั้นคือห้องอาบน้ำ ส่วนด้านขวามือคือห้องเครื่องและห้องแต่งตัว
                “เอาล่ะค่ะคุณหนู ไปล้างเนื้อล้างตัวกันก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเตรียมชุดสวยๆไว้ให้...โซเฟีย ราเมียร์ ฉันฝากดูแลด้วยนะจ๊ะ” คุณยายพูดกับฉันสองคนเสร็จแล้วก็หันไปบอกฝาแฝดสองคนนั่น
                “เจ้าค่ะหัวหน้า เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู” ฝาแฝดสองคนนั้นรับคำพร้อมกัน แล้วนำฉันกับเบลไปเปิดประตูทางด้านซ้ายมือ ฉันกับเบลจึงค่อยๆเดินเข้าไปในห้องนั้น พอเข้ามาแล้วก็ถึงกับต้องอึ้งอีกครั้งเพราะ กลางห้องอาบน้ำนี่คืออ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ สองอ่างโดยมีม่านกั้นไว้  และแล้วช่วงเวลาแห่งการขัดสีฉวีวรณก็เริ่มขึ้น ระหว่างนั้นฉันกับเบลก็ได้ฟังเรื่องราวต่างๆของสองปริ๊นซ์จากปากของสองเมดฝาแฝดมากมาย ทั้งเรื่องที่นายบราว์ หรือปริ๊นซ์บราวินที่คนในนี้เรียก และนายโทรุ หรือปริ๊นซ์โทรุ พากันแอบหนีเรียนวิชาศาสตร์แห่งการปกครองเพื่อไปเล่นไล่กันในพิพิธภัณฑ์แอเรียล จนโดนคิงของทั้งสองคนลงโทษบ่อยๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายวีรกรรมในตอนเด็กของสองคนนั้นที่สองเมดเล่าให้ฟังจนเพลินไปเลยล่ะ เวลาคงจะผ่านไปนานเลยทีเดียว เสร็จจากการขัดสีฉวีวรรณเรียบร้อยแล้วฉันกับเบลก็ได้อึ้งอีกระรอกกับห้องเครื่องแต่งกายของที่นี่ ตรงกลางห้องจะเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ไม้ที่ด้านบนมีกระจกครอบ ภายในกระจกครอบนั้นก็จะมีเครื่องประดับอยู่มากมายระยิบระยับ ไล่ตั้งแต่กำไลข้อเท้า กำไลข้อมือ สร้อย ต่างหู และอีกเยอะแยะมากมายเกินที่ฉันจะประมวลผลได้หมด  
                “ว้าวววววว~@0@”<<< ครั้งที่สี่ของวันนี้แล้วที่ฉันกับเบลอุทานคำนี้ออกมา
                “^^”<<< คุณยายคนนั้น และสองฝาแฝด
                “ไปแต่งตัวกันเถอะค่ะคุณหนู เสร็จแล้วเราจะได้ไปเข้าเฝ้า คิง และ ควีนของปริ๊นซ์ บราวินและปริ๊นซ์โทรุกันค่ะ” คุณยายพูดพลางโอบไหล่ของฉันและเบล แล้วก็พาไปหยุดอยู่หน้าประตูอีกสองบาน พระเจ้า ทำไมที่นี่ถึงมีห้องเยอะจังเลยนะ เกิดจำทางกลับห้องของตัวเองไม่ได้ขึ้นมาทำไงเนี่ย กลับมาที่ตรงหน้าฉันและเบล ฝาแฝดคนที่ชื่อว่า โซเฟียเดินไปเปิดประตูบานแรกให้ฉัน (ที่ฉันรู้ว่าใครคือโซเฟียก็เพราะว่ามีป้ายชื่อติดไว้) ราเมียร์ก็เดินไปเปิดประตูบานที่สองให้เบล ในอ้อมแขนของเธอทั้งสองคน น่าจะเป็นชุดที่จะให้ฉันและเบลใส่นะ
                “เชิญค่ะคุณหนู” สองฝาแฝดนั่นพูดพร้อมกันแล้วส่งยิ้มหวานให้ ฉันกับเบลจึงหันมามองหน้ากันอย่างลังเล
                “ไปกันเถอะค่ะคุณหนู” แฝดคนที่ชื่อโซเฟียพูดขึ้นแล้วส่งยิ้มให้ฉัน ฉันจึงต้องเข้าไปในห้องนั้นตามที่โซเฟียบอก พอฉันได้เห็นชุดแล้วฉันแทบจะเป็นลม! เพราะมันคือชุดกระโปรง เกาะอกยาวจนเกือบลากพื้นสีขาว มีสายเป็นลูกปัดห้อยระย้าเป็นริ้วๆอย่างอลังการตรงที่น่าจะเป็นต้นแขน นี่ถ้าไม่ต้องไปเข้าเฝ้าคิง ควีนของเมืองนี้นะฉันจะเอาชุดนี้ไปเก็บไว้แล้วเปลี่ยนไปใส่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ในแบบของฉันเหมือนเดิมเลยคอยดูสิ อีกอย่างนะถ้าฉันใส่ชุดสวยๆพวกนี้แล้วฉันจะมีสภาพเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ไอ้ชุดบ้านี่ก็ดันเป็นแบบซิปติดด้านหลังอีก ทำให้ฉันใส่เองไม่ได้เลยต้องจำใจเรียกให้โซเฟียมาช่วยใส่ให้ 
                “เสร็จแล้วค่ะคุณหนู ว้าว~ ใส่ชุดนี้แล้วคุณหนูสวยมากเลยนะคะเนี่ย”
                โซเฟียทำตาโต เล่นชมกันซึ่งๆหน้าแบบนี้เดี๋ยวฉันก็ได้ลอยกันพอดี >.<;
                “จริงอ่ะ ขอกระจกหน่อยได้มั้ยโซ....”
                “ไม่ได้ๆ คำสั่งของหัวหน้าห้ามให้คุณหนูเห็นกระจกตอนที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ”โซเฟียอธิบายแล้วเปิดประตูห้องแต่งตัวออก
                “เชิญค่ะคุณหนู เสร็จแล้วค่ะหัวหน้า” โซเฟียหันไปยิ้มให้คุณยายแล้วฉันก็ค่อยๆเดินออกมาจากห้องนั้นมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคุณยายซิลเวียร์
                “โอ้...สวยกว่าที่ดิฉันคิดไว้อีกนะคะเนี่ยคุณหนู ไปทำผมกันก่อนนะคะ...คุณหนูสวยอยู่แล้วไม่ต้องแต่งอะไรมากนะ” คุณยายพูดชมฉันเสร็จก็หันไปสั่งโซเฟียอีกหน
                “เอ่อ...คุณยายคะ แล้วเบลล่ะคะ” ฉันหันไปถามคุณยาย เพราะ ฉันเห็นเบลเข้าไปแต่งตัวก่อนฉันแล้วน่าจะออกมาก่อน
                “คุณหนูเบลรออยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งตรงนั้นค่ะคุณหนู”คุณยายพูดพลางส่งยิ้มให้ฉัน
                “อ้อ ขอบคุณค่ะคุณยาย” ฉันยิ้มตอบคุณยายแล้วรีบแจ้นไปที่ๆราเมียร์กำลังทำผมให้เบลอยู่ แต่ก็ดันมีโซเฟียยืนกางแขนขวางไว้ซะก่อน
                “ที่ของคุณหนูอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ ไปกันเถอะค่ะคุณหนู” โซเฟียรีบดันตัวฉันไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับของเบล
                “เดี๋ยวดิฉันจะออกไปรอคุณหนูทั้งสองข้างนอกนะคะ” เวลาผ่านไปประมาณสิบห้านาทีโซเฟียก็บอกให้ฉันลุกขึ้นและพาฉันเดินออกจากห้องเครื่องแต่งกายไป ฉันเห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ด้านหน้าคุณยาย เธออยู่ในชุดแขนตุ๊กตาสีเหลืองนวลยาวเกือบลากพื้นคล้ายๆกับชุดที่ฉันใส่อยู่ ด้านหลังมีผ้าบางๆที่ผูกเป็นโบว์อย่างสวยงาม บวกกับทรงผมที่ได้จัดทรงใหม่มาอย่างดี แล้วจู่ๆคุณยายก็เรียกฉันให้เดินไปอยู่ตรงหน้า นั่นแหละฉันจึงได้เห็นเจ้าของเรือนร่างที่ฉันประมวลผลเมื่อกี้ นั่นคือเบลจริงด้วย! เธอสวยราวกับนางฟ้าเลยล่ะ
                “ว้าววววว~ นั่นใช่เธอจริงๆเหรอนั่นน่ะ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าโซเฟียจะเก่งถึงขั้นสามารถเปลี่ยนไม้กระดานอย่างมิวให้เป็นสาวหวานได้ด้วย?!!!” เบลพูด แหม...มีแอบกัดกันซะด้วย
                “เบลก็เหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อว่าเบลจะสวยได้ขนาดนี้ รู้มั้ยตอนแรกที่ฉันเห็นเบลนะ ฉันนึกว่าเจอนางฟ้าแหนะ” หลังจากที่ฉันกับเบลคุยกันได้สักพัก คุณยายก็มาบอกว่าปริ๊นบราวินสั่งให้คนมาตามได้สักพักแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงได้เยื้องย่างออกมาจากห้องพักแล้วเดินขบวนไปที่ห้องรับรอง ด้านหน้าของฉันคือคุณยายซิลเวียร์ ด้านซ้ายมือของฉันคือเบล และด้านหลังก็ตบท้ายด้วยราเมียร์และโซเฟีย นี่ก็ค่ำแล้วถ้าเทียบกับเวลาบนโลกมนุษย์ก็คงจะประมาณหนึ่งทุ่มได้ ระหว่างทางตอนนี้มีคบไฟตั้งอยู่เป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินฝ่าความมืดไปแต่อย่างใด และทำให้ฉันไม่ต้องทนใส่รองเท้าแก้วไปด้วยเหยียบชายกระโปรงตัวเองไปด้วย เพราะความที่ไม่เคยชินกับรองเท้าส้นสูงพวกนี้ หลังจากที่พวกเราเดินขบวนมาได้สักพักก็มาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่บานหนึ่ง 
                “เดี๋ยวค่ะคุณยาย” ก่อนที่ยายจะได้เคาะประตูฉันก็รีบทักท้วงไว้ก่อน ยายจึงหันมาส่งยิ้มให้ฉันกับเบลอย่างอบอุ่นอีกครั้ง
                “ไม่ต้องกังวลค่ะคุณหนู ข้างในนั้นมีเจ้าชายโทรุกับเจ้าชายบราวินอยู่ด้วย ส่วนคิงและควีนทุกพระองค์พระทัยดีค่ะ เชื่อดิฉันได้” ฉันกับเบลมองหน้ากันลิกลักและเหมือนคุณยายจะรู้ว่าเราสองคนต้องการอะไร คุณยายก็หันมาจับบ่าของพวกฉันทั้งสองคนไว้แล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นก่อนกอดเพื่อเพิ่มความมั่นใจมาให้
                “ขอบคุณค่ะคุณยาย” ฉันกับเบลพูดพร้อมกัน ในนาทีนี้ทุกสรรพสิ่งตกอยู่ในความเงียบสงัด ฉันกับเบลจากที่จับมือกันไว้แบบหลวมๆในตอนนี้ฉันกับเบลจับมือกันแน่นยิ่งกว่าเดิม คุณยายส่งยิ้มให้ฉันกับเบลอีกครั้งก่อนที่จะเคาะประตู
                “คุณหนูทั้งสองมาแล้วเพคะ” คุณยายใช้คำราชาศัพท์ง่ายๆเอ่ยผ่านประตูบานใหญ่นั้นไป สักพักประตูก็เปิดออก
                ด้านหน้าปรากฏพรมสีแดงที่ทอดยาวจากประตูไปถึงโซฟาสีแดงตัดกับขอบที่เป็นพู่สีเหลืองทองอย่างสวยงาม บุคคลที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือเป็นผู้หญิงสองคน ทางขวามือมีผู้ชายอีกสองคน ซึ่งพวกท่านน่าจะมีอายุรุ่นเดียวกันกับคุณพ่อของฉัน แต่พวกท่านทั้งสี่กลับมีความสง่างามและความน่าเกรงขามราวกับมีรัศมีกระจายอยู่รอบๆตัว ขนาบทั้งสองข้างซ้ายขวา ด้วยโซฟาแบบเดียวกันแต่เป็นตัวเล็กกว่าข้างล่ะสองตัว ทางด้านขวามือมีผู้ชายสองคนที่คุ้นตาฉันกับเบลเป็นอย่างดีนั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กทั้งสองตัว และขณะนี้ทุกสายตาในห้องกำลังจับจ้องมาที่ฉันและเบลเป็นตาเดียว แล้วคุณยายซิลเวียร์ก็ค่อยๆดันหลังฉันและเบลให้ก้าวเท้าเข้าไปข้างใน
                “เข้าไปทำความเคารพคิงกับควีนตามที่ดิฉันสอนสิคะคุณหนู” จู่ๆคุณยายก็เข้ามากระซิบข้างหูตรงกลางระหว่างฉันและเบล นั่นเล่นเอาฉันสะดุ้งไปนิด เมื่อได้สติ ฉันกับเบลก็พยักหน้ารับก่อนที่จะค่อยๆเดินตรงเข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าโซฟาตัวใหญ่แล้วฉันกับเบลจึงค่อยๆบรรจงก้มลงกราบบุคคลตรงหน้า
                “ลุกขึ้นเถอะจ๊ะหนู” ท่านทั้งสองก็ค่อยๆมาประคองฉันและเบลให้ลุกขึ้น
                “โฮะโฮะ เหมือนห้องนี้มีนางฟ้าเพิ่มมาอีกสองตนเลยนะมีนา แจสมิน
คิงโทกะ จริงมั้ยปริ๊นซ์ทั้งสอง” คิงคนที่ประคองเบลหันไปยิ้มแล้วก็พูดกับทุกคนในห้อง
                “ครับท่านอา ^v^” โทรุตอบคิงคนนั้น แต่สายตายังคงไม่ละไปจากเบลเลยล่ะ
                “ไม่มีใครจะสวยสู้ท่านแม่กับท่านป้าของผมได้หรอก” นายบราว์พูด เหอะๆสายตาของนายมันขัดกับคำพูดนะย่ะ ท่านแม่ของนายสวยนายก็มองท่านแม่ของนายไปสิ มามองที่ฉันทำไมมิทราบ! ใจก็อยากตอกกลับไปแบบนั้น แต่ตอนนี้ฉันก็ทำได้เพียงแค่ส่งสายตาอาฆาตให้นายบราว์นั่น
                “ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ แน่ใจนะหลานชายว่าที่พูดน่ะความจริง =v=” ควีนแจสมินพูดแล้วทำสายตาล้อเลียน
                “นั่นสิ แม่เห็นแต่ลูกกับโทรุมองแม่หนูสองคนนี้ไม่วางตาตั้งแต่เธอสองคนเดินเข้ามาในนี้แล้วนะ” ควีนมีนาล้อบ้าง
                “รึว่า...ทั้งสองคนจะ...”คิงโทกะพูดค้างไว้เพียงแค่นั้นแล้วคิงกับควีนทั้งสี่คนก็ระเบิดหัวเราะออกมาตอนนี้ตาสองคนนั่นไม่รู้ว่าจะมีท่าทียังไงบ้าง แต่ตอนนี้ฉันกับเบลได้แต่ก้มหน้าแล้วแอบมองตากันเท่านั้น
                “เอ้านี่มีนากะจะใจร้ายปล่อยให้นางฟ้าของเรานั่งเป็นตะคริวตรงนี้เลยเหรอ” คิงวินเทอร์ท้วงขึ้น
                “เอ้อ ลืมไปควีนก็มัวแต่หยอกล้อพ่อสองคนนั้นอยู่ หนูสองคนไปนั่งที่ตรงนั้นเถอะเดี๋ยวจะเป็นตะคริวเอาแล้วจะเดินกันลำบาก อีกอย่างฉันก็อยากจะคุยกับหนูสองคนอยู่พอดีเลย”
                “เพคะ” ฉันกับเบลพูดพร้อมกันแล้วค่อยๆลุกขึ้น ตามด้วยการบรรจงถอนสายบัวก่อนที่จะไปนั่งที่โซฟาด้านซ้ายที่ว่างอยู่สองตัวพอดีพร้อมกัน ในตอนนี้ฉันนั่งอยู่โซฟาตัวแรกซึ่งใกล้กับที่นั่งของควีนแจสมินฝั่งตรงข้ามคือนายบราว์ ถ้าฉันตาไม่ฝาดและมองไม่ผิดนะ...หมอนี่แอบมองฉันอยู่! แล้วในตอนนี้ฉันก็โดนยิงคำถามสลับกับเบลเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปได้สักพักสงครามน้ำลายระหว่างสองสาวกับคิงและควีนก็หยุดลงโดยโทรุ
                “นี่ก็น่าจะได้เวลาเปิดงานแล้วนะครับท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านอา”
                “อืม...นั่นสินะ งั้นเราไปกันเถอะมีนา” ว่าแล้ว คิงวินเทอร์ พ่อของนายบราว์ก็ยืนขึ้นแล้วตั้งแขนขึ้นเพื่อให้ควีนมีนาควง
                “เพคะ” ควีนมีนาลุกอย่างสง่างามแล้วคล้องแขนคิงวินเทอร์เดินออกไป
                “งั้นเราก็ไปกันบ้างเถอะ แจสมิน” คิงโทกะลุกขึ้นเดินไปหาควีนแจสมินแล้วตั้งแขนให้ควีนแจสมินคล้องบ้าง
                “เพคะ” ควีนแจสมินยิ้มเบาๆแล้วก็คล้องแขนเดินผ่านประตูไปอีกคู่ ฉันกับเบลทำตัวไม่ถูกก็ได้แต่นั่งมองหน้ากันแล้วค่อยๆลุกขึ้น
                ในห้องรับรองตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ฉัน เบล โทรุและก็นายบราว์ ชุดที่หมอนั่นใส่เป็นทักซิโด้สีดำ และยังคงวางท่าอยู่อย่างนั้นไม่เว้นแม้แต่เวลาที่เดินมา เหม็นขี้เต๊ะจริงๆเลย!
                “ถ้าไม่รังเกียจ เบลช่วยเป็นคู่ควงไปงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้กับผมได้มั้ยครับ” โทรุเดินเข้ามาแล้วโค้งให้เบล เล่นเอาฉันกับเบลตกใจถอยกรูเลยทีเดียว
                “อะ... เอ่อ...คือ...” เบลอึกอัก หันหน้ามาหาฉัน
                “นะๆ เบล ถ้าเบลไม่ตอบตกลงผมก็จะยืนอยู่ตรงนี้อย่างนี้แหละ” โทรุเงยหน้าขึ้นมาเพื่อขอร้องเบลแล้วส่งสายตาออดอ้อน
                “ไปเถอะน่าเบล ไม่ต้องห่วงฉันหรอกขืนให้โทรุอยู่ท่านี้นานๆเดี๋ยวหมอนี่ก็ได้เลือดคลั่งในสมองตายกันพอดี” ฉันจับไหล่ แล้วพูดพลางส่งยิ้มให้เบล
                “อื้ม” เบลรีบรับคำ ส่วนนายโทรุก็รีบเงยหน้าขึ้นมาแล้วตั้งแขนให้เบลควง
                “บราว์ แกอย่าให้ผู้ใหญ่เค้ารอนานนะเว้ย ฉันกับเบลขอตัวไปก่อนล่ะ” หลังจากนั้นคู่ของเบลกับนายโทรุก็ควงแขนกันออกไป ตอนนี้...เหลือเพียงแค่ฉัน กับนายบราว์ที่ยังคงยืนมองหน้ากันอยู่ ถ้าฉันกับนายบราว์เป็นปลากัดอีกสักพักฉันคงได้ท้องป่องไปแล้วล่ะ
                “ไปกันเถอะ เดี๋ยวคิงกับควีนจะรอนาน” พูดจบฉันก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันที ไอ้ใจฉันมันก็อยากจะวิ่งตามสองคนที่อยู่ด้านหน้านั่นอยู่หรอกนะถ้าไม่ติดที่ไอ้รองเท้าส้นสูงนี้ เดินยากชะมัดเลย ชุดกระโปรงนี่ก็เหมือนกันสายอะไรต่อมิอะไรก็เยอะซะเหลือเกิน ตอนก่อนที่จะมาที่ห้องนี่ก็เกือบหัวคะมำไปแล้วรอบนึง ดีนะที่โซเฟียช่วยประคองอยู่ด้านหลังไม่งั้นฉันได้หน้าทิ่มลงพื้นแน่ๆ แล้วจู่ๆก็มีมือหนึ่งมาประคองที่ศอกของฉันทั้งสองข้างไว้ ก่อนที่ฉันจะหัวทิ่มลงพื้นไปอีกรอบในขณะที่เดินไปบ่นไป พอหันไปดูให้ชัดๆอีกทีก็เป็นนายบราว์ที่มาประคองฉันไว้
                “เดี๋ยวก็ได้หน้าทิ่มลงพื้นก่อนหรอกยัยลูกหมา”
                “เหอะ” ฉันสบถเบาๆ
                “ไม่ต้องมาเหอะ รีบเดินกันเถอะ ไอ้โทรุมันเข้าไปในงานเรียบร้อยแล้ว”
                สุดท้ายฉันก็ต้องยอมให้นายบราว์ประคองมาถึงลานที่จัดงานเลี้ยงล่ะ พอฉันก้าวเข้าไปในงาน ทุกสายตาก็รุมจับจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว ส่วนนายบราว์ก็มายืนอยู่ข้างๆฉันด้วยท่าทีที่ยังคงไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่อยู่ในห้องรับรอง...เก๊กอีกตามเคย นายบราว์ เดินขนาบข้างฉันที่ค่อยๆเดินฝ่าสายตาของผู้คนมากมายที่รุมจ้องมาที่ฉันไปจนถึงโต๊ะตัวยาวด้านในสุดที่มีเบลและโทรุนั่งอยู่คนล่ะฝั่ง ฉันจึงค่อยๆเดินตรงไปที่นั่งข้างๆเบลนั่นทันที เพราะตั้งแต่ที่ฉันกับนายบราว์เดินเข้ามาก็เกิดเสียงึมงำระงมไปทั้งงาน ยิ่งฉันเดินเข้าไปนั่งในโต๊ะตัวยาวที่คาดว่าน่าจะเป็นโต๊ะวีไอพีนั่นแล้ว ก็เกิดเสียงระงมดังขึ้นกว่าเดิมอีก
                ตอนนี้ คิงโทกะ ควีนแจสมิน ควีนมีนา กับคิงและควีนอีกหลายคนที่ฉันยังไม่รู้จักก็เข้ามานั่งเก้าอี้กันเรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่ที่ว่างหัวโต๊ะที่คาดว่าน่าจะเป็นที่ของคิงวินเทอร์ ซึ่งตอนนี้เจ้าของที่นั่งนั้นขึ้นไปอยู่บนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน เท่าที่ฉันฟังมานั้น งานเลี้ยงก่อนการแข่งขันจะมีขึ้นสามคืนด้วยกัน คืนนี้เป็นคืนแรกเลยมีคิงและควีนจากหลายเมืองมาร่วมงานด้วย หลังจากที่คิงวินเทอร์ กล่าวเปิดงานเสร็จ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นแล้วทุกคนในงานก็ส่งเสียงปรบมือตาม ตอนนี้ผู้ใหญ่ที่ร่วมโต๊ะอาหารค่อยๆทยอยกันลุกออกไปเป็นคู่ๆแล้ว พอฉันหันไปมองรอบๆอีกที หนุ่ม สาวและคิง ควีนที่มาร่วมงานด้วยค่อยๆทยอยออกไปเต้นรำที่ลานกัน ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะยาวกลุ่มนี้ก็เหลือแค่ฉัน นายบราว์ เบล และก็โทรุอีกตามเคย
                “ถ้าไม่รังเกียจ คุณจะช่วยเป็นคู่เต้นรำให้ผมได้มั้ยครับคนสวย” จู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงมายืนโค้ง แล้วพูดขึ้นด้านข้างฉัน
                “เฮ้ย ค่ะ...คุณ?”  เล่นมาเงียบๆแบบนี้ฉันก็ตกใจหมดสิ ตอนนี้สามคนนั้นหันมามองที่ฉันกับคนที่ยืนโค้งและยื่นมือมาให้ฉันอยู่นั่นเป็นตาเดียว โดยเฉพาะนายบราว์ที่มองไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่วางตาเชียว
                “เรย์ครับ ^v^ คุณล่ะครับชื่ออะไร” นายนั่นยืดตัวตรงแล้วส่งยิ้มมาให้ฉัน
                “ยัยนี่คือคู่ควงของฉัน แกไม่มีสิทธิ” จู่ๆนายบราว์ก็ลุกขึ้นมาปัดมือคนที่ชื่อเรย์นั่นออกแล้วมายืนกั้นตรงกลางระหว่างฉันกับนายเรย์ โทรุจึงต้องรีบลุกขึ้นมาห้าม ดีนะที่ตอนนี้เสียงดนตรียังคงบรรเลงอยู่ และคนอื่นๆเขาสนใจแต่คู่เต้นรำที่อยู่ลานนั่น ไม่งั้นมีหวังตรงนี้กลายเป็นจุดสนใจแน่ ตอนนี้ฉันกับเบลยืนอยู่หลังนายบราว์ที่กำลังมองเรย์ด้วยสีหน้าที่ไม่บอกอารมณ์
                “เฮ้ ขอโทษทีว่ะเพื่อน ฉันลืมเห็นนาย”
                “แกไม่มีคู่ควงมางานนี้รึไงวะถึงได้มารังควานคนอื่นเขาอยู่นี่น่ะ” ฉันว่าบรรยากาศมันเริ่มจะมาคุแล้วนะ...
                “มี...แล้วไง?”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
     อ้าวๆๆ~ แค่งานเลี้ยงคืนแรกก็เริ่มมีปัญหาซะแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงเนี่ย~ ต้องติดตามต่อไปให้ได้นะ
     จบไปอีกหนึ่งตอน แอมก็อยากฝากให้นักอ่านทุกคนช่วยคอมเม้น จะแนะนำ หรือติชมตรงไหนได้เต็มที่เหมือนเดิมเลยนะคะ ยังรอทุกความคิดเห็นและทุกข้อความอยู่น้าาาา~
ปล.สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่า ต่อไปนี้แอมจะพยายามมาอัพนิยายให้บ่อยขึ้นกว่าเดิมแล้วนะเออ เย้ๆๆๆ~(ปัง ปัง ปัง~//จุดพลุ)
ปล2. ย้ำค่ะย้ำ! คอมเม้นเปรียบเสมือนสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงหัวใจของผู้เขียน ได้โปรดแนะนำแอมด้วยนะคะว่านิยายเรื่องนี้ดี หรือผิดพลาดจุดไหนบ้าง แอมจะได้แก้ไขให้มันดีขึ้นนะคะ
ปล3. (สุดท้ายจริงๆ) ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะมาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่า~
ลงวันที่ 26/07/57
21:09
แธม

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา