Once-F รักร้ายร่ายเวทย์
8.3
เขียนโดย Tham
วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.58 น.
3 บท
3 วิจารณ์
8,401 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 12.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ไฟ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(Tham's talk)
บทแรกมาแล้วจ้าาา~
มาเสิร์ฟพร้อมกับวันเปิดตัวนิยายเลยนะเออ
ยังไงซะนี่ก็เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนไว้นานแล้ว ไม่กล้าเอาลงสักทีเพราะมัวแต่่รีไรท์มันมันเรื่อยๆ แก้ไขมันบ่อยๆ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเอาลงจนได้ (ปัง ปัง ปัง~//จุดพลุ)
เอาเถอะ เราจะมารอช้าอยู่ไย? มาพบกับตอนแรกกันเลยดีกว่าเนอะ~
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อหิว กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด เมื่ออิ่มแล้ว กองทัพก็ต้องเดินด้วยเท้าต่อไปฉันนั้น(พล่ามอะไรล่ะนั่น) หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกับข้าวมันไก่ไซส์พิเศษไปเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รีบขอบคุณคุณลุงที่แสนจะใจดีคนนั้นแล้วเผ่นออกมาจากร้านนั่นทันที โดยไม่สนใจคำพูดที่ได้พูดไว้ตอนนั้น ‘ได้ กินอิ่มแล้วฉันจะไปกับนายก็ได้’นี่ฉันไม่ได้ผิดคำพูดนะ ก็แค่เอานิ้วไขว่กันไว้เฉยๆ เหอะ ถึงแม้นายบราวอะไรนั่นจะหล่อปานเทพบุตร และถึงแม้ว่าฉันจะสวยปานนางฟ้า (ช่างกล้า...)แต่ยังไงหญิงไทยอย่างฉันก็ต้องรักนวล สงวนตัว อย่างที่สุภาษิตไทยสอนเราไว้ยังไงล่ะ
กลับมาที่วันนี้ ฉันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะ เพราะตั้งแต่ได้อ่านไอ้ใบปลิวแปลกๆนั่นแหละ.....
แกร๊ก!!~‘หืม? กระดาษอะไรเนี่ย ทำไมมันเต็มตู้รับจดหมายไปหมดอย่างนี้??
‘ประกาศจากดินแดนผู้ใช้เวทย์’
‘ถึงผู้ที่มี หยดน้ำตาแห่งไฟ’
หากท่านได้อ่านและได้รับสารฉบับนี้แล้ว ขอให้ท่านอ่านรายละเอียดต่างๆ และหัวข้องานที่เราจะให้ท่านทำให้ละเอียด และคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ซึ่งงานที่เราจะมอบหมายให้ท่านทำก็มีดังนี้
คุณสมบัติ
1.มีจี้หยดน้ำตาแห่งไฟ
2.แข็งแก่ง อดทน ใจกล้า บ้าดีเดือด เอาตัวรอดได้ในทุกสถานะการณ์
3.ไม่มีพันธะกับใครเป็นพิเศษ เช่น หากท่านมีครอบครัวก็จะถูกตัดสิทธิทันที
4.สมัครใจที่จะทำงานนี้
5.ว่างงาน
เงื่อนไขและค่าตอบแทน
1.ที่พักฟรี อาหารฟรี รวมทั้งค่าจ้างเมื่อสิ้นสุดการทำงาน
2.ระยะเวลาการทำงาน 3 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันและเวลาซึ่งผ่านการทดสอบ
ลงชื่อ
(เกล ฟอร์เทล)
ประธานสภา สายลับแอเรียล
‘งานบ้าบออะไรก็ไม่รู้ เงื่อนไขพิสดารจริงๆ สงสัยคนทำคงจะเพี้ยนหนัก เหอะ เสียเวลามากละ ขอตัวไปสอบสัมภาษณ์ก่อนล่ะ หวังว่าเราคงจะไม่มีวันมาเจอกันอีกนะ’
ฟุ่บ~
กระดาษสีน้ำตาลเก่าๆนับร้อยกว่าแผ่นถูกโยนลงถังขยะสีเหลืองข้างทางอย่างไม่ไยดี แต่...เธอคนนั้นจะรู้มั้ยว่า กระดาษเหล่านั้น กลับลอยขึ้นมาแล้วหายวับไปกลางอากาศทันที!!? โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
คิดไปแล้วก็แอบเสียดายกระดาษเหล่านั้นนิดๆ เพราะลวดลายบนกระดาษมันดูคลาสสิคดี เป็นเหมือนเถาวัลย์ และมีดอกไม้ประดับอยู่นิดหน่อย แต่ยังไงก็ช่างเถอะ เหนื่อยมามากพอแล้วสำหรับวันนี้ จะขอไปงีบสักตื่นก่อนดีกว่า เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องรีบไปสมัครงานที่อื่น แต่ไอ้ทางไปบ้านพักของฉันคืนนี้มันน่ากลัวแปลกๆนะ
ส่วนที่ฉันว่าคืนนี้มันน่ากลัวแปลกๆคือ มันเงียบผิดปกติ ไม่เห็นไอ้เจ้าด่าง กับไอ้ปอเปี๊ย(เพื่อนซี้สี่ขา ของฉัน) ออกมารับเราที่ปากซอยเหมือนวันอื่นเลยอ่ะ หรือว่ามันจะไปติดสาวที่ไหน...
แกรบ! ตุ้บ! พลั่ก! ตุ้บ!!
หือ??? เสียงอะไร!? ใครตามเรามา?? หวังว่าคงไม่ใช่เด็กแว๊นหน้าปากซอยกลุ่มนั้นหรอกนะ!? ด้วยสัญชาตญาณของฉันที่ได้รับการอบรมมา ก็สั่งขาของด้วยเองให้รีบก้าวเดินฉับๆมุ่งตรงไปยังบ้านพักที่รออยู่เบื้องหน้าทันที มือข้างซ้ายก็กำสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าสะพายไว้แน่น รู้สึกเหมือนไอ้บ้านั่นจะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จะตามตื้อฉันไปถึงไหนฟ่ะ! เท่านั้นหล่ะฉันก็สวมวิญญาณนักวิ่งทันที แต่พอกำลังจะออกตัวก็โดนขว้าแขนไว้ก่อน
พรึ่บ! ฟื้ด! ๆๆ
“นี่แหนะๆ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า! ไอ้เลว!! ไอ้เด็กไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน! ไปตายซะไป๊!!” ทันทีที่ฉันโดนขว้าแขนไว้ ก็ได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ และหันไประดมฉีดสเปรย์ใส่หน้าหมอนั่นแบบไม่กลัวสเปรย์หมด
“โอ๊ย! คุณ! พอก่อนสิคุณ! ผมเอง บราวไง! ผมบราวเอง!”
มือที่ตอนนี้กำสเปรย์แน่น ก็คลาย และลดมือลง พร้อมกับค่อยลืมตามองทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆตัว ผู้ชายคนนั้น...คนที่ช่วยฉันจัดการพวกรีดไถ่เงิน คนที่ใส่สร้อยสีเงินที่คล้องแหวนสลักชื่อวงหนึ่งไว้.....
“ห่ะ...ห๊ะ? บราว? เฮ้ย! คุณ!” !!!??
“ก็ใช่น่ะสิ! โอ๊ย แสบตาไปหมดแล้วเนี่ยคุณ!”
“อะ...เอ่อ ฉะ...ฉันขอโทษอ่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ (แต่แอบเจตนานิดหน่อย) แล้วคุณจะสะกดรอยตามฉันมาทำไมเนี่ย ฉันไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนของคุณนะ จะได้ให้คุณมาเดินตามรอยฉันอยู่เนี่ย เป็นใครๆก็ต้องตกใจหมดแหละ” เกิดมา วันนึงไม่เคยบ่นเยอะขนาดนี้เลยนะ ตั้งแต่มาเจอตานี้ มีเรื่องมาให้ฉันได้วุ่นวายตลอดเลย
“ก็ถ้าผมไม่ตามคุณมา ป่านนี้คุณก็คงโดนไอ้พวกนั้นมันลากเข้าป่าไปไหนต่อไหนเรียบร้อยแล้วล่ะ” ฉันจึงชะเง้อมองดูทางที่ฉันได้ยินเสียงตอนนั้น แล้วจึงหันมากำลังจะต่อว่านายบราว์ พอฉันสังเกตที่ตัวหมอนั่นดีๆจึงเห็นสิ่งผิดปกติไป ใบหน้าเขามีแต่เหงื่อเกาะพราว และ.... ที่แขนนั่น!! เลือด!!
“แล้วแผลนั่น...” ตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจไอ้สองคนที่นองกองกันใต้ต้นไม้นั่นแล้ว
“ช่างฉันเหอะ แผลแค่นี้ยังไกลหัวใจ แต่ช่วยคุยกันที่อื่นก่อนได้มั้ยคุณ กะจะยืนคุยกันตรงนี้เลยรึไง ” อุตส่าห์เป็นห่วงแต่ปากดีแบบนี้คงไม่ต้องแล้วล่ะ ผู้ชายอะไรพูดดีๆกับเลดี้อย่างนี้ไม่เป็นรึไง เดี๋ยวแม่ปล่อยให้ตายตรงนี้ซะเลยนี่
พอฉันเห็นเลือดที่ต้นแขนหมอนั่นเริ่มไหลเยอะขึ้น ฉันเลยต้องรีบลากตานั่นมาทำแผลที่บ้าน แถบนี้เป็นบ้านจัดสรรราคาถูก บ้านทุกหลังจะมีระเบียงหน้าบ้าน แต่ละหลังเขาไม่ค่อยตกแต่งระเบียงกันหรอก แต่ฉันชอบจัดสวนมาก ระเบียงหน้าบ้านฉันเลยมีไม้เถาห้อยระย้าอยู่
กลับมาที่นายบราว์ พอมาถึงฉันก็ปล่อย ให้ตานั่นนั่งพักที่ระเบียงหน้าบ้าน แล้วตัวฉันก็ลากสังขารไปที่ตู้ยา ไอ้ตู้ยานั่นก็สะเออะไปอยู่ในครัว(ซึ่งอยู่ลึกสุด) ทำให้ฉันต้องเสียเวลา และพลังงานอย่างมากในการเดินกลับออกมาที่ระเบียง
“นึกว่าโดนตู้ยากระโดดทับไปแล้วซะอีก” ฉันน่าจะยืมตะกร้อของพี่บ้านข้างๆมาครอบไอ้ตูบในปากของหมอนี่ด้วยนะ -*- …มันน่านักเชียว
“ทำเป็นพูดดีเข้า งั้นก็ทำแผลเองเลยป่ะ” พอฉันทำท่าจะไปนั่งเก้าอี้โยกที่อยู่ติดประตู หมอนั่นก็ใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บขว้าไหล่ฉันไว้
“เฮ้ยยยยย!!!!” เสียงของฉันและหมอนั่นร้องประสานกันเสียงดัง และสภาพของฉันสองคนตอนนี้คือ ...ตานั่นลงไปนอนวัดพื้น และมีฉันนอนคร่อมเขาอยู่ ขณะนี้หน้าของฉันกับนายบราวอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ!!! พระเจ้าช่วย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะผิวเนียนได้ขนาดนี้
“/////”
“///”
(บทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
เงียบกันได้สักพัก ความรู้สึกแปลบๆที่ต้นแขนซ้ายของผมก็เหมือนจะกระตุ้นให้ผมรู้สึกตัวสักที ยัยนี่ทำไมถึงตัวหอมจังเลนนะ กับความน่ารักที่เห็นตอนแรกแล้ว ตอนนี้ดูน่ารักกว่าเดิมซะอีก แก้มเนียนนี่....บ้าจริง! ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย อย่าลืมจุดประสงค์ที่มาหายัยนี่สิ!
“ลุกได้ยังคุณ เดี๋ยวคนอื่นเขามาเห็นผมจะเสียหายเอานะ”
“อะ...ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่เหรอที่จะเป็นคนเสียหายน่ะ เอ่อ... เดี๋ยวฉันทำแผลให้” ผมลุกขึ้นกลับไปนั่งที่เดิมให้ยัยนั่นทำแผลให้ หลังจากที่ทำแผลเสร็จ ผมก็รีบเรียกเธอก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปเก็บกล่องปฐมพยาบาล
“เธอ!! ยัยลูกหมา ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย ขอเข้าไปข้างในหน่อยนะ ขอบคุณ” ผมรีบชิงเดินผ่านยัยนั่นเข้าไปข้างในก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร
“นี่!นาย! เดี๋ยวสิ! มีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉันว่า ลูกหมาห๊ะ!! นี่!!”
แล้วยัยนั่นก็รีบวิ่งตามผมเข้ามาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล เพราะผมตามยัยนี่มาแท้ๆ เลยทำให้ผมต้องมีแผลขนาดนี้
“นายถือดียังไงถึงมาเรียกฉันว่า ยัยลูกหมามิทราบ?” เธอเดินเข้ามายืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหน้าผม ที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟา ขาไขว่ห้าง(กระดิกเท้าด้วย) อย่างสบายใจ
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ ดูเธอสิตัวเล็กแค่นี้ ไม่ต่างอะไรกับลูกหมานักหรอก ส่วนหุ่นเธอก็...เรียบๆ แบนๆ ฮึฮึ =v=” ผมแสยะยิ้มใส่เธอ พร้อมกับยักคิ้วไปให้ เธอถึงกับถอยหลังกรูพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองทันที
“น่ะ....นาย!!”
“นี่ๆ คุณๆๆ ผมแค่ล้อเล่นน่า คิดอะไรไปถึงไหนแล้วนั่น ผมก็แค่แกล้งพูดไปอย่างนั้นเองแหละ” ผมรีบพูดแก้ตัว “เข้าเรื่องเลยละกัน ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะ สำคัญมากๆเลยด้วย”
“= = เหรอ...งั้นรอแป๊บ ฉันขอเอากล่องไปเก็บก่อน”
“ครับผม ^^”
ในขณะที่ผมนั่งรอเธอเดินกลับมา ผมจึงถือโอกาสนี้มองสำรวจรอบๆห้องไปด้วยในตัว แล้วสักพักเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำในมือ แล้วยื่นให้ผม
“ขอบคุณครับ ^v^”
“แผลน่ะลึกมากเลยนะ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลน่ะ”
(จบบทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
“(- - )( - -) ไม่จำเป็นหรอก แผลแค่นี้เล็กน้อย เอ...รึว่าเธอเป็นห่วงฉัน???” นายบราว์ถามพร้อมกับทำหน้าตาสงสัยมาให้ฉัน
“ฉันเป็นต้นเหตุไม่ใช่เหรอ ก็เป็นธรรมดา แล้ว...นายมีธุระอะไรที่ต้องคุยกับฉันอ่ะ”
“ก็...เมื่อเช้านี้เธอได้ใบปลิว ที่มันมีหัวข้อจากดินแดนผู้ใช้เวทย์อะไรทำนองนี้หรือเปล่า”
“ไอ้ใบปลิวที่มีข้อความรับสมัครงานแปลกๆนั่นน่ะเหรอ?”
ฉันถามนายบราว์ด้วยน้ำเสียงเอียนสุดๆ นึกไปถึงไอ้ใบปลิวแผ่นนั้นแล้ว ก็ยังอดโมโหไม่ได้ที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลายืนอ่าน และทำความเข้าใจอยู่ตั้งนาน จนฉันต้องเข้าทำงานช้าแถมก่อนไปทำงานยังรีบมากจนเกือบโดนรถชนแหนะ - -*
“อืม - -” ตอบได้หน้าตายมาก....
“ฉันทิ้งมันไปแล้วล่ะ นายจะมาเอาเหรอ ฉันว่าป่านนี้คงโดนย่อยสลายไปเป็นทิชชู่ไปแล้วมั้ง”
“-0- ทิ้งไปแล้ว???”
“ใช่! ทิ้ง-ไป-แล้ว นายจะพูดถึงไอ้ใบปลิวพวกนั้นทำไมไม่ทราบ” ฉันจึงย้ำเขาไปอย่างสุดฤทธิ์เหมือนกัน พร้อมกับยิงคำถามกลับไป
“-0- หวังว่าเธอคงจะอ่านทุกตัวอักษรในนั้นอยู่หรอกนะ” อ่านทุกตัวอักษรเหรอ....
“เปล่าหรอก มีอยู่บรรทัดนึงที่ฉันข้ามไปน่ะ ทำไมเหรอ??”
วูบ~
จู่ๆ จี้สร้อยลูกแก้วสีแดงที่ห้อยอยู่บนคอฉันก็เปล่งแสง แล้วก็ดับไป หลังจากนั้นฉันก็เริ่มรู้สึกร้อนจากลูกแก้วเล็กๆลูกนั้น ฉันเลยรีบถอดสร้อยคอเส้นนั้นออกแล้วรีบวางมันทิ้งลงไปที่ๆนั่งข้างๆตัวเอง
“เธอ...สร้อยเส้นนั้นมัน?!!!” จู่ๆนายบราว์ก็ทำตาโตแล้วรีบลุกมาหยิบเอาสร้อยของฉันเส้นนั้นไป “มิริน...” ???
“ว่าไงนะ?....” ฉันรีบยิงคำถามให้นายบราว์ มือก็ยังคงแตะอยู่ที่คอตัวเอง มิริน...งั้นเหรอ? เหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนนะ ชื่อนี้...
“เธอมีหยดน้ำตาแห่งไฟนี่ได้ไง? เธอไปเอามาจากไหน??” บราว์ถามมิว ทันทีที่ละสายตาจากสร้อยเส้นนั้น อะ...อะไรของหมอนี่กัน...??
“เอ่อ....”
“ตอบฉันสิ! ตอบฉัน!!” บราว์จับไหล่บางของมิวไว้แน่นแล้วเขย่าหวังเค้นเอาคำตอบจากเธอ แต่เมื่อเห็นว่ามิวเริ่มเบ้ปากเพราะเจ็บ เขาจึงค่อยๆคลายมือลง แล้วรีบถอนมือออก “คือ...ฉัน...ฉันขอโทษ เธอเจ็บมากไหม...”
“- -* ก็แน่ล่ะ นายเป็นอะไรของนาย ทำไมจู่ๆถึง....”
“ช่างเหอะ ว่าแต่ เธอจะตอบคำถามของฉันได้ยัง” บราว์ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น ในมือก็ถือสร้อยเส้นนั้นไว้
“นี่น่ะเหรอ? พ่อบอกว่าสร้อยเส้นนี้แม่ฉันให้ไว้ตอนฉันเกิด”
(บทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
ประโยคของเธอที่พูดมาเมื่อกี้นั้นทำให้ผมถึงกับหน้าสลด มิริน....เธอหายตัวไปตอนอายุได้สามขวบเท่ากันกับผม พร้อมกับสร้อย หยดน้ำตาแห่งไฟเส้นเหมือนกันนี้ ที่ผมให้เธอไว้เป็นของขวัญวันเกิด และที่ผมรีบบึ้งมาที่โลกมนุษย์นี่ ก็เพื่อตามหาเธอตามที่สายข่าวได้รายงานมา เพื่อพาเธอกลับไปที่ดินแดนแห่งมนตรา.....
แต่...
ใช่ว่าผมจะหมดหวังซะเมื่อไหร่ เพราะสร้อยเส้นนี้มีอักษรเวทย์ที่เป็นสัญลักษณ์อยู่ ถ้าเธอคนนี้อ่านออกล่ะก็ ต้องใช่มิรินแน่ๆ
“เธอรู้มั้ยว่าตัวอักษรที่สลักอยู่ตรงนี้ แปลว่าอะไร” ผมยื่นสร้อยคืนให้เธอ ในด้านที่มีอักษรเวทย์สลักอยู่สองสามตัว เธอรับไปดูแล้วพูดขึ้น
“ไฟ” 0o0! เธอ...อ่านได้ ตัวอักษรอีกด้านที่สลักอยู่ ผมคงไม่ต้องให้เธออ่านเพื่อความชัวร์อีกแล้วล่ะ ตอนนี้ไม่รู้เวลาเท่าไหร่แล้ว แต่ที่รู้ๆคือ ผมต้องรีบพาเธอไปยังดินแดนแห่งมนตราแห่งนั้นให้ไวที่สุด
“ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว?”
“มีตาม่ะ โน่นไงนาฬิกา” ผมจึงหันไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องด้านขวามือ ห้าทุ่มแล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงต้องพาตัวยัยนี่ไปดินแดนแห่งมนตรานั่นให้ทันก่อนเลยเที่ยงคืน ไม่งั้นคงต้องรออีกหลายวันกว่าจะได้ไป เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง มิติที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกปีศาจเปิดพอดี ที่จริงจะไปวันไหนก็ได้นั่นแหละ แต่ว่าต้องใช่พลังเยอะกว่าปกติ ทำให้ผมต้องเหนื่อยมากกับการดึงพลังออกมา วันที่พระจันทร์เต็มดวงเป็นวันที่มีเวทเยอะเป็นพิเศษ ทำให้ผมไม่ต้องเหนื่อยมาก เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าไปถึงที่นั่นแล้วก็ต้องเดินผ่านป่าหลังปราสาทนั่นอีกกว่าจะถึงก็คงเสียพลังไปเยอะเหมือนกัน
“เธอมีคุณสมบัติตรงตามในกระดาษแผ่นนั้นใช่มั้ย”
“ห่ะ...ห๊ะ?”
“ตอบมาเร็ว ไม่มีเวลามากนะ”
“...เอ่อ...อืม ก็ตรงบ้าง”
“ดี ป่ะ ไปกันได้แล้ว นี่ก็...เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง รีบไปกันเถอะ” ผมไม่รอให้ยัยนั่นได้พูดสักเอะ ลากยัยนี่ไปหลังบ้านเธอทันที หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะ
“ฮะ...เฮ้ย เดี๋ยวสิ นี่นายจะพาฉันมาหลังบ้านทำไมอ่ะ รึว่า!? อุ๊บ!!! อ่อย อ้านนนนน!!! (ปล่อยฉ้านนนนน)”
“จะร้องทำไมเนี่ย ฉันทำอะไรเธอไม่ลงหรอก เงียบๆหน่อยเดี๋ยวคนอื่นเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะเข้าใจฉันผิดหมด โอ๊ย!!!” อ๊ากกกกกก ยัยนี่เหยียบเท้าผม!!! เสียงดังแบบนี้ เกิดคนอื่นเขามาเห็นแล้วเข้าใจผิดขึ้นมาทำไงเนี่ย อ้อ! คงต้อง...
“สมน้ำหน้า! อุ๊บ!!!O.o!”
“.....”
ริมฝีปากของผมแตะริมฝีปากเธอเนิ่นนาน...(= =) อะไรกันอย่ามองผมแบบนั้นสิ ก็มันจำเป็นจริงๆนี่ครับ ยัยนี่ไม่ยอมเงียบสักที แถมยังเหยียบเท้าผมอีก ก็ต้องปิดปากเธอซะ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็คงไม่ได้ผลหรอก รึไม่จริงๆ??...- -+
“เอ่อ...น่ะ...นาย....-////- นาย.....”
“ครับ?? ^^” ยัยลูกหมาหน้าแดง รึว่านี่เป็น First Kiss ของเธอ??
(จบบทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
“น่ะ...นายจะพาฉันไปไหน -////-”
“โลกปีศาจ ดินแดนผู้ใช้เวท”
“งั้นเหรอ -///-” ตาบ้าเอ้ย!! นั่นมัน First Kiss ของฉันเลยนะ!!!! ถ้าจะพาไปที่ไหนทำไมไม่บอกดีๆตั้งแต่ทีแรก! เล่นถามๆๆๆๆๆๆ แล้วลากๆๆๆๆๆ ฉันมาที่นี่ เป็นใครเขาก็ต้องเข้าใจผิดกันหมดสิ!!!!
“พร้อมรึยัง นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่นิดเดียวนะ”
“อะ....อืม”
“ปิดตาแล้วจับมือฉันไว้แน่นๆ”
“ทำไมต้องจับมือนายไว้ แล้วทำไมต้องปิดตาด้วย”
“คำถามเยอะจริง ทำตามที่ฉันบอก แล้วไว้ถึงที่นั่นก่อนเธอก็จะรู้เอง”
“ถ้าฉันไม่ทำ” แน่นอนฉันสวนกลับเขาไปไม่ถึง 0.1 วิ
“Kiss” เฮือก!
แล้วเขาก็สวนฉันกลับ ฉันเลยจำเป็นต้องทำตามที่ตานั่นบอก นี่ทำไมฉันต้องยอมนายบราว์อะไรนี่ด้วยล่ะเนี่ย......‘Kiss’ แล้วไอ้คำๆนั้นก็ตามมาหลอกหลอนฉันอีก เพิ่งรู้จักแค่ชื่อกันแท้ๆ หมอนี่ก็เล่น Kiss ปิดปากฉันแล้ว ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้เนี่ย >.,<!
“มูฟเวเบิล” สิ้นเสียงของตานั่นก็มีลมปะทะหน้าฉันวูบหนึ่ง ทำให้ฉันเผลอไปเกาะแขนตานั่นด้วย เกิดมายังไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวชายใดขนาดนี้เลยนะ แม้แต่คุณพ่อของฉันยังไม่มีเวลามากอดก่อนไปทำงานเลย นึกถึงคุณพ่อแล้วน้ำตาของฉันก็เริ่มจะทะลักบ่อออกมา คุณพ่อคุณแม่ของฉันไม่ค่อยมีเวลามาดูแล เลยต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลฉันแทน ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ได้นั่งทานข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีวันหยุดที่แสนสนุกด้วยกัน เพราะเวลาของคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันมีแต่งานเท่านั้น คิดถึงพวกท่านแล้วก็พาลน้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง ทำไมมันถึงกลั้นไว้ไม่อยู่สักทีนะ
“ถึงละ...เฮ้ย เธอร้องไห้ทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะเว้ย”
“ตาบ้า ฉันไม่มีวันร้องไห้เพราะนายหรอก ฮึก ฉันคิดถึงพ่อ-แม่ของฉันต่างหาก ฮือ ฮึก”
“ยัยลูกหมา หยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวก็โดนสัตว์ป่าแถวนี้เขมือบเอาหรอก”
“........”
“ดี เชื่อฟังอย่างนี้สิค่อยน่ารักหน่อย” แล้วตานั่นก็ใช้มือข้างหนึ่งปาดน้ำตาบนแก้มเนียนของฉันออก อะ...เอ่อ....เขาทำแบบนี้อีกแล้ว ใจฉันมันเต้นแรงไปหมดแล้วนะ เป็นอะไรไปอีกเนี่ยเรา
“-///-”
“^-^”
“...แล้ว...ที่นี่คือที่ไหน”
“เธอเห็นเป็นสยามพารากอนเหรอ”
“-*- ฉันเห็นเป็นสนามหลวง”
“โอเคๆ ผมยอมคุณละ ผมบอกดีๆก็ได้ ที่นี่คือป่าวงกต ป่าหลังปราสาทที่คุณจะเข้าทดสอบนี่หล่ะ หากเราออกและรอดจากที่นี่ไปได้ ก็ต้องไปเจอกับการทดสอบอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น....”
“เดี๋ยว ก่อนที่นายจะบอกว่ามีการทดสอบอะไรบ้าง นายบอกฉันก่อนได้มั้ยว่านายเป็นใคร มาจากไหน นายพาฉันมาที่นี่ได้ยังไง แล้วนายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน เค๊?”
“โอเค ฉันบอกเธอก็ได้ ฉันที่จริงมีชื่อว่า บราวิน แอเรียล หรือจะเรียกฉันง่ายๆว่า ปริ๊นซ์ก็ได้” เขาพูดพร้อมกับทำหน้าตาภาคภูมิใจสุดๆ
“ปริ๊นซ์ที่แปลว่าเจ้าชายนั่นหน่ะเหรอ? แหวะ!”ฉันขัดขึ้นในเวลาไม่ถึง 0.1 วินาที
“- - อย่าขัดได้มั้ย”นายบราว์ทำหน้าเหมือนปลากระโห้หิวจัด ฉันไม่ใช่ไรน้ำนะย่ะ!
“อยากขัดก็ขัด”
“ฉันให้เธอเป็นกรณีพิเศษ เรียกฉันว่าบราว์เฉยๆก็ได้ เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนฉันนะเนี่ย” นายบราว์พูดพลางค่อยๆเดินขนาบข้างฉันอย่างช้าๆ
“อธิบายต่อสิ” ฉันสั่งให้เขาอธิบายพร้อมกับออกเดินไปตามทางนั้นต่อ
แกร๊บ! แกร๊บ!!
หือ?? เสียงอะไร???? จู่ๆตานั่นก็หยุดเดินแล้วเข้ามากันฉันจากด้านหน้า
“เธอดูแลตัวเองได้ใช่มั้ย”
“เฮ้ย! ทำไมถามกันอย่างนี้ล่ะ!”
“ถามให้ตอบ”
“เออ ได้”
“งั้นก็ดี”
ซวบ!! แกร๊บ!!!
เสียงมันเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ฉันตั้งการ์ดในแบบของนักคาราเต้สายดำทันที
ฟุ่บ!!~
“.....”
“.....”
เงิบไปห้าวิ...เกิดความเงียบขึ้นในบัดดล...
“กระต่าย???”<<< ฉัน
“โถ่...เราก็นึกว่าจะได้บู๊ซะอีก”<<< บราว์
ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก แล้วจู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงกระโดดออกมาจากพุ่มไม้แล้วยืนปัดเนื้อปัดตัวที่มีแต่ใบไม้ติดเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ไอ้โทรุ!!”
“ไฮ~^0^~” คนที่นายบราว์เรียกว่าโทรุทักกลับ แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงโผล่มาจากพุ่มไม้ด้านข้างนั่นอีกคน
“^^” คนที่ชื่อโทรุอะไรนั่นยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น
“นั่น...???” ผู้หญิงผมยาวเป็นลอน สีน้ำตาล หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตานั่น ชี้มาที่ทางฉันกับนายบราว์
“บราว์”
“ฉันชื่อมิว ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันแนะนำตัว
“ฉันเบลจ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” เบลพูดแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ผม โทรุครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผู้ชายผมซอยระต้นคอ สีกาแฟนั่น คุกเข่าลงจับมือฉันไปกำลังจะจุมพิตที่หลังมือของฉัน นายบราว์นั่นก็ดึงมือฉันกลับไปพอดี อะ...อะไรน่ะ
“แกรู้กฎของดินแดนแห่งนี้อยู่แล้ว ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด แกไปดูแลคนของแกเถอะ ฉันดูแลของฉันเองได้” อะไรของสองคนนั่นน่ะ แล้วนี่ไม่ใช่วิธีทักทายของที่นี่หรอกหรอ แล้วกฎอะไรนั่นมันยังไงกันแน่ห๊ะ?
“ไปกันเถอะ” จู่ๆตานั่นก็ลากฉันเดินไปตามทางนั่นเหมือนเดิม นี่กะจะลากฉันไปทั้งเรื่องเลยรึไงเนี่ยนายบราว์
“อ้าว เดี๋ยวสินาย!”
“อะไรอีก- -” ดูทำหน้าเข้าสิ สายตาดุดันนั่นแทบจะฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆได้อยู่แล้วนะ
“เป็นอะไรของนาย ก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีๆอยู่เลยนะ กะอีแค่โทรุเขาจะทักทายฉัน”
“โดยการจุมพิตบนหลังมือ!?”
“ใช่! ทำไมนายต้องตะคอกใส่ฉันด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้!”
“เธอไม่รู้เรื่องกฎของดินแดนแห่งนี้หรอก!! อย่าเอากริยาบนโลกมนุษย์มาใช้ที่นี่ จงเงียบซะ! แล้วตามฉันมาแค่นี้พอ”
“นายก็บอกให้ฉันรู้สิ ฉันจะได้เข้าใจนายไง” แล้วสุดท้ายนายบราว์ก็ต้องยอมฉัน หมอนั่นบอกว่าหาที่พักก่อนแล้วจะบอกทีหลัง ช่วงนี้ฉันไม่รู้ทำไมถึงมีความรู้สึกแปลกก็ไม่รู้นะ เวลาอยู่ใกล้นายบราว์แล้วรู้สึกอุ่นใจ เฮ้อ~ สงสัยคงเป็นเพราะฉันไปนึกถึงเรื่องพ่อกับแม่ฉันเข้า แล้วพอมีคนมาคอยอยู่ใกล้ๆแบบนี้ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเองเฉยๆก็ได้มั้งนะ
พรึ่บ!!~
พอนายบราว์เอามือปัดอากาศไปด้านบนเศษไม้ที่ฉันกองไว้ ไฟก็ติดโดยที่ไม่ต้องใช้ไฟแช็กหรือไม้ขีดสักอัน
“ว้าว~ นายทำได้ไงหน่ะ~”
“เพราะฉันเก่งไงล่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”
“แหวะ! ทีนี้จะบอกฉันได้ยัง เรื่องกฎอะไรของดินแดนนี้น่ะ แล้วก็ทำไมนายถึงไม่ให้พวกเขาสองคนมาด้วยกัน เดินทางไปด้วยกัน ทั้งๆที่มันน่าจะสนุกกว่า”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอนแบบค้างๆคาๆ เรามารอลุ้นกันว่าตอนต่อไปมิวจะเจอกับอะไรบ้าง จะได้บู๊กันหรือเปล่า? เอ๊ะ...หรือจะมีเลิฟซีน?? โอ๊ะ...หรือจะมีเซอร์ไพรซ์อะไรบ้างต้องติดตามกันต่อนะคะ
ปล.สุดท้ายนี้ก็ฝากติชมนินยายเรื่องนี้ และเก็บไปพิจารณาด้วยนะเจ้าคะ แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้า Byebeeee~
บทแรกมาแล้วจ้าาา~
มาเสิร์ฟพร้อมกับวันเปิดตัวนิยายเลยนะเออ
ยังไงซะนี่ก็เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนไว้นานแล้ว ไม่กล้าเอาลงสักทีเพราะมัวแต่่รีไรท์มันมันเรื่อยๆ แก้ไขมันบ่อยๆ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเอาลงจนได้ (ปัง ปัง ปัง~//จุดพลุ)
เอาเถอะ เราจะมารอช้าอยู่ไย? มาพบกับตอนแรกกันเลยดีกว่าเนอะ~
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อหิว กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด เมื่ออิ่มแล้ว กองทัพก็ต้องเดินด้วยเท้าต่อไปฉันนั้น(พล่ามอะไรล่ะนั่น) หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกับข้าวมันไก่ไซส์พิเศษไปเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รีบขอบคุณคุณลุงที่แสนจะใจดีคนนั้นแล้วเผ่นออกมาจากร้านนั่นทันที โดยไม่สนใจคำพูดที่ได้พูดไว้ตอนนั้น ‘ได้ กินอิ่มแล้วฉันจะไปกับนายก็ได้’นี่ฉันไม่ได้ผิดคำพูดนะ ก็แค่เอานิ้วไขว่กันไว้เฉยๆ เหอะ ถึงแม้นายบราวอะไรนั่นจะหล่อปานเทพบุตร และถึงแม้ว่าฉันจะสวยปานนางฟ้า (ช่างกล้า...)แต่ยังไงหญิงไทยอย่างฉันก็ต้องรักนวล สงวนตัว อย่างที่สุภาษิตไทยสอนเราไว้ยังไงล่ะ
กลับมาที่วันนี้ ฉันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะ เพราะตั้งแต่ได้อ่านไอ้ใบปลิวแปลกๆนั่นแหละ.....
แกร๊ก!!~‘หืม? กระดาษอะไรเนี่ย ทำไมมันเต็มตู้รับจดหมายไปหมดอย่างนี้??
‘ประกาศจากดินแดนผู้ใช้เวทย์’
‘ถึงผู้ที่มี หยดน้ำตาแห่งไฟ’
หากท่านได้อ่านและได้รับสารฉบับนี้แล้ว ขอให้ท่านอ่านรายละเอียดต่างๆ และหัวข้องานที่เราจะให้ท่านทำให้ละเอียด และคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ซึ่งงานที่เราจะมอบหมายให้ท่านทำก็มีดังนี้
คุณสมบัติ
1.มีจี้หยดน้ำตาแห่งไฟ
2.แข็งแก่ง อดทน ใจกล้า บ้าดีเดือด เอาตัวรอดได้ในทุกสถานะการณ์
3.ไม่มีพันธะกับใครเป็นพิเศษ เช่น หากท่านมีครอบครัวก็จะถูกตัดสิทธิทันที
4.สมัครใจที่จะทำงานนี้
5.ว่างงาน
เงื่อนไขและค่าตอบแทน
1.ที่พักฟรี อาหารฟรี รวมทั้งค่าจ้างเมื่อสิ้นสุดการทำงาน
2.ระยะเวลาการทำงาน 3 เดือนเต็ม นับตั้งแต่วันและเวลาซึ่งผ่านการทดสอบ
ลงชื่อ
(เกล ฟอร์เทล)
ประธานสภา สายลับแอเรียล
‘งานบ้าบออะไรก็ไม่รู้ เงื่อนไขพิสดารจริงๆ สงสัยคนทำคงจะเพี้ยนหนัก เหอะ เสียเวลามากละ ขอตัวไปสอบสัมภาษณ์ก่อนล่ะ หวังว่าเราคงจะไม่มีวันมาเจอกันอีกนะ’
ฟุ่บ~
กระดาษสีน้ำตาลเก่าๆนับร้อยกว่าแผ่นถูกโยนลงถังขยะสีเหลืองข้างทางอย่างไม่ไยดี แต่...เธอคนนั้นจะรู้มั้ยว่า กระดาษเหล่านั้น กลับลอยขึ้นมาแล้วหายวับไปกลางอากาศทันที!!? โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
คิดไปแล้วก็แอบเสียดายกระดาษเหล่านั้นนิดๆ เพราะลวดลายบนกระดาษมันดูคลาสสิคดี เป็นเหมือนเถาวัลย์ และมีดอกไม้ประดับอยู่นิดหน่อย แต่ยังไงก็ช่างเถอะ เหนื่อยมามากพอแล้วสำหรับวันนี้ จะขอไปงีบสักตื่นก่อนดีกว่า เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องรีบไปสมัครงานที่อื่น แต่ไอ้ทางไปบ้านพักของฉันคืนนี้มันน่ากลัวแปลกๆนะ
ส่วนที่ฉันว่าคืนนี้มันน่ากลัวแปลกๆคือ มันเงียบผิดปกติ ไม่เห็นไอ้เจ้าด่าง กับไอ้ปอเปี๊ย(เพื่อนซี้สี่ขา ของฉัน) ออกมารับเราที่ปากซอยเหมือนวันอื่นเลยอ่ะ หรือว่ามันจะไปติดสาวที่ไหน...
แกรบ! ตุ้บ! พลั่ก! ตุ้บ!!
หือ??? เสียงอะไร!? ใครตามเรามา?? หวังว่าคงไม่ใช่เด็กแว๊นหน้าปากซอยกลุ่มนั้นหรอกนะ!? ด้วยสัญชาตญาณของฉันที่ได้รับการอบรมมา ก็สั่งขาของด้วยเองให้รีบก้าวเดินฉับๆมุ่งตรงไปยังบ้านพักที่รออยู่เบื้องหน้าทันที มือข้างซ้ายก็กำสเปรย์พริกไทยในกระเป๋าสะพายไว้แน่น รู้สึกเหมือนไอ้บ้านั่นจะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จะตามตื้อฉันไปถึงไหนฟ่ะ! เท่านั้นหล่ะฉันก็สวมวิญญาณนักวิ่งทันที แต่พอกำลังจะออกตัวก็โดนขว้าแขนไว้ก่อน
พรึ่บ! ฟื้ด! ๆๆ
“นี่แหนะๆ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า! ไอ้เลว!! ไอ้เด็กไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน! ไปตายซะไป๊!!” ทันทีที่ฉันโดนขว้าแขนไว้ ก็ได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ และหันไประดมฉีดสเปรย์ใส่หน้าหมอนั่นแบบไม่กลัวสเปรย์หมด
“โอ๊ย! คุณ! พอก่อนสิคุณ! ผมเอง บราวไง! ผมบราวเอง!”
มือที่ตอนนี้กำสเปรย์แน่น ก็คลาย และลดมือลง พร้อมกับค่อยลืมตามองทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบๆตัว ผู้ชายคนนั้น...คนที่ช่วยฉันจัดการพวกรีดไถ่เงิน คนที่ใส่สร้อยสีเงินที่คล้องแหวนสลักชื่อวงหนึ่งไว้.....
“ห่ะ...ห๊ะ? บราว? เฮ้ย! คุณ!” !!!??
“ก็ใช่น่ะสิ! โอ๊ย แสบตาไปหมดแล้วเนี่ยคุณ!”
“อะ...เอ่อ ฉะ...ฉันขอโทษอ่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ (แต่แอบเจตนานิดหน่อย) แล้วคุณจะสะกดรอยตามฉันมาทำไมเนี่ย ฉันไม่ใช่ญาติฝ่ายไหนของคุณนะ จะได้ให้คุณมาเดินตามรอยฉันอยู่เนี่ย เป็นใครๆก็ต้องตกใจหมดแหละ” เกิดมา วันนึงไม่เคยบ่นเยอะขนาดนี้เลยนะ ตั้งแต่มาเจอตานี้ มีเรื่องมาให้ฉันได้วุ่นวายตลอดเลย
“ก็ถ้าผมไม่ตามคุณมา ป่านนี้คุณก็คงโดนไอ้พวกนั้นมันลากเข้าป่าไปไหนต่อไหนเรียบร้อยแล้วล่ะ” ฉันจึงชะเง้อมองดูทางที่ฉันได้ยินเสียงตอนนั้น แล้วจึงหันมากำลังจะต่อว่านายบราว์ พอฉันสังเกตที่ตัวหมอนั่นดีๆจึงเห็นสิ่งผิดปกติไป ใบหน้าเขามีแต่เหงื่อเกาะพราว และ.... ที่แขนนั่น!! เลือด!!
“แล้วแผลนั่น...” ตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจไอ้สองคนที่นองกองกันใต้ต้นไม้นั่นแล้ว
“ช่างฉันเหอะ แผลแค่นี้ยังไกลหัวใจ แต่ช่วยคุยกันที่อื่นก่อนได้มั้ยคุณ กะจะยืนคุยกันตรงนี้เลยรึไง ” อุตส่าห์เป็นห่วงแต่ปากดีแบบนี้คงไม่ต้องแล้วล่ะ ผู้ชายอะไรพูดดีๆกับเลดี้อย่างนี้ไม่เป็นรึไง เดี๋ยวแม่ปล่อยให้ตายตรงนี้ซะเลยนี่
พอฉันเห็นเลือดที่ต้นแขนหมอนั่นเริ่มไหลเยอะขึ้น ฉันเลยต้องรีบลากตานั่นมาทำแผลที่บ้าน แถบนี้เป็นบ้านจัดสรรราคาถูก บ้านทุกหลังจะมีระเบียงหน้าบ้าน แต่ละหลังเขาไม่ค่อยตกแต่งระเบียงกันหรอก แต่ฉันชอบจัดสวนมาก ระเบียงหน้าบ้านฉันเลยมีไม้เถาห้อยระย้าอยู่
กลับมาที่นายบราว์ พอมาถึงฉันก็ปล่อย ให้ตานั่นนั่งพักที่ระเบียงหน้าบ้าน แล้วตัวฉันก็ลากสังขารไปที่ตู้ยา ไอ้ตู้ยานั่นก็สะเออะไปอยู่ในครัว(ซึ่งอยู่ลึกสุด) ทำให้ฉันต้องเสียเวลา และพลังงานอย่างมากในการเดินกลับออกมาที่ระเบียง
“นึกว่าโดนตู้ยากระโดดทับไปแล้วซะอีก” ฉันน่าจะยืมตะกร้อของพี่บ้านข้างๆมาครอบไอ้ตูบในปากของหมอนี่ด้วยนะ -*- …มันน่านักเชียว
“ทำเป็นพูดดีเข้า งั้นก็ทำแผลเองเลยป่ะ” พอฉันทำท่าจะไปนั่งเก้าอี้โยกที่อยู่ติดประตู หมอนั่นก็ใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บขว้าไหล่ฉันไว้
“เฮ้ยยยยย!!!!” เสียงของฉันและหมอนั่นร้องประสานกันเสียงดัง และสภาพของฉันสองคนตอนนี้คือ ...ตานั่นลงไปนอนวัดพื้น และมีฉันนอนคร่อมเขาอยู่ ขณะนี้หน้าของฉันกับนายบราวอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ!!! พระเจ้าช่วย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างเขาจะผิวเนียนได้ขนาดนี้
“/////”
“///”
(บทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
เงียบกันได้สักพัก ความรู้สึกแปลบๆที่ต้นแขนซ้ายของผมก็เหมือนจะกระตุ้นให้ผมรู้สึกตัวสักที ยัยนี่ทำไมถึงตัวหอมจังเลนนะ กับความน่ารักที่เห็นตอนแรกแล้ว ตอนนี้ดูน่ารักกว่าเดิมซะอีก แก้มเนียนนี่....บ้าจริง! ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย อย่าลืมจุดประสงค์ที่มาหายัยนี่สิ!
“ลุกได้ยังคุณ เดี๋ยวคนอื่นเขามาเห็นผมจะเสียหายเอานะ”
“อะ...ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่เหรอที่จะเป็นคนเสียหายน่ะ เอ่อ... เดี๋ยวฉันทำแผลให้” ผมลุกขึ้นกลับไปนั่งที่เดิมให้ยัยนั่นทำแผลให้ หลังจากที่ทำแผลเสร็จ ผมก็รีบเรียกเธอก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปเก็บกล่องปฐมพยาบาล
“เธอ!! ยัยลูกหมา ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย ขอเข้าไปข้างในหน่อยนะ ขอบคุณ” ผมรีบชิงเดินผ่านยัยนั่นเข้าไปข้างในก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร
“นี่!นาย! เดี๋ยวสิ! มีสิทธิ์อะไรมาเรียกฉันว่า ลูกหมาห๊ะ!! นี่!!”
แล้วยัยนั่นก็รีบวิ่งตามผมเข้ามาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาล เพราะผมตามยัยนี่มาแท้ๆ เลยทำให้ผมต้องมีแผลขนาดนี้
“นายถือดียังไงถึงมาเรียกฉันว่า ยัยลูกหมามิทราบ?” เธอเดินเข้ามายืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหน้าผม ที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟา ขาไขว่ห้าง(กระดิกเท้าด้วย) อย่างสบายใจ
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ ดูเธอสิตัวเล็กแค่นี้ ไม่ต่างอะไรกับลูกหมานักหรอก ส่วนหุ่นเธอก็...เรียบๆ แบนๆ ฮึฮึ =v=” ผมแสยะยิ้มใส่เธอ พร้อมกับยักคิ้วไปให้ เธอถึงกับถอยหลังกรูพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองทันที
“น่ะ....นาย!!”
“นี่ๆ คุณๆๆ ผมแค่ล้อเล่นน่า คิดอะไรไปถึงไหนแล้วนั่น ผมก็แค่แกล้งพูดไปอย่างนั้นเองแหละ” ผมรีบพูดแก้ตัว “เข้าเรื่องเลยละกัน ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณน่ะ สำคัญมากๆเลยด้วย”
“= = เหรอ...งั้นรอแป๊บ ฉันขอเอากล่องไปเก็บก่อน”
“ครับผม ^^”
ในขณะที่ผมนั่งรอเธอเดินกลับมา ผมจึงถือโอกาสนี้มองสำรวจรอบๆห้องไปด้วยในตัว แล้วสักพักเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำในมือ แล้วยื่นให้ผม
“ขอบคุณครับ ^v^”
“แผลน่ะลึกมากเลยนะ แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลน่ะ”
(จบบทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
“(- - )( - -) ไม่จำเป็นหรอก แผลแค่นี้เล็กน้อย เอ...รึว่าเธอเป็นห่วงฉัน???” นายบราว์ถามพร้อมกับทำหน้าตาสงสัยมาให้ฉัน
“ฉันเป็นต้นเหตุไม่ใช่เหรอ ก็เป็นธรรมดา แล้ว...นายมีธุระอะไรที่ต้องคุยกับฉันอ่ะ”
“ก็...เมื่อเช้านี้เธอได้ใบปลิว ที่มันมีหัวข้อจากดินแดนผู้ใช้เวทย์อะไรทำนองนี้หรือเปล่า”
“ไอ้ใบปลิวที่มีข้อความรับสมัครงานแปลกๆนั่นน่ะเหรอ?”
ฉันถามนายบราว์ด้วยน้ำเสียงเอียนสุดๆ นึกไปถึงไอ้ใบปลิวแผ่นนั้นแล้ว ก็ยังอดโมโหไม่ได้ที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลายืนอ่าน และทำความเข้าใจอยู่ตั้งนาน จนฉันต้องเข้าทำงานช้าแถมก่อนไปทำงานยังรีบมากจนเกือบโดนรถชนแหนะ - -*
“อืม - -” ตอบได้หน้าตายมาก....
“ฉันทิ้งมันไปแล้วล่ะ นายจะมาเอาเหรอ ฉันว่าป่านนี้คงโดนย่อยสลายไปเป็นทิชชู่ไปแล้วมั้ง”
“-0- ทิ้งไปแล้ว???”
“ใช่! ทิ้ง-ไป-แล้ว นายจะพูดถึงไอ้ใบปลิวพวกนั้นทำไมไม่ทราบ” ฉันจึงย้ำเขาไปอย่างสุดฤทธิ์เหมือนกัน พร้อมกับยิงคำถามกลับไป
“-0- หวังว่าเธอคงจะอ่านทุกตัวอักษรในนั้นอยู่หรอกนะ” อ่านทุกตัวอักษรเหรอ....
“เปล่าหรอก มีอยู่บรรทัดนึงที่ฉันข้ามไปน่ะ ทำไมเหรอ??”
วูบ~
จู่ๆ จี้สร้อยลูกแก้วสีแดงที่ห้อยอยู่บนคอฉันก็เปล่งแสง แล้วก็ดับไป หลังจากนั้นฉันก็เริ่มรู้สึกร้อนจากลูกแก้วเล็กๆลูกนั้น ฉันเลยรีบถอดสร้อยคอเส้นนั้นออกแล้วรีบวางมันทิ้งลงไปที่ๆนั่งข้างๆตัวเอง
“เธอ...สร้อยเส้นนั้นมัน?!!!” จู่ๆนายบราว์ก็ทำตาโตแล้วรีบลุกมาหยิบเอาสร้อยของฉันเส้นนั้นไป “มิริน...” ???
“ว่าไงนะ?....” ฉันรีบยิงคำถามให้นายบราว์ มือก็ยังคงแตะอยู่ที่คอตัวเอง มิริน...งั้นเหรอ? เหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนนะ ชื่อนี้...
“เธอมีหยดน้ำตาแห่งไฟนี่ได้ไง? เธอไปเอามาจากไหน??” บราว์ถามมิว ทันทีที่ละสายตาจากสร้อยเส้นนั้น อะ...อะไรของหมอนี่กัน...??
“เอ่อ....”
“ตอบฉันสิ! ตอบฉัน!!” บราว์จับไหล่บางของมิวไว้แน่นแล้วเขย่าหวังเค้นเอาคำตอบจากเธอ แต่เมื่อเห็นว่ามิวเริ่มเบ้ปากเพราะเจ็บ เขาจึงค่อยๆคลายมือลง แล้วรีบถอนมือออก “คือ...ฉัน...ฉันขอโทษ เธอเจ็บมากไหม...”
“- -* ก็แน่ล่ะ นายเป็นอะไรของนาย ทำไมจู่ๆถึง....”
“ช่างเหอะ ว่าแต่ เธอจะตอบคำถามของฉันได้ยัง” บราว์ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น ในมือก็ถือสร้อยเส้นนั้นไว้
“นี่น่ะเหรอ? พ่อบอกว่าสร้อยเส้นนี้แม่ฉันให้ไว้ตอนฉันเกิด”
(บทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
ประโยคของเธอที่พูดมาเมื่อกี้นั้นทำให้ผมถึงกับหน้าสลด มิริน....เธอหายตัวไปตอนอายุได้สามขวบเท่ากันกับผม พร้อมกับสร้อย หยดน้ำตาแห่งไฟเส้นเหมือนกันนี้ ที่ผมให้เธอไว้เป็นของขวัญวันเกิด และที่ผมรีบบึ้งมาที่โลกมนุษย์นี่ ก็เพื่อตามหาเธอตามที่สายข่าวได้รายงานมา เพื่อพาเธอกลับไปที่ดินแดนแห่งมนตรา.....
แต่...
ใช่ว่าผมจะหมดหวังซะเมื่อไหร่ เพราะสร้อยเส้นนี้มีอักษรเวทย์ที่เป็นสัญลักษณ์อยู่ ถ้าเธอคนนี้อ่านออกล่ะก็ ต้องใช่มิรินแน่ๆ
“เธอรู้มั้ยว่าตัวอักษรที่สลักอยู่ตรงนี้ แปลว่าอะไร” ผมยื่นสร้อยคืนให้เธอ ในด้านที่มีอักษรเวทย์สลักอยู่สองสามตัว เธอรับไปดูแล้วพูดขึ้น
“ไฟ” 0o0! เธอ...อ่านได้ ตัวอักษรอีกด้านที่สลักอยู่ ผมคงไม่ต้องให้เธออ่านเพื่อความชัวร์อีกแล้วล่ะ ตอนนี้ไม่รู้เวลาเท่าไหร่แล้ว แต่ที่รู้ๆคือ ผมต้องรีบพาเธอไปยังดินแดนแห่งมนตราแห่งนั้นให้ไวที่สุด
“ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว?”
“มีตาม่ะ โน่นไงนาฬิกา” ผมจึงหันไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องด้านขวามือ ห้าทุ่มแล้ว เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงต้องพาตัวยัยนี่ไปดินแดนแห่งมนตรานั่นให้ทันก่อนเลยเที่ยงคืน ไม่งั้นคงต้องรออีกหลายวันกว่าจะได้ไป เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง มิติที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกปีศาจเปิดพอดี ที่จริงจะไปวันไหนก็ได้นั่นแหละ แต่ว่าต้องใช่พลังเยอะกว่าปกติ ทำให้ผมต้องเหนื่อยมากกับการดึงพลังออกมา วันที่พระจันทร์เต็มดวงเป็นวันที่มีเวทเยอะเป็นพิเศษ ทำให้ผมไม่ต้องเหนื่อยมาก เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าไปถึงที่นั่นแล้วก็ต้องเดินผ่านป่าหลังปราสาทนั่นอีกกว่าจะถึงก็คงเสียพลังไปเยอะเหมือนกัน
“เธอมีคุณสมบัติตรงตามในกระดาษแผ่นนั้นใช่มั้ย”
“ห่ะ...ห๊ะ?”
“ตอบมาเร็ว ไม่มีเวลามากนะ”
“...เอ่อ...อืม ก็ตรงบ้าง”
“ดี ป่ะ ไปกันได้แล้ว นี่ก็...เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงครึ่ง การเดินทางต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมง รีบไปกันเถอะ” ผมไม่รอให้ยัยนั่นได้พูดสักเอะ ลากยัยนี่ไปหลังบ้านเธอทันที หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะ
“ฮะ...เฮ้ย เดี๋ยวสิ นี่นายจะพาฉันมาหลังบ้านทำไมอ่ะ รึว่า!? อุ๊บ!!! อ่อย อ้านนนนน!!! (ปล่อยฉ้านนนนน)”
“จะร้องทำไมเนี่ย ฉันทำอะไรเธอไม่ลงหรอก เงียบๆหน่อยเดี๋ยวคนอื่นเขาตื่นขึ้นมาแล้วจะเข้าใจฉันผิดหมด โอ๊ย!!!” อ๊ากกกกกก ยัยนี่เหยียบเท้าผม!!! เสียงดังแบบนี้ เกิดคนอื่นเขามาเห็นแล้วเข้าใจผิดขึ้นมาทำไงเนี่ย อ้อ! คงต้อง...
“สมน้ำหน้า! อุ๊บ!!!O.o!”
“.....”
ริมฝีปากของผมแตะริมฝีปากเธอเนิ่นนาน...(= =) อะไรกันอย่ามองผมแบบนั้นสิ ก็มันจำเป็นจริงๆนี่ครับ ยัยนี่ไม่ยอมเงียบสักที แถมยังเหยียบเท้าผมอีก ก็ต้องปิดปากเธอซะ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็คงไม่ได้ผลหรอก รึไม่จริงๆ??...- -+
“เอ่อ...น่ะ...นาย....-////- นาย.....”
“ครับ?? ^^” ยัยลูกหมาหน้าแดง รึว่านี่เป็น First Kiss ของเธอ??
(จบบทพิเศษ: บราวิน แอเรียล)
“น่ะ...นายจะพาฉันไปไหน -////-”
“โลกปีศาจ ดินแดนผู้ใช้เวท”
“งั้นเหรอ -///-” ตาบ้าเอ้ย!! นั่นมัน First Kiss ของฉันเลยนะ!!!! ถ้าจะพาไปที่ไหนทำไมไม่บอกดีๆตั้งแต่ทีแรก! เล่นถามๆๆๆๆๆๆ แล้วลากๆๆๆๆๆ ฉันมาที่นี่ เป็นใครเขาก็ต้องเข้าใจผิดกันหมดสิ!!!!
“พร้อมรึยัง นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่นิดเดียวนะ”
“อะ....อืม”
“ปิดตาแล้วจับมือฉันไว้แน่นๆ”
“ทำไมต้องจับมือนายไว้ แล้วทำไมต้องปิดตาด้วย”
“คำถามเยอะจริง ทำตามที่ฉันบอก แล้วไว้ถึงที่นั่นก่อนเธอก็จะรู้เอง”
“ถ้าฉันไม่ทำ” แน่นอนฉันสวนกลับเขาไปไม่ถึง 0.1 วิ
“Kiss” เฮือก!
แล้วเขาก็สวนฉันกลับ ฉันเลยจำเป็นต้องทำตามที่ตานั่นบอก นี่ทำไมฉันต้องยอมนายบราว์อะไรนี่ด้วยล่ะเนี่ย......‘Kiss’ แล้วไอ้คำๆนั้นก็ตามมาหลอกหลอนฉันอีก เพิ่งรู้จักแค่ชื่อกันแท้ๆ หมอนี่ก็เล่น Kiss ปิดปากฉันแล้ว ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ไม่รู้เนี่ย >.,<!
“มูฟเวเบิล” สิ้นเสียงของตานั่นก็มีลมปะทะหน้าฉันวูบหนึ่ง ทำให้ฉันเผลอไปเกาะแขนตานั่นด้วย เกิดมายังไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวชายใดขนาดนี้เลยนะ แม้แต่คุณพ่อของฉันยังไม่มีเวลามากอดก่อนไปทำงานเลย นึกถึงคุณพ่อแล้วน้ำตาของฉันก็เริ่มจะทะลักบ่อออกมา คุณพ่อคุณแม่ของฉันไม่ค่อยมีเวลามาดูแล เลยต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลฉันแทน ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ได้นั่งทานข้าวเช้าพร้อมหน้ากัน ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน ไม่มีวันหยุดที่แสนสนุกด้วยกัน เพราะเวลาของคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันมีแต่งานเท่านั้น คิดถึงพวกท่านแล้วก็พาลน้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง ทำไมมันถึงกลั้นไว้ไม่อยู่สักทีนะ
“ถึงละ...เฮ้ย เธอร้องไห้ทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะเว้ย”
“ตาบ้า ฉันไม่มีวันร้องไห้เพราะนายหรอก ฮึก ฉันคิดถึงพ่อ-แม่ของฉันต่างหาก ฮือ ฮึก”
“ยัยลูกหมา หยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวก็โดนสัตว์ป่าแถวนี้เขมือบเอาหรอก”
“........”
“ดี เชื่อฟังอย่างนี้สิค่อยน่ารักหน่อย” แล้วตานั่นก็ใช้มือข้างหนึ่งปาดน้ำตาบนแก้มเนียนของฉันออก อะ...เอ่อ....เขาทำแบบนี้อีกแล้ว ใจฉันมันเต้นแรงไปหมดแล้วนะ เป็นอะไรไปอีกเนี่ยเรา
“-///-”
“^-^”
“...แล้ว...ที่นี่คือที่ไหน”
“เธอเห็นเป็นสยามพารากอนเหรอ”
“-*- ฉันเห็นเป็นสนามหลวง”
“โอเคๆ ผมยอมคุณละ ผมบอกดีๆก็ได้ ที่นี่คือป่าวงกต ป่าหลังปราสาทที่คุณจะเข้าทดสอบนี่หล่ะ หากเราออกและรอดจากที่นี่ไปได้ ก็ต้องไปเจอกับการทดสอบอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น....”
“เดี๋ยว ก่อนที่นายจะบอกว่ามีการทดสอบอะไรบ้าง นายบอกฉันก่อนได้มั้ยว่านายเป็นใคร มาจากไหน นายพาฉันมาที่นี่ได้ยังไง แล้วนายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน เค๊?”
“โอเค ฉันบอกเธอก็ได้ ฉันที่จริงมีชื่อว่า บราวิน แอเรียล หรือจะเรียกฉันง่ายๆว่า ปริ๊นซ์ก็ได้” เขาพูดพร้อมกับทำหน้าตาภาคภูมิใจสุดๆ
“ปริ๊นซ์ที่แปลว่าเจ้าชายนั่นหน่ะเหรอ? แหวะ!”ฉันขัดขึ้นในเวลาไม่ถึง 0.1 วินาที
“- - อย่าขัดได้มั้ย”นายบราว์ทำหน้าเหมือนปลากระโห้หิวจัด ฉันไม่ใช่ไรน้ำนะย่ะ!
“อยากขัดก็ขัด”
“ฉันให้เธอเป็นกรณีพิเศษ เรียกฉันว่าบราว์เฉยๆก็ได้ เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนฉันนะเนี่ย” นายบราว์พูดพลางค่อยๆเดินขนาบข้างฉันอย่างช้าๆ
“อธิบายต่อสิ” ฉันสั่งให้เขาอธิบายพร้อมกับออกเดินไปตามทางนั้นต่อ
แกร๊บ! แกร๊บ!!
หือ?? เสียงอะไร???? จู่ๆตานั่นก็หยุดเดินแล้วเข้ามากันฉันจากด้านหน้า
“เธอดูแลตัวเองได้ใช่มั้ย”
“เฮ้ย! ทำไมถามกันอย่างนี้ล่ะ!”
“ถามให้ตอบ”
“เออ ได้”
“งั้นก็ดี”
ซวบ!! แกร๊บ!!!
เสียงมันเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ฉันตั้งการ์ดในแบบของนักคาราเต้สายดำทันที
ฟุ่บ!!~
“.....”
“.....”
เงิบไปห้าวิ...เกิดความเงียบขึ้นในบัดดล...
“กระต่าย???”<<< ฉัน
“โถ่...เราก็นึกว่าจะได้บู๊ซะอีก”<<< บราว์
ยังจะมาพูดเล่นอยู่อีก แล้วจู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงกระโดดออกมาจากพุ่มไม้แล้วยืนปัดเนื้อปัดตัวที่มีแต่ใบไม้ติดเต็มไปหมด
“เฮ้ย! ไอ้โทรุ!!”
“ไฮ~^0^~” คนที่นายบราว์เรียกว่าโทรุทักกลับ แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงโผล่มาจากพุ่มไม้ด้านข้างนั่นอีกคน
“^^” คนที่ชื่อโทรุอะไรนั่นยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น
“นั่น...???” ผู้หญิงผมยาวเป็นลอน สีน้ำตาล หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตานั่น ชี้มาที่ทางฉันกับนายบราว์
“บราว์”
“ฉันชื่อมิว ยินดีที่ได้รู้จัก” ฉันแนะนำตัว
“ฉันเบลจ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” เบลพูดแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ผม โทรุครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผู้ชายผมซอยระต้นคอ สีกาแฟนั่น คุกเข่าลงจับมือฉันไปกำลังจะจุมพิตที่หลังมือของฉัน นายบราว์นั่นก็ดึงมือฉันกลับไปพอดี อะ...อะไรน่ะ
“แกรู้กฎของดินแดนแห่งนี้อยู่แล้ว ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด แกไปดูแลคนของแกเถอะ ฉันดูแลของฉันเองได้” อะไรของสองคนนั่นน่ะ แล้วนี่ไม่ใช่วิธีทักทายของที่นี่หรอกหรอ แล้วกฎอะไรนั่นมันยังไงกันแน่ห๊ะ?
“ไปกันเถอะ” จู่ๆตานั่นก็ลากฉันเดินไปตามทางนั่นเหมือนเดิม นี่กะจะลากฉันไปทั้งเรื่องเลยรึไงเนี่ยนายบราว์
“อ้าว เดี๋ยวสินาย!”
“อะไรอีก- -” ดูทำหน้าเข้าสิ สายตาดุดันนั่นแทบจะฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆได้อยู่แล้วนะ
“เป็นอะไรของนาย ก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีๆอยู่เลยนะ กะอีแค่โทรุเขาจะทักทายฉัน”
“โดยการจุมพิตบนหลังมือ!?”
“ใช่! ทำไมนายต้องตะคอกใส่ฉันด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้!”
“เธอไม่รู้เรื่องกฎของดินแดนแห่งนี้หรอก!! อย่าเอากริยาบนโลกมนุษย์มาใช้ที่นี่ จงเงียบซะ! แล้วตามฉันมาแค่นี้พอ”
“นายก็บอกให้ฉันรู้สิ ฉันจะได้เข้าใจนายไง” แล้วสุดท้ายนายบราว์ก็ต้องยอมฉัน หมอนั่นบอกว่าหาที่พักก่อนแล้วจะบอกทีหลัง ช่วงนี้ฉันไม่รู้ทำไมถึงมีความรู้สึกแปลกก็ไม่รู้นะ เวลาอยู่ใกล้นายบราว์แล้วรู้สึกอุ่นใจ เฮ้อ~ สงสัยคงเป็นเพราะฉันไปนึกถึงเรื่องพ่อกับแม่ฉันเข้า แล้วพอมีคนมาคอยอยู่ใกล้ๆแบบนี้ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเองเฉยๆก็ได้มั้งนะ
พรึ่บ!!~
พอนายบราว์เอามือปัดอากาศไปด้านบนเศษไม้ที่ฉันกองไว้ ไฟก็ติดโดยที่ไม่ต้องใช้ไฟแช็กหรือไม้ขีดสักอัน
“ว้าว~ นายทำได้ไงหน่ะ~”
“เพราะฉันเก่งไงล่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”
“แหวะ! ทีนี้จะบอกฉันได้ยัง เรื่องกฎอะไรของดินแดนนี้น่ะ แล้วก็ทำไมนายถึงไม่ให้พวกเขาสองคนมาด้วยกัน เดินทางไปด้วยกัน ทั้งๆที่มันน่าจะสนุกกว่า”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอนแบบค้างๆคาๆ เรามารอลุ้นกันว่าตอนต่อไปมิวจะเจอกับอะไรบ้าง จะได้บู๊กันหรือเปล่า? เอ๊ะ...หรือจะมีเลิฟซีน?? โอ๊ะ...หรือจะมีเซอร์ไพรซ์อะไรบ้างต้องติดตามกันต่อนะคะ
ปล.สุดท้ายนี้ก็ฝากติชมนินยายเรื่องนี้ และเก็บไปพิจารณาด้วยนะเจ้าคะ แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้า Byebeeee~
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ