หนี้รัก.....หนี้แค้น (Y)
8.0
เขียนโดย nara
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.40 น.
24 ตอน
1 วิจารณ์
33.82K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558 19.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
24) บทที่ 24 น้ำ(กรด)ใต้ศอก (ทวยเทพ&ดอนนี่ )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความดอนนี่ PART
ผมเดินเข้าคอนโดของทวยเทพด้วยห่อเหี่ยวใจเรื่องมันเกินกว่าที่ผมจะรับไหวแล้วนะ ความจริงวันนี้มันควรจะเป็นวันที่ผมกับไอ้หื่นของผมจะได้มีความทรงจำดี ๆ เก็บเอาไว้วันนี้มันบอกว่าจะพาผมออกไปกินข้าวข้างนอกแต่มันก็พังเพราะคุณแองจี้เธอมาหาไอ้หื่นเพื่อออกไปสังสรรกับเพื่อนที่นัดกันเอาไว้ แต่เธอก็ใจดีเธอชวนผมไปด้วยตอนแรกผมก็แปลกใจและคิดจะไม่ไปแต่เพราะไอ้หื่นมันบังคับผมเลยต้องไป แต่พอไปถึงคลับกรึ่ง ๆ ร้านอาหารผมเลยรู้ว่าที่เธอใจดีชวนผมมาเพื่ออะไรเมนูอาหารที่สั่งมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย ผมอ่านมันไม่ออกแค่ภาษาไทยผมยังเอาไม่รอดเลย เพื่อพวกเขาจะไม่รู้ผมจบแค่ป. 6 แต่แทนที่ไอ้หื่นมันจะปกป้องผมแต่มันกับบอกกับแฟนมันว่าผมบอกแล้วว่าอย่าพามาด้วย ขายหน้าเปล่า ๆ นี่ผมคงหวังมากเกินไปใช่มั้ย หวังว่าเขาจะปกป้องผม เจ็บดีนะไม่ใช่เพราะจากสายตาที่ดูถูก สมเพส เยาะเย้ย หรือเสียงหัวเราะที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก แต่เจ็บเพราะ…. คนที่ผมรักไม่เคยเห็นค่าในตัวผมเลย มันคงเป็นเวรกรรมที่นอกใจหมอณัฐแน่ ๆ ที่ทำให้ผมต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ผมได้แต่นั่งฟังพวกเขาหัวเราะพูดจาด้วยถ้อยคำที่จิกกัด จนผมทนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจนต้องลุกออกมาเพื่อสงบสติของตัวเองที่ด้านหลังคลับ มีสวนขนาดเล็กที่ผมไม่คิดว่ามันจะมีแต่ก็นะมันเป็นร้านอาหารกรึ่งคลับนี่นา
“ หน้าตานายก็ดูไม่ร้ายขนาดที่แย่งแฟน คนอื่นได้เลยนะแต่ก็นะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ” ผู้ชายคนนี้ผมเห็นเขาอยู่กับพวกคุณแองจี้
“ นี่ต้องจ่ายเท่าไหร่ ถึงจะได้นายสมานอนกอดบ้าง นายคงไม่หวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่หรอกนะ ทวยเทพมันไม่สนใจใครหรอกนอกจากแองจี้ ” เขายังคงพูดต่อโดยไม่สนใจว่าผมจะอยากฟังหรือไม่
หมับ…
“ ปล่อยนะ ” ผมไม่อยากยุ่งกับเขาก็เลยจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่เขารั้งผมเอาไว้พวกคนรวยเอาแต่ใจแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่านะ
“ นายยังไม่ได้บอกค่าตัวนายเลย ” เลวที่สุดผมได้แต่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรังเกียจพวกเขาอาจจะมองว่าผมโง่เง่าไม่มีการศึกษา แต่คิดจะจับผู้ชายรวย ๆ ผมว่าพวกเขาน่ารังเกียจมากกว่าผมซะอีกดีแต่ใช่เงินซื้อความสุข จนไม่สนใจว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก
“ เก็บเงินเอาไว้ซื้อความเป็นคนของคุณเถอะ เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้มันคืออสูรกายที่มีแต่เปลือกนอกที่น่าหลงใหลแต่ข้างในเน่าเฟะจนน่าสะอิดสะเอียน ระวังว่าสักวันเปลือกมันจะหนาไม่พอที่จะกลบกลิ่นเน่า ๆ ข้างในจนส่งกลิ่นคาวให้ชาวบ้านเขาได้รู้กัน ” ขอด่าแบบผู้ดีหน่อยเถอะดอนนี่จะไม่ทนอีกแล้วหยามกันมากเกินไป
“ แล้วกรุณาเข้าใจซะใหม่ด้วยว่า ผมไม่ได้อยากจะแย่งชิงของ ๆ ใคร ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสารเลวของคุณใช่อนาคตหน้าที่การงานของคนที่ผมเคยรักเป็นเดิมพันแล้วละก็ ผมไม่มีวันที่จะทนอยู่ในสภาพที่น่าขยะแขยงแบบนี้หรอก ” พูดจบผมก็กระทืบเท้าให้เป็นของกำนันตบท้ายก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในร้านผมแต่ก็ต้องชะงักบรรดาเพื่อนของไอ้หื่นยืนจับกลุ่มขวางทางเข้าทางหลังร้านอยู่
“ พอใจกันรึยัง ถ้าพอแล้วฉันจะได้กลับ ” ไอ้หื่นมันพูดแวกฝูงชนออกมากระชากผมให้ตามมันไป
“ เดี๋ยวก่อนค่ะเทม คะ..คือฟ้ารู้ว่าเทมอารมณ์ไม่ดีแต่ฟ้ามีเรื่องจะรบกวน ” ไอ้หื่นมันลากผมมาจนถึงรถครับ ใช่ครับมันลากผมจริง ๆ นะแต่ก่อนที่มันจะจับผมยัดใส่รถมันก็มีผู้หญิงคนนึงเรียกไว้ซะก่อนสรุปได้คราว ๆ คือ เธออยากให้ไอ้หื่นไปเป็นเพื่อนเธอไปหานายเทวาซึ่งกำลังอยู่กับพรรษาในตอนนี้ เธอเล่าว่าไม่รู้ว่านายเทวาคิดจะทำอะไรถึงโทรตาม เธอไม่อยากไปคนเดียวแต่พอไปถึงก็เจอแฟนไอ้หื่นกับเพื่อนอีกกลุ่มจอดรออยู่ที่ลานจอดรถ ที่นี่มันร้านอาหารใกล้คอนโดพรรษา แต่ที่น่าแปลกคือมันไม่มีคนเลยบรรยากาศโรแมนติกมากเลย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี้มันน้อง ๆ หนังสงครามชัด ๆ ทั้งปาเค้กใส่หน้า เทไวน์ลาดหัวสารพัดที่น้องผมจะทำ สุดท้ายพรรษากับผมก็ต้องมาเดินอยู่ข้างถนน คอยปลอบใจพรรษา ที่ไม่รู้ว่าโมโหหรือน้อยใจที่นายเทวาให้ท้ายเพื่อนและไม่ปกป้องตัวเอง ผมไม่แน่ใจว่าน้องจะรู้ใจตัวเองหรือเปล่าว่าที่ไอ้ที่ตัวเองเป็นอยู่เนี่ยมันเรียกว่า “ เกลียด ” หรือ “ น้อยใจ ” แต่ในสายตาของผม มองเห็นความเสียใจ ความน้อยใจ และความกลัว ผมก็ได้แต่ทั้งปลอบทั้งสอนน้องไป ถึงจะโดนดุบ้างโดนว่าบ้างก็ไม่เป็นไรผมรู้ว่าพรรษาไม่ได้ตั้งใจจะว่าผมแบบนั้นผมกลัวว่าน้องจะเผลอทำอะไรที่มันจะทำให้ตัวเองเสียใจ
“ เฮ่ย…ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเลย ” ผมได้แต่ภาวนา
“ ที่นี่ก็ตาเราแล้วซินะ ” มือที่เอื้อมไปหาลูกบิดสั่นอย่างช่วยไม่ได้ สายตาสอดส่องซ้ายขวามองหาเป้าหมายทันทีที่เปิดประตูเข้ามาแต่ก็ไม่พบ เจอแต่ความมืด ดึกแล้วไอ้หื่นคงนอนกอดแฟนมันไปแล้วมั้ง ผมเดินคลำทางไปส่วนของห้องนอนเล็กทันที รีบเข้าห้องปิดประตูอย่างแผ่วเบา พรุ่งนี้ผมคงต้องหาทางติดกับหมอณัฐให้ช่วยเร่งวันเข้ามาหน่อยดูท่าจะไม่ดีซะแล้ว
“ รู้สึกแปลก ๆ เหมือนโดนจ้อง ” ผมว่าผมอยู่คนเดียวนะแต่ทำไมเหมือมีคนจ้องก็ไม่รู้ห้องก็มืดจะเปิดไฟก็กลัวไอ้หื่นมันตื่นขึ้นตอนดึก ๆ แล้วเห็นเข้ารีบอาบน้ำนอนดีกว่า
End
ระหว่างที่ดอนนี่กำลังอาบน้ำมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจ้องมองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างตั้งตารอ 20 นาทีผ่านเสียงน้ำก็เงียบลงสิ่งที่แฝงตัวอยู่ในความมืดรอคอยก็มาถึงร่างโปร่งบางของดอนนี่เดินออกจากห้องน้ำทั้งตัวมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างเอาไว้ แต่ต้องชะงักเมื่อมองไปยังเตียงนอนก็พบทวยเทพนั่งพิงหัวเตียงจ้องมองมาที่เขาอยู่ ช่วงบนเปลือยเปล่าอวดหมัดกล้ามสวยกับกางเกงนอนเนื้อบางที่คอบคุมขาแกร่ง นี่ถ้าไม่มีแสงไฟจากห้องน้ำดอนนี่คงคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวในห้องนี้ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่นี่เองสินะต้นเหตุของรังสีบางอย่างที่ดอนนี่รู้สึกเมื่อตอนที่พึ่งเข้ามาในห้อง แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
“ ไง จำทางกลับห้องได้ถูกด้วยหรอก ” คำพูดประชดประชันส่งทักทายดอนนี่ที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
“ แล้วยังจำได้ไหม ว่านายทำอะไรไว้ที่ร้านอาหาร ” คำถามที่เอ่ยขึ้นมาเรียกรอยย่นระหว่างคิ้วของดอนนี่ได้เป็นอย่างดี และก็อยากจะถามกลับว่าคุณเองก็ทำกับผมแบบนั้นได้ยังไงปล่อยให้คนรักของคุณพาผมไปที่นั่น ปล่อยให้เพื่อนของคนรักพูดจาดูถูกผม คุณทำอย่างนั้นได้ยังไงและอีกหลายคำถามที่ดอนนี่อยากจะถามแต่ก็กลัวคำตอบที่จะได้รับ
“ ไม่ตอบ หึ ถ้าอย่างนั้นนายคิดที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไง ” เมื่อไม่ได้คำตอบจากอีกฝ่าย ทวยเทพบังคับให้ดอนนี่รับผิดชอบแทน
ดอนนี่มองคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างคิดหนัก หากนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันเขาจะทำอย่างไรหากว่าหลังจากนี้จะต้องกลายเป็นคนอื่น แค่คิดร่างโปร่งก็เศร้าใจแล้ว ก่อนตัดสินใจบางอย่างลงไป ดอนนี่เอื้อมมือลงปลดผ้าเช็ดช่วงล่างออกเผยเห็นร่ายกายที่นวลเนียนผิดวิสัยเพศชายที่พึงมี ร่างโปร่งบางที่ไร้สิ่งปกปิดของดอนนี่เดินเข้าใกล้เตียงนอน ทวยเทพมองการกระทำของดอนนี่ตาค้าง เขาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มจะมีใจให้เขาบ้างแล้วแต่ไม่เคยคิดว่าดอนนี่จะทำแบบนี้ เขายอมรับว่าวันนี้เขาโกรธคนที่เดินเข้าหาเขาอย่างยั่วยวนนี้มากแต่พอเจอแบบนี้เข้า ความโกรธที่มีอยู่มันหายไปไหนก็ไม่รู้
“ แบบนี้ได้ไหมครับ ” ดอนนี่เดินเข้าไปเอาแขนคล้องคอของทวยเทพเอาไว้
“ อึก…ก็พอได้ แต่..ยังไม่ดีพอ ” ถึงแม้จะตอบออกมาแบบนั้นแต่แววตาที่ทอดมองมายังร่างกายของดอนนี่นั้นแสดงถึงความพอใจเป็นที่สุด สองมือของทวยเทพลูบไล้ทั่วแผ่นหลังดอนนี่อย่างหลงใหล ก่อนจะตามมาด้วยปากและลิ้นชกชิมเม็ดเชอรี่เม็ดเล็กอย่างเมามัน
“ อ๊ะ…ทะ..เทม อย่ากัด ” ดอนนี่หลุดครางออกมาเมื่อทวยเทพขบกัดที่ยอดอกของตนเองมันไม่เจ็บในทางกลับกันมันเสียวจนเขาแทบยืนไม่ไหว เสียงเรียกทำให้ทวยเทพชะงัก ไม่ใช่เพราะกลัวว่าดอนนี่จะเจ็บแต่เป็นเพราะชื่อที่ดอนนี่ใช้เรียกเขามันต่างจากที่เคยและเขาก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
“ เรียกอีกสิ ผมชอบ ” พอพูดจบทวยเทพก็หันไปสนใจกับสิ่งที่ตนเองทิ้งเมื่อครู่นี้เรียกเสียงครวญครางจากดอนนี่ได้เป็นอย่างดี ดอนนี่นำร่างกายของตัวเองขึ้นคร่อมทวยเทพเอาไว้ด้วยไม่สามารถยืนต่อไปได้อีก จากนั้นก็จัดการกางเกงนอนที่ขว้างทางรักให้หมดไปโดยมีทวยเทพช่วยยกสะโพกขึ้นทำให้ดอนนี่ทำงานได้ง่ายขึ้น สองร่างเปล่าเปลือยเริ่มเร้าโรมกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะสุขใจเท่าครั้งนี้ดอนนี่ในเวลานี้ดูร้อนแรงและเรียกร้องสัมผัสจากเขาจนทำให้เขาผยองตัวเองคิดว่าดอนนี่นั้นไม่สามารถขาดเขาได้จนลืมไปว่าคนเรามีลิมิตของความอดทน
“ อ๊า/อึก…ดอนนี่หยุดก่อน ” เพราะมั่วแต่หยอกล้อจนดอนนี่ทนไม่ไหวเลยจัดนั่งเทียนจนสุดลำทำให้ทวยเทพเกร็งหน้าท้องเพราะเสียวจนแทบจะปลดปล่อย มือทั้งสองข้างจับยึดสะโพกกลมไม่ให้ขยับ เมื่อทวยเทพควบคุมอารมณ์ได้แล้วทุกอย่างจึงเริ่มดำเนินการต่อจนใกล้จดหมาย
ปัง ๆ
“ เทมคะ คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังวะการเคลื่อนไหวภายในห้อง
“ อือ ทะ..เทมขยับนะ นะครับ ” ดอนนี่ที่ถูกตรึงสะโพกไม่ให้ขยับร้องขอตาปรือด้วยอารมณ์เสน่หา
“ ไม่ครับ หมดเวลาของคุณแล้ว ” ทวยเทพยกยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่คิดจะตอบสนองคำขอของดอนนี่ เขาพลิกให้อีกฝ่ายอยู่ใต้ร่างก่อนจะถอนกายออกจากตัวดอนนี่และลุกขึ้นใส่กางเกงทั้ง ๆ ที่ตัวทวยเทพเองก็ยังไม่ได้ปลดปล่อย
“ เทม อย่าไป ”ดอนนี่พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาร่างสูงชะงักเท้าที่ก้าวแต่ก็แค่นั้น ทวยเทพไม่หันกลับมาร่างสูงเดินออกจากห้องนี้ไปปล่อยให้ดอนนี่นอนร้องไห้สะอึกกับเตียงนอนการกระทำครั้งนี้ของทวยเทพทำให้ดอนนี่เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก มากจนสามารถตัดสินใจที่จะเลื่อนการหลบหนีให้เร็วขึ้น
เช้าณ คอนโด
วันนี้ดอนนี่ตื่นสายกว่าทุกทีร่างโปร่งรีบลุกขึ้นอาบน้ำวันนี้ดอนนี่จะไปโรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมหรรษาและอีกสิ่ง… ก็เพื่อติดต่อกับใครอีกคนที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากที่นี้สักที
“ จะไปไหน ” ทวยเทพเรียกดอนนี่ที่กำลังจะเดินถึงประตู
“ ไปเยี่ยมหรรษาครับ อ่อ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มปลานะครับ ผมทำให้แล้วอยู่ในครัว ” ดอนนี่ตอบทวยเทพทั้ง ๆ ที่ยืนหันหลังให้ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกไปทวยเทพจะรั้งไว้แต่ก็ถูกแองจี้เรียกเอาไว้ ก่อนจะออกมาเหมือนคนทั้งสองมีปากเสียงกันแต่ดอนนี่เลือกที่จะเดินออกมาแบบไม่ใส่ใจเสียงเรียกของทวยเทพ
ณ โรงพยาบาล
ดอนนี่เดินเข้าโรงพยาบาลด้วยใบหน้าเศร้าหมองเมื่อเช้าพอตื่นนอนแล้วเขาต้องรีบอาบน้ำและออกมาทำอาหารให้ทวยเทพกับคนรักยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยแต่จะทานอะไรตอนนี้ก็คงทานไม่ลง ดอนนี่เดินมองหาตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ไม่ค่อยมีคนพุกพล่านมากนักเขากลัวว่าคนของทวยเทพที่ตามอยู่จะมาแอบฟัง
Tur…Tur…
( สวัสดี ณัฐพงษ์ พูดครับ ) รอปลายสายไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา
“ หมอ นี่ดอนนี่เองนะครับ ” ดอนนี่พูดไปพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
( มีอะไรหรือเปล่าดอนนี่ ) ปลายสายรีบถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“ คือ…ผมอยากเลื่อนเวลาให้เร็วที่สุดได้ไหมครับ มันจะรบกวนหมอณัฐเกินไปไหมครับ ”ดอนนี่ถามอย่างเกรงใจ
( ไม่รบกวนเลยดอนนี่ผมยินดี ถ้าจะให้เร็วที่สุดก็อาทิตย์หน้าแล้วดอนนี่บอกพรรษแล้วยังครับ ) คำตอบของหมอณัฐทำให้ดอนนี่ยิ้มออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อหมอณัฐถามถึงพรรษา
“ บอกแล้วครับ ผมบอกกับน้องว่าอีกเกือบ ๆ 2 เดือน” ดอนนี่อ้อมแอ่มบอก
( อ้าว แต่ที่เราคุยกันเมื่อครั้งก่อนมันไม่ถึงเดือนนี่ครับ มีอะไรที่ผมยังไม่รู้รึเปล่าครับดอนนี่ ) หมอณัฐถามด้วยความกังวลมันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดนะ
“ พรรษารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว และน้องต้องการเอาคืน ผมกลัวว่าน้องจะทำอะไรบ้า ๆ ก็เลยโกหกน้องไปแบบนั้น พรรษาจะได้คิดว่ามีเวลามากพอที่จะทำอะไร ” เสียงถอนหายใจทำให้ปลายสายพอจะเข้าใจเหตุผลของดอนนี่
“ ผมได้แต่หวังว่ามันจะไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ตอนนี้หรรษาก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ผมคงต้องพาหนีถ้าแจ้งย้ายออกผมกลัวว่าเราคงหนีไม่พ้นพวกนั้นแน่ครับ ” ดอนนี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
( เฮ้อ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นละครับ เอาเป็นว่าอีก 7 วันข้างหน้าผมจะไปรับดอนนี่เตรียมตัวให้พร้อมและก็อดทนหน่อยนะครับ ผมกำลังจะไปรับแล้ว )ประโยคสุดท้ายที่ปลายสายทิ้งเอาไว้เรียกน้ำตาคลอที่หางตาได้ไม่อยาก
อีกไม่นานเราก็จะจากกันตลอดกาล เทมสุดที่รักของผม
*********************************************************************************************************************************************************
ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ
ผมเดินเข้าคอนโดของทวยเทพด้วยห่อเหี่ยวใจเรื่องมันเกินกว่าที่ผมจะรับไหวแล้วนะ ความจริงวันนี้มันควรจะเป็นวันที่ผมกับไอ้หื่นของผมจะได้มีความทรงจำดี ๆ เก็บเอาไว้วันนี้มันบอกว่าจะพาผมออกไปกินข้าวข้างนอกแต่มันก็พังเพราะคุณแองจี้เธอมาหาไอ้หื่นเพื่อออกไปสังสรรกับเพื่อนที่นัดกันเอาไว้ แต่เธอก็ใจดีเธอชวนผมไปด้วยตอนแรกผมก็แปลกใจและคิดจะไม่ไปแต่เพราะไอ้หื่นมันบังคับผมเลยต้องไป แต่พอไปถึงคลับกรึ่ง ๆ ร้านอาหารผมเลยรู้ว่าที่เธอใจดีชวนผมมาเพื่ออะไรเมนูอาหารที่สั่งมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย ผมอ่านมันไม่ออกแค่ภาษาไทยผมยังเอาไม่รอดเลย เพื่อพวกเขาจะไม่รู้ผมจบแค่ป. 6 แต่แทนที่ไอ้หื่นมันจะปกป้องผมแต่มันกับบอกกับแฟนมันว่าผมบอกแล้วว่าอย่าพามาด้วย ขายหน้าเปล่า ๆ นี่ผมคงหวังมากเกินไปใช่มั้ย หวังว่าเขาจะปกป้องผม เจ็บดีนะไม่ใช่เพราะจากสายตาที่ดูถูก สมเพส เยาะเย้ย หรือเสียงหัวเราะที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก แต่เจ็บเพราะ…. คนที่ผมรักไม่เคยเห็นค่าในตัวผมเลย มันคงเป็นเวรกรรมที่นอกใจหมอณัฐแน่ ๆ ที่ทำให้ผมต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ผมได้แต่นั่งฟังพวกเขาหัวเราะพูดจาด้วยถ้อยคำที่จิกกัด จนผมทนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจนต้องลุกออกมาเพื่อสงบสติของตัวเองที่ด้านหลังคลับ มีสวนขนาดเล็กที่ผมไม่คิดว่ามันจะมีแต่ก็นะมันเป็นร้านอาหารกรึ่งคลับนี่นา
“ หน้าตานายก็ดูไม่ร้ายขนาดที่แย่งแฟน คนอื่นได้เลยนะแต่ก็นะคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ” ผู้ชายคนนี้ผมเห็นเขาอยู่กับพวกคุณแองจี้
“ นี่ต้องจ่ายเท่าไหร่ ถึงจะได้นายสมานอนกอดบ้าง นายคงไม่หวังลม ๆ แล้ง ๆ อยู่หรอกนะ ทวยเทพมันไม่สนใจใครหรอกนอกจากแองจี้ ” เขายังคงพูดต่อโดยไม่สนใจว่าผมจะอยากฟังหรือไม่
หมับ…
“ ปล่อยนะ ” ผมไม่อยากยุ่งกับเขาก็เลยจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่เขารั้งผมเอาไว้พวกคนรวยเอาแต่ใจแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่านะ
“ นายยังไม่ได้บอกค่าตัวนายเลย ” เลวที่สุดผมได้แต่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความรังเกียจพวกเขาอาจจะมองว่าผมโง่เง่าไม่มีการศึกษา แต่คิดจะจับผู้ชายรวย ๆ ผมว่าพวกเขาน่ารังเกียจมากกว่าผมซะอีกดีแต่ใช่เงินซื้อความสุข จนไม่สนใจว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก
“ เก็บเงินเอาไว้ซื้อความเป็นคนของคุณเถอะ เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้มันคืออสูรกายที่มีแต่เปลือกนอกที่น่าหลงใหลแต่ข้างในเน่าเฟะจนน่าสะอิดสะเอียน ระวังว่าสักวันเปลือกมันจะหนาไม่พอที่จะกลบกลิ่นเน่า ๆ ข้างในจนส่งกลิ่นคาวให้ชาวบ้านเขาได้รู้กัน ” ขอด่าแบบผู้ดีหน่อยเถอะดอนนี่จะไม่ทนอีกแล้วหยามกันมากเกินไป
“ แล้วกรุณาเข้าใจซะใหม่ด้วยว่า ผมไม่ได้อยากจะแย่งชิงของ ๆ ใคร ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสารเลวของคุณใช่อนาคตหน้าที่การงานของคนที่ผมเคยรักเป็นเดิมพันแล้วละก็ ผมไม่มีวันที่จะทนอยู่ในสภาพที่น่าขยะแขยงแบบนี้หรอก ” พูดจบผมก็กระทืบเท้าให้เป็นของกำนันตบท้ายก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในร้านผมแต่ก็ต้องชะงักบรรดาเพื่อนของไอ้หื่นยืนจับกลุ่มขวางทางเข้าทางหลังร้านอยู่
“ พอใจกันรึยัง ถ้าพอแล้วฉันจะได้กลับ ” ไอ้หื่นมันพูดแวกฝูงชนออกมากระชากผมให้ตามมันไป
“ เดี๋ยวก่อนค่ะเทม คะ..คือฟ้ารู้ว่าเทมอารมณ์ไม่ดีแต่ฟ้ามีเรื่องจะรบกวน ” ไอ้หื่นมันลากผมมาจนถึงรถครับ ใช่ครับมันลากผมจริง ๆ นะแต่ก่อนที่มันจะจับผมยัดใส่รถมันก็มีผู้หญิงคนนึงเรียกไว้ซะก่อนสรุปได้คราว ๆ คือ เธออยากให้ไอ้หื่นไปเป็นเพื่อนเธอไปหานายเทวาซึ่งกำลังอยู่กับพรรษาในตอนนี้ เธอเล่าว่าไม่รู้ว่านายเทวาคิดจะทำอะไรถึงโทรตาม เธอไม่อยากไปคนเดียวแต่พอไปถึงก็เจอแฟนไอ้หื่นกับเพื่อนอีกกลุ่มจอดรออยู่ที่ลานจอดรถ ที่นี่มันร้านอาหารใกล้คอนโดพรรษา แต่ที่น่าแปลกคือมันไม่มีคนเลยบรรยากาศโรแมนติกมากเลย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี้มันน้อง ๆ หนังสงครามชัด ๆ ทั้งปาเค้กใส่หน้า เทไวน์ลาดหัวสารพัดที่น้องผมจะทำ สุดท้ายพรรษากับผมก็ต้องมาเดินอยู่ข้างถนน คอยปลอบใจพรรษา ที่ไม่รู้ว่าโมโหหรือน้อยใจที่นายเทวาให้ท้ายเพื่อนและไม่ปกป้องตัวเอง ผมไม่แน่ใจว่าน้องจะรู้ใจตัวเองหรือเปล่าว่าที่ไอ้ที่ตัวเองเป็นอยู่เนี่ยมันเรียกว่า “ เกลียด ” หรือ “ น้อยใจ ” แต่ในสายตาของผม มองเห็นความเสียใจ ความน้อยใจ และความกลัว ผมก็ได้แต่ทั้งปลอบทั้งสอนน้องไป ถึงจะโดนดุบ้างโดนว่าบ้างก็ไม่เป็นไรผมรู้ว่าพรรษาไม่ได้ตั้งใจจะว่าผมแบบนั้นผมกลัวว่าน้องจะเผลอทำอะไรที่มันจะทำให้ตัวเองเสียใจ
“ เฮ่ย…ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเลย ” ผมได้แต่ภาวนา
“ ที่นี่ก็ตาเราแล้วซินะ ” มือที่เอื้อมไปหาลูกบิดสั่นอย่างช่วยไม่ได้ สายตาสอดส่องซ้ายขวามองหาเป้าหมายทันทีที่เปิดประตูเข้ามาแต่ก็ไม่พบ เจอแต่ความมืด ดึกแล้วไอ้หื่นคงนอนกอดแฟนมันไปแล้วมั้ง ผมเดินคลำทางไปส่วนของห้องนอนเล็กทันที รีบเข้าห้องปิดประตูอย่างแผ่วเบา พรุ่งนี้ผมคงต้องหาทางติดกับหมอณัฐให้ช่วยเร่งวันเข้ามาหน่อยดูท่าจะไม่ดีซะแล้ว
“ รู้สึกแปลก ๆ เหมือนโดนจ้อง ” ผมว่าผมอยู่คนเดียวนะแต่ทำไมเหมือมีคนจ้องก็ไม่รู้ห้องก็มืดจะเปิดไฟก็กลัวไอ้หื่นมันตื่นขึ้นตอนดึก ๆ แล้วเห็นเข้ารีบอาบน้ำนอนดีกว่า
End
ระหว่างที่ดอนนี่กำลังอาบน้ำมีบางสิ่งบางอย่างกำลังจ้องมองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างตั้งตารอ 20 นาทีผ่านเสียงน้ำก็เงียบลงสิ่งที่แฝงตัวอยู่ในความมืดรอคอยก็มาถึงร่างโปร่งบางของดอนนี่เดินออกจากห้องน้ำทั้งตัวมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างเอาไว้ แต่ต้องชะงักเมื่อมองไปยังเตียงนอนก็พบทวยเทพนั่งพิงหัวเตียงจ้องมองมาที่เขาอยู่ ช่วงบนเปลือยเปล่าอวดหมัดกล้ามสวยกับกางเกงนอนเนื้อบางที่คอบคุมขาแกร่ง นี่ถ้าไม่มีแสงไฟจากห้องน้ำดอนนี่คงคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวในห้องนี้ ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่นี่เองสินะต้นเหตุของรังสีบางอย่างที่ดอนนี่รู้สึกเมื่อตอนที่พึ่งเข้ามาในห้อง แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
“ ไง จำทางกลับห้องได้ถูกด้วยหรอก ” คำพูดประชดประชันส่งทักทายดอนนี่ที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
“ แล้วยังจำได้ไหม ว่านายทำอะไรไว้ที่ร้านอาหาร ” คำถามที่เอ่ยขึ้นมาเรียกรอยย่นระหว่างคิ้วของดอนนี่ได้เป็นอย่างดี และก็อยากจะถามกลับว่าคุณเองก็ทำกับผมแบบนั้นได้ยังไงปล่อยให้คนรักของคุณพาผมไปที่นั่น ปล่อยให้เพื่อนของคนรักพูดจาดูถูกผม คุณทำอย่างนั้นได้ยังไงและอีกหลายคำถามที่ดอนนี่อยากจะถามแต่ก็กลัวคำตอบที่จะได้รับ
“ ไม่ตอบ หึ ถ้าอย่างนั้นนายคิดที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไง ” เมื่อไม่ได้คำตอบจากอีกฝ่าย ทวยเทพบังคับให้ดอนนี่รับผิดชอบแทน
ดอนนี่มองคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างคิดหนัก หากนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันเขาจะทำอย่างไรหากว่าหลังจากนี้จะต้องกลายเป็นคนอื่น แค่คิดร่างโปร่งก็เศร้าใจแล้ว ก่อนตัดสินใจบางอย่างลงไป ดอนนี่เอื้อมมือลงปลดผ้าเช็ดช่วงล่างออกเผยเห็นร่ายกายที่นวลเนียนผิดวิสัยเพศชายที่พึงมี ร่างโปร่งบางที่ไร้สิ่งปกปิดของดอนนี่เดินเข้าใกล้เตียงนอน ทวยเทพมองการกระทำของดอนนี่ตาค้าง เขาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มจะมีใจให้เขาบ้างแล้วแต่ไม่เคยคิดว่าดอนนี่จะทำแบบนี้ เขายอมรับว่าวันนี้เขาโกรธคนที่เดินเข้าหาเขาอย่างยั่วยวนนี้มากแต่พอเจอแบบนี้เข้า ความโกรธที่มีอยู่มันหายไปไหนก็ไม่รู้
“ แบบนี้ได้ไหมครับ ” ดอนนี่เดินเข้าไปเอาแขนคล้องคอของทวยเทพเอาไว้
“ อึก…ก็พอได้ แต่..ยังไม่ดีพอ ” ถึงแม้จะตอบออกมาแบบนั้นแต่แววตาที่ทอดมองมายังร่างกายของดอนนี่นั้นแสดงถึงความพอใจเป็นที่สุด สองมือของทวยเทพลูบไล้ทั่วแผ่นหลังดอนนี่อย่างหลงใหล ก่อนจะตามมาด้วยปากและลิ้นชกชิมเม็ดเชอรี่เม็ดเล็กอย่างเมามัน
“ อ๊ะ…ทะ..เทม อย่ากัด ” ดอนนี่หลุดครางออกมาเมื่อทวยเทพขบกัดที่ยอดอกของตนเองมันไม่เจ็บในทางกลับกันมันเสียวจนเขาแทบยืนไม่ไหว เสียงเรียกทำให้ทวยเทพชะงัก ไม่ใช่เพราะกลัวว่าดอนนี่จะเจ็บแต่เป็นเพราะชื่อที่ดอนนี่ใช้เรียกเขามันต่างจากที่เคยและเขาก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
“ เรียกอีกสิ ผมชอบ ” พอพูดจบทวยเทพก็หันไปสนใจกับสิ่งที่ตนเองทิ้งเมื่อครู่นี้เรียกเสียงครวญครางจากดอนนี่ได้เป็นอย่างดี ดอนนี่นำร่างกายของตัวเองขึ้นคร่อมทวยเทพเอาไว้ด้วยไม่สามารถยืนต่อไปได้อีก จากนั้นก็จัดการกางเกงนอนที่ขว้างทางรักให้หมดไปโดยมีทวยเทพช่วยยกสะโพกขึ้นทำให้ดอนนี่ทำงานได้ง่ายขึ้น สองร่างเปล่าเปลือยเริ่มเร้าโรมกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะสุขใจเท่าครั้งนี้ดอนนี่ในเวลานี้ดูร้อนแรงและเรียกร้องสัมผัสจากเขาจนทำให้เขาผยองตัวเองคิดว่าดอนนี่นั้นไม่สามารถขาดเขาได้จนลืมไปว่าคนเรามีลิมิตของความอดทน
“ อ๊า/อึก…ดอนนี่หยุดก่อน ” เพราะมั่วแต่หยอกล้อจนดอนนี่ทนไม่ไหวเลยจัดนั่งเทียนจนสุดลำทำให้ทวยเทพเกร็งหน้าท้องเพราะเสียวจนแทบจะปลดปล่อย มือทั้งสองข้างจับยึดสะโพกกลมไม่ให้ขยับ เมื่อทวยเทพควบคุมอารมณ์ได้แล้วทุกอย่างจึงเริ่มดำเนินการต่อจนใกล้จดหมาย
ปัง ๆ
“ เทมคะ คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังวะการเคลื่อนไหวภายในห้อง
“ อือ ทะ..เทมขยับนะ นะครับ ” ดอนนี่ที่ถูกตรึงสะโพกไม่ให้ขยับร้องขอตาปรือด้วยอารมณ์เสน่หา
“ ไม่ครับ หมดเวลาของคุณแล้ว ” ทวยเทพยกยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่คิดจะตอบสนองคำขอของดอนนี่ เขาพลิกให้อีกฝ่ายอยู่ใต้ร่างก่อนจะถอนกายออกจากตัวดอนนี่และลุกขึ้นใส่กางเกงทั้ง ๆ ที่ตัวทวยเทพเองก็ยังไม่ได้ปลดปล่อย
“ เทม อย่าไป ”ดอนนี่พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาร่างสูงชะงักเท้าที่ก้าวแต่ก็แค่นั้น ทวยเทพไม่หันกลับมาร่างสูงเดินออกจากห้องนี้ไปปล่อยให้ดอนนี่นอนร้องไห้สะอึกกับเตียงนอนการกระทำครั้งนี้ของทวยเทพทำให้ดอนนี่เสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก มากจนสามารถตัดสินใจที่จะเลื่อนการหลบหนีให้เร็วขึ้น
เช้าณ คอนโด
วันนี้ดอนนี่ตื่นสายกว่าทุกทีร่างโปร่งรีบลุกขึ้นอาบน้ำวันนี้ดอนนี่จะไปโรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมหรรษาและอีกสิ่ง… ก็เพื่อติดต่อกับใครอีกคนที่จะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากที่นี้สักที
“ จะไปไหน ” ทวยเทพเรียกดอนนี่ที่กำลังจะเดินถึงประตู
“ ไปเยี่ยมหรรษาครับ อ่อ อาหารเช้าเป็นข้าวต้มปลานะครับ ผมทำให้แล้วอยู่ในครัว ” ดอนนี่ตอบทวยเทพทั้ง ๆ ที่ยืนหันหลังให้ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกไปทวยเทพจะรั้งไว้แต่ก็ถูกแองจี้เรียกเอาไว้ ก่อนจะออกมาเหมือนคนทั้งสองมีปากเสียงกันแต่ดอนนี่เลือกที่จะเดินออกมาแบบไม่ใส่ใจเสียงเรียกของทวยเทพ
ณ โรงพยาบาล
ดอนนี่เดินเข้าโรงพยาบาลด้วยใบหน้าเศร้าหมองเมื่อเช้าพอตื่นนอนแล้วเขาต้องรีบอาบน้ำและออกมาทำอาหารให้ทวยเทพกับคนรักยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยแต่จะทานอะไรตอนนี้ก็คงทานไม่ลง ดอนนี่เดินมองหาตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ไม่ค่อยมีคนพุกพล่านมากนักเขากลัวว่าคนของทวยเทพที่ตามอยู่จะมาแอบฟัง
Tur…Tur…
( สวัสดี ณัฐพงษ์ พูดครับ ) รอปลายสายไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา
“ หมอ นี่ดอนนี่เองนะครับ ” ดอนนี่พูดไปพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
( มีอะไรหรือเปล่าดอนนี่ ) ปลายสายรีบถามกลับด้วยความเป็นห่วง
“ คือ…ผมอยากเลื่อนเวลาให้เร็วที่สุดได้ไหมครับ มันจะรบกวนหมอณัฐเกินไปไหมครับ ”ดอนนี่ถามอย่างเกรงใจ
( ไม่รบกวนเลยดอนนี่ผมยินดี ถ้าจะให้เร็วที่สุดก็อาทิตย์หน้าแล้วดอนนี่บอกพรรษแล้วยังครับ ) คำตอบของหมอณัฐทำให้ดอนนี่ยิ้มออกแต่ก็ต้องชะงักเมื่อหมอณัฐถามถึงพรรษา
“ บอกแล้วครับ ผมบอกกับน้องว่าอีกเกือบ ๆ 2 เดือน” ดอนนี่อ้อมแอ่มบอก
( อ้าว แต่ที่เราคุยกันเมื่อครั้งก่อนมันไม่ถึงเดือนนี่ครับ มีอะไรที่ผมยังไม่รู้รึเปล่าครับดอนนี่ ) หมอณัฐถามด้วยความกังวลมันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดนะ
“ พรรษารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว และน้องต้องการเอาคืน ผมกลัวว่าน้องจะทำอะไรบ้า ๆ ก็เลยโกหกน้องไปแบบนั้น พรรษาจะได้คิดว่ามีเวลามากพอที่จะทำอะไร ” เสียงถอนหายใจทำให้ปลายสายพอจะเข้าใจเหตุผลของดอนนี่
“ ผมได้แต่หวังว่ามันจะไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ตอนนี้หรรษาก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ผมคงต้องพาหนีถ้าแจ้งย้ายออกผมกลัวว่าเราคงหนีไม่พ้นพวกนั้นแน่ครับ ” ดอนนี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
( เฮ้อ มันก็คงต้องเป็นอย่างนั้นละครับ เอาเป็นว่าอีก 7 วันข้างหน้าผมจะไปรับดอนนี่เตรียมตัวให้พร้อมและก็อดทนหน่อยนะครับ ผมกำลังจะไปรับแล้ว )ประโยคสุดท้ายที่ปลายสายทิ้งเอาไว้เรียกน้ำตาคลอที่หางตาได้ไม่อยาก
อีกไม่นานเราก็จะจากกันตลอดกาล เทมสุดที่รักของผม
*********************************************************************************************************************************************************
ตอนหน้าก็จะจบแล้วนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ