ริมฝั่งทะเลฝัน
-
เขียนโดย น้ำไนล์
วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.56 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
17.28K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) หวานดวงตาแห่งความรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เช้านี้นัทง่วนอยู่กับการต้มโจ๊กอยู่ในครัว ท่าทางเก้ๆกังๆแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจฟ้าเปิดรอยยิ้มกว้างกับภาพที่เห็น ตั้งแต่ตื่นขึ้นมานัทก็เฝ้าคอยเช็ดตัวถามอาการฟ้าอย่างใส่ใจเกือบจะพาฟ้าไปโรงพยาบาลอยู่หลายรอบจนฟ้าต้องยืนยันเสียงแข็งว่าดีขึ้นมากแล้วนั่นล่ะคนตัวเล็กถึงจะยอม นัทพาฟ้ามานั่งตรงโซฟากลางห้องแล้วจึงค่อยไปสาละวนกับการต้มโจ๊กให้ฟ้า…ต้มโจ๊กอยู่ในครัวแต่ตาก็ยังคอยมองออกมายังโซฟากลางห้องเสมอราวกับกลัวว่าร่างที่นั่งอยู่ตรงนั้นจะหายไปไหนเสีย และนั่นก็ทำให้รอยยิ้มที่แต้มบนใบหน้าของฟ้าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อ่อนโยนจากหัวใจ
หลังจากที่จัดการให้ฟ้ากกินข้าวกินยาและนอนพักเรียบร้อยแล้วนัทก็หยิบงานเปเปอร์มาเช่ที่ทำค้างไว้มานั่งทำใกล้ๆกับที่ฟ้านอนอยู่ นัทก้มหน้าก้มตาแปะกระดาษลงบนแบบที่เตรียมไว้ ริมฝีปากเม้มบางๆดวงตาหรุบลงต่ำ ไรผมหล่นลงปรกเสี้ยวหน้า สองมือสาละวนหยิบโน่นฉวยนี่อย่างตั้ง ฟ้านอนมองภาพตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน ภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอะไรมากมายในหัวใจและอะไรที่ว่านั้นก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดความรู้สึกของฟ้าให้หวั่นไหว อะไรที่คล้ายสายลมพรมผ่านมองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ว่าชื่นใจ นานมากแล้วที่หัวใจไม่เคยยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นนี้แม้แต่กับเอกหัวใจก็ไม่เคยได้รู้สึกอ่อนไหวเชนนี้ กับเอกนั้นฟ้ารู้สึกปลอดภัยและวางใจเมื่ออยู่ใกล้ แต่กับคนตรงหน้าเธอนี้มันแฝงความอบอุ่นและอ่อนหวานรวมอยู่ด้วย ทั้งๆที่คนตรงหน้าเธอนี้ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่อะไรหนออะไรกันที่อิ่มเอิบอยู่ในใจอวลกรุ่นให้หัวใจหวิวๆได้อย่างนี้หนอ
นัทเงยหน้าขึ้นมามองเห็นดวงตาสวยหวานของฟ้าทอดนิ่งมองอยู่ รอยยิ้มอ่อนโยนของฟ้าส่งมาให้ รอยยิ้มอย่างนี้ ดวงตาอย่างนี้หวานไหวจับหัวใจของนัทยิ่งนัก นัทกระเถิบตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆฟ้ากุมมือฟ้าเบาๆ
“มองอะไรนัทอยู่เหรอ” ฟ้าส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ
“มองหาความรักในตัวนัทอยู่เหรอ” ดวงตาซุกซนหยอกเย้าคนป่วยที่กำลังหลบตาด้วยความเขินนัทดึงมือฟ้ามาแนบอยู่บนอกเบื้องซ้าย เสียงเต้นตึกๆแทรกผ่านฝ่ามือบางๆจนฟ้ารู้สึกร้อนวูบ
“มันอยู่ในนี้เต้นเป็นจังหวะอย่างนี้อยู่ทุกๆวันและตลอดไป”
“มันอยู่ตรงนี้” นัทชี้มาที่ดวงตาของตน
“ทุกครั้งที่พี่ฟ้ามองนัทพี่ฟ้าก็จะเห็นความรักของนัทอยู่ในนี้จ้องมองอยู่ที่พี่ฟ้าคนเดียว…นอนพักเถอะนะเดี๋ยวหายดีแล้วเราค่อยไปเดินเล่นกัน”
นัทลูบผมฟ้าอย่างอ่อนโยน ฝ่ามือบางๆที่เกาะกุมอยู่บีบกระชับอุ้งมือของนัทเบาๆ
“นัท…ขอบคุณนะคะ” เสียงนั้นหวานจับหัวใจ นัทยิ้มตอบคนตรงหน้า ในความเงียบที่สัมผัสได้เจือซ่อนความรู้สึกอันงดงามกลิ่นของมันหอมเย็นเหมือนดอกไม้แรกบานมีผีเสื้อนับพันบินว่อนในหัวใจกระพือปีกวิบไหวและวาบหวาม
…………………………………………………………
บ่ายคล้อยจนเกือบเย็นตะวันโน้มต่ำลงไปมากแต่ก็ยังมีกลิ่นอายแดดกระจายอยู่ในอากาศ
ฟ้าลืมตาตื่นหลังจากหลับไปพักใหญ่ส่งสายตามองหานัทแต่ก็ไม่พบเจอทั้งบ้านเงียบสนิทฟ้าเหลือบสายตามองไปยังโต๊ะเห็นโน้ตแผ่นเล็กๆวางอยู่เมื่อเอื้อมมือคว้ามาอ่านก็พบกับข้อความสั้นๆของเจ้าของลายมือน่ารัก
“ออกไปตลาดนะ จะซื้อของมาทำกับข้าว”
นัทจ้า…
ฟ้ายิ้มให้กับเจ้ากระดาษแผ่นบางนั้นก่อนจะวางลงและเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา อาการปวดหัวค่อยทุเลาไปมากแล้ว ฟ้าเดินเข้าไปดูในครัวเปิดตู้เย็นเห็นผักสองสามอย่างนอนนิ่งอยู่ ส่วนหมูไก่และของอื่นๆหมดเกลี้ยง ฟ้าส่ายหัวเบาๆอย่างนี้ไงเล่านัทถึงออกไปตลาด ฟ้าปิดตู้เย็นหันมาทางหม้อข้าว มีข้าวติดก้นหม้ออยู่นิดหนึ่งฟ้าจัดแจงตักข้าวที่เหลือออกเอาหม้อไปล้างเตรียมจะหุงข้าว
“พี่ฟ้า ทำอะไรน่ะ” เสียงร้องตกใจดังมาจากหน้าประตูครัว ฟ้าหันไปมองนัทที่เดินหน้านิ่วเข้ามา
“พี่จะหุงข้าว…ตกใจทำไมไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย” นัทมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจรีบเอาของที่หิ้วมาไปวางไว้แล้วคว้าเอาหม้อที่ฟ้าถืออยู่มาไว้ในมือ
“ลุกขึ้นมาหุงทำไม…เดี๋ยวนัทจัดการเอง พี่ฟ้าต้องพักผ่อนเยอะๆรู้มั๊ย” สีหน้านั้นจริงจังเหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กเล็กๆ
“พี่ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ นอนจนเบื่อแล้วอยากลุกมาทำอะไรบ้าง…อ้ะ ถ้าไม่เชื่อลองแตะดูก็ได้” ฟ้าจับมือนัทมาแตะดูที่หน้าผากของตัวเองเมื่อเห็นสีหน้านัทยังคงขรึมอยู่
“เป็นไงตัวไม่ร้อนแล้วใช่มั๊ย” ฟ้าถามคนที่ค่อยๆเอาหลังมืออังหน้าผากและแตะตามใบหน้าอย่างแผ่วเบา
“อืมไข้ลดลงแล้ว…แต่ก็ยังอยากให้พัก”
“แหม ก็พักจนเบื่อแล้ว วันนี้ขอเป็นลูกมือช่วยนัททำกับข้าวสักวันนะ…เอ้าอนุญาตให้นัทโชว์ฝีมือได้เต็มที่เลยน้า…” ฟ้าดึงมือนัทมากุมไว้เหมือนเด็กประจบขอของเล่น กริยานั้นทำให้นัทยิ้มเอ็นดู
แล้วอาหารมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยดีด้วยฝีมือของแม่ครัวมือใหม่อย่างนัทและผู้ช่วยแสนดื้ออย่างฟ้า ทั้งสองช่วยกันยกกับข้าวมาที่โต๊ะหน้าระเบียง ท้องฟ้ายามเย็นมีดวงอาทิตย์แตะแผ่วๆอยู่เหนือผืนน้ำช่วยให้บรรยากาศดูโรแมนติกขึ้น นัทนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองอาหารฝีมือตัวเองที่วางอยู่ตรงหน้า
“อย่ายิ้มมากนักนะเดี๋ยวกับข้าวจะละลายหมด” ฟ้าอดไม่ได้ที่จะแซวคนตรงหน้าเพราะดูท่าทางจะภูมิอกภูมิใจกับฝีมือตัวเองเหลือเกิน
“เป็นครั้งแรกเลยน้า…ที่นัททำกับข้าวได้น่ากินขนาดนี้” นัทยิ้มอวด
“น่ากินแล้วกินได้เปล่าจ๊ะเนี่ย”
“แหมเดี๋ยวพี่ฟ้าก็จะติดใจจนต้องให้นัทมาทำให้บ่อยๆเชียวล่ะ” แววตากรุ้มกริ่มจ้องมองจนทำให้ฟ้าต้องส่งค้อนคมๆไปให้หนึ่งขวับ จากนั้นจึงตักไข่ทอดชะอมไปใส่จานข้าวของเจ้าของฝีมือ
“เอ้ากินซะก่อนพี่จะได้รู้ว่าปลอดภัย”
นัทยิ้มขำตักข้าวพร้อมไข่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างอร่อย กับข้าวฝีมือนัทวันนี้มีไข่ทอดชะอม แกงจืดหมูสับ และยำไข่เค็มเป็นอาหารง่ายๆที่แม่ครัวมือใหม่ลองหัดทำและรสชาติของกับข้าวก็ทำให้ฟ้าเจริญอาหารกินข้าวไปได้เยอะอาหารมื้อนี้จึงอบอวลไปด้วยความสุขทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ
ผืนฟ้าเข้มเป็นสีดำแล้วเม็ดดาวระยิบบางดวงโผล่มาอวดโฉมอยู่ปลายฟ้า สีของท้องทะเลกลมกลืนไปกับความมืดของแผ่นฟ้ากว้าง หลังจากที่จัดการเก็บล้างถ้วยชามแล้วนัทตามฟ้าออกมายืนที่ระเบียงหน้าบ้าน นัทหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้ฟ้า รอยยิ้มบางๆของดวงตาหวานหันมาขอบคุณ
“ยืนตากลมอย่างนี้เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีกหรอก” คนตัวเล็กเอ็ดเบาๆโอบกอดเอวฟ้าไว้หลวมๆ
“กลับมาก็ดีจะได้มีพยาบาลคอยดูแล” ฟ้าเอียงคอมองคนข้างๆใบหน้าใสๆมีสีระเรื่อแต้มขึ้นนิดหนึ่ง
“ไม่ต้องเป็นไข้นัทก็ดูแลพี่ฟ้าได้”
ฟ้ายิ้มกับถ้อยคำนั้นรู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ ลมทะเลพัดแผ่วกลิ่นดวงดาวยามค่ำคืนหอมกรุ่น ร่างบางทั้งสองยืนเคียงกันฟ้ายืนซบพิงไหล่นัทความเงียบถ่ายทอดความรู้สึกหวานไหวจากใจสู่ใจ…หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
“เข้าบ้านเถอะนัทมีอะไรจะให้ดู”
“อะไรกันคะ” ฟ้าเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“บอกไม่ได้ต้องเข้าไปดูเอง”
“เป็นความลับขนาดนั้นเชียว”
“อือฮึ” นัทพยักหน้ารับดวงตาวิบวับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ฟ้ายิ้มน้อยๆเอามือโยกหัวนัทเบาๆ ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในบ้าน
…………………………………………………
ภาพตรงหน้าตรึงเท้าของวินให้หยุดอยู่กับที่ ภาพที่ฟ้าซบอิงไหล่นัท ภาพที่รอยยิ้มที่นัทส่งให้ภาพดวงตาที่ประสานมองกันเป็นภาพของความสัมพันธ์…ความสัมพันธ์ในรูปแบบที่วินหวาดหวั่น เค้าลางของความกังวลชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตรงหน้า ร่างบางทั้งสองเดินหายไปในบ้านแต่สองเท้าของวินยังคงหนักอึ้ง มันหนักไปหมดทุกส่วนของร่างกายสะกดให้เขาหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
“เฮ้ย มายืนทำอะไรตรงนี้” แทนเดินเข้ามาตบหลังทำให้วินรวบรวมสติกลับคืนมา
“เห็นเดินนำหน้ามาก่อนตั้งนานทำไมยังไม่ขึ้นไปอีกล่ะ” แทนถามเพราะสงสัยที่เห็นวินหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน ทั้งๆที่ตอนเขาเข็นรถเข้ามาจอดในรั้วบ้านวินเดินนำหน้าเขาเข้ามาก่อน
“อ๋อ…เอ่อ เชือกรองเท้าหลุดน่ะก็เลยหยุดผูกเชือกรองเท้าก่อน” วินโกหกออกไป
“จะผูกทำไมเนี่ยเดี๋ยวก็ต้องถอด…ไป ไป เข้าไป” แทนส่ายหน้าในการกระทำของเพื่อนพร้อมกับตะโกนเรียกฟ้า
“พี่ฟ้าครับพี่ฟ้า…นัทโว้ยนัท…หลับกันแล้วรึยัง”
เสียงร้องเรียกของแทนทำให้นัทชะงักมือกำลังเอื้อมหยิบของบางอย่างในเป้ใบเล็ก ฟ้าซึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวยาวเอี้ยวคอมองไปตามเสียงเรียกหน้าประตู
“สงสัยแทนจะมาหา เดี๋ยวนัทไปเปิดให้เอง” นัทรีบเดินไปเปิดประตูซึ่งยังคงมีเสียงเรียกโหวกเหวกของแทนดังเข้ามา
“อะไรเนี่ยแทนแกจะตะโกนให้ดังไปทั่วหาดเลยรึไง” นัทโวยวายใส่แทนทันทีที่ประตูเปิดออก
“นึกว่าหลับกันซะแล้ว”
“ก็หลับอยู่แล้วนี่ก็ละเมอมาเปิดประตู”
“เอ้าพอๆอะไรกันแกสองคนนี่เจอหน้าเป็นโวยวายใส่กันทุกที” วินรีบห้ามเพื่อนเพราะเกรงจะเกิดสงครามย่อยๆขึ้นหน้าบ้าน
“พี่ฟ้าล่ะนัทหลับรึยัง” วินถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจกับภาพที่เห็นเมื่อครู่
“ยังเลย เข้ามาก่อนสิ” นัทพาวินและแทนเข้าไปในบ้านซึ่งฟ้านั่งยิ้มรออยู่
“ไงจ๊ะหนุ่มๆมากันซะเกือบดึกเลย”
“วันนี้เก็บงานเป็นวันสุดท้ายน่ะครับ เลยเสร็จช้าหน่อย…พี่ฟ้าเป็นไงบ้างครับหายรึยัง”
“ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะจ้ะวิน”
“แล้วไอ้นัทมันดูแลพี่ฟ้าดีรึเปล่าครับเนี่ย หรือว่าแอบหลบมาอู้งานเฉยๆ” แทนถามพร้อมกับโยนระเบิดใสนัทไปหนึ่งลูก
“แหม ไอ้แทนแก…เนี่ยพยาบาลชั้นดีเชียวนะ” นัทยักคิ้วหลิ่วตาไปฟ้าอย่างมีความหมาย ท่าทีเหล่านั้นอยู่ในสายตาของวินที่นั่งสังเกตอยู่เงียบๆ
“แล้วนี่ร้านใกล้เสร็จแล้วเหรอจ๊ะ”
“ส่วนหลักๆก็เสร็จแล้วครับ เหลือแค่ไปเลือกโต๊ะกับเก้าอี้และก็เก็บรายละเอียดเล็กน้อยน่ะครับ” วินอธิบายให้ฟ้าฟัง
“แย่จังเลยนะ…พี่เลยช่วยพวกเราได้ไม่เท่าไหร่เลย มาป่วยซะแบบนี้”
“โถพี่ฟ้าครับแค่นี้พี่ก็ช่วยพวกผมมากแล้ว แถมพวกเรายังเป็นต้นเหตุให้พี่ไม่สบายอีก…เออ แล้วนี่พี่เอกเค้ารู้รึยังครับว่าพี่ป่วย” คำถามของแทนราวหอกแหลมคมที่พุ่งออกมาปักตรงหัวใจของฟ้ามันลึกแน่นจนทำให้ฟ้ารู้สึกหายใจติดขัดได้แต่ส่งยิ้มบางๆเป็นคำตอบ
“เอ่อ พี่ฟ้าครับผมว่าจะบอกอยู่พอดี คือเมื่อตอนกลางวันพี่เอกโทรหาผมน่ะครับบอกว่าโทรหาพี่ฟ้าแลวไม่ติด ผมก็เลยบอกไปว่าพี่ฟ้าไม่สบาย คิดว่าไม่เกินพรุ่งนี้พี่เอกคงจะกลับมาล่ะครับ”
วินรีบกลั้นใจพูดประโยคนี้ออกมา หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านี่เป็นเรื่องราวธรรมดาๆที่ฟ้าจะรับรู้ แต่ทว่าตอนนี้มีหัวใจสองดวงที่สะทกสะเทือนไปกับการบอกกล่าวของเขา หัวใจสองดวงที่ซ่อนรอยหวั่นไหวไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย แต่เขายังทันสังเกตเห็นรอยตระหนกในดวงตาของฟ้าและแววไหววูบในดวงตาของนัท…วินลอบถอนหายใจเบาๆแอบเบือนสายตาออกไปทางอื่นเพื่อซุกซ่อนรอยหนักใจของตัวเอง
“แหมดีจัง…พี่เอกกลับมาพี่ฟ้าจะได้หายไวๆเนอะนัทเนอะ” วินแทบจะตบหัวแทนให้คว่ำไปตรงนั้นเมื่อแทนหลุดประโยคนั้นออกไป ก่อนที่บรรยากาศจะชวนให้หายใจไม่ออกกว่านี้วินจึงขอตัวลากลับ
“รบกวนพี่ฟ้านานแล้ว กลับกันเถอะแทน”
“อืมใช่…พวกผมกลับก่อนดีกว่าพี่ฟ้าจะได้พักผ่อนหายไวๆนะครับพี่”
“จ้า…ขอบใจนะกลับกันดีๆล่ะ”
นัทเดินออกมาส่งวินและแทนที่หน้าประตูรั้วจนกว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนหายลับตาจึงเดินกลับอย่างช้าๆในใจล่องลอยนึกถึงแต่ประโยคที่วินบอก เขาจะกลับมาแล้ว พี่เอกจะมาแล้ว หัวใจบางๆของนัทเหมือนถูกบีบให้หดเหลือเล็กลง
นัทเดินกลับเข้ามาในบ้านอย่างเซื่องซึมเมื่อปิดประตูบ้านและกำลังหันกลับเข้าไปในบ้าน ก็พบกับสายตาโศกหวานเศร้าของฟ้ายืนมองอยู่ สายตาที่สะเทือนอารมณ์ของนัทให้สั่นไหว นัทเดินเข้าไปโอบร่างนั้นไว้อ้อมแขน ฟ้าซบหน้าในอ้อมกอดนั้นเรียวแขนค่อยๆยกขึ้นโอบกอดนัทไว้เช่นกัน
หากโลกเคลื่อนไหวได้ช้าลงหัวใจทั้งสองดวงคงอยากหยุดเวลาไว้แค่ ณ นาทีนี้ หยุดความเคลื่อนไหว หยุดวันข้างหน้า หากแต่ทำไม่ได้วันพรุ่งนี้กำลังเดินทางมา หัวใจของนัทแทบจะแตกเป็นเสี่ยงเมื่อรู้ว่าเวลาที่ได้ใกล้ชิดกับฟ้ากำลังจะสิ้นสุด หัวใจของฟ้าแทบหลุดลอยหายเมื่อระลึกได้ว่าช่วงเวลาหวานไหวแห่งความสุขนี้ใกล้จะจบลง
นัทพาฟ้ามานั่งตรงเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างแหงนหน้ามองฟ้ากว้างโดยมีฟ้านั่งเอนกายอยู่ใกล้ๆ ลมหายใจอุ่นๆรวยรินอยู่ใกล้ชิด มือกุมมือกันและกันไว้
“เมื่อตอนค่ำนัทบอกว่ามีอะไรให้พี่เหรอ” ฟ้าเอียงคอมองถามคนข้างๆ
“จริงสิ” นัทผุดลุกนั่งตัวตรงเมื่อนึกขึ้นได้
“พี่ฟ้ารอนัทนะก่อนนะเดี๋ยวนัทมา” นัทเดินหายเข้าไปในห้องเพียงครู่หนึ่งก็กลับออกมา
“หลับตาก่อนนะ ให้นัทบอกให้ลืมตาแล้วค่อยลืมนะ” นัทกระซิบบอก ฟ้ายิ้มบางๆแล้วหลับตาลง นัทคว้ามือฟ้ามาข้างหนึ่งแบออกแล้ววางของบางอย่างในฝ่ามือ
“เอ้า…ลืมตาได้แล้ว” นัทบอกฟ้าค่อยๆลืมตาขึ้นก้มมองของที่อยู่ในมือ รอยยิ้มหวานละมุนแต้มบนใบหน้าหวานสวยดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นสร้อยเงินพร้อมจี้รูปดวงดาวสองดวงล้อมรอบด้วยวงกลมมีประกายแวววาวคล้ายเพชร
“สวยค่ะสวยมาก” ฟ้ายิ้มให้นัท
“เมื่อตอนเย็นนัทไปตลาด เห็นร้านขายสร้อยเงินมีจี้รูปดวงดาวนัทเลยซื้อมาให้พี่ฟ้า…ให้นัทใส่ให้นะ” นัทค่อยๆสวมสร้อยที่คออย่างแผ่วเบาปลายนิ้วอุ่นๆแตะลงที่จี้ดวงดาวซึ่งแนบอยู่บนผิวเนื้อของฟ้า
“จำเรื่องดาวแห่งความรักสองดวงในนิทานทะเลที่นัทเล่าให้พี่ฟ้าฟังได้มั๊ย” เสียงอุ่นๆกระซิบถาม ฟ้าพยักหน้าสานสบดวงตาคมซึ้ง นัทกระชับร่างของฟ้าเข้ามาใกล้ๆโอบไหล่ฟ้าไว้เบาๆแล้วจึงแหงนหน้ามองดาววิบวับบนท้องฟ้า
“ดาวแห่งความรักเป็นดาวที่บริสุทธิ์เป็นความรักที่บริสุทธิ์เหมือนความรู้สึกของนัทที่มีให้พี่ฟ้า เพราะในความรักไม่มีเหตุผล ไม่มีถูกหรือผิด ไม่มีหญิงหรือชาย ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องของความรู้สึกของคนสองคนไม่ว่าจะอย่างไรความรู้สึกของนัทก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ต่อให้วันข้างหน้านัทจะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่นัทเลือกนัทก็ยินดี ต่อให้สิ่งที่นัทเลือกไม่มีทางเป็นไปนัทก็ยินดี” เสียงนั้นแผ่วจางเหมือนสายลมรำพัน สั่นเครือและพลิ้วไหว…น้ำตาเม็ดบางหยดร่วง
“ต่อให้…” ฟ้าเอาเรียวนิ้วแตะที่ปากนัททำให้คำพูดขาดหาย
“อย่าพูดอีกเลย…พี่รู้…พี่เข้าใจ…แต่พี่…พี่ไม่รู้จะให้คำตอบนัทหรือบอกนัทยังไง พี่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้…พี่ไม่รู้” ฟ้าหลบสายตาสับสนและว้าวุ่น นัทจับมือเรียวบางแนบฝ่ามืออ่อนนุ่มไว้บนใบหน้า
“ไม่เป็นไร…นัทไม่เรียกร้องอะไร…ขอได้เห็นหน้า ได้ใกล้ชิด ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ฟ้าไปอย่างนี้ก็พอ ชีวิตนัทไม่เหลืออะไรให้เป็นความสุขแล้ว รู้มั๊ยไม่ว่าจะกีรอยยิ้มของพี่ฟ้านัทก็จำได้หมด”
ฟ้าดึงร่างของคนตัวเล็กมากอดเอาไว้ถ่ายทอดความอ่อนหวานอ่อนโยนให้อุ่นไปทั่วหัวใจนัท สองกายแนบชิด สองใจแนบแน่นไหวเอนไปกับแสงดาวระยิบ
อุ่นเอยอุ่นหัวใจ
อิ่มรักใคร่เสน่หา
หอมกรุ่นแก้มกานดา
หวานดวงตาแห่งความรัก
อิงเอยแอบแนบแน่น
โอบอ้อมแขนนอนหนุนตัก
อ้อมใจที่หยุดพัก
กอดเก็บรักไว้เพื่อเธอ
หลังจากที่จัดการให้ฟ้ากกินข้าวกินยาและนอนพักเรียบร้อยแล้วนัทก็หยิบงานเปเปอร์มาเช่ที่ทำค้างไว้มานั่งทำใกล้ๆกับที่ฟ้านอนอยู่ นัทก้มหน้าก้มตาแปะกระดาษลงบนแบบที่เตรียมไว้ ริมฝีปากเม้มบางๆดวงตาหรุบลงต่ำ ไรผมหล่นลงปรกเสี้ยวหน้า สองมือสาละวนหยิบโน่นฉวยนี่อย่างตั้ง ฟ้านอนมองภาพตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน ภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอะไรมากมายในหัวใจและอะไรที่ว่านั้นก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดความรู้สึกของฟ้าให้หวั่นไหว อะไรที่คล้ายสายลมพรมผ่านมองไม่เห็นแต่รู้สึกได้ว่าชื่นใจ นานมากแล้วที่หัวใจไม่เคยยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นนี้แม้แต่กับเอกหัวใจก็ไม่เคยได้รู้สึกอ่อนไหวเชนนี้ กับเอกนั้นฟ้ารู้สึกปลอดภัยและวางใจเมื่ออยู่ใกล้ แต่กับคนตรงหน้าเธอนี้มันแฝงความอบอุ่นและอ่อนหวานรวมอยู่ด้วย ทั้งๆที่คนตรงหน้าเธอนี้ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่อะไรหนออะไรกันที่อิ่มเอิบอยู่ในใจอวลกรุ่นให้หัวใจหวิวๆได้อย่างนี้หนอ
นัทเงยหน้าขึ้นมามองเห็นดวงตาสวยหวานของฟ้าทอดนิ่งมองอยู่ รอยยิ้มอ่อนโยนของฟ้าส่งมาให้ รอยยิ้มอย่างนี้ ดวงตาอย่างนี้หวานไหวจับหัวใจของนัทยิ่งนัก นัทกระเถิบตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆฟ้ากุมมือฟ้าเบาๆ
“มองอะไรนัทอยู่เหรอ” ฟ้าส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ
“มองหาความรักในตัวนัทอยู่เหรอ” ดวงตาซุกซนหยอกเย้าคนป่วยที่กำลังหลบตาด้วยความเขินนัทดึงมือฟ้ามาแนบอยู่บนอกเบื้องซ้าย เสียงเต้นตึกๆแทรกผ่านฝ่ามือบางๆจนฟ้ารู้สึกร้อนวูบ
“มันอยู่ในนี้เต้นเป็นจังหวะอย่างนี้อยู่ทุกๆวันและตลอดไป”
“มันอยู่ตรงนี้” นัทชี้มาที่ดวงตาของตน
“ทุกครั้งที่พี่ฟ้ามองนัทพี่ฟ้าก็จะเห็นความรักของนัทอยู่ในนี้จ้องมองอยู่ที่พี่ฟ้าคนเดียว…นอนพักเถอะนะเดี๋ยวหายดีแล้วเราค่อยไปเดินเล่นกัน”
นัทลูบผมฟ้าอย่างอ่อนโยน ฝ่ามือบางๆที่เกาะกุมอยู่บีบกระชับอุ้งมือของนัทเบาๆ
“นัท…ขอบคุณนะคะ” เสียงนั้นหวานจับหัวใจ นัทยิ้มตอบคนตรงหน้า ในความเงียบที่สัมผัสได้เจือซ่อนความรู้สึกอันงดงามกลิ่นของมันหอมเย็นเหมือนดอกไม้แรกบานมีผีเสื้อนับพันบินว่อนในหัวใจกระพือปีกวิบไหวและวาบหวาม
…………………………………………………………
บ่ายคล้อยจนเกือบเย็นตะวันโน้มต่ำลงไปมากแต่ก็ยังมีกลิ่นอายแดดกระจายอยู่ในอากาศ
ฟ้าลืมตาตื่นหลังจากหลับไปพักใหญ่ส่งสายตามองหานัทแต่ก็ไม่พบเจอทั้งบ้านเงียบสนิทฟ้าเหลือบสายตามองไปยังโต๊ะเห็นโน้ตแผ่นเล็กๆวางอยู่เมื่อเอื้อมมือคว้ามาอ่านก็พบกับข้อความสั้นๆของเจ้าของลายมือน่ารัก
“ออกไปตลาดนะ จะซื้อของมาทำกับข้าว”
นัทจ้า…
ฟ้ายิ้มให้กับเจ้ากระดาษแผ่นบางนั้นก่อนจะวางลงและเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา อาการปวดหัวค่อยทุเลาไปมากแล้ว ฟ้าเดินเข้าไปดูในครัวเปิดตู้เย็นเห็นผักสองสามอย่างนอนนิ่งอยู่ ส่วนหมูไก่และของอื่นๆหมดเกลี้ยง ฟ้าส่ายหัวเบาๆอย่างนี้ไงเล่านัทถึงออกไปตลาด ฟ้าปิดตู้เย็นหันมาทางหม้อข้าว มีข้าวติดก้นหม้ออยู่นิดหนึ่งฟ้าจัดแจงตักข้าวที่เหลือออกเอาหม้อไปล้างเตรียมจะหุงข้าว
“พี่ฟ้า ทำอะไรน่ะ” เสียงร้องตกใจดังมาจากหน้าประตูครัว ฟ้าหันไปมองนัทที่เดินหน้านิ่วเข้ามา
“พี่จะหุงข้าว…ตกใจทำไมไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย” นัทมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจรีบเอาของที่หิ้วมาไปวางไว้แล้วคว้าเอาหม้อที่ฟ้าถืออยู่มาไว้ในมือ
“ลุกขึ้นมาหุงทำไม…เดี๋ยวนัทจัดการเอง พี่ฟ้าต้องพักผ่อนเยอะๆรู้มั๊ย” สีหน้านั้นจริงจังเหมือนผู้ใหญ่กำลังดุเด็กเล็กๆ
“พี่ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ นอนจนเบื่อแล้วอยากลุกมาทำอะไรบ้าง…อ้ะ ถ้าไม่เชื่อลองแตะดูก็ได้” ฟ้าจับมือนัทมาแตะดูที่หน้าผากของตัวเองเมื่อเห็นสีหน้านัทยังคงขรึมอยู่
“เป็นไงตัวไม่ร้อนแล้วใช่มั๊ย” ฟ้าถามคนที่ค่อยๆเอาหลังมืออังหน้าผากและแตะตามใบหน้าอย่างแผ่วเบา
“อืมไข้ลดลงแล้ว…แต่ก็ยังอยากให้พัก”
“แหม ก็พักจนเบื่อแล้ว วันนี้ขอเป็นลูกมือช่วยนัททำกับข้าวสักวันนะ…เอ้าอนุญาตให้นัทโชว์ฝีมือได้เต็มที่เลยน้า…” ฟ้าดึงมือนัทมากุมไว้เหมือนเด็กประจบขอของเล่น กริยานั้นทำให้นัทยิ้มเอ็นดู
แล้วอาหารมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยดีด้วยฝีมือของแม่ครัวมือใหม่อย่างนัทและผู้ช่วยแสนดื้ออย่างฟ้า ทั้งสองช่วยกันยกกับข้าวมาที่โต๊ะหน้าระเบียง ท้องฟ้ายามเย็นมีดวงอาทิตย์แตะแผ่วๆอยู่เหนือผืนน้ำช่วยให้บรรยากาศดูโรแมนติกขึ้น นัทนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองอาหารฝีมือตัวเองที่วางอยู่ตรงหน้า
“อย่ายิ้มมากนักนะเดี๋ยวกับข้าวจะละลายหมด” ฟ้าอดไม่ได้ที่จะแซวคนตรงหน้าเพราะดูท่าทางจะภูมิอกภูมิใจกับฝีมือตัวเองเหลือเกิน
“เป็นครั้งแรกเลยน้า…ที่นัททำกับข้าวได้น่ากินขนาดนี้” นัทยิ้มอวด
“น่ากินแล้วกินได้เปล่าจ๊ะเนี่ย”
“แหมเดี๋ยวพี่ฟ้าก็จะติดใจจนต้องให้นัทมาทำให้บ่อยๆเชียวล่ะ” แววตากรุ้มกริ่มจ้องมองจนทำให้ฟ้าต้องส่งค้อนคมๆไปให้หนึ่งขวับ จากนั้นจึงตักไข่ทอดชะอมไปใส่จานข้าวของเจ้าของฝีมือ
“เอ้ากินซะก่อนพี่จะได้รู้ว่าปลอดภัย”
นัทยิ้มขำตักข้าวพร้อมไข่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างอร่อย กับข้าวฝีมือนัทวันนี้มีไข่ทอดชะอม แกงจืดหมูสับ และยำไข่เค็มเป็นอาหารง่ายๆที่แม่ครัวมือใหม่ลองหัดทำและรสชาติของกับข้าวก็ทำให้ฟ้าเจริญอาหารกินข้าวไปได้เยอะอาหารมื้อนี้จึงอบอวลไปด้วยความสุขทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ
ผืนฟ้าเข้มเป็นสีดำแล้วเม็ดดาวระยิบบางดวงโผล่มาอวดโฉมอยู่ปลายฟ้า สีของท้องทะเลกลมกลืนไปกับความมืดของแผ่นฟ้ากว้าง หลังจากที่จัดการเก็บล้างถ้วยชามแล้วนัทตามฟ้าออกมายืนที่ระเบียงหน้าบ้าน นัทหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้ฟ้า รอยยิ้มบางๆของดวงตาหวานหันมาขอบคุณ
“ยืนตากลมอย่างนี้เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีกหรอก” คนตัวเล็กเอ็ดเบาๆโอบกอดเอวฟ้าไว้หลวมๆ
“กลับมาก็ดีจะได้มีพยาบาลคอยดูแล” ฟ้าเอียงคอมองคนข้างๆใบหน้าใสๆมีสีระเรื่อแต้มขึ้นนิดหนึ่ง
“ไม่ต้องเป็นไข้นัทก็ดูแลพี่ฟ้าได้”
ฟ้ายิ้มกับถ้อยคำนั้นรู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ ลมทะเลพัดแผ่วกลิ่นดวงดาวยามค่ำคืนหอมกรุ่น ร่างบางทั้งสองยืนเคียงกันฟ้ายืนซบพิงไหล่นัทความเงียบถ่ายทอดความรู้สึกหวานไหวจากใจสู่ใจ…หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
“เข้าบ้านเถอะนัทมีอะไรจะให้ดู”
“อะไรกันคะ” ฟ้าเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“บอกไม่ได้ต้องเข้าไปดูเอง”
“เป็นความลับขนาดนั้นเชียว”
“อือฮึ” นัทพยักหน้ารับดวงตาวิบวับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ฟ้ายิ้มน้อยๆเอามือโยกหัวนัทเบาๆ ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในบ้าน
…………………………………………………
ภาพตรงหน้าตรึงเท้าของวินให้หยุดอยู่กับที่ ภาพที่ฟ้าซบอิงไหล่นัท ภาพที่รอยยิ้มที่นัทส่งให้ภาพดวงตาที่ประสานมองกันเป็นภาพของความสัมพันธ์…ความสัมพันธ์ในรูปแบบที่วินหวาดหวั่น เค้าลางของความกังวลชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตรงหน้า ร่างบางทั้งสองเดินหายไปในบ้านแต่สองเท้าของวินยังคงหนักอึ้ง มันหนักไปหมดทุกส่วนของร่างกายสะกดให้เขาหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
“เฮ้ย มายืนทำอะไรตรงนี้” แทนเดินเข้ามาตบหลังทำให้วินรวบรวมสติกลับคืนมา
“เห็นเดินนำหน้ามาก่อนตั้งนานทำไมยังไม่ขึ้นไปอีกล่ะ” แทนถามเพราะสงสัยที่เห็นวินหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน ทั้งๆที่ตอนเขาเข็นรถเข้ามาจอดในรั้วบ้านวินเดินนำหน้าเขาเข้ามาก่อน
“อ๋อ…เอ่อ เชือกรองเท้าหลุดน่ะก็เลยหยุดผูกเชือกรองเท้าก่อน” วินโกหกออกไป
“จะผูกทำไมเนี่ยเดี๋ยวก็ต้องถอด…ไป ไป เข้าไป” แทนส่ายหน้าในการกระทำของเพื่อนพร้อมกับตะโกนเรียกฟ้า
“พี่ฟ้าครับพี่ฟ้า…นัทโว้ยนัท…หลับกันแล้วรึยัง”
เสียงร้องเรียกของแทนทำให้นัทชะงักมือกำลังเอื้อมหยิบของบางอย่างในเป้ใบเล็ก ฟ้าซึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวยาวเอี้ยวคอมองไปตามเสียงเรียกหน้าประตู
“สงสัยแทนจะมาหา เดี๋ยวนัทไปเปิดให้เอง” นัทรีบเดินไปเปิดประตูซึ่งยังคงมีเสียงเรียกโหวกเหวกของแทนดังเข้ามา
“อะไรเนี่ยแทนแกจะตะโกนให้ดังไปทั่วหาดเลยรึไง” นัทโวยวายใส่แทนทันทีที่ประตูเปิดออก
“นึกว่าหลับกันซะแล้ว”
“ก็หลับอยู่แล้วนี่ก็ละเมอมาเปิดประตู”
“เอ้าพอๆอะไรกันแกสองคนนี่เจอหน้าเป็นโวยวายใส่กันทุกที” วินรีบห้ามเพื่อนเพราะเกรงจะเกิดสงครามย่อยๆขึ้นหน้าบ้าน
“พี่ฟ้าล่ะนัทหลับรึยัง” วินถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจกับภาพที่เห็นเมื่อครู่
“ยังเลย เข้ามาก่อนสิ” นัทพาวินและแทนเข้าไปในบ้านซึ่งฟ้านั่งยิ้มรออยู่
“ไงจ๊ะหนุ่มๆมากันซะเกือบดึกเลย”
“วันนี้เก็บงานเป็นวันสุดท้ายน่ะครับ เลยเสร็จช้าหน่อย…พี่ฟ้าเป็นไงบ้างครับหายรึยัง”
“ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะจ้ะวิน”
“แล้วไอ้นัทมันดูแลพี่ฟ้าดีรึเปล่าครับเนี่ย หรือว่าแอบหลบมาอู้งานเฉยๆ” แทนถามพร้อมกับโยนระเบิดใสนัทไปหนึ่งลูก
“แหม ไอ้แทนแก…เนี่ยพยาบาลชั้นดีเชียวนะ” นัทยักคิ้วหลิ่วตาไปฟ้าอย่างมีความหมาย ท่าทีเหล่านั้นอยู่ในสายตาของวินที่นั่งสังเกตอยู่เงียบๆ
“แล้วนี่ร้านใกล้เสร็จแล้วเหรอจ๊ะ”
“ส่วนหลักๆก็เสร็จแล้วครับ เหลือแค่ไปเลือกโต๊ะกับเก้าอี้และก็เก็บรายละเอียดเล็กน้อยน่ะครับ” วินอธิบายให้ฟ้าฟัง
“แย่จังเลยนะ…พี่เลยช่วยพวกเราได้ไม่เท่าไหร่เลย มาป่วยซะแบบนี้”
“โถพี่ฟ้าครับแค่นี้พี่ก็ช่วยพวกผมมากแล้ว แถมพวกเรายังเป็นต้นเหตุให้พี่ไม่สบายอีก…เออ แล้วนี่พี่เอกเค้ารู้รึยังครับว่าพี่ป่วย” คำถามของแทนราวหอกแหลมคมที่พุ่งออกมาปักตรงหัวใจของฟ้ามันลึกแน่นจนทำให้ฟ้ารู้สึกหายใจติดขัดได้แต่ส่งยิ้มบางๆเป็นคำตอบ
“เอ่อ พี่ฟ้าครับผมว่าจะบอกอยู่พอดี คือเมื่อตอนกลางวันพี่เอกโทรหาผมน่ะครับบอกว่าโทรหาพี่ฟ้าแลวไม่ติด ผมก็เลยบอกไปว่าพี่ฟ้าไม่สบาย คิดว่าไม่เกินพรุ่งนี้พี่เอกคงจะกลับมาล่ะครับ”
วินรีบกลั้นใจพูดประโยคนี้ออกมา หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านี่เป็นเรื่องราวธรรมดาๆที่ฟ้าจะรับรู้ แต่ทว่าตอนนี้มีหัวใจสองดวงที่สะทกสะเทือนไปกับการบอกกล่าวของเขา หัวใจสองดวงที่ซ่อนรอยหวั่นไหวไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย แต่เขายังทันสังเกตเห็นรอยตระหนกในดวงตาของฟ้าและแววไหววูบในดวงตาของนัท…วินลอบถอนหายใจเบาๆแอบเบือนสายตาออกไปทางอื่นเพื่อซุกซ่อนรอยหนักใจของตัวเอง
“แหมดีจัง…พี่เอกกลับมาพี่ฟ้าจะได้หายไวๆเนอะนัทเนอะ” วินแทบจะตบหัวแทนให้คว่ำไปตรงนั้นเมื่อแทนหลุดประโยคนั้นออกไป ก่อนที่บรรยากาศจะชวนให้หายใจไม่ออกกว่านี้วินจึงขอตัวลากลับ
“รบกวนพี่ฟ้านานแล้ว กลับกันเถอะแทน”
“อืมใช่…พวกผมกลับก่อนดีกว่าพี่ฟ้าจะได้พักผ่อนหายไวๆนะครับพี่”
“จ้า…ขอบใจนะกลับกันดีๆล่ะ”
นัทเดินออกมาส่งวินและแทนที่หน้าประตูรั้วจนกว่ารถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนหายลับตาจึงเดินกลับอย่างช้าๆในใจล่องลอยนึกถึงแต่ประโยคที่วินบอก เขาจะกลับมาแล้ว พี่เอกจะมาแล้ว หัวใจบางๆของนัทเหมือนถูกบีบให้หดเหลือเล็กลง
นัทเดินกลับเข้ามาในบ้านอย่างเซื่องซึมเมื่อปิดประตูบ้านและกำลังหันกลับเข้าไปในบ้าน ก็พบกับสายตาโศกหวานเศร้าของฟ้ายืนมองอยู่ สายตาที่สะเทือนอารมณ์ของนัทให้สั่นไหว นัทเดินเข้าไปโอบร่างนั้นไว้อ้อมแขน ฟ้าซบหน้าในอ้อมกอดนั้นเรียวแขนค่อยๆยกขึ้นโอบกอดนัทไว้เช่นกัน
หากโลกเคลื่อนไหวได้ช้าลงหัวใจทั้งสองดวงคงอยากหยุดเวลาไว้แค่ ณ นาทีนี้ หยุดความเคลื่อนไหว หยุดวันข้างหน้า หากแต่ทำไม่ได้วันพรุ่งนี้กำลังเดินทางมา หัวใจของนัทแทบจะแตกเป็นเสี่ยงเมื่อรู้ว่าเวลาที่ได้ใกล้ชิดกับฟ้ากำลังจะสิ้นสุด หัวใจของฟ้าแทบหลุดลอยหายเมื่อระลึกได้ว่าช่วงเวลาหวานไหวแห่งความสุขนี้ใกล้จะจบลง
นัทพาฟ้ามานั่งตรงเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างแหงนหน้ามองฟ้ากว้างโดยมีฟ้านั่งเอนกายอยู่ใกล้ๆ ลมหายใจอุ่นๆรวยรินอยู่ใกล้ชิด มือกุมมือกันและกันไว้
“เมื่อตอนค่ำนัทบอกว่ามีอะไรให้พี่เหรอ” ฟ้าเอียงคอมองถามคนข้างๆ
“จริงสิ” นัทผุดลุกนั่งตัวตรงเมื่อนึกขึ้นได้
“พี่ฟ้ารอนัทนะก่อนนะเดี๋ยวนัทมา” นัทเดินหายเข้าไปในห้องเพียงครู่หนึ่งก็กลับออกมา
“หลับตาก่อนนะ ให้นัทบอกให้ลืมตาแล้วค่อยลืมนะ” นัทกระซิบบอก ฟ้ายิ้มบางๆแล้วหลับตาลง นัทคว้ามือฟ้ามาข้างหนึ่งแบออกแล้ววางของบางอย่างในฝ่ามือ
“เอ้า…ลืมตาได้แล้ว” นัทบอกฟ้าค่อยๆลืมตาขึ้นก้มมองของที่อยู่ในมือ รอยยิ้มหวานละมุนแต้มบนใบหน้าหวานสวยดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นสร้อยเงินพร้อมจี้รูปดวงดาวสองดวงล้อมรอบด้วยวงกลมมีประกายแวววาวคล้ายเพชร
“สวยค่ะสวยมาก” ฟ้ายิ้มให้นัท
“เมื่อตอนเย็นนัทไปตลาด เห็นร้านขายสร้อยเงินมีจี้รูปดวงดาวนัทเลยซื้อมาให้พี่ฟ้า…ให้นัทใส่ให้นะ” นัทค่อยๆสวมสร้อยที่คออย่างแผ่วเบาปลายนิ้วอุ่นๆแตะลงที่จี้ดวงดาวซึ่งแนบอยู่บนผิวเนื้อของฟ้า
“จำเรื่องดาวแห่งความรักสองดวงในนิทานทะเลที่นัทเล่าให้พี่ฟ้าฟังได้มั๊ย” เสียงอุ่นๆกระซิบถาม ฟ้าพยักหน้าสานสบดวงตาคมซึ้ง นัทกระชับร่างของฟ้าเข้ามาใกล้ๆโอบไหล่ฟ้าไว้เบาๆแล้วจึงแหงนหน้ามองดาววิบวับบนท้องฟ้า
“ดาวแห่งความรักเป็นดาวที่บริสุทธิ์เป็นความรักที่บริสุทธิ์เหมือนความรู้สึกของนัทที่มีให้พี่ฟ้า เพราะในความรักไม่มีเหตุผล ไม่มีถูกหรือผิด ไม่มีหญิงหรือชาย ความรักเป็นเรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องของความรู้สึกของคนสองคนไม่ว่าจะอย่างไรความรู้สึกของนัทก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ต่อให้วันข้างหน้านัทจะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่นัทเลือกนัทก็ยินดี ต่อให้สิ่งที่นัทเลือกไม่มีทางเป็นไปนัทก็ยินดี” เสียงนั้นแผ่วจางเหมือนสายลมรำพัน สั่นเครือและพลิ้วไหว…น้ำตาเม็ดบางหยดร่วง
“ต่อให้…” ฟ้าเอาเรียวนิ้วแตะที่ปากนัททำให้คำพูดขาดหาย
“อย่าพูดอีกเลย…พี่รู้…พี่เข้าใจ…แต่พี่…พี่ไม่รู้จะให้คำตอบนัทหรือบอกนัทยังไง พี่ไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้…พี่ไม่รู้” ฟ้าหลบสายตาสับสนและว้าวุ่น นัทจับมือเรียวบางแนบฝ่ามืออ่อนนุ่มไว้บนใบหน้า
“ไม่เป็นไร…นัทไม่เรียกร้องอะไร…ขอได้เห็นหน้า ได้ใกล้ชิด ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ฟ้าไปอย่างนี้ก็พอ ชีวิตนัทไม่เหลืออะไรให้เป็นความสุขแล้ว รู้มั๊ยไม่ว่าจะกีรอยยิ้มของพี่ฟ้านัทก็จำได้หมด”
ฟ้าดึงร่างของคนตัวเล็กมากอดเอาไว้ถ่ายทอดความอ่อนหวานอ่อนโยนให้อุ่นไปทั่วหัวใจนัท สองกายแนบชิด สองใจแนบแน่นไหวเอนไปกับแสงดาวระยิบ
อุ่นเอยอุ่นหัวใจ
อิ่มรักใคร่เสน่หา
หอมกรุ่นแก้มกานดา
หวานดวงตาแห่งความรัก
อิงเอยแอบแนบแน่น
โอบอ้อมแขนนอนหนุนตัก
อ้อมใจที่หยุดพัก
กอดเก็บรักไว้เพื่อเธอ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ