[International] รักนี้...นอกสัญชาติ
9.9
เขียนโดย uraNus
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.41 น.
9 chapter
3 วิจารณ์
14.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 21.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ค่ายคณะ (1) 100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.
.
.
[ Lan Talk ]
วันนี้ผมกับเพื่อนๆมาค่ายกันเพื่อที่จะคุมน้องๆปีหนึ่งที่ต้องมาร่วมค่ายกับคณะประจำปี เมื่อวานซืนที่พวกผมไปผับกันมาพวกไอแม็กไอลุค มันซักไม่หยุดเลยว่าแอบหายไปไหนมาตอนที่ผมไปเต้น ผมไม่ได้บอกพวกมันหรอกครับว่าไปหาไอฝรั่งนั่นมาน่ะ พวกมันก็เลยเปิดประเด็นสงสัยขึ้นมาเลยทันที แต่ผมก็ทำเป็นไม่แคร์หรอกครับ
" ทำไมมึงถึงไม่ยอมบอกวะ " มายที่เดินข้างๆผมถาม
" ใช่ๆ " แม็กที่เดินตามมาเสริม
" ไม่ใช่มึงแอบไปคั่วหญิงอยู่นะ " ลุคบอก
" เออ " ผมบอกปัดอย่างรำคาญแล้วเดินนำมานั่งที่โต๊ะหินเพื่อรอน้องๆ
" อันแน่ ในที่สุดมึงก็ยอมบอก " แม็กว่าพรางนั่งลงข้างแล้วเอาแขนมาดอบคอผม
" จิ! พวกมึงนี่มันน่ารำคาญจริงๆ " ผมจับแขนมันออกจากคอแล้วส่ายหัวกับความเล้าหลือของเพื่อน
" โด่ มีอะไรมันก็ต้องบอกกันดิจริงม้ะ " มายว่าพรางหยิบเอกสารในมือขึ้นมาดูอยู่ตรงข้ามผม ส่วนลุคนั่งอีกตัวข้างมาย
" เฮ้อออ เออๆ " ผมบอกด้วยความระอาแล้วหยิบมือถือมากดเล่น
" เอ้อ ไอแลนแล้วมึงได้บอกน้องมันยังวะ " อยู่ๆมายมันก็ถามขึ้น ผมหันไปมองมันแล้วทำหน้างง
" น้องไหนวะ "
" ไอห่า ก็น้องรหัสมึงดิ ได้บอกรึยังว่ามาค่ายนี้ " มายบอกพรางขมวดคิ้วเครียดจ้องผม
" เออ บอกแล้วมั้ง " ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์
" เหี้ย!! " แม็กับมายพร้อมใจกันตะโกนด่าผม
" กูล่ะสงสารน้องมันจับใจเลยว่ะ โธ่โธโธ้ ไม่น่าเลยน้องอีธานของพี่ " แม็กว่าพรางเอามือกุมที่หน้าอกตัวเองแล้วส่ายหัวอย่างเวทนา ทุ้ย!!- -
ป้าป!!
" เขาไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ " เสียงตบหัวเมื่อกี้เป็นฝีมือของมายเองครับ ฮ่าๆๆๆ เล่นเอาหน้าไอแม็กแทบทิ่มโต๊ะ
" ก็เมื่อคืนอ่ะดิ " พวกผมทั้งสามคนจึงหันควับมองมันเป็นตาเดียว ทันที
( - -)( - -)>>(^^)<<(- - )
" หะ!! มึงว่าไงนะ " ลุคถามด้วยความตกใจ ในใจผมตอนนี้ก็ไม่แพ้กัน
" อย่าบอกนะว่ามึง.... " มายบอกแล้วทำหน้าเหวอข้าง
" อืม.. ก็เมื่อวานซืนกูมองน้องเต้นมากไปหน่อยอ่ะเลยเก็บเอาไปฝันอ่ะ แห่ะๆ^0^ " สุดท้ายมันก็บอกออกมาแล้วยิ้มเหยๆ พวกผมสามคนเลยสามัคคีรวมฝ่าเท้ายันมันจนตกเก้าอี้ ไอห่าเอ๊ย กูก็นึกว่ามึงจับเด็กนั่นปล้ำ แต่จะว่าไปก็เรื่องของมันนี่หว่า ช่างเฮอะ
" เชี่ย! เล่นเอาพวกกูคิดกันไปไกล จะถึงดาวอังคารอยู่แล้ว " ลุคว่า
" แล้วมึงฝันว่าอะไรวะ " มายถามยังอยากรู้ แม็กเลยเอามือจับกันแล้วบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
" ก็..... เรื่องนั่นน่ะแล่ะ แห่ะๆ " มันบอกแล้วมองพวกผมเขิน
" ห่า ทุ้ย! เสื่อมจริงมึง " มายว่า
" เออ ฝันเปียกเพราะผู้ชายเนี่ยนะ " ลุคเสริมแล้วมองมันเหยียดๆ
" อ่าว ทำไมวะ ก็น้องเขาเซกซี่นี่หว่าหรือพวกมึงว่าไม่จริง " แม็กแย้งออกมาอย่างไม่ยอม
" มันก็จริงแหล่ะ กูไม่เถียง "
" แต่มึงไปฝันยังงั้นพาจะมองหน้าไม่ติดนะเว้ย " ลุคว่า แต่ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกหงุดหงิดมากจนไม่ได้พูดว่าอะไรมันครับ โอ๊ยยย เป็นอะไรวะเนี่ยจะไปหงุดหงิดมันทำไม พอคืดได้ยังงั้นก็ดีที่ผมไม่ได้บอกไอเด็กนั่นเรื่องที่จะมาค่าย ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้ถ้ามันรู้ว่าต้องมาค่ายวันนี้จะเป็นยังไงนะ แต่มารู้เอาตอนนี้มันก็สายไปซะแล้วล่ะ คิดแล้วก็ซะใจไอเด็กนั่น หึหึ อยากเห็นหน้ามันตอนเหวอๆที่มันรู้จริงๆ
.
.
" อ่าว น้องๆที่มากันแล้วมารวมตัวทางนี้เลยนะครับ! "
พอได้เวลาที่จะต้องรวมตัวกันแล้วแม็กจึงเรียกรวมตัวน้องที่มากันส่วนหนึ่งให้นั่งรวมตัวกัน
" นั่งให้มันเป็นแถวหน่อยค่ะ!! "
ส่วนเสียงแปดหลอดนั่นเป็นของอีฝ้ายที่มาช่วยพวกผมคุมนั่นเอง เห็นสวยๆยังเงี้ยเฮอะแต่มันอ่ะโหดสุดๆเลยนะครับ ยิ่งตอนมันโกรธเนี่ยเหมือนช้างตกมันไม่มีผิด-..-
" เบาๆหน่อยก็ได้เว้ยน้องมันกลัวมึงจนนั่งสั่นกันเป็นแถวแล้ว " ผมหันไปกระซิบฝ้ายที่มันยืนท้าวซะเอวชี้นิ้วสั่งพวกน้องๆอย่างเป็นเจ้าถิ่น
" นี่ฉันเย็นสุดแล้วนะยะ -..- " ผมมองหน้ามันอย่างแหยงๆ นี่มึงเย็นแล้วหรอ เฮอะๆ
" เอ้อ แล้วไอจาคอบอ่ะ " มายที่ยืนอยู่ข้างๆหันมาถามผมกับฝ้าย
" ไม่รู้ว่ะ ตั้งแต่มากูยังไม่เห็นหัวมันเลย " ผมส่ายหัวบอกมัน
" เห็นมันบอกว่าจะมาช้าหน่อยน่ะ .. ไปรับเด็กมั้ง " ฝ้ายบอกพรางยักไหล่อยย่างกวนๆ
" เด็กที่ไหนวะ " มายขมวดคิ้วมุ่นถาม
" จะไปรู้มันมั้ยยะ! "
ฝ้ายบอกอย่างหงุดหงิด จนมายเริ่มทำหน้าเสียแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะหิน
จนนี้ก็จวนจะถึงเวลาที่รถบัสจะออกแล้วผมก็ยังไม่เห็นจาคอบกันเลย น้องๆมันก็มาถึงกันหมดแล้วด้วยนี่สิ แต่ยกเว้นไอเด็กนั่นน่ะครับ แต่ก็แปลกแหะเพื่อนมันก็อยู่นิ แต่แอบเห็นเด็กนั่นทำหน้าเสียๆอยู่เหมือนกันครับสงสัยกำลังแปลกใจมั้งที่ไม่เห็นเพื่อนของตัวเองน่ะ นึกแล้วผมก็ซะใจ ฮ่าๆๆๆ สงสัยมันคงต้องดดนทำโทษชัวร์ล่ะครับ
" เฮ้ย! นั่นไงๆ ไอคอบมันมาแล้ว " ลุคตะโกนเรียกร้องความสนใจให้พวกผมหันไปดู
แต่ผมต้องชะงักทันใดเมื่อเห็นว่าจาคอบมันเดินมากับใคร ไม่จริงน่าไอฝรั่งนั่น ตอนนี้มันต้องอยู่ที่บ้านสิ ไหงถึงเดินยิ้มล้าเดินคุยกระหงุกระหงิมมากับไอคอบได้เนี่ย แล้วไหงจาคอบมันต้องพาเด็กนั่นมาด้วย ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆเมื่อแผนล้ม แล้วยิ่งเห็นท่าทีของไอเด็กนั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาใหญ่
" ไงวะ " พอจาคอบเดินมาถึงตรงที่พวหผมยืนรวมตัวกันอยู่มันก็ทักขึ้น
" ไม่ต้องมางงมาไงเลยมึง มัวทำอะไรอยู่วะช้าชิป " มายว่าอย่างเคืองๆ
" น่า พอดีกูไปรับน้องมันน่ะ " คอบว่ายิ้มๆ แล้วมองฝรั่งนั่นที่ยิ้มโชว์เหล็กตอบกลับ แต่เมื่อมันหันมาเจอสายตาผมมันก็ค่อยๆหุบยิ้มแล้วทำหน้าบึ้งใส่ผมทันที - -
" โห่ ไอเราก็รอตั้งนานจนรถจะออกอยู่แล้วเนี่ย " ลุคบอก
" แล้วทำไมมึงต้องไปรับมันด้วยวะ ..มาเองไม่เป็นรึไง " ผมพูดขึ้นแล้วหันไปมองหน้ามันประโยคสุดท้าย ซึ้งมันก็มองผมเคืองๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
" มึงอ่ะ ไม่ต้องมาพูดเลยนะไอแลน ถ้ากูไม่ไปเจอน้องงเขาที่เซเว่นเนี่ยกูก็คงไม่รู้หรอกนะว่ามึงไม่ยอมบอกน้องเขาเรื่องที่จะมาค่ายนี้อ่ะ " จาคอบส่ายหัวเอือมๆ
" ทำไมวะ กูไม่ผิดนะเว้ย ก็มันไม่ถามเองอะ " ผมว่าพรางยักไหล่ทำเป็นไม่สน แต่เมื่อผมเริ่มเห็นสายตาที่แต่ละคนส่งมาให้ผมบ่งบอกถึงความระอาใจกับผิดหวัง ผมจึงต้องหายใจออกดัง เฮือก!
" เออ ขอโทษ! ไปกันไก้ยังล่ะ " ผมบอกหน้ายู่ แล้วสะบัดหน้าเดินไปทางรถบัสอย่างไม่สบอารมณ์
[ Etarn Talk ]
ผมเดินไปหาเจสันที่รวมอยู่ในแถว แล้วโบกมือเรียกมันที่กำลังชะเง้อคอยาวมองหาใครอยู่ แต่พอมันเห็นผมปุ๊บก็ยอ้มร่าแล้วดบกไม้โบกมือเรียกให้ผมเดินไปหา
" เฮ้ย ไหงเพิ่งมาอ่ะ ตื่นสายหรอ " พอเดินมาถึงตัวปุ๊บมันก็ซักทันที
" ป่าว ฉันไม่รู้ว่าวันนี้ต้องมาค่าย เพิ่งมารู้เอาเมื่อเช้า " ผมบอกอย่างเซ็ง มันเบิกตากว้างอย่างตกใจ
" เฮ้ย ไหงงั้นอ่ะ ทำไมถึงไม่รู้อ่ะ พี่รหัสไม่ได้บอกหรอ " ผมเลยส่ายหัวมองหน้ามันอย่างเศร้าๆ มันก็มองผมอย่างสงสารแล้วตบไหล่เบาๆเพื่อให้หำลังใจ
" แล้วใครเป็นคนบอกแกอ่ะ "
" พี่จาคอบน่ะ พอดีฉันเจอเขาที่เซเว่นตอนลงมาหาอะไรกินน่ะ " ผมบอก
" อ่อๆ งั้นก็ดีแล้ว ปะไปกันพี่เขาโบกมือเรียกแล้ว " เจสันว่าแล้วกอดคอให้ผมเดินไปกับมัน
" น้องๆกลุ่ม เอ ไปรถบัสหมายเลข 1 นะครับ ส่วนกลุ่ม บี ไปขึ้นหมายเลข 2 กันได้เลย แต่ละคันเราจะมีพวกพี่ๆคุมอยู่ประจำรถนะครับ เชิญขึ้นกันได้ครับ!! " พี่แม็กตะโกนบอกพวกเรา ก่อนพี่แกจะขึ้นไปบนรถหมายเลข 1
" ส่วนหมายเลย 2 มาทางนี้เลยครับ! " ตามด้วยเสียงนายแลนตะโกนเรียกอยู่ตรงทางขึ้นรถเพื่อให้รู้ว่าต้องขึ้นทางนี้ ชิ เห็นหน้ามันแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาบังอาจคิดจะแกล้งผมด้วยวิธีสกปรกอย่างงี้หรอ เฮอะ คอยดูเฮอะผมก็มีคลิปที่จะรอแบล็คเทล์มันเหมือนกัน นึกพรางยกยิ้มชั่วร้ายขึ้น แต่พอได้สติก็สบัดหัวไล่ความคิดนั้นไปก่อน ตอนนี้เราต้องขึ้นรถก่อนสิ ว่าแต่เราต้องขึ้นรถเบอร์ไหนอ่ะ
" เจสัน ฉันขึ้นรถเบอร์ไหนอ่ะ " ผมหันไปสกิดถามเจสัน
" อ่อ ฉันเบอร์ 1 ส่วนแกไม่รู้อ่ะ เพราะว่าเข้าประกาศตามรายชื่อที่แถวอ่ะ " เจสันว่าพรางทำหน้าเห็นใจ ผมเลยพยักหน้าให้มัน
" งั้น ฉันไปถามพี่เขาก่อนละกันนะ " เจสันพยักหน้าบอก
ผมจึงเดินผ่ากลุ่มเด็กปีหนึ่งเพื่อจะไปถามพี่แม็กที่ยืนอยู่ใกล้สุด
" เอ่อ... ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งมาเลยไม่รู้ว่าตัวเองต้องขึ้นรถเบอร์ไหนน่ะฮะ " พี่แม็กหันมามองผมแว็บนึงก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ ซึ่งผมก็ยิ้มให้เขาอย่างงงๆ
" ว่าไงนะครับ " อ่าว เมื่อกี้นี้พี่ไม่ได้ฟังผมเลยใช่มั้ยเนี่ย- -
" เอ่อ ผมถามว่าผมต้องขึ้นรถเบอร์ไหนเหรอครับ " พี่เขาจึงพยักหน้าแล้วก้มลงดูใบเอกสารที่พี่เขาถืออยู่
" ชื่อ ลูคัส อีธานใช่มั้ย " พี่แม็กถาม
" ครับ "
" รู้สึกจะเบอร์ 2 นะ ทางนู้นเลยที่พี่รหัสเรายืนอยู่น่ะ " พี่เขาชี้ไปที่รถบัสข้างหลัง แล้วยิ้มให้ผม หะ นี่ต้องขึ้นคันเดียวกับนายแลนหรอเนี่ย แถมยังคนละคันกับเจสันอีก
" ขอบคุณครับ " ผมก้มหัวขอบคุรก่อนจะเดินไปหาเจสันที่ต่อแถวเช็คชื่อสำหรับรอขึ้นรถอยู่
" ฉันขึ้นคัน 2 นะ " ผมบอกเจสัน
" อื้ม เดี๋ยวพอถึงนั่นค่อมาเจอกันก็ได้นะ " ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
" งั้นไว้เจอกัน ฉันไปขึ้นรถก่อนคนขึ้นกันไปหมดแล้ว "
" เคๆ " ผมบอกมือให้เจสันก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเอง
" ครบแล้วใช่มั้ยครับ! " นายแลนที่ยืนอยู่หน้ารถตะโกนถามขึ้น ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปหามัน
" ยังครับ! ผมยังไม่ได้ขึ้นเลย "
มันหันมามองผมนิดๆ ก่อนจะก้มลงมองใบกระดาษของมันแล้วเงยหน้ามามองผมอย่างเซ็งๆ - - คิดว่าผมอยากขึ้นคันเดียวกับมันหรือไงเล่า หนอยย
มันชะเง้อมองเข้าไปในรถก่อนจะหันมาหาผม
" ที่นั่งเต็ม " มันบอกอย่างไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ผมจึงขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เชื่อ ได้ไงอ่ะก็พี่แม็กบอกผมขึ้นคันนี้นิ มันจะเต็มได้ไง ผมจึงเดินขึ้นบันไดรถผ่านหน้ามันอย่างไม่สน
" นี่ มึง กูยังไม่ได้อนุญาติให้ขึ้นมาเลยนะ " ผมไม่สนใจเสียงของมันหรอกครับ
" ไหนว่าเต็มไง " ผมชี้นิ้วไปที่เบาะนั่งที่มันเหลือที่ว่างอีกคู่นึง ซึ่งผมเดาว่ามันจะต้องเป็นของผมแน่นอน
" นั่นมันที่กู " มันว่า ผมเลยมองมันอย่างยั๊วๆ
" คุณนั่งคนเดียวสองที่เลยหรือไง "
" เออ กูไม่ชอบเบียด " มันบอกอย่างไม่แคร์ แต่ผมจะนั่งอ่ะครับ ก็มันไม่มีที่ให้นั่งแล้วนี่นา ผมจึงไม่สนคำมันเดินไปนั่งลงบนเบาะริมหน้าต่างทันที วึ่งเดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องโวยวายผม
" มึงลุกออกมาเลยนะ " มันว่าพรางเดินมาดึงแขนผมให้ลุกออกไปจากที่เก้าอี้ แต่ผมก็ไม่ยอมยื้อที่จะนั่งอยู่อย่างนั้น
" นี่ พวกมึงจะนั่งกันได้ยังวะ คนอื่นเขาละอากับมึงเต็มทนแล้วนะเว้ย แย่งที่นั่งกันเป็นเด็กๆไปได้ ส่วนมึงไอแลนน้องมันขึ้นคันนี้ก็ให้นั่งกับมึงไปสิวะ " พี่ลุคที่นั่งอยู่กับพี่ฝ้ายเบาะข้างหลังถัดจากเบาะที่ผมนั่งแถวที่สองพูดขึ้นอย่างรำคาญ ผมจึงก้มหัวให้พี่ลุคเพื่อขอโทษ
พี่แกก็พยักหน้าให้ผมยิ้มก่อนจะหันไปมองนายแลนที่ยืนทำหน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่ข้างๆผมด้วยสายตาดุๆ
" ก็ มัน... "
" พอเฮอะวะ! ขับไปเลยครับพี่ " ก่อนที่นายแลนจะพูพี่ลุคก็ขัดขึ้นก่อนจะหันไปบอกพี่คนขับรถว่าให้ออกรถได้เลย พอผมเห็นหน้าเหวอๆของนายแลนก็อดจะขำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ
" ขำไรวะ! " มันมองผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งเบาะข้างๆผม อย่างจำนน ซึ่งผมก็หันไปแลบลิ้นใส่มัน ฮ่าๆๆๆ เหมือนเด็กโดนขัดใจเลยแหะ
" ชิ ไอเด็กบ้า " มันว่าพรางหันหน้าหนีทำเป็นไม่สนผม เออดี ชิ
แต่พอนั่งรถมาได้สักครึ่งชั่วโมงผมก็รู้สึกถึงความง่วงขึ้นมาจนตาแหกแทบไม่ขึ้นแล้ว โอย จะนอนดีมั้ยเนี่ย ผมแอบเหลือบมองไปยังคนข้างๆ ที่เสียบหูฟังเพลงอยู่ในดลกส่วนตัวของตัวเองไปแล้ว ก็ค่อยๆเอนหัวลงไปพิงกับไหล่มัน
" เฮ้ยย ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย! เอาหัวออกไปเลยนะ " พอผมเอนหัวไปซบไหล่มันปุ๊บมันก็ผลักหัวผมออกอย่างแรงจนหัวผมไปกระแทกเข้ากับกระจกอย่างจัง ปัก! โอยย ไอบ้า หัวคนนะไม่ใช่ตุ๊กตาล้มลุก ผมเอามือกุมหัวแล้วยู่ปากมองหน้ามันเคืองๆ
" เจ็บนะ "
" หึ สมน้ำหน้า อยากพิงมาดีนัก " มันยิ้มอย่างสมน้ำหน้า
" ก็ผมง่วงมากเลยนี่นา ขอพิงหน่อยนะ " ผมขอมันดีๆ เพราะตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ จะพิงหน้าต่างก็ไม่ได้กลัวรถมันกระแทกแล้วหัวผมดขก เบาะก็ปรับไม่ได้กลัวพี่ที่นั่งข้างหลังจะเบียด
" ไม่ให้เว้ย ง่วงก็นอนไปสิ " มันบอก
" ทำไมผมถึงพิงไม่ได้ล่ะ " ผมจ้องมันอย่างไม่เข้าใจ
" ก็.. กู .. กูเกลียดมึง " มันพูดจบก็หันกลับไป ผมมองมันนิดๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆ
" เหรอ... "
นั่นสินะนายนี่คงจะเกลียดเรามากจริงๆน่ะแหล่ะก็ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน เราก็ไม่เคยพูดดีๆกันเลยนินะ เฮ้อออ จะขอพิงไหล่มันก็ไม่ได้อีก ผมเลยต้องจำใจพิงกระจกไปอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นสักพักก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยไม่รู้ตัว
[ Lan Talk ]
พอเด็กนั่นเงียบไปนานผมจึงหันไปมอง ก็เห็นมันหลับไปแล้วนั่นเอง ก็ว่าทำไมเงียบจัง หึ อยู่มาขอพิงไหล่กันง่ายยังเงี่ยเป็นใครใครจะให้กันล่ะ หรือว่ามันเองจะปล่อยตัวแบบนี้ไปเรื่อยนะ คืดแล้วหงุดหงิด ช่างเฮอะ เรื่องของมันนี่นาเราจะไปสนใจทำไม มันนอนเอาหัวพิงหน้าต่างจนคอแทบจะหักอยู่แล้ว ตอนนอนก็ดูน่ารักดีนะแต่พอตื่นมาเจ้าเล่ห์อย่าบอกใคร หืม น่ารักหรอ นี่ผมคิดว่าผู้ชายน่ารักได้ยังไงเนี่ย ผมสบัดหัวไล่ความคิดนั้นอย่างแรง
พอนั่งทำเป็นไม่สนใจมันสักพักก็อดที่จะหันไปมองมันไม่ได้แหะ พอรถกระแทกกับหลุมหัวมันก็กระปทกตามบ้าง ดังเป็นช่วงๆ จึงอดสงสารไม่ได้ ค่อยๆจับหัวมันให้เอนมาพิงไหล่ของผมช้าๆ ชิ นี่เห็นแก่เป็นน้องรหัสหรอกนะมึง อย่าหวังจะมีอีกด้วยครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นเว้ย
**************************
.
.
[ Lan Talk ]
วันนี้ผมกับเพื่อนๆมาค่ายกันเพื่อที่จะคุมน้องๆปีหนึ่งที่ต้องมาร่วมค่ายกับคณะประจำปี เมื่อวานซืนที่พวกผมไปผับกันมาพวกไอแม็กไอลุค มันซักไม่หยุดเลยว่าแอบหายไปไหนมาตอนที่ผมไปเต้น ผมไม่ได้บอกพวกมันหรอกครับว่าไปหาไอฝรั่งนั่นมาน่ะ พวกมันก็เลยเปิดประเด็นสงสัยขึ้นมาเลยทันที แต่ผมก็ทำเป็นไม่แคร์หรอกครับ
" ทำไมมึงถึงไม่ยอมบอกวะ " มายที่เดินข้างๆผมถาม
" ใช่ๆ " แม็กที่เดินตามมาเสริม
" ไม่ใช่มึงแอบไปคั่วหญิงอยู่นะ " ลุคบอก
" เออ " ผมบอกปัดอย่างรำคาญแล้วเดินนำมานั่งที่โต๊ะหินเพื่อรอน้องๆ
" อันแน่ ในที่สุดมึงก็ยอมบอก " แม็กว่าพรางนั่งลงข้างแล้วเอาแขนมาดอบคอผม
" จิ! พวกมึงนี่มันน่ารำคาญจริงๆ " ผมจับแขนมันออกจากคอแล้วส่ายหัวกับความเล้าหลือของเพื่อน
" โด่ มีอะไรมันก็ต้องบอกกันดิจริงม้ะ " มายว่าพรางหยิบเอกสารในมือขึ้นมาดูอยู่ตรงข้ามผม ส่วนลุคนั่งอีกตัวข้างมาย
" เฮ้อออ เออๆ " ผมบอกด้วยความระอาแล้วหยิบมือถือมากดเล่น
" เอ้อ ไอแลนแล้วมึงได้บอกน้องมันยังวะ " อยู่ๆมายมันก็ถามขึ้น ผมหันไปมองมันแล้วทำหน้างง
" น้องไหนวะ "
" ไอห่า ก็น้องรหัสมึงดิ ได้บอกรึยังว่ามาค่ายนี้ " มายบอกพรางขมวดคิ้วเครียดจ้องผม
" เออ บอกแล้วมั้ง " ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์
" เหี้ย!! " แม็กับมายพร้อมใจกันตะโกนด่าผม
" กูล่ะสงสารน้องมันจับใจเลยว่ะ โธ่โธโธ้ ไม่น่าเลยน้องอีธานของพี่ " แม็กว่าพรางเอามือกุมที่หน้าอกตัวเองแล้วส่ายหัวอย่างเวทนา ทุ้ย!!- -
ป้าป!!
" เขาไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ " เสียงตบหัวเมื่อกี้เป็นฝีมือของมายเองครับ ฮ่าๆๆๆ เล่นเอาหน้าไอแม็กแทบทิ่มโต๊ะ
" ก็เมื่อคืนอ่ะดิ " พวกผมทั้งสามคนจึงหันควับมองมันเป็นตาเดียว ทันที
( - -)( - -)>>(^^)<<(- - )
" หะ!! มึงว่าไงนะ " ลุคถามด้วยความตกใจ ในใจผมตอนนี้ก็ไม่แพ้กัน
" อย่าบอกนะว่ามึง.... " มายบอกแล้วทำหน้าเหวอข้าง
" อืม.. ก็เมื่อวานซืนกูมองน้องเต้นมากไปหน่อยอ่ะเลยเก็บเอาไปฝันอ่ะ แห่ะๆ^0^ " สุดท้ายมันก็บอกออกมาแล้วยิ้มเหยๆ พวกผมสามคนเลยสามัคคีรวมฝ่าเท้ายันมันจนตกเก้าอี้ ไอห่าเอ๊ย กูก็นึกว่ามึงจับเด็กนั่นปล้ำ แต่จะว่าไปก็เรื่องของมันนี่หว่า ช่างเฮอะ
" เชี่ย! เล่นเอาพวกกูคิดกันไปไกล จะถึงดาวอังคารอยู่แล้ว " ลุคว่า
" แล้วมึงฝันว่าอะไรวะ " มายถามยังอยากรู้ แม็กเลยเอามือจับกันแล้วบิดตัวไปมาอย่างเขินอาย
" ก็..... เรื่องนั่นน่ะแล่ะ แห่ะๆ " มันบอกแล้วมองพวกผมเขิน
" ห่า ทุ้ย! เสื่อมจริงมึง " มายว่า
" เออ ฝันเปียกเพราะผู้ชายเนี่ยนะ " ลุคเสริมแล้วมองมันเหยียดๆ
" อ่าว ทำไมวะ ก็น้องเขาเซกซี่นี่หว่าหรือพวกมึงว่าไม่จริง " แม็กแย้งออกมาอย่างไม่ยอม
" มันก็จริงแหล่ะ กูไม่เถียง "
" แต่มึงไปฝันยังงั้นพาจะมองหน้าไม่ติดนะเว้ย " ลุคว่า แต่ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกหงุดหงิดมากจนไม่ได้พูดว่าอะไรมันครับ โอ๊ยยย เป็นอะไรวะเนี่ยจะไปหงุดหงิดมันทำไม พอคืดได้ยังงั้นก็ดีที่ผมไม่ได้บอกไอเด็กนั่นเรื่องที่จะมาค่าย ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้ถ้ามันรู้ว่าต้องมาค่ายวันนี้จะเป็นยังไงนะ แต่มารู้เอาตอนนี้มันก็สายไปซะแล้วล่ะ คิดแล้วก็ซะใจไอเด็กนั่น หึหึ อยากเห็นหน้ามันตอนเหวอๆที่มันรู้จริงๆ
.
.
" อ่าว น้องๆที่มากันแล้วมารวมตัวทางนี้เลยนะครับ! "
พอได้เวลาที่จะต้องรวมตัวกันแล้วแม็กจึงเรียกรวมตัวน้องที่มากันส่วนหนึ่งให้นั่งรวมตัวกัน
" นั่งให้มันเป็นแถวหน่อยค่ะ!! "
ส่วนเสียงแปดหลอดนั่นเป็นของอีฝ้ายที่มาช่วยพวกผมคุมนั่นเอง เห็นสวยๆยังเงี้ยเฮอะแต่มันอ่ะโหดสุดๆเลยนะครับ ยิ่งตอนมันโกรธเนี่ยเหมือนช้างตกมันไม่มีผิด-..-
" เบาๆหน่อยก็ได้เว้ยน้องมันกลัวมึงจนนั่งสั่นกันเป็นแถวแล้ว " ผมหันไปกระซิบฝ้ายที่มันยืนท้าวซะเอวชี้นิ้วสั่งพวกน้องๆอย่างเป็นเจ้าถิ่น
" นี่ฉันเย็นสุดแล้วนะยะ -..- " ผมมองหน้ามันอย่างแหยงๆ นี่มึงเย็นแล้วหรอ เฮอะๆ
" เอ้อ แล้วไอจาคอบอ่ะ " มายที่ยืนอยู่ข้างๆหันมาถามผมกับฝ้าย
" ไม่รู้ว่ะ ตั้งแต่มากูยังไม่เห็นหัวมันเลย " ผมส่ายหัวบอกมัน
" เห็นมันบอกว่าจะมาช้าหน่อยน่ะ .. ไปรับเด็กมั้ง " ฝ้ายบอกพรางยักไหล่อยย่างกวนๆ
" เด็กที่ไหนวะ " มายขมวดคิ้วมุ่นถาม
" จะไปรู้มันมั้ยยะ! "
ฝ้ายบอกอย่างหงุดหงิด จนมายเริ่มทำหน้าเสียแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะหิน
จนนี้ก็จวนจะถึงเวลาที่รถบัสจะออกแล้วผมก็ยังไม่เห็นจาคอบกันเลย น้องๆมันก็มาถึงกันหมดแล้วด้วยนี่สิ แต่ยกเว้นไอเด็กนั่นน่ะครับ แต่ก็แปลกแหะเพื่อนมันก็อยู่นิ แต่แอบเห็นเด็กนั่นทำหน้าเสียๆอยู่เหมือนกันครับสงสัยกำลังแปลกใจมั้งที่ไม่เห็นเพื่อนของตัวเองน่ะ นึกแล้วผมก็ซะใจ ฮ่าๆๆๆ สงสัยมันคงต้องดดนทำโทษชัวร์ล่ะครับ
" เฮ้ย! นั่นไงๆ ไอคอบมันมาแล้ว " ลุคตะโกนเรียกร้องความสนใจให้พวกผมหันไปดู
แต่ผมต้องชะงักทันใดเมื่อเห็นว่าจาคอบมันเดินมากับใคร ไม่จริงน่าไอฝรั่งนั่น ตอนนี้มันต้องอยู่ที่บ้านสิ ไหงถึงเดินยิ้มล้าเดินคุยกระหงุกระหงิมมากับไอคอบได้เนี่ย แล้วไหงจาคอบมันต้องพาเด็กนั่นมาด้วย ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆเมื่อแผนล้ม แล้วยิ่งเห็นท่าทีของไอเด็กนั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาใหญ่
" ไงวะ " พอจาคอบเดินมาถึงตรงที่พวหผมยืนรวมตัวกันอยู่มันก็ทักขึ้น
" ไม่ต้องมางงมาไงเลยมึง มัวทำอะไรอยู่วะช้าชิป " มายว่าอย่างเคืองๆ
" น่า พอดีกูไปรับน้องมันน่ะ " คอบว่ายิ้มๆ แล้วมองฝรั่งนั่นที่ยิ้มโชว์เหล็กตอบกลับ แต่เมื่อมันหันมาเจอสายตาผมมันก็ค่อยๆหุบยิ้มแล้วทำหน้าบึ้งใส่ผมทันที - -
" โห่ ไอเราก็รอตั้งนานจนรถจะออกอยู่แล้วเนี่ย " ลุคบอก
" แล้วทำไมมึงต้องไปรับมันด้วยวะ ..มาเองไม่เป็นรึไง " ผมพูดขึ้นแล้วหันไปมองหน้ามันประโยคสุดท้าย ซึ้งมันก็มองผมเคืองๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
" มึงอ่ะ ไม่ต้องมาพูดเลยนะไอแลน ถ้ากูไม่ไปเจอน้องงเขาที่เซเว่นเนี่ยกูก็คงไม่รู้หรอกนะว่ามึงไม่ยอมบอกน้องเขาเรื่องที่จะมาค่ายนี้อ่ะ " จาคอบส่ายหัวเอือมๆ
" ทำไมวะ กูไม่ผิดนะเว้ย ก็มันไม่ถามเองอะ " ผมว่าพรางยักไหล่ทำเป็นไม่สน แต่เมื่อผมเริ่มเห็นสายตาที่แต่ละคนส่งมาให้ผมบ่งบอกถึงความระอาใจกับผิดหวัง ผมจึงต้องหายใจออกดัง เฮือก!
" เออ ขอโทษ! ไปกันไก้ยังล่ะ " ผมบอกหน้ายู่ แล้วสะบัดหน้าเดินไปทางรถบัสอย่างไม่สบอารมณ์
[ Etarn Talk ]
ผมเดินไปหาเจสันที่รวมอยู่ในแถว แล้วโบกมือเรียกมันที่กำลังชะเง้อคอยาวมองหาใครอยู่ แต่พอมันเห็นผมปุ๊บก็ยอ้มร่าแล้วดบกไม้โบกมือเรียกให้ผมเดินไปหา
" เฮ้ย ไหงเพิ่งมาอ่ะ ตื่นสายหรอ " พอเดินมาถึงตัวปุ๊บมันก็ซักทันที
" ป่าว ฉันไม่รู้ว่าวันนี้ต้องมาค่าย เพิ่งมารู้เอาเมื่อเช้า " ผมบอกอย่างเซ็ง มันเบิกตากว้างอย่างตกใจ
" เฮ้ย ไหงงั้นอ่ะ ทำไมถึงไม่รู้อ่ะ พี่รหัสไม่ได้บอกหรอ " ผมเลยส่ายหัวมองหน้ามันอย่างเศร้าๆ มันก็มองผมอย่างสงสารแล้วตบไหล่เบาๆเพื่อให้หำลังใจ
" แล้วใครเป็นคนบอกแกอ่ะ "
" พี่จาคอบน่ะ พอดีฉันเจอเขาที่เซเว่นตอนลงมาหาอะไรกินน่ะ " ผมบอก
" อ่อๆ งั้นก็ดีแล้ว ปะไปกันพี่เขาโบกมือเรียกแล้ว " เจสันว่าแล้วกอดคอให้ผมเดินไปกับมัน
" น้องๆกลุ่ม เอ ไปรถบัสหมายเลข 1 นะครับ ส่วนกลุ่ม บี ไปขึ้นหมายเลข 2 กันได้เลย แต่ละคันเราจะมีพวกพี่ๆคุมอยู่ประจำรถนะครับ เชิญขึ้นกันได้ครับ!! " พี่แม็กตะโกนบอกพวกเรา ก่อนพี่แกจะขึ้นไปบนรถหมายเลข 1
" ส่วนหมายเลย 2 มาทางนี้เลยครับ! " ตามด้วยเสียงนายแลนตะโกนเรียกอยู่ตรงทางขึ้นรถเพื่อให้รู้ว่าต้องขึ้นทางนี้ ชิ เห็นหน้ามันแล้วก็รู้สึกโมโหขึ้นมาบังอาจคิดจะแกล้งผมด้วยวิธีสกปรกอย่างงี้หรอ เฮอะ คอยดูเฮอะผมก็มีคลิปที่จะรอแบล็คเทล์มันเหมือนกัน นึกพรางยกยิ้มชั่วร้ายขึ้น แต่พอได้สติก็สบัดหัวไล่ความคิดนั้นไปก่อน ตอนนี้เราต้องขึ้นรถก่อนสิ ว่าแต่เราต้องขึ้นรถเบอร์ไหนอ่ะ
" เจสัน ฉันขึ้นรถเบอร์ไหนอ่ะ " ผมหันไปสกิดถามเจสัน
" อ่อ ฉันเบอร์ 1 ส่วนแกไม่รู้อ่ะ เพราะว่าเข้าประกาศตามรายชื่อที่แถวอ่ะ " เจสันว่าพรางทำหน้าเห็นใจ ผมเลยพยักหน้าให้มัน
" งั้น ฉันไปถามพี่เขาก่อนละกันนะ " เจสันพยักหน้าบอก
ผมจึงเดินผ่ากลุ่มเด็กปีหนึ่งเพื่อจะไปถามพี่แม็กที่ยืนอยู่ใกล้สุด
" เอ่อ... ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งมาเลยไม่รู้ว่าตัวเองต้องขึ้นรถเบอร์ไหนน่ะฮะ " พี่แม็กหันมามองผมแว็บนึงก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ ซึ่งผมก็ยิ้มให้เขาอย่างงงๆ
" ว่าไงนะครับ " อ่าว เมื่อกี้นี้พี่ไม่ได้ฟังผมเลยใช่มั้ยเนี่ย- -
" เอ่อ ผมถามว่าผมต้องขึ้นรถเบอร์ไหนเหรอครับ " พี่เขาจึงพยักหน้าแล้วก้มลงดูใบเอกสารที่พี่เขาถืออยู่
" ชื่อ ลูคัส อีธานใช่มั้ย " พี่แม็กถาม
" ครับ "
" รู้สึกจะเบอร์ 2 นะ ทางนู้นเลยที่พี่รหัสเรายืนอยู่น่ะ " พี่เขาชี้ไปที่รถบัสข้างหลัง แล้วยิ้มให้ผม หะ นี่ต้องขึ้นคันเดียวกับนายแลนหรอเนี่ย แถมยังคนละคันกับเจสันอีก
" ขอบคุณครับ " ผมก้มหัวขอบคุรก่อนจะเดินไปหาเจสันที่ต่อแถวเช็คชื่อสำหรับรอขึ้นรถอยู่
" ฉันขึ้นคัน 2 นะ " ผมบอกเจสัน
" อื้ม เดี๋ยวพอถึงนั่นค่อมาเจอกันก็ได้นะ " ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
" งั้นไว้เจอกัน ฉันไปขึ้นรถก่อนคนขึ้นกันไปหมดแล้ว "
" เคๆ " ผมบอกมือให้เจสันก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเอง
" ครบแล้วใช่มั้ยครับ! " นายแลนที่ยืนอยู่หน้ารถตะโกนถามขึ้น ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปหามัน
" ยังครับ! ผมยังไม่ได้ขึ้นเลย "
มันหันมามองผมนิดๆ ก่อนจะก้มลงมองใบกระดาษของมันแล้วเงยหน้ามามองผมอย่างเซ็งๆ - - คิดว่าผมอยากขึ้นคันเดียวกับมันหรือไงเล่า หนอยย
มันชะเง้อมองเข้าไปในรถก่อนจะหันมาหาผม
" ที่นั่งเต็ม " มันบอกอย่างไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ผมจึงขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เชื่อ ได้ไงอ่ะก็พี่แม็กบอกผมขึ้นคันนี้นิ มันจะเต็มได้ไง ผมจึงเดินขึ้นบันไดรถผ่านหน้ามันอย่างไม่สน
" นี่ มึง กูยังไม่ได้อนุญาติให้ขึ้นมาเลยนะ " ผมไม่สนใจเสียงของมันหรอกครับ
" ไหนว่าเต็มไง " ผมชี้นิ้วไปที่เบาะนั่งที่มันเหลือที่ว่างอีกคู่นึง ซึ่งผมเดาว่ามันจะต้องเป็นของผมแน่นอน
" นั่นมันที่กู " มันว่า ผมเลยมองมันอย่างยั๊วๆ
" คุณนั่งคนเดียวสองที่เลยหรือไง "
" เออ กูไม่ชอบเบียด " มันบอกอย่างไม่แคร์ แต่ผมจะนั่งอ่ะครับ ก็มันไม่มีที่ให้นั่งแล้วนี่นา ผมจึงไม่สนคำมันเดินไปนั่งลงบนเบาะริมหน้าต่างทันที วึ่งเดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องโวยวายผม
" มึงลุกออกมาเลยนะ " มันว่าพรางเดินมาดึงแขนผมให้ลุกออกไปจากที่เก้าอี้ แต่ผมก็ไม่ยอมยื้อที่จะนั่งอยู่อย่างนั้น
" นี่ พวกมึงจะนั่งกันได้ยังวะ คนอื่นเขาละอากับมึงเต็มทนแล้วนะเว้ย แย่งที่นั่งกันเป็นเด็กๆไปได้ ส่วนมึงไอแลนน้องมันขึ้นคันนี้ก็ให้นั่งกับมึงไปสิวะ " พี่ลุคที่นั่งอยู่กับพี่ฝ้ายเบาะข้างหลังถัดจากเบาะที่ผมนั่งแถวที่สองพูดขึ้นอย่างรำคาญ ผมจึงก้มหัวให้พี่ลุคเพื่อขอโทษ
พี่แกก็พยักหน้าให้ผมยิ้มก่อนจะหันไปมองนายแลนที่ยืนทำหน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่ข้างๆผมด้วยสายตาดุๆ
" ก็ มัน... "
" พอเฮอะวะ! ขับไปเลยครับพี่ " ก่อนที่นายแลนจะพูพี่ลุคก็ขัดขึ้นก่อนจะหันไปบอกพี่คนขับรถว่าให้ออกรถได้เลย พอผมเห็นหน้าเหวอๆของนายแลนก็อดจะขำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ
" ขำไรวะ! " มันมองผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งเบาะข้างๆผม อย่างจำนน ซึ่งผมก็หันไปแลบลิ้นใส่มัน ฮ่าๆๆๆ เหมือนเด็กโดนขัดใจเลยแหะ
" ชิ ไอเด็กบ้า " มันว่าพรางหันหน้าหนีทำเป็นไม่สนผม เออดี ชิ
แต่พอนั่งรถมาได้สักครึ่งชั่วโมงผมก็รู้สึกถึงความง่วงขึ้นมาจนตาแหกแทบไม่ขึ้นแล้ว โอย จะนอนดีมั้ยเนี่ย ผมแอบเหลือบมองไปยังคนข้างๆ ที่เสียบหูฟังเพลงอยู่ในดลกส่วนตัวของตัวเองไปแล้ว ก็ค่อยๆเอนหัวลงไปพิงกับไหล่มัน
" เฮ้ยย ทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย! เอาหัวออกไปเลยนะ " พอผมเอนหัวไปซบไหล่มันปุ๊บมันก็ผลักหัวผมออกอย่างแรงจนหัวผมไปกระแทกเข้ากับกระจกอย่างจัง ปัก! โอยย ไอบ้า หัวคนนะไม่ใช่ตุ๊กตาล้มลุก ผมเอามือกุมหัวแล้วยู่ปากมองหน้ามันเคืองๆ
" เจ็บนะ "
" หึ สมน้ำหน้า อยากพิงมาดีนัก " มันยิ้มอย่างสมน้ำหน้า
" ก็ผมง่วงมากเลยนี่นา ขอพิงหน่อยนะ " ผมขอมันดีๆ เพราะตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ จะพิงหน้าต่างก็ไม่ได้กลัวรถมันกระแทกแล้วหัวผมดขก เบาะก็ปรับไม่ได้กลัวพี่ที่นั่งข้างหลังจะเบียด
" ไม่ให้เว้ย ง่วงก็นอนไปสิ " มันบอก
" ทำไมผมถึงพิงไม่ได้ล่ะ " ผมจ้องมันอย่างไม่เข้าใจ
" ก็.. กู .. กูเกลียดมึง " มันพูดจบก็หันกลับไป ผมมองมันนิดๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยจริงๆ
" เหรอ... "
นั่นสินะนายนี่คงจะเกลียดเรามากจริงๆน่ะแหล่ะก็ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน เราก็ไม่เคยพูดดีๆกันเลยนินะ เฮ้อออ จะขอพิงไหล่มันก็ไม่ได้อีก ผมเลยต้องจำใจพิงกระจกไปอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นสักพักก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยไม่รู้ตัว
[ Lan Talk ]
พอเด็กนั่นเงียบไปนานผมจึงหันไปมอง ก็เห็นมันหลับไปแล้วนั่นเอง ก็ว่าทำไมเงียบจัง หึ อยู่มาขอพิงไหล่กันง่ายยังเงี่ยเป็นใครใครจะให้กันล่ะ หรือว่ามันเองจะปล่อยตัวแบบนี้ไปเรื่อยนะ คืดแล้วหงุดหงิด ช่างเฮอะ เรื่องของมันนี่นาเราจะไปสนใจทำไม มันนอนเอาหัวพิงหน้าต่างจนคอแทบจะหักอยู่แล้ว ตอนนอนก็ดูน่ารักดีนะแต่พอตื่นมาเจ้าเล่ห์อย่าบอกใคร หืม น่ารักหรอ นี่ผมคิดว่าผู้ชายน่ารักได้ยังไงเนี่ย ผมสบัดหัวไล่ความคิดนั้นอย่างแรง
พอนั่งทำเป็นไม่สนใจมันสักพักก็อดที่จะหันไปมองมันไม่ได้แหะ พอรถกระแทกกับหลุมหัวมันก็กระปทกตามบ้าง ดังเป็นช่วงๆ จึงอดสงสารไม่ได้ ค่อยๆจับหัวมันให้เอนมาพิงไหล่ของผมช้าๆ ชิ นี่เห็นแก่เป็นน้องรหัสหรอกนะมึง อย่าหวังจะมีอีกด้วยครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นเว้ย
**************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ