[International] รักนี้...นอกสัญชาติ
เขียนโดย uraNus
วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.41 น.
แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 21.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ค่ายคณะ(2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.
.
.
[ Etarn Talk ]
พอผมเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็ตอนที่ได้ยินเสียงของพี่ลุคกับพี่ฝ้ายคุยกัน งุงิๆ แล้วสลึมสลือลืมตาขึ้นมา ก็เห็นพี่แม็กกับพี่ฝ้ายยืนอยู่ตรงหน้าเพราะผมนั่งเบาะหน้าสุดติดกับคนขับ แล้วก็ประตูทางลงพอดี พี่ลุคกับพี่ฝ้ายยิ้มขำๆมองผม ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าหัวผมพิงอยู่กับคนข้างๆเลยค่อยๆหันไปมอง ก็พบกับกลุ่มผมของนายแลนเอียงมาทางผม เผลอดมไปจนได้แน่ะ -0-
" แหม่ๆ นอนพิงกันซะน่ารักเชียวนะ อิอิ "
พี่ฝ้ายกับพี่ลุคยิ้มกรุ่มกริมมองผมกับนายแลนสลับกัน
" ปากก็บอกว่าเกลียดแต่ก็เข้ากันได้ดีนี่ หึหึ "
ผมจึงยกหัวออกมาจากมัน จนทำให้คนที่นอนข้างๆหัวแทบทิ่มลงบนขาผมแต่มันก็ตื่นมาพอดีกับมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง
" เอ่อ คือผมเผลอหลับไปน่ะครับ แห่ะๆ " ผมบอกแก้เก้อ แล้วหันไปมองรอบตัวก็ไม่พบใครเลยสงสัยลงกันไปหมดแล้วมั้ง
" ฮ้าววววว∼∼ ถึงแล้วเหรอวะ " นายแลนถามอย่างสลึมสลือ
" ถึงกันจนพวกมันรวมตัวกันนานแล้ววะเพื่อน มีแต่มึงนั่นแหล่ะที่นอนอู้อ่ะ " พี่ลุคว่ายิ้มๆ บอกมัน
" แล้วทำไมไม่รีบเรียกวะ " มันว่าอย่าเคืองๆ
" นี่พวกฉันอุตส่าหวังดีมาปลุกนะเนี่ย ยังจะมาบ่นอีก " พี่ฝ้ายบอก
" เออๆ ก็ไปกันดิ มัวรออะไล่ะ " นายแลนว่าพลางลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินลงรถไป ผมจึงรีบลุกเดินไปรวมตัวกับพวกเพื่อนบ้าง
" อ้าวๆๆ รีบจับกลุ่มแล้วเอาสัมภาระไปเก็บไว้ในห้องของแต่ละคนได้ครับ! "
พอลงมาจากรถก็ได้ยินเสียงของพี่มายที่ยืนคุมพวกปีหนึ่งอยู่ผมจึงรีบเดินไปหาเจสันทันทีเพื่อเข้าพวกบ้าง
" เฮ้ย ไมมาช้าจังอา ฉันรอแกตั้งนานนะ เกือบโดนพี่แม็กว่าแน่ะว่ายังไม่มีกลุ่ม "
พอผมเดินมาหาเจสันมันก็ว่าผมทันที
" แห่ะๆ ขอโทษนะเจสัน พอดีฉันเผลอหลับไปน่ะ " ผมบอกมันพลางเกาหัวเก้อๆ
" - - เฮ้ออ เอาเถอะๆ รีบๆจับกลุ่มกันได้และ เขาให้แบ่งกลุ่มละ 4 เพื่อจะแยกนอนกันเป็นห้องๆน่ะ " มันบอกผมจึงพยักหน้ารับ
" เหลืออีก 2 อ่ะดิ แล้วจะหาใครกันดีอ่ะ "
" อืม.... " เจสันมองไปรอบๆเพื่อที่จะหาเพื่อนมาจับกลุ่มอีก 2 คน
" เฮ้! พวกนายอ่ะ มีกลุ่มกันยัง " อยู่ๆก็มีผู้ชายมาสะกิดผมให้หันไปหา เป็นคนดูดีมากเลยล่ะครับสูงขาวออกแนวจีนๆที่ค้วงมากับอีกคนที่ออกแนวนักกีฬาเพราะว่ารูปร่างเขาดีมากเลยล่ะครับ ผมเห็นตอนแรกแล้วยังตะลึงเลย
" เอ่อ ยังอ่ะ ขาดอีก 2 คน " ผมบอก
" ดีเลยๆ งั้นพวกเราขออยู่ได้มั้ยเราก็มีแค่ 2 คนน่ะ " หนุ่มตี๋บอก ผมจึงหันหน้าไปขอความเห็นจากเจสัน
" ได้สิๆ จะได้ครบๆสักที " เจสันพยักหน้ายิ้มๆ
" ฉันชื่อ หลง นะ " หนุ่มตี๋บอก
" ฉัน โต้ง " ส่วนอีกคนที่ยืนข้างๆแนะนำบ้าง
" ฉันเจสัน ส่วนนี่ อีธาน นะ " เจสันจึงแนะนำบ้าง หลงกับโต้งพยักหน้ารับ ผมก็มองเขายิ้มๆอย่างเป็นมิตร
" ป่ะ งั้นเราไปลงชื่อกันก่อนเฮอะ " หลงว่า
" อืมๆ " ผมกับเจสันจึงเดินตามไป เพื่อที่จะลงชื่อเข้าห้อง เอ่อ ห้องพักน่ะครับ
" นี่นายเป็นลูกครึ่งหรอ " โต้งถามขณะ ที่พวกเรากำลังนั่งรอรวมพลอยู่หลังจากที่แบกของขึ้นไปเก็บไว้ในห้องกันเรียบร้อยแล้ว
" อื้ม " ผมเลยหันไปพยักหน้ารับ
" แล้วพูดไทยได้ใช่มั้ยเนี่ย " โต้งยังคงซักอย่างสงสัย
" ได้สิ นายนี่ก็ถามแปลกๆ " ผมขมวดคิ้วมองมันยิ้มๆ โต้งจึงหัวเราะขึ้นมา
" ฮ่าๆๆๆ อ่าวหรอโทดที ก็เห็นเงียบๆ นึกว่าจะพูดไม่ได้ แต่สำเนียงก็เปล่งอยู่นะ ต้องไปฝึกพูดเยอะรู้ป่าว " โต้งว่า
" อื้ม ก็ทำไงได้ฉันเพิ่งย้ายมาจากอเมริกา ไม่ถึงเดือนเลยนี่ พูดได้แค่นี้ก็ดีแล้ว " ผมบอกอย่างงอนๆ
" โห ก็จริงอ่ะ พูดเก่งนะเนี่ย " โต้งว่าแล้วเอามือมากอดคอผมไว้อย่างสนิทสนม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
" แหม่ สนิทกันไวจริงนะสองคนนี้ " เจสันที่เพิ่งเดินลงมากับหลงเอ่ยแซว
" ก็นะ สงสัยเคมีจะตรงกันมั้ง " โต้งว่ายิ้มๆแล้วเหลือบมามองผม
" คร้าบๆ แล้วพวกนายสองคนสนิทกันมาก่อนเหรอ " เจสันว่าพลางหันไปถามหลงที่ยืนข้าง
" อื้ม ก็เราย้ายมาจากมอปลายที่เดียวกันน่ะ " หลงตอบ แล้วเดอนมานั่งข้างๆผม
" โห ดีจังเลยเนอะ " ผมบอกอย่างนึกอิจฉา ก็ดีจริงๆแหล่ะมีเพื่อนที่สนิทอยู่แล้วมาจากที่เดียวกันจะได้ไม่เหงา คิดแล้วก็นึกถึงไอพวกเพื่อนๆผมที่อยู่อเมริกาขึ้นมาเลยครับ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นไงกันบ้าง เฮ้ออออ กะว่าถ้าปิดเทอมจะบินกลับไปหาพวกมันซะหน่อย
" อื้ม แล้วพวกนายล่ะ " โต้งถาม
" ก็เพิ่งมาเจอกันที่มหาลัยนี่แหล่ะ " ผมบอก
" อ่อ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ไม่ว่าจะพบกันเวลาไหนมันไม่สำคัญเท่ากับการที่สร้างความทรงจำให้กันในช่วงเวลานี้อยู่แล้ว จริงมั้ยโต้ง " หลงหันไปยิ้มให้โต้ง
" ช่ายๆ สำคัญที่สุดคือปัจจุบันต่างหากถ้าเราไม่สร้างเพื่อนในปัจจุบันแล้วจะมีอดีตได้ไงเนอะ " โต้งยิ้มให้ผมกับเจสันเพื่อสร้างมิตรภาพที่ดีให้แก่กันและกัน
" อื้ม ขอบใจ พวกนายมากนะ " ผมหันไปบอกหลงกับโต้ง แล้วมองหน้าเจสันอย่างสื่อความหมายดีๆให้กัน แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนมากมายเป็นสิบขอแค่มีเพื่อนที่จริงใจกับเราแค่คนสองคนก็พอ
" มารวมกันได้แล้วครับ !! " เสียงของพี่แม็กตะโกนเรียกให้พวกปีหนึ่งมารวมตัวกันที่โรงไม้ ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าที่ที่เรามากันเป็นบ้านพักในป้าบนภูเขา วึ่งออกไปทางแนวบ้านๆมากเลยไฟฟ้าแทบจะไม่มี แถมยังต้องอาบน้ำกลางแจ้งกันอีก ผมไม่เคยเจอสถานที่แบบนี้มาก่อนเลยล่ะครับ ทำไมเขาไม่พาไปทะเลนะ อยากเล่นอ่า-0-
" ก่อนที่จะไปทำกิจกรรมกัน พี่จะขอบอกตารางเวลากันก่อนนะครับ ว่าจะต้องทำอะไรกันบ้าง " พี่แม็กพูดขึ้น
" ตารางของวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ หลังจากน้องๆทานข้าวเที่ยงกันเสร็จแล้ว พวกพี่ๆก็จะพาไปเดินสำรวจป่ากันนะครับแล้วก็จะได้เล่นน้ำตกกันด้วยอยากเล่นกันมั้ยเอ่ย^^ " พี่มายที่ดูท่าทางใจดีสุดแล้วพูดขึ้น
" อยากคร้าบ/ค่า " พวกเราจึงขานรับเป็นเสียงเดียวกัน
" หลังจากนั้นก็ไปช่วยกันทำอาหารเย็นจัดโต๊ะ แล้วเราจะได้ทำกิจกรรมรอบกองไฟกันตอนหัวค่ำนะครับ " พี่มายพูด ส่วนพวกพี่ฝ้าย พี่ลุค พี่จาคอบ รวมถึงนายแลนที่นั่งกันบนโต๊ะไม้ยาวกำลังเขียนอะไรกันยิกเลยก็ไม่รู้
" ส่วนอาหารจะมีร้านข้าวแกงอยู่ตรงทางลงเขาเดินจากนี้ไปไม่ไกลมาก ระหว่างนี้พี่จะให้น้องๆพักรับประทานอาหารกันก่อน มารวมตัวกันอีกทีตอน บ่ายสอง นะครับ เชิญแยกย้ายกันได้ "
" คร้าบ/ค่า "
พวกผมจึงลุกจากพื้นแล้วเดินกันไปที่ร้านอาหาร
" หิวจังๆ มีอะไรให้กินบ้างน้า " เจสันบอกอย่างตื่นเต้น
" เฮ้อ ขี้เกียจเดินอ่ะ " หลงบ่น ตอนนี้พวกเรา4คนกำลังเดินไปที่ร้านอาหารตามที่พี่มายบอก ไหยว่าใกล้ไง นี่มันเกือบ 500 เมตรแล้วนะ
" อย่าบ่นน่านายรีบเดินเฮอะ " โต้งที่ดูท่าทางเป็นผู้นำที่สุดพูดขึ้นมองหลงอย่างเอือมๆ
" ไหนบอกไม่ไกลไงวะ " หลงบอกเซ็งๆ ผมหันไปมองรอบๆก็เห็นพวกปีหนึ่งหลายคนบ่นๆกันมั้งแล้วจึงถอนหสยใจออกมา ทำไงได้ล่ะมันไม่มีรถนี่นา
" แกจะบ่นทำไมวะ ดูอย่างเจสันกับอีธานดิ เขาตัวเล็กกว่าแกยังไม่บ่นสักคำเลย " โต้งว่า ผมอยากจะบอกมันเหลือเกินว่าตอนนี้เมื่อยโคตรแถมยังหิวอีก แต่ก็ต้องจำใจยอมเดินไปอย่างอดทน
เฮ้อออ กว่าจะเดินไปถึงกว่าจะได้กินข้าวกันเล่นเอาพลังงานแทบหมดครับ ตอนนี้พวกผมกลับมาที่พักกันแล้ว กำลังนั่งเล่นนอนเล่นกันในห้องอย่างเซ็งๆ ระหว่างที่ผมกำลังนอนตีพุงเล่นอยู่ก็ได้ยินเสียง
แชะ!! แชะ!!
" เฮ้ยนี่นายทำอะไรน่ะ " ผมหันไปถามดต้งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ มันยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพวกผมที่กำลังเหม่อๆอยู่ยิ้มๆ
" ก็ถ่ายรูปไง " โต้งยกมือถือให้ดูภาพในจอ ซึ่งเป็นภาพผมกำลังนอนตีพุงกับภาพเจสันนั่งเล่นมือถือและภาพหลงนอนเอาแขนก่ายหน้าพาก ซึ่งเป็นภาพที่เป็นธรรมชาติมากทีเดียว
" ฮ่าๆๆๆ โธ่ จะถ่ายก็บอกก่อนดิ จะได้เก๊กท่าเท่ๆ " ผมบอกโต้ง มันจึงเดินเข้ามาหาผมแล้วนั่งข้างยกมือถือขึ้นเพื่อให้ได้องศาการถ่ายรูปหันเข้าหาตัวเองกับผม
" งั้นจะถ่ายล่ะนะ " มันบอก ผมจึงรีบยิ้มกว้างแล้วชูนิ้วโป้งกับนิ้วชี้แนบคางตัวเองเพื่อความเท่
แชะ!!
" ไหนๆขอดูหน่อยดิ " ผมรีบชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เพื่อที่จะดูรูปที่ถ่ายแต่มันกลับชักมือหนีผม
" เอาไอจี เฟสบุ๊คมาดิ เดี๋ยวแท็กไปให้ " ผมแบมือบอกผม ผมจึงบอกชื่อไอจีกับเฟสไป
" ก็ขอดูก่อนไม่ได้ไงเล่า เผื่อหน้ามันออกมาไม่หล่อจะทำไงหะ " ผมหันไปหน้างอใส่มัน
" เอาน่า น่ารักอยู่แล้วล่ะ " มันบอกยิ้มๆ ผมจึงหมั่ยไส้ยอมือขึ้นไปหยิกแก้มมัน มันก็จะเอื้อมมือมาหยิกผมคืนมั้งแต่ผมไวกว่าวิ่งหนีมัน มันก็วิ่งตาม
" นี่ อย่าหนีนะ มาให้หยิกคืนซะดีๆ " มันไล่ตามจนผมวิ่งมาสุดตรงประตูผมเห็นมันจะวิ่งมาเลยเปิดประตูหนีวิ่งออกไป แต่ต้องชะงักตกใจทันทีเมื่อพบสายตาเแียบคมจากร่างสูงของนายแลน ที่กำลังเดินผ่านประตูไป มันมองมานิดด้วยสายตาเฉือยๆ แต่ลืมอะไรไปรึเปล่าเนี่ย
" นี่แน่! จับได้แล้ว มาให้หยิกคืนซะดีๆนะ " โต้งที่กำลังไล่จับผมอยู่โผเข้ามารวบกอดตัวผมจากด้านหลังทำให้ผมตกใจ เผลอมองหน้านายแลนที่มองมาที่ผมกับดต้งสลับกัน
" เฮ้ย! "
" หึ ร่าน " มันพูดใส่หน้าผมคำเดียวก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไปอย่างไม่สนใจ
" เอ๋ เมื่อกี้นี้ใช่พี่แลนรึเปล่าอ่ะ " นี่มันเพิ่งรู้เหรอ-0-
" เออดิ " ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาอน่างเซ็ง ทำไมผมต้องไปสนใจคำด่าของมันด้วยนะ แล้วไอความหมายนั้นมันแปลว่าอะไรกันอะ
" อ่าว นายเป็นอะไรรึเปล่าอีธาน ถอนหายใจทำไม " โต้งถามอย่างเป็นห่วง ผมจึงส่ายหน้ารัว
" หี ไม่เป็นไรซะหน่อย "
[ Lan Talk ]
หึ่ย! หงุดหงิดเว้ย ทำไมต้องไปเจอไอเด็กฝรั่งนั่นระหว่างเดินตรวจดูสถานที่ด้วยวะ แถมยังเห็นตอนที่มันกำลังอยู่กับไอเด็กคนนั้นอีก เห็นแล้วยิ่งหงุกหงิด รำคาญใจยังไงไม่รู้แหะ ว่าแต่เราจะไปใส่ใจมันทำไมเนี่ย ชิ เรื่องของมันสิมันจะไปคั่วผู้ชายที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย
" เป็นห่าไรวะแลน หน้าบูดเป็นตูดลิงเลย " แม็กที่นั่งอยู่บนโต๊ะไม้ถามผมขณะที่เพิ่งเดินมาถึง
" ป่าว " ผมบอกกลับไปแล้วนั่งลงข้างมันแล้วจ้องมองลงไปที่กระดาษ
" แล้วมึง เมื่อไหร่จะเรียกรวมวะ "
" ห่า ใจเย็นดิไอแลน นี่ยังไม่บ่าย2เลยนะเว้ย " แม็กบอก
" เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงมึงจะรีบไปไหนวะ " มายว่า
" เออ เป็นไรมากปะแก " ฝ้ายถามอย่างข้องใจ
" ก็.... เปล่านี้ กูกลัวเข้าป่าแล้วฟ้าจะมืดซะก่อนน่ะ " ผมเลยบอกแก้เก้อไปก็จริงเดี๋ยวเข้าไปเดินป่าตอนมืดๆอาจเกิดอันตรายได้
" ฮ่าๆๆๆ เรื่องนั้นมึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเรามีคนเชี่ยวชาญนำอยู่แล้วมึงก็รู้ ไฟฉายก็มีมึงจะกลัวอะไรวะ " ลุคบอกขำๆกับความเป็นห่วงของผม
" เออ ห่วงมากไปแล้วมึงอ่ะ " จาคอบว่ายิ้มๆ
ตอนนี้พวกเราเดินมาถึงน้ำตกกันแล้วครับหลังจากสำรวจป่าไม้กันมา นี่ก็บ่าย3กว่าๆแล้ว พี่เจ้าหน้าที่ที่เดินนำพวกผมอีกทีก็บอกว่าให้พักเล่นน้ำกันได้แล้วครับเพราะ เห็นน้องๆที่เดินตามกันมาเริ่มเหนื่อยกันบ้างแล้ว
" ตอนนี้ก็แยกย้ายกันเล่นน้ำได้เลยครับแต่อย่าเลยเขตไปไกลมากนะเดี๋ยวจะพัดหลงกันได้ ช่วยๆกันดูแลเพื่อนด้วยนะครับ "
มายตะโกนบอกพวกน้องๆ ส่วนผมก็นั่งพักเหนื่อยอยู่ริมลำธานน้ำตกมองดูเขาเล่นน้ำกันไป ไอพวก เพื่อนๆผมมันก็ลงไปเล่นกันเรียบร้อยแล้วด้วย เฮ้อออ
ผมเผลอไปมองเด็กฝรั่งนั่นที่เล่นน้ำอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆของมันอย่างร่าเริง สงสัยไม่เคยเล่นน้ำตกมั้ง มันใส่แค่เสื้อกล้ามสีขาวเท่านั่นซึ่งทำให้เห็นเรือนร่างขาวสะอาดตาของมันอย่างชัดเจน ใส่เสื้อผ้าดีๆไม่เป็นรึไงกันวะ ผมคิดในใจ แต่ก็ช่างเฮอะไม่ใช่เรื่องของผมนี่ ผมสะบัดหัวแล้วลุกเพื่อจะเดินไปตรงที่พวกเพื่อนๆเล่นน้ำกันแต่ต้องทรุดลงนั่งที่เดินทันทีเมื่อเท้าของผมก้าวไปเหยียบหินคม ข้างๆ ผมก้มลงไปมองเท้าก็พบกับเลือดที่ไหลนองเต็มไปหมด โว้ย ทำไงดีวะเนี่ย
ผมนั่งกวักน้ำมาล้างเลือดที่ไหลอาบเท้าอยู่ลวกๆ แต่มันก็ยังคงไหลไม่หยุดจะทำไงวะเนี่ย
[ Etarn Talk ]
ผมกับพวกเจสันเล่นน้ำกันอย่างสนุกเลยล่ะครับผมก็เพิ่งจะเคยได้เล่นน้ำตกครั้งแรกซะด้วย น้ำเย็นสดชื่นดีจริงๆเลย แถมกลินก็ธรรมชาติสุดๆเลยล่ะะครับ
" ฮ่าๆ นี่แน่ะๆ " เสียงของเจสันที่กำลังสาดน้ำใส่หลงกับโต้งอย่างสนุกสนาน
" นี่ๆ ลงไปเลย " หลงดันเจสันที่ยืนในที่ตื้นๆเท่าหัวเข่าลงไปในบ่อที่ลึกระดับคาง จึงทำให้เจสันที่ตัวเล็กกว่าจมลงไป
ตูม!!!
" ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า " หลงหัวเราะออกมาอย่าซะใจ ผมจึงส่ายหัวยิ้มๆกับความปัญญาอ่อนเหมือนเด็ของเพื่อน
ผมมุดลงไปใต้น้ำแล้วก็แหวกว่ายเล่นสักพักเมื่อลมในปอดเริ่มหมดจึงโผล่หัวขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ ผมสะบัดหัวไลน้ำออกจากหูแล้วก็เหลือบไปเจอกับนายแลนที่กำลังนั่งอยู่ริมธารน้ำบนโขดหิน นายนั่นกำลังก้มมองเท้าของตัวเองแล้วขมวดคิ้วมุ่นอย่างเครียดๆ ผมรู้สึกสงสัยขึ้นมาเลยแกล้งดำน้ำแล้วว่ายไปทางมัน
พรวด!!
ผมโผล่ออกมาจากน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อจะแกล้งให้มันตกใจ
" เฮ้ยย อะไรวะเนี่ย " มันร้องออกมาอย่างตกใจ
" อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ " ผมเผลอหัวเราะออกมาอย่างขำๆกับท่าทางของมันที่มองผมเหวอๆ
" นี่ มึง.. ทำบ้าอะไรวะ " ท่าทางมันคงจะยั๊วมากครับมองผมด้วยสายตาเคืองๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมสังเกตเห็นมันพยายามประคองเท้าของตัวเองไว้อย่างห่วงๆ ผมก็เหลือบไปเห็นเลือดที่มันไหลอาบเท้าของมัน
" เฮ้ย นี่คุณเป็นอะไรน่ะ " ผมถามมันอย่างตกใจ ก็ว่ามันไม่ได้ทำอะไรเพราะยังงี้นี่เอง
" ยุ่ง! ไปไกลๆเลยนะ " มันบอกแล้วหันหน้าหนี ผมจึงมุดลงน้ำแล้วว่ายกลับไปเพื่อจะไปหยิบพลาสเตอร์ในกระเป๋าสะพายที่วางอยู่อีกฝาก
แล้วก็เดินอ้อมกลับมาหามันเพื่อที่จะเอาพลาสเตอร์มาปิดแผลของมันที่เลือดไหลอาบเท้า จริงๆก็ไม่อยากช่วยหรอกนะแต่อดสงสารไม่ได้แหะ
ผมเดินมาถึงตัวมันแล้วหย่อนก้นลงนั่งข้างๆมันขณะที่ตัวยังคงเปียดโชกอยู่
" นี่ มึงจะทำอะไรหะ " มันมองผมอย่างสงสัยแต่ยังคงใช้มือกดแผลไว้อยู่
" ก็ผมไปเอาพลาสเตอร์มาให้ไง " ผมพูดพลางชูมือที่ถือพลาสเตอร์อยู่แล้วจะก้มลงติดแผลให้มัน มันมองผมอึ้งๆ
" เฮ้ยยย มะ..ไม่ต้อง เดี๋ยวกูทำเอง " มันบอกแล้วดึงพลาสเตอร์ในมือผมไปเพื่อจะติดเอง ผมเลยยอมให้มันไป แต่เห็นท่าทางติดที่เงอะๆงะๆ ของมันแล้วอดจะถอนหายใจไม่ได้
" เฮ้ออออออ "
ผมดึงพลาสเตอร์ออกมาจากมือมันจับไว้แล้วก็ก้มลงที่จะติดแผลให้มัน โหแผลใหญ่เหมือนกันแหะ ตรงฝ่าเท้าพอดีเลยแล้วยังงี้มันจะเดินได้เหรอวะเนี่ย
พอติดเสร็จผมก็เงยหน้าขึ้นมาตอนมันกำลังมองผมอยู่พอดีจึงทำให้เราผสานสายตามองกันอยู่เนิ่นนานเลยทีเดียว หัวใจบ้าๆของผมมันก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
" เอ่ออ....สะ...เสร็จแล้วก็ไปสิ " มันพูดขึ้นเก้อๆ แล้วหันหน้าหลบไป ผมได้แต่อมยิ้มมองมัน แล้วก็หงอยลงทันที
" อ่า ครับ งั้นผมไปก่อนนะ " ผมหันไปยิ้มให้มันน้อยแล้วลุกขึ้นเพื่อจะกลับไปหาเพื่อนๆต่อ
" ดะ..เดี๋ยว! " แต่มันจับแขนผมไว้ก่อนผมจึงก้มลงมามองมือที่มันจับไว้อย่างสงสัย
" เอ่อ.. ขะ.... ขอบใจ " มันพูดด้วยเสียงแผ่วเบาพลางหลบหน้าผมแล้วก็ปล่อยแขนเป็นอิสระ
" ครับ ? ว่าไงนะ " ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินถามมันอีกรอบ
" นี่ มึง คิดจะกวนกูหรอไง " แต่มันกลับหันหน้าโหดมาให้ซะงั้น
" ฮ่าๆๆๆๆๆ ล้อเล่นครับ ไม่เป็นไรหรอกครับผมเต็มใจ งั้นผมไปแล้วนะ "
ผมบอกแล้วหันหลังเดินไปต่อ แต่ไม่รู้เหมือนกันกะะอีแค่คำว่า ขอบคุณ ของมันคำเดียวเบาๆ ทำไมถึงทำให้ผมยิ้มไม่หุบขนาดนี้ก็ไม่รู้ รู้สึกเหมือนคนบ้าเลยแหะ
**************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ