มาเฟียสุดเฟี้ยวกะยัยเปรี้ยวสุดบ้า
9.8
เขียนโดย Akademi
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.45 น.
12 ตอน
5 วิจารณ์
20.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ให้ฉันทำอะไรกันเนี่ย!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
สมแล้วที่นายเป็นมาเฟีย ยิงปืนแม่นชะมัดเข้าหัวหมดเลยอ่ะ แล้วฉันจะเอาอะไรไปสู้กับนายเนี่ย!! บอกตรงๆเลยน่ะว่าฉันไม่เคยจับปืนเลย
“ถึงตาเธอแล้ว”
“เอ่อ..ฉันยิงไม่เป็นอ่ะ ^^;;;”
“เฮ้อ~ เดี๋ยวฉันสอนให้ก็ได้”
“อ๊ะ!!” ไหนนายบอกว่าจะไม่สอนฉันไง ชิๆ นายขี้เก๊กเดินอ้อมมาข้างหลังฉันและจับมือฉันที่ตอนนี้มีปืนอยู่ในมือ นายขี้เก๊กก็ยกมือฉันขึ้นให้อยู่ในระดับสายตา และก็พูดอยู่ข้างๆหูฉันเนี่ย นายอย่ามาทำให้ฉันเสียวจะได้มั้ย
“เธอก็แค่เล็งเป้าแล้วก็ขึ้นนกพร้อมยิงเลยน่ะ”
“เอ่อ...ขึ้นนกคืออะไรอ่ะ” เอ่อ.. อย่าว่าฉันซื่อเลยน่ะแต่ฉันไม่รู้จักคำว่าขึ้นนกอ่ะ
“นี่เธอไม่รู้จักจริงๆเหรอ”
“ใครว่าฉันไม่รู้ ขึ้นนกก็เหมือนกับขึ้นม้าอ่ะแหละ ก็แค่ขึ้นไปนั่งแต่ก็แค่ยิงปืนทำไมจะต้องขึ้นไปนั่งบนนกด้วยอ่ะ” มันจะใช่หรือเปล่าน่า แต่ฉันว่าน่าจะใช่น่ะมันก็คงเหมือนกันอ่ะแหละ
โป๊ก!!!
“โอ๊ย ~ นี่นายเขกหัวฉันทำไมเนี่ย”
“มันน่าเขกมั้ยล่ะ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้สิ ยังจะมาทำฟอร์มอีก”
“เอ้า!! แล้วมันไม่เหมือนกันเหรอไง”
“ก็ไม่เหมือนน่ะสิ ขึ้นนกคือการกดตัวเนี่ยให้ลงมาไง”
“อ่อ..” ไอ้หางที่มันโผล่ออกมาตรงตูดปืน เรียกว่าขึ้นนกเหรอเนี่ย อยากรู้จริงๆใครตั้งชื่อให้มันไม่เห็นจะเหมือนนกตรงไหนเลย
“แล้วเธอก็ลั่นไกเลยน่ะ อย่าบอกน่ะว่าเธอไม่รู้จักคำว่าลั่นไกอ่ะ”
“รู้ย่ะ!! ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นน่ะ”
“ก็ดี”
“ชิ! -3-” และนายขี้เก๊กก็ค่อยๆปล่อยมือออกห่างจากฉัน และก็ปล่อยให้ฉันได้ลั่นไกได้ตามสบาย
ปัง!!
“เย้~ ยิงเข้าหัวพอดีเลย” ฉันชี้ไปที่เป้าให้นายขี้เก๊กดูในความสามารถ (ในการยิงมั่ว) ของฉัน แต่นายนั่นทำหน้าประมาณว่า เหอะ! ก็แค่ฟลุ๊ค
“นายทำหน้าอย่างนี้ หาว่าฉันฟลุ๊คใช่มั้ย”
“หรือว่าไม่จริง” อ๊ายยย >_< ยอมไม่ได้ ฉันจะแสดงให้ดูว่าฉันก็มีฝีมือเหมือนกัน
“รอดูนัดต่อไปๆก็แล้วกัน”
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ย้าฮู้~ นายเห็นหรือยังว่าฉันก็มีฝีมือไม่แพ้นายเหมือนกัน”
“ชิ!” โหะๆ ^^ นายคงรับไม่ได้ในความเก่งของฉันล่ะสิ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงมีพรสวรรค์ในเรื่องแบบนี้ทั้งๆที่ไม่เคยคิดที่จะแตะต้องมันเลยสักนิด ความรู้สึกตอนที่ลั่นไกเหมือนกับตอนที่ยิงธนูเป๊ะ! รู้สึกเหมือนคุ้นเคยอะไรประมาณนี้อ่ะ สงสัยอนาคตฉันจะต้องเป็นมาเฟียที่เก่งแน่นอน ฮ่าๆๆๆ ^0^
“ถ้าภูมิใจในฝีมือตัวเองพอแล้วก็เดินตามฉันมา” อะไรของนายเนี่ย มาขัดจังหวะความฝันอันแสนหวานของฉันได้ไง ว่าแต่จะไปไหนอีกเนี่ย
“จะไปไหนอ่ะ” นายนั่นหันมาโดยที่ทำหน้าซังกะตาย ฉันอยากจะทราบว่านายจะทำหน้าอย่างนั้นทำไม ฉันไปทำอะไรให้นายงงหรือเปล่าเนี่ย
“ก็สนามแข่งรถไง (-_-)”
“อ่อ..นายก็เคยบอกฉันนี่น่า แต่ทำไมฉันถึงจำไม่ได้น่า”
“สงสัยจะบ๊องเหมือนชื่อล่ะมั้ง”
“อ๊ายยยย ชื่อฉันไม่ใช่ยัยบ๊องน่ะ >_<”
“ตามฉันมาได้แล้ว ฉันไม่อยากยืนเถียงกับเธออยู่ตรงนี้หรอกน่ะ”
“ชิ! นึกว่าฉันอยากยืนอยู่ตรงนี้ตายล่ะ” นี่นายกะจะไม่ให้ฉันได้พักเลยเหรอไง ยิงปืนเสร็จก็ต้องไปที่สนามแข่งรถอีก ถามจริงๆ มีอันไหนบ้างที่บ้านนายไม่มีอ่ะ ฉันและนายขี้เก๊กเดินมาถึงสนนามแข่งรถก็ต้องพบกับความตะลึงงัน แต่ฉันคนเดียวน่ะที่ตะลึงส่วนนายขี้เก๊กคงเห็นจนชินแล้วล่ะ ที่ฉันตะลึงก็เพราะว่ารถหรูจอดเรียงกันเป็นแถวยาวเลยอ่ะ มีไม่ต่ำกว่า 10 คันแน่นอน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถเก่ง รถเบนซ์ และคันที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือรถสปอร์ตสีม่วง ฉันอยากจะเดินเข้าไปกอด จูบ สักที ฉันใฝ่ฝันอยากมีรถสปอร์ตอย่างนี้สักคันมานานแล้ว
“*0* รถสวยจังเลย”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” ชิ! ทำมาเป็นอวด
“แล้วนายให้ฉันมานี้ด้วยทำไมอ่ะ”
“เธอขี่รถเป็นมั้ย” นี่นายตอบไม่ตรงคำถามเลยน่ะ แต่ก็ช่างเถอะไม่อยากเถียงกับนาย
“เป็นสิ”
“จริงเหรอ” นี่นายพูดอย่างนี้ไม่เชื่อฉันอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย อย่างนี้ต้องพูดความสามารถในการขี่รถของฉันเข้าไปอีกซะแล้ว
“จริงสิ รถจักรยานไง เมื่อก่อนฉันเคยต้องอาศัยล้อเล็กๆที่อยู่ด้านข้างล้อใหญ่อ่ะ แต่ฉันถอดมันออกตั้งแต่ฉันอยู่ ป.5 ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ขี่จักรยานได้โดยไม่ต้องอาศัยล้อเล็กอีกต่อไป”
“0_0” โหะๆ ^0^ เป็นไงล่ะ ถึงกับอึ้งในความสามารถของฉัน ฉันก็ไม่อยากจะโม้เท่าไรหรอกน่ะ(ความสามารถนี้ไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนยัยเจมินอีกแล้ว = คนแต่ง&พูดประชดทั้งหมด)
“นี่เธอทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ นายคงไม่นึกใช่มั้ยว่าฉันจะเก่งขนาดนี้ ^^” ฉันยิ้มด้วยความภูมิใจเป็นที่สุด แต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของนายขี้เก๊ก
“เด็ก ป.1 ยังเก่งกว่าเธอเลย เธอเลิกใช้ล้อเล็กๆ ตอน ป.5 แต่เด็กคนอื่นๆ เขาขี่จักรยานเป็นโดยไม่ต้องใช้ล้อเล็กๆตั้งแต่ 5 ขวบแล้ว”
“อ๊ายยยย แต่.....”
“ไม่ต้องพูดแล้ว แต่ที่ฉันถามว่าขี่รถเป็นหรือเปล่า ฉันหมายถึงรถมอเตอร์ไซค์ต่างหากเล่า”
“อ้าวเหรอ และก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก”
“ฉันไม่นึกว่าคนอายุ 19 อย่างเธอจะซื่อได้ขนาดนี้”
“ชิ! ฉันขี่ไม่เป็นหรอก ทำไมล่ะนายจะสอนฉันขี่เหรอไง”
“ใช่”
“จะสอนฉันทำไม”
“ไม่รู้สิ ก็แค่อยากสอน” เอ้า! มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย
“แล้วจะสอนฉันขี่คันไหนอ่ะ”
“นี่ไง”
“หะ!!” อย่าบอกน่ะว่านายจะสอนฉันขี้รถคันนี้อ่ะ 0_0 เพราะว่ามันเป็นรุ่น MV Agusta F4 1000 312R ซึ่งมีแรงม้าสูงมาก คันก็ใหญ่ และที่สำคัญคือ มันแพง!! ถ้าเกิดฉันทำพังขึ้นมาฉันไม่ต้องทำงานใช้หนี้นายขี้เก๊กตลอดชาติเลยเหรอเนี่ย
“เธอจะตกใจทำไม หะ!!”
“ไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะ ฉันขี่ไม่ได้หรอกน่ะรถแบบนี้นะ”
“เดี๋ยวก็ขับเป็นเองล่ะ”
“นายจะบ้าเหรอ!! ขนาดรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาฉันยังขี่ไม่เป็นเลย แล้วรุ่น MV Agusta F4 1000 312R ฉันจะขี่เป็นเหรอ”
“เออน่า เดี๋ยวฉันสอนให้เอง”
ณ ห้องนอน
“เฮ้อ ~ เหนื่อยชะมัดเลย” จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงล่ะ ก็กว่าที่ฉันจะขี่รถไอ้รุ่นนั้นเป็นก็เกือบทำฉันตายแน่ะ พอขึ้นไปนั่งรู้สึกได้ถึงความเสียวเลยน่ะ ก็กลัวว่ามันจะล้มน่ะสิ เพราะว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าตัวฉันหลายเท่าเลยน่ะ หนักก็หนัก ขี่ยากกว่าจักรยานเยอะเลยอ่ะ (มันก็ต้องยากกว่าอยู่แล้วแหละย่ะ = คนแต่ง) ตอนนี้ก็ยังขี่ไม่ค่อยได้หรอกน่ะ และนายขี้เก๊กก็สั่งให้ฉันมาฝึกขี่รถทุกวันเลยอ่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว
“อาบน้ำเสร็จแล้วสบายตัวจัง”
ก๊อก ก๊อก
“เจมิน คุณชายฮาเดสเรียกให้ไปพบที่ห้องน่ะ” อ๊ายยย >_< อะไรอีกเนี่ย แค่นี้ยังเหนื่อยไม่พออีกใช่มั้ยจะให้ฉันไปทำความสะอาดห้องอีกเหรอไง คราวนี้จะแกล้งทำแก้วหล่น หรือว่าแกล้งทำขันหล่นดีล่ะ
“ค่ะ เดี๋ยวเจมินขอเวลาแป๊ปหนึ่งนะค่ะ”
“จ้า” เฮ้อ ~ นี่เทพเจ้านรกภูมิกะจะไม่ให้ฉันได้พักเลยเหรอไงเนี่ย ฉันเดินมาถึงห้องก็ต้องหยุดเพื่อแอบฟังการคุยโทรศัพท์ เอ๊ย!! บังเอิญได้ยินการคุยโทรศัพท์ของนายขี้เก๊ก เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทฉันไม่ควรที่จะเข้าไปตอนนี้ งั้นก็รอหน้าห้องก่อนก็แล้วกัน
“ครับแม่ ผมอยู่ที่นี้สบายดีครับ”
‘……’
“แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะบอกแม่ครับ”
‘…..’
“แพรวทิ้งผมไปแล้วครับ แม่ครับ ฮือๆๆ T_T”
‘…..’ นี่ฉันหูฝาดไปเปล่ารึเนี่ย คนอย่างนายขี้เก๊กร้องไห้เป็นด้วยเหรอ อย่างเทพเจ้าแห่งนรกภูมิ มาเฟียก็เป็นแต่ที่ฉันเคยอ่านและดูหนังมาไม่เคยมีเรื่องไหนเลยน่ะที่เทพเจ้าแห่งนรกภูมิหรือมาเฟียอ่อนแอขนาดร้องไห้ออกมาน่ะ แสดงว่านายขี้เก๊กคงรักแพรวมากสิน่ะ
“ครับแม่ ผมจะพยายาม งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมรักแม่ครับ”
ก๊อก ก๊อก
“นี่นายเรียกฉันมาทำไมเนี่ย” ฉันเดินเข้าไปในห้องก่อนที่นายขี้เก๊กจะอนุญาต และก็ต้องเจอกับหน้าที่แดงจากการร้องไห้ ฉันรู้สึกใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ เมื่อเห็นนายขี้เก๊กเศร้าอ่ะ เพราะปกติกวนประสาทจะตาย
“ทำไมเธอถึงเสียมารยาทขนาดนี้” ฉันไม่ฟังคำด่าของนายขี้เก๊กแม้แต่นิดเดียว ฉันเดินเข้าไปหานายขี้เก๊กและเอามือจับหน้าให้เงยมาเผชิญหน้ากับฉัน
“นายร้องไห้ทำไม”
“ใครว่าฉันร้องไห้!!” นายขี้เก๊กรีบหลบหน้าแต่ก็ไม่พ้นมือฉันหรอกน่า
“นี่นายมองหน้าฉันสิ ถ้าอยากจะร้องไห้ก็แค่ปล่อยมันออกมา อย่าเก็บมันเอาไว้คนเดียวสิ” นี่ฉันพูดออกไปได้ยังไงเนี่ย ฉันเป็นแม่พระตั้งแต่เมื่อไร แล้วนายขี้เก๊กจะล้อฉันมั้ยเนี่ย แต่กลับไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเลย นายขี้เก๊กมองเข้ามาในดวงตาฉัน และปล่อยโฮออกมา ทั้งๆที่มองหน้าฉันอยู่ ทำไมนายขี้เก๊กยิ่งมองหน้าฉันแล้วยิ่งร้องไห้อ่ะ เฮ้ย!!! ลืมไปเลยว่าฉันหน้าตาคล้ายแฟนเก่าของนายขี้เก๊กนี่น่า แล้วมันเหมือนจะซ้ำเติมมั้ยเนี่ย
“ฮือๆๆ T^T ฉันทำอะไรผิด เธอถึงทิ้งฉันไป” นี่นายจะบ้าเหรอ ฉันไปทิ้งนายตอนไหน ฉันยังไม่ได้คบกับนายเลยน่ะ
“…..” ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อนายขี้เก๊กเริ่มขยับหน้าเข้ามาใกล้ฉันทุกที อ๊ายยย!! นี่นายจะขยับเข้ามาใกล้ขนาดไหนเนี่ย แล้วทำไมฉันไม่ถอยหนีเล่า ตัวแข็งทื่ออยู่ได้!!
“แพรว....”
“อุ๊บ!! -*- ” นายขี้เก๊กประกบปากฉันด้วยปาก โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว นายนั่นเริ่มแทรกซอนลิ้นเข้ามาในปากฉัน แต่ฉันพยามปิดกลั้นไม่ให้ลิ้นของนายขี้เก๊กผ่านมาได้ ฉันไม่ได้โกรธเรื่องที่นายจูบฉันหรอกน่ะ แต่ฉันเจ็บตรงที่นายเรียกชื่อแฟนเก่านายออกมาตอนที่จูบฉัน ฉันไม่ชอบเป็นตัวแทนของใครน่ะ พอมาถึงตอนนี้ฉันก็ปล่อยโฮออกมายกใหญ่เลย
“ฮือๆๆ T^T นี่นายหยุดเดี๋ยวนี้น่ะ!! ฮือๆๆ” นายขี้เก๊กผละริมฝีปากออกจากฉัน และนายขี้เก๊กทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นฉันร้องไห้ในตอนนี้
“ฉัน.....”
เพี๊ยะ!!
“ฉันไม่ใช่แพรว และฉันก็ไม่ใช่ตัวแทนของใครด้วย” หลังจากที่ได้ตบหน้าอันหล่อเหลาของนายขี้เก๊กแล้ว ฉันก็รีบวิ่งออกจากห้องโดยไม่สนใจคนข้างหลังแม้แต่น้อย
“ฉัน..ขอ..โทษ..”
ระหว่างเดินกลับห้องฉันเอาแต่ร้องไห้ และก็เอามือเช็ดริมฝีปากตัวเอง ร้องไห้เสียงดังจนพี่แจ๋วเข้ามาถามฉัน ไม่น่าเลยเรา ขี้เกียจตอบคำถามพี่แจ๋วนะเนี่ย
“เจมินเป็นอะไรไปเหรอ”
“อึก..ฮึก..ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรได้ไง ก็เห็นอยู่ว่าร้องไห้น่ะ” โอ๊ย!! พี่แจ๋วจะถามอะไรมากเนี่ย ฉันไม่อยากตอบน่ะ เพื่อตัดปัญหาเดินเข้าห้องเลยดีกว่า
“เจมินขอตัวก่อนนะค่ะ”
“อ้าว ~ เจมินอย่าเพิ่งไปสิ” ฉันไม่สนใจเสียงอะไรทั้งนั้น ฉันต้องเข้าห้องให้เร็วที่สุด ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น และในที่สุดก็ถึงสักที เมื่อกี้แม่โทรมาแต่ฉันไม่อยากรับ ฉันเลยส่งข้อความบอกบิ๊กกัฟให้บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงฉัน พอผ่านไปได้สักพักยัยพวกเพื่อนบ๊องก็โทรมาอีก แต่ฉันไม่รับอีกตามเคย เพราะฉันไม่มีอารมณ์จะรับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น
22.30 น.
“ครอกฟี้ ~-_-zzZ”
ปัง!
‘โอ๊ย!’ ฉันโดนยิงอ่ะ ฮือๆ มันเป็นอะไรที่เจ็บมาก ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันมองไปรอบๆมีคนวิ่งพลุกพล่านเต็มไปหมด และฉันก็เห็นคนที่ถือปืนเล็งมาทางฉัน คงจะเป็นแกสิน่ะที่ยิงฉันเมื่อกี้ แต่ก่อนที่ยิงมาฉันก็เห็นนายขี้เก๊กวิ่งเข้ามารับกระสุนแทนฉัน
ปัง!
‘ว๊ายยย ไม่น่ะ ฮือๆ T^T นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรน่ะ’ นายขี้เก๊กนอนจมกองเลือดอยู่บนตักของฉัน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันโดนยิงยังไม่พอ นายขี้เก๊กก็โดนด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงนายขี้เก๊กมากกว่า
‘ฮือๆ นายอย่าทิ้งฉันไปน่ะ T^T’
‘ฉัน… รัก… เธอ’นายขี้เก๊กเอามือขึ้นมาลูบหน้าฉันพร้อมกับบอกรักฉัน นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรน่ะ ฉันก็รักนายเหมือนกันน่ะ
‘ฉันก็รักนายน่ะ ฮือๆ T[]T’ และก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ฉันก็เห็นไอ้คนที่ยิงฉันเดินเข้ามาและเอาปืนจ่อมาทางฉันก่อนที่ลั่นไกใส่ฉัน
ปัง!
“เฮือก!!” ฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย ฝันแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้วน่ะ เขาว่ากันว่าถ้าฝันเรื่องเดิมซ้ำกันสามวันฝันนั้นจะเป็นจริง แต่ของฉันน่าจะเป็นกรณียกเว้นน่ะ เพราะยังไงซะฉันกับนายขี้เก๊กคงไม่มีวันได้รักกัน และมันก็จะไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย กี่โมงแล้วเนี่ย ฉันจะได้ไปช่วยพี่แจ๋วเตรียมอาหารสักหน่อย
“เพิ่งจะตีสามเองเหรอเนี่ย งั้นนอนต่อดีกว่า” แต่ก่อนที่ฉันจะนอน ฉันเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่หน้าประตูอ่ะ ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย ไหนลองขยี้ตาหน่อยเพื่อความแน่ใจ เฮ้ย!! ทำไมมันเข้ามาใกล้กว่าเดิมเนี่ย ฉันเป็นคนกลัวผีน่ะ และมันกำลังเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกนิด และก็อีกนิด...
“อ๊ายยย ใครก็ได้ช่วยด้วย ผีหลอก!!”
“นี่เธอ!!” เฮ้ย!! ผีเขาพูดกันอย่างนี้ได้ด้วยเหรอว่ะ แต่ฉันไม่สนหรอกน่ะ
“ใครก็ได้ข่วยด้วย ผี....อุ๊บ -*- ” แงๆๆ ผีมันปิดปากฉันแล้วอ่ะ แต่ทำไมมือผีหอมแท้ว่ะ มือผีมันต้องเหม็นๆ ด้านๆไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมผีตัวนี้ทั้งมือหอมและก็มือนิ่มด้วย แต่ยังไงซะฉันก็ไม่สน!!
“อั๊ย อ้อ อ๊าย อ่วย อั้น อ้วย ><” (ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย)
“ถ้าเธอไม่หยุดโวยวาย ฉันจะจูบเธอน่ะ” อ๊ายย >_< ผีมันจะจูบฉัน เอ๊ะ!! ทำไมผีมันเสียงคุ้นๆน่ะ จูบ...จูบ...เหรอ อ๊ายย!! นายขี้เก๊กแน่ๆเลย
“อ่อย อั้น เอี๊ยว อี้ อ้ะ ” (ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น่ะ)
“เธอต้องห้ามโวยวายน่ะ”
“อื่อ (- -) (_ _) (- -)” ฉันรีบพยักหน้า เพราะตอนนี้ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว นายนี่ปิดปากไม่พอยังจะลามมาจมูกอีก
“.....” นายขี้เก๊กปล่อยมือออกแต่ไม่กล้าที่จะสบตาฉัน นายคงรู้สึกผิดที่นายจูบฉันใช่มั้ยล่ะ แต่ฉันไม่ชอบบรรยากาศกดดันแบบนี้เลย หาอะไรคุยดีกว่า
“นี่นายเข้ามาในห้องฉันได้ไงเนี่ย” นายขี้เก๊กเงยหน้ามองฉันแวบเดียว ย้ำน่ะว่าแวบเดียวจริงๆ แล้วก็หลบหน้าอีกครั้ง
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ฉันก็ต้องมีกุญแจของทุกห้องอยู่แล้วสิ”
“แล้วนายเข้ามาทำไม” แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่านายจะเข้ามาในห้องฉันทำไมตอนตีสามเนี่ย ไม่หลับไม่นอนเหรอไง
“ฉัน...ฉันก็แค่มาตรวจความเรียบร้อยก็เท่านั้นแหละ” แค่มาตรวจความเรียบร้อยทำไมต้องมาตอนตีสามเนี่ย พรุ่งนี้เช้ามันก็ยังไม่สายหรอกน่า นายนี่ชักจะเพี้ยนไปใหญ่แล้วน่ะ
“เหรอ.. ตรวจเสร็จแล้วก็ออกไปสิ”
“นี่เธอไล่ฉันเหรอ!!” นายขี้เก๊กเงยหน้าด้วยความโมโหที่ฉันเอ่ยปากไล่ ทำให้ในตอนนี้หน้าฉันกับนายขี้เก๊กอยู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจของฝ่ายตรงข้าม แล้วทำไมบรรยากาศต้องเงียบและเย็นเหมือนเป็นใจยังไงก็ไม่รู้เนี่ย นายขี้เก๊กเริ่มขยับหน้าเข้ามาใกล้ทุกที เฮ้ย!! อย่าบอกน่ะว่านายจะจูบฉันอีกอ่ะ ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ
“หยุดน่ะ ฉันไม่ใช่แพรว และฉันก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของเขาด้วย”นายขี้เก๊กรีบผละหน้าออกห่างจากฉัน และไม่กล้าสบตาฉันอีกตามเคย
“ถ้ามีธุระแค่นี้ ก็ขอให้นายกลับไปซะ เพราะฉันจะได้นอนต่อ”
“ฉัน..ขอ..โทษ.. และฉันจะพยายาม” พอนายขี้เก๊กพูดประโยคเมื่อกี้เสร็จก็รีบเดินออกจากห้องฉันทันที ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกน่ะคำว่า ‘ฉันขอโทษ’ แต่ฉันไม่เข้าใจคำว่า ‘ฉันจะพยายาม’ มันหมายความว่าอะไรอ่ะ
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
สมแล้วที่นายเป็นมาเฟีย ยิงปืนแม่นชะมัดเข้าหัวหมดเลยอ่ะ แล้วฉันจะเอาอะไรไปสู้กับนายเนี่ย!! บอกตรงๆเลยน่ะว่าฉันไม่เคยจับปืนเลย
“ถึงตาเธอแล้ว”
“เอ่อ..ฉันยิงไม่เป็นอ่ะ ^^;;;”
“เฮ้อ~ เดี๋ยวฉันสอนให้ก็ได้”
“อ๊ะ!!” ไหนนายบอกว่าจะไม่สอนฉันไง ชิๆ นายขี้เก๊กเดินอ้อมมาข้างหลังฉันและจับมือฉันที่ตอนนี้มีปืนอยู่ในมือ นายขี้เก๊กก็ยกมือฉันขึ้นให้อยู่ในระดับสายตา และก็พูดอยู่ข้างๆหูฉันเนี่ย นายอย่ามาทำให้ฉันเสียวจะได้มั้ย
“เธอก็แค่เล็งเป้าแล้วก็ขึ้นนกพร้อมยิงเลยน่ะ”
“เอ่อ...ขึ้นนกคืออะไรอ่ะ” เอ่อ.. อย่าว่าฉันซื่อเลยน่ะแต่ฉันไม่รู้จักคำว่าขึ้นนกอ่ะ
“นี่เธอไม่รู้จักจริงๆเหรอ”
“ใครว่าฉันไม่รู้ ขึ้นนกก็เหมือนกับขึ้นม้าอ่ะแหละ ก็แค่ขึ้นไปนั่งแต่ก็แค่ยิงปืนทำไมจะต้องขึ้นไปนั่งบนนกด้วยอ่ะ” มันจะใช่หรือเปล่าน่า แต่ฉันว่าน่าจะใช่น่ะมันก็คงเหมือนกันอ่ะแหละ
โป๊ก!!!
“โอ๊ย ~ นี่นายเขกหัวฉันทำไมเนี่ย”
“มันน่าเขกมั้ยล่ะ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้สิ ยังจะมาทำฟอร์มอีก”
“เอ้า!! แล้วมันไม่เหมือนกันเหรอไง”
“ก็ไม่เหมือนน่ะสิ ขึ้นนกคือการกดตัวเนี่ยให้ลงมาไง”
“อ่อ..” ไอ้หางที่มันโผล่ออกมาตรงตูดปืน เรียกว่าขึ้นนกเหรอเนี่ย อยากรู้จริงๆใครตั้งชื่อให้มันไม่เห็นจะเหมือนนกตรงไหนเลย
“แล้วเธอก็ลั่นไกเลยน่ะ อย่าบอกน่ะว่าเธอไม่รู้จักคำว่าลั่นไกอ่ะ”
“รู้ย่ะ!! ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นน่ะ”
“ก็ดี”
“ชิ! -3-” และนายขี้เก๊กก็ค่อยๆปล่อยมือออกห่างจากฉัน และก็ปล่อยให้ฉันได้ลั่นไกได้ตามสบาย
ปัง!!
“เย้~ ยิงเข้าหัวพอดีเลย” ฉันชี้ไปที่เป้าให้นายขี้เก๊กดูในความสามารถ (ในการยิงมั่ว) ของฉัน แต่นายนั่นทำหน้าประมาณว่า เหอะ! ก็แค่ฟลุ๊ค
“นายทำหน้าอย่างนี้ หาว่าฉันฟลุ๊คใช่มั้ย”
“หรือว่าไม่จริง” อ๊ายยย >_< ยอมไม่ได้ ฉันจะแสดงให้ดูว่าฉันก็มีฝีมือเหมือนกัน
“รอดูนัดต่อไปๆก็แล้วกัน”
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ย้าฮู้~ นายเห็นหรือยังว่าฉันก็มีฝีมือไม่แพ้นายเหมือนกัน”
“ชิ!” โหะๆ ^^ นายคงรับไม่ได้ในความเก่งของฉันล่ะสิ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงมีพรสวรรค์ในเรื่องแบบนี้ทั้งๆที่ไม่เคยคิดที่จะแตะต้องมันเลยสักนิด ความรู้สึกตอนที่ลั่นไกเหมือนกับตอนที่ยิงธนูเป๊ะ! รู้สึกเหมือนคุ้นเคยอะไรประมาณนี้อ่ะ สงสัยอนาคตฉันจะต้องเป็นมาเฟียที่เก่งแน่นอน ฮ่าๆๆๆ ^0^
“ถ้าภูมิใจในฝีมือตัวเองพอแล้วก็เดินตามฉันมา” อะไรของนายเนี่ย มาขัดจังหวะความฝันอันแสนหวานของฉันได้ไง ว่าแต่จะไปไหนอีกเนี่ย
“จะไปไหนอ่ะ” นายนั่นหันมาโดยที่ทำหน้าซังกะตาย ฉันอยากจะทราบว่านายจะทำหน้าอย่างนั้นทำไม ฉันไปทำอะไรให้นายงงหรือเปล่าเนี่ย
“ก็สนามแข่งรถไง (-_-)”
“อ่อ..นายก็เคยบอกฉันนี่น่า แต่ทำไมฉันถึงจำไม่ได้น่า”
“สงสัยจะบ๊องเหมือนชื่อล่ะมั้ง”
“อ๊ายยยย ชื่อฉันไม่ใช่ยัยบ๊องน่ะ >_<”
“ตามฉันมาได้แล้ว ฉันไม่อยากยืนเถียงกับเธออยู่ตรงนี้หรอกน่ะ”
“ชิ! นึกว่าฉันอยากยืนอยู่ตรงนี้ตายล่ะ” นี่นายกะจะไม่ให้ฉันได้พักเลยเหรอไง ยิงปืนเสร็จก็ต้องไปที่สนามแข่งรถอีก ถามจริงๆ มีอันไหนบ้างที่บ้านนายไม่มีอ่ะ ฉันและนายขี้เก๊กเดินมาถึงสนนามแข่งรถก็ต้องพบกับความตะลึงงัน แต่ฉันคนเดียวน่ะที่ตะลึงส่วนนายขี้เก๊กคงเห็นจนชินแล้วล่ะ ที่ฉันตะลึงก็เพราะว่ารถหรูจอดเรียงกันเป็นแถวยาวเลยอ่ะ มีไม่ต่ำกว่า 10 คันแน่นอน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถเก่ง รถเบนซ์ และคันที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือรถสปอร์ตสีม่วง ฉันอยากจะเดินเข้าไปกอด จูบ สักที ฉันใฝ่ฝันอยากมีรถสปอร์ตอย่างนี้สักคันมานานแล้ว
“*0* รถสวยจังเลย”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว” ชิ! ทำมาเป็นอวด
“แล้วนายให้ฉันมานี้ด้วยทำไมอ่ะ”
“เธอขี่รถเป็นมั้ย” นี่นายตอบไม่ตรงคำถามเลยน่ะ แต่ก็ช่างเถอะไม่อยากเถียงกับนาย
“เป็นสิ”
“จริงเหรอ” นี่นายพูดอย่างนี้ไม่เชื่อฉันอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย อย่างนี้ต้องพูดความสามารถในการขี่รถของฉันเข้าไปอีกซะแล้ว
“จริงสิ รถจักรยานไง เมื่อก่อนฉันเคยต้องอาศัยล้อเล็กๆที่อยู่ด้านข้างล้อใหญ่อ่ะ แต่ฉันถอดมันออกตั้งแต่ฉันอยู่ ป.5 ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ขี่จักรยานได้โดยไม่ต้องอาศัยล้อเล็กอีกต่อไป”
“0_0” โหะๆ ^0^ เป็นไงล่ะ ถึงกับอึ้งในความสามารถของฉัน ฉันก็ไม่อยากจะโม้เท่าไรหรอกน่ะ(ความสามารถนี้ไม่มีใครสามารถทำได้เหมือนยัยเจมินอีกแล้ว = คนแต่ง&พูดประชดทั้งหมด)
“นี่เธอทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ นายคงไม่นึกใช่มั้ยว่าฉันจะเก่งขนาดนี้ ^^” ฉันยิ้มด้วยความภูมิใจเป็นที่สุด แต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดของนายขี้เก๊ก
“เด็ก ป.1 ยังเก่งกว่าเธอเลย เธอเลิกใช้ล้อเล็กๆ ตอน ป.5 แต่เด็กคนอื่นๆ เขาขี่จักรยานเป็นโดยไม่ต้องใช้ล้อเล็กๆตั้งแต่ 5 ขวบแล้ว”
“อ๊ายยยย แต่.....”
“ไม่ต้องพูดแล้ว แต่ที่ฉันถามว่าขี่รถเป็นหรือเปล่า ฉันหมายถึงรถมอเตอร์ไซค์ต่างหากเล่า”
“อ้าวเหรอ และก็ไม่บอกตั้งแต่ทีแรก”
“ฉันไม่นึกว่าคนอายุ 19 อย่างเธอจะซื่อได้ขนาดนี้”
“ชิ! ฉันขี่ไม่เป็นหรอก ทำไมล่ะนายจะสอนฉันขี่เหรอไง”
“ใช่”
“จะสอนฉันทำไม”
“ไม่รู้สิ ก็แค่อยากสอน” เอ้า! มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย
“แล้วจะสอนฉันขี่คันไหนอ่ะ”
“นี่ไง”
“หะ!!” อย่าบอกน่ะว่านายจะสอนฉันขี้รถคันนี้อ่ะ 0_0 เพราะว่ามันเป็นรุ่น MV Agusta F4 1000 312R ซึ่งมีแรงม้าสูงมาก คันก็ใหญ่ และที่สำคัญคือ มันแพง!! ถ้าเกิดฉันทำพังขึ้นมาฉันไม่ต้องทำงานใช้หนี้นายขี้เก๊กตลอดชาติเลยเหรอเนี่ย
“เธอจะตกใจทำไม หะ!!”
“ไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะ ฉันขี่ไม่ได้หรอกน่ะรถแบบนี้นะ”
“เดี๋ยวก็ขับเป็นเองล่ะ”
“นายจะบ้าเหรอ!! ขนาดรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาฉันยังขี่ไม่เป็นเลย แล้วรุ่น MV Agusta F4 1000 312R ฉันจะขี่เป็นเหรอ”
“เออน่า เดี๋ยวฉันสอนให้เอง”
ณ ห้องนอน
“เฮ้อ ~ เหนื่อยชะมัดเลย” จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงล่ะ ก็กว่าที่ฉันจะขี่รถไอ้รุ่นนั้นเป็นก็เกือบทำฉันตายแน่ะ พอขึ้นไปนั่งรู้สึกได้ถึงความเสียวเลยน่ะ ก็กลัวว่ามันจะล้มน่ะสิ เพราะว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าตัวฉันหลายเท่าเลยน่ะ หนักก็หนัก ขี่ยากกว่าจักรยานเยอะเลยอ่ะ (มันก็ต้องยากกว่าอยู่แล้วแหละย่ะ = คนแต่ง) ตอนนี้ก็ยังขี่ไม่ค่อยได้หรอกน่ะ และนายขี้เก๊กก็สั่งให้ฉันมาฝึกขี่รถทุกวันเลยอ่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว
“อาบน้ำเสร็จแล้วสบายตัวจัง”
ก๊อก ก๊อก
“เจมิน คุณชายฮาเดสเรียกให้ไปพบที่ห้องน่ะ” อ๊ายยย >_< อะไรอีกเนี่ย แค่นี้ยังเหนื่อยไม่พออีกใช่มั้ยจะให้ฉันไปทำความสะอาดห้องอีกเหรอไง คราวนี้จะแกล้งทำแก้วหล่น หรือว่าแกล้งทำขันหล่นดีล่ะ
“ค่ะ เดี๋ยวเจมินขอเวลาแป๊ปหนึ่งนะค่ะ”
“จ้า” เฮ้อ ~ นี่เทพเจ้านรกภูมิกะจะไม่ให้ฉันได้พักเลยเหรอไงเนี่ย ฉันเดินมาถึงห้องก็ต้องหยุดเพื่อแอบฟังการคุยโทรศัพท์ เอ๊ย!! บังเอิญได้ยินการคุยโทรศัพท์ของนายขี้เก๊ก เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทฉันไม่ควรที่จะเข้าไปตอนนี้ งั้นก็รอหน้าห้องก่อนก็แล้วกัน
“ครับแม่ ผมอยู่ที่นี้สบายดีครับ”
‘……’
“แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะบอกแม่ครับ”
‘…..’
“แพรวทิ้งผมไปแล้วครับ แม่ครับ ฮือๆๆ T_T”
‘…..’ นี่ฉันหูฝาดไปเปล่ารึเนี่ย คนอย่างนายขี้เก๊กร้องไห้เป็นด้วยเหรอ อย่างเทพเจ้าแห่งนรกภูมิ มาเฟียก็เป็นแต่ที่ฉันเคยอ่านและดูหนังมาไม่เคยมีเรื่องไหนเลยน่ะที่เทพเจ้าแห่งนรกภูมิหรือมาเฟียอ่อนแอขนาดร้องไห้ออกมาน่ะ แสดงว่านายขี้เก๊กคงรักแพรวมากสิน่ะ
“ครับแม่ ผมจะพยายาม งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมรักแม่ครับ”
ก๊อก ก๊อก
“นี่นายเรียกฉันมาทำไมเนี่ย” ฉันเดินเข้าไปในห้องก่อนที่นายขี้เก๊กจะอนุญาต และก็ต้องเจอกับหน้าที่แดงจากการร้องไห้ ฉันรู้สึกใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ เมื่อเห็นนายขี้เก๊กเศร้าอ่ะ เพราะปกติกวนประสาทจะตาย
“ทำไมเธอถึงเสียมารยาทขนาดนี้” ฉันไม่ฟังคำด่าของนายขี้เก๊กแม้แต่นิดเดียว ฉันเดินเข้าไปหานายขี้เก๊กและเอามือจับหน้าให้เงยมาเผชิญหน้ากับฉัน
“นายร้องไห้ทำไม”
“ใครว่าฉันร้องไห้!!” นายขี้เก๊กรีบหลบหน้าแต่ก็ไม่พ้นมือฉันหรอกน่า
“นี่นายมองหน้าฉันสิ ถ้าอยากจะร้องไห้ก็แค่ปล่อยมันออกมา อย่าเก็บมันเอาไว้คนเดียวสิ” นี่ฉันพูดออกไปได้ยังไงเนี่ย ฉันเป็นแม่พระตั้งแต่เมื่อไร แล้วนายขี้เก๊กจะล้อฉันมั้ยเนี่ย แต่กลับไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเลย นายขี้เก๊กมองเข้ามาในดวงตาฉัน และปล่อยโฮออกมา ทั้งๆที่มองหน้าฉันอยู่ ทำไมนายขี้เก๊กยิ่งมองหน้าฉันแล้วยิ่งร้องไห้อ่ะ เฮ้ย!!! ลืมไปเลยว่าฉันหน้าตาคล้ายแฟนเก่าของนายขี้เก๊กนี่น่า แล้วมันเหมือนจะซ้ำเติมมั้ยเนี่ย
“ฮือๆๆ T^T ฉันทำอะไรผิด เธอถึงทิ้งฉันไป” นี่นายจะบ้าเหรอ ฉันไปทิ้งนายตอนไหน ฉันยังไม่ได้คบกับนายเลยน่ะ
“…..” ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อนายขี้เก๊กเริ่มขยับหน้าเข้ามาใกล้ฉันทุกที อ๊ายยย!! นี่นายจะขยับเข้ามาใกล้ขนาดไหนเนี่ย แล้วทำไมฉันไม่ถอยหนีเล่า ตัวแข็งทื่ออยู่ได้!!
“แพรว....”
“อุ๊บ!! -*- ” นายขี้เก๊กประกบปากฉันด้วยปาก โดยที่ฉันไม่ได้ตั้งตัว นายนั่นเริ่มแทรกซอนลิ้นเข้ามาในปากฉัน แต่ฉันพยามปิดกลั้นไม่ให้ลิ้นของนายขี้เก๊กผ่านมาได้ ฉันไม่ได้โกรธเรื่องที่นายจูบฉันหรอกน่ะ แต่ฉันเจ็บตรงที่นายเรียกชื่อแฟนเก่านายออกมาตอนที่จูบฉัน ฉันไม่ชอบเป็นตัวแทนของใครน่ะ พอมาถึงตอนนี้ฉันก็ปล่อยโฮออกมายกใหญ่เลย
“ฮือๆๆ T^T นี่นายหยุดเดี๋ยวนี้น่ะ!! ฮือๆๆ” นายขี้เก๊กผละริมฝีปากออกจากฉัน และนายขี้เก๊กทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นฉันร้องไห้ในตอนนี้
“ฉัน.....”
เพี๊ยะ!!
“ฉันไม่ใช่แพรว และฉันก็ไม่ใช่ตัวแทนของใครด้วย” หลังจากที่ได้ตบหน้าอันหล่อเหลาของนายขี้เก๊กแล้ว ฉันก็รีบวิ่งออกจากห้องโดยไม่สนใจคนข้างหลังแม้แต่น้อย
“ฉัน..ขอ..โทษ..”
ระหว่างเดินกลับห้องฉันเอาแต่ร้องไห้ และก็เอามือเช็ดริมฝีปากตัวเอง ร้องไห้เสียงดังจนพี่แจ๋วเข้ามาถามฉัน ไม่น่าเลยเรา ขี้เกียจตอบคำถามพี่แจ๋วนะเนี่ย
“เจมินเป็นอะไรไปเหรอ”
“อึก..ฮึก..ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรได้ไง ก็เห็นอยู่ว่าร้องไห้น่ะ” โอ๊ย!! พี่แจ๋วจะถามอะไรมากเนี่ย ฉันไม่อยากตอบน่ะ เพื่อตัดปัญหาเดินเข้าห้องเลยดีกว่า
“เจมินขอตัวก่อนนะค่ะ”
“อ้าว ~ เจมินอย่าเพิ่งไปสิ” ฉันไม่สนใจเสียงอะไรทั้งนั้น ฉันต้องเข้าห้องให้เร็วที่สุด ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับใครทั้งนั้น และในที่สุดก็ถึงสักที เมื่อกี้แม่โทรมาแต่ฉันไม่อยากรับ ฉันเลยส่งข้อความบอกบิ๊กกัฟให้บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงฉัน พอผ่านไปได้สักพักยัยพวกเพื่อนบ๊องก็โทรมาอีก แต่ฉันไม่รับอีกตามเคย เพราะฉันไม่มีอารมณ์จะรับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น
22.30 น.
“ครอกฟี้ ~-_-zzZ”
ปัง!
‘โอ๊ย!’ ฉันโดนยิงอ่ะ ฮือๆ มันเป็นอะไรที่เจ็บมาก ใครก็ได้ช่วยฉันที ฉันมองไปรอบๆมีคนวิ่งพลุกพล่านเต็มไปหมด และฉันก็เห็นคนที่ถือปืนเล็งมาทางฉัน คงจะเป็นแกสิน่ะที่ยิงฉันเมื่อกี้ แต่ก่อนที่ยิงมาฉันก็เห็นนายขี้เก๊กวิ่งเข้ามารับกระสุนแทนฉัน
ปัง!
‘ว๊ายยย ไม่น่ะ ฮือๆ T^T นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรน่ะ’ นายขี้เก๊กนอนจมกองเลือดอยู่บนตักของฉัน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันโดนยิงยังไม่พอ นายขี้เก๊กก็โดนด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงนายขี้เก๊กมากกว่า
‘ฮือๆ นายอย่าทิ้งฉันไปน่ะ T^T’
‘ฉัน… รัก… เธอ’นายขี้เก๊กเอามือขึ้นมาลูบหน้าฉันพร้อมกับบอกรักฉัน นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรน่ะ ฉันก็รักนายเหมือนกันน่ะ
‘ฉันก็รักนายน่ะ ฮือๆ T[]T’ และก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ ฉันก็เห็นไอ้คนที่ยิงฉันเดินเข้ามาและเอาปืนจ่อมาทางฉันก่อนที่ลั่นไกใส่ฉัน
ปัง!
“เฮือก!!” ฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย ฝันแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้วน่ะ เขาว่ากันว่าถ้าฝันเรื่องเดิมซ้ำกันสามวันฝันนั้นจะเป็นจริง แต่ของฉันน่าจะเป็นกรณียกเว้นน่ะ เพราะยังไงซะฉันกับนายขี้เก๊กคงไม่มีวันได้รักกัน และมันก็จะไม่มีวันเป็นไปได้ด้วย กี่โมงแล้วเนี่ย ฉันจะได้ไปช่วยพี่แจ๋วเตรียมอาหารสักหน่อย
“เพิ่งจะตีสามเองเหรอเนี่ย งั้นนอนต่อดีกว่า” แต่ก่อนที่ฉันจะนอน ฉันเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่หน้าประตูอ่ะ ฉันตาฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย ไหนลองขยี้ตาหน่อยเพื่อความแน่ใจ เฮ้ย!! ทำไมมันเข้ามาใกล้กว่าเดิมเนี่ย ฉันเป็นคนกลัวผีน่ะ และมันกำลังเดินเข้ามาใกล้ฉันอีกนิด และก็อีกนิด...
“อ๊ายยย ใครก็ได้ช่วยด้วย ผีหลอก!!”
“นี่เธอ!!” เฮ้ย!! ผีเขาพูดกันอย่างนี้ได้ด้วยเหรอว่ะ แต่ฉันไม่สนหรอกน่ะ
“ใครก็ได้ข่วยด้วย ผี....อุ๊บ -*- ” แงๆๆ ผีมันปิดปากฉันแล้วอ่ะ แต่ทำไมมือผีหอมแท้ว่ะ มือผีมันต้องเหม็นๆ ด้านๆไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมผีตัวนี้ทั้งมือหอมและก็มือนิ่มด้วย แต่ยังไงซะฉันก็ไม่สน!!
“อั๊ย อ้อ อ๊าย อ่วย อั้น อ้วย ><” (ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย)
“ถ้าเธอไม่หยุดโวยวาย ฉันจะจูบเธอน่ะ” อ๊ายย >_< ผีมันจะจูบฉัน เอ๊ะ!! ทำไมผีมันเสียงคุ้นๆน่ะ จูบ...จูบ...เหรอ อ๊ายย!! นายขี้เก๊กแน่ๆเลย
“อ่อย อั้น เอี๊ยว อี้ อ้ะ ” (ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้น่ะ)
“เธอต้องห้ามโวยวายน่ะ”
“อื่อ (- -) (_ _) (- -)” ฉันรีบพยักหน้า เพราะตอนนี้ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว นายนี่ปิดปากไม่พอยังจะลามมาจมูกอีก
“.....” นายขี้เก๊กปล่อยมือออกแต่ไม่กล้าที่จะสบตาฉัน นายคงรู้สึกผิดที่นายจูบฉันใช่มั้ยล่ะ แต่ฉันไม่ชอบบรรยากาศกดดันแบบนี้เลย หาอะไรคุยดีกว่า
“นี่นายเข้ามาในห้องฉันได้ไงเนี่ย” นายขี้เก๊กเงยหน้ามองฉันแวบเดียว ย้ำน่ะว่าแวบเดียวจริงๆ แล้วก็หลบหน้าอีกครั้ง
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ ฉันก็ต้องมีกุญแจของทุกห้องอยู่แล้วสิ”
“แล้วนายเข้ามาทำไม” แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่านายจะเข้ามาในห้องฉันทำไมตอนตีสามเนี่ย ไม่หลับไม่นอนเหรอไง
“ฉัน...ฉันก็แค่มาตรวจความเรียบร้อยก็เท่านั้นแหละ” แค่มาตรวจความเรียบร้อยทำไมต้องมาตอนตีสามเนี่ย พรุ่งนี้เช้ามันก็ยังไม่สายหรอกน่า นายนี่ชักจะเพี้ยนไปใหญ่แล้วน่ะ
“เหรอ.. ตรวจเสร็จแล้วก็ออกไปสิ”
“นี่เธอไล่ฉันเหรอ!!” นายขี้เก๊กเงยหน้าด้วยความโมโหที่ฉันเอ่ยปากไล่ ทำให้ในตอนนี้หน้าฉันกับนายขี้เก๊กอยู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจของฝ่ายตรงข้าม แล้วทำไมบรรยากาศต้องเงียบและเย็นเหมือนเป็นใจยังไงก็ไม่รู้เนี่ย นายขี้เก๊กเริ่มขยับหน้าเข้ามาใกล้ทุกที เฮ้ย!! อย่าบอกน่ะว่านายจะจูบฉันอีกอ่ะ ฉันไม่ยอมหรอกน่ะ
“หยุดน่ะ ฉันไม่ใช่แพรว และฉันก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของเขาด้วย”นายขี้เก๊กรีบผละหน้าออกห่างจากฉัน และไม่กล้าสบตาฉันอีกตามเคย
“ถ้ามีธุระแค่นี้ ก็ขอให้นายกลับไปซะ เพราะฉันจะได้นอนต่อ”
“ฉัน..ขอ..โทษ.. และฉันจะพยายาม” พอนายขี้เก๊กพูดประโยคเมื่อกี้เสร็จก็รีบเดินออกจากห้องฉันทันที ฉันก็เข้าใจอยู่หรอกน่ะคำว่า ‘ฉันขอโทษ’ แต่ฉันไม่เข้าใจคำว่า ‘ฉันจะพยายาม’ มันหมายความว่าอะไรอ่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ