มาเฟียสุดเฟี้ยวกะยัยเปรี้ยวสุดบ้า
เขียนโดย Akademi
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.45 น.
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) นัดกันไปเที่ยว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 6
เมื่อคืนกะว่าจะหลับต่อสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงนอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็ปาไปแล้วตีห้าฉันเลยตัดสินใจลุกขึ้นมาช่วยพี่แจ๋วในครัวจะดีกว่า พอกินข้าวเช้าเสร็จฉันก็เข้าไปในโถงบ้านเพื่อที่จะไปพบกับนายขี้เก๊ก แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าฉันคิดถึงนายนั่นซะก่อนล่ะ แต่ฉันจะไปขออนุญาตออกไปข้างนอก เพื่อที่จะไปหายัยพวกเพื่อนฉันน่ะสิ เพราะว่าฉันนัดพวกมันไว้แล้วถ้าไม่ไปก็ไม่ใช่เจมินแล้วล่ะ แต่มาถึงก็ไม่เจอใครเลย แล้วนายนั่นไปไหนเนี่ย ลองเดินไปที่สระว่ายน้ำดีกว่า เมื่อเดินมาถึงก็พบกับนายขี้เก๊กกำลังแหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำ อ๊ายยย!! ยิ่งดูก็ยิ่งหล่อ แต่นี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเชยชมความหล่อน่ะ นายขี้เก๊กว่ายน้ำมาทางที่ฉันยืนและก็ขึ้นมาพร้อมกับร่างอันเซ็กซี่ อ๊ายย!! เลือดกำเดาฉันจะไหลแล้ว ร่างกายที่ขาวและตอนนี้กำลังเปียกไปด้วยน้ำทำให้เซ็กซี่ขึ้นไปอีก ทั้งยังหน้าอันหล่อเหลาซึ่งตอนนี้ถูกปอยผมบดบัง ยิ่งทำให้หล่อเหมือนพระเอกเกาหลีเลยอ่ะ
“เธอคิดอะไรกับฉันเปล่าเนี่ย”
“เอ่อ..เฮ้ย!! ไม่ใช่สักหน่อย ฉันก็แค่จะมาขอนายออกไปข้างนอกอ่ะ -////-”
“ไปทำไม”
“หาเพื่อน”
“ผู้หญิงหรือผู้ชาย” จะถามอะไรมากมายเนี่ย ถามยิ่งกว่าพ่อฉันอีกน่ะ
“ผู้หญิง”
“ไปที่ไหน”
“โอ๊ย!! นี่นายจะถามอะไรมากมายเนี่ย ถ้าจะถามขนาดนี้ไปกับฉันเลยก็ได้น่ะ”
“ก็ดี งั้นเธอไปเตรียมตัว เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน”
“เฮ้ย!!”นี่ฉันประชดนายน่ะ นายจะไปกับฉันจริงๆเหรอเนี่ย Oh! พระเจ้าจอร์จ ถ้ายัยพวกนั้นเห็น มันไม่กรี๊ดกันตายเหรอเนี่ย ตอนนี้ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วเหลือแต่แต่งตัว แต่ต้องใช้เวลาคิดนานเพราะไม่รู้จะใส่ชุดไหนไป จะออกไปข้างนอกทั้งทีอย่าได้แคร์สื่อ เอาให้สวยแบบเปรี้ยวๆ ไปเลย ฉันเลยเลือกเสื้อกล้ามสีฟ้าอ่อนกับเสื้อกั๊กยีนส์คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้น และรองเท้าส้นสูงสีดำ พอใส่แล้วมาดูกระจกก็รู้สึกเขินตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ไม่เคยนึกว่าตัวเองจะหุ่นดีเหมือนกัน เพราะฉันไม่เคยใส่ชุดแบบนี้เลย หรือว่าจะเปลี่ยนดีน่ะ แต่คงเปลี่ยนไม่ทันแล้วล่ะรู้สึกว่าพี่แจ๋วจะมาตามแล้ว
ก๊อก ก๊อก
“เจมิน คุณชายให้มาตามจ๊ะ”
“ค่ะ เจมินกำลังไปค่ะ” ฉันเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับหิ้วรองท้าส้นสูงไปด้วย ระหว่างเดินลงมาก็เจอกับพี่คิงคอง และก็พี่แจ๋วที่ตอนนี้ทำหน้าอึ้งเหมือนกับเจอสิ่งมหัศจรรย์อย่างนั้นแหละ
“เอ่อ..มีอะไรเหรอค่ะ”
“เจมินแต่งตัวอย่างนี้แล้วเซ็กซี่จังเลย”
“เอ่อ..เหรอค่ะ ^///^”
“ใช่ แต่พี่ว่ารีบไปหาคุณชายเถอะ”
“อ่อ..ค่ะ” ฉันเดินมาถึงโถงก็พบว่านายขี้เก๊กกำลังยืนหันหลังให้กับฉัน ฉันเลยเรียกร้องความสนใจนิดหนึ่งให้รู้ว่าฉันมาถึงแล้วด้วยการกวนประสาท
“ยืนเก๊กอยู่ได้ นึกว่าหล่อนักเหรอไง”
“นี่เธอ!! … 0_0” นายขี้เก๊กหันมาก็ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นฉันในตอนนี้
“มองฉันอย่างนี้คิดอะไรกับฉันเปล่าเนี่ย”
“เอ่อ..เปล่าสักหน่อย -///- เป็นผู้หญิงทำไมถึงได้แต่งตัวเซ็กซี่ขนาดนี้” นี่นายมาดุฉันทำไมเนี่ย ฉันก็อยากแต่งแข่งกับเพื่อนฉันมั้งสิย่ะ เพื่อนฉันมันแต่งแล้วสวยกันจะตาย ฉันก็อยากแต่งมั้งสิ
“ทำไมเหรอ มันไม่สวยใช่มั้ย เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนก็ได้น่ะ”
“เอ่อ..เปล่า เธอแต่งตัวอย่างนี้แล้วเซ็กซี่มากเลยน่ะ แต่ฉัน..”
“นายหึงฉันใช่มั้ยล่ะ”
“เปล่า -///-” เปล่า แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ
“งั้นเรารีบไปกันเถอะ เพื่อนฉันคงรอจนเหงือกแห้งแล้วมั้ง”
ระหว่างที่ฉันนั่งอยู่ในรถ ฉันรู้สึกว่านายขี้เก๊กมองฉันตลอดเลยอ่ะ ทำไมเหรอตัวฉันมีอะไรผิดปกติไปเหรอ นายขี้เก๊กมองจนฉันทนไม่ไหวเลยต้องถามให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลย
“นี่นายจะมองฉันอีกนานมั้ย”
“ใครบอกว่าฉันมองเธอ -///-”
“แล้วทำไมจะต้องหน้าแดงด้วยล่ะ” นายขี้เก๊กไม่ตอบฉัน แต่เลี่ยงโดยการบอกว่าถึงห้างแล้ว
“ถึงแล้ว”
โอ๊ย!! ทำไมจะต้องมาปวดฉี่ตอนนี้ด้วยน่ะ ทุกทีเลยพอมาเที่ยวทีไรชอบเป็นแบบนี้ทุกที ไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า
“นี่นายรออยู่ตรงนี้ก่อนน่ะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“เฮ้อ~ เพิ่งจะเข้ามาถึง เธอปวดแล้วเหรอ (-_-)”
“เถอะน่า ฉันไปแป๊ปเดียวแหละ” ฉันรีบวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนที่จะราดเสียก่อน ไม่งั้นได้อายคนทั้งห้างแน่ ฉันที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระเสร็จก็เจอกับภาพที่แสนอุบาทว์ ก็เห็นผู้ชายที่กำลังนัวเนียกับซอกคอของผู้หญิงอยู่ตรงมุมกำแพงน่ะสิ พวกนี้ไม่เคยอายคนอื่นที่ผ่านมาเห็นบ้างเหรอไง เป็นผู้ชายก็ไม่เคยให้เกียรติผู้หญิง ส่วนยัยผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รักนวลสงวนตัวเอาซะเลย ขอค้านสักหน่อยเหอะ เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาชะมัด -3-
“ถ้าจะทำอะไรกันก็ขอเป็นที่อื่นจะได้มั้ย”
“นี่!!0_0” ผู้ชายที่กำลังนัวเนียก็เกิดอาการเสียอารมณ์ และหันหน้ากะจะต่อว่าฉัน แต่กลับทำหน้าเหมือนอึ้งเมื่อเห็นหน้าฉัน หน้าฉันไปเหมือนแม่แกเหรอไงย่ะ ถึงได้อึ้งซะขนาดนี้ หน้าตาก็ดีไม่น่ามาทำอะไรอุบาทว์อย่างนี้เลยน่ะ
“ขอบคุณที่หยุดการกระทำเมื่อกี้ ถ้าจะไปทำกันต่อก็เชิญที่โรงแรมต่อล่ะกันน่ะ”
“นี่เธอเป็นใครถึงมาขัดจังหวะความสุขของฉัน!!” ฉันอยากจะเข้าไปกระชากหัวแล้วตบยัยผู้หญิงโสมมคนนี้จริงๆ ยังจะมาหน้าด้านบอกว่าฉันขัดจังหวะความสุขของมันอีก ยัยผู้หญิงไม่มียางอาย
“ถ้าฉันทำอย่างนั้น ก็ขอโทษด้วยน่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนล่ะกัน (-_-)”
“เดี๋ยวก่อน!!” ฉันที่กำลังจะเดินออกจากวงจรอุบาทว์ ก็ถูกนายหน้าหล่อห้ามไว้ก่อน
“แบล็ค จะห้ามมันทำไมละค่ะ” ใครตั้งชื่อให้นายเนี่ย แบล็ค มันแปลว่าดำ แต่ตัวจริงของนายมันตรงกันข้ามเลยน่ะ
“มิ้น เธอออกไปรอฉันข้างนอกก่อน”
“แต่...”
“ฉันบอกให้ออกไปก็ออกไปสิ!!”
“ชิ!! ก็ได้” ยัยหน้าปลาช่อนรีบออกไปก่อนที่นายหน้าหล่อจะกินหัว โดยที่ทิ้งฉันให้อยู่กับนายหน้าหล่อสองต่อสอง นายหน้าหล่อมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกำลังสำรวจอะไรสักอย่าง
“นายมีอะไรก็ว่ามา”
“เดี๋ยวนี้ทำเป็นไม่รู้จักกันเลยน่ะ”
“นายหมายความว่าอะไร ฉันเคยไปรู้จักกับคนอย่างนายตอนไหน”
“ปากดีขึ้นเยอะเลยน่ะ เดี๋ยวก็จูบซะหรอก” นายหน้าหล่อดึงตัวฉันไปที่มุมกำแพง และทำท่าจะจูบฉัน แต่นายรู้จักคนอย่างฉันน้อยไปซะแล้ว ฉันจึงใช้เสียงอันทรงพลังของฉันร้องเรียกขอความช่วยเหลือ
“ช่วยฉันด้วย!!”
“เสียงดังอย่างนี้ต้องปิดปากด้วยปากอย่างเดียวซะแล้ว”
“อ๊ายยย อย่าน่ะ”
พลั่ก
“โอ๊ย!! ใครมันกล้าต่อยฉันว่ะ” พระเจ้าได้ส่งอัศวินมาช่วยฉันแล้ว ก็คือนายขี้เก๊กนั่นเอง ถ้านายมาช้ากว่านี้ฉันจะโกรธนายไปตลอดชีวิตเลยน่ะ
“เธอเป็นอะไรมากมั้ย” นายขี้เก๊กไม่สนใจคำถามของนายหน้าหล่อ แต่รีบมาทางฉันและถามด้วยความเป็นห่วง (อันนี้เดาเอาเองน่ะว่าเป็นห่วงอ่ะ)
“ฉันไม่เป็นไร”
“นี่!! ฉันถามว่าแกเป็นใคร” ตอนนี้นายหน้าหล่อลุกขึ้นมาพร้อมกับหน้าที่มีช้ำอยู่ตรงมุมปากผลจากการโดนนายขี้เก๊กต่อย
“อ๋อ!! นึกว่าใคร นายเองเหรอ ฮาเดส” นี่นายสองคนรู้จักกันด้วยเหรอเนี่ย
“ถ้าเป็นฉัน แล้วนายจะทำไม”
“ก็ไม่ได้ทำไมหรอก นี่นายคืนดีกับแพรวแล้วเหรอ แถมเปลี่ยนตัวเองซะเยอะเลยน่ะ” ฉันก็ว่าทำไมนายหน้าหล่อถึงพูดเหมือนรู้จักกับฉัน นายหน้าหล่อคงนึกว่าฉันเป็นยัยแพรวสิน่ะ
“ฉันไม่ใช่แพรวย่ะ แต่...”
“หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ เจมิน!!”
“ชิ!!” อะไรของนายเนี่ย!! นายจะมาห้ามฉันทำไม แต่เอ๊ะ!! เมื่อกี้นายขี้เก๊กเรียกชื่อฉันจริงๆเหรอเนี่ย ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย!!
“เอ๊ะ!! แสดงว่าคนนี้ไม่ใช่แพรวสิน่ะ”
“คนนี้ไม่ใช่แพรว และนายก็ห้ามยุ่งด้วย”
“ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ ทั้งสวยและก็เซ็กซี่กว่าแพรวตั้งเยอะ ฉันไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอกน่า” นายหน้าหล่อมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า และก็ทำหน้าหื่นใส่ฉัน แต่นายขี้เก๊กรีบเอาตัวมาบังไม่ให้นายหน้าหล่อได้มองร่างกายฉันอีก แหม~ หึงฉันล่ะสิ โหะๆ ^0^
“แค่นี้ก็ทำเป็นหวง ระวังผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ดีล่ะ ฉันจะแย่งนายมาเหมือนกับที่ฉันแย่งแพรวไปจากนาย” และนายหน้าหล่อก็เดินออกไปโดยที่ทิ้งข้อความที่แสนจะคมเฉียบไว้ให้นายขี้เก๊ก ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ายัยแพรวแฟนเก่าของนายขี้เก๊กทิ้งไปเพราะนายหน้าหล่ออย่างนั้นสิน่ะ
“ฉันไม่น่าให้เธอใส่ชุดนี้มาเลย”
“อะไรของนายเนี่ย ทีฉันจะไปเปลี่ยนนายก็บอกว่าไม่ต้อง”
“ช่างเถอะ รีบไปหาเพื่อนเธอจะดีกว่าน่ะ” เออ..ใช่นี่หว่า ป่านนี้ยัยพวกนั้นคงกำลังต่อว่าฉันอยู่แน่เลย
“งั้นรีบๆไปกันเถอะ” ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องช็อคเมื่อเห็นยัยพวกเพื่อนกำลังเดินเข้ามาห้องน้ำเหมือนกัน
“เฮ้ย!! แก 0_0”
“ยัยเจมิน 0_0” =>ยัยท๊อฟฟี่
“เฮ้ย!! แก 0_0”=>ยัยแคนดี้
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ” นายขี้เก๊กที่เดินตามฉันมาทีหลังก็ถามด้วยความสงสัย แต่ยัยสองคนนั้นกลับมองฉันด้วยสายตาที่เป็นคำถามประมาณว่า ‘เข้าไปทำอะไรกันอ่ะ’
“อ่อ..ไม่มีอะไร”
“ยัยเจมิน คนนี้คือใครอ่ะ” =>ยัยแคนดี้
“เออ นั่นดิ” =>ยัยท๊อฟฟี่
“เอ่อ..เจ้านายฉันเอง”
“หะ!! แสดงว่านี้ก็คุณฮาเดสน่ะสิ 0_0”
“เอ่อ..ใช่”
“อ๊ายย สวัสดีค่ะ ฉันท๊อฟฟี่เป็นเพื่อนสนิทของยัยเจมินค่ะ”
“ส่วนฉันแคนดี้ค่ะ ฉันก็เป็นเพื่อนสนิทของยัยเจมินเหมือนกันค่ะ” แหม~ รีบแนะนำตัวกันใหญ่เลยน่ะย่ะ
“เอ่อ..ผมฮาเดสครับ” ฉันต้องรีบขัดก่อนที่ยัยสองคนนั้นจะบ้าไปกว่านี้
“ฉันว่าเราไปคุยกันทีอื่นดีกว่าน่ะ ฉันว่าที่หน้าห้องน้ำมันไม่ค่อยเหมาะเท่าไร”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ งั้นไปที่ร้าน Swensens ดีกว่าน่ะ” ฉันพร้อมด้วยเพื่อนๆ และก็นายขี้เก๊กได้เปลี่ยนที่คุยจากหน้าห้องน้ำมาเป็นร้าน Swensens ซึ่งบรรยากาศมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ก่อนจะกลับบ้านยัยสองคนนั้นขอให้ฉันและนายขี้เก๊กดูหนังกันก่อน โดยยัยพวกนั้นเลือกหนังผีน่ะสิ ยัยพวกนี้มันจะแกล้งฉันใช่มั้ยเนี่ย ก็ฉันเป็นคนกลัวผีที่สุดในกลุ่มน่ะสิ
ในโรงหนัง
“ว๊ายยย ผี >0<”
“ผีน่ากลัวอ่ะ ว๊ายยย >0<” ยัยสองคนนั้นมันกอดกันกลมดิ๊กแล้วเนี่ย แล้วฉันจะไปกอดใครอ่ะก็เหลือแต่นายขี้เก๊กนี่แหละ แต่ฉันไม่เสียฟอร์มไปกอดนายนั่นหรอกน่า
โครม!!
“ว๊ายยย!!>_<” ฉันรีบเข้าไปกอดนายขี้เก๊กทันทีที่ได้ยินเสียงในหนังผี แต่กว่าจะรู้ตัวว่าได้ทำเรื่องน่าอายอะไรลงไป ยัยเพื่อนสองคนนั้นมันก็พูดกระแนะกระแหนฉันเรื่องที่เข้าไปกอดนายขี้เก๊ก และกว่าที่หนังจะจบฉันก็นับไม่ถ้วนเลยว่าฉันกอดนายขี้เก๊กไปกี่รอบแล้ว น่าอายชะมัด ระหว่างเดินออกมาจากโรงหนังนายขี้เก๊กก็ขำฉันตลอดทางเลยอ่ะ -///-
“นี่นายขำอะไรอ่ะ”
“ก็ขำเธอน่ะสิ ไม่นึกว่าเธอจะกลัวผีขนาดนี้”
“ชิ!! -3-”
“นี่ยัยเจมิน พวกฉันจะไปภูเก็ตกันอาทิตย์หน้าน่ะ แกจะไปได้มั้ย?”
“ไม่รู้สิ” ฉันตอบพร้อมกับหันหน้าไปทางนายขี้เก๊ก เพราะคำตอบมันอยู่ที่นายคนเดียวอ่ะแหละ
“คุณฮาเดสไปด้วยกันสิค่ะ” นี่ยัยแคนดี้จะชวนนายขี้เก๊กไปด้วยทำไมเนี่ย แต่เสียใจด้วยน่ะคนอย่างนายขี้เก๊กไม่ยอมไปด้วยหรอกน่า
“ก็ได้ครับ แล้วเจอกันอาทิตย์หน้านะครับ ^^”
“เฮ้ย!! ใครให้นายไปย่ะ”
“แล้วใครบอกว่าฉันจะให้เธอไป ถ้าฉันไม่ได้ไปเธอก็อย่าหวังเลย”
“ชิ!! -3-”
“งั้นไว้เจอกันน่ะ ยัยเจมิน”
“อืม” ยัยสองคนนั้นเดินจากไปพร้อมกับหน้าตาที่สดชื่นและชื่นบาน ฉันรู้นะย่ะว่าพวกแกไม่ได้ดีใจที่ฉันได้ไปหรอกแต่พวกแกดีใจที่นายขี้เก๊กไปด้วยใช่มั้ยล่ะ ชิ!! ยัยเพื่อนหักเหลี่ยมโหด
อีกด้านหนึ่งของห้างสรรพสินค้า
พวกเขายังไม่รู้ตัวว่ามีคนที่แอบฟังและแอบมองพวกเขาอยู่ตลอดได้ยิ้มแสยะด้วยความดีใจ ที่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเป้าหมายของเขาจะไปเที่ยวที่ภูเก็ตในอาทิตย์หน้า และได้ปณิธานกับตัวเองแล้วว่า
“ฉันจะแย่งผู้หญิงของนาย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”
แทนที่ฉันจะได้กลับมาแล้วก็พักผ่อนแต่นายขี้เก๊กกลับสั่งให้ฉันไปฝึกขี่รถ และก็ฝึกยิงปืนอีก กว่าจะได้พักก็ปาไปแล้วสองทุ่ม นายขี้เก๊กบอกว่าที่ฉันต้องฝึกเพื่อป้องกันตัวจากมาเฟียที่ชื่อว่าแบล็ค หรือที่ฉันเรียกว่านายหน้าหล่อนั่นเอง ชีวิตนี้ของฉันทำไมจะต้องมาเกี่ยวพันกับมาเฟียด้วยเนี่ย นายฮาเดสยังไม่พอ ยังจะมีนายแบล็คมาอีก
ใกล้ถึงวันที่จะไปภูเก็ตแล้วสิน่ะ เร็วเหมือนเป็นเรื่องโกหกเลยอ่ะ ฉันใช้เวลาที่มีอยู่ในบ้านนี้โดยการช่วยเขารดน้ำต้นไม้ที่สวน บอกเลยน่ะว่าฉันไม่มีงานประจำ เดี๋ยวก็ช่วยพี่แจ๋วบ้าง คนสวนบ้าง ตกลงฉันมาทำอะไรที่นี้เนี่ย และตอนนี้ฉันกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่นั่นเอง ระหว่างที่กำลังอินอยู่กับบรรยากาศธรรมชาติคุณลุงหวังที่เป็นคนสวนเดินถือกล่องอะไรสักอย่างมาทางฉัน
“หนูเจมิน มีคนส่งมาให้หนูน่ะ”
“อ่อค่ะ..ขอบคุณนะค่ะ” ฉันรับกล่องนั้นด้วยอาการงงๆ นิดหนึ่ง เพราะระหว่างที่ฉันมาอยู่นี้ก็ประมาณ 3 อาทิตย์แล้วน่ะ ไม่เคยมีใครส่งอะไรมาให้ฉันเลย ถ้าจะเป็นคนที่บ้านส่งมาก็ต้องโทรบอกฉันก่อนดิ แต่นี้ไม่มีแม้แต่สัญญาณเลยน่ะ หรือว่าในนี้จะเป็น!! เป็น!! ระเบิด!!!!! แต่ไอ้คนส่งมามันจะกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะบ้านนี้เป็นบ้านของมาเฟียเชียวน่ะ ลองเปิดหน่อยคงไม่เสียหายหรอกน่า และฉันก็เริ่มต้นแง้มกล่องปริศนากล่องนี้ และได้เจอกับ...กับ....ชุดบิกินีลายดอกลิลลี่นั่นเอง ใครส่งมาเนี่ย เอ๊ะ!! มีการ์ดด้วยนี่น่า
‘ถึงเจมิน
ชุดบิกินีชุดนี้สำหรับไปเที่ยวภูเก็ตนะครับ ^^
จากคนที่จริงใจ’
“เอ๊ะ!! ใครส่งมาเนี่ย แล้วรู้ได้ไงว่าฉันจะไปเที่ยวภูเก็ตอ่ะ” ระหว่างที่ฉันกำลังเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะเอาชุดบิกินีสุดน่ารักไปเก็บที่ห้อง ก็ได้สวนทางกับนายขี้เก๊กโดยบังเอิญ ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกน่ะแต่นายขี้เก๊กดันมาขวางฉันซะก่อน แล้วยังจะมาถามเรื่องกล่องชุดบิกินีอีก แล้วฉันจะตอบว่าไงดีเนี่ย
“กล่องอะไรอ่ะ”
“มันเป็นของผู้หญิง”
“แล้วอะไรเล่า” เอ๊ะ!! อย่าถามมากจะได้มั้ย ฉันไม่รู้จะตอบนายยังไงดีเนี่ย ฉันก็อายเป็นนะย่ะ
“นายอย่าถามจะได้มั้ย -///-”
“ไม่ได้ เพราะว่าของแต่ละชิ้นที่เข้ามาในบ้านฉัน ฉันจะต้องรู้ว่ามันคืออะไร และปลอดภัยหรือเปล่า” โอ๊ย!! อะไรของนายเนี่ย นี่นายจะเอาคำตอบที่แท้จริงให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย
“มันคือ....”
“คืออะไร?”
“คือ...” ฉันยังไม่ทันที่จะบอก นายขี้เก๊กก็แย่งกล่องไปจากมือฉัน ฮึ! แต่หวังไปเถอะว่าฉันจะยอมง่ายๆอ่ะ
“นี่นาย!!”
“เอามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้!!”
“ไม่ให้!!”
“นี่เธอ!!”
โครม!!
“เฮ้ย!!”
“0_0” กล่องได้หล่นลงพื้นและได้เผยชุดบิกินีลายดอกลิลลี่ ทำให้ฉันต้องร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ แต่ส่วนนายขี้เก๊กตอนนี้กำลังอึ้งกิมกี่อยู่เลยค่ะท่านผู้ชม
“เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้วว่ามันเป็นของผู้หญิง”
“เอ่อ... -///-” แล้วนายจะหน้าแดงไปทำไมเนี่ย ฉันที่กำลังเก็บชุดบิกินีก็ถูกนายขี้เก๊กถามคำถามซึ่งไม่น่าเป็นคำถามได้เลย
“เอามาทำอะไรอ่ะ”
“เอ๊ะ!! นายนี่ก็แปลกเนอะ ชุดบิกินีเขาเอามาบูชากันมั้ง เขาก็ต้องเอามาใส่สิ”
“อ้าวเหรอ แล้วเธอจะใส่ไปไหนอ่ะ”
“ใส่ชุดบิกินีไปห้างมั้ง 0_o”
“นี่เธอ!! อย่ามากวนจะได้มั้ย”
“เอ้า!! นายไม่มีสมองคิดเหรอไง ชุดบิกินีก็ต้องใส่ไปทะเลสิ”
“เอ่อ..มันก็จริงอ่ะน่ะ”
“เฮ้อ~ เซ็งกับคนเซ่อจริงๆเลย”
“ชิ! -3- แล้วใครซื้อให้เธออ่ะ”
“ไม่รู้สิ มีคนส่งมาให้ฉันอ่ะ” ฉันยื่นกล่องให้นายขี้เก๊กดู แต่นายขี้เก๊กทำหน้าใช้ความคิดเป็นอย่างมากก่อนที่จะรับมันไปด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋ และใบหน้าที่โหดก็กลับมาแทนที่ใบหน้าที่แดง อะไรของนายเนี่ย!! เปลี่ยนหน้าเร็วชะมัด
“เอามันไปทิ้งซะ!!”
“นี่นายจะบ้าเหรอ จู่ๆ ทำไมต้องเอาไปทิ้งด้วยล่ะ”
“ก็นี้ไอ้แบล็คมันส่งมาน่ะสิ” นายหน้าหล่อเนี่ยน่ะส่งมา แล้วจะส่งมาให้ฉันทำไมและรู้ได้ไงว่าฉันจะไปเที่ยวที่ภูเก็ตอ่ะ
“เอ๊ะ!! แล้วนายรู้ได้ไง”
“ดูกล่องก็รู้แล้ว”
“รู้ยังไงอ่ะ 0_o?”
“ของทุกสิ่งที่เป็นของมาเฟียจะมีสัญลักษณ์ติดไว้เสมอ ซึ่งสัญลักษณ์ของไอ้แบล็คก็คือ เขาวัว หรือที่เรียกกันว่า Evil Ox” ใครช่างตั้งชื่อให้เนี่ย ‘ปีศาจวัว’
“อ่อ..งั้นก็แสดงว่าของนายก็ต้องมีเหมือนกันน่ะสิ”
“ใช่”
“แล้วคืออะไรอ่ะ”
“รูปหมาป่า ชื่อเรียกของวงการมาเฟียของฉันก็คือ Evil Wolf” โฮ้! อันนี้ก็ช่างคิดจริงๆ ‘ปีศาจหมาป่า’ คิดได้ไงเนี่ย
“อ่อ..”
“แสดงว่าไอ้แบล็ครู้แล้วว่าเธอจะไปภูเก็ตอาทิตย์หน้า”
“รู้ แล้วเป็นไรอ่ะ”
“เธอนี่ซื่อบื้อชะมัด!!” อะไรของนายเนี่ย จู่ๆ ก็มาว่าฉันซื่อบื้อได้ไง อย่างนี้เขาเรียกว่าไร้เดียงสาต่างหากย่ะ แล้วมันจะเป็นอะไรล่ะ ถ้านายแบล็ครู้ว่าฉันจะไปเที่ยวภูเก็ตอ่ะ
“ทำไมอ่ะ”
“ถ้าไอ้แบล็ครู้ แสดงว่ามันจะต้องตามเธอไปที่ภูเก็ตด้วยแน่”
“แล้วจะตามไปทำไมอ่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าไอ้แบล็คกำลังจะแย่งเธอไป....” นายขี้เก๊กรีบหยุดคำพูดที่เหลือ โดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุว่านายจะหยุดหาพระแสงเลเซอร์อะไร
“แย่งฉัน... แย่งไปจากอะไรเหรอ”
“เอ่อ..เปล่า ส่วนชุดบิกินี ฉันขอสั่งให้เธอเอาไปทิ้ง แล้วฉันจะซื้อให้ใหม่ทีหลัง”
“ทำไมฉันจะต้องเอาไปทิ้งด้วยเนี่ย”
“ฉันสั่งให้ทิ้งก็ต้องทิ้งสิ”
“ก็ได้!! -3-” นายขี้เก๊กหันหลังเดินเข้าไปในบ้าน แต่ก็ถูกฉันหยุดไว้ ด้วยการถามคำถาม ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าพูดออกมาได้ยังไงเหมือนกัน
“นายจะดูแลฉันจากอันตรายทุกอย่างได้ไหม” นายขี้เก๊กยืนนิ่งอยู่นาน 10 วิ ก่อนที่จะตอบฉันโดยที่ไม่หันหน้ามา
“ฉันไม่รับปากหรอกน่ะ เพราะเธอไม่ใช่คนสำคัญของฉัน”
“อ่อ..อืม” เพียงแค่ได้ยินคำตอบนั้นออกมา ฉันแทบยืนไม่ไหว หลังจากที่นายขี้เก๊กเดินเข้าไปในบ้าน ฉันก็เอาแต่ยืนเหม่อลอยอยู่ข้างนอกจนเวลาล่วงเลยมาพอสมควร ฮึ!! นายบอกว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญของนายงั้นเหรอ แล้วสิ่งที่ผ่านมาล่ะ ทั้งเรื่องชุดที่นายบอกว่ามันโป๊เกินไป เรื่องชุดบิกินีของนายแบล็คที่ซื้อมาให้ฉันอีกล่ะ แต่ฉันคงคิดไปเองสิน่ะ ฉันคงไม่มีวันเหมือนกับคนที่นายรักได้หรอก ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่มีวันขอความช่วยเหลือนายอะไรทั้งนั้น ทำไมน่ะ...ทำไม ฉันถึงได้เจ็บจี๊ดเหมือนหัวใจโดนเหยียบย่ำ เป็นเพราะอะไรกัน...
Hadase’s Talk
หลังจากที่ผมตอบคำถามยัยบ๊องไป ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของเราทั้งสองฝ่าย ผมรู้ว่ายัยบ๊องเองก็เจ็บ แต่ผมเจ็บกว่าเธอเยอะ เพราะผมต้องพยายามเอ่ยคำตอบที่ผมไม่อยากตอบมากที่สุด แต่ผมจำเป็นต้องทำ ผม...ต้องการให้ตัวเองได้รู้ว่าที่จริงแล้วผมคิดยังไงกับเธอกันแน่ และในที่สุดผมก็รู้ว่าผมสามารถรักคนอื่นได้อีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าผมรักยัยบ๊องตอนไหน แต่รู้สึกหวงเธอทุกครั้งที่เข้าใกล้คนอื่นมากกว่าผม แต่ผมไม่ได้รักยัยบ๊องที่หน้าตาคล้ายเหมือนกับแพรวหรอกน่ะ เธอมีเสน่ห์อยู่ในตัว เธอสามารถทำให้ผมกินข้าวได้เยอะกว่าเดิม สามารถทำให้ผมมีรอยยิ้มได้อีกครั้ง และที่สำคัญสามารถทำให้ผมรักได้อีกครั้ง แต่ผมคงคิดผิดที่ตอบคำถามเธอไปแบบนั้น ตอนนี้เธอคงเกลียดผมไปแล้ว แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกน่า เพื่อคนที่รัก..ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอรักผมเหมือนกัน
Hadase’s Talk End
หลังจากวันนั้นฉันก็พยายามหลบหน้านายขี้เก๊กตลอด พอเจอกันระหว่างทางฉันก็ทำเป็นสนใจสิ่งรอบข้างที่ไม่ใช่นายขี้เก๊ก และก็เดินอย่างไร้ล่องลอย และฉันก็ไม่ยอมไปฝึกขี่รถอีกเลย เฮ้อ~ พรุ่งนี้แล้วสิน่ะที่ฉันจะได้ไปเที่ยวภูเก็ต ตื่นเต้นจังเลย ^^
ก๊อก ก๊อก
“ใครค่ะ”
“พี่เองจ๋า” อ๋อ!! พี่แจ๋วนี้เอง มีอะไรแต่เช้าเนี่ย
แอ๊ด ~
“ว่าไงค่ะ ^^ ”
“คุณชายให้พี่เอานี้มาให้จ๊ะ”
“หืม?” พี่แจ๋วยื่นกล่องบางอย่างมาให้ฉัน พร้อมกับรีบเดินจากไป พี่แจ๋วจะรีบไปไหนฉันยังไม่ทันได้ถามเลยน่ะว่ามันคืออะไร ฉันเปิดดูก็เจอกับชุดบิกินีสีฟ้าและสีชมพู ชิ!! อย่าหวังว่าฉันจะใส่หรอกน่ะย่ะ ฉันจะไม่ยุ่งกับนายและจะไม่ใส่ชุดที่นายซื้อให้ด้วย
~มันแน่นอก ~ ต้องยกออก ~ ให้แบกเอาไว้ นานไปเดี๋ยวใจถลอก ~
ใครโทรมาเนี่ย อ๋อ! ยัยแป้งเองเหรอ มีเรื่องอะไรอีกแน่เลยลางสังหรณ์มันบอก
“ว่าไง”
‘แหม~ เหมือนจะอารมณ์ไม่ดีน่ะ’
“ก็นิดหน่อยอ่ะ ว่าแต่แกโทรมามีอะไรเหรอ”
‘ยัยแคนดี้ชวนพวกเราไปซื้อชุดบิกินีเตรียมตัวไปภูเก็ตพรุ่งนี้ไง’
“เอ่อ..ฉันมีแล้วชุดหนึ่ง งั้นฉันฝากแกซื้อหน่อยสิ ฉันไม่อยากออกไปข้างนอกอ่ะ” ที่จริงฉันมีสามชุดเลยล่ะ แต่ฉันไม่นับของนายขี้เก๊กรวมไปด้วยหรอกน่ะ ชิ! หมั่นไส้ -3-
‘อืม งั้นก็ได้ พรุ่งนี้เจอกันที่สนามบินน่ะ’
“อืม”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ