"Yes, I do" ปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้าย
8.9
เขียนโดย January13
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.54 น.
37 ตอน
25 วิจารณ์
42.47K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562 20.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) พี่สาวแก้มแดง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องเป็นริ้ว ผ่านม่านเมฆบาง หยาดน้ำค้างจากพายุฝน ที่โหมกระหน่ำมาเมื่อคืนอีกระลอก กลิ้งจากยอดหญ้าทิ้งตัวลงพื้นดินช้าๆ ทุกสรรพสิ่งตื่นจากหลับไหล อริสาเองก็เช่นกัน เธอเริ่มจะชินกับภาพห้องสีเหลี่ยมสีครีมสไตล์ญี่ปุ่นสมัยก่อนที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ร่างเล็กเหยียดกายเบาๆ ก่อนลุกขึ้นมาเก็บที่นอนตามปกติ ใบหน้าอมยิ้ม...พี่ซาซาโกะกับโกโร่ซัง สองคนนี้เหมาะกันจัง ถ้าได้แต่งงานกันก็คงจะดีนะ...อริสาคิดไปไกล หลังจากเมื่อคืนได้แนะนำซาซาโกะว่า ถ้าอยากให้ฮิคารุหายโกรธ วันนี้ซาซาโกะควรจะไปส่งและไปรับฮิคารุที่โรงเรียนเพื่อจะได้มีเวลาปรับความเข้าใจกัน แต่นั่นคืออุบายที่อริสาต้องการให้พี่สาวคนโตได้ไปพบชายหนุ่มที่แอบชอบ
ฮิคารุเดินมารับข้าวกล่องที่แม่ทำให้ ที่หลังสะพายกระเป๋านักเรียนเตรียมพร้อม
“ไปแล้วนะฮะ” เขาพูดพร้อมโค้งลาผู้เป็นแม่อย่างสุภาพกว่าปกติ ทำเอาหญิงมีอายุอดหัวเราะลูกชายไม่ได้
“เดี๋ยวสิฮิคารุ” อริสารีบเดินมาคว้าตัวน้องชายเอาไว้ ขณะที่เขากำลังจะออกจากห้องรับประทานอาหาร เธอแย่งข้าวกล่องมา พร้อมจะถอดกระเป๋านักเรียนออกจากไหล่น้องชายส่งให้พี่สาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง ฮิคารุหันกลับมามองอย่างงงๆ
“มีอะไรหรอฮะพี่ฮิเดโกะ”
“คือ วันนี้พี่ซาซาโกะอาสาจะไปส่งฮิคารุที่โรงเรียนหนะจ๊ะ” อริสาตอบก่อนจะหลบไปยืนหลังแล้วดันตัวพี่สาวไปข้างหน้า ซาซาโกะยังไม่ค่อยกล้าสู้หน้าน้องชายเท่าไหร่ จึงได้แต่ทำเป็นมองไปทางอื่น ฮิคารุเห็นดังนั้นก็ไม่พูดไม่จา รีบเดินออกจากบ้านไปเลยทันที พี่สาวคนโตหน้าเจื่อนหันมาสบตาน้องสาวอย่างไม่มั่นใจ
“ตามไปสิพี่ซาซาโกะ” อริสาบอกพรางผายมือส่ง พี่สาวคนโตสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะตามฮิคารุออกไป ทิ้งอริสาให้ยืนหัวเราะชอบใจอยู่เบื้องหลัง
สองพี่น้องเดินออกมาจากบ้านกันพักใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ ปกติซาซาโกะไม่ค่อยสนิทกับฮิคารุเท่าน้องสาว จึงไม่รู้ว่าควรจะชวนคุยเรื่องอะไรดี เธอทำท่านึกว่าจะพูดเรื่องอะไรดี
“เอ่อ วันนี้ฝนจะตกอีกไหมนะ เห็นน้าจิโร่บอกว่าช่วงนี้พายุเข้าด้วย” เธอพูดขึ้น แต่ไม่มีการโต้ตอบจากอีกฝ่าย ซาซาโกะเหลือบมองน้องชายที่มีท่าทีเรียบเฉย ก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงกระแอมหนึ่งครั้งเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนกล่าวเบาๆ
“ฮิคารุ....พี่ขอโทษนะ” ในที่สุดพี่สาวที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็ยอมเอ่ยปากขอโทษ ทำให้คนฟังแปลกใจจนต้องหยุดเดิน ฮิคารุแหงนหน้ามองพี่สาวที่ยิ้มเจื่อนๆส่งให้เขา เด็กชายรู้ดีว่าถึงแม้ซาซาโกะจะดุ และชอบพูดแรงๆ ใส่เขาอยู่เป็นประจำ แต่นั่นก็เพราะรัก และเป็นห่วงเขามาก
“พี่หนะ พูดไม่ดีเลย” ซาซาโกะกล่าวเสียงอ่อย เด็กชายยิ้มน้อยๆ ก่อนเขย่งเท้า แล้วเอื้อมมือไปตบไหล่พี่สาวเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรกนะซาซาโกะ” เด็กชายพูดยังไม่ทันจะจบประโยคดี ฝ่ามือพี่สาวก็ทิ้งน้ำหนักลงบนหัวโกนเกลี้ยงอย่างแรง
“โอ๊ย!!!” ฮิคารุร้องก่อนจะลูบหัวตัวเองถี่ๆ ด้วยความเจ็บ
“อย่ามาลามปามนะ เดี๋ยวเถอะ” ซาซาโกะเสียงเข้ม
“อะไรกัน นี่ฉันยังโกรธพี่อยู่นะ” เด็กชายหน้าบูด ซาซาโกะหัวเราะดัง ก่อนจะเริ่มเดินนำต่อไปยังโรงเรียน โดยมีฮิคารุเดินบ่นอุบอิบตามหลังตลอดทาง
ที่บ้าน อริสาเพียรพยายามแต่งด้วยตัวเอง กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร เธอออกมาที่ห้องรับประทานอาหาร เพื่อรับข้าวกล่องที่คุมิโกะทำให้เช่นเดิม
“นี่จ๊ะ” หญิงมีอายุใบหน้ายิ้มแย้มส่งร่ม และข้าวกล่องให้ลูกสาว
“ขอบคุณคะ ไปแล้วนะค่ะ เลิกงานแล้วจะรีบกลับ”
“จ๊ะ เดินทางดีๆนะ ฮิเดโกะ” คนแม่พูดตามหลัง อริสาที่กำลังจะก้าวออกจากห้องรับประทานอาหาร หยุดแล้วหันกลับมา
“คุณ...เอ่อ แม่ค่ะ”
“มีอะไรหรอจ๊ะ”
“คือ...แม่ทำอาหารอร่อยมากๆเลยคะ” อริสาบอกอย่างจริงใจ คุมิโกะทำให้เธอคิดถึงศิริ แม่ของเธอมาก สองคนนี้ทำอาหารเก่งเหมือนกัน แค่เป็นอาหารคนละชาติเท่านั้น
“อยู่ดีๆ ก็ชมกันแบบนี้ แม่เขินแย่เลย” คุมิโกะพูด
“ไปจริงๆ แล้วนะคะ” อริสาโค้งลา พอออกมาจากบ้านก็เห็นยูทากะยืนหันหลังรออยู่แล้ว เธอค่อยๆ เดินผ่านเขาไปอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มที่มัวแต่ชมนกชมไม้ จึงไม่ทันมอง กว่าจะรู้ตัวอริสาก็เดินนำห่างไปมาแล้ว เขาเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไป แล้วแกล้งทำเป็นชนกระแทกไหล่คนรักเบาๆ อริสาหันมามองกึ่งค้อนกึ่งยิ้ม ยูทากะก็หัวเราะชอบใจใหญ่
นักเรียนหลากหลายระดับชั้นการศึกษา ต่างมุ่งหน้ามายังโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ซาซาโกะที่เดินนำหน้าน้องชายมาก่อน ก็ต้องชะงักกระทันหัน เมื่อเห็นโกโร่ยืนตอนรับนักเรียนอยู่หน้าประตูทางเข้า ฮิคารุที่เดินตามหลังมา ไม่ทันมองก็ชนเข้ากับหลังพี่สาวเต็มๆ จนล้มไปนั่งกองกันพื้น
“โอ๊ย อะไรเนี่ย พี่หยุดเดินทำไมไม่บอกกันก่อน” เด็กชายโวยวาย
“เงียบน่าฮิคารุ ทำไมต้องเสียงดังด้วย” เธอหันกลับมาพูดปรามน้องเบาๆ เสียงฮิคารุที่โวยวายเมื่อครู่นี้ เรียกคุณครูประจำชั้นของเขาให้หันมามอง ก่อนจะเดินตรงเข้ามา
“มีอะไรกันหรอครับ อ้าวคุณซาซาโกะ กับฮิคารุนี่เอง อรุณสวัสดิ์ครับ” ครูหนุ่มกล่าวทักพร้องโค้งตัวเล็กน้อย
“อ่ะ เอ่อ...อะ..อรุณสวัสดิ์คะ โกโร่ซัง” ซาซาโกะพยายามควบคุมอาการตื่นเต้นไม่ให้ชัดเจนนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจบังคับให้แก้มเลือดฝาดของเธอจางลงไปได้ โกโร่มองหญิงสาวที่ยืนก้มหน้า มือกุมประสานไว้ข้างหน้าแน่น ก็แอบอมยิ้มมุมปาก...พี่สาวแก้มแดง...
“อะไรกันสองคนนี้ ไม่สนใจเราเลย” ฮิคารุบ่นขณะค่อยๆ ลุกจากพื้น แล้วปัดเศษฝุ่นดินที่เลอะกางเกง
“วันนี้มาส่งฮิคารุถึงโรงเรียน ดีจังเลยนะครับ มีพี่สาวดีน่ารักแบบนี้” โกโร่พูดจบก็เกาหัวเบาแก้เขิน
“พี่ซาซาโกะ” ฮิคารุเรียกเหมือนจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่พี่สาวไม่ทันได้ฟัง
“ฝากโกโร่ซัง ดูเจ้าฮิคารุด้วยนะคะ ถ้าซนอนุญาตให้ทำโทษได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ซาซาโกะกล้าเงยน้าขึ้นมาคุยกับชายหนุ่มบ้างแล้ว ทั้งสองคนต่างก็ส่งยิ้มเขินๆ ให้กัน
“เอ่อ พี่...” เด็กชายขยับเข้ามายืนระหว่างกลางของสองหนุ่มสาว พยายามจะพูดแทรกอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ
“แหมซาซาโกะพูดขนาดนี้ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยหละครับ”
“พี่...”
“จริงหรอค่ะ....”
“โอ๊ย พี่ซาซาโกะขอกระเป๋านักเรียน กับข้าวกล่องให้ฉันก่อนได้ไหม ฉันจะรีบไปทำการบ้านต่อ ยังไม่เสร็จเลยเดี๋ยวไม่ทัน” เด็กชายพูดเสียงดังแทรกขึ้น ทำเอาซาซาโกะและโกโร่สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหยุดเขินอายกันไปชั่วขณะ
“อ่อหรอ งั้นก็รับไปสิ” พี่สาวยื่นข้าวของให้น้องชายที่กำลังหน้ามุ่ย ฮิคารุรับมาจัดแจงสะพายกระเป๋าเรียบร้อย ก็โค้งตัวให้ผู้ใหญ่สองคน แล้วรีบวิ่งเข้ารั้วโรงเรียนไป ทิ้งให้พวกเขายืนสบตาเขินอายกันต่อ
ยูทากะมาส่งอริสาที่ร้านหนังสือเหมือนเดิม แต่วันนี้เขาไม่ได้แยกตัวไปทำงาน กลับตามเธอเข้ามาในร้าน
“อ้าววันนี้นายไม่ไปทำงานหรอ” อริสาถามคนที่กำลังเดินสำรวจ หยิบจับหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ขึ้นมาดู
“พอดีเมื่อวานตอนเย็นนามิอาการไม่ค่อยดีหนะ อยู่ดีๆ ก็เวียนหัวหน้ามืด วันนี้หมอแฮรี่เลยปิดทำการโรงหมอหนึ่งวัน ฉันก็เลยว่าจะมาหาอ่านหนังสือสักหน่อย” ยูทากะเล่า พอจบประโยคก็หันมายิ้มให้ อริสาขมวดคิ้วมองอย่างจับผิด
“อ้าว ฮิเดโกะมาแล้วหรอ” เจ้านายตัวกลมเดินออกมาจากห้องเล็กๆ หลังเคาน์เตอร์เอ่ยทัก
“อรุณสวัสดิ์คะคริสโตเฟอร์” เธอพูดพร้อมโค้งทักทาย
“อรุณสวัสดิ์ นี่มีลูกค้าแต่เช้าเลยหรอเนี่ย ดีจังเลยนะ ฮ่าๆๆ” คริสโตเฟอร์ใบหน้าเบิกบาน เมื่อเห็นมีคนเข้าร้าน ยูทากะโค้งหัวให้เขาเล็กน้อยแสดงการทักทาย
อริสาหยิบหนังสือมาเรียงเก็บเป็นหมวดหมู่ ทั้งเช็ด ทั้งปัดฝุ่นอย่างขะมักเขม้น แต่แปลกที่เธอรู้สึกดูเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ยูทากะก้มหน้างุดใส่หนังสือทันที ที่หญิงสาวหันมาจับได้ว่าเขากำลังแอบมอง สักพักก็เลื่อนหนังสือลงเพื่อที่จะแอบมองต่อ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นอริสายืนเท้าสะเอวจ้องอยู่ เขาเลยส่งยิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเริ่มอ่านหนังสือจริงจัง
ฮิคารุเดินมารับข้าวกล่องที่แม่ทำให้ ที่หลังสะพายกระเป๋านักเรียนเตรียมพร้อม
“ไปแล้วนะฮะ” เขาพูดพร้อมโค้งลาผู้เป็นแม่อย่างสุภาพกว่าปกติ ทำเอาหญิงมีอายุอดหัวเราะลูกชายไม่ได้
“เดี๋ยวสิฮิคารุ” อริสารีบเดินมาคว้าตัวน้องชายเอาไว้ ขณะที่เขากำลังจะออกจากห้องรับประทานอาหาร เธอแย่งข้าวกล่องมา พร้อมจะถอดกระเป๋านักเรียนออกจากไหล่น้องชายส่งให้พี่สาวที่ยืนอยู่ข้างหลัง ฮิคารุหันกลับมามองอย่างงงๆ
“มีอะไรหรอฮะพี่ฮิเดโกะ”
“คือ วันนี้พี่ซาซาโกะอาสาจะไปส่งฮิคารุที่โรงเรียนหนะจ๊ะ” อริสาตอบก่อนจะหลบไปยืนหลังแล้วดันตัวพี่สาวไปข้างหน้า ซาซาโกะยังไม่ค่อยกล้าสู้หน้าน้องชายเท่าไหร่ จึงได้แต่ทำเป็นมองไปทางอื่น ฮิคารุเห็นดังนั้นก็ไม่พูดไม่จา รีบเดินออกจากบ้านไปเลยทันที พี่สาวคนโตหน้าเจื่อนหันมาสบตาน้องสาวอย่างไม่มั่นใจ
“ตามไปสิพี่ซาซาโกะ” อริสาบอกพรางผายมือส่ง พี่สาวคนโตสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนจะตามฮิคารุออกไป ทิ้งอริสาให้ยืนหัวเราะชอบใจอยู่เบื้องหลัง
สองพี่น้องเดินออกมาจากบ้านกันพักใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ ปกติซาซาโกะไม่ค่อยสนิทกับฮิคารุเท่าน้องสาว จึงไม่รู้ว่าควรจะชวนคุยเรื่องอะไรดี เธอทำท่านึกว่าจะพูดเรื่องอะไรดี
“เอ่อ วันนี้ฝนจะตกอีกไหมนะ เห็นน้าจิโร่บอกว่าช่วงนี้พายุเข้าด้วย” เธอพูดขึ้น แต่ไม่มีการโต้ตอบจากอีกฝ่าย ซาซาโกะเหลือบมองน้องชายที่มีท่าทีเรียบเฉย ก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงกระแอมหนึ่งครั้งเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนกล่าวเบาๆ
“ฮิคารุ....พี่ขอโทษนะ” ในที่สุดพี่สาวที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็ยอมเอ่ยปากขอโทษ ทำให้คนฟังแปลกใจจนต้องหยุดเดิน ฮิคารุแหงนหน้ามองพี่สาวที่ยิ้มเจื่อนๆส่งให้เขา เด็กชายรู้ดีว่าถึงแม้ซาซาโกะจะดุ และชอบพูดแรงๆ ใส่เขาอยู่เป็นประจำ แต่นั่นก็เพราะรัก และเป็นห่วงเขามาก
“พี่หนะ พูดไม่ดีเลย” ซาซาโกะกล่าวเสียงอ่อย เด็กชายยิ้มน้อยๆ ก่อนเขย่งเท้า แล้วเอื้อมมือไปตบไหล่พี่สาวเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรกนะซาซาโกะ” เด็กชายพูดยังไม่ทันจะจบประโยคดี ฝ่ามือพี่สาวก็ทิ้งน้ำหนักลงบนหัวโกนเกลี้ยงอย่างแรง
“โอ๊ย!!!” ฮิคารุร้องก่อนจะลูบหัวตัวเองถี่ๆ ด้วยความเจ็บ
“อย่ามาลามปามนะ เดี๋ยวเถอะ” ซาซาโกะเสียงเข้ม
“อะไรกัน นี่ฉันยังโกรธพี่อยู่นะ” เด็กชายหน้าบูด ซาซาโกะหัวเราะดัง ก่อนจะเริ่มเดินนำต่อไปยังโรงเรียน โดยมีฮิคารุเดินบ่นอุบอิบตามหลังตลอดทาง
ที่บ้าน อริสาเพียรพยายามแต่งด้วยตัวเอง กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร เธอออกมาที่ห้องรับประทานอาหาร เพื่อรับข้าวกล่องที่คุมิโกะทำให้เช่นเดิม
“นี่จ๊ะ” หญิงมีอายุใบหน้ายิ้มแย้มส่งร่ม และข้าวกล่องให้ลูกสาว
“ขอบคุณคะ ไปแล้วนะค่ะ เลิกงานแล้วจะรีบกลับ”
“จ๊ะ เดินทางดีๆนะ ฮิเดโกะ” คนแม่พูดตามหลัง อริสาที่กำลังจะก้าวออกจากห้องรับประทานอาหาร หยุดแล้วหันกลับมา
“คุณ...เอ่อ แม่ค่ะ”
“มีอะไรหรอจ๊ะ”
“คือ...แม่ทำอาหารอร่อยมากๆเลยคะ” อริสาบอกอย่างจริงใจ คุมิโกะทำให้เธอคิดถึงศิริ แม่ของเธอมาก สองคนนี้ทำอาหารเก่งเหมือนกัน แค่เป็นอาหารคนละชาติเท่านั้น
“อยู่ดีๆ ก็ชมกันแบบนี้ แม่เขินแย่เลย” คุมิโกะพูด
“ไปจริงๆ แล้วนะคะ” อริสาโค้งลา พอออกมาจากบ้านก็เห็นยูทากะยืนหันหลังรออยู่แล้ว เธอค่อยๆ เดินผ่านเขาไปอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มที่มัวแต่ชมนกชมไม้ จึงไม่ทันมอง กว่าจะรู้ตัวอริสาก็เดินนำห่างไปมาแล้ว เขาเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไป แล้วแกล้งทำเป็นชนกระแทกไหล่คนรักเบาๆ อริสาหันมามองกึ่งค้อนกึ่งยิ้ม ยูทากะก็หัวเราะชอบใจใหญ่
นักเรียนหลากหลายระดับชั้นการศึกษา ต่างมุ่งหน้ามายังโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ซาซาโกะที่เดินนำหน้าน้องชายมาก่อน ก็ต้องชะงักกระทันหัน เมื่อเห็นโกโร่ยืนตอนรับนักเรียนอยู่หน้าประตูทางเข้า ฮิคารุที่เดินตามหลังมา ไม่ทันมองก็ชนเข้ากับหลังพี่สาวเต็มๆ จนล้มไปนั่งกองกันพื้น
“โอ๊ย อะไรเนี่ย พี่หยุดเดินทำไมไม่บอกกันก่อน” เด็กชายโวยวาย
“เงียบน่าฮิคารุ ทำไมต้องเสียงดังด้วย” เธอหันกลับมาพูดปรามน้องเบาๆ เสียงฮิคารุที่โวยวายเมื่อครู่นี้ เรียกคุณครูประจำชั้นของเขาให้หันมามอง ก่อนจะเดินตรงเข้ามา
“มีอะไรกันหรอครับ อ้าวคุณซาซาโกะ กับฮิคารุนี่เอง อรุณสวัสดิ์ครับ” ครูหนุ่มกล่าวทักพร้องโค้งตัวเล็กน้อย
“อ่ะ เอ่อ...อะ..อรุณสวัสดิ์คะ โกโร่ซัง” ซาซาโกะพยายามควบคุมอาการตื่นเต้นไม่ให้ชัดเจนนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจบังคับให้แก้มเลือดฝาดของเธอจางลงไปได้ โกโร่มองหญิงสาวที่ยืนก้มหน้า มือกุมประสานไว้ข้างหน้าแน่น ก็แอบอมยิ้มมุมปาก...พี่สาวแก้มแดง...
“อะไรกันสองคนนี้ ไม่สนใจเราเลย” ฮิคารุบ่นขณะค่อยๆ ลุกจากพื้น แล้วปัดเศษฝุ่นดินที่เลอะกางเกง
“วันนี้มาส่งฮิคารุถึงโรงเรียน ดีจังเลยนะครับ มีพี่สาวดีน่ารักแบบนี้” โกโร่พูดจบก็เกาหัวเบาแก้เขิน
“พี่ซาซาโกะ” ฮิคารุเรียกเหมือนจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่พี่สาวไม่ทันได้ฟัง
“ฝากโกโร่ซัง ดูเจ้าฮิคารุด้วยนะคะ ถ้าซนอนุญาตให้ทำโทษได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” ซาซาโกะกล้าเงยน้าขึ้นมาคุยกับชายหนุ่มบ้างแล้ว ทั้งสองคนต่างก็ส่งยิ้มเขินๆ ให้กัน
“เอ่อ พี่...” เด็กชายขยับเข้ามายืนระหว่างกลางของสองหนุ่มสาว พยายามจะพูดแทรกอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ
“แหมซาซาโกะพูดขนาดนี้ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยหละครับ”
“พี่...”
“จริงหรอค่ะ....”
“โอ๊ย พี่ซาซาโกะขอกระเป๋านักเรียน กับข้าวกล่องให้ฉันก่อนได้ไหม ฉันจะรีบไปทำการบ้านต่อ ยังไม่เสร็จเลยเดี๋ยวไม่ทัน” เด็กชายพูดเสียงดังแทรกขึ้น ทำเอาซาซาโกะและโกโร่สะดุ้งตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหยุดเขินอายกันไปชั่วขณะ
“อ่อหรอ งั้นก็รับไปสิ” พี่สาวยื่นข้าวของให้น้องชายที่กำลังหน้ามุ่ย ฮิคารุรับมาจัดแจงสะพายกระเป๋าเรียบร้อย ก็โค้งตัวให้ผู้ใหญ่สองคน แล้วรีบวิ่งเข้ารั้วโรงเรียนไป ทิ้งให้พวกเขายืนสบตาเขินอายกันต่อ
ยูทากะมาส่งอริสาที่ร้านหนังสือเหมือนเดิม แต่วันนี้เขาไม่ได้แยกตัวไปทำงาน กลับตามเธอเข้ามาในร้าน
“อ้าววันนี้นายไม่ไปทำงานหรอ” อริสาถามคนที่กำลังเดินสำรวจ หยิบจับหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ขึ้นมาดู
“พอดีเมื่อวานตอนเย็นนามิอาการไม่ค่อยดีหนะ อยู่ดีๆ ก็เวียนหัวหน้ามืด วันนี้หมอแฮรี่เลยปิดทำการโรงหมอหนึ่งวัน ฉันก็เลยว่าจะมาหาอ่านหนังสือสักหน่อย” ยูทากะเล่า พอจบประโยคก็หันมายิ้มให้ อริสาขมวดคิ้วมองอย่างจับผิด
“อ้าว ฮิเดโกะมาแล้วหรอ” เจ้านายตัวกลมเดินออกมาจากห้องเล็กๆ หลังเคาน์เตอร์เอ่ยทัก
“อรุณสวัสดิ์คะคริสโตเฟอร์” เธอพูดพร้อมโค้งทักทาย
“อรุณสวัสดิ์ นี่มีลูกค้าแต่เช้าเลยหรอเนี่ย ดีจังเลยนะ ฮ่าๆๆ” คริสโตเฟอร์ใบหน้าเบิกบาน เมื่อเห็นมีคนเข้าร้าน ยูทากะโค้งหัวให้เขาเล็กน้อยแสดงการทักทาย
อริสาหยิบหนังสือมาเรียงเก็บเป็นหมวดหมู่ ทั้งเช็ด ทั้งปัดฝุ่นอย่างขะมักเขม้น แต่แปลกที่เธอรู้สึกดูเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ตลอดเวลา ยูทากะก้มหน้างุดใส่หนังสือทันที ที่หญิงสาวหันมาจับได้ว่าเขากำลังแอบมอง สักพักก็เลื่อนหนังสือลงเพื่อที่จะแอบมองต่อ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นอริสายืนเท้าสะเอวจ้องอยู่ เขาเลยส่งยิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะเริ่มอ่านหนังสือจริงจัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ