Marchen of Anarion ปฐมบทแห่งคาโนปัส
9.0
เขียนโดย Kadella
วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.40 น.
5 บท
1 วิจารณ์
8,171 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2557 20.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) พบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 3 พบเจอ
๔ ปีผ่านไป...
“กรี๊ดดดดดดด!!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นกลางดึงสงัด ปลุกเวเรนาตื่นจากห้วงนิทรา ต้นกำเนิด
เสียงมาจาก ห้องของบุตรสาวเธอ
“อาร์มิเลีย อาร์มิเลียลูกรัก แม่อยู่นี่แล้ว” เธอเขย่าร่างเล็กปลุกเด็กน้อยจากความฝัน
“ท่านแม่ข้าเห็น ข้าเห็น คนหน้าตาน่ากลัว แล้วข้าก็เห็นคนฆ่ากันตายเต็มไปหมด มีคน
ฆ่าข้าตาย ข้ากลัว” ดวงหน้าเล็กชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา
“มันเป็นเพียงความฝัน ไม่เป็นไรนะจ้ะ”
เวเรนากังวลเกี่ยวกับความฝันของบุตรสาวเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อาร์มิเลียเกิดมาก็มี สัญลักษณ์
ลวดลายแปลกตาที่หลังมือขวา เมื่ออาร์มิเลียอายุครบสามขวบเด็กหญิงก็ฝันร้ายซ้ำๆ ทุกคืน ไม่รู้ว่า
เธอคิดมากไปหรือเปล่าว่าทั้งสองสิ่งเชื่อมโยงกัน เวเรนาเคยไปขอคำปรึกษาจาก หญิงพยากรณ์
ในหมู่บ้าน ได้ความว่า อาร์มิเลียมีชะตาชีวิตแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ไม่มีสิ่งใด แก้ไขได้ ฝันร้าย
เหล่านี้จะตามหลอกหลอนอาร์มิเลียไปตลอดชีวิต
“คืนนี้ท่านแม่มานอนกับข้าได้ไหมก๊ะ ข้าไม่อยากนอนคนเดียว” ดวงตากลมโตสีฟ้าอม
เขียวจ้องมองอย่างคาดหวัง
“ได้สิจ้ะ เดี๋ยวแม่จะร้องเพลงกล่อมเจ้าด้วย” เวเรนากล่าวพร้อมกับลูบเส้นผมสีทองเป็น
ลอนสลวยของบุตรสาวด้วยความรัก
*
“หลับตาลงซะเถอะนะ
ดวงตะวันก็จะค่อยๆลับขอบฟ้า
เจ้าจะไม่เป็นไร
ไม่มีใครจะทำร้ายเจ้าได้อีกแล้ว
แสงของวันใหม่กำลังมาเยือน
แล้วเราสองจะปลอดภัยไปด้วยกัน”
เสียงหวานไพเราะของเวเรนาขับกล่อมจนเด็กหญิงตัวน้อยเข้าสู่นิทราไปอย่างง่ายดาย เธอจึง
กระชับผ้าห่มคลุมร่างเล็กอย่างทะนุถนอม ก่อนจมเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ดวงอาทิตย์ทอแสงเป็นสัญญาณแห่งวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น เวเรนากำลังวุ่นกับการตัด
ชุด ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านสั่งตัดให้เสร็จตามกำหนด ผลงานของเธอเป็นที่ชื่นชอบของคนในหมู่บ้าน
เป็นอย่าง เพราะนอกจากลวดลายของผ้าจะสวยแปลกตาแล้ว งานของเธอยังประณีตอีกด้วย จึงมี
คนมาทยอยสั่งตัดผ้า เพิ่มขึ้นทุกวัน
“ท่านแม่ก๊ะ ข้าขอออกไปวิ่งเล่นได้ไหมก๊ะ” “อาร์มิเลียกอดเอวมารดาออดอ้อน
“ได้จ้ะ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเข้าไปเล่นในป่าเด็ดขาด เพราะมันอันตรายมากแล้วก็ห้าม
กลับ บ้านเย็นด้วย เข้าใจไหมจ้ะ” เวเรนากำชับด้วยความเป็นห่วง
“เข้าใจก๊ะ ท่านแม่ของข้าใจดีที่สุดเลย” เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นไปมาด้วยความ
ดีใจ
อาร์มิเลียตัวน้อยวิ่งเล่นสนุกสนานจนเหนื่อย จึงหากดอกไม้ใกล้ๆมือนำมาร้อยเป็น
มงกุฎดอกไม้ สวมไว้บนศีรษะ แต่ในขณะนั้นเอง เด็กหญิงก็ได้ยินเสียงสัตว์กู่ร้องด้วยความเจ็บ
ปวดดังมาจากในป่า ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กซน เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ก่อน
ที่เท้าเล็กๆจะก้าว เข้าไปในป่า ก็นึกถึงคำของมารดาที่กำชับไว้ว่าห้ามเข้าไปในป่าเด็ดขาด อาร์มิ
เลียกำลังหันหลัง กลับ แต่ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ เผื่อข้าจะช่วยอะไรได้” อาร์มิเลียไม่อยากขัดคำสั่งของมารดา แต่เธอกลัวว่าเจ้าตัว
ข้างในจะเป็นอะไรไปเสียก่อน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในป่า ด้านในป่ามีต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นเบียดเสียด
กัน ทำให้ในป่ามืดทะมึนแม้ในยามกลางวัน ยิ่งเธอเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ อากาศข้างในก็ยิ่งชื้นขึ้น
เด็กหญิงต้องพยายามเป็นอย่างมากในการ ข้ามรากไม้ใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน อาร์มิเลียเดิน
ตามไปยังต้นกำเนิดเสียง และเธอก็พบ ลูกเสือขนสีขาวโพลนมีลายสีดำพาดตามลำตัว ดวงตาสี
อำพันจ้องมองมาอย่างไม่ไว้ใจ แต่ที่น่าแปลกคือ มีเปลวไฟสีน้ำเงินล้อมอยู่รอบตัวมัน เจ้าเสือตัว
น้อยนอนร้องด้วยความ เจ็บปวด เพราะที่ขามีแผลลึกเหวอะหวะและมีเลือดไหลอาบ อาร์มิเลียจึง
ค่อยๆเดินไปหาหวัง จะห้ามเลือดให้
“ฮึ่มมมมมมมมม!!!” เสียงขู่ของเสือขาว ทำให้ร่างเล็กต้องชะงักลง แต่ทันใดนั้นเอง
ก็มีเสียงหัวเราะแหลมเล็กน่ารังเกียจดังมาจากด้านหลังของอาร์มิเลีย
“ฮ่าๆๆ มีทั้งสัตว์เทพ มีทั้งเด็ก อิ่มไปสองวันละทีนี้ และคราวนี้พลังของข้าก็จะเพิ่ม
ขึ้นเป็นร้อยเท่า ฮ่าๆๆ” เจ้าของเสียงหัวเราะน่าเกลียดพูดไปพลางเช็ดน้ำลายไป
สัตว์เทพจะมีช่วงอายุยืนยาวกว่า สัตว์อื่นๆหลายร้อยเท่า จึงมีการเติบโตที่ช้ากว่าสัตว์
ทั่วไป เสือตัวนี้เป็นสัตว์เทพสายพันธุ์ หายากถึงจะยังเล็กอยู่แต่อายุประมาณสี่ปีได้แล้ว หากกิน
เข้าไปจะช่วยให้พลังเพิ่มขึ้นถึงร้อยเท่า เจ้าปีศาจกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ รูปร่างของมันช่างน่า
เกลียด มันมีผิวสีเขียวตะปุ่มตะป่ำ และมีเมือกเหนียวทั่วร่าง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำหนอง จมูกงุ้ม
ดวงตาปูดโปนสีแดงก่ำ ฟันแหลมเป็นซี่เล็กๆ กรงเล็บโค้งยาว
อาร์มิเลียตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้เจอกับปีศาจตัวเป็นๆ ความกลัว แล่น
เข้ามาในจิตใจ แต่ก่อนที่เธอจะได้สติ เจ้าปีศาจก็ถลันตัวมากระชากและยกร่างเล็กขึ้นจาก พื้นหวัง
บีบคอให้ตายก่อนลงมือกิน แต่จู่ๆมันก็กรีดร้องเสียงแหลมดัง ขาของมันถูกเสือขาวตัวน้อยฝังเขี้ยว
ลึก มันปล่อยมือ จากเด็กหญิงทันที ก่อนจะสะบัดขา และเตะลูกเสือขาวกระเด็นไปกระแทกกับ
ต้นไม้อย่างแรง มันเดินตามไปเพื่อจะเตะซ้ำ อาร์มิเลียเห็นท่าไม่ดีจึงหาท่อนไม้ที่เธอพอจะยกไหว
ก่อนจะฟาด ไปที่ขาพับของปีศาจ มันหันมาด้วยความโกรธดวงตาปูดโปนแทบถลนออกจากเบ้า
“รนหาที่มากนะเจ้าเด็กน้อย” ปีศาจคำรามด้วยความโกรธ พุ่งเข้ามาประชิดตัว
อาร์มิเลียตั้งสติทันก่อนจะก้มตัวลง และวิ่งลอดหว่างขาของมันไปได้ แต่กลับสะดุดรากไม้จนล้มลง
ปีศาจพลิกตัวและพุ่งมาหา เด็กน้อยอย่างรวดเร็ว มันเงื้อกรงเล็บเตรียมจะควักหัวใจเธอ อาร์มิเลีย
ยกมือกันใบหน้าตัวเองตามสัญชาตญาณ แต่กลับมีลำแสงสีทองเจิดจ้าเปล่ง ออกมาจากมือเล็กๆ
ของเธอ ปีศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของมันแสบร้อนจนบอด สนิท ผิวไหม้เกรียม มัน
ใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีลึกเข้าไปในป่า บาดแผลฉกรรจ์ที่มันได้รับ คงทำให้มันสิ้นใจตายในไม่
ช้า อาร์มิเลียลดมือลง เธองุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงครางด้วยความเจ็บปวดฉุดเด็กหญิง จากภวังค์
ความคิดทั้งปวง อาร์มิเลียวิ่งตรงไปยังร่างที่เจ็บ เพื่อดูอาการ แต่เจ้าเสือก็ยังขู่เธอไม่เลิก
“นี่ เจ้าจะขู่ข้าไปถึงไหน เมื่อกี้ข้าเพิ่งช่วยชีวิตเจ้าเองนะ” อาร์มิเลียเท้าสะเอวทำแก้ม
ป่องด้วยความโมโห ที่เสือขาวไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้เสียที แต่ทันใดนั้นเอง เจ้าเสือน้อยฮึดแรง
เฮือกสุดท้ายกระโจนไปด้านหลังของอาร์มิเลีย เธอรีบหันกลับไปมอง ภาพที่เห็นคือ เจ้าเสือขาว
กัดคอหอยของปีศาจอีกตัวก่อนจะสะบัดไปมา จนกระเดือกหลุดกระเด็นหลุดออกมา เลือดสีดำ
สาดกระเซ็นส่งกลิ่นเหม็นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ร่างของปีศาจถูกไฟสีน้ำเงินลุกไหม้ไปทั่วร่างมันดิ้น
ทุรนทุรายไปมาด้วยความทรมานก่อนจะ กลายเป็นผุยผง
เสือขาวปรือตามองเด็กหญิงด้วยความเป็นห่วง วินาทีนั้นมันสัญญากับตัวเองว่า
ถ้าหากครั้งนี้มันรอดชีวิตไปได้ มันจะขอติดตามเด็กหญิงไปจนถึงวาระสุดท้ายของมัน แล้วเจ้าเสือ
ค่อยๆหลับตาลง เลือดยังคงไหลไม่หยุด อาร์มิเลียนึกทบทวนที่มารดาสอนไว้ ก่อนจะฉีก
ชายกระโปรง ที่รุ่งริ่งนำมาห้ามเลือดไว้ แต่กลับไม่มีวี่แววว่าเลือดจะหยุดไหลเสียที ลมหายใจของ
เจ้าเสือน้อย แผ่วลงทุกทีจนแทบไม่ขยับ และในไม่ช้าลมหายใจก็หยุดลง
“ไม่นะ ไม่ เจ้าเสือฟื้นสิๆ ข้าไม่อยากให้เจ้าตาย” ร่างเล็กฟุบหน้ากับขนนุ่มนิ่มก่อนจะ
ร้องไห้ด้วยความเสียใจ จู่ๆอาร์มิเลียก็รู้สึกว่ามีอะไร ชื้นๆสากๆมาสัมผัสที่แก้มของเธอ เด็กหญิง
เงยหน้าขึ้นก็พบกับดวงตาสีอำพันแสนสวยที่จ้อง มองมาก่อนแล้ว เสือขาวเลียหยาดน้ำตาที่แก้ม
ของเธอแผ่วเบา เด็กหญิงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสือน้อยก้มลงมองที่มือเล็กของอาร์มิเลีย
เธอเบนสายตามองตาม มือของอาร์มิเลียมี คลื่นพลังสีทองอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างของพยัคฆ์ขาว
ราวกับปาฏิหาริย์ ปากแผลค่อยๆปิด สนิท ไม่ทิ้งไว้แม้กระทั่งรอยแผลเป็น นี่เธอสามารถรักษาเจ้า
เสือได้หรือนี่ เธอยิ้มด้วยความดี ที่ช่วยชีวิตมันได้ อาร์มิเลียเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ นี่ก็ใกล้จะเย็น
แล้ว เธอต้องรีบกลับบ้ารนก่อนที่มารดา จะสงสัย เธอตัดสินใจเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ
“เจ้าเสือ ลุกไหวไหม ข้าจะแอบพาเจ้ากลับบ้าน” แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน
เลือกเส้นทางที่ปลอดคน
สายสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ถูกถักทอขึ้นแล้ว...
ตกดึก อาร์มิเลียค่อยๆออกมาจากห้องนอนของเธอ ก่อนจะตรงไปยังห้องครัวนำ
อาหาร ที่เหลือจากมื้อเย็นไปให้เจ้าเสือ เธอพยายามทำทุกอย่างด้วยความเงียบ แต่แล้วเด็กหญิง
ก็ดัน สะดุดเก้าอีกเสียงดัง โชคดีที่อาร์มิเลียไม่ล้ม เด็กหญิงจึงรีบวิ่งกลับไปยังห้องนอนอย่างรวด
เร็ว
“นี่ไก่อบของเจ้า กินให้อร่อยนะ” เสือขาวบรรจงกินไก่ที่อาร์มิเลียนำมาให้ ถึงแม้มัน
จะหิวแค่ไหนก็ยังคงหยิ่งทระนงใน ศักดิ์ศรีของตน
"ข้าว่า ข้าจะให้เจ้าชื่อ ‘เซิร์ก’ เจ้าชอบไหม?” “ข้าชอบชื่อนี้” เสียงของเซิร์กสะท้อน
เข้าสู่จิตของเธอ
“เจ้าพูดได้ด้วยหรอ” ร่างเล็กกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ข้าสื่อสารผ่านทางจิตได้” “ดีจัง เราจะได้คุยกันรู้เรื่อง” อาร์มิเลียโอบกอดเซิร์กด้วย
ความดีใจ จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออก
“อาร์มิเลีย เมื่อตะกี้ลูกทะ ทะ....” เวเรนาตกตะลึง มีเสือขาวอยู่ในห้องของบุตรสาว
เธอได้อย่างไร
“อาร์มิเลียออกมาห่างๆเสือตัวนั้น มันอันตราย ออกมาหาแม่เดี๋ยวนี้!!!” เวเรนาเผลอ
ตวาดด้วยความหวาดกลัว เสือตัวนี้มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเสือทั่วๆไป เธอกลัวว่ามันจะเป็น
ปีศาจแปลงกายมา
“ไม่ก๊ะ เซิร์กใจดี เซิร์กไม่มีวันทำร้ายข้า ข้อขอให้เขามาอยู่กับเราได้ไหมก๊?ะ”
“ไม่ได้เด็ดขาด พรุ่งนี้แม่จะพาเซิร์กกลับป่า” เวเรนากล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“แต่ว่าเซิร์กเป็นเสือที่วิเศษจริๆนะก๊ะแม่ เขาพูดกับข้าในใจได้ด้วย” เวเรนาคิดว่าบาง
ทีสิ่งที่อาร์มิเลียพูดอาจจะเป็นแค่จินตนาการของเด็กๆ หรือถ้าเป็น เรื่องจริงมันก็ต้องเป็นปีศาจแน่ๆ
“ท่านแม่ เซิร์กบอกว่าเขาไม่ได้เป็นปีศาจก๊ะ เขาบอกว่าเขาเป็นสัตว์เทพ” เวเรนารู้สึก
จะเป็นลม เซิร์กรู้ความคิดของเธอได้อย่างไรกัน
“ถ้าหากไม่ได้เซิร์กไม่ใช่ปีศาจ ก็บอกให้เซิร์กสื่อสารกับแม่แล้วแปลงร่างเป็นแมว
ให้แม่ดูสิ แล้วแม่จะอนุญาตให้เซิร์กอยู่” เวเรนากล่าวท้าทาย เธอคิดว่าไม่มีทางที่เซิร์กจะทำได้
แน่นอน เซิร์กแกว่งหางไปมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหมอบลง ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็หดเล็ก ลง
กลายเป็นแมวน้อยขนสีขาวปุกปุย เวเรนาล้มทั้งยืน เรี่ยวแรงหายไปในพริบตา
“ไม่ต้องหวาดกลัว ข้าจะอยู่กับอาร์มิเลียเพื่อปกป้องนาง” เสียงของเซิร์กสะท้อนเข้า
สู่จิตของเธอ เวเรนาพยักหน้ารับ เธอใช้นิ้วมือนวดขมับไปมา คลายความเครียด
“ตกลงจ้ะ แม่เชื่อเจ้าแล้ว แม่จะให้เซิร์กอยู่ด้วยได้ แต่ต้องอยู่ในร่างแมวเท่านั้น แม่
ไปพักผ่อนสักครู่ก่อนนะจ้ะ”
“แม่ท่านกลัวข้า” เซิร์กกล่าว
“เป็นข้า ข้าก็กลัว ฮ่าๆ” เด็กหญิงหัวเราะสดใสไปกับเรื่องราวที่แสนสุขเหล่านี้ โดย
ไม่ได้ตระหนักเลยว่า ในไม่ช้าชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล...
๔ ปีผ่านไป...
“กรี๊ดดดดดดด!!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นกลางดึงสงัด ปลุกเวเรนาตื่นจากห้วงนิทรา ต้นกำเนิด
เสียงมาจาก ห้องของบุตรสาวเธอ
“อาร์มิเลีย อาร์มิเลียลูกรัก แม่อยู่นี่แล้ว” เธอเขย่าร่างเล็กปลุกเด็กน้อยจากความฝัน
“ท่านแม่ข้าเห็น ข้าเห็น คนหน้าตาน่ากลัว แล้วข้าก็เห็นคนฆ่ากันตายเต็มไปหมด มีคน
ฆ่าข้าตาย ข้ากลัว” ดวงหน้าเล็กชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา
“มันเป็นเพียงความฝัน ไม่เป็นไรนะจ้ะ”
เวเรนากังวลเกี่ยวกับความฝันของบุตรสาวเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อาร์มิเลียเกิดมาก็มี สัญลักษณ์
ลวดลายแปลกตาที่หลังมือขวา เมื่ออาร์มิเลียอายุครบสามขวบเด็กหญิงก็ฝันร้ายซ้ำๆ ทุกคืน ไม่รู้ว่า
เธอคิดมากไปหรือเปล่าว่าทั้งสองสิ่งเชื่อมโยงกัน เวเรนาเคยไปขอคำปรึกษาจาก หญิงพยากรณ์
ในหมู่บ้าน ได้ความว่า อาร์มิเลียมีชะตาชีวิตแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ ไม่มีสิ่งใด แก้ไขได้ ฝันร้าย
เหล่านี้จะตามหลอกหลอนอาร์มิเลียไปตลอดชีวิต
“คืนนี้ท่านแม่มานอนกับข้าได้ไหมก๊ะ ข้าไม่อยากนอนคนเดียว” ดวงตากลมโตสีฟ้าอม
เขียวจ้องมองอย่างคาดหวัง
“ได้สิจ้ะ เดี๋ยวแม่จะร้องเพลงกล่อมเจ้าด้วย” เวเรนากล่าวพร้อมกับลูบเส้นผมสีทองเป็น
ลอนสลวยของบุตรสาวด้วยความรัก
*
“หลับตาลงซะเถอะนะ
ดวงตะวันก็จะค่อยๆลับขอบฟ้า
เจ้าจะไม่เป็นไร
ไม่มีใครจะทำร้ายเจ้าได้อีกแล้ว
แสงของวันใหม่กำลังมาเยือน
แล้วเราสองจะปลอดภัยไปด้วยกัน”
เสียงหวานไพเราะของเวเรนาขับกล่อมจนเด็กหญิงตัวน้อยเข้าสู่นิทราไปอย่างง่ายดาย เธอจึง
กระชับผ้าห่มคลุมร่างเล็กอย่างทะนุถนอม ก่อนจมเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
ดวงอาทิตย์ทอแสงเป็นสัญญาณแห่งวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น เวเรนากำลังวุ่นกับการตัด
ชุด ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านสั่งตัดให้เสร็จตามกำหนด ผลงานของเธอเป็นที่ชื่นชอบของคนในหมู่บ้าน
เป็นอย่าง เพราะนอกจากลวดลายของผ้าจะสวยแปลกตาแล้ว งานของเธอยังประณีตอีกด้วย จึงมี
คนมาทยอยสั่งตัดผ้า เพิ่มขึ้นทุกวัน
“ท่านแม่ก๊ะ ข้าขอออกไปวิ่งเล่นได้ไหมก๊ะ” “อาร์มิเลียกอดเอวมารดาออดอ้อน
“ได้จ้ะ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเข้าไปเล่นในป่าเด็ดขาด เพราะมันอันตรายมากแล้วก็ห้าม
กลับ บ้านเย็นด้วย เข้าใจไหมจ้ะ” เวเรนากำชับด้วยความเป็นห่วง
“เข้าใจก๊ะ ท่านแม่ของข้าใจดีที่สุดเลย” เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นไปมาด้วยความ
ดีใจ
อาร์มิเลียตัวน้อยวิ่งเล่นสนุกสนานจนเหนื่อย จึงหากดอกไม้ใกล้ๆมือนำมาร้อยเป็น
มงกุฎดอกไม้ สวมไว้บนศีรษะ แต่ในขณะนั้นเอง เด็กหญิงก็ได้ยินเสียงสัตว์กู่ร้องด้วยความเจ็บ
ปวดดังมาจากในป่า ด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กซน เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ แต่ก่อน
ที่เท้าเล็กๆจะก้าว เข้าไปในป่า ก็นึกถึงคำของมารดาที่กำชับไว้ว่าห้ามเข้าไปในป่าเด็ดขาด อาร์มิ
เลียกำลังหันหลัง กลับ แต่ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ เผื่อข้าจะช่วยอะไรได้” อาร์มิเลียไม่อยากขัดคำสั่งของมารดา แต่เธอกลัวว่าเจ้าตัว
ข้างในจะเป็นอะไรไปเสียก่อน จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในป่า ด้านในป่ามีต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นเบียดเสียด
กัน ทำให้ในป่ามืดทะมึนแม้ในยามกลางวัน ยิ่งเธอเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ อากาศข้างในก็ยิ่งชื้นขึ้น
เด็กหญิงต้องพยายามเป็นอย่างมากในการ ข้ามรากไม้ใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน อาร์มิเลียเดิน
ตามไปยังต้นกำเนิดเสียง และเธอก็พบ ลูกเสือขนสีขาวโพลนมีลายสีดำพาดตามลำตัว ดวงตาสี
อำพันจ้องมองมาอย่างไม่ไว้ใจ แต่ที่น่าแปลกคือ มีเปลวไฟสีน้ำเงินล้อมอยู่รอบตัวมัน เจ้าเสือตัว
น้อยนอนร้องด้วยความ เจ็บปวด เพราะที่ขามีแผลลึกเหวอะหวะและมีเลือดไหลอาบ อาร์มิเลียจึง
ค่อยๆเดินไปหาหวัง จะห้ามเลือดให้
“ฮึ่มมมมมมมมม!!!” เสียงขู่ของเสือขาว ทำให้ร่างเล็กต้องชะงักลง แต่ทันใดนั้นเอง
ก็มีเสียงหัวเราะแหลมเล็กน่ารังเกียจดังมาจากด้านหลังของอาร์มิเลีย
“ฮ่าๆๆ มีทั้งสัตว์เทพ มีทั้งเด็ก อิ่มไปสองวันละทีนี้ และคราวนี้พลังของข้าก็จะเพิ่ม
ขึ้นเป็นร้อยเท่า ฮ่าๆๆ” เจ้าของเสียงหัวเราะน่าเกลียดพูดไปพลางเช็ดน้ำลายไป
สัตว์เทพจะมีช่วงอายุยืนยาวกว่า สัตว์อื่นๆหลายร้อยเท่า จึงมีการเติบโตที่ช้ากว่าสัตว์
ทั่วไป เสือตัวนี้เป็นสัตว์เทพสายพันธุ์ หายากถึงจะยังเล็กอยู่แต่อายุประมาณสี่ปีได้แล้ว หากกิน
เข้าไปจะช่วยให้พลังเพิ่มขึ้นถึงร้อยเท่า เจ้าปีศาจกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ รูปร่างของมันช่างน่า
เกลียด มันมีผิวสีเขียวตะปุ่มตะป่ำ และมีเมือกเหนียวทั่วร่าง ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำหนอง จมูกงุ้ม
ดวงตาปูดโปนสีแดงก่ำ ฟันแหลมเป็นซี่เล็กๆ กรงเล็บโค้งยาว
อาร์มิเลียตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้เจอกับปีศาจตัวเป็นๆ ความกลัว แล่น
เข้ามาในจิตใจ แต่ก่อนที่เธอจะได้สติ เจ้าปีศาจก็ถลันตัวมากระชากและยกร่างเล็กขึ้นจาก พื้นหวัง
บีบคอให้ตายก่อนลงมือกิน แต่จู่ๆมันก็กรีดร้องเสียงแหลมดัง ขาของมันถูกเสือขาวตัวน้อยฝังเขี้ยว
ลึก มันปล่อยมือ จากเด็กหญิงทันที ก่อนจะสะบัดขา และเตะลูกเสือขาวกระเด็นไปกระแทกกับ
ต้นไม้อย่างแรง มันเดินตามไปเพื่อจะเตะซ้ำ อาร์มิเลียเห็นท่าไม่ดีจึงหาท่อนไม้ที่เธอพอจะยกไหว
ก่อนจะฟาด ไปที่ขาพับของปีศาจ มันหันมาด้วยความโกรธดวงตาปูดโปนแทบถลนออกจากเบ้า
“รนหาที่มากนะเจ้าเด็กน้อย” ปีศาจคำรามด้วยความโกรธ พุ่งเข้ามาประชิดตัว
อาร์มิเลียตั้งสติทันก่อนจะก้มตัวลง และวิ่งลอดหว่างขาของมันไปได้ แต่กลับสะดุดรากไม้จนล้มลง
ปีศาจพลิกตัวและพุ่งมาหา เด็กน้อยอย่างรวดเร็ว มันเงื้อกรงเล็บเตรียมจะควักหัวใจเธอ อาร์มิเลีย
ยกมือกันใบหน้าตัวเองตามสัญชาตญาณ แต่กลับมีลำแสงสีทองเจิดจ้าเปล่ง ออกมาจากมือเล็กๆ
ของเธอ ปีศาจกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของมันแสบร้อนจนบอด สนิท ผิวไหม้เกรียม มัน
ใช้แรงเฮือกสุดท้ายวิ่งหนีลึกเข้าไปในป่า บาดแผลฉกรรจ์ที่มันได้รับ คงทำให้มันสิ้นใจตายในไม่
ช้า อาร์มิเลียลดมือลง เธองุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงครางด้วยความเจ็บปวดฉุดเด็กหญิง จากภวังค์
ความคิดทั้งปวง อาร์มิเลียวิ่งตรงไปยังร่างที่เจ็บ เพื่อดูอาการ แต่เจ้าเสือก็ยังขู่เธอไม่เลิก
“นี่ เจ้าจะขู่ข้าไปถึงไหน เมื่อกี้ข้าเพิ่งช่วยชีวิตเจ้าเองนะ” อาร์มิเลียเท้าสะเอวทำแก้ม
ป่องด้วยความโมโห ที่เสือขาวไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้เสียที แต่ทันใดนั้นเอง เจ้าเสือน้อยฮึดแรง
เฮือกสุดท้ายกระโจนไปด้านหลังของอาร์มิเลีย เธอรีบหันกลับไปมอง ภาพที่เห็นคือ เจ้าเสือขาว
กัดคอหอยของปีศาจอีกตัวก่อนจะสะบัดไปมา จนกระเดือกหลุดกระเด็นหลุดออกมา เลือดสีดำ
สาดกระเซ็นส่งกลิ่นเหม็นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว ร่างของปีศาจถูกไฟสีน้ำเงินลุกไหม้ไปทั่วร่างมันดิ้น
ทุรนทุรายไปมาด้วยความทรมานก่อนจะ กลายเป็นผุยผง
เสือขาวปรือตามองเด็กหญิงด้วยความเป็นห่วง วินาทีนั้นมันสัญญากับตัวเองว่า
ถ้าหากครั้งนี้มันรอดชีวิตไปได้ มันจะขอติดตามเด็กหญิงไปจนถึงวาระสุดท้ายของมัน แล้วเจ้าเสือ
ค่อยๆหลับตาลง เลือดยังคงไหลไม่หยุด อาร์มิเลียนึกทบทวนที่มารดาสอนไว้ ก่อนจะฉีก
ชายกระโปรง ที่รุ่งริ่งนำมาห้ามเลือดไว้ แต่กลับไม่มีวี่แววว่าเลือดจะหยุดไหลเสียที ลมหายใจของ
เจ้าเสือน้อย แผ่วลงทุกทีจนแทบไม่ขยับ และในไม่ช้าลมหายใจก็หยุดลง
“ไม่นะ ไม่ เจ้าเสือฟื้นสิๆ ข้าไม่อยากให้เจ้าตาย” ร่างเล็กฟุบหน้ากับขนนุ่มนิ่มก่อนจะ
ร้องไห้ด้วยความเสียใจ จู่ๆอาร์มิเลียก็รู้สึกว่ามีอะไร ชื้นๆสากๆมาสัมผัสที่แก้มของเธอ เด็กหญิง
เงยหน้าขึ้นก็พบกับดวงตาสีอำพันแสนสวยที่จ้อง มองมาก่อนแล้ว เสือขาวเลียหยาดน้ำตาที่แก้ม
ของเธอแผ่วเบา เด็กหญิงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสือน้อยก้มลงมองที่มือเล็กของอาร์มิเลีย
เธอเบนสายตามองตาม มือของอาร์มิเลียมี คลื่นพลังสีทองอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างของพยัคฆ์ขาว
ราวกับปาฏิหาริย์ ปากแผลค่อยๆปิด สนิท ไม่ทิ้งไว้แม้กระทั่งรอยแผลเป็น นี่เธอสามารถรักษาเจ้า
เสือได้หรือนี่ เธอยิ้มด้วยความดี ที่ช่วยชีวิตมันได้ อาร์มิเลียเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ นี่ก็ใกล้จะเย็น
แล้ว เธอต้องรีบกลับบ้ารนก่อนที่มารดา จะสงสัย เธอตัดสินใจเก็บเรื่องทั้งหมดไว้เป็นความลับ
“เจ้าเสือ ลุกไหวไหม ข้าจะแอบพาเจ้ากลับบ้าน” แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้าน
เลือกเส้นทางที่ปลอดคน
สายสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ถูกถักทอขึ้นแล้ว...
ตกดึก อาร์มิเลียค่อยๆออกมาจากห้องนอนของเธอ ก่อนจะตรงไปยังห้องครัวนำ
อาหาร ที่เหลือจากมื้อเย็นไปให้เจ้าเสือ เธอพยายามทำทุกอย่างด้วยความเงียบ แต่แล้วเด็กหญิง
ก็ดัน สะดุดเก้าอีกเสียงดัง โชคดีที่อาร์มิเลียไม่ล้ม เด็กหญิงจึงรีบวิ่งกลับไปยังห้องนอนอย่างรวด
เร็ว
“นี่ไก่อบของเจ้า กินให้อร่อยนะ” เสือขาวบรรจงกินไก่ที่อาร์มิเลียนำมาให้ ถึงแม้มัน
จะหิวแค่ไหนก็ยังคงหยิ่งทระนงใน ศักดิ์ศรีของตน
"ข้าว่า ข้าจะให้เจ้าชื่อ ‘เซิร์ก’ เจ้าชอบไหม?” “ข้าชอบชื่อนี้” เสียงของเซิร์กสะท้อน
เข้าสู่จิตของเธอ
“เจ้าพูดได้ด้วยหรอ” ร่างเล็กกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ข้าสื่อสารผ่านทางจิตได้” “ดีจัง เราจะได้คุยกันรู้เรื่อง” อาร์มิเลียโอบกอดเซิร์กด้วย
ความดีใจ จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออก
“อาร์มิเลีย เมื่อตะกี้ลูกทะ ทะ....” เวเรนาตกตะลึง มีเสือขาวอยู่ในห้องของบุตรสาว
เธอได้อย่างไร
“อาร์มิเลียออกมาห่างๆเสือตัวนั้น มันอันตราย ออกมาหาแม่เดี๋ยวนี้!!!” เวเรนาเผลอ
ตวาดด้วยความหวาดกลัว เสือตัวนี้มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเสือทั่วๆไป เธอกลัวว่ามันจะเป็น
ปีศาจแปลงกายมา
“ไม่ก๊ะ เซิร์กใจดี เซิร์กไม่มีวันทำร้ายข้า ข้อขอให้เขามาอยู่กับเราได้ไหมก๊?ะ”
“ไม่ได้เด็ดขาด พรุ่งนี้แม่จะพาเซิร์กกลับป่า” เวเรนากล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“แต่ว่าเซิร์กเป็นเสือที่วิเศษจริๆนะก๊ะแม่ เขาพูดกับข้าในใจได้ด้วย” เวเรนาคิดว่าบาง
ทีสิ่งที่อาร์มิเลียพูดอาจจะเป็นแค่จินตนาการของเด็กๆ หรือถ้าเป็น เรื่องจริงมันก็ต้องเป็นปีศาจแน่ๆ
“ท่านแม่ เซิร์กบอกว่าเขาไม่ได้เป็นปีศาจก๊ะ เขาบอกว่าเขาเป็นสัตว์เทพ” เวเรนารู้สึก
จะเป็นลม เซิร์กรู้ความคิดของเธอได้อย่างไรกัน
“ถ้าหากไม่ได้เซิร์กไม่ใช่ปีศาจ ก็บอกให้เซิร์กสื่อสารกับแม่แล้วแปลงร่างเป็นแมว
ให้แม่ดูสิ แล้วแม่จะอนุญาตให้เซิร์กอยู่” เวเรนากล่าวท้าทาย เธอคิดว่าไม่มีทางที่เซิร์กจะทำได้
แน่นอน เซิร์กแกว่งหางไปมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหมอบลง ทันใดนั้นเองร่างของเขาก็หดเล็ก ลง
กลายเป็นแมวน้อยขนสีขาวปุกปุย เวเรนาล้มทั้งยืน เรี่ยวแรงหายไปในพริบตา
“ไม่ต้องหวาดกลัว ข้าจะอยู่กับอาร์มิเลียเพื่อปกป้องนาง” เสียงของเซิร์กสะท้อนเข้า
สู่จิตของเธอ เวเรนาพยักหน้ารับ เธอใช้นิ้วมือนวดขมับไปมา คลายความเครียด
“ตกลงจ้ะ แม่เชื่อเจ้าแล้ว แม่จะให้เซิร์กอยู่ด้วยได้ แต่ต้องอยู่ในร่างแมวเท่านั้น แม่
ไปพักผ่อนสักครู่ก่อนนะจ้ะ”
“แม่ท่านกลัวข้า” เซิร์กกล่าว
“เป็นข้า ข้าก็กลัว ฮ่าๆ” เด็กหญิงหัวเราะสดใสไปกับเรื่องราวที่แสนสุขเหล่านี้ โดย
ไม่ได้ตระหนักเลยว่า ในไม่ช้าชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ