The magic magic

7.9

เขียนโดย aumnoi

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.20 น.

  36 ตอน
  29 วิจารณ์
  40.00K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 10.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) แต่งงานกันนะ!(จบของคริสตัน)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              ฉันกับริคช่วยพยุงตัวสโตรเฟอร์กลับบ้านส่วนลินลี่สะบัดก้นหนีกลับบ้านไปก่อน

              "ทำไมไอ้หมอนี่ตัวหนักจัง"ฉันบ่นพึมพำพลางมองไปที่เขาอย่างน่าสงสาร

              "ฟี...โอน่า.."เสียงสโตรเฟอร์กำลังพ่ำเพ้อเกี่ยวกับคนที่ชื่อฟีโอน่า คงจะเป็นสาวที่เขา

ไปหาตั้งแต่แรกสินะ

              "หุบปากไปเลย!/หุบปากไปเลย!"ฉันกับริคตะโกนพร้อมกันแล้วฉัยกับริคก็ตบหัวเขาแรงๆ

              ปั้ก!

              ฉันกับริคตบหัวเขาแรงๆจนทำให้สโตเฟอร์หลับไปเลย

              "นี่คงเป็นครั้งแรกที่ใจเราตรงกัน"ฉันพูดพลางมองไปที่หน้าริคแล้วก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย

              "นั่นสินะ..."เขาพูดขึ้นลอยๆ แล้วเราก็เดินมาถึงบ้านของริคพอดี ฉันวิ่งไปเปิดประตูให้

เขาเข้าไปในบ้านก่อนส่วนฉันค่อยเข้าบ้านทีหลัง 

              "เมาอีกแล้วหล่ะสิ"เสียงเวนส์เดย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสโตรเฟอร์อยู่ในอาการที่เมา

              "ก็ตามเคยครับ งั้นผมพาพี่ไปที่ห้องก่อนนะ"ริคพูดเสร็จก็ลากสโตรเฟอร์ไปที่ห้องนอน

แล้วเขาก็เดินออกมาอย่างสบายใจ

              เมื่อกี้ริคเรียกสโตรเฟอร์ว่า'พี่'...

              "ริค นายเป็นน้องชายสโตรเฟอร์หรอ?"ฉันถามเขาด้วยความสงสัยจริงๆเพราะตอนนี้ฉัน

สับสนไปหมดแล้ว

              "ก็ใช่ ฉันลืมบอกไปว่านี่พี่ชายฉันเอง"ริคพูดด้วยวคามมั่นใจ

              "ฉันก็นึกว่านายเป็นพี่ชายสโตรเฟอร์ซะอีก เห็นหน้านายแก่กว่าสโตรเฟอร์ตั้งเยอะ นาย

อายุเท่าไหร่เนี่ย?"ฉันถามเขาอีกคร้งเพราะตอนนี้กำลังสับสนขั้นรุนแรง

              "ฉันอายุ 20 ปี ส่วนสโตรเฟอร์อายุ 24 ปี ถ้าให้ฉันเดาอายุเธอก็น่าจะประมาณ    

16-17 ปีนี่แหละ"เขาพูดพลางเกาหัวตัวเอง

              "ห้ะ!? นายอายุมากกว่าฉันตั้งสามปี!ฉันไม่ได้จะว่านายนะ แต่หน้านาย'โครต'แก่เลย

อ่ะ ส่วนไอ้ขี้เมานั่นอายุตั้งยี่สิบสี่ปีแต่หน้า'โครต'เด็กเลยอ่ะ ให้ตายเถอะ...นี่ฉันคงจะเมาเหมือนไอ้

หมอนั่นแล้วใช่มั้ยเนี่ย"ฉันพูดด้วยความตกใจ ที่ฉันเน้นคำว่า'โครต'อ่ะเพราะหน้าริคแก่กว่าสโตร

เฟอร์ซะอีก

              "นี่เธอจะพ่ำเพ้อไปไหนกันเนี่ย? ก็อย่างที่เธอได้ยินนั่นแหละ"เขาพูดพลางขยี้หัวฉันอีก

รอบหนึ่ง

              "เฮ้อ...ช่างมันเถอะ! รีบๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ฉันจะได้นอนซักที"ฉันพูดตัดบทพลาง

เดินไปห้องนอนของเวนส์เดย์ ซึ่งเธอเตรียมชุดให้ฉันเปลี่ยนแล้วเรียบร้อย

              หลังจากที่ผ่านไปไม่นานฉันก็เปลี่ยนชุดเสร็จซึ่งชุดที่ฉันใส่อยู่เป็นชุดเก่าๆสีครีมปนสี

น้ำตาลอ่อน มีโบว์ให้ผูกติดกับเอว

              "ขอบคุณมากนะคะที่ให้ชุดใส่หน่ะค่ะ"ฉันพูดขอบคุณเธอแต่ว่าตัวปัญหาก็เดินมาหาฉัน

แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า

              "ชุดเชยชะมัด"เสีนงลินลี่พูดเสร็จก็เดินชนไหล่ฉันแล้วก็เดินไปที่ห้องของเธอ

              ฉันไม่พูดอะไรแล้วก็เดินไปเปิดประตูก็พบสิ่งที่ไม่น่าจะเจอ...

              "กรี้ดดด!!"ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อฉันเห็นริคกำลัง...

              เปลือยเปล่า....

              "เฮ้ย!! ปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ!"ริคพูดด้วยความตกใจจนทำให้ฉันต้องรีบปิดประตูทันที

              ปั้ง!!

              "อีตาบ้า!!ทำไมนายไม่ล็อกประตูก่อนเล่า!!"ฉันตะโกนออกมาแล้วก็เดินไปนั่งที่โซฟา

              ....

              แอ้ด...

              "เข้ามาสิ ยัยบ๊อง"ริคเรียกฉันให้เข้าห้อง ฉันเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ

              ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องและพยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื้อกี้นี้

              "ขอโทษทีที่ฉันไม่ได้-"ริคยังพูดไม่ทันจบฉันก็พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า

              "หยุดพูด! ฉันเกือบจะลืมเรื่องเมื่อกี้แล้วเชียว"ฉันพูดพลางหน้าแดงรื่อ

              "..."เขาไม่พูดอะไรได้แต่มองมาที่ฉัน

              "ไม่สนแล้วว้อยย!! ฉันนอนแล้ว! ฝันดี!"ฉันพูดเสร็จก็ล้มตัวนอนและก็ข่มตาหลับและ

พยายามไม่ฝันถึงเรื่องนั้นเด็ดขาด

              หลายชั่วโมงผ่านไป...

              ฉันพยายามจะหลับให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะภาพตอนนั้นมันยังคาตาฉันอยู่เลย ฉันมอง

ไปรอบๆก็เห็นริคนอนหลับตาพริ้มเหมือนเจ้าชายเลย ผมสีดำเข้ม ใบหน้าเรียวยาว จมูกโด่ง ช่าง

เหมาะกับเขาซะจริงถึงแม้ว่าอายุเขาจะเยอะกับฉันสามปีก็เถอะ แต่ความรู้สึกผูกพันกำลังเข้าใกล้ตัว

ฉันมากขึ้นจนกลายเป็นคำว่า'รัก'ไปเสียแล้ว ฉันลุกนอนพลางใช้ข้อศอกพิงกับหมอนแล้วก็ก้มหน้า

จูบหน้าผากเขาอย่างอ่อนหวาน แล้วก็พูดว่า

              "ฝันดีนะ ไอ้ร้ายตัวพ่อ..."ฉันพูดเสร็จก็ล้มตัวนอนอย่างสบายใจ

              ทำไมเวลาฉันอยู่ใกล้ๆเขาทำให้ฉันรู้สึกสบายใจยังไงก็ไม่รู้...

              ....

              เช้าต่อมา...

              ....

              ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบกับเพดานสีครีม ฉันมองไปรอบๆก็เจอริคกับสโตรเฟอร์กำลังหลับปุ๋ย

ทั้งคู่ สมเป็นพี่น้องที่ดีจริงๆ ฉันลุกขึ้นออกจากห้องก็เห็นเวนส์เดย์กำลังนั่งเล่นใกล้เตาผิง ส่วนยัย

ลินลี่ไม่ต้องพูดถึง เธอนั่งเล่นอยู่บนโซฟา แล้วเธอก็เห็นฉันพอดี

              "หึ ตื่นแล้วหรอ? ฉันก็นึกว่าเธอมัวแต่ไปหมกกับผู้ชาย"ลินลี่พูดพลางยิ้มให้อย่างเจ้า

เล่ห์

              "แล้วเธอจะสนไปทำไม?"ฉันถามเธอกลับ

              กริ้ง!

              กริ้ง!

              "เอ๊ะ! เสียงโทรศัพท์หนิ"ฉันพูดด้วยความตกใจกับเสียงโทรศัพท์เล็กน้อย

              "แล้วเธอได้ยินเสียงเป็นหมารึไง!?"ลินลี่พูดเสร็จก็รับสายโทรศัพท์ทันที

              "สวัสดีค่ะ นี่ใครหรอคะ?"ลินลี่พูดสุภาพ แต่เวลาพูดกับฉันนี่ด่าฉันอย่างกับแม่ค้าใน

ตลาดทะเลาะกันเลย

              ....

              ซักพักเธอก็วางสายแต่สีหน้าเธอดูตื่นเต้นมากๆแล้วเธอก็หันมามองหน้าฉันและยิ้มให้

ฉันอย่างเจ้าเล่ห์

              "มองอะไรยะ? ไม่มีอะไรให้มองรึไง?"เธอพูดเสร็จก็เดินไปที่ห้องของเธอ

              ฉันเงียบไปซักพักแล้วก็นั่งลงกับโซฟาแล้วริคก็เดินมาหาฉันพอดี

              "ไง กลุ้มใจอะไรรึเปล่า?"ริคถามฉันด้วยความเป็นห่วง

              "ตอนนี้ภาพเมื่อตอนนั้นมันยังคาตาฉันอยู่เลย"ฉันพูดพลางชี้ไปที่ริค

              "ไหนว่าเธอจะไม่คิดถึงมันแล้วไง ไหงเธอถึงพูดถึงมันหล่ะ?"เขาถามฉันพลางมองมาที่

ฉันอย่างไม่คลาดสายตา

              "เฮ้อ...ช่างมันเถอะ แล้วเราจะกินข้าวกันตอนไหนหล่ะ?"ฉันพูดเปลี่ยนเรื่องแล้วก็ยิ้มให้

เขาอย่างไม่เต็มใจ

              "เป็นอะไร? ทำไมวันเธอเศร้าจัง?"ริคถามฉันอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

              "เปล่านี่!!"ฉันตะโกนใส่เขาจนทำให้เขาตกใจ

              "..."เขาไม่พูดอะไรได้แต่นั่งมองฉัน

              "ฉันขอโทษ...."ฉันพูดขอโทษเขา

              จะทำยังไงดีหล่ะ...

              ในเมื่อใจฉันมันสั่งให้ฉันบอกเขาว่า'รักเขา'....

              แต่อีกใจข้างหนึ่งมันสั่งให้ฉันไม่บอก'รักเขา'....

              ฉันควรจะเลือก'บอก'หรือ'ไม่บอก'ดีหล่ะ...

              "งั้นผมไป-"คยังพูดไม่จบฉันก็พูดแทรกเขาทันที

              "ริค คือฉันมีอะไรจะบอก"สุดท้ายฉันก็ต้องบอกเขา

              "?"เขามองหน้าฉันด้วยความสงสัย

              "คือว่า...ฉัน..."ฉันพูดลากเสียงยาวและหัวใจก็เต้นแรงมากจนแทบจะระเบิดออกมา

แล้ว

              "..."เขาไม่พูดอะไรได้แต่ตั้งใจฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูด

              "ฉัน....ฉัน..."ฉันลากเสียงยาว แต่ว่า...

              ปั้ง!

              "คริสตัน!ลูกอยู่ในนี้รึเปล่า!?"เสียงนี้มัน...

              คุณแม่!

              "แม่!"ฉันตะโกนออกมาสุดเสียงเมื่อฉันเห็นแม่ที่กำลังหอบจากการวิ่งมาหาฉัน

              ทำให้ทุกคนในบ้านเงียบกันหมด...

              "คริสตัน!อยู่นี่เอง แล้วนี่เธอ!-"แม่ฉันยังพูดไม่จบก็เหลือบไปเห็นเวนส์เดย์ที่กำลังอึ้ง

อยู่

              และทุกคนก็เงียบกันอีกครั้งหนึ่ง...

              "นี่เธอ...มาอยู่นี่ได้ไงกัน?"แม่ฉันถามเวนส์เดย์ที่กำลังทำหน้าเหวออยู่

              "เธอ...ฉันสัญญากับเธอไว้แล้วนี่ว่าจะไม่อยู่ที่นี่อีก"เสียงเวนส์เดย์เอ่ยขึ้นมาทันทีที่ฉัน

หันไปมองเธอ

              "เรื่องนี้ช่างมันเถอะ คริสตัส!กลับบ้าน!"เสียงแม่ฉันพูดขึ้นพลางดึงแขนฉันแต่ว่าฉันรั้ง

แขนแม่ไว้ได้ให้ไป

              "แม่! ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ! หนู!จะ!อยู่!ที่นี่!"ฉันพูดเน้นเสียงจนทำให้แม่แทบช็อก

              "เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ!?"เสียงแม่รู้สึกว่าจะโกรธฉันมากจนเส้นเลือดขึ้นหน้า

              "หนูจะอยู่ที่นี่! และไม่มีวันกลับไปบ้านเด็ดขาด!"ฉันพูดเสร็จก็โอบแขนริคไว้ไม่ปล่อย

ทำให้เขาตกใจมากๆ

              "..."แม่ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ทำสีหน้าอ่อนแรง แล้วแม่ก็ล้มฟุบลงไป

              ตุ้บ!

              "แม่!!"ฉันตะโกนออกมาด้วยความตกใจพลางเขย่าตัวแม่แรงๆ

              ผ่านไปหลายชั่วโมง...

              ฉันได้แต่ภาวนาว่าขอให้แม่ไม่เป็นอะไร และฉันก็นั่งกุมขมับดูแม่อย่างเหลืออด ซึงฉัน

ได้แต่เฝ้ามองดูแม่อย่างเดียว

              "คริสตัน แม่เธอเป็นยังไงมั่ง?"ริคถามฉันพลางนั่งลงข้างๆฉัน

              "แม่ฉันยังไม่ตื่นเลย ไม่ขยับเลยซักนิด"ฉันพูดพลางกุมมือแม่แน่น

              "แม่เธอก็คงเพลียมากจนทำให้เธอสลบไปก็เท่านั้น"ริคอธิบายให้ฉันฟังพลางกุมมือฉัน

แน่น

              "ให้ตายสิ...ฉันคงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เเม่ต้องมาเป็นแบบนี้"ฉันพูดโทษตัวเองที่ทำกับ

แม่แบบนี้

              "อย่าไปคิดอย่างนั้นสิ"ริคพูดปลอบใจฉัน

              "...."ฉันไม่พูดอะไรได้แต่มองหน้าพลางยิ้มให้เขาเล็กน้อย

              "และสิ่งที่ฉันอยากจะบอกเธอมาตั้งแรกที่ฉันได้เจอเธอเป็นครั้งแรก นี่เป็นสิ่งที่บ้ามาก

แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือไม่"เขาพูดพลางมองหน้าฉันอย่างจริงจัง

              "?"ฉันมองหน้าเขาด้วยความสงสัย

              "แต่งงานกับผมนะ..."ประโยคสุดท้ายที่ริคพูดทำให้ฉันร้องไห้ออกมาไม่หยุด เป็นครั้ง

แรกที่มีคนมาสารภาพรักกับฉันเป็นคนแรก

              ถึงแม้จะเป็นการขอแต่งงานที่ไม่เลิศเลอเพอร์เฟกส์...

              แต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขมากที่สุด...

              "ได้สิ..."ฉันพูดพลางปาดน้ำตาที่หลั่งออกมาไม่หยุด

              "นี่พวกเธอสวีตกันอยู่ได้นะ"เสียงแม่ฉันเอ่ยขึ้นมาพลางมองมาที่ฉันกับริค

              "แม่!"ฉันตะโกนออกมาด้วยความดีใจพลางกอดแม่แน่น

              ....

              "นี่เป็นวันดีแล้วนะคะที่คุณจะได้แต่งงานกับเขาแบบจริงใจหน่ะ"เสียงแม่บ้านที่ชื่อโรส

เอ่ยขึ้นมาพลางทำผมให้ฉัน

              "ก็ไม่รู้สินะ ก็เขามาสารภาพขอแต่งงานเองนี่"ฉันพูดอย่างมีความสุข

              "ดีจังเลยนะคะ อยากแต่งงานบ้างจัง"โรสบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

              "..."ฉันไม่พูดอะไรได้แต่นั่งยิ้อยู่คนเดียวอย่างมีความสุข

              หลังจากที่แม่ฉันหายป่วย เธอก็คงได้ยินที่ริคขอฉันแต่งงานแล้วเธอก็ตัดสินใจให้ฉัน

แต่งส่วนที่แม่ของริคที่ชื่อเวนส์เดย์เป็นแม่ที่แท้จริงของฉัน เพราะว่าแม่ริคกับแม่ฉันเป็นเพื่อนกันและ

ตอนที่เธอตั้งท้อง พอออกมาก็ปรากฏว่าเด็กคนที่อยู่ในท้องตาย เวนส์เดย์ก็เลยตัดสินใจช่วยเธอ

โดยการยกตัวฉันให้เป็นลูกของเธอซะเอง

              ณ โบสถ์

              ประตูข้างนอกเปิดอย่างช้าๆจนสุด ทุกคนต่างมารวมตัวกันที่นี่ ริคกำลังรอฉันอยู่กับบาท

หลวงคนเดิม ฉันมองไปรอบๆก็พบแต่คนรวยๆทั้งนั้น และ'มิเรีย'ก็มาร่วมในงานนี้ด้วย

              ฉันเดินมาถึงบาทหลวงฉันมองหน้าริคอย่างตื่นเต้นและบาทหลวงก็พูดทำพิธีไปเรื่อยๆ

จนริคพูดว่า"ครับ" และบาทหลวงก็พูดไปเรื่อยๆจนถึงตาที่ฉันจะต้องพูดแล้วว่า

              "ค่ะ!"ฉันพูดอย่างมั่นใจ แล้วจากนั้นเสียงระฆังที่อยู่เหนือหัวก็ดังขึ้น ริคจูบฉันอย่างอ่อน

หวานโดยที่ฉันยังไม่ทันตั้งตัว ทุกคนในโบสถ์ต่างดีใจกันใหญ่ และเขาก็ถอนจูบแล้วก็ถามฉันว่า

              "คุณพร้อมที่จะดูแลทายาทรึยัง?"ริคถามฉันพลางโอบเอวฉัน

              "ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอประมาณแปดปีเก้าปีจะได้มั้ย?"ฉันถามเขากลับ

              "ก็แล้วแต่คุณนะ"เขาพูดเสร็จก็จูบฉันต่อ

              ช่างเป็นวันที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!..

              ....

             เว็บขีดเขียน 

             (คริสตัน จบแล้วจ้า รอของเบอรี่นะจ้ะ)

              

 

 

             

             

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา