welcome in to death land ยินดีต้อนรับสู่แดนความตาย
เขียนโดย darkblack
วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.28 น.
แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 16.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"Were visitted by death"
"you never escape from here"
"you must die"
"sacrifice my life for this fientiya!!!!!!!!!"ผมอยู่ที่ไหนแล้วเสียงนี่มัน...ของเจ้านั่น!
ผมรีบหันซ้ายหันขวามองหาต้นเสียงผมรู้ว่านี่คือเสียงของมัน...เฟียนติยา... แต่มันพูดอะไรผมไม่รู้เรื่องเลยนี่มันภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาฝรั่งเศษนี่นา ผมเดินไปเรื่อยๆบนทางที่เป็นสีแดงฉานราวสีเลือดรอบๆที่นี่มีแต่ซากศพคนตายหรือไม่ก็คนตายที่เน่าจนกลายเป็นซอมบี้เดินได้ เดินไปมาอย่างเชื่องช้าบ้างก็อีกาหัวแหว่งสมองไหลเยิ้มเกาะอยู่บนกิ่งไม้และป้ายสุสาน ผมเหงื่อแตกตัวซีดไปหมดที่นี่มันอะไรกัน ผมเดินไปตามทางสีเลือดนี่จนเห็นปราสาทตายโหงสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้ามีเศษซากของชิ้นส่วนมนุษย์ถูกสับเละเป็นชิ้นบ้างโจ๊กบ้างเกลื่อนกลาดเต็มไปหมดทั้งปราสาท
"ฮือๆๆๆ...ฮึกฮือๆๆ..."จู่ผมก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากปราสาท ผมทำใจสักพักก็เดินเข้าไปแบบกล้าๆกลัวๆไม่แน่...นั่นอาจจะเป็นคนที่มีชีวิตเหลือรอดก็ได้
ผมเดินเข้ามาภายในปราสาทรอบๆของที่นี่มีแต่ศพและศพเต็มไปหมดบางตัวก็กลายเป็นซอมบี้พิการที่คลานอย่างช้าๆพยายามจะออกจากที่นี่ แต่มีซอมบี้กับศพนอนขยับตัวอยู่ตรงหน้าประตูสีดำราวกับว่า...ทุกอย่างอยู่ภายในประตู
"ฮือๆๆๆ..ฮือ....."เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังมาจากภายในประตูบานนั้นอย่างน่าสงสารเธออาจกำลังโดนทำร้ายก็ได้ผมต้องช่วยเธอและถามเธอถึงทางหนีที่ปลอดภัยที่สุด ผมจึงกัดฟันทำใจให้กล้าเข้าไว้เดินเหยียบพวกซากศพและซอมบี้เดินไม่ได้อย่างสยองแล้วรีบเปิดประตูนั่นอกอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้ช่วยเธอ
ภายในห้องนั้นมีผู้หญิงผิวขาวซีดผมสีดำยาวรุงรัง ชุดขาดๆสีขาวเต็มไปด้วยเลือดและเศษเนื้อเน่าๆเธอหันมาหาผมทำให้ผมยิ่งอยากจะร้องให้ดังๆเพราะปากเธอข้างหนึ่งแหว่งอีกข้างหนึ่งฉีกถึงรูหู หน้าผากเหมือนถูกกรีดให้สมองไหลลงมาเป็นเส้นๆ ดวงตาโบ๋ไม่มีดวงตาแต่มีเลือดไหลเยิ้มท่วม มือข้างซ้ายถือหัวใจที่มีรอยแหว่งเหมือนถูกกัดกิน มือขวาถือเครื่องในมนุษย์อาบเลือดที่มีรอยแหว่งเช่นกัน ผมรีบหันหลังหวังจะหนีแต่ว่าต้องชะงักเพราะประตูมันปิดแบบล๊อกอย่างดี
"ช่วยด้วย!!!!!!!!!!ช่วยผมด้วย!!!!ใครก็ได้"ความพยายามของผมช่างเสียปล่าวเหลือเกินเพราะนอกจากทุบประตูที่ไม่ยอมเปิดออกจนมือช้ำแล้วไม่มีใครได้ยินเสียงผมด้วย
"ฮือๆๆ...ฮือๆๆ....เฟียน...เฟียนติยา..."ผมรีบหันกลับมาพบว่าผู้หญิงตายซากคนนั้นอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับพูดชื่อของเฟียนติยา ในตอนนั้นผมเผลอเหลือบมองศพที่ผู้หญิงคนนี้กิน ผมสติหลุดลอยทันทีที่ได้เห็นศพนั่นชัดๆ
เจ้าของเรือนผมสีทอมเลื่อมขาวยาวสลวยถึงเข่า แขนขาที่ถูกสับจนเละหน้าอกกับท้องที่ถูกแหวะออกแล้วกินอวัยวะแต่สิ่งอื่นใดที่ยังคงเค้าเดิมจนจำได้คือ..ใบหน้าอันงดงามสะสวยที่เปื้อนเลือดเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวใสเหลือกค้างอย่างทรมาร เรียวปากสีชมพูที่เคยสวยสดบัดนี้ได้ดำไร้สีสัน....ศพนั่นมัน....เชล
"เฟียนติยา.ฮือๆๆๆ......เฟียนติยา..."ผู้หญิงคนนั้นเอามือล้วงปากผมแล้วล่วงลงไปจนปากผมฉีกขาดแขนของผู้หญิงคนนั้นล้วงเข้าไปจนมิดไหล่ผมดิ้นเพราะความเจ็บปวดและทรมารแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ดึงแขนออกมาพร้อมกับหัวใจและตับกับลำไส้ใหญ่จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็กินมันเข้าไปยิ่งทำให้ผมยิ่งเจ็บและทรมารแล้วเธอก็กางกรงเล็บออกมาแหวกพุงผมพร้อมกับข่วนตัวผมให้แหลกเป็นชิ้นๆไม่ยั้งราวกับกำลังสนุก ผมไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้ ใครก็ได้ อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
"อ๊าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"ซาน!!!!"
"เฮือก!!"ผมลืมตาขึ้นมาอย่างเหลือกๆพร้อมกับเหงื่อแตกท่วมตัว ผมหันไปรอบๆก็เห็น...พี่เอลอาร์ต้า พี่เดล พี่ลูฟ พี่สเปล อาจารย์เดฟ ลีเนตตี้ เชลและแอลนั่งอยู่รอบๆเตียงผม
"พวกคุณ....."
"ซาน!นายไม่เป็นไรใช่มั้ย ทำไมร้องอย่างโหยหวญแบบนั้น"เชลถามผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง นี่ผมยังไม่ตายสินะเชลก็ยังไม่ตายบ้าชะมัด นี่ผมฝันหรือเนี่ย
"เอ่อ..เกิดอะไรขึ้น"
"นายหมดสติไปน่ะ"แอลถอนหายใจแล้วจุดบุหรี่ขึ้น
"ครูเห็นพวกนักเรียนกรีดร้องกันดังมากครูเลยรีบวิ่งจากห้องพักครูมาที่ห้องเรียนศิลปะ ครูเห็นอาเทอร์กับมาร์ชตายครูช๊อกมาก"อาจารย์กลืนน้ำลายแล้วดันแว่นแบบเครียดๆ
"ชั้นกับลูฟรีบวิ่งมาตามเสียงกรี๊ดก็เห็นไอ้เด็กสองคนนั่นตายแล้วเห็นนายยืนตัวแข็งทื่อทำตางค้าง"พี่สเปลกินพาราพลางเล่าเรื่องส่วนพี่ลูฟก็พยักหน้าตอบผมเบาๆ
"ชั้นกับเชลหลังจากเริ่มหายกลัวก็รีบวิ่งออกมาจากห้องเห็นสองคนนั้นตาย...แล้วนายก็เป็นลมแต่โชคดีนะที่แอลรับตัวนายไว้ทันไม่งั้นหัวฟาดพื้นแน่"ลีเนตตี้เอาอุปกรณ์ทำแผลออกมาล้างด้วยสีหน้าที่ดูก็รู้ว่ายังหวาดหวั่นไม่หาย
"สุดท้ายพี่ก็แบกซานวิ่งมาห้องพยาบาล"พี่เดลกุมมือผมแน่นอย่างห่วงมากๆ
"พี่ช่วยปลอบพวกน้องๆที่เหลือแล้วพาไปห้องครูใหญ่น่ะไอน้องชาย"พี่เอลอาร์ต้ายิ้มแป้นพลางตบไหล่ผมเบาๆ
"งั้น...หรือครับ"ผมสายตาหลุบต่ำลงนี่เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ อาเทอร์กับมาร์ชตายจริงๆ ยมทูต เฟียนติยาให้รูปภาพฆ่าคนจริงๆ
"......มีคนมา"แอลทิ้งบุหรี่แล้วมองไปทางหน้าประตู หน้าประตูมีชายหนุ่มใส่ชุดสูตสีขาวดูดีมีชาติตระกูล ผมสีดำ ดวงตาคมกริบเหมือนกับแอลแต่ว่าสีตานั้นเป็นสีน้ำเงินไม่ใช่สีฟ้าแถมสายตายังดูเหยียดหยามอย่างไรก็ไม่รู้
"ชั้นขอเชิญพวกนายและพวกเธอทุกคนไปสอบปากคำที่ห้องในฐานะผ.อ.โรงเรียนแห่งนี้ ในกรณีที่พวกนายรู้เหตุการทุกอย่าง"ชายคนนั้นเป็นผ.อ.นี่เองแต่ทำไมมาเรียกพวกเราอย่างเดียวล่ะนักเรียนคนอื่นๆทำไมไม่เรียก
"อย่ามาตลกนะอีล....นายจะปรักปรำพวกเรารึไง"แอลเดินมาเผชิญหน้ากับผ.อ.อีลอย่างโกรธสุดๆ
"แอลพี่ไม่ได้มาโทษแอลกับเพื่อนๆหรอกนะ แต่พี่อยากได้หลักฐานว่าพวกนายทุกคนไม่ได้ฆ่าเด็กดีเด่นสองคนนั้น"อ๋อที่แท้ผ.อ.อีลกับแอลเป็นพี่น้องกัน มิน่าล่ะว่าทำไมหน้าคล้ายกันมากๆ
"อย่ามาพูดจาพล่อยๆ ชั้นจำไม่เห็นได้ว่าเคยมีพี่ชายอย่างนาย....ไสหัวออกไปจากชีวิตชั้นซะ"แอลกำหมัดแน่นแล้วพูดเสียงดังจนผมและคนรอบๆผมอึ้งไปเลย
"อ่า.....ยังไงพวกนายก็ถามชั้นมาที่ห้องเดี๋ยวนี้..."ผ.อ.อีลหันหลังไปด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เจ็บปวดของผู้เป็นพี่ชายที่ถูกน้องชายเกลียดเข้าไส้
ผมกับเชล ลีเนตตี้ แอล พี่เอลอาร์ต้า พี่เดล พี่ลูฟ พี่สเปล อาจารย์เดฟเดินตามผ.อ.มาอย่างหงุดหงิด สักพักก็มาถึงประตูสีขาวทองอร่ามตา ผ.อ.เปิดประตูเข้าไปแล้วให้พวกเราเข้ามา ห้องนี้เป็นห้องที่กว้างโออ่ามากๆ เฟอร์นิเจอหรือเครื่องใช้อย่างอื่นล้วนเป็นสีขาว ผ.อ.เดินไปนั่งที่โต๊ะประจำการของตน เก้าอี้ทางซ้ายมีผู้หญิงท่าทางเหมือนมีความลับนั่งอยู่ที่เสื้อปักชื่อว่า ครูใหญ่ เมียนน่า ส่วนเก้าอี้ทางขวาก็มีผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับผมสามคนนั่นวางท่าแล้วหันมาทางผมแบบเยาะเย้ย แต่ละคนนอกจากหล่อแล้วยังมีสไตน์การแต่งตัวแปลกแตกต่างด้วย
'พี่เดลๆ สามคนนั่นใครหรือ'ผมกระซิบถามพี่เดลที่ยืนอยู่นิ่งๆ
'สามหนุ่มฮอตหรือเรียกสั้นๆว่าไอดอลประจำโรงเรียน'พี่เดลกระซิบตอบผม
'คนแรกที่ดูขี้เล่นนั่นชื่อลูกิ คนที่สไตน์การแต่งตัวเท่นั่นชื่อครัช ส่วนคนที่ดูหยิ่งๆชื่อเอส'พี่เอลอาร์ต้ากระซิบบอกผม
'สาวๆทุกคนชอบแต่ชั้นกับเชลไม่ชอบเลยน่ะ'ลีเนตตี้กับกระซิบบอกแบบเบาสุดๆ
'เพราะถึงแม้สามคนนั้นจะดูต่างกันแต่สิ่งที่เหมือนกันน่ะ'พี่สเปลพูดเบาๆ
'ความหลงตัวเองและดูหมิ่นคนอื่น'พี่ลูฟพูดเสียงเรียบ
"ขอเริ่มการสอบถามนะคะ เริ่มจากนักเรียนใหม่ซานคุณอยู่ที่ไหนในตอนก่อนเกิดเหตุและเกิดเหตุ"ครูใหญ่เมียนน่าถามผมแบบเสียงดุ
"ผมอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ ผมเดินไปดูรูปภาพบนฝาผนังแล้วจู่ๆภาพบนฝาผนังก็สว่างวาบแล้วทุกอย่างในห้องก็มีแต่เลือดประตูก็ล๊อกพยายามแค่ไหนประตูก็ไม่พัง..แล้ว"
"ปั้นน้ำเป็นตัวว่ะ ข้าคนก็บอกมาเถอะไอ้เด็กใหม่"เอสนั่งเท้าคางมองผมแบบว่าผมมันบ้า
"อย่าขัดค่ะ เอาล่ะคนต่อไป แอล"
".......ชั้นอยู่ในห้องตลอดจนเกิดเรื่อง....แต่ประตูก็ล๊อก"แอลตอบหน้าตาย
"ฮะๆนั่นแหละฆาตกร"ลูกิไขว่ห้างหัวเราะเยาะเย้ยแอล
"อยากตายหรอ"แอลสงสายตาเยือกเย็นใส่ลูกิจนเงียบไปเลย
"คนต่อไป ลีเนตตี้"
"ชั้นอยู่ในห้องกับเชลตลอดค่ะไม่ได้ไปไหนจู่ๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆและก็มีเลือดเต็มห้องเลยชั้นกับเชลกลัวมากจนไ่กล้าขยับตัวได้แต่กอดสั่นกันใต้โต๊ะค่ะครูใหญ่"
"จริงๆนะคะครูใหญ่"
"โถ๋ๆน่าสงสารจังแม่ลูกแมวน้อยทั้งสอง เดี๋ยวพี่จะปลอบให้ขึ้นสวรรค์เลย"ครัชส่งสายตาทะเล้นให้กับเชลและลีเนตตี้อย่างน่าหมั่นไส้
"คนต่อไป ลูฟ สเปล"
"ผมกับลูฟอ่านหนังสือการ์ตูนกันอยู่ที่ห้องสมุดแต่จู่ๆฟ้าก็ผ่าแล้วได้ยินเสียงกรี๊ด"
"ผมกับสเปลเลยรีบวิ่งไปตามเสียงเลยพบกับพวกซานและนักเรียนคนอื่นๆ"
"คนต่อไป เดล เอลอาร์ต้า"
"ผมลอกการบ้านเอลอาร์ต้าอยู่ส่วนเอลอาร์ต้าก็เล่นโทรศัพท์ แต่จู่ๆฟ้าก็ผ่า"
"ผมได้ยินเสียงกระจกแตกดังมากแล้วตามด้วยเสียงกรีํ๊ดผมกับเดลเลยรีบวิ่งไปดูนึกว่ามีคนต่อยกัน"
"คนต่อไป อาจารย์เดฟ"
"ผมอยู่ที่ห้องพักครูกับครูคนอื่นๆอีก5-6คนตลอดเวลาเลยครับแต่ตอนฟ้าผ่านั้นผมรู้สึกใจไม่ดีเลยรีบวิ่งแจ้นออกไปหานักเรียนห้องผมที่อยู่ห้องศิลปะเลยเห็น อาเทอร์กับมาร์ช..."
"ค่ะ สรุปรวมๆ พวกคุณที่คนมีพยานหลักฐานยืนยันที่อยู่กันทั้งหมด ผ.อ.อีลค่ะ พวกนี้คงไม่ได้โกหกอำพลางฆ่าคนหรอกค่ะ"ครูใหญ่เมียนน่าตัดบทอาจารย์เดฟแล้วหันมาบอกกับผ.อ.
"ฮะๆๆๆๆๆๆพวกผมว่าพวกนั้นอาจจะรวมหัวกันก็ได้"ลูกิหัวเราะแบบมันเป็นเรื่องตลก
"ว่ายังไงนะ!!!"พี่เดลพูดอย่างโมโห
"อย่าร้อนตัวสิรุ่นพี่เดล....ถ้าไม่ได้ทำจริงๆจะร้อนตัวทำไมครับ"ครัชนั่งไขว้ขามองพี่เดลแบบสะใจ
"พวกนายอย่ามาโทษเดลนะเว้ย!!!!!!"พี่เอลอาร์ต้าเริ่มมีน้ำโหแล้วหันไปตวาดครัช
"พี่เอลอาร์ต้าครับ คิดจะปกป้องฆาตกรหรอครับ อ้อจริงสิ พี่กับพี่เดลน่ะร่วมเตียงกันจนติดใจลีลาเลยอยากปกป้องซึ่งกันและกันสินะ ก็นะหญิงชายรักกันมันก็งี้แหละ"เอสพูดกวนประสาทพี่เอลอาร์ต้าอย่างสนุกปาก
"หญิงพ่องสิ!!!!!ชั้นทนไม่ไหวแล้ว!!!!ไอ้เด็กเวร!!!!!!!!"พี่เอลอาร์ต้าสุดจพทนทำท่าจะชกเอส
"เฮ้ยๆๆใจเย็นเอลอาร์ต้า"พี่สเปลล๊อกตัวพี่เอลอาร์ต้าทันทีที่พี่เอลอาร์ต้าเงื้อกำปั้น
"ปล่อยชั้นนะไอ้สเปล!!!!จะสั่งสอนไอ้เด็กเวรนั่น"แต่ดูเหมือนพี่เอลอาร์ต้าจะแรงเยอะกว่าพี่สเปลเพราะดิ้นไปดิ้นมาจนพี่สเปลจะยึดไม่ไหวแล้ว
"หยุดดีกว่าอย่าไปสนใจคำพูดของเด็กไม่รู็จักหัวนอนปลายเท้าเลย"พี่ลูฟเห็นท่าจะแย่เลยรีบเข้ามาล๊อกพี่เอลอาร์ต้าอีกแรงส่วนพี่เดลได้แต่กำกำปั้นแบบแค้นๆ
"ขี้ขลาดนี่หว่าหึๆๆ"สามคนนั้นพูดพร้อมกันแบบสะใจแล้วเยาะเย้ยกันไม่หยุด
พลั่ก!ตุบ!ปลึก!
แต่ทันใดนั้นลูกกิครัชแล้วเอสโดนเตะสอยกันกระเด็นโดยฝืมือของแอล แอลมองสามคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็นที่สื่อควาหมายว่า'ถ้ายังไม่หุบปากตายแน่ๆ'
"อย่าใช้ความรุนแรงค่ะ"ครูใหญ่รีบช่วยพยุงสามคนนั่นแล้วหันมาต่อว่าแอล
"คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าผม....คุณชู้..."
"หนอย!!!"
"พอแค่นั้นแหละ"ผ.อ.พูดออกมาแบบอารมร์เสีย
"หยุดทะเลาะไร้สาระกันได้แล้ว พวกนายทุกคนไปได้"
"แต่ว่า!!ผ.อ.คะ..."
กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ยังไม่ทันที่ครูใหญ่จะได้พูดต่อจู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังมาจากหน้าประตูผมกับเอลจึงรีบเปิดประตูออกไปดู สิ่งที่พวกผมเห็นคือเด็ฏผู้หญิงถูกฟันขาดจนชิ้นส่วนขาดกระจุย ส่วนหัวโดนมีดปักบนผนังสูงเลยหัวผมนิดหน่อย แขนสองข้างถูกปักด้วยกระจกบนโคมไฟและข้างประตู นิ้วมือตกเกลื่อนกลาดเต็มตรงจุดที่หัวโดนปัก ขาทั้งสองแตกข้างประตูข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งขาดท่อนห้อยตรงหน้าต่างที่แตก ส่วนลำตัวและเครื่องในถูกสับจนเละเต็มทางเดิน เลือดท่วมเต็มทางเดินจนกลายเป็นพรมสีเลือด รอยฟันพวกนี้มันไม่เหมือนรอยของมีดหรือเลื่อยแต่มันคล้ายๆรอย.....เคียว
"ด...ดูที่กำแพงสิ"เชลชี้ไปที่กำแพงอย่างสั่นๆ
พวกเราหันไปตามที่เชลชี้ก็เห็นบนกำแพงมีอักษรสีแดงซึ่งน่าจะถูกเขียนด้วยเลือด..ซึ่งมันเขียนว่า........Sacrifice the two
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ