เรื่องราวจากความทรงจำ (Memory story)
7.6
เขียนโดย หมูขาว
วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.06 น.
6 ตอน
3 วิจารณ์
10.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) อดทนไว้ ยังได้อยู่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฝ้ายตะโกนใส่หน้าพล แล้วหันหลังกลับรีบเดินออกมาจากตรงนั้น
"แล้วใครใช้ให้นายมายืนข้างหลังคนกำลังกินน้ำด้วยล่ะ"
"นี่เธอ ตอบข้าง ๆ คู ๆ นี่นา พูดบ้าอะไรของเธอ แล้วนี่เธอไม่คิดจะขอโทษหน่อยเลยหรือ ทำเรื่องสกปรกขนาดนี้เนี่ย"
พลดึงมือฝ้ายไว้ ไม่ให้เดินหนี ฝ้ายหันมาตอกกลับอย่างเจ็บแสบว่า
"คำขอโทษ เค้ามีไว้พูดกับคนที่เค้ารู้คุณค่าของมัน สำหรับนาย ๆ ก็ไม่ชอบพูดคำนี้หนิ แล้วจะหวังที่จะได้ยินจากปากชั้นไปทำไม"
พลโมโหมาก ไม่อยากเชื่อว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ จะปากจัดอย่างนี้
"นี่เธอ ปากดีนักนะ!"
พลเอื้อมมือทั้งสองข้างหมายจะจับตัวฝ้ายไว้ แต่ด้วยการฝึกฝนทักษะป้องกันตัวมา ฝ้ายเบี่ยงตัวหนีได้ทัน ฝ้ายกระหยิ่มยิ้มย่อง และเงยหน้ามองพล
"อ้อ งั้นเอานี่ไป คนรวยๆ อย่างนายคงต้องใช้วิธีการแก้ไขปัญหาแบบนี้สินะ"
ฝ้ายหยิบเงินแบงค์ยี่สิบจากกระโปรงออกมา แล้วยัดลงไปในมือพล
"เอาค่าชดใช้ไป เท่านี้ก็คงพอสำหรับคนอย่างนาย"
ฝ้ายรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว พลกำแบงค์ในมืออย่างงงๆ ถึงแม้ว่าพลจะโกรธและเจ็บปวดกับคำพูดของหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่พลกลับมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน สงสัยเป็นเพราะไม่เคยมีใครกระทำอย่างนี้ต่อหน้าเค้า
วันต่อมา ล็อกเกอร์ของฝ้ายโดนแงะ หนังสือเรียนของเธอโดนฉีกขาดกระจัดกระจาย มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ ถูกติดไว้ด้านในล็อกเกอร์ มีข้อความ เขียนตัวโต ๆ ด้วยสีแดงว่า "อย่ายุ่งกับพลอีก!" ฝ้ายกระชากแผ่นกระดาษโน้ตแผ่นนั้น และขยำทิ้งอย่างโมโห และหงุดหงิดใจ
"เพราะอีตานั่นอีกแล้ว ซวยจริง ๆ เลย โธ่เอ๊ย แล้วจะเอาอะไรไปนั่งเรียนล่ะเนี่ย"
ฝ้ายมองหนังสือที่แสนจะยับเยินของเธอ ด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย
คืนนั้นฝ้ายเอาหนังสือที่ถูกฉีดขาดของเธอกลับมาซ่อมที่บ้าน เธอค่อย ๆ ซ่อมอย่างเงียบ ๆ พยายามไม่ทำให้ป้าของเธอที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ รู้สึกตัวจนต้องตื่นขึ้นมา แต่ทว่าความพยายามของเธอไม่สำเร็จซะแล้ว
"หนูฝ้าย ทำอะไรอยู่ ลูก ไม่หลับไม่นอน" ผู้เป็นป้าถามหลานสาวที่รักด้วยความเป็นห่วง
"อ้าว หนูทำให้ป้าตื่นเหรอคะ ป้านอนต่อเถอะ หนูทำงานนิดหน่อย" ฝ้ายตอบแบบปิดบัง เธอไม่อยากให้ป้ารู้สึกเป็นห่วงเธอ
"ไหน ๆ ตายแล้ว ใครทำหนังสือของหนูอย่างนี้เนี่ย ใจร้ายจริงๆ กว่าหนูจะได้พวกมันมา หนูต้องทำงานเก็บเงินแทบตายเลยไม่ใช่เหรอ" ป้ามองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือหลานแล้วตกใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ ป้า หนูซ่อมจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็อ่านได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ" ฝ้ายยิ้มกับป้า แล้วพยายามบอกให้ป้าไปนอนต่อ
"โถ หลานรักของป้า ตั้งแต่พ่อแม่ของหนูจากไป หนูต้องมาอยู่กับป้าที่แก่ ๆ ป่วย ออด ๆ แอด ๆ อยู่ตลอดเวลา หนูต้องทำงานเลี้ยงดูตัวเอง แล้วยังต้องหาเงินมารักษาพยาบาลป้าตลอดอีก ... ถ้าป้าตายไป ป้าจะมีหน้าไปเจอพ่อแม่ของหนูได้ยังไงกัน ฮือ ๆๆ...." ผู้เป็นป้าร้องไห้ออกมา ก้มหน้ามองพื้น คิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา ที่ฝ้ายต้องลำบากทำเพื่อตัวเอง ..
ฝ้ายหันมาโอบกอดคุณป้าและพูดว่า
"ป้าคะ ถ้าหนูไม่มีป้า หนูอาจจะต้องไประหกระเหินอยู่ไหนก็ไม่รู้ หรือ หนูอาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้ ทุกวันนี้ที่หนูมีบ้านอยู่ ได้กินอาหารอร่อย ๆ ที่ป้าทำ มีป้าให้หนูกอดทุกวัน หนูก็มีความสุขมาก ๆ แล้วนะคะ หนูรักป้านะคะ อย่าร้องไห้เลย ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ หนูยังมีแรงอีกเยอะค่ะ หนูจะสู้ต่อไปค่ะ"
ฝ้ายเช็ดน้ำตาให้ป้าของเธอ และยิ้มอย่างสดใสให้ป้าดู
"ป้า พรุ่งนี้ทำบัวลอยไข่หวานของโปรดให้หนูกินหน่อย เพื่อเป็นกำลังใจให้หนูนะคะ แหะ แหะ พ่อสอนเสมอว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ!"
ผู้เป็นป้าพยักหน้า และระบายยิ้มออกมาจนได้ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่แสนจะทะเล้นของหลานสาวอันเป็นที่รัก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"ใบเฟิร์น ใบเฟิร์น" ฝ้ายตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่เดินอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก.. แต่ใบเฟิร์นเหมือนไม่ได้ยิน และเดินนำหน้าขึ้นตึกไป
"เอ .. หรือว่า ไม่ได้ยินเสียงเรานะ รีบไปไหนหรือเปล่าน้า อ้อ.. วันนี้ต้องเข้าห้องแล็บเรียนคอมฯ นี่นา"
ฝ้ายรำพึงรำพันกับตัวเอง และรีบเดินเร็ว ๆ ไปที่ล็อคเกอร์ของเธอเพื่อเก็บรองเท้าและเดินขึ้นตึกไป
หลังจากเรียนวิชาแล็บคอมฯ เสร็จ ฝ้ายมองหาใบเฟิร์นไม่เจอเลยตั้งแต่ในห้องคอมแล้ว วันนี้ฝ้ายมีบัวลอยไข่หวานฝีมือป้าของเธอ มาฝากเพื่อนสนิทอย่างใบเฟิร์นด้วย
"ว้า สงสัยวันนี้ต้องกินเองคนเดียวละมั้งเนี่ย .. วันนี้หาใบเฟิร์นไม่เจอเลย .. " หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ อย่างเสียดายโอกาสดี ๆ ที่จะได้แบ่งปัน
แต่ปัญหาต่อมาไม่ใช่ตรงนั้น กลับเป็นสิ่งที่เธอต้องเจอคือ
"เอ๊ะ! รองเท้าชั้นหายไปไหนเนี่ย ก็เมื่อเช้าเอามาเก็บไว้แล้วนี่นา"
ฝ้ายหารองเท้าที่ตัวเองเก็บไว้ในล็อคเกอร์กับมือไม่เจอ หญิงสาววิ่งไปทั่วตึกทุกชั้นแต่ไม่เจอรองเท้าของเธอเลย จนกระทั่งเธอตัดสินใจเดินไปด้านหน้าตึกด้วยถุงเท้าเปล่า ๆ ของเธอ และได้พบกับรองเท้านักเรียนของเธอในถังขยะหน้าตึก รองเท้าคู่ใหม่ที่เพิ่งซื้อของเธอนอนอยู่ที่ก้นถังขยะที่สุดแสนจะเหม็น สภาพของมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันถูกมีดแหลม ๆ หรือคัตเตอร์คม ๆ กรีดไปทั่วรองเท้า อยู่ในสภาพที่ยับเยินไม่เหลือชิ้นดี
มือทั้งสองข้างของฝ้ายสั่นเทา น้ำตาที่รื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ฝ้ายทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กัดฟันจะยื่นมือลงไปในขยะ เพื่อจะพยายามหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมา ทุกคนที่เดินผ่านเธอ มองเธอว่าเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด แต่ฝ้ายก็ไม่ได้สนใจสายตาของใครเลยนอกจาก อยากได้รองเท้าของเธอคืนมา!
ในขณะนั้นเอง พีค เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนของฝ้าย ซึ่งกำลังเดินเข้ามาในตึก มองเห็นฝ้ายอยู่ในท่าทางที่ประหลาดอย่างนั้น จึงรีบดึงมือเธอออกมาให้ห่างจากถังขยะ
"นี่เธอ พยายามจะทำอะไรของเธอน่ะ!" พีคตะโกนถามฝ้ายอย่างตกใจกับสิ่งที่เธอกำลังทำ
"รองเท้าของชั้นอยู่ในถังขยะ ชั้นต้องเอามันขึ้นมา ไม่งั้นชั้นจะไม่มีรองเท้าใส่มาเรียน" ฝ้ายตอบกลับ และพยายามเดินเข้าไปที่ถังขยะอีก
"นี่ หยุดนะ .. มันเยินขนาดนั้น แล้วเธอยังจะเอาขึ้นมาใส่ได้อีกเหรอ เลิกทำซะที คนเค้ามองเธอกันหมดแล้ว มันไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก" พีคพยายามดึงตัวหญิงสาวไว้ และห้ามปราม
"ปล่อยชั้นนะ .. ชั้นไม่มีใส่แล้ว เข้าใจมั้ย ว่าไม่มีแล้ว .. " ฝ้ายสะบัดมือพีค และมองมาที่พีค ด้วยสายตาที่อับอาย และ โกรธมาก
"ชั้นไม่มี.. แล้ว ฮึ้ก ฮึ้ก ฮือ ฮือ... " ฝ้ายร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทานทน
ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาขึ้นมา และเช็ดน้ำตาให้ฝ้ายอย่างเบามือ หญิงสาวสะดุ้งตัวนิดหน่อยเมื่อสัมผัสกับผ้าเช็ดหน้าของชายหนุ่ม ฝ้ายสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้น ทำให้ฝ้ายสบายใจและใจเย็นลง
พีคพาฝ้ายมาที่ห้องชมรมบาส และหารองเท้ากีฬาของเพื่อนผู้หญิงคนอื่นให้ฝ้ายใส่ไปก่อน
"บ่ายนี้ เห็นว่า อาจารย์ป่วยไม่มาสอน ไปหาอะไรกินกันไหม เธอต้องเลี้ยงชั้นใช่ไหม" พีคพูดขึ้นหลังจากเดินมาออกมาจากโรงยิมด้วยกัน
"ชั้นต้องเลี้ยงนายเรื่องอะไร" ฝ้ายคิดถึงเงินที่ต้องเก็บเพื่อซื้อรองเท้าใหม่ของเธอ และรับตอบพีทกลับไปแบบไม่ทันคิด
"ค่าเช่ารองเท้าไง .. นี่ชั้นเป็นคนหามาให้เธอนะ ทำเป็นปลาทอง ขี้ลืมไปได้" พีคพูดแบบไม่มองหน้าหญิงสาวและพูดเชิงบังคับให้หญิงสาวเดินตามมา
พีคและฝ้ายมาที่ร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ นั่งสบาย ๆ ดนตรีที่เปิดคลอเบา ๆ ผสมผสานกับการออกแบบของร้านที่น่ารักนั้น ทำให้ยิ่งนั่งยิ่งผ่อนคลายทั้งสายตาและจิตใจ
"ชั้นกินอะไรก็ได้ สั่งมาเลย" พีคพูดเพื่อเร่งให้ฝ้ายสั่งอะไรมากิน
"อ๊าว แล้วจะรู้ไหมว่า นายชอบอะไร" ฝ้ายทักพีคอย่างงง ๆ
"เมนูที่ชั้นชอบมันแพงที่สุดในร้านนี้น่ะ เอ้า ว่าไงเธอจะสั่งเอง หรือว่าให้ชั้นสั่ง" พีคกล่าวอย่างเนิบ ๆ นึกสนุกว่าหญิงสาวจะตอบกลับมายังไง
"ไม่เอา ไม่เอา ชั้นเลี้ยงนี่ เดี๋ยวชั้นสั่งเองดีกว่า ... อ่า เอาช็อคโกแลตลาวาที่หนึ่ง กับชาเขียวปั่น 2 ที่ค่ะ" ฝ้ายรีบยึดสิทธิในการสั่งทันที ตามงบประมาณในกระเป๋าสตางค์น้อย ๆ ที่เธอมี
พีคได้แต่ยิ้มและหัวเราะเบา ๆ ออกมา นึกขำกับการกระทำที่น่ารักของหญิงสาว
"แล้วเธอคิดว่าใครเอารองเท้าของเธอไปทิ้ง" พีคถามอย่างสงสัย
"ชั้นคิดว่า น่าจะเป็นพวกแฟนคลับสาว ๆ ของหมอนั่นแน่ ๆ นายที่ชื่อ "พล" น่ะ ลูกเจ้าของห้างสรรพสินค้าอะไรนั่น ยิ่งคิดยิ่งโมโห .. ตานั่นนะไม่เห็นจะมีอะไรดี นิสัยก็แย่ มีแต่เงินอย่างเดียว ชอบเหยียบย่ำคนรวย" ฝ้ายระบายออกมาอย่างพรั่งพรู
"..........พลเหรอ" ความเงียบเข้ามาแทนที่ หน้าตาของพีคเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ บทสนทนาถูกตัดฉับในทันที
"เอ่อ .. นายเป็นอะไรหรือเปล่า" ฝ้ายทักพีค เป็นห่วงว่าตัวเองพูดอะไรที่ไม่ดีไปหรือเปล่า
พีคไม่ตอบ และหยิบหนังสือของร้านมาเอนหลัง นั่งรอเค้กและเครื่องดื่ม
หลังจากที่ของมาเสริฟ์ .. ฝ้ายยื่นเค้ก และชาเขียวปั่นให้พีค .. พีคเลื่อนจานเค้กช็อกโกแลตคืนให้ฝ้ายและบอกว่า
"ชั้นไม่กินช็อคโกแลต เธอกินแทนแล้วกัน" พีคยกดื่มชาเขียว และตามองหนังสือที่อ่านอยู่
"อ๊าว แล้วนายไม่กินทำไมไม่บอก แล้วนายจะกินอะไร" ฝ้ายถามพีคอย่างงุนงง
พีคเลิกคิ้วของเค้า แล้วยกแก้วชาเขียวแล้วยกดื่มแทนคำตอบ
"เธอจะกินหรือไม่กินก็เรื่องของเธอ แต่ชั้นไม่กินช็อกโกแลต เอาไงหรือว่าจะกลับ" พีคหันมามองหน้าฝ้ายและเอ่ยปากถาม
"เรื่องอะไร ๆ เธอไม่กิน ชั้นก็กินย่ะ นี่มันเงินชั้นนะ ชั้นจะกินให้เต็มที่เลย" ฝ้ายหยิบส้อมขึ้นมาจัดการกับเค้กช็อกโกแลตลาวาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอไม่สื่อถึงความหงุดหงิดเลย แต่มันออกจะมีความสุขมากเหลือเกินที่ได้กินเค้กที่แสนหอมหวานข้างหน้าเธอ
พีคมองที่หญิงสาวผู้ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับเค้กตรงหน้า .. และรู้สึกสบายใจที่เห็นหญิงสาวดูเหมือนลืมเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เพิ่งผ่านมา
"นี่เธอ .. "
พีคทักหญิงสาว ทำให้ฝ้ายต้องหยุดกิน และเงยหน้าขึ้นมามองพีค เขายืนขึ้น และก้มตัวโน้มลงมาจนหน้าเกือบจะถึงหน้าของฝ้าย ฝ้ายตกใจ กำส้อมไว้แน่น พีคเอื้อมมือมาที่แก้มขวาของเธอ เขาเอานิ้วโป้งของเค้าปาดแก้มของเธอ แล้วพูดกระซิบที่ข้างหูว่า
"กินช้า ๆ ก็ได้ เลอะเทอะหมดแล้ว ยัยซุ่มซ่าม"
พีคนั่งลงเหมือนเดิม และอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นหน้าของหญิงสาวตอนนี้ มันแดงกร่ำไปจนถึงหู คงเพราะสัมผัสที่ไม่ทันตั้งตัวของเขา หญิงสาวมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม แล้วเกิดความรู้สึกประหลาด ๆ ใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ..
(เอ๊ะ เราเป็นอะไรไปนี่ ทำไมเราทำอะไรไม่ถูกเลยนะ)
"แล้วใครใช้ให้นายมายืนข้างหลังคนกำลังกินน้ำด้วยล่ะ"
"นี่เธอ ตอบข้าง ๆ คู ๆ นี่นา พูดบ้าอะไรของเธอ แล้วนี่เธอไม่คิดจะขอโทษหน่อยเลยหรือ ทำเรื่องสกปรกขนาดนี้เนี่ย"
พลดึงมือฝ้ายไว้ ไม่ให้เดินหนี ฝ้ายหันมาตอกกลับอย่างเจ็บแสบว่า
"คำขอโทษ เค้ามีไว้พูดกับคนที่เค้ารู้คุณค่าของมัน สำหรับนาย ๆ ก็ไม่ชอบพูดคำนี้หนิ แล้วจะหวังที่จะได้ยินจากปากชั้นไปทำไม"
พลโมโหมาก ไม่อยากเชื่อว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ จะปากจัดอย่างนี้
"นี่เธอ ปากดีนักนะ!"
พลเอื้อมมือทั้งสองข้างหมายจะจับตัวฝ้ายไว้ แต่ด้วยการฝึกฝนทักษะป้องกันตัวมา ฝ้ายเบี่ยงตัวหนีได้ทัน ฝ้ายกระหยิ่มยิ้มย่อง และเงยหน้ามองพล
"อ้อ งั้นเอานี่ไป คนรวยๆ อย่างนายคงต้องใช้วิธีการแก้ไขปัญหาแบบนี้สินะ"
ฝ้ายหยิบเงินแบงค์ยี่สิบจากกระโปรงออกมา แล้วยัดลงไปในมือพล
"เอาค่าชดใช้ไป เท่านี้ก็คงพอสำหรับคนอย่างนาย"
ฝ้ายรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว พลกำแบงค์ในมืออย่างงงๆ ถึงแม้ว่าพลจะโกรธและเจ็บปวดกับคำพูดของหญิงสาวเป็นอย่างมาก แต่พลกลับมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นในใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน สงสัยเป็นเพราะไม่เคยมีใครกระทำอย่างนี้ต่อหน้าเค้า
วันต่อมา ล็อกเกอร์ของฝ้ายโดนแงะ หนังสือเรียนของเธอโดนฉีกขาดกระจัดกระจาย มีกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ ถูกติดไว้ด้านในล็อกเกอร์ มีข้อความ เขียนตัวโต ๆ ด้วยสีแดงว่า "อย่ายุ่งกับพลอีก!" ฝ้ายกระชากแผ่นกระดาษโน้ตแผ่นนั้น และขยำทิ้งอย่างโมโห และหงุดหงิดใจ
"เพราะอีตานั่นอีกแล้ว ซวยจริง ๆ เลย โธ่เอ๊ย แล้วจะเอาอะไรไปนั่งเรียนล่ะเนี่ย"
ฝ้ายมองหนังสือที่แสนจะยับเยินของเธอ ด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย
คืนนั้นฝ้ายเอาหนังสือที่ถูกฉีดขาดของเธอกลับมาซ่อมที่บ้าน เธอค่อย ๆ ซ่อมอย่างเงียบ ๆ พยายามไม่ทำให้ป้าของเธอที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ รู้สึกตัวจนต้องตื่นขึ้นมา แต่ทว่าความพยายามของเธอไม่สำเร็จซะแล้ว
"หนูฝ้าย ทำอะไรอยู่ ลูก ไม่หลับไม่นอน" ผู้เป็นป้าถามหลานสาวที่รักด้วยความเป็นห่วง
"อ้าว หนูทำให้ป้าตื่นเหรอคะ ป้านอนต่อเถอะ หนูทำงานนิดหน่อย" ฝ้ายตอบแบบปิดบัง เธอไม่อยากให้ป้ารู้สึกเป็นห่วงเธอ
"ไหน ๆ ตายแล้ว ใครทำหนังสือของหนูอย่างนี้เนี่ย ใจร้ายจริงๆ กว่าหนูจะได้พวกมันมา หนูต้องทำงานเก็บเงินแทบตายเลยไม่ใช่เหรอ" ป้ามองเห็นสิ่งที่อยู่ในมือหลานแล้วตกใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ ป้า หนูซ่อมจะเสร็จแล้ว เดี๋ยวก็อ่านได้เหมือนเดิมแล้วค่ะ" ฝ้ายยิ้มกับป้า แล้วพยายามบอกให้ป้าไปนอนต่อ
"โถ หลานรักของป้า ตั้งแต่พ่อแม่ของหนูจากไป หนูต้องมาอยู่กับป้าที่แก่ ๆ ป่วย ออด ๆ แอด ๆ อยู่ตลอดเวลา หนูต้องทำงานเลี้ยงดูตัวเอง แล้วยังต้องหาเงินมารักษาพยาบาลป้าตลอดอีก ... ถ้าป้าตายไป ป้าจะมีหน้าไปเจอพ่อแม่ของหนูได้ยังไงกัน ฮือ ๆๆ...." ผู้เป็นป้าร้องไห้ออกมา ก้มหน้ามองพื้น คิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา ที่ฝ้ายต้องลำบากทำเพื่อตัวเอง ..
ฝ้ายหันมาโอบกอดคุณป้าและพูดว่า
"ป้าคะ ถ้าหนูไม่มีป้า หนูอาจจะต้องไประหกระเหินอยู่ไหนก็ไม่รู้ หรือ หนูอาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้ ทุกวันนี้ที่หนูมีบ้านอยู่ ได้กินอาหารอร่อย ๆ ที่ป้าทำ มีป้าให้หนูกอดทุกวัน หนูก็มีความสุขมาก ๆ แล้วนะคะ หนูรักป้านะคะ อย่าร้องไห้เลย ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ หนูยังมีแรงอีกเยอะค่ะ หนูจะสู้ต่อไปค่ะ"
ฝ้ายเช็ดน้ำตาให้ป้าของเธอ และยิ้มอย่างสดใสให้ป้าดู
"ป้า พรุ่งนี้ทำบัวลอยไข่หวานของโปรดให้หนูกินหน่อย เพื่อเป็นกำลังใจให้หนูนะคะ แหะ แหะ พ่อสอนเสมอว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ!"
ผู้เป็นป้าพยักหน้า และระบายยิ้มออกมาจนได้ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่แสนจะทะเล้นของหลานสาวอันเป็นที่รัก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"ใบเฟิร์น ใบเฟิร์น" ฝ้ายตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่เดินอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก.. แต่ใบเฟิร์นเหมือนไม่ได้ยิน และเดินนำหน้าขึ้นตึกไป
"เอ .. หรือว่า ไม่ได้ยินเสียงเรานะ รีบไปไหนหรือเปล่าน้า อ้อ.. วันนี้ต้องเข้าห้องแล็บเรียนคอมฯ นี่นา"
ฝ้ายรำพึงรำพันกับตัวเอง และรีบเดินเร็ว ๆ ไปที่ล็อคเกอร์ของเธอเพื่อเก็บรองเท้าและเดินขึ้นตึกไป
หลังจากเรียนวิชาแล็บคอมฯ เสร็จ ฝ้ายมองหาใบเฟิร์นไม่เจอเลยตั้งแต่ในห้องคอมแล้ว วันนี้ฝ้ายมีบัวลอยไข่หวานฝีมือป้าของเธอ มาฝากเพื่อนสนิทอย่างใบเฟิร์นด้วย
"ว้า สงสัยวันนี้ต้องกินเองคนเดียวละมั้งเนี่ย .. วันนี้หาใบเฟิร์นไม่เจอเลย .. " หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบา ๆ อย่างเสียดายโอกาสดี ๆ ที่จะได้แบ่งปัน
แต่ปัญหาต่อมาไม่ใช่ตรงนั้น กลับเป็นสิ่งที่เธอต้องเจอคือ
"เอ๊ะ! รองเท้าชั้นหายไปไหนเนี่ย ก็เมื่อเช้าเอามาเก็บไว้แล้วนี่นา"
ฝ้ายหารองเท้าที่ตัวเองเก็บไว้ในล็อคเกอร์กับมือไม่เจอ หญิงสาววิ่งไปทั่วตึกทุกชั้นแต่ไม่เจอรองเท้าของเธอเลย จนกระทั่งเธอตัดสินใจเดินไปด้านหน้าตึกด้วยถุงเท้าเปล่า ๆ ของเธอ และได้พบกับรองเท้านักเรียนของเธอในถังขยะหน้าตึก รองเท้าคู่ใหม่ที่เพิ่งซื้อของเธอนอนอยู่ที่ก้นถังขยะที่สุดแสนจะเหม็น สภาพของมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันถูกมีดแหลม ๆ หรือคัตเตอร์คม ๆ กรีดไปทั่วรองเท้า อยู่ในสภาพที่ยับเยินไม่เหลือชิ้นดี
มือทั้งสองข้างของฝ้ายสั่นเทา น้ำตาที่รื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ฝ้ายทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กัดฟันจะยื่นมือลงไปในขยะ เพื่อจะพยายามหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมา ทุกคนที่เดินผ่านเธอ มองเธอว่าเหมือนเธอเป็นตัวประหลาด แต่ฝ้ายก็ไม่ได้สนใจสายตาของใครเลยนอกจาก อยากได้รองเท้าของเธอคืนมา!
ในขณะนั้นเอง พีค เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนของฝ้าย ซึ่งกำลังเดินเข้ามาในตึก มองเห็นฝ้ายอยู่ในท่าทางที่ประหลาดอย่างนั้น จึงรีบดึงมือเธอออกมาให้ห่างจากถังขยะ
"นี่เธอ พยายามจะทำอะไรของเธอน่ะ!" พีคตะโกนถามฝ้ายอย่างตกใจกับสิ่งที่เธอกำลังทำ
"รองเท้าของชั้นอยู่ในถังขยะ ชั้นต้องเอามันขึ้นมา ไม่งั้นชั้นจะไม่มีรองเท้าใส่มาเรียน" ฝ้ายตอบกลับ และพยายามเดินเข้าไปที่ถังขยะอีก
"นี่ หยุดนะ .. มันเยินขนาดนั้น แล้วเธอยังจะเอาขึ้นมาใส่ได้อีกเหรอ เลิกทำซะที คนเค้ามองเธอกันหมดแล้ว มันไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก" พีคพยายามดึงตัวหญิงสาวไว้ และห้ามปราม
"ปล่อยชั้นนะ .. ชั้นไม่มีใส่แล้ว เข้าใจมั้ย ว่าไม่มีแล้ว .. " ฝ้ายสะบัดมือพีค และมองมาที่พีค ด้วยสายตาที่อับอาย และ โกรธมาก
"ชั้นไม่มี.. แล้ว ฮึ้ก ฮึ้ก ฮือ ฮือ... " ฝ้ายร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทานทน
ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าของเขาขึ้นมา และเช็ดน้ำตาให้ฝ้ายอย่างเบามือ หญิงสาวสะดุ้งตัวนิดหน่อยเมื่อสัมผัสกับผ้าเช็ดหน้าของชายหนุ่ม ฝ้ายสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้น ทำให้ฝ้ายสบายใจและใจเย็นลง
พีคพาฝ้ายมาที่ห้องชมรมบาส และหารองเท้ากีฬาของเพื่อนผู้หญิงคนอื่นให้ฝ้ายใส่ไปก่อน
"บ่ายนี้ เห็นว่า อาจารย์ป่วยไม่มาสอน ไปหาอะไรกินกันไหม เธอต้องเลี้ยงชั้นใช่ไหม" พีคพูดขึ้นหลังจากเดินมาออกมาจากโรงยิมด้วยกัน
"ชั้นต้องเลี้ยงนายเรื่องอะไร" ฝ้ายคิดถึงเงินที่ต้องเก็บเพื่อซื้อรองเท้าใหม่ของเธอ และรับตอบพีทกลับไปแบบไม่ทันคิด
"ค่าเช่ารองเท้าไง .. นี่ชั้นเป็นคนหามาให้เธอนะ ทำเป็นปลาทอง ขี้ลืมไปได้" พีคพูดแบบไม่มองหน้าหญิงสาวและพูดเชิงบังคับให้หญิงสาวเดินตามมา
พีคและฝ้ายมาที่ร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ นั่งสบาย ๆ ดนตรีที่เปิดคลอเบา ๆ ผสมผสานกับการออกแบบของร้านที่น่ารักนั้น ทำให้ยิ่งนั่งยิ่งผ่อนคลายทั้งสายตาและจิตใจ
"ชั้นกินอะไรก็ได้ สั่งมาเลย" พีคพูดเพื่อเร่งให้ฝ้ายสั่งอะไรมากิน
"อ๊าว แล้วจะรู้ไหมว่า นายชอบอะไร" ฝ้ายทักพีคอย่างงง ๆ
"เมนูที่ชั้นชอบมันแพงที่สุดในร้านนี้น่ะ เอ้า ว่าไงเธอจะสั่งเอง หรือว่าให้ชั้นสั่ง" พีคกล่าวอย่างเนิบ ๆ นึกสนุกว่าหญิงสาวจะตอบกลับมายังไง
"ไม่เอา ไม่เอา ชั้นเลี้ยงนี่ เดี๋ยวชั้นสั่งเองดีกว่า ... อ่า เอาช็อคโกแลตลาวาที่หนึ่ง กับชาเขียวปั่น 2 ที่ค่ะ" ฝ้ายรีบยึดสิทธิในการสั่งทันที ตามงบประมาณในกระเป๋าสตางค์น้อย ๆ ที่เธอมี
พีคได้แต่ยิ้มและหัวเราะเบา ๆ ออกมา นึกขำกับการกระทำที่น่ารักของหญิงสาว
"แล้วเธอคิดว่าใครเอารองเท้าของเธอไปทิ้ง" พีคถามอย่างสงสัย
"ชั้นคิดว่า น่าจะเป็นพวกแฟนคลับสาว ๆ ของหมอนั่นแน่ ๆ นายที่ชื่อ "พล" น่ะ ลูกเจ้าของห้างสรรพสินค้าอะไรนั่น ยิ่งคิดยิ่งโมโห .. ตานั่นนะไม่เห็นจะมีอะไรดี นิสัยก็แย่ มีแต่เงินอย่างเดียว ชอบเหยียบย่ำคนรวย" ฝ้ายระบายออกมาอย่างพรั่งพรู
"..........พลเหรอ" ความเงียบเข้ามาแทนที่ หน้าตาของพีคเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ บทสนทนาถูกตัดฉับในทันที
"เอ่อ .. นายเป็นอะไรหรือเปล่า" ฝ้ายทักพีค เป็นห่วงว่าตัวเองพูดอะไรที่ไม่ดีไปหรือเปล่า
พีคไม่ตอบ และหยิบหนังสือของร้านมาเอนหลัง นั่งรอเค้กและเครื่องดื่ม
หลังจากที่ของมาเสริฟ์ .. ฝ้ายยื่นเค้ก และชาเขียวปั่นให้พีค .. พีคเลื่อนจานเค้กช็อกโกแลตคืนให้ฝ้ายและบอกว่า
"ชั้นไม่กินช็อคโกแลต เธอกินแทนแล้วกัน" พีคยกดื่มชาเขียว และตามองหนังสือที่อ่านอยู่
"อ๊าว แล้วนายไม่กินทำไมไม่บอก แล้วนายจะกินอะไร" ฝ้ายถามพีคอย่างงุนงง
พีคเลิกคิ้วของเค้า แล้วยกแก้วชาเขียวแล้วยกดื่มแทนคำตอบ
"เธอจะกินหรือไม่กินก็เรื่องของเธอ แต่ชั้นไม่กินช็อกโกแลต เอาไงหรือว่าจะกลับ" พีคหันมามองหน้าฝ้ายและเอ่ยปากถาม
"เรื่องอะไร ๆ เธอไม่กิน ชั้นก็กินย่ะ นี่มันเงินชั้นนะ ชั้นจะกินให้เต็มที่เลย" ฝ้ายหยิบส้อมขึ้นมาจัดการกับเค้กช็อกโกแลตลาวาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอไม่สื่อถึงความหงุดหงิดเลย แต่มันออกจะมีความสุขมากเหลือเกินที่ได้กินเค้กที่แสนหอมหวานข้างหน้าเธอ
พีคมองที่หญิงสาวผู้ซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับเค้กตรงหน้า .. และรู้สึกสบายใจที่เห็นหญิงสาวดูเหมือนลืมเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เพิ่งผ่านมา
"นี่เธอ .. "
พีคทักหญิงสาว ทำให้ฝ้ายต้องหยุดกิน และเงยหน้าขึ้นมามองพีค เขายืนขึ้น และก้มตัวโน้มลงมาจนหน้าเกือบจะถึงหน้าของฝ้าย ฝ้ายตกใจ กำส้อมไว้แน่น พีคเอื้อมมือมาที่แก้มขวาของเธอ เขาเอานิ้วโป้งของเค้าปาดแก้มของเธอ แล้วพูดกระซิบที่ข้างหูว่า
"กินช้า ๆ ก็ได้ เลอะเทอะหมดแล้ว ยัยซุ่มซ่าม"
พีคนั่งลงเหมือนเดิม และอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นหน้าของหญิงสาวตอนนี้ มันแดงกร่ำไปจนถึงหู คงเพราะสัมผัสที่ไม่ทันตั้งตัวของเขา หญิงสาวมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม แล้วเกิดความรู้สึกประหลาด ๆ ใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ..
(เอ๊ะ เราเป็นอะไรไปนี่ ทำไมเราทำอะไรไม่ถูกเลยนะ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ