พบรักที่ปลายเวลา
-
เขียนโดย ปากาดาว
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.43 น.
7 ตอน
8 วิจารณ์
11.19K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ต้นทางแห่งรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบรรยากาศในบ้านแพรกยามเช้าดูสดชื่น กระแต เดินเข้ามาศาลาริมน้ำที่นทีกาญจน์ นั้งอยู่พร้อมหาบใส่ขนมตาลและขนมไทยต่างๆ กระแตวางหาบลงถอดหมวกงอบแบบไทยใส่เสื้อแขนยาวกันแดดสีแดง
"ไปขายขนมจ๊ะ.."
"เก่งจังนะจ๊ะวันหยุด ยังจะขายขนม" นทีกาญจน์ก้มดูขนมในหาบ
"แล้วจะไปขายที่ไหนหรอจ๊ะ"
"ไปขายที่ค่ายเชลยนะ พี่นที..สายแล้วกระแตไปก่อนนะ"
"เดียว!"นทีร้องห้าม
"พี่ไปด้วย..พี่อยากไปเห็น..เกิดมายังไม่เคยเห็นของจิง"
"ได้สิคะ..ออกไปเที่ยวบ้างก็ดีนะ"
กระแตยกหาบขึ้นใส่บ่าพานที่กาญจน์ เดินไปยังท่าเรือสำหลับขึ้นไปยังค่ายเชลย ลองเรือไปตามแม่น้ำแควใหญ่ไม่นานก็ถึง ค่ายเขาช่องไก่ถือว่าเป็นค่ายคุมขังใหญ่ค่ายหนึ่ง ... เชลยศึกทุกคนถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในป่าลึก ทหารญี่ปุ่นเข้มงวดมาก ที่ค่ายกลางป่าลึก เรือเทียบท่าจอดตรงทางเข้าค่าย
"พี่นทีตามมาคะ "
กระแตพานทีกาญจน์เดินเลียบ ๆ เคียง ๆตามริมรั่วของค่าย ไปจุดที่พ่อค้าแม่ค้าตระโกนขายของเสียงดังมาแต่ไกล
"อ้าว..แม่กระแตได้ข่าวว่าไปทำงานบ้านคุณนายญี่ปุ่น..ไงวันนี้มาขายของละจ๊ะ"
หนึ่งในกลุ้มแม่ค้าหาเรื่องค่อนแคะกระแต
" ก็ฉันยังสาว ยังสวย มาเดินตรงนี้บ้างอาจมีนายทหารหนุ่มมๆหล่อๆมาให้เชยชมก็ได้นะจ๊ะพี่"
กระแตเยาะเย้ยถากถางกลับในขณะที่นทีกาญจน์ สอดส่อง ข้างใน รั้วค่ายเชลยสายตาก็ไปพบ แดเดียล เดินโซเซมาตามรั่ว
"คุณ..จำฉันได้ไหม" นทีกาญจน์ร้องทักเป็นภาษาอังกษฤ
"สวัสดี...ผมจำคุณได้" แดเดียลเดินมายังนทีกาญจน์
"คุณดูแย่ มากๆ"
นทีกาญจน์เห็นสภาพแดเดียล สภาพผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
"พวกเราไม่ได้รับยาและอาหารจากกองทัพญี่ปุ่ณเลย " แดเดียลเล่าความทุกข์ทรมารของเค้าให้นที่การญจน์ฟัง
"คุณหิวไหม?" นทีกาญจน์เอื้อมมือไปยิบขนมที่หาบของกระแต
"เดียวคะ..พี่นทีถ้าพวกทหารญี่ปุ่นเห็น ต้องแย่แน่ๆเลยคะ" กระแตร้องห้าม
"ไม่เป็นไร..ถ้าโดนจับได้ฉันรับผิดชอบเอง" พร้อมกับส่งขนมให้แดเนียล
รถจิ๊ปทหารญี่ปุ่น ของโทโมโยชิแล่นเข้ามาจอดหน้าค่าย โทโมโยชิ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จองมองไปยังพ่อค้าแม่ค้าที่รั่วค่าย.โทโมโยชิ เดินมาด้านหลังนทีกาญจน์อย่างช้าๆโดยที่กระแตเห็นแล้ว
"พี่ๆ..นที"
พลางเอามือกระตุกเสื้อนทีกาญจน์"เอาน่า ..กระแตไม่ต้องห่วง..เดียวพี่จะหาค่าขนมมาจ่ายเอง..เอามาอีกเร็ว "
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากสาวใช้ นทีกาญจน์หันหลังกลับมาเจอโทโมโยชิ ร่างระหงสะดุ้งเฮือกหันหลังเดินหนีทันที ... วินาทีแรกที่สายตาปะทะทหารหนุ่ม
"คุณมาทำอะไรทีนี้"เสียงเข้มดังขึ้น
"คือฉันมากับกระแตนะ"
นทีกาญจน์กลัวจนตัวสั่น และก็ตอบคำถามฝ่ายตรงข้ามไป แบบร้อนล้นพอสมควร สายตาของโทโมโยชิมองไปยังแดลเนียลในท่าตรงเรียบ
"คุณอย่าทำอะไรแดลเนียลนะ...ฉันขอร้อง"
เสียงอ้อนวอนของนทีกาญจน์ เพราะทันทีที่เห็นแววตาพิโรธของมัจจุราชในคราบ ทหารกระหายสงครามคู่นั้น
"กระแตกลับบ้านไปก่อน..และที่หลังห้ามมาที่นี้อีก..ถ้าไม่อยากตกงาน" โทโมโยชิหันไปสั้งกระแตแล้วรีบหันไปจับมือนทกาญจน์
"ส่วนคุณมากับผม"
"นี้ปล่อยฉันนะ...ฉันไม่ไป.."
ในขนะนั้นเชลยสี่่คนได้ยกศพเพื่อนเชลยด้วยกัน ผ่านหน้าไปทีกาญจน์ยืนตัวแข็งทื่อ ริสีหน้าขาวซีด
"มานี้ ..ไปจากที่นี้กัน" โทโมโยชิจุงมือเรียวตรงไปยังรถจิ๊บที่จอดอยู่เปิดประตูให้นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งข้างหน้าโทโมโยชิขับรถแล่นไปช้าๆ ..
"อีกไม่กี่ปีสงครามจะจบ..สิ่งที่พวกคุณทำจะเป็นเพียงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์เท่านั้น" นทีกาญจน์พูดภาษาญี่ปุ่นเน้นๆชัดๆ
"นี่คือสงคราม.. มันโหดร้ายเสมอ สำหรับโลกมนุษย์..เพี้ยง..จะเลือกเห็นด้านไหนของความโหดร้าย คุณ ผม หรือว่าเชลยไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้กันทั้งนั้น"
โทโมโยชิหยุดรถกระทันหัน ตอบเสียงขรึมพลางมองไปยังนทีกาญจน์ในตาเศร้า
"พวกคุณรู้ไหม..สงครามจบ..ประวัติศาสตร์จะเขียนถึงพวกคุณอย่างไร" การที่รู้อะไรล่วงหน้าทำให้นทีกาญจน์หนักใจและสงสารชายหนุ่มตรงหน้า
"ผมไม่สน..ว่าประวัติศาสตร์จะเขียนอย่างไร ...ทหารในจักรวรรดิญี่ปุ่นจะทำทุกอย่างเพือชัยชนะ"
โทโมโยชิขับรถเลียวเข้าในค่ายหารมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกคนที่ผ่านออกเข้าค่าย ไม่ยกเว้นแม้แต่ทหารญี่ปุ่น เป็นระเรียบ
"คุณจะพาฉันไปไหน" นทีกาญจน์ถามด้วยความกลัวสุดขีด
"ผมจะแวะมาเอาเอกสารสักหน่อย..และจะไส่คุณที่ตลาด"
รถจอดที่บ้านพักทำด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ชายหนุ่นก้าว..ยาวๆเข้าไปในห้องสักพักกลับมาพร้อมเอกสารในมือ..ขึ้นมาบนรถพร้อมขับออกไปตามทางที่สร้างมาเฉพาะรถตัดออกไปตลาด..
รถแล่นมาจอดหน้าร้านของมะลิ คนสองคนเดินลงมาจากรถจิ๊บของโทโมโยชิ ในตลาดยามเที่ยงดูคึกคัก
"ขอบคุณ..นะที่มาส่ง..แต่ทีหลังไม่ต้องม่าส่ง..ฉันกลับกับกระแตได้" นทีกาญจน์ขอบคุณ อย่างประชดประชัน
"อ้าวผู้กองโยชิ..มาตลาดแต่เช้า"โทโมโยชิหันไปมองหาที่มาของเสียงสารวัตรจงอางเดินมาตรงที่โยชิ
"มาชื้อของนิดหน่อยนะคับ"โทโมโยชิตอบเสียงเรียบ
"มีอะไรขาดเหลือก็บอกนะคับ ทางหลวงออกกฎมาแล้ว ว่าพวกเราต้องสนับสนุนพวกญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ "
สารวัตรองค์อาจถอดหมวกโค้งคับนับ
"คับ.. ขอบคุณคับ."
โทโมโยชิโค้งคับนับ แล้วหันไปดูนทีกาญจน์เดินเข้าไปในร้าน และหันหลังขึ้นรถไป
ภายในร้านของชำ มะลิกำลังจัดของมีจำพวกผัก ขาว อาหารต่างๆ นทีกาญจน์เดินเข้ามามะลิ เช็คของกำลังยุ่ง
"โอโห ของเยอะจังเลย ท่าทางจะขายดีนะคะ"
"พี่จะเอาไปส่งที่ค่ายเชลย นะจะ" มะลิพลางเอามือลูบท้องหน้าตา เหยเก นทีกาญจน์ ประคองมะลิ นั้งลงบนเก้าอี้
"สงสัยเจ้าตัวเล็ก เกเรสะแล้วคะพี่มะลิ พักผ่อนก่อนนะคะ "นทีกาญจน์ ส่งยาดมให้มะลิพลางนวดให้เบาๆ
"แต่พี่ทำงานยังไม่เสร็จเลยนิ จะ...พี่ต้องรีบส่งของพวกนี้ให้ทัน" มะลิมองไปยังข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรจ๊ะ นทีทำเองเรื่องแค่นี้ พี่มะลิสบายใจได้เลยคะว่าของถึงค่ายแน่ๆ"
นทีกาญจน์อาสา อย่างยิ้มแย้ม และเอือมมือไปลูบท้องของมะลิ
"ได้จะ ขอบคุณมากนะ พี่ฝากข้าวกลางวันไปใหคุณหมอด้วยนะ "
มะลิส่งข้าวกล่องให้นทีกาญจน์ นายแหลมคนขับเรือของมะลิ ยกข้าวของขึ้นเรือ ขับของไปกับนทีกาญจน์ เรือวิ่งออกไปสักพัก ก็จอดที่ท่าเรือค่ายเชลย มีทหารสองคน คอยเฝ้าหน้าประตูค่ายฝังติดแม่น้ำ
"สวัสดีคะ ฉันเอาของจากร้านคุณนายคุณหมอโอะโนะดะมาส่งจะ"
นทีกาญจน์สสือสารเป็นภาษาญี่ปุ่น ทหารสองคนพอจะเข้าใจและปล่อยนทีกาจน์ เข้าไป เข็นของมาเรื่อยๆ มาหยุด ด้านหน้าค่าย มีแต่จากมุงหลังคา ไม่มีผนังปิดกันด้านข้าง
เชลยรีบวิ่งมาขนของในรถเข็น ทุกคนต่างมีสภาพที่ผ่อมโซ บางคนเจ็บป่วย ขาขาดน่าเวทนา! นทีกาญจน์ถึงกับอยากจะอาเจียน
"พี่แหลม รอตรงนี้นะ นทีจะเอาอาหารกลางวัน ไปให้คุณหมอ "
ทหารญี่ปุ่นเดินผ่านมา สองคนทนีกาญจน์เข้าไปถามว่าคุณหมโอะโนะดะทำงานอยู่ตรงไหม ตามที่ทหารบอก เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงห้องทำงานของหมอโอะโนะดะ ที่สร้างขึ้นมาใบจากแบบง่ายๆแต่แน่นหนากว่าบ้านพักเชลย นทีหยุดอยู่ข้างหน้า
"อ้าว!นทีจัง" เสียงทักมาจากด้านหลัง อย่างสดใสร่าเริงของหมอโอะโนะดะ
" คุณหมอ..สวัสดีคะ."
" มาหาใครหรอคับ ..มีอะไรให้ช่วยไหมคับ"
"มีคะ...นี้อาหารกลางวันของคุณภรรยาคุณฝากมาคะ"
นทีกาญจน์ยื่นกล่องอาหารให้ สายตาเลือบไปเห็น ชาย-หญิงคู่หนึ่ง แถมได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกเดินลงมาจากอาคาร ตรงหน้า ร่างสูงที่เดินควงคู่มากับกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น บอบบาง ... แต่มีอายุมากแล้ว
"ผู้กองโยชิ..ไปหาจันทร์แรมที่ร้านบ่อยๆนะคะ จันทร์เหงา เหงาจันทร์แรมกลับก่อนนะคะ "
จันทร์แรมพูดขณะที่มือเรียวของเธออ้อยอิ่งอย่างรู้งานอยู่กับ เคบรื่องแบบขอโทโมโยชิ โดยที่ไม่แคร์สายตาของหมอโอโดะดะและนทีกาญจน์ยื่นอยู่ตรงหน้า
" คับ ถ้าว่างแล้วผมจะแวะไป" โทโมโยชิตอบอย่างรำคาน ... เขา ตอบปัดๆ อย่างลำบากใจ การให้เกียรติผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ทำให้โทโมโยชิลำบาคใจไม่น้อย
"กลับก่อนนะคะ"
นทีกาญจน์หันไปโค้งคับนับให้คุณหมอโอโดะดะ หันหลังเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มกับหญิงตรงหน้า เดินไปเลื่อยๆถึงจุด ที่แหลมรออยู่
"ไปกันเถอะจ๊ะ...แดดร้อนแล้ว"
นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งบน เรือพลางคิดถึง เรื่องเมื่อกี่ในใจ คนอารัยกลางวันแท้ๆยังทำไปได้ แหลมสตาร์ทเครื่องเรือ ขับออกไปเรื่อยๆจนถึงท่าน้ำบ้านมะลิ โดยมีมะลิยื่นรออยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างจ๊ะ...เหนื่อยไหม"
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...สบายมากคะ" นทีก้าวลงจากเรือขึ้นมานั้งบนศาลาพร้อมกับมะลิที่นั่งรออยู่
"วันหลังพี่มะลิ ไม่ต้องไปส่งของแล้วนะคะ นทีขอทำหน้าที่นี้แทนพีเองคะ พี่จะได้มีเวลาดูเจ้าตัวเล็ก " บรรยากาศในบ้านแพรกยามเช้าดูสดชื่น กระแต เดินเข้ามาศาลาริมน้ำที่นทีกาญจน์ นั้งอยู่พร้อมหาบใส่ขนมตาลและขนมไทยต่างๆ กระแตวางหาบลงถอดหมวกงอบแบบไทยใส่เสื้อแขนยาวกันแดดสีแดง
"ไปขายขนมจ๊ะ.."
"เก่งจังนะจ๊ะวันหยุด ยังจะขายขนม" นทีกาญจน์ก้มดูขนมในหาบ
"แล้วจะไปขายที่ไหนหรอจ๊ะ"
"ไปขายที่ค่ายเชลยนะ พี่นที..สายแล้วกระแตไปก่อนนะ"
"เดียว!"นทีร้องห้าม
"พี่ไปด้วย..พี่อยากไปเห็น..เกิดมายังไม่เคยเห็นของจิง"
"ได้สิคะ..ออกไปเที่ยวบ้างก็ดีนะ"
กระแตยกหาบขึ้นใส่บ่าพานที่กาญจน์ เดินไปยังท่าเรือสำหลับขึ้นไปยังค่ายเชลย ลองเรือไปตามแม่น้ำแควใหญ่ไม่นานก็ถึง ค่ายเขาช่องไก่ถือว่าเป็นค่ายคุมขังใหญ่ค่ายหนึ่ง ... เชลยศึกทุกคนถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในป่าลึก ทหารญี่ปุ่นเข้มงวดมาก ที่ค่ายกลางป่าลึก เรือเทียบท่าจอดตรงทางเข้าค่าย
"พี่นทีตามมาคะ "
กระแตพานทีกาญจน์เดินเลียบ ๆ เคียง ๆตามริมรั่วของค่าย ไปจุดที่พ่อค้าแม่ค้าตระโกนขายของเสียงดังมาแต่ไกล
"อ้าว..แม่กระแตได้ข่าวว่าไปทำงานบ้านคุณนายญี่ปุ่น..ไงวันนี้มาขายของละจ๊ะ"
หนึ่งในกลุ้มแม่ค้าหาเรื่องค่อนแคะกระแต
" ก็ฉันยังสาว ยังสวย มาเดินตรงนี้บ้างอาจมีนายทหารหนุ่มมๆหล่อๆมาให้เชยชมก็ได้นะจ๊ะพี่"
กระแตเยาะเย้ยถากถางกลับในขณะที่นทีกาญจน์ สอดส่อง ข้างใน รั้วค่ายเชลยสายตาก็ไปพบ แดเดียล เดินโซเซมาตามรั่ว
"สวัสดี...ผมจำคุณได้" แดเดียลเดินมายังนทีกาญจน์
"คุณดูแย่ มากๆ"
นทีกาญจน์เห็นสภาพแดเดียล สภาพผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
"พวกเราไม่ได้รับยาและอาหารจากกองทัพญี่ปุ่ณเลย " แดเดียลเล่าความทุกข์ทรมารของเค้าให้นที่การญจน์ฟัง
"คุณหิวไหม?" นทีกาญจน์เอื้อมมือไปยิบขนมที่หาบของกระแต
"เดียวคะ..พี่นทีถ้าพวกทหารญี่ปุ่นเห็น ต้องแย่แน่ๆเลยคะ" กระแตร้องห้าม
"ไม่เป็นไร..ถ้าโดนจับได้ฉันรับผิดชอบเอง" พร้อมกับส่งขนมให้แดเนียล
รถจิ๊ปทหารญี่ปุ่น ของโทโมโยชิแล่นเข้ามาจอดหน้าค่าย โทโมโยชิ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จองมองไปยังพ่อค้าแม่ค้าที่รั่วค่าย.โทโมโยชิ เดินมาด้านหลังนทีกาญจน์อย่างช้าๆโดยที่กระแตเห็นแล้ว
"พี่ๆ..นที"
พลางเอามือกระตุกเสื้อนทีกาญจน์"เอาน่า ..กระแตไม่ต้องห่วง..เดียวพี่จะหาค่าขนมมาจ่ายเอง..เอามาอีกเร็ว "
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากสาวใช้ นทีกาญจน์หันหลังกลับมาเจอโทโมโยชิ ร่างระหงสะดุ้งเฮือกหันหลังเดินหนีทันที ... วินาทีแรกที่สายตาปะทะทหารหนุ่ม
"คุณมาทำอะไรทีนี้"เสียงเข้มดังขึ้น
"คือฉันมากับกระแตนะ"
นทีกาญจน์กลัวจนตัวสั่น และก็ตอบคำถามฝ่ายตรงข้ามไป แบบร้อนล้นพอสมควร สายตาของโทโมโยชิมองไปยังแดลเนียลในท่าตรงเรียบ
"คุณอย่าทำอะไรแดลเนียลนะ...ฉันขอร้อง"
เสียงอ้อนวอนของนทีกาญจน์ เพราะทันทีที่เห็นแววตาพิโรธของมัจจุราชในคราบ ทหารกระหายสงครามคู่นั้น
"กระแตกลับบ้านไปก่อน..และที่หลังห้ามมาที่นี้อีก..ถ้าไม่อยากตกงาน" โทโมโยชิหันไปสั้งกระแตแล้วรีบหันไปจับมือนทกาญจน์
"ส่วนคุณมากับผม"
"นี้ปล่อยฉันนะ...ฉันไม่ไป.."
ในขนะนั้นเชลยสี่่คนได้ยกศพเพื่อนเชลยด้วยกัน ผ่านหน้าไปทีกาญจน์ยืนตัวแข็งทื่อ ริสีหน้าขาวซีด
"มานี้ ..ไปจากที่นี้กัน" โทโมโยชิจุงมือเรียวตรงไปยังรถจิ๊บที่จอดอยู่เปิดประตูให้นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งข้างหน้าโทโมโยชิขับรถแล่นไปช้าๆ ..
"อีกไม่กี่ปีสงครามจะจบ..สิ่งที่พวกคุณทำจะเป็นเพียงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์เท่านั้น" นทีกาญจน์พูดภาษาญี่ปุ่นเน้นๆชัดๆ
"นี่คือสงคราม.. มันโหดร้ายเสมอ สำหรับโลกมนุษย์..เพี้ยง..จะเลือกเห็นด้านไหนของความโหดร้าย คุณ ผม หรือว่าเชลยไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้กันทั้งนั้น"
โทโมโยชิหยุดรถกระทันหัน ตอบเสียงขรึมพลางมองไปยังนทีกาญจน์ในตาเศร้า
"พวกคุณรู้ไหม..สงครามจบ..ประวัติศาสตร์จะเขียนถึงพวกคุณอย่างไร" การที่รู้อะไรล่วงหน้าทำให้นทีกาญจน์หนักใจและสงสารชายหนุ่มตรงหน้า
"ผมไม่สน..ว่าประวัติศาสตร์จะเขียนอย่างไร ...ทหารในจักรวรรดิญี่ปุ่นจะทำทุกอย่างเพือชัยชนะ"
โทโมโยชิขับรถเลียวเข้าในค่ายหารมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกคนที่ผ่านออกเข้าค่าย ไม่ยกเว้นแม้แต่ทหารญี่ปุ่น เป็นระเรียบ
"คุณจะพาฉันไปไหน" นทีกาญจน์ถามด้วยความกลัวสุดขีด
"ผมจะแวะมาเอาเอกสารสักหน่อย..และจะไส่คุณที่ตลาด"
รถจอดที่บ้านพักทำด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ชายหนุ่นก้าว..ยาวๆเข้าไปในห้องสักพักกลับมาพร้อมเอกสารในมือ..ขึ้นมาบนรถพร้อมขับออกไปตามทางที่สร้างมาเฉพาะรถตัดออกไปตลาด..
รถแล่นมาจอดหน้าร้านของมะลิ คนสองคนเดินลงมาจากรถจิ๊บของโทโมโยชิ ในตลาดยามเที่ยงดูคึกคัก
"ขอบคุณ..นะที่มาส่ง..แต่ทีหลังไม่ต้องม่าส่ง..ฉันกลับกับกระแตได้" นทีกาญจน์ขอบคุณ อย่างประชดประชัน
"อ้าวผู้กองโยชิ..มาตลาดแต่เช้า"โทโมโยชิหันไปมองหาที่มาของเสียงสารวัตรจงอางเดินมาตรงที่โยชิ
"มาชื้อของนิดหน่อยนะคับ"โทโมโยชิตอบเสียงเรียบ
"มีอะไรขาดเหลือก็บอกนะคับ ทางหลวงออกกฎมาแล้ว ว่าพวกเราต้องสนับสนุนพวกญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ "
สารวัตรองค์อาจถอดหมวกโค้งคับนับ
"คับ.. ขอบคุณคับ."
โทโมโยชิโค้งคับนับ แล้วหันไปดูนทีกาญจน์เดินเข้าไปในร้าน และหันหลังขึ้นรถไป
ภายในร้านของชำ มะลิกำลังจัดของมีจำพวกผัก ขาว อาหารต่างๆ นทีกาญจน์เดินเข้ามามะลิ เช็คของกำลังยุ่ง
"โอโห ของเยอะจังเลย ท่าทางจะขายดีนะคะ"
"พี่จะเอาไปส่งที่ค่ายเชลย นะจะ" มะลิพลางเอามือลูบท้องหน้าตา เหยเก นทีกาญจน์ ประคองมะลิ นั้งลงบนเก้าอี้
"สงสัยเจ้าตัวเล็ก เกเรสะแล้วคะพี่มะลิ พักผ่อนก่อนนะคะ "นทีกาญจน์ ส่งยาดมให้มะลิพลางนวดให้เบาๆ
"แต่พี่ทำงานยังไม่เสร็จเลยนิ จะ...พี่ต้องรีบส่งของพวกนี้ให้ทัน" มะลิมองไปยังข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรจ๊ะ นทีทำเองเรื่องแค่นี้ พี่มะลิสบายใจได้เลยคะว่าของถึงค่ายแน่ๆ"
นทีกาญจน์อาสา อย่างยิ้มแย้ม และเอือมมือไปลูบท้องของมะลิ
"ได้จะ ขอบคุณมากนะ พี่ฝากข้าวกลางวันไปใหคุณหมอด้วยนะ "
มะลิส่งข้าวกล่องให้นทีกาญจน์ นายแหลมคนขับเรือของมะลิ ยกข้าวของขึ้นเรือ ขับของไปกับนทีกาญจน์ เรือวิ่งออกไปสักพัก ก็จอดที่ท่าเรือค่ายเชลย มีทหารสองคน คอยเฝ้าหน้าประตูค่ายฝังติดแม่น้ำ
"สวัสดีคะ ฉันเอาของจากร้านคุณนายคุณหมอโอะโนะดะมาส่งจะ"
นทีกาญจน์สสือสารเป็นภาษาญี่ปุ่น ทหารสองคนพอจะเข้าใจและปล่อยนทีกาจน์ เข้าไป เข็นของมาเรื่อยๆ มาหยุด ด้านหน้าค่าย มีแต่จากมุงหลังคา ไม่มีผนังปิดกันด้านข้าง
เชลยรีบวิ่งมาขนของในรถเข็น ทุกคนต่างมีสภาพที่ผ่อมโซ บางคนเจ็บป่วย ขาขาดน่าเวทนา! นทีกาญจน์ถึงกับอยากจะอาเจียน
"พี่แหลม รอตรงนี้นะ นทีจะเอาอาหารกลางวัน ไปให้คุณหมอ "
ทหารญี่ปุ่นเดินผ่านมา สองคนทนีกาญจน์เข้าไปถามว่าคุณหมโอะโนะดะทำงานอยู่ตรงไหม ตามที่ทหารบอก เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงห้องทำงานของหมอโอะโนะดะ ที่สร้างขึ้นมาใบจากแบบง่ายๆแต่แน่นหนากว่าบ้านพักเชลย นทีหยุดอยู่ข้างหน้า
"อ้าว!นทีจัง" เสียงทักมาจากด้านหลัง อย่างสดใสร่าเริงของหมอโอะโนะดะ
" คุณหมอ..สวัสดีคะ."
" มาหาใครหรอคับ ..มีอะไรให้ช่วยไหมคับ"
"มีคะ...นี้อาหารกลางวันของคุณภรรยาคุณฝากมาคะ"
นทีกาญจน์ยื่นกล่องอาหารให้ สายตาเลือบไปเห็น ชาย-หญิงคู่หนึ่ง แถมได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกเดินลงมาจากอาคาร ตรงหน้า ร่างสูงที่เดินควงคู่มากับกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น บอบบาง ... แต่มีอายุมากแล้ว
"ผู้กองโยชิ..ไปหาจันทร์แรมที่ร้านบ่อยๆนะคะ จันทร์เหงา เหงาจันทร์แรมกลับก่อนนะคะ "
จันทร์แรมพูดขณะที่มือเรียวของเธออ้อยอิ่งอย่างรู้งานอยู่กับ เคบรื่องแบบขอโทโมโยชิ โดยที่ไม่แคร์สายตาของหมอโอโดะดะและนทีกาญจน์ยื่นอยู่ตรงหน้า
" คับ ถ้าว่างแล้วผมจะแวะไป" โทโมโยชิตอบอย่างรำคาน ... เขา ตอบปัดๆ อย่างลำบากใจ การให้เกียรติผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ทำให้โทโมโยชิลำบาคใจไม่น้อย
"กลับก่อนนะคะ"
นทีกาญจน์หันไปโค้งคับนับให้คุณหมอโอโดะดะ หันหลังเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มกับหญิงตรงหน้า เดินไปเลื่อยๆถึงจุด ที่แหลมรออยู่
"ไปกันเถอะจ๊ะ...แดดร้อนแล้ว"
นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งบน เรือพลางคิดถึง เรื่องเมื่อกี่ในใจ คนอารัยกลางวันแท้ๆยังทำไปได้ แหลมสตาร์ทเครื่องเรือ ขับออกไปเรื่อยๆจนถึงท่าน้ำบ้านมะลิ โดยมีมะลิยื่นรออยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างจ๊ะ...เหนื่อยไหม"
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...สบายมากคะ" นทีก้าวลงจากเรือขึ้นมานั้งบนศาลาพร้อมกับมะลิที่นั่งรออยู่
"วันหลังพี่มะลิ ไม่ต้องไปส่งของแล้วนะคะ นทีขอทำหน้าที่นี้แทนพีเองคะ พี่จะได้มีเวลาดูเจ้าตัวเล็ก " บรรยากาศในบ้านแพรกยามเช้าดูสดชื่น กระแต เดินเข้ามาศาลาริมน้ำที่นทีกาญจน์ นั้งอยู่พร้อมหาบใส่ขนมตาลและขนมไทยต่างๆ กระแตวางหาบลงถอดหมวกงอบแบบไทยใส่เสื้อแขนยาวกันแดดสีแดง
"ไปขายขนมจ๊ะ.."
"เก่งจังนะจ๊ะวันหยุด ยังจะขายขนม" นทีกาญจน์ก้มดูขนมในหาบ
"แล้วจะไปขายที่ไหนหรอจ๊ะ"
"ไปขายที่ค่ายเชลยนะ พี่นที..สายแล้วกระแตไปก่อนนะ"
"เดียว!"นทีร้องห้าม
"พี่ไปด้วย..พี่อยากไปเห็น..เกิดมายังไม่เคยเห็นของจิง"
"ได้สิคะ..ออกไปเที่ยวบ้างก็ดีนะ"
กระแตยกหาบขึ้นใส่บ่าพานที่กาญจน์ เดินไปยังท่าเรือสำหลับขึ้นไปยังค่ายเชลย ลองเรือไปตามแม่น้ำแควใหญ่ไม่นานก็ถึง ค่ายเขาช่องไก่ถือว่าเป็นค่ายคุมขังใหญ่ค่ายหนึ่ง ... เชลยศึกทุกคนถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในป่าลึก ทหารญี่ปุ่นเข้มงวดมาก ที่ค่ายกลางป่าลึก เรือเทียบท่าจอดตรงทางเข้าค่าย
"พี่นทีตามมาคะ "
กระแตพานทีกาญจน์เดินเลียบ ๆ เคียง ๆตามริมรั่วของค่าย ไปจุดที่พ่อค้าแม่ค้าตระโกนขายของเสียงดังมาแต่ไกล
"อ้าว..แม่กระแตได้ข่าวว่าไปทำงานบ้านคุณนายญี่ปุ่น..ไงวันนี้มาขายของละจ๊ะ"
หนึ่งในกลุ้มแม่ค้าหาเรื่องค่อนแคะกระแต
" ก็ฉันยังสาว ยังสวย มาเดินตรงนี้บ้างอาจมีนายทหารหนุ่มมๆหล่อๆมาให้เชยชมก็ได้นะจ๊ะพี่"
กระแตเยาะเย้ยถากถางกลับในขณะที่นทีกาญจน์ สอดส่อง ข้างใน รั้วค่ายเชลยสายตาก็ไปพบ แดเดียล เดินโซเซมาตามรั่ว
"คุณ..จำฉันได้ไหม" นทีกาญจน์ร้องทักเป็นภาษาอังกษฤ
"สวัสดี...ผมจำคุณได้" แดเดียลเดินมายังนทีกาญจน์
"คุณดูแย่ มากๆ"
นทีกาญจน์เห็นสภาพแดเดียล สภาพผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
"พวกเราไม่ได้รับยาและอาหารจากกองทัพญี่ปุ่ณเลย " แดเดียลเล่าความทุกข์ทรมารของเค้าให้นที่การญจน์ฟัง
"คุณหิวไหม?" นทีกาญจน์เอื้อมมือไปยิบขนมที่หาบของกระแต
"เดียวคะ..พี่นทีถ้าพวกทหารญี่ปุ่นเห็น ต้องแย่แน่ๆเลยคะ" กระแตร้องห้าม
"ไม่เป็นไร..ถ้าโดนจับได้ฉันรับผิดชอบเอง" พร้อมกับส่งขนมให้แดเนียล
รถจิ๊ปทหารญี่ปุ่น ของโทโมโยชิแล่นเข้ามาจอดหน้าค่าย โทโมโยชิ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จองมองไปยังพ่อค้าแม่ค้าที่รั่วค่าย.โทโมโยชิ เดินมาด้านหลังนทีกาญจน์อย่างช้าๆโดยที่กระแตเห็นแล้ว
"พี่ๆ..นที"
พลางเอามือกระตุกเสื้อนทีกาญจน์"เอาน่า ..กระแตไม่ต้องห่วง..เดียวพี่จะหาค่าขนมมาจ่ายเอง..เอามาอีกเร็ว "
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากสาวใช้ นทีกาญจน์หันหลังกลับมาเจอโทโมโยชิ ร่างระหงสะดุ้งเฮือกหันหลังเดินหนีทันที ... วินาทีแรกที่สายตาปะทะทหารหนุ่ม
"คุณมาทำอะไรทีนี้"เสียงเข้มดังขึ้น
"คือฉันมากับกระแตนะ"
นทีกาญจน์กลัวจนตัวสั่น และก็ตอบคำถามฝ่ายตรงข้ามไป แบบร้อนล้นพอสมควร สายตาของโทโมโยชิมองไปยังแดลเนียลในท่าตรงเรียบ
"คุณอย่าทำอะไรแดลเนียลนะ...ฉันขอร้อง"
เสียงอ้อนวอนของนทีกาญจน์ เพราะทันทีที่เห็นแววตาพิโรธของมัจจุราชในคราบ ทหารกระหายสงครามคู่นั้น
"กระแตกลับบ้านไปก่อน..และที่หลังห้ามมาที่นี้อีก..ถ้าไม่อยากตกงาน" โทโมโยชิหันไปสั้งกระแตแล้วรีบหันไปจับมือนทกาญจน์
"ส่วนคุณมากับผม"
"นี้ปล่อยฉันนะ...ฉันไม่ไป.."
ในขนะนั้นเชลยสี่่คนได้ยกศพเพื่อนเชลยด้วยกัน ผ่านหน้าไปทีกาญจน์ยืนตัวแข็งทื่อ ริสีหน้าขาวซีด
"มานี้ ..ไปจากที่นี้กัน" โทโมโยชิจุงมือเรียวตรงไปยังรถจิ๊บที่จอดอยู่เปิดประตูให้นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งข้างหน้าโทโมโยชิขับรถแล่นไปช้าๆ ..
"อีกไม่กี่ปีสงครามจะจบ..สิ่งที่พวกคุณทำจะเป็นเพียงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์เท่านั้น" นทีกาญจน์พูดภาษาญี่ปุ่นเน้นๆชัดๆ
"นี่คือสงคราม.. มันโหดร้ายเสมอ สำหรับโลกมนุษย์..เพี้ยง..จะเลือกเห็นด้านไหนของความโหดร้าย คุณ ผม หรือว่าเชลยไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้กันทั้งนั้น"
โทโมโยชิหยุดรถกระทันหัน ตอบเสียงขรึมพลางมองไปยังนทีกาญจน์ในตาเศร้า
"พวกคุณรู้ไหม..สงครามจบ..ประวัติศาสตร์จะเขียนถึงพวกคุณอย่างไร" การที่รู้อะไรล่วงหน้าทำให้นทีกาญจน์หนักใจและสงสารชายหนุ่มตรงหน้า
"ผมไม่สน..ว่าประวัติศาสตร์จะเขียนอย่างไร ...ทหารในจักรวรรดิญี่ปุ่นจะทำทุกอย่างเพือชัยชนะ"
โทโมโยชิขับรถเลียวเข้าในค่ายหารมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกคนที่ผ่านออกเข้าค่าย ไม่ยกเว้นแม้แต่ทหารญี่ปุ่น เป็นระเรียบ
"คุณจะพาฉันไปไหน" นทีกาญจน์ถามด้วยความกลัวสุดขีด
"ผมจะแวะมาเอาเอกสารสักหน่อย..และจะไส่คุณที่ตลาด"
รถจอดที่บ้านพักทำด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ชายหนุ่นก้าว..ยาวๆเข้าไปในห้องสักพักกลับมาพร้อมเอกสารในมือ..ขึ้นมาบนรถพร้อมขับออกไปตามทางที่สร้างมาเฉพาะรถตัดออกไปตลาด..
รถแล่นมาจอดหน้าร้านของมะลิ คนสองคนเดินลงมาจากรถจิ๊บของโทโมโยชิ ในตลาดยามเที่ยงดูคึกคัก
"ขอบคุณ..นะที่มาส่ง..แต่ทีหลังไม่ต้องม่าส่ง..ฉันกลับกับกระแตได้" นทีกาญจน์ขอบคุณ อย่างประชดประชัน
"อ้าวผู้กองโยชิ..มาตลาดแต่เช้า"โทโมโยชิหันไปมองหาที่มาของเสียงสารวัตรจงอางเดินมาตรงที่โยชิ
"มาชื้อของนิดหน่อยนะคับ"โทโมโยชิตอบเสียงเรียบ
"มีอะไรขาดเหลือก็บอกนะคับ ทางหลวงออกกฎมาแล้ว ว่าพวกเราต้องสนับสนุนพวกญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ "
สารวัตรองค์อาจถอดหมวกโค้งคับนับ
"คับ.. ขอบคุณคับ."
โทโมโยชิโค้งคับนับ แล้วหันไปดูนทีกาญจน์เดินเข้าไปในร้าน และหันหลังขึ้นรถไป
ภายในร้านของชำ มะลิกำลังจัดของมีจำพวกผัก ขาว อาหารต่างๆ นทีกาญจน์เดินเข้ามามะลิ เช็คของกำลังยุ่ง
"โอโห ของเยอะจังเลย ท่าทางจะขายดีนะคะ"
"พี่จะเอาไปส่งที่ค่ายเชลย นะจะ" มะลิพลางเอามือลูบท้องหน้าตา เหยเก นทีกาญจน์ ประคองมะลิ นั้งลงบนเก้าอี้
"สงสัยเจ้าตัวเล็ก เกเรสะแล้วคะพี่มะลิ พักผ่อนก่อนนะคะ "นทีกาญจน์ ส่งยาดมให้มะลิพลางนวดให้เบาๆ
"แต่พี่ทำงานยังไม่เสร็จเลยนิ จะ...พี่ต้องรีบส่งของพวกนี้ให้ทัน" มะลิมองไปยังข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรจ๊ะ นทีทำเองเรื่องแค่นี้ พี่มะลิสบายใจได้เลยคะว่าของถึงค่ายแน่ๆ"
นทีกาญจน์อาสา อย่างยิ้มแย้ม และเอือมมือไปลูบท้องของมะลิ
"ได้จะ ขอบคุณมากนะ พี่ฝากข้าวกลางวันไปใหคุณหมอด้วยนะ "
มะลิส่งข้าวกล่องให้นทีกาญจน์ นายแหลมคนขับเรือของมะลิ ยกข้าวของขึ้นเรือ ขับของไปกับนทีกาญจน์ เรือวิ่งออกไปสักพัก ก็จอดที่ท่าเรือค่ายเชลย มีทหารสองคน คอยเฝ้าหน้าประตูค่ายฝังติดแม่น้ำ
"สวัสดีคะ ฉันเอาของจากร้านคุณนายคุณหมอโอะโนะดะมาส่งจะ"
นทีกาญจน์สสือสารเป็นภาษาญี่ปุ่น ทหารสองคนพอจะเข้าใจและปล่อยนทีกาจน์ เข้าไป เข็นของมาเรื่อยๆ มาหยุด ด้านหน้าค่าย มีแต่จากมุงหลังคา ไม่มีผนังปิดกันด้านข้าง
เชลยรีบวิ่งมาขนของในรถเข็น ทุกคนต่างมีสภาพที่ผ่อมโซ บางคนเจ็บป่วย ขาขาดน่าเวทนา! นทีกาญจน์ถึงกับอยากจะอาเจียน
"พี่แหลม รอตรงนี้นะ นทีจะเอาอาหารกลางวัน ไปให้คุณหมอ "
ทหารญี่ปุ่นเดินผ่านมา สองคนทนีกาญจน์เข้าไปถามว่าคุณหมโอะโนะดะทำงานอยู่ตรงไหม ตามที่ทหารบอก เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงห้องทำงานของหมอโอะโนะดะ ที่สร้างขึ้นมาใบจากแบบง่ายๆแต่แน่นหนากว่าบ้านพักเชลย นทีหยุดอยู่ข้างหน้า
"อ้าว!นทีจัง" เสียงทักมาจากด้านหลัง อย่างสดใสร่าเริงของหมอโอะโนะดะ
" คุณหมอ..สวัสดีคะ."
" มาหาใครหรอคับ ..มีอะไรให้ช่วยไหมคับ"
"มีคะ...นี้อาหารกลางวันของคุณภรรยาคุณฝากมาคะ"
นทีกาญจน์ยื่นกล่องอาหารให้ สายตาเลือบไปเห็น ชาย-หญิงคู่หนึ่ง แถมได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกเดินลงมาจากอาคาร ตรงหน้า ร่างสูงที่เดินควงคู่มากับกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น บอบบาง ... แต่มีอายุมากแล้ว
"ผู้กองโยชิ..ไปหาจันทร์แรมที่ร้านบ่อยๆนะคะ จันทร์เหงา เหงาจันทร์แรมกลับก่อนนะคะ "
จันทร์แรมพูดขณะที่มือเรียวของเธออ้อยอิ่งอย่างรู้งานอยู่กับ เคบรื่องแบบขอโทโมโยชิ โดยที่ไม่แคร์สายตาของหมอโอโดะดะและนทีกาญจน์ยื่นอยู่ตรงหน้า
" คับ ถ้าว่างแล้วผมจะแวะไป" โทโมโยชิตอบอย่างรำคาน ... เขา ตอบปัดๆ อย่างลำบากใจ การให้เกียรติผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ทำให้โทโมโยชิลำบาคใจไม่น้อย
"กลับก่อนนะคะ"
นทีกาญจน์หันไปโค้งคับนับให้คุณหมอโอโดะดะ หันหลังเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มกับหญิงตรงหน้า เดินไปเลื่อยๆถึงจุด ที่แหลมรออยู่
"ไปกันเถอะจ๊ะ...แดดร้อนแล้ว"
นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งบน เรือพลางคิดถึง เรื่องเมื่อกี่ในใจ คนอารัยกลางวันแท้ๆยังทำไปได้ แหลมสตาร์ทเครื่องเรือ ขับออกไปเรื่อยๆจนถึงท่าน้ำบ้านมะลิ โดยมีมะลิยื่นรออยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างจ๊ะ...เหนื่อยไหม"
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...สบายมากคะ" นทีก้าวลงจากเรือขึ้นมานั้งบนศาลาพร้อมกับมะลิที่นั่งรออยู่
"วันหลังพี่มะลิ ไม่ต้องไปส่งของแล้วนะคะ นทีขอทำหน้าที่นี้แทนพีเองคะ พี่จะได้มีเวลาดูเจ้าตัวเล็ก "
"สวัสดี...ผมจำคุณได้" แดเดียลเดินมายังนทีกาญจน์
"คุณดูแย่ มากๆ"
นทีกาญจน์เห็นสภาพแดเดียล สภาพผ่ายผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
"พวกเราไม่ได้รับยาและอาหารจากกองทัพญี่ปุ่ณเลย " แดเดียลเล่าความทุกข์ทรมารของเค้าให้นที่การญจน์ฟัง
"คุณหิวไหม?" นทีกาญจน์เอื้อมมือไปยิบขนมที่หาบของกระแต
"เดียวคะ..พี่นทีถ้าพวกทหารญี่ปุ่นเห็น ต้องแย่แน่ๆเลยคะ" กระแตร้องห้าม
"ไม่เป็นไร..ถ้าโดนจับได้ฉันรับผิดชอบเอง" พร้อมกับส่งขนมให้แดเนียล
รถจิ๊ปทหารญี่ปุ่น ของโทโมโยชิแล่นเข้ามาจอดหน้าค่าย โทโมโยชิ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จองมองไปยังพ่อค้าแม่ค้าที่รั่วค่าย.โทโมโยชิ เดินมาด้านหลังนทีกาญจน์อย่างช้าๆโดยที่กระแตเห็นแล้ว
"พี่ๆ..นที"
พลางเอามือกระตุกเสื้อนทีกาญจน์"เอาน่า ..กระแตไม่ต้องห่วง..เดียวพี่จะหาค่าขนมมาจ่ายเอง..เอามาอีกเร็ว "
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากสาวใช้ นทีกาญจน์หันหลังกลับมาเจอโทโมโยชิ ร่างระหงสะดุ้งเฮือกหันหลังเดินหนีทันที ... วินาทีแรกที่สายตาปะทะทหารหนุ่ม
"คุณมาทำอะไรทีนี้"เสียงเข้มดังขึ้น
"คือฉันมากับกระแตนะ"
นทีกาญจน์กลัวจนตัวสั่น และก็ตอบคำถามฝ่ายตรงข้ามไป แบบร้อนล้นพอสมควร สายตาของโทโมโยชิมองไปยังแดลเนียลในท่าตรงเรียบ
"คุณอย่าทำอะไรแดลเนียลนะ...ฉันขอร้อง"
เสียงอ้อนวอนของนทีกาญจน์ เพราะทันทีที่เห็นแววตาพิโรธของมัจจุราชในคราบ ทหารกระหายสงครามคู่นั้น
"กระแตกลับบ้านไปก่อน..และที่หลังห้ามมาที่นี้อีก..ถ้าไม่อยากตกงาน" โทโมโยชิหันไปสั้งกระแตแล้วรีบหันไปจับมือนทกาญจน์
"ส่วนคุณมากับผม"
"นี้ปล่อยฉันนะ...ฉันไม่ไป.."
ในขนะนั้นเชลยสี่่คนได้ยกศพเพื่อนเชลยด้วยกัน ผ่านหน้าไปทีกาญจน์ยืนตัวแข็งทื่อ ริสีหน้าขาวซีด
"มานี้ ..ไปจากที่นี้กัน" โทโมโยชิจุงมือเรียวตรงไปยังรถจิ๊บที่จอดอยู่เปิดประตูให้นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งข้างหน้าโทโมโยชิขับรถแล่นไปช้าๆ ..
"อีกไม่กี่ปีสงครามจะจบ..สิ่งที่พวกคุณทำจะเป็นเพียงความโหดร้ายที่มนุษย์ทำกับมนุษย์เท่านั้น" นทีกาญจน์พูดภาษาญี่ปุ่นเน้นๆชัดๆ
"นี่คือสงคราม.. มันโหดร้ายเสมอ สำหรับโลกมนุษย์..เพี้ยง..จะเลือกเห็นด้านไหนของความโหดร้าย คุณ ผม หรือว่าเชลยไม่มีใครอยากอยู่ตรงนี้กันทั้งนั้น"
โทโมโยชิหยุดรถกระทันหัน ตอบเสียงขรึมพลางมองไปยังนทีกาญจน์ในตาเศร้า
"พวกคุณรู้ไหม..สงครามจบ..ประวัติศาสตร์จะเขียนถึงพวกคุณอย่างไร" การที่รู้อะไรล่วงหน้าทำให้นทีกาญจน์หนักใจและสงสารชายหนุ่มตรงหน้า
"ผมไม่สน..ว่าประวัติศาสตร์จะเขียนอย่างไร ...ทหารในจักรวรรดิญี่ปุ่นจะทำทุกอย่างเพือชัยชนะ"
โทโมโยชิขับรถเลียวเข้าในค่ายหารมีการฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อตั้งแต่หัวจรดเท้าทุกคนที่ผ่านออกเข้าค่าย ไม่ยกเว้นแม้แต่ทหารญี่ปุ่น เป็นระเรียบ
"คุณจะพาฉันไปไหน" นทีกาญจน์ถามด้วยความกลัวสุดขีด
"ผมจะแวะมาเอาเอกสารสักหน่อย..และจะไส่คุณที่ตลาด"
รถจอดที่บ้านพักทำด้วยไม้ไผ่เล็กๆ ชายหนุ่นก้าว..ยาวๆเข้าไปในห้องสักพักกลับมาพร้อมเอกสารในมือ..ขึ้นมาบนรถพร้อมขับออกไปตามทางที่สร้างมาเฉพาะรถตัดออกไปตลาด..
รถแล่นมาจอดหน้าร้านของมะลิ คนสองคนเดินลงมาจากรถจิ๊บของโทโมโยชิ ในตลาดยามเที่ยงดูคึกคัก
"ขอบคุณ..นะที่มาส่ง..แต่ทีหลังไม่ต้องม่าส่ง..ฉันกลับกับกระแตได้" นทีกาญจน์ขอบคุณ อย่างประชดประชัน
"อ้าวผู้กองโยชิ..มาตลาดแต่เช้า"โทโมโยชิหันไปมองหาที่มาของเสียงสารวัตรจงอางเดินมาตรงที่โยชิ
"มาชื้อของนิดหน่อยนะคับ"โทโมโยชิตอบเสียงเรียบ
"มีอะไรขาดเหลือก็บอกนะคับ ทางหลวงออกกฎมาแล้ว ว่าพวกเราต้องสนับสนุนพวกญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ "
สารวัตรองค์อาจถอดหมวกโค้งคับนับ
"คับ.. ขอบคุณคับ."
โทโมโยชิโค้งคับนับ แล้วหันไปดูนทีกาญจน์เดินเข้าไปในร้าน และหันหลังขึ้นรถไป
ภายในร้านของชำ มะลิกำลังจัดของมีจำพวกผัก ขาว อาหารต่างๆ นทีกาญจน์เดินเข้ามามะลิ เช็คของกำลังยุ่ง
"โอโห ของเยอะจังเลย ท่าทางจะขายดีนะคะ"
"พี่จะเอาไปส่งที่ค่ายเชลย นะจะ" มะลิพลางเอามือลูบท้องหน้าตา เหยเก นทีกาญจน์ ประคองมะลิ นั้งลงบนเก้าอี้
"สงสัยเจ้าตัวเล็ก เกเรสะแล้วคะพี่มะลิ พักผ่อนก่อนนะคะ "นทีกาญจน์ ส่งยาดมให้มะลิพลางนวดให้เบาๆ
"แต่พี่ทำงานยังไม่เสร็จเลยนิ จะ...พี่ต้องรีบส่งของพวกนี้ให้ทัน" มะลิมองไปยังข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า
"ไม่เป็นไรจ๊ะ นทีทำเองเรื่องแค่นี้ พี่มะลิสบายใจได้เลยคะว่าของถึงค่ายแน่ๆ"
นทีกาญจน์อาสา อย่างยิ้มแย้ม และเอือมมือไปลูบท้องของมะลิ
"ได้จะ ขอบคุณมากนะ พี่ฝากข้าวกลางวันไปใหคุณหมอด้วยนะ "
มะลิส่งข้าวกล่องให้นทีกาญจน์ นายแหลมคนขับเรือของมะลิ ยกข้าวของขึ้นเรือ ขับของไปกับนทีกาญจน์ เรือวิ่งออกไปสักพัก ก็จอดที่ท่าเรือค่ายเชลย มีทหารสองคน คอยเฝ้าหน้าประตูค่ายฝังติดแม่น้ำ
"สวัสดีคะ ฉันเอาของจากร้านคุณนายคุณหมอโอะโนะดะมาส่งจะ"
นทีกาญจน์สสือสารเป็นภาษาญี่ปุ่น ทหารสองคนพอจะเข้าใจและปล่อยนทีกาจน์ เข้าไป เข็นของมาเรื่อยๆ มาหยุด ด้านหน้าค่าย มีแต่จากมุงหลังคา ไม่มีผนังปิดกันด้านข้าง
เชลยรีบวิ่งมาขนของในรถเข็น ทุกคนต่างมีสภาพที่ผ่อมโซ บางคนเจ็บป่วย ขาขาดน่าเวทนา! นทีกาญจน์ถึงกับอยากจะอาเจียน
"พี่แหลม รอตรงนี้นะ นทีจะเอาอาหารกลางวัน ไปให้คุณหมอ "
ทหารญี่ปุ่นเดินผ่านมา สองคนทนีกาญจน์เข้าไปถามว่าคุณหมโอะโนะดะทำงานอยู่ตรงไหม ตามที่ทหารบอก เดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงห้องทำงานของหมอโอะโนะดะ ที่สร้างขึ้นมาใบจากแบบง่ายๆแต่แน่นหนากว่าบ้านพักเชลย นทีหยุดอยู่ข้างหน้า
"อ้าว!นทีจัง" เสียงทักมาจากด้านหลัง อย่างสดใสร่าเริงของหมอโอะโนะดะ
" คุณหมอ..สวัสดีคะ."
" มาหาใครหรอคับ ..มีอะไรให้ช่วยไหมคับ"
"มีคะ...นี้อาหารกลางวันของคุณภรรยาคุณฝากมาคะ"
นทีกาญจน์ยื่นกล่องอาหารให้ สายตาเลือบไปเห็น ชาย-หญิงคู่หนึ่ง แถมได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกเดินลงมาจากอาคาร ตรงหน้า ร่างสูงที่เดินควงคู่มากับกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น บอบบาง ... แต่มีอายุมากแล้ว
"ผู้กองโยชิ..ไปหาจันทร์แรมที่ร้านบ่อยๆนะคะ จันทร์เหงา เหงาจันทร์แรมกลับก่อนนะคะ "
จันทร์แรมพูดขณะที่มือเรียวของเธออ้อยอิ่งอย่างรู้งานอยู่กับ เคบรื่องแบบขอโทโมโยชิ โดยที่ไม่แคร์สายตาของหมอโอโดะดะและนทีกาญจน์ยื่นอยู่ตรงหน้า
" คับ ถ้าว่างแล้วผมจะแวะไป" โทโมโยชิตอบอย่างรำคาน ... เขา ตอบปัดๆ อย่างลำบากใจ การให้เกียรติผู้หญิงจะเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ทำให้โทโมโยชิลำบาคใจไม่น้อย
"กลับก่อนนะคะ"
นทีกาญจน์หันไปโค้งคับนับให้คุณหมอโอโดะดะ หันหลังเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มกับหญิงตรงหน้า เดินไปเลื่อยๆถึงจุด ที่แหลมรออยู่
"ไปกันเถอะจ๊ะ...แดดร้อนแล้ว"
นทีกาญจน์ขึ้นไปนั้งบน เรือพลางคิดถึง เรื่องเมื่อกี่ในใจ คนอารัยกลางวันแท้ๆยังทำไปได้ แหลมสตาร์ทเครื่องเรือ ขับออกไปเรื่อยๆจนถึงท่าน้ำบ้านมะลิ โดยมีมะลิยื่นรออยู่แล้ว
"เป็นไงบ้างจ๊ะ...เหนื่อยไหม"
"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ...สบายมากคะ" นทีก้าวลงจากเรือขึ้นมานั้งบนศาลาพร้อมกับมะลิที่นั่งรออยู่
"วันหลังพี่มะลิ ไม่ต้องไปส่งของแล้วนะคะ นทีขอทำหน้าที่นี้แทนพีเองคะ พี่จะได้มีเวลาดูเจ้าตัวเล็ก "
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ