พบรักที่ปลายเวลา
-
เขียนโดย ปากาดาว
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.43 น.
7 ตอน
8 วิจารณ์
11.20K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) หมอกบังตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"รถทัวร์สายกรุงเพท-กาญจนบุรี จะออกรถภายใน 20 นาทีนี้ค่ะ... ย้ำอีกครั้ง รถทัวร์สายกรุงเทพ-กาญจนบุรีใน 20 นาทีนี้ค่ะ..."
เสียงของพนักงานขนส่งหมอชิตใหม่ประกาศเตือนผู้โดยสาร ทำให้นทีกาญจน์สะดุ้ง แล้วหันไปบอกเซนเพื่อนร่วมงานให้เช็คนักท่องเที่ยวที่พวกเขาไปรับมาที่สุวรรณภูมิและจะไปสมทบกับคณะทัวร์ทีรออยู่ที่กาญจนบุรีที่รออยู่
"เซน นำลูกค้า ไปเที่ยวตามโปรแกรม นี้นะ ฉันเพิ่งได้อีเมล์มาจาก บริษัทเมือกี่ พี่แทนจัดไว้"
มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่มองสาวน้อยข้างๆอย่างน้อยใจ เค้าทำงานกับนทีกาญจน์ มาสองปีตั้งแต่เธอเรียนจบใหม่ๆเพราะเขาแอบมีความรู้สึกดีกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจึง ชวนมาทำงานด้วย
"ได้สิ ขอบคุณนะที่เอามาเผื่อ"
เชนตอบเสียงเรียบๆ ของชายหนุ่มแต่ตรงกันข้ามกับสายตาที่มองหญิงสาวที่อยู่ข้าง เขาเลือกที่จะเก็บอาการไว้อย่างนี้ เพื่อไม่ให้เสียเพื่อนไปผ่านมา 20 นาทีแล้ว รถทัวร์ที่นทีกาญจน์นั่งอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ช้าและเร็วขึ้นไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย บขส กาญจนบุรี โดยที่มีลุงมาดี คนขับรถของโรงแรมมารอรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
"สวัสดีคับลูกทัวร์ทุกๆท่าน เราได้มาถึงจังกาญจนบุรีซึ่งเป็นเมืองของจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายมรณะ และอีกไม่นานทุกคนก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องราวของทหารญี่ปุ่นกับเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่2อย่างแน่นอนคับ แต่ตอนนี้ทุกคนพักผ่อนก่อนนะคับทางเราจัดโรงแรมที่พักให้ทุกท่านเรียบร้อยแล้วคับ"
เซน มัคคุเทศก์ หนุ่มตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับบุคลิกภาพที่ดีของมัตรเทศน์หนุ่มชวนหน้าหลงใหลของสาวๆ ยิ่งหนัก นทีกาญจน์ไม่ลืมที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปฟังและไม่ลืมที่จะเช็ครายชื่อลูกทัวร์และบอกให้ทุกคนขึ้นรถที่มารอรับทุกคนกลับโรงแรม รถของลุงมาดีมาถึงหน้าโรงแรม นทีกาญจน์ร้องตะโกนเป็นภาษาอังกฤษแข่งกับเสียงลูกทัวร์ต่างชาติหลายภาษาที่พูดคุยเสียงดังจับเนื้อหาไม่ได้
"กรุณามารับกุนแจห้องและตาราการทัวร์ด้วยนะคะ"
นทีกาญจน์ตะโกนจนเสียงแห้ง กว่าจะแจกหมดทุกคนเล่นเอาหมดแรงกันเลยที่เดียว พอส่งแขกเข้าห้องครอบทุกคนนทีกาญจน์ เดินออกมาด้านนอกของโรงแรมเพื่อรับกับบรรยากาศ ของริมแม่น้ำที่ติดอยู่กับโรงแรม นทีกาญจน์พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่
"นที "เสียงหนึ่งดังมาจากหลังนทีกาญจน์ ดูท่าทางวิ่งมาจนหอบเหนื่อย
"อ้าว นัท ว่าโงนัท"นทีกาญจน์ หันกลับไปทักกับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าน
"พี่แทน เค้าบอกให้แกไปดูแลลูกค้าที่จะไปทัวร์นอนแพเธค คืนนี้ แทนพี่เค้าหน่อย ลูกเค้าไม่สบาย มาไม่ได้ แกจะว่ายังไงวะ" นัทถามนทีกาญจน์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบและเหงื่อท่วมตัว
"แกก็รู้นี้ นัทฉันไม่ชอบดูแลกรุ๊ปทัวร์แบบนั้น ให้ฉันไปเดินตากแดดตาม สถานที่ท่องเที่ยวพาลูกค้าชมบ้านเมืองยังดีกว่าให้ไปดูแลพวกขี้เมา ทั้งคืน" นทีกาญจน์บ่นกับเพื่อนสาวกับข่าวที่นัทเพิ่งมาบอก
"แต่ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรอ นที"
นัท รัตติกาล เพื่อนสาวรุ่นเดียวกับนทีกาญจน์ พูดพร้อมจับมือ ขอร้องนทีกาญจน์
"แกมีแผนอะไรอีกละ นัท อย่างบอกนะเรื่องพี่เซน "นทีกาญจน์รู้ทันเพื่อนสาวคนสนิททันที
"ได้ๆๆ ถาเรื่องนั้นฉันช่วยเต็มที่"
"จริงหรอ ขอบคุณนะ ฉันกับพี่เซนจะได้ใกล้ชิดกันใต้ แสงจันทร์ นี้นะถ้าแกไม่ไปพี่เซนไม่มีทางไปด้วยหรอแกก็รู้นี้นที" เสียงหญิงสาวเจื่อนแจ่วด้วยความดีใจ รัตติกาลเข้ามากอดคอ นทีกาญจน์อย่างดีใจ
"นัทฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เซน แกก็รู้"
นทีกาญจน์พยามพูดให้เพื่อนคนสนิทสบายใจ เพราเพื่อนเธอคนนี้แอบชอบ มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ มานานแล้วอาการหนักน่าดู จึงทำให้เธอปิดกันเซนไม่ให้เข้าในหัวใจเธอเช่นกัน ในที่สุดความพยายาม ของนัท รัตติกาล ก็สำเร็จ
รื่นรมย์สุดแสนโรแมนติก กับบุคคลที่ท่านรัก สโลแกนของเรือลำยักษ์ ที่ดัดแปลงเป็นแพเธคขนาดใหญ่ คืนนี้อากาศเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เสียงเพลงดังกระหึ่ม ออกมาจากเรือแพตรงหน้า นทีกาจญมาในชุดเทรนด์ เสื้อกันหนาว และ กางเกงเล้กกิ้งที่เฉิดฉายคู่กันกับ รองเท้าบู๊ท เก๋ๆ กางเกงเล้กกิ้งที่ทำให้ เข้ารูปโชว์สัดส่วนสวยงามของนทีกาญจน์ได้เป็นอย่างดี หญิงสาววัย22ปี ที่หนัก 46 กก. สูง : 168 ซม.จมูกเรียวสวย ดูโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยเรียวเป็นกระจับและ แววตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สาวรูปหน้าไข่ ผมสวย มีลอนจับกัน ดูพลิ้วไหวต้อนรับลมหนาวได้เป็นอย่างดี เธอช่างมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามสะเหลือเกิน เธอมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางใส่ข้าวของสำหรับเดินทางสามวัน
" อะแฮ่ม!" เสียงจากด้านหลังนทีกาญจน์ ทำให้เธอหันหลังไปมองที่มาของเสียง
"อ้าว นัท " นทีกาญจน์เอ๋ยทักเพื่อน
"รอนานไหม นที ฉันขอโทษที่ทำให้แกต้องรอนาน"นัท รัตติกาล ทำน้ำเสียงอ่อยๆเพื่อขอโทษหลังจากที่หายไปนานทำให้เพื่อนขอเธอต้องยืนคอย
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร ไปเราขึ้นเรือแพกันเถอะ สุดที่รักของเธอคงชะเง้อรอพวกเราแล้วละ" นทีกาญจน์แอบแซ่วเพื่อนสาว
"ใช้สุดที่รักของฉัน แต่ฉันใช้สุดที่รักของเค้าหรือป่าวนที"นัท รัตติกาล ตอบกลับอย่างน้อยใจ กับผู้ชายที่ตัวเองรัก แต่เข้ากลับไม่เห็นมันสะงัน
"เอาน๊า ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน อยู่ไกลแค่ไหนก็หากันเจอนั้นละ"
นทีกาญจน์ปล่อยใจเพื่อนสาว แล้วพากันขึ้นไปบนแพ ที่มีทั้งเครือดื่มและอาหารเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ที่พร้อมจะพานักท่องเที่ยวถ้ำเขาปูน เกาะแก้ว ตามโปรแกม การล่องแพเธคคาราโอเกะนทีกาญจน์กับรัตติกาลเดินเข้ายังข้างในแพเธคชึ่งมีสองชั้นข้างบนเป็นดาดฟ้าเอาใว้ชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ส่วนชั้นล่างมีลานขนาดใหญ่ทำเป็นเวที ดิสโก้เธค ลอยน้ำ มีดีเจมากฝีมือคอยเปิดเพลงเสียงดังสร้างความ เพลิดเพลินในกับแขกบนแพได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านท้ายของแพจะเป็นแพนอนต่อออกมาอีกลำหนึ่ง
"อ้าว สาวๆมากันแล้ว อีก 20 นาที่เรือก็จะออกแล้ว "เซนมัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ยิ้มให้สาวรุ่นน้องตรงหน้า
"เมาแต่หัวค่ำเลยนะคะ คุณเซน" รัตติกาล ถามแกมตำหนิ หลังจากที่เห็นชายหนุ่มถือแก้วเหล้าในมือ
"นัทแกเอากระเป๋ามาให้ฉันเดียวฉันไปเก็บให้ "นทีกาจญ์ยืนมือขอกระเป๋าจากเพื่อนด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไร เดียวฉันไปด้วยเกรงใจแก " รัตติกาล แย้ง
"แกอยู่นี้ละ แกชงเหล้าให้พี่เซน เถอะ เหล้าหมดแล้ว "
"ให้พี่ไปเอาเก็บให้ดีไหม"เซนเอ๋ยขึ้นมาใน ขณะที่สาวๆเถียงกัน
"ไม่ต้องคะ ทั้งคู่นั้นละ ฉันไปเอง อยู่นี้ละ "
นทีกาญตัดบท แล้วก็รีบถือกระเป๋าเดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยโดยปราศจาก กขค อย่าเธอนทีกาญจน์ เอากระเป๋ามาเก็บในห้องพักของเธอและเพื่อน คืนนี้ ภารกิจไม่มีอะไร นอกจากปล่อยให้แขกสนุกไปกับเสียงเพลงข้างล่าง นทีกาญจน์ เก็บกระเป๋าแลจัดให้เรียบร้อย ในห้องที่มีพร้อมทุกอย่าง เหมือนห้องพักทั่วไปแต่แตกต่างกันเพราะเป็นห้องพักที่ลอยได้ มองออกไปจะเห็นสะพานรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าผาที่สูงใหญ่เป็นภาพที่สวยงามมากในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงในแม่น้ำแควน้อย ช่างสวยเสียเหลือเกิน ในขณะที่เรือแพกำลังวิ่งไปเลื่อยๆพร้อมกับเสียงเพลงดั้งกระหึ่ม นทีกาญจน์มองชมวิวจากหน้าตาห้องอย่างเพลิดเพลิน
"ก๊อก ก๊อก นทีพี่เข้าไปได้ไหม " เสียงเคาะประตูออกมาจากด้านนอกนั้นทำให้ นทีกาญจน์พอเดาออกว่า น้ำเสียงนั้น ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"อ้าวพี่เซน มายังไงค่ะ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่า เข้ามาก่อนคะ นัทไม่ได้ขึ้นมาหรอคะ" นทีกาญจน์ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนรัก
"อย่าถามถึงคนอื่นเลย พี่อยากมาคุยเรื่องของเรา "เซนเอ๋ยขึ้นด้วยในตาแดงและอาการมึนเมาในสุรา
"นทีว่าพี่เซนเมาแล้วคะ พี่กลับห้องพี่ไปเสียดีกว่า พรุ่งนี้ มีอะไรค่อนมาคุยกัน" พูดจบ นทีก็ปิดประตูทันที
"เมาหรอ?พี่ไม่ได้เมา อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย"เชนใช้มือดันประตูไว้แล้วเอ๋ยขึ้น ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปในห้องได้สำเร็จด้วยแรงผู้ชาย
"พี่เซนจะทำอะไรนะ" นทีกาญจน์ก้าวถ้อยหลัง ออกจนชิดกับกับแพง พอจะรู้ทันผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ใน ขณะที่เรือแพกำลังลอยไปอย่างช้า และอยู่ๆก็มีหมอกปกคลุมจนมองแม่น้ำไม่เห็น
"นที รังเกียจพี่หรอ ??"หลังจากเห็นท้าทางสาวสวยตรงหน้า ไม่มีท่าที่สมยอมพร้อมกับก้าวยาวๆเข้าไปจับแขนทั้งสองของนทีกาญจน์ไว้ได้
"ปล่อยนะ ไม่ปล่อย นทีจะร้องให้คนช่วย"นทีกาญจน์ขู่
"ร้องเลย "นึกหรอว่าจะมีใครสนใจ"เชนกรามราวกับอดใจไม่ไหวอยากกระโจนย่ำเหยื่อ.ของเค้าตรงหน้าเสียได้
"ผมจะคลั่งตายอยู่แล้วนะ คุณจะเล่นตัวไปถึงไหน นที หมดเวลาแล้ว"เซนคำราม
"แต่ฉันไม่ยอมตกเป็นของคนที่ฉันไม่ได้รักอย่าคุณแน่ๆ"นทีกาญจน์เอ๋ยอย่างกลัวสุดขีดพร้อมกับสะบัดมือหลุด หัน
หลังวิ่งหนีชายหนุ่ม อย่าไม่คิดชีวิต ก้าวยาวๆ วิ่งออกจากห้องทางด้านหลังจนถึงระเบียงชมวิวของห้องแพ
นทีกาญจน์หันหลังกลับมามองชายหนุ่มมันกัดตรงหน้า กับแม่น้ำข้างหลังที่มีหมอกปกคลุมจนมองไม่เห็นน้ำสักหยดเดียว
"นที"เสียงเรียกดุดันของเซนทำให้
"ว๊ายๆๆๆกรีดดด"
นทีกาญจน์ตกใจ ถอยหลังก้าวตกลงแม่น้ำแควที่มีหมอกปลุกคลุม หายไปกับตาชายหนุ่มชาย
"รถทัวร์สายกรุงเพท-กาญจนบุรี จะออกรถภายใน 20 นาทีนี้ค่ะ... ย้ำอีกครั้ง รถทัวร์สายกรุงเทพ-กาญจนบุรีใน 20 นาทีนี้ค่ะ..."
เสียงของพนักงานขนส่งหมอชิตใหม่ประกาศเตือนผู้โดยสาร ทำให้นทีกาญจน์สะดุ้ง แล้วหันไปบอกเซนเพื่อนร่วมงานให้เช็คนักท่องเที่ยวที่พวกเขาไปรับมาที่สุวรรณภูมิและจะไปสมทบกับคณะทัวร์ทีรออยู่ที่กาญจนบุรีที่รออยู่
"เซน นำลูกค้า ไปเที่ยวตามโปรแกรม นี้นะ ฉันเพิ่งได้อีเมล์มาจาก บริษัทเมือกี่ พี่แทนจัดไว้"
มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่มองสาวน้อยข้างๆอย่างน้อยใจ เค้าทำงานกับนทีกาญจน์ มาสองปีตั้งแต่เธอเรียนจบใหม่ๆเพราะเขาแอบมีความรู้สึกดีกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจึง ชวนมาทำงานด้วย
"ได้สิ ขอบคุณนะที่เอามาเผื่อ"
เชนตอบเสียงเรียบๆ ของชายหนุ่มแต่ตรงกันข้ามกับสายตาที่มองหญิงสาวที่อยู่ข้าง เขาเลือกที่จะเก็บอาการไว้อย่างนี้ เพื่อไม่ให้เสียเพื่อนไปผ่านมา 20 นาทีแล้ว รถทัวร์ที่นทีกาญจน์นั่งอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ช้าและเร็วขึ้นไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย บขส กาญจนบุรี โดยที่มีลุงมาดี คนขับรถของโรงแรมมารอรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
"สวัสดีคับลูกทัวร์ทุกๆท่าน เราได้มาถึงจังกาญจนบุรีซึ่งเป็นเมืองของจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายมรณะ และอีกไม่นานทุกคนก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องราวของทหารญี่ปุ่นกับเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่2อย่างแน่นอนคับ แต่ตอนนี้ทุกคนพักผ่อนก่อนนะคับทางเราจัดโรงแรมที่พักให้ทุกท่านเรียบร้อยแล้วคับ"
เซน มัคคุเทศก์ หนุ่มตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับบุคลิกภาพที่ดีของมัตรเทศน์หนุ่มชวนหน้าหลงใหลของสาวๆ ยิ่งหนัก นทีกาญจน์ไม่ลืมที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปฟังและไม่ลืมที่จะเช็ครายชื่อลูกทัวร์และบอกให้ทุกคนขึ้นรถที่มารอรับทุกคนกลับโรงแรม รถของลุงมาดีมาถึงหน้าโรงแรม นทีกาญจน์ร้องตะโกนเป็นภาษาอังกฤษแข่งกับเสียงลูกทัวร์ต่างชาติหลายภาษาที่พูดคุยเสียงดังจับเนื้อหาไม่ได้
"กรุณามารับกุนแจห้องและตาราการทัวร์ด้วยนะคะ"
นทีกาญจน์ตะโกนจนเสียงแห้ง กว่าจะแจกหมดทุกคนเล่นเอาหมดแรงกันเลยที่เดียว พอส่งแขกเข้าห้องครอบทุกคนนทีกาญจน์ เดินออกมาด้านนอกของโรงแรมเพื่อรับกับบรรยากาศ ของริมแม่น้ำที่ติดอยู่กับโรงแรม นทีกาญจน์พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่
"นที "เสียงหนึ่งดังมาจากหลังนทีกาญจน์ ดูท่าทางวิ่งมาจนหอบเหนื่อย
"อ้าว นัท ว่าโงนัท"นทีกาญจน์ หันกลับไปทักกับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าน
"พี่แทน เค้าบอกให้แกไปดูแลลูกค้าที่จะไปทัวร์นอนแพเธค คืนนี้ แทนพี่เค้าหน่อย ลูกเค้าไม่สบาย มาไม่ได้ แกจะว่ายังไงวะ" นัทถามนทีกาญจน์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบและเหงื่อท่วมตัว
"แกก็รู้นี้ นัทฉันไม่ชอบดูแลกรุ๊ปทัวร์แบบนั้น ให้ฉันไปเดินตากแดดตาม สถานที่ท่องเที่ยวพาลูกค้าชมบ้านเมืองยังดีกว่าให้ไปดูแลพวกขี้เมา ทั้งคืน" นทีกาญจน์บ่นกับเพื่อนสาวกับข่าวที่นัทเพิ่งมาบอก
"แต่ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรอ นที"
นัท รัตติกาล เพื่อนสาวรุ่นเดียวกับนทีกาญจน์ พูดพร้อมจับมือ ขอร้องนทีกาญจน์
"แกมีแผนอะไรอีกละ นัท อย่างบอกนะเรื่องพี่เซน "นทีกาญจน์รู้ทันเพื่อนสาวคนสนิททันที
"ได้ๆๆ ถาเรื่องนั้นฉันช่วยเต็มที่"
"จริงหรอ ขอบคุณนะ ฉันกับพี่เซนจะได้ใกล้ชิดกันใต้ แสงจันทร์ นี้นะถ้าแกไม่ไปพี่เซนไม่มีทางไปด้วยหรอแกก็รู้นี้นที" เสียงหญิงสาวเจื่อนแจ่วด้วยความดีใจ รัตติกาลเข้ามากอดคอ นทีกาญจน์อย่างดีใจ
"นัทฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เซน แกก็รู้"
นทีกาญจน์พยามพูดให้เพื่อนคนสนิทสบายใจ เพราเพื่อนเธอคนนี้แอบชอบ มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ มานานแล้วอาการหนักน่าดู จึงทำให้เธอปิดกันเซนไม่ให้เข้าในหัวใจเธอเช่นกัน ในที่สุดความพยายาม ของนัท รัตติกาล ก็สำเร็จ
รื่นรมย์สุดแสนโรแมนติก กับบุคคลที่ท่านรัก สโลแกนของเรือลำยักษ์ ที่ดัดแปลงเป็นแพเธคขนาดใหญ่ คืนนี้อากาศเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เสียงเพลงดังกระหึ่ม ออกมาจากเรือแพตรงหน้า นทีกาจญมาในชุดเทรนด์ เสื้อกันหนาว และ กางเกงเล้กกิ้งที่เฉิดฉายคู่กันกับ รองเท้าบู๊ท เก๋ๆ กางเกงเล้กกิ้งที่ทำให้ เข้ารูปโชว์สัดส่วนสวยงามของนทีกาญจน์ได้เป็นอย่างดี หญิงสาววัย22ปี ที่หนัก 46 กก. สูง : 168 ซม.จมูกเรียวสวย ดูโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยเรียวเป็นกระจับและ แววตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สาวรูปหน้าไข่ ผมสวย มีลอนจับกัน ดูพลิ้วไหวต้อนรับลมหนาวได้เป็นอย่างดี เธอช่างมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามสะเหลือเกิน เธอมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางใส่ข้าวของสำหรับเดินทางสามวัน
" อะแฮ่ม!" เสียงจากด้านหลังนทีกาญจน์ ทำให้เธอหันหลังไปมองที่มาของเสียง
"อ้าว นัท " นทีกาญจน์เอ๋ยทักเพื่อน
"รอนานไหม นที ฉันขอโทษที่ทำให้แกต้องรอนาน"นัท รัตติกาล ทำน้ำเสียงอ่อยๆเพื่อขอโทษหลังจากที่หายไปนานทำให้เพื่อนขอเธอต้องยืนคอย
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร ไปเราขึ้นเรือแพกันเถอะ สุดที่รักของเธอคงชะเง้อรอพวกเราแล้วละ" นทีกาญจน์แอบแซ่วเพื่อนสาว
"ใช้สุดที่รักของฉัน แต่ฉันใช้สุดที่รักของเค้าหรือป่าวนที"นัท รัตติกาล ตอบกลับอย่างน้อยใจ กับผู้ชายที่ตัวเองรัก แต่เข้ากลับไม่เห็นมันสะงัน
"เอาน๊า ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน อยู่ไกลแค่ไหนก็หากันเจอนั้นละ"
นทีกาญจน์ปล่อยใจเพื่อนสาว แล้วพากันขึ้นไปบนแพ ที่มีทั้งเครือดื่มและอาหารเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ที่พร้อมจะพานักท่องเที่ยวถ้ำเขาปูน เกาะแก้ว ตามโปรแกม การล่องแพเธคคาราโอเกะนทีกาญจน์กับรัตติกาลเดินเข้ายังข้างในแพเธคชึ่งมีสองชั้นข้างบนเป็นดาดฟ้าเอาใว้ชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ส่วนชั้นล่างมีลานขนาดใหญ่ทำเป็นเวที ดิสโก้เธค ลอยน้ำ มีดีเจมากฝีมือคอยเปิดเพลงเสียงดังสร้างความ เพลิดเพลินในกับแขกบนแพได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านท้ายของแพจะเป็นแพนอนต่อออกมาอีกลำหนึ่ง
"อ้าว สาวๆมากันแล้ว อีก 20 นาที่เรือก็จะออกแล้ว "เซนมัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ยิ้มให้สาวรุ่นน้องตรงหน้า
"เมาแต่หัวค่ำเลยนะคะ คุณเซน" รัตติกาล ถามแกมตำหนิ หลังจากที่เห็นชายหนุ่มถือแก้วเหล้าในมือ
"นัทแกเอากระเป๋ามาให้ฉันเดียวฉันไปเก็บให้ "นทีกาจญ์ยืนมือขอกระเป๋าจากเพื่อนด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไร เดียวฉันไปด้วยเกรงใจแก " รัตติกาล แย้ง
"แกอยู่นี้ละ แกชงเหล้าให้พี่เซน เถอะ เหล้าหมดแล้ว "
"ให้พี่ไปเอาเก็บให้ดีไหม"เซนเอ๋ยขึ้นมาใน ขณะที่สาวๆเถียงกัน
"ไม่ต้องคะ ทั้งคู่นั้นละ ฉันไปเอง อยู่นี้ละ "
นทีกาญตัดบท แล้วก็รีบถือกระเป๋าเดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยโดยปราศจาก กขค อย่าเธอนทีกาญจน์ เอากระเป๋ามาเก็บในห้องพักของเธอและเพื่อน คืนนี้ ภารกิจไม่มีอะไร นอกจากปล่อยให้แขกสนุกไปกับเสียงเพลงข้างล่าง นทีกาญจน์ เก็บกระเป๋าแลจัดให้เรียบร้อย ในห้องที่มีพร้อมทุกอย่าง เหมือนห้องพักทั่วไปแต่แตกต่างกันเพราะเป็นห้องพักที่ลอยได้ มองออกไปจะเห็นสะพานรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าผาที่สูงใหญ่เป็นภาพที่สวยงามมากในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงในแม่น้ำแควน้อย ช่างสวยเสียเหลือเกิน ในขณะที่เรือแพกำลังวิ่งไปเลื่อยๆพร้อมกับเสียงเพลงดั้งกระหึ่ม นทีกาญจน์มองชมวิวจากหน้าตาห้องอย่างเพลิดเพลิน
"ก๊อก ก๊อก นทีพี่เข้าไปได้ไหม " เสียงเคาะประตูออกมาจากด้านนอกนั้นทำให้ นทีกาญจน์พอเดาออกว่า น้ำเสียงนั้น ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"อ้าวพี่เซน มายังไงค่ะ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่า เข้ามาก่อนคะ นัทไม่ได้ขึ้นมาหรอคะ" นทีกาญจน์ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนรัก
"อย่าถามถึงคนอื่นเลย พี่อยากมาคุยเรื่องของเรา "เซนเอ๋ยขึ้นด้วยในตาแดงและอาการมึนเมาในสุรา
"นทีว่าพี่เซนเมาแล้วคะ พี่กลับห้องพี่ไปเสียดีกว่า พรุ่งนี้ มีอะไรค่อนมาคุยกัน" พูดจบ นทีก็ปิดประตูทันที
"เมาหรอ?พี่ไม่ได้เมา อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย"เชนใช้มือดันประตูไว้แล้วเอ๋ยขึ้น ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปในห้องได้สำเร็จด้วยแรงผู้ชาย
"พี่เซนจะทำอะไรนะ" นทีกาญจน์ก้าวถ้อยหลัง ออกจนชิดกับกับแพง พอจะรู้ทันผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ใน ขณะที่เรือแพกำลังลอยไปอย่างช้า และอยู่ๆก็มีหมอกปกคลุมจนมองแม่น้ำไม่เห็น
"นที รังเกียจพี่หรอ ??"หลังจากเห็นท้าทางสาวสวยตรงหน้า ไม่มีท่าที่สมยอมพร้อมกับก้าวยาวๆเข้าไปจับแขนทั้งสองของนทีกาญจน์ไว้ได้
"ปล่อยนะ ไม่ปล่อย นทีจะร้องให้คนช่วย"นทีกาญจน์ขู่
"ร้องเลย "นึกหรอว่าจะมีใครสนใจ"เชนกรามราวกับอดใจไม่ไหวอยากกระโจนย่ำเหยื่อ.ของเค้าตรงหน้าเสียได้
"ผมจะคลั่งตายอยู่แล้วนะ คุณจะเล่นตัวไปถึงไหน นที หมดเวลาแล้ว"เซนคำราม
"แต่ฉันไม่ยอมตกเป็นของคนที่ฉันไม่ได้รักอย่าคุณแน่ๆ"นทีกาญจน์เอ๋ยอย่างกลัวสุดขีดพร้อมกับสะบัดมือหลุด หัน
หลังวิ่งหนีชายหนุ่ม อย่าไม่คิดชีวิต ก้าวยาวๆ วิ่งออกจากห้องทางด้านหลังจนถึงระเบียงชมวิวของห้องแพ
นทีกาญจน์หันหลังกลับมามองชายหนุ่มมันกัดตรงหน้า กับแม่น้ำข้างหลังที่มีหมอกปกคลุมจนมองไม่เห็นน้ำสักหยดเดียว
"นที"เสียงเรียกดุดันของเซนทำให้
"ว๊ายๆๆๆกรีดดด"
นทีกาญจน์ตกใจ ถอยหลังก้าวตกลงแม่น้ำแควที่มีหมอกปลุกคลุม หายไปกับตาชายหนุ่มชาย
แสงดาวส่งตะวัน
เสียงของพนักงานขนส่งหมอชิตใหม่ประกาศเตือนผู้โดยสาร ทำให้นทีกาญจน์สะดุ้ง แล้วหันไปบอกเซนเพื่อนร่วมงานให้เช็คนักท่องเที่ยวที่พวกเขาไปรับมาที่สุวรรณภูมิและจะไปสมทบกับคณะทัวร์ทีรออยู่ที่กาญจนบุรีที่รออยู่
"เซน นำลูกค้า ไปเที่ยวตามโปรแกรม นี้นะ ฉันเพิ่งได้อีเมล์มาจาก บริษัทเมือกี่ พี่แทนจัดไว้"
มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่มองสาวน้อยข้างๆอย่างน้อยใจ เค้าทำงานกับนทีกาญจน์ มาสองปีตั้งแต่เธอเรียนจบใหม่ๆเพราะเขาแอบมีความรู้สึกดีกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจึง ชวนมาทำงานด้วย
"ได้สิ ขอบคุณนะที่เอามาเผื่อ"
เชนตอบเสียงเรียบๆ ของชายหนุ่มแต่ตรงกันข้ามกับสายตาที่มองหญิงสาวที่อยู่ข้าง เขาเลือกที่จะเก็บอาการไว้อย่างนี้ เพื่อไม่ให้เสียเพื่อนไปผ่านมา 20 นาทีแล้ว รถทัวร์ที่นทีกาญจน์นั่งอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ช้าและเร็วขึ้นไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย บขส กาญจนบุรี โดยที่มีลุงมาดี คนขับรถของโรงแรมมารอรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
"สวัสดีคับลูกทัวร์ทุกๆท่าน เราได้มาถึงจังกาญจนบุรีซึ่งเป็นเมืองของจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายมรณะ และอีกไม่นานทุกคนก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องราวของทหารญี่ปุ่นกับเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่2อย่างแน่นอนคับ แต่ตอนนี้ทุกคนพักผ่อนก่อนนะคับทางเราจัดโรงแรมที่พักให้ทุกท่านเรียบร้อยแล้วคับ"
เซน มัคคุเทศก์ หนุ่มตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับบุคลิกภาพที่ดีของมัตรเทศน์หนุ่มชวนหน้าหลงใหลของสาวๆ ยิ่งหนัก นทีกาญจน์ไม่ลืมที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปฟังและไม่ลืมที่จะเช็ครายชื่อลูกทัวร์และบอกให้ทุกคนขึ้นรถที่มารอรับทุกคนกลับโรงแรม รถของลุงมาดีมาถึงหน้าโรงแรม นทีกาญจน์ร้องตะโกนเป็นภาษาอังกฤษแข่งกับเสียงลูกทัวร์ต่างชาติหลายภาษาที่พูดคุยเสียงดังจับเนื้อหาไม่ได้
"กรุณามารับกุนแจห้องและตาราการทัวร์ด้วยนะคะ"
นทีกาญจน์ตะโกนจนเสียงแห้ง กว่าจะแจกหมดทุกคนเล่นเอาหมดแรงกันเลยที่เดียว พอส่งแขกเข้าห้องครอบทุกคนนทีกาญจน์ เดินออกมาด้านนอกของโรงแรมเพื่อรับกับบรรยากาศ ของริมแม่น้ำที่ติดอยู่กับโรงแรม นทีกาญจน์พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่
"นที "เสียงหนึ่งดังมาจากหลังนทีกาญจน์ ดูท่าทางวิ่งมาจนหอบเหนื่อย
"อ้าว นัท ว่าโงนัท"นทีกาญจน์ หันกลับไปทักกับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าน
"พี่แทน เค้าบอกให้แกไปดูแลลูกค้าที่จะไปทัวร์นอนแพเธค คืนนี้ แทนพี่เค้าหน่อย ลูกเค้าไม่สบาย มาไม่ได้ แกจะว่ายังไงวะ" นัทถามนทีกาญจน์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบและเหงื่อท่วมตัว
"แกก็รู้นี้ นัทฉันไม่ชอบดูแลกรุ๊ปทัวร์แบบนั้น ให้ฉันไปเดินตากแดดตาม สถานที่ท่องเที่ยวพาลูกค้าชมบ้านเมืองยังดีกว่าให้ไปดูแลพวกขี้เมา ทั้งคืน" นทีกาญจน์บ่นกับเพื่อนสาวกับข่าวที่นัทเพิ่งมาบอก
"แต่ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรอ นที"
นัท รัตติกาล เพื่อนสาวรุ่นเดียวกับนทีกาญจน์ พูดพร้อมจับมือ ขอร้องนทีกาญจน์
"แกมีแผนอะไรอีกละ นัท อย่างบอกนะเรื่องพี่เซน "นทีกาญจน์รู้ทันเพื่อนสาวคนสนิททันที
"ได้ๆๆ ถาเรื่องนั้นฉันช่วยเต็มที่"
"จริงหรอ ขอบคุณนะ ฉันกับพี่เซนจะได้ใกล้ชิดกันใต้ แสงจันทร์ นี้นะถ้าแกไม่ไปพี่เซนไม่มีทางไปด้วยหรอแกก็รู้นี้นที" เสียงหญิงสาวเจื่อนแจ่วด้วยความดีใจ รัตติกาลเข้ามากอดคอ นทีกาญจน์อย่างดีใจ
"นัทฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เซน แกก็รู้"
นทีกาญจน์พยามพูดให้เพื่อนคนสนิทสบายใจ เพราเพื่อนเธอคนนี้แอบชอบ มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ มานานแล้วอาการหนักน่าดู จึงทำให้เธอปิดกันเซนไม่ให้เข้าในหัวใจเธอเช่นกัน ในที่สุดความพยายาม ของนัท รัตติกาล ก็สำเร็จ
รื่นรมย์สุดแสนโรแมนติก กับบุคคลที่ท่านรัก สโลแกนของเรือลำยักษ์ ที่ดัดแปลงเป็นแพเธคขนาดใหญ่ คืนนี้อากาศเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เสียงเพลงดังกระหึ่ม ออกมาจากเรือแพตรงหน้า นทีกาจญมาในชุดเทรนด์ เสื้อกันหนาว และ กางเกงเล้กกิ้งที่เฉิดฉายคู่กันกับ รองเท้าบู๊ท เก๋ๆ กางเกงเล้กกิ้งที่ทำให้ เข้ารูปโชว์สัดส่วนสวยงามของนทีกาญจน์ได้เป็นอย่างดี หญิงสาววัย22ปี ที่หนัก 46 กก. สูง : 168 ซม.จมูกเรียวสวย ดูโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยเรียวเป็นกระจับและ แววตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สาวรูปหน้าไข่ ผมสวย มีลอนจับกัน ดูพลิ้วไหวต้อนรับลมหนาวได้เป็นอย่างดี เธอช่างมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามสะเหลือเกิน เธอมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางใส่ข้าวของสำหรับเดินทางสามวัน
" อะแฮ่ม!" เสียงจากด้านหลังนทีกาญจน์ ทำให้เธอหันหลังไปมองที่มาของเสียง
"อ้าว นัท " นทีกาญจน์เอ๋ยทักเพื่อน
"รอนานไหม นที ฉันขอโทษที่ทำให้แกต้องรอนาน"นัท รัตติกาล ทำน้ำเสียงอ่อยๆเพื่อขอโทษหลังจากที่หายไปนานทำให้เพื่อนขอเธอต้องยืนคอย
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร ไปเราขึ้นเรือแพกันเถอะ สุดที่รักของเธอคงชะเง้อรอพวกเราแล้วละ" นทีกาญจน์แอบแซ่วเพื่อนสาว
"ใช้สุดที่รักของฉัน แต่ฉันใช้สุดที่รักของเค้าหรือป่าวนที"นัท รัตติกาล ตอบกลับอย่างน้อยใจ กับผู้ชายที่ตัวเองรัก แต่เข้ากลับไม่เห็นมันสะงัน
"เอาน๊า ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน อยู่ไกลแค่ไหนก็หากันเจอนั้นละ"
นทีกาญจน์ปล่อยใจเพื่อนสาว แล้วพากันขึ้นไปบนแพ ที่มีทั้งเครือดื่มและอาหารเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ที่พร้อมจะพานักท่องเที่ยวถ้ำเขาปูน เกาะแก้ว ตามโปรแกม การล่องแพเธคคาราโอเกะนทีกาญจน์กับรัตติกาลเดินเข้ายังข้างในแพเธคชึ่งมีสองชั้นข้างบนเป็นดาดฟ้าเอาใว้ชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ส่วนชั้นล่างมีลานขนาดใหญ่ทำเป็นเวที ดิสโก้เธค ลอยน้ำ มีดีเจมากฝีมือคอยเปิดเพลงเสียงดังสร้างความ เพลิดเพลินในกับแขกบนแพได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านท้ายของแพจะเป็นแพนอนต่อออกมาอีกลำหนึ่ง
"อ้าว สาวๆมากันแล้ว อีก 20 นาที่เรือก็จะออกแล้ว "เซนมัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ยิ้มให้สาวรุ่นน้องตรงหน้า
"เมาแต่หัวค่ำเลยนะคะ คุณเซน" รัตติกาล ถามแกมตำหนิ หลังจากที่เห็นชายหนุ่มถือแก้วเหล้าในมือ
"นัทแกเอากระเป๋ามาให้ฉันเดียวฉันไปเก็บให้ "นทีกาจญ์ยืนมือขอกระเป๋าจากเพื่อนด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไร เดียวฉันไปด้วยเกรงใจแก " รัตติกาล แย้ง
"แกอยู่นี้ละ แกชงเหล้าให้พี่เซน เถอะ เหล้าหมดแล้ว "
"ให้พี่ไปเอาเก็บให้ดีไหม"เซนเอ๋ยขึ้นมาใน ขณะที่สาวๆเถียงกัน
"ไม่ต้องคะ ทั้งคู่นั้นละ ฉันไปเอง อยู่นี้ละ "
นทีกาญตัดบท แล้วก็รีบถือกระเป๋าเดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยโดยปราศจาก กขค อย่าเธอนทีกาญจน์ เอากระเป๋ามาเก็บในห้องพักของเธอและเพื่อน คืนนี้ ภารกิจไม่มีอะไร นอกจากปล่อยให้แขกสนุกไปกับเสียงเพลงข้างล่าง นทีกาญจน์ เก็บกระเป๋าแลจัดให้เรียบร้อย ในห้องที่มีพร้อมทุกอย่าง เหมือนห้องพักทั่วไปแต่แตกต่างกันเพราะเป็นห้องพักที่ลอยได้ มองออกไปจะเห็นสะพานรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าผาที่สูงใหญ่เป็นภาพที่สวยงามมากในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงในแม่น้ำแควน้อย ช่างสวยเสียเหลือเกิน ในขณะที่เรือแพกำลังวิ่งไปเลื่อยๆพร้อมกับเสียงเพลงดั้งกระหึ่ม นทีกาญจน์มองชมวิวจากหน้าตาห้องอย่างเพลิดเพลิน
"ก๊อก ก๊อก นทีพี่เข้าไปได้ไหม " เสียงเคาะประตูออกมาจากด้านนอกนั้นทำให้ นทีกาญจน์พอเดาออกว่า น้ำเสียงนั้น ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"อ้าวพี่เซน มายังไงค่ะ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่า เข้ามาก่อนคะ นัทไม่ได้ขึ้นมาหรอคะ" นทีกาญจน์ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนรัก
"อย่าถามถึงคนอื่นเลย พี่อยากมาคุยเรื่องของเรา "เซนเอ๋ยขึ้นด้วยในตาแดงและอาการมึนเมาในสุรา
"นทีว่าพี่เซนเมาแล้วคะ พี่กลับห้องพี่ไปเสียดีกว่า พรุ่งนี้ มีอะไรค่อนมาคุยกัน" พูดจบ นทีก็ปิดประตูทันที
"เมาหรอ?พี่ไม่ได้เมา อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย"เชนใช้มือดันประตูไว้แล้วเอ๋ยขึ้น ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปในห้องได้สำเร็จด้วยแรงผู้ชาย
"พี่เซนจะทำอะไรนะ" นทีกาญจน์ก้าวถ้อยหลัง ออกจนชิดกับกับแพง พอจะรู้ทันผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ใน ขณะที่เรือแพกำลังลอยไปอย่างช้า และอยู่ๆก็มีหมอกปกคลุมจนมองแม่น้ำไม่เห็น
"นที รังเกียจพี่หรอ ??"หลังจากเห็นท้าทางสาวสวยตรงหน้า ไม่มีท่าที่สมยอมพร้อมกับก้าวยาวๆเข้าไปจับแขนทั้งสองของนทีกาญจน์ไว้ได้
"ปล่อยนะ ไม่ปล่อย นทีจะร้องให้คนช่วย"นทีกาญจน์ขู่
"ร้องเลย "นึกหรอว่าจะมีใครสนใจ"เชนกรามราวกับอดใจไม่ไหวอยากกระโจนย่ำเหยื่อ.ของเค้าตรงหน้าเสียได้
"ผมจะคลั่งตายอยู่แล้วนะ คุณจะเล่นตัวไปถึงไหน นที หมดเวลาแล้ว"เซนคำราม
"แต่ฉันไม่ยอมตกเป็นของคนที่ฉันไม่ได้รักอย่าคุณแน่ๆ"นทีกาญจน์เอ๋ยอย่างกลัวสุดขีดพร้อมกับสะบัดมือหลุด หัน
หลังวิ่งหนีชายหนุ่ม อย่าไม่คิดชีวิต ก้าวยาวๆ วิ่งออกจากห้องทางด้านหลังจนถึงระเบียงชมวิวของห้องแพ
นทีกาญจน์หันหลังกลับมามองชายหนุ่มมันกัดตรงหน้า กับแม่น้ำข้างหลังที่มีหมอกปกคลุมจนมองไม่เห็นน้ำสักหยดเดียว
"นที"เสียงเรียกดุดันของเซนทำให้
"ว๊ายๆๆๆกรีดดด"
นทีกาญจน์ตกใจ ถอยหลังก้าวตกลงแม่น้ำแควที่มีหมอกปลุกคลุม หายไปกับตาชายหนุ่มชาย
"รถทัวร์สายกรุงเพท-กาญจนบุรี จะออกรถภายใน 20 นาทีนี้ค่ะ... ย้ำอีกครั้ง รถทัวร์สายกรุงเทพ-กาญจนบุรีใน 20 นาทีนี้ค่ะ..."
เสียงของพนักงานขนส่งหมอชิตใหม่ประกาศเตือนผู้โดยสาร ทำให้นทีกาญจน์สะดุ้ง แล้วหันไปบอกเซนเพื่อนร่วมงานให้เช็คนักท่องเที่ยวที่พวกเขาไปรับมาที่สุวรรณภูมิและจะไปสมทบกับคณะทัวร์ทีรออยู่ที่กาญจนบุรีที่รออยู่
"เซน นำลูกค้า ไปเที่ยวตามโปรแกรม นี้นะ ฉันเพิ่งได้อีเมล์มาจาก บริษัทเมือกี่ พี่แทนจัดไว้"
มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่มองสาวน้อยข้างๆอย่างน้อยใจ เค้าทำงานกับนทีกาญจน์ มาสองปีตั้งแต่เธอเรียนจบใหม่ๆเพราะเขาแอบมีความรู้สึกดีกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนจึง ชวนมาทำงานด้วย
"ได้สิ ขอบคุณนะที่เอามาเผื่อ"
เชนตอบเสียงเรียบๆ ของชายหนุ่มแต่ตรงกันข้ามกับสายตาที่มองหญิงสาวที่อยู่ข้าง เขาเลือกที่จะเก็บอาการไว้อย่างนี้ เพื่อไม่ให้เสียเพื่อนไปผ่านมา 20 นาทีแล้ว รถทัวร์ที่นทีกาญจน์นั่งอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ช้าและเร็วขึ้นไม่ถึงสองชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย บขส กาญจนบุรี โดยที่มีลุงมาดี คนขับรถของโรงแรมมารอรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว
"สวัสดีคับลูกทัวร์ทุกๆท่าน เราได้มาถึงจังกาญจนบุรีซึ่งเป็นเมืองของจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายมรณะ และอีกไม่นานทุกคนก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับเรื่องราวของทหารญี่ปุ่นกับเชลยศึกในสมัยสงครามโลกครั้งที่2อย่างแน่นอนคับ แต่ตอนนี้ทุกคนพักผ่อนก่อนนะคับทางเราจัดโรงแรมที่พักให้ทุกท่านเรียบร้อยแล้วคับ"
เซน มัคคุเทศก์ หนุ่มตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม บวกกับบุคลิกภาพที่ดีของมัตรเทศน์หนุ่มชวนหน้าหลงใหลของสาวๆ ยิ่งหนัก นทีกาญจน์ไม่ลืมที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปฟังและไม่ลืมที่จะเช็ครายชื่อลูกทัวร์และบอกให้ทุกคนขึ้นรถที่มารอรับทุกคนกลับโรงแรม รถของลุงมาดีมาถึงหน้าโรงแรม นทีกาญจน์ร้องตะโกนเป็นภาษาอังกฤษแข่งกับเสียงลูกทัวร์ต่างชาติหลายภาษาที่พูดคุยเสียงดังจับเนื้อหาไม่ได้
"กรุณามารับกุนแจห้องและตาราการทัวร์ด้วยนะคะ"
นทีกาญจน์ตะโกนจนเสียงแห้ง กว่าจะแจกหมดทุกคนเล่นเอาหมดแรงกันเลยที่เดียว พอส่งแขกเข้าห้องครอบทุกคนนทีกาญจน์ เดินออกมาด้านนอกของโรงแรมเพื่อรับกับบรรยากาศ ของริมแม่น้ำที่ติดอยู่กับโรงแรม นทีกาญจน์พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดให้เต็มที่
"นที "เสียงหนึ่งดังมาจากหลังนทีกาญจน์ ดูท่าทางวิ่งมาจนหอบเหนื่อย
"อ้าว นัท ว่าโงนัท"นทีกาญจน์ หันกลับไปทักกับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าน
"พี่แทน เค้าบอกให้แกไปดูแลลูกค้าที่จะไปทัวร์นอนแพเธค คืนนี้ แทนพี่เค้าหน่อย ลูกเค้าไม่สบาย มาไม่ได้ แกจะว่ายังไงวะ" นัทถามนทีกาญจน์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบและเหงื่อท่วมตัว
"แกก็รู้นี้ นัทฉันไม่ชอบดูแลกรุ๊ปทัวร์แบบนั้น ให้ฉันไปเดินตากแดดตาม สถานที่ท่องเที่ยวพาลูกค้าชมบ้านเมืองยังดีกว่าให้ไปดูแลพวกขี้เมา ทั้งคืน" นทีกาญจน์บ่นกับเพื่อนสาวกับข่าวที่นัทเพิ่งมาบอก
"แต่ช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรอ นที"
นัท รัตติกาล เพื่อนสาวรุ่นเดียวกับนทีกาญจน์ พูดพร้อมจับมือ ขอร้องนทีกาญจน์
"แกมีแผนอะไรอีกละ นัท อย่างบอกนะเรื่องพี่เซน "นทีกาญจน์รู้ทันเพื่อนสาวคนสนิททันที
"ได้ๆๆ ถาเรื่องนั้นฉันช่วยเต็มที่"
"จริงหรอ ขอบคุณนะ ฉันกับพี่เซนจะได้ใกล้ชิดกันใต้ แสงจันทร์ นี้นะถ้าแกไม่ไปพี่เซนไม่มีทางไปด้วยหรอแกก็รู้นี้นที" เสียงหญิงสาวเจื่อนแจ่วด้วยความดีใจ รัตติกาลเข้ามากอดคอ นทีกาญจน์อย่างดีใจ
"นัทฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่เซน แกก็รู้"
นทีกาญจน์พยามพูดให้เพื่อนคนสนิทสบายใจ เพราเพื่อนเธอคนนี้แอบชอบ มัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ มานานแล้วอาการหนักน่าดู จึงทำให้เธอปิดกันเซนไม่ให้เข้าในหัวใจเธอเช่นกัน ในที่สุดความพยายาม ของนัท รัตติกาล ก็สำเร็จ
รื่นรมย์สุดแสนโรแมนติก กับบุคคลที่ท่านรัก สโลแกนของเรือลำยักษ์ ที่ดัดแปลงเป็นแพเธคขนาดใหญ่ คืนนี้อากาศเย็นกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เสียงเพลงดังกระหึ่ม ออกมาจากเรือแพตรงหน้า นทีกาจญมาในชุดเทรนด์ เสื้อกันหนาว และ กางเกงเล้กกิ้งที่เฉิดฉายคู่กันกับ รองเท้าบู๊ท เก๋ๆ กางเกงเล้กกิ้งที่ทำให้ เข้ารูปโชว์สัดส่วนสวยงามของนทีกาญจน์ได้เป็นอย่างดี หญิงสาววัย22ปี ที่หนัก 46 กก. สูง : 168 ซม.จมูกเรียวสวย ดูโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยเรียวเป็นกระจับและ แววตาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สาวรูปหน้าไข่ ผมสวย มีลอนจับกัน ดูพลิ้วไหวต้อนรับลมหนาวได้เป็นอย่างดี เธอช่างมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามสะเหลือเกิน เธอมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบขนาดกลางใส่ข้าวของสำหรับเดินทางสามวัน
" อะแฮ่ม!" เสียงจากด้านหลังนทีกาญจน์ ทำให้เธอหันหลังไปมองที่มาของเสียง
"อ้าว นัท " นทีกาญจน์เอ๋ยทักเพื่อน
"รอนานไหม นที ฉันขอโทษที่ทำให้แกต้องรอนาน"นัท รัตติกาล ทำน้ำเสียงอ่อยๆเพื่อขอโทษหลังจากที่หายไปนานทำให้เพื่อนขอเธอต้องยืนคอย
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้คิดอะไร ไปเราขึ้นเรือแพกันเถอะ สุดที่รักของเธอคงชะเง้อรอพวกเราแล้วละ" นทีกาญจน์แอบแซ่วเพื่อนสาว
"ใช้สุดที่รักของฉัน แต่ฉันใช้สุดที่รักของเค้าหรือป่าวนที"นัท รัตติกาล ตอบกลับอย่างน้อยใจ กับผู้ชายที่ตัวเองรัก แต่เข้ากลับไม่เห็นมันสะงัน
"เอาน๊า ถ้าเป็นเนื้อคู่กัน อยู่ไกลแค่ไหนก็หากันเจอนั้นละ"
นทีกาญจน์ปล่อยใจเพื่อนสาว แล้วพากันขึ้นไปบนแพ ที่มีทั้งเครือดื่มและอาหารเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ที่พร้อมจะพานักท่องเที่ยวถ้ำเขาปูน เกาะแก้ว ตามโปรแกม การล่องแพเธคคาราโอเกะนทีกาญจน์กับรัตติกาลเดินเข้ายังข้างในแพเธคชึ่งมีสองชั้นข้างบนเป็นดาดฟ้าเอาใว้ชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ส่วนชั้นล่างมีลานขนาดใหญ่ทำเป็นเวที ดิสโก้เธค ลอยน้ำ มีดีเจมากฝีมือคอยเปิดเพลงเสียงดังสร้างความ เพลิดเพลินในกับแขกบนแพได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านท้ายของแพจะเป็นแพนอนต่อออกมาอีกลำหนึ่ง
"อ้าว สาวๆมากันแล้ว อีก 20 นาที่เรือก็จะออกแล้ว "เซนมัคคุเทศก์หนุ่มรุ่นพี่ยิ้มให้สาวรุ่นน้องตรงหน้า
"เมาแต่หัวค่ำเลยนะคะ คุณเซน" รัตติกาล ถามแกมตำหนิ หลังจากที่เห็นชายหนุ่มถือแก้วเหล้าในมือ
"นัทแกเอากระเป๋ามาให้ฉันเดียวฉันไปเก็บให้ "นทีกาจญ์ยืนมือขอกระเป๋าจากเพื่อนด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
"ไม่เป็นไร เดียวฉันไปด้วยเกรงใจแก " รัตติกาล แย้ง
"แกอยู่นี้ละ แกชงเหล้าให้พี่เซน เถอะ เหล้าหมดแล้ว "
"ให้พี่ไปเอาเก็บให้ดีไหม"เซนเอ๋ยขึ้นมาใน ขณะที่สาวๆเถียงกัน
"ไม่ต้องคะ ทั้งคู่นั้นละ ฉันไปเอง อยู่นี้ละ "
นทีกาญตัดบท แล้วก็รีบถือกระเป๋าเดินออกมาเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันโดยโดยปราศจาก กขค อย่าเธอนทีกาญจน์ เอากระเป๋ามาเก็บในห้องพักของเธอและเพื่อน คืนนี้ ภารกิจไม่มีอะไร นอกจากปล่อยให้แขกสนุกไปกับเสียงเพลงข้างล่าง นทีกาญจน์ เก็บกระเป๋าแลจัดให้เรียบร้อย ในห้องที่มีพร้อมทุกอย่าง เหมือนห้องพักทั่วไปแต่แตกต่างกันเพราะเป็นห้องพักที่ลอยได้ มองออกไปจะเห็นสะพานรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าผาที่สูงใหญ่เป็นภาพที่สวยงามมากในค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงในแม่น้ำแควน้อย ช่างสวยเสียเหลือเกิน ในขณะที่เรือแพกำลังวิ่งไปเลื่อยๆพร้อมกับเสียงเพลงดั้งกระหึ่ม นทีกาญจน์มองชมวิวจากหน้าตาห้องอย่างเพลิดเพลิน
"ก๊อก ก๊อก นทีพี่เข้าไปได้ไหม " เสียงเคาะประตูออกมาจากด้านนอกนั้นทำให้ นทีกาญจน์พอเดาออกว่า น้ำเสียงนั้น ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร
"อ้าวพี่เซน มายังไงค่ะ แล้วมีธุระอะไรหรือเปล่า เข้ามาก่อนคะ นัทไม่ได้ขึ้นมาหรอคะ" นทีกาญจน์ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนรัก
"อย่าถามถึงคนอื่นเลย พี่อยากมาคุยเรื่องของเรา "เซนเอ๋ยขึ้นด้วยในตาแดงและอาการมึนเมาในสุรา
"นทีว่าพี่เซนเมาแล้วคะ พี่กลับห้องพี่ไปเสียดีกว่า พรุ่งนี้ มีอะไรค่อนมาคุยกัน" พูดจบ นทีก็ปิดประตูทันที
"เมาหรอ?พี่ไม่ได้เมา อย่าหลบหน้าพี่อีกเลย"เชนใช้มือดันประตูไว้แล้วเอ๋ยขึ้น ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปในห้องได้สำเร็จด้วยแรงผู้ชาย
"พี่เซนจะทำอะไรนะ" นทีกาญจน์ก้าวถ้อยหลัง ออกจนชิดกับกับแพง พอจะรู้ทันผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
ใน ขณะที่เรือแพกำลังลอยไปอย่างช้า และอยู่ๆก็มีหมอกปกคลุมจนมองแม่น้ำไม่เห็น
"นที รังเกียจพี่หรอ ??"หลังจากเห็นท้าทางสาวสวยตรงหน้า ไม่มีท่าที่สมยอมพร้อมกับก้าวยาวๆเข้าไปจับแขนทั้งสองของนทีกาญจน์ไว้ได้
"ปล่อยนะ ไม่ปล่อย นทีจะร้องให้คนช่วย"นทีกาญจน์ขู่
"ร้องเลย "นึกหรอว่าจะมีใครสนใจ"เชนกรามราวกับอดใจไม่ไหวอยากกระโจนย่ำเหยื่อ.ของเค้าตรงหน้าเสียได้
"ผมจะคลั่งตายอยู่แล้วนะ คุณจะเล่นตัวไปถึงไหน นที หมดเวลาแล้ว"เซนคำราม
"แต่ฉันไม่ยอมตกเป็นของคนที่ฉันไม่ได้รักอย่าคุณแน่ๆ"นทีกาญจน์เอ๋ยอย่างกลัวสุดขีดพร้อมกับสะบัดมือหลุด หัน
หลังวิ่งหนีชายหนุ่ม อย่าไม่คิดชีวิต ก้าวยาวๆ วิ่งออกจากห้องทางด้านหลังจนถึงระเบียงชมวิวของห้องแพ
นทีกาญจน์หันหลังกลับมามองชายหนุ่มมันกัดตรงหน้า กับแม่น้ำข้างหลังที่มีหมอกปกคลุมจนมองไม่เห็นน้ำสักหยดเดียว
"นที"เสียงเรียกดุดันของเซนทำให้
"ว๊ายๆๆๆกรีดดด"
นทีกาญจน์ตกใจ ถอยหลังก้าวตกลงแม่น้ำแควที่มีหมอกปลุกคลุม หายไปกับตาชายหนุ่มชาย
แสงดาวส่งตะวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ