ราชินีสี่ปฐพี

          2 ถึง 3 วันต่อมา หลังจากการตามเสด็จเยี่ยมประชาชนของมาเรียนั้น ก็รู้สึกว่า วังที่พระราชาทรงประทับอยู่นี้ รู้สึกเงียบไปอยู่ตลอดเวลา แต่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฟันสำหรับพระราชา พระราชินีและเจ้าชายจอห์นนั้นคือ มีลายพระหัตถ์จากเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ซึ่งตอนแรกพระราชินี ทรงไม่รู้ว่าเป็นของผู้ใดจึงพูดออกมาว่า "เอ๊ะ! จดหมายของผู้ใดเนี่ย" แล้วพระราชินี ทรงอ่านลายพระหัตถ์ซึ่งมีใจความว่า

     "เสด็จแม่ ที่เคารพรักยิ่ง

          ในวันพรุ่งนี้กระผมจะกลับมาอยู่ที่พระนครเป็นการถาวรพร้อมกับเอ็ดน่า แล้วหลังจากที่กระผมสำเร็จการศึกษาที่อังกฤษแล้ว วันที่กระผมกลับมาแล้วนะขอรับ ให้ไปรับผมที่สถานีรถไฟเซ็นเตอร์หน้อยนะขอรับ ได้ข่าวว่าจอห์นแต่งงาน แล้วมีชายา ได้ข่าวว่าสวยมาก จึงขอให้พาไปด้วยนะ จะได้ทำความรู้จักกับกระผมและเอ็ดน่าด้วยนะขอรับ

                                              ด้วยความเคารพอย่างสูง

                                                        เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด"

          เมื่อพระราชินี ทรงอ่านลายพระหัตถ์ของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดเสร็จแล้ว จึงทรงพูดดังลั่นที่ประทับที่ทำให้ผู้คนที่อยู่ที่แห่งนั้นตกใจและดีใจขึ้นมาในเวลาเดียวกันว่า

          "นี่! เอ็ดเวิร์ด จะกลับมาพระนครแล้ว"

          แล้วเมื่อทุกคนทราบต่างก็ทำอะไรไม่ถูกเลย โดยข้าหลวงในที่ประทับเมื่อทราบข่าวต่างทำของตกพื้นแล้วโห่ร้องดีใจลั่นที่ประทับ มหาดเล็กของที่ประทับเมื่อทราบต่างก็ทำงานไม่เป็นงานเป็นการเลย ถ้ามีอุปกรณ์ในมือต่างก็ทำหล่นแล้วโห่ร้องดีใจ เจ้าชายจอห์น เมื่อทราบข่าวก็ดีพระทัยมากจนกอดมาเรีย แต่คนที่ดีใจมากที่สุดคือ พระราชาและพระราชินี ผู้เป็นพระเพราะเมื่อทรงทราบข่าว พร้อมกับทรงพระกันเเสงและโอบกอด แล้วพระราชา ทรงพูดว่า

          "ลูกเราจะกลับมาแลัว ดีใจจริงๆ"

          เมื่อทุกคนทราบข่าวก็ต่างดีอกดีใจกันทั่วหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชา พระราชินี ทรงดีพระทัยมากจนทรงพูดไม่ออก ได้แค่โอบกอดกันและทรงพระกันแสงด้วยความดีพระทัย แล้วเจ้าชายจอห์นและมาเรีย พากันมานั่งดื่มกาแฟที่ศาลาหลังสวนบริเวณที่ประทับ แล้วมาเรีย ก็ถามเจ้าชายจอห์นว่า

         "เสด็จพี่ เพคะ เจ้าขายเอ็ดเวิร์ด นี่ใช่พระเชษฐาของพระองค์ใช่ไหม เพคะ"

          แล้วเจ้าชายจอห์ ทรงตอบว่า "ใช่สิ" แล้วมาเรียก็พูดขึ้นอีกว่า "หม่อมฉันเคยเห็นพระพักตร์เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ครั้งล่าสุดก็ประมาณ 5 ปีก่อน ที่ท่ารอยัลริฟเวอร์ ตอนไปส่งเสด็จพระองค์ขึ้นเรือยนต์เพื่อไปศึกษาต่อที่อังกฤษกับพ่อกับแม่หม่อมฉัน ตอนนั่นแหละเพคะ ที่หม่อมฉันได้พบกับเสด็จพี่เป็นครั้งไงล่ะเพคะ"           

          เมื่อเจ้าชายจอห์น ทรงได้ยินอย่างนี้แล้วก็รู้สึกดีพระทัยมากที่มาเรียจำเรื่องที่พวกเขาสองคนเจอกันครั้งแรก ทำให้รู้สึกว่ามาเรีย ที่แต่งงานอยู่กันนั้น ไม่ได้ไปรู้จักมักคุ้นมาก่อน แต่อยู่กันไปแล้วรักกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะจำเรื่องพันนี้ได้ด้วย แล้วเมื่อวันรุ่งขึ้นของวันอันปิติก็มาถึง ที่สถานีรถไฟเซ็นเตอร์มีประชาชนต่างมารอรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น ที่ชานชาลาสถานี ประธานอาณาจักร ภริยาประธานอาณาจักร พร้อมด้วยคณะบริหารอาณาจักร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการสามเหล่าทัพ ข้าราชการและทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ไปตั้งแถวรอรับเสด็จ  แล้วรถม้าพระที่นั่งพระราชา พระราชินี และรถม้าพระที่นั่งเจ้าชายจอห์น และมาเรีย มาถึงสถานีรถไฟ ก็ประทับพระราชอาสน์รอ แล้วปรากฏว่ามีเสียงฉึกฉักซึ่งเป็นเสียงของรถไฟ ทำให้ทุกคนรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถไฟที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงประทับมา ได้เคลื่อนมาใกล้ชานชาลาสถานี แล้วเมื่อเทียบชานชาลาสถานีแล้ว ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ที่ไปตั้งแถวรับเสด็จ ถวายความเคารพ แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ลงจากรถไฟพระที่นั่ง พร้อมด้วยเจ้าหญิงเอ็ดน่า แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงเข้ามาสวมกอดพระราชินีแล้วพูดว่า 

          "เคารพเสด็จแม่ ขอรับ" แล้วพระราชินี ก็ทรงพระกันแสงด้วยความดีพระทัย ขณะนั้นบรรยากาศก็มีแต่เสียงประชาชนเปล่งเสียงถวายพระพรที่กึกก้องมาก แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงพูดว่า 

          "โธ่! เสด็จแม่ ร้องไห้มาได้ไม่อายคนอื่นเลยนะขอรับ" แล้วเจ้าหญิงเอ็ดน่า ทรงเคารพพระราชินี แล้วพระราชิน ทรงพูดว่า "สบายดีนะลูก" แล้วเจ้าหญิงเอ็ดน่า ยิ้มแย้มแล้วทรงพยักพระพักตร์ แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ไปเคารพพระราชา แล้วทรงพูดว่า

          "เคารพ เสด็จพ่อ ขอรับ" แล้วเจ้าหญิงเอ็ดน่า เคารพพระราชา แล้วพระราชา ทรงพูดกับเจ้าหญิงเอ็ดน่าด้วยความเป็นห่วงใยและเอ็นดูว่า

          "สบายดีไหม ลูกเอ็ดน่า" แล้วเจ้าหญิงเอ็ดน่า ทรงพยักพระพักตร์และแย้มยิ้ม แล้วเจ้าชายจอห์น เข้าไปสวมกอดเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แล้วพูดด้วยความดีพระทัยว่า 

          "ยินดีต้อนรับ กลับบ้านนะขอรับ เสด็จพี่" แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงพูดว่า "ขอบใจนะ แล้วสุภาพสตรีที่ยืนอยู่ข้างๆจอห์นน่ะ อย่าบอกว่าเป็นชายาของจอห์นใช่เปล่าเนี่ย" แล้วเจ้าชายจอห์น ทรงพูดว่า

          "ใช่ขอรับ นี่คือมาเรีย ชายาของกระผมเอง ขอรับ มาเรีย เคารพ เสด็จพี่เอ็ดเวิร์ดสิ" แล้วมาเรีย เคารพเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ผู้เป็นพระเชษฐาของเจ้าชายจอห์น ที่ทรงเคารพรัก และนับถือ ด้วยความน้อบน้อม แล้วเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงชมและพูดว่า 

          "สมแล้ว ที่เป็ชายาของจอห์น เป็นผู้หญิง ที่เพียบพร้อมมาก อ่า! ทำความรู้จักกับเอ็ดน่าซะสิ" แล้วมาเรียเคารพเจ้าหญิงเอ็ดน่า ผู้มีฐานันดรศักดิ์เหมือนกัน แต่ต่างกันที่อายุแล้วพูดว่า

          "เคารพ เสด็จพี่เอ็ดน่า เพคะ หม่อมฉัน มาเรีย เพคะ" แล้วเจ้าหญิงเอ็ดน่า ทรงพูดว่า "เข่นกันนะ มาเรีย ไม่ต้องเกรงใจกันนะ ตามสบายเพราะเราสองคนยังไง ยังไง ก็มียศฐาบรรดาศักดิ์เหมือนกัน คือ เจ้าหญิง ไงล่ะ" แล้วมาเรีย ตอบว่า "เพคะ"

          แล้วหลังจากมาเรียกับเจ้าหญิงเอ็ดน่า ทำความรู้จักกัน และต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เสร็จแล้ว เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับประธานอาณาจักร ภริยาประธานอาณาจักร คณะบริหารอาณาจักร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการสามเหล่าทัพ และข้าราชการ เสร็จแลัวเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ประทับรถม้าพระที่นั่งพระราชาและพระราชินี และเจ้าหญิงเอ็ดน่า ประทับรถม้าพระที่นั่งเจ้าชายจอห์นและมาเรีย แล้วจากนั้นเคลื่อนรถม้าพระที่นั่งกลับวังหลวง แล้วตลอดวันนั้นจนถึงวันต่อมาก็มีงานฉลองการนิวัติกลับพระนคร เป็นการถาวรของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด อย่างยิ่งใหญ่ ต่างเต็มไปด้วยสีสันและความสุขบนใบหน้าและจิตใจของประชาชนทุกคน วันที่สองของงานฉลองการนิวัติกลับพระนครของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชาอเล็กซานเดอร์ ได้ทรงให้จัดงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำพระราชทานแด่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เพื่อเป็นการต้อนรับลูกชายสุดที่รักกลับคืนสู่เหย้า ซึ่งมาเรีย ก็ได้ร่วมงานนี้ ทำให้มาเรียมีความสุขมาก เพราะได้เห็นสีพระพักตร์ที่แจ่มใสและดีพระทัยของเจ้าชายจอห์น ที่ดีใจกับการที่เจัาชายเอ็ดเวิร์ด กลับมาสู่เหย้า สู่บ้าน ทำให้มาเรีย ดีใจมากที่เห็นว่าเจ้าชายจอห์น ทรงมีความสุข มาเรียก็สุขใจแลัว