ราชินีสี่ปฐพี

8.6

เขียนโดย Manny

วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.29 น.

  20 บท
  1 วิจารณ์
  22.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 13.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) แผ่นดินที่ 3 มาเรีย จากเจ้าหญิง สู่องค์พระราชินี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          นับตั้งแต่ผลัดแผ่นดินใหม่ เป็นแผ่นดินที่สามในชีวิตของมาเรีย มาเรียรู้สึกว่าวันหนึ่งวันหนึ่งในชีวิตนั้นได้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วมากกว่าแต่ก่อน จะเป็นเพราะหลักตามธรรมชาติที่ว่า คนเราเมื่อมีอายุที่สูงขึ้น จะต้องเห็นว่าเวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว หรือเป็นเพราะเหตุการณ์ในยุคต่อมานั้น ผ่านไปเร็วจริงๆตามสภาพ หลังจากการสวรรคตของพระมหากษัตริย์ที่ได้ขึ้นชื่อลือพระนามที่ว่า "กษัตริย์ยุคตะวันตกรุ่งเรือง" เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และปวงประชาชน ได้อัญเชิญเจ้าชายจอห์น ขึ้นครองราชสมบัติ ปกครองอาณาจักรกลอรี แลนด์ และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์โกลเดน ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เจ้าชายจอห์น ทรงมีพระราชอิสริยยศใหม่ว่า "พระราชาจอห์น" พร้อมทั้งได้มีการสถาปนาเลื่อนพระราชอิสริยยศพระบรมวงศ์ โดยมีพระราชชนนีอเล็กซานดาร์ ขึ้นเป็น พระราชินีอเล็กซานดาร์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อันเหตุที่สถาปนาเป็นพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพราะว่า เพื่อเป็นการถวายราชสดุดีแด่พระราชชนนีอเล็กซานดาร์ ผู้เป็นพระราชมารดาในพระราชาเอ็ดเวิร์ดและพระราชาจอห์น ซึ่งได้ดำรงพระชนม์ชีพมาเป็นเวลาถึงสี่แผ่นดินตั้งแต่รัชสมัยพระราชาแฮนด์ดี้ โฟว์คิง ผู้เป็นพระราชบิดา จนถึงรัชสมัยพระราชาจอห์น เซเว่นคิง ผู้เป็นพระราชโอรส ซึ่งเหมือนกับได้ดำรงพระชนม์มาถึงพันปี จึงสถาปนาขึ้นเป็น "พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" แล้วได้สถาปนามาเรียจากเจ้าหญิง ขึ้นเป็น พระราชินีมาเรีย และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่พระราชโอรสและพระราชธิดาของพระราชาจอห์นและมาเรีย พร้อมกับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่เจ้าหญิงอาร์เวนน่า หลังจากที่พระราชชนนีอเล็กซานดาร์ ได้รับการสถาปนา เหล่าพระบรมวงศ์ก็พากันเรียกพระราชชนนีอเล็กซานดาร์ว่า "พระพันปีหลวง" 

          แล้วในวันสุดท้ายพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชาจอห์น ได้ทรงเสด็จเลียบพระนคร และเสด็จทรงนมัสการพระศรีรัตนตรัย ที่วัดบุ๊ดดาทิชชิ่งมังค์ หลังงานบรมราชาภิเษกเสร็จสิ้น พระราชชนนีอเล็กซานดาร์ ก็ทรงเกิดพระประชวรขึ้นมาตามประสาคนแก่คนเฒ่า ทุกๆวันพระราชาจอห์น หรือไม่ก็มาเรีย หรือไม่ก็พระราชินีเอ็ดน่า หรือไม่ก็พระราชโอรส พระราชธิดาของพระราชาจอห์นและมาเรีย หรือไม่ก็เจ้าหญิงอาร์เวนน่า พระราชธิดาในพระราชินีเอ็ดน่า จะทรงมาเยี่ยมและเฝ้าพระอาการเสมอ แต่คนที่มาเยี่ยมพระพันปีหลวงมากที่สุด ก็คงจะเป็นมาเรีย เพราะมาเรียจะมีความผูกพันมากเท่ากับแม่บังเกิดเกล้าของตน และแล้ววันหนึ่งวันที่เรียกว่า "วิปโยคโศกศัลย์" ก็มาถึงโดยที่ไม่มีใครคาดฝันมาก่อน มาเรียก็มาเยี่ยมพระพันปีหลวง ตามปกติ ขณะที่มาเรียเตรียมพระโอสถ อยู่ที่ข้างพระแท่นบรรทม พระพันปีหลวงก็พูดขึ้นมาเหมือนจะสั่งเสียว่า

          "มาเรีย ลูกก็อยู่กับแม่มาหลายปีนะ" แล้วมาเรียก็มานั่งข้างพระแท่นบรรทม พระพันปีหลวงก็พูดต่ออีกว่า "แม่รู้สึกว่าลูกก็เหมือนกับลูกสาวแท้ๆของแม่เลยนะ ทำให้แม่รู้สึกว่า ตั้งแต่งลูกแต่งงานกับจอห์นมาเนี่ย เป็นครั้งแรกที่แม่รู้จักลูก แล้วรู้สึกว่าแม่ถูกชะตากับลูกมาก ทำให้แม่เนี่ยเอ็นดูและดูแลลูกไงล่ะ จนมาถึงวันนี้ลูกได้เป็นราชินี แต่ลูกก็ไม่เคยลืมแม่เลยฉันต้องขอขอบคุณมากที่ลูกดูแลแม่มาตลอด ลูกจะรังเกลียดที่จะช่วยแม่อะไรบ้างอย่างได้ไหม" แล้วมาเรียตอบว่า

          "ไม่รังเกลียดหรอก เพคะเสด็จแม่ จะให้หม่อมฉันช่วยอะไรหรือเพคะ" แล้วพระพันปีหลวง ทรงพูดต่ออีกว่า

          "เฮอ สมบัติทุกอย่างของแม่ ทั้งเครื่องเพชร เงินทอง เงินทุกๆรอยัลคอยด์ ที่แม่มีอยู่ถึงจะไม่มากเท่านไหร่นัก แต่แม่ก็ยกให้ลูก พระที่นั่งองค์นี้ทั้งองค์ แม่ขอยกให้ลูกดูแลก็แล้วกันนะ และสุดท้ายขอให้ลูกดูแลทุกๆคนให้ดีที่สุด โดยเฉพาะจอห์น ลูกของฉัน ขอให้ลูกดูแลจอห์นให้ดีที่สุดแทนแม่ด้วยนะ สัญญาจากใจจะได้ไหม"

          แล้วมาเรียก็ตอบออกจากใจจริงว่า

          "หม่อมฉัน สัญญาเพคะ เสด็จแม่" แล้วมาเรียก็มีน้ำตาหลั่งออกมา ส่วนพระพันปีหลวงก็หันพระพักตร์มาหามาเรีย แล้วนำพระหัตถ์มาสัมผัสที่หัวมาเรีย แล้วถอนหายพระทัยออกมา โรคที่พระพันปีหลวงเป็นก็ค่อยๆกัดกินลมหายพระทัยและพระพลังงานทุกอย่างไปจวนจะหมดแล้ว พระพันปีหลวงจึงพูดว่า

          "มาเรีย ใกล้ถึงเวลาของแม่แล้ว อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้นะ ถึงเวลาของแม่แล้ว เสด็จพ่อ และเอ็ดเวิร์ด มารับแล้ว แม่ต้องไปก่อนนะ ลาก่อน" สิ้นคำว่า ลาก่อน พระเนตรของพระพันปีหลวงก็ปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นหยดสุดท้าย ลมหายพระทัยก็เงียบลง พระหทัยหยุดเต้น พระชีพจรหยุดเต้น พระพันปีหลวง ก็จากไปด้วยความอ่อนแอลงด้วยโรค เมื่อมาเรียรู้ว่าพระพันปีหลวง สวรรคตแล้ว ก็ร้องห่มร้องไห้เคารพพระบรมศพ แล้วออกจากห้องมาพร้อมกับความทุกข์โทมนัสที่ได้รับ

          วันรุ่งขึ้นก็มีการจัดงานพระบรมศพที่วังหลวง มาเรีย ก็เป็นประธานฝ่ายในถวายน้ำสรงพระบรมศพ ส่วนพระราชาจอห์นก็เสด็จมาด้วย แต่แปลกที่ว่าคนอื่นๆก็ร้องไห้แต่พระราชาจอห์น ไม่ร้องไห้ไม่พระกันแสง แต่ทรงสะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทรงพระกันแสงไม่ออก ดูเหมือนพระราชาจอห์นจะทำตามคำสั่งของพระพันปีหลวงที่ว่า

          "แม่น่ะเกิดมานานมากแล้วนะ จะตายเมื่อไหร่ ก็ตาย แล้วตายแล้ว ห้ามร้องไห้ ไม่ร้องไห้เป็นของธรรมดา คนเรามันต้องตาย" บรรยากาศทั่วไปต่างมีแต่สีดำบดบังความสดใสไปหมด หลังงานพระบรมศพคือได้ถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระพันปีหลวงเสร็จสิ้นแล้ว

          พระราชาจอห์น และมาเรีย ได้เสด็จเยือนต่างประเทศ ตามที่ผู้นำประเทศต่างๆได้กราบบังคมทูลเชิญไป และตามพระราชประสงค์ของพระราชาจอห์น โดยพระราชาจอห์น และมาเรีย ได้ไปเยือนประเทศต่างๆในยุโรป เป็นทวีปแรก อาทิ ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ เบลเยี่ยม รัสเซีย เยอรมนี สวีเดน ราชรัฐลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ สเปน โมนาโก วาติกัน สวิตเซอร์แลนด์ และเดนมาร์ก ใช้เวลาถึง 1 เดือน 

          และแล้วต่อมาอีก 1 ปี พระราชาจอห์น และมาเรีย ก็ได้เสด็จเยือนประเทศต่างๆในเอเซีย อาทิ ปากีสถาน เวียดนาม พม่า อินโดนีเซีย กัมพูชา จีน ลาว อิหร่าน มลายู ฟิลลิปปินส์ และญี่ปุ่น ใช้เวลาถึง 29 วัน

          อีก 1 หนึ่งปีต่อมา พระราชาจอห์น และมาเรีย ได้เสด็จเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาถึง 2 เดือน ซึ่งเป็นเวลาที่มากที่สุด เป็นอันเพราะว่า ประเทศนี้มีถึงหลายรัฐในประเทศนี้ จึงต้องใช้เวลาถึง 2 เดือน ในการเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา 

          1 ปีต่อมา พระราชาจอห์น และมาเรียได้เสด็จเยือนประเทศออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดา บรูไน ดารุสซาลาม อินเดีย สิงคโปร์และศรีลังกา ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายในการเสด็จเยือนต่างประเทศในรัชสมัยพระราชาจอห์น ซึ่งในแต่ละประเทศ ในแต่ละทวีปที่เสด็จไปพร้อมกับมาเรีย ผู้นำในแต่ละประเทศที่เป็นทั้งพระมหากษัตริย์ และประธานาธิบดี ต่างต้อนรับทั้งสองด้วยไมตรีจิต พร้อมทั้งประมุขประเทศบางประเทศ ได้มีการถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์แด่ทั้งสองด้วย แล้วได้มีการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ประมุขประเทศบางประเทศด้วย ทุกประเทศที่เสด็จไปพร้อมกับมาเรียนั้น ล้วนแล้วแต่มีสถานที่ที่มีแต่ความสนใจทั้งนั้น ผู้คนในประเทศต่างๆที่เสด็จไปพร้อมกับมาเรียนั้น ต่างมาต้อนรับกันด้วยความอัธยาศัยไมตรีที่ดีงาม ประเทศต่างๆที่เสด็จไปพรัอมกับมาเรียนั้น ทั้งสองต่างชนะใจชาวเมืองในประเทศต่างๆที่เสด็จไปโดยสิ้นเชิง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา