The Crazy Love รักบ้าๆ ซ่า ฮา เกรียน
10.0
เขียนโดย TangThai
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.24 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,957 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 00.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) อีกวัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ถึงแล้วครับ” คนขับรถตะโกนบอกเหล่านักศึกษาทันทีที่มาถึงท่าเรือที่จะใช้ไปเกาะผีเสื้อ ฉัน มิ้ม และฟ้า รีบลงจากรถทันทีและทันใดนั้น
“ป๊อก ครืดดด อ๊ากก ปิ๊บ ตูมมม แป้น แป้น ปี้น ปิ้น ตูม กรี๊ดดด ว้ายยย ~!@#$%^&*()_+-={}[]:”?><”
มิ้มกับฟ้าหันหน้ามาหาฉันและเราทั้งสามก็ “ว่ะ ฮะ อ่า เกมการก่อกวนสำเร็จ” แล้วนักศึกษาทั้งหลายก็วิ่งกรูกันลงมาจากรถทันที ส่วนเราทั้งสามก็ยังคงหัวเราะ สะใจ ไร้ซึ่งความปราณี ฮิ้ว!
“น้องตังเม นี่วีรกรรมน้องตังเมหรอครับ”พี่ป๊อปปี้พูดอย่างรู้ทัน
“^U^ V ”
“งั้นแสดงว่าใช่แน่นอนซินะ รู้ไหม โทโมะกับเขื่อนร้อง ว้ายย แล้วกอดกันกลมเลย”
“เชื่อค่ะ ว่าแต่เราต้องต่อเรือไปอีกหรอค่ะ”
“ป่าวหรอก”
“อ้าว ที่นี่ก็ไม่น่าจะใช้ เกราะผีเสื้อสมุทร นะค่ะ จะให้ว่ายน้ำข้ามทะเลไปหรอ”
“ใช่ครับ แต่เกราะผี้เสื้อเฉยๆ ครับ ไม่มี สมุทร ^ ^”
“อืมใช้ได้ ว่าแต่เอาจริงอ่ะเพ่” ฉันหันไปถามเพื่อความแน่ใจอีกที
“แน่นอนครับ เอาล่ะ น้องๆทุกคนลงมากันครบแล้วก็มาเข้าแถวเรียง 10 แถว นะครับ เร็วหน่อยครับ”
พี่ป๊อปปี้บอกง่ายๆ ไม่เป็นไรฉันมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เหล่าเพื่อนคนอื่นสิ เมื่อเหล่าบรรดาเพื่อนๆมาเข้าแถวกันครบแล้ว โดยที่ฉันอยู่คนหน้าสุด แถวที่ 1 ตามด้วยมิ้ม ฟ้า อัม กวาง นัส ยัยโอ่งทมิฬ ยัยไฝ่รูปหัวใจ แล้วก็นายอ้นอ้อนแอ้น แหมแต่ล่ะคนก็รู้สึกว่าจะกวนๆกันทั้งนั้น
“เข้าแถวครบกันแล้วนะครับ แต่ล่ะแถวก็มีสมาชิก 9 คนให้แต่ละแถวจำหน้าสมาชิกในแถวกันไว้นะครับ ที่นี่เป็นท่าเรือ ต้องข้ามไปเกราะผีเสื้อโดยเรือใช้ไหมครับ”
“ครับ/ค่ะ”
“มันก็ไม่สนุกสิครับ น้องๆขนสัมภาระของน้องๆไปที่เรือนั่นนะครับเดียวพี่จะขนไปไว้ที่เกราะให้ แต่..น้องจะว่ายน้ำกันไปที่เกราะกันนะครับ มองไปข้างหน้าจะเห็นเกราะนั้นนะครับ ที่อยู่ไกลเล็กน้อย เป็นการดูว่า แถวไหนจะไปถึงเกราะก่อนกัน แถวที่ไปถึงเกราะก่อนจะมีรางวัลให้ ส่วนแถวไหนไปถึงทีหลังก็คงต้องมีการลงทัณฑ์นิดหน่อยนะครับ ที่สำคัญสมาชิกต้องครบนะครับ พร้อมรึยังครับ ภายใน 1 ชั่วโมงต้องถึงทุกคนนะครับ ห้ามผิดกติกานะ พร้อมแล้วออกสตาร์ทเลยครับ”ว่าแล้วพี่ป๊อปปี้ก็เดินมาตบหลังฉันเบาๆพร้อมยิ้มแบบมีเลศนัยให้ทีหนึ่งก่อนจะเดินไปหาเพื่อนของเขาทั้งหลายนั้น ส่วนเพื่อนๆก็โดดน้ำกันตูมตาม ตามกันไปเรื่อยๆ
“ใครว่ายน้ำไม่เป็นมั้ง”ฉันหันหลังไปถามสมาชิกในแถว
“^ ^l”ยัยไฝ่รูปหัวใจยกมือ
“เธอชื่ออะไร แล้วก็เธอด้วย”ฉันถามยัยไฝ่รูปหัวใจและยัยโอ่งทมิฬ
“แอน”ยัยไฝ่ตอบ
“มะปราง”ยัยโอ่งทมิฬตอบ
“งั้นทุกคนรับนี้ไปก่อนนะ”ฉันบอกและคว้าเอาหญ้าเงือกปลามา 9 ก้อน
“อะไรอ่ะ เธอคงไม่แกล้งเรานะ”นายอ้นอ้อนแอ้นท้วง
“จะบ้าหรอ ก็เราต้องว่ายน้ำไม่ใช่ใกล้ๆนะ และฉันก็ไม่อยากโดนลงโทษด้วย ต้องนี่ หญ้าเงือกปลา”
“เฮ้ย! ไปหามาได้ยังไงอ่ะ อัมเคยรู้มาแต่ว่ามันมีในนวนิยายนะ แฮรี่ พอตเตอร์ก็ใช้หญ้าเงือกปลาในการประลองเวทไตรภาคี แต่ไม่ยักกะรู้ว่ามันมีจริง” อัมพูดขึ้น และกวางก็ทำท่าเห็นด้วย
“ก็ง่ายๆ ฉันนะสุดยอดอยู่แล้วก็ในเมื่อแฮรี่มีเค้าโครงเรื่องจริงอยู่บ้างฉันเลยลองหาอุปกรณ์ที่มีจริงในโลก และหญ้าเงือกปลาก็เป็นเพียงชิ้นหนึ่งเท่านั้น และตกลงจะเอาไหม”
“เอาก็เอา ช่วยอธิบายมันหน่อยสิเราไม่อยากตาย”ยัยโอ่งทมิฬเอ่ย
“นี่คือหญ้าเงือกปลา มันจะช่วยให้หายใจใต้น้ำได้ มองดูใต้น้ำได้ เมื่อกลืนมันลงไป จะมีเหงือกปลา และพังผืดโผล่มา สรุปก็เป็นลูกผสมปลาไป 1 ชั่วโมงน่ะ ส่วนแอนเมื่อกลืนมันลงไปแล้วมาอยู่ใกล้ๆฉันนะ”
เมื่อฉันแจกหญ้าเงือกปลาให้ครบทุกคนแล้ว ฉันก็บังคับให้ทุกคนกลืนมันเข้าไป ทุกคนก็ลงน้ำกันไปด้วยท่าทีที่ดูแล้วคงทรมานน่าดู แต่แค่แป๊บเดียวนะ แล้วทุกคนก็ดำน้ำว่ายไปเป็นกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว ยกเว้นฉันกับแอนที่ยังไม่ได้กลืน
“พร้อมนะ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
“กลืนลงไปแล้วมาอยู่ใกล้ๆฉัน”
ว่าแล้วแอนก็กลืนมาลงไปแล้วฉันก็กลืนตาม ฉันโอบเอวแอนแล้วพาแอนวิ่งลงทะเลไป แอนสะบัดอย่างทรมานนิดหน่อยแต่ฉันไม่เพราะฉันชินแล้วกับการกลืนหญ้าเงือกปลา แอนค่อยๆมีเหงือกปลางอกออกมาที่ตรงกรามและพังผืดก็ค่อยๆปรากฏขึ้นที่มือและเท้า ตามด้วยฉัน ฉันมองแอนแล้วลองปล่อยเอวแอน แทนที่แอนจะลองใช้พังผืดนั้นว่ายน้ำไปแต่กลับไม่ และกอดฉันแน่น เฮ้ย!! ฉันผู้หญิงเหมือนกันนะเฟ้ย แต่ธรรมดาฉันไม่เคยโอบเอวหรือแม้แต่จับมือเลยนะ
“ลองว่ายดูซิ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
แอนว่ายท่าไม่ได้เรื่องเลย ปานนี้ทุกคนคงไปได้ครึ่งทางแล้วมั้ง ฉันเข้าไปกอดแอนให้อยู่ในระดับน้ำที่พอเหมาะจะไม่ให้คนอื่นที่ว่ายอยู่บนหัวฉันเห็นมันจะเสียภาพคนอย่างฉัน แล้วก็ว่ายไปกับแอนและก็ค่อยๆเลยเหล่าเพื่อนๆคนอื่นไป จนเห็นเหล่าเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มของฉันไหวๆ แต่แอนสะกิดฉันก่อนที่จะว่ายไปถึง
“อะไร”
เฮ้ย! นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น เมื่อฉันหันหน้าไปหาแอน หน้าฉันกับหน้าแอนห่างกันแค่ไม่กี่เซน ตาจ้องตา เฮ้ย!ผู้หญิงด้วยกันนะ บ้าแล้ว แอนกระพริบตาปิ๊บๆสามทีก่อนจะละสายตาไปจากฉันและส่งสายตาเหมือนบอกให้ดูข้างล่าง ฉันมองดูตาม ปรากฏภาพที่สวยขั้นเทพ แนวปาการังหลากสี ปลาน้อยๆ ลายน่ารักกำลังเล่นว่อนแอบกับเพื่อนๆอยู่ แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบเหล่าปาการังทำให้ดูสวยมากยิ่งขึ้น
“อยากลงไปดูเหรอ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
ฉันยกนาฬิกาของฉันขึ้นมา นาฬิกาเรือนนี้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพยังไง มันก็ทำงานได้เสมอ ยังเหลือเวลาอีกมากเกินพอสมควร ฉันจึงพาแอนลงไปดูเหล่าแนวปาการังและปลาตัวน้อยๆใกล้ๆ แอนทำท่าสนใจจนสะดุดตา จนฉันค้างและยิ้มน้อยๆออกมา เฮ้ย! ผู้หญิงด้วยกันนะ นี่เป็นอะไรเนี๊ย หน้าตายัยนี่ก็แค่พอดูได้นะ ฉันคว้ากล้องถ่ายรูปออกมาจากกระเป๋า แน่นอนกล้องกันน้ำ ฉันสะกิดแอนให้หันมาแล้ว
“แฉ๊ะ!”
“O_O”
“นี่ อยากถ่ายรูปปะ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
แล้วก็ต่อกันอีกหลาย แฉ๊ะ เลย ก็ดีแหะ ฉันดูนาฬิกาอีกครั้งพบว่าเราใช้เวลาไปมาก และเหล่าเพื่อนๆที่ฉันกับแอนว่ายผ่านมา มีบางคนก็ว่ายเลยไปแล้ว ถึงสมาชิกในกลุ่มฉันจะไปถึง แต่หญ้าเงือกปลาก็ทำหน้าที่ของมันตามเวลา ฉะนั้นก็ขึ้นจากน้ำในสภาพยังงั้น เขาจะว่าเป็นสัตว์ประหลาดเอาได้ แล้วยังพวกนั้นมันจะกล้าเหรอ ฉันสะกิดแอนทันที
“แอน ไปเถอะ แล้วเดียวค่อยมาดูทีหลัง”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
ฉันโอบแอนและพาว่ายน้ำไปเรื่อยๆ นี่ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 10 นาทีที่หญ้าเงือกปลาจะหยุดทำงานและ คงถึงฝั่งพอดี แต่ทันใดนั้น แอนก็เกิดอาการชักกะตุก เป็นอะไรอีกเนี๊ย เฮ้ย! นะ..นั้น เหงือกปลาแอนหายไป พังผืดก็ไม่มี แต่ฉันยังมี หรือว่าของแอนจะหยุดทำงานแล้ว นี่ก็ลึกพอสำควรจะต้องรีบขึ้นเหนือน้ำ แต่ฉันยังมีเหงือกปลา ก็ไม่สามารถหายใจแบบคนธรรมดาได้ ส่วนแอนต้องหายใจแบบคนปกติแล้ว จะดันแอนขึ้นไป แล้วเราล่ะ ไหนจะเพื่อนที่ตามมาข้างหลังอีก บ้าเอ้ย!
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจาก ถ่ายอากาศในน้ำก็ต้อง จุ๊บ 1..2..3..นั้นไงทำไปแล้ว 1..2..3..4..5..6..7..8..9 ฉันรีบถอนริมฝีปากออก บ้าเอ้ย!ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่หนา แอนก็ตะลึงแต่ก็หายไปแป๊บหนึ่งฉันก็ต้องถ่ายอากาศไปเรื่อย จนใกล้ถึงฝั่ง บัดนี้หญ้าเงือกปลาของฉันก็หยุดทำงานมั้งแล้ว เป็นอันว่า ฉันก็ต้องขึ้นบกให้เร็วที่สุด ฉันรีบว่ายน้ำอย่างรำบากไปให้ถึงฝั่งโดยที่ลืมไปเลยว่าฉันกำลังโอบแอนอยู่ แอนก็ไม่ทำอะไรเลยนอนจากงีบ งีบใต้น้ำเนี๊ยนะ แหม ขี้เซาจังนะเราเนี๊ย ใกล้แล้วๆๆ อีกนิด เฮอ ถึงแล้วว่าแต่ แอน แอนตื่นได้แล้ว
“แอนตื่นได้แล้วอย่ามัวขี้เซาไปหน่อยเลย ที่สำคัญเรามาเป็นกลุ่มที่หนึ่งเลย เฮ้ย! ตื่นซิ”
“ไอ้บ้า นี่ใครเขาบ้าพอที่จะนอนใต้น้ำได้เหมือนเธอล่ะ อ้นว่าแอนนะ จมน้ำ ดูแลยังไงหะ รู้งี้ฉันเป็นคนพาแอนมาดีกว่าไหม และเธอต้องรับผิดชอบ”นายอ้นอ้อนแอ้นและเพื่อนในกลุ่มวิ่งมาหา ฉันมองไปรอบๆนอกจากกลุ่มฉันแล้วก็มีกลุ่มอื่นอีก4-5 คน เอาก็เอาว่ะ ต้องปฐมพยาบาล ฉันพยายามกดหนมน้มเพื่อให้น้ำที่แอนกระดกทะเลกินไปเมื่อกี้ออกมา แต่ไม่ได้ผล สงสัยต้องอีกรอบแล้วมั้ง เอาว่ะ 1..2..3..จุ๊บ ฉันก้มลงผายปอดให้ ครั้งแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากทุกคนยกเว้นแอนกับฉันที่หายใจเข้าเฮือกใหญ่และกลั้นหายใจไปตามๆกัน ตะลึง งงงังกับท่าทีที่ฉันทำลงไป พวกนี้บ้ารึไงฟะ ครั้งที่สอง แอนเหมือนเดิม แต่พวกคนอื่นหายใจเข้าเฮือกที่สองใหญ่ๆ และตาก็แทบถล่นออกมาอยู่แล้ว ครั้งที่สาม
“แค่ก แค้ก แคก”เย้!แอนพ้นน้ำออกมาแล้ว แต่ทำไมต้องพ้นใส่หน้าฉันด้วยหะ
“แอน เป็นไงมั้ง” ฉันรีบยิงคำถาม
“ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะ”
“อืม ไม่เป็นไร นี่พวกเธอทั้งหลายหายใจออกได้แล้ว เดียวตาย ตานะแทบถล่น น่ากลัว”
“นี่เธอสองคน”ยังทำท่าตะลึงอยู่
“อะไรหรอ”ฉันถาม
“น้องครับ น้องมาตรงเวลากันดีนะครับกลุ่มไหนมาถึงก่อนเอ่ย แล้วกลุ่มที่ยังมากันไม่ครบรอเพื่อนอยู่ริมชายหาดนี่ก่อนนะ แล้วค่อยไปพร้อมกันกับรุ่นพี่คนอื่นๆนะ ส่วนกลุ่มที่ครบแล้วตามพี่มา”พี่ป๊อปปี้และรุ่นพี่อีกหลายคนวิ่งมา ฉันพยุงแอนลุกขึ้นและเดินตามพี่ป๊อปปี้และเพื่อนๆในกลุ่มที่เป็นกลุ่มที่ 1 และยังเป็นกลุ่มเดียวที่มาถึงครบก่อน พี่ป๊อปปี้พามาที่ภูเขากระเป๋าที่เหล่ารุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ใส่เรือมา
“น้องหาสัมภาระตัวเอง แล้วตามพี่มา”
ฉันและเพื่อนๆต่างแบกกระเป๋าของตัวเองที่มากกว่าปกติ ธรรมดาเพื่อนคนอื่นเขาเอามาแค่กระเป๋าเดียว แต่นี่ทำไมกลุ่มฉันมันมีตั้งสาม สี่กระเป๋าว่ะ พอเดินตามพี่ป๊อปปี้มาถึงบ้านพัก(มั้ง)หลังไม่ใหญ่แต่ก็เป็นบ้านพักที่ดูแล้วกลุ่มฉันสามารถอยู่ได้ 9 คนเลยนะเนี๊ย หรือว่า เราจะได้อยู่ที่นี่ ดีแหะ แต่ ทำไมพี่พาน้องเดินเลยบ้านพักไปล่ะ ไม่ได้พักที่นี่หรอ พี่ป๊อปปี้เดินต่อเข้าไปในป่าลึกนิดหน่อย พบกับกระท่อมน้อยหลังบักใหญ่
“ที่นี่คือ ที่ที่พี่จะให้กลุ่มน้องพักกันนะครับ พี่กับเพื่อนๆจะพักกันที่บ้านพักที่เราเดินผ่านมา มีอะไรก็ไปหาได้ ส่วนเพื่อนๆของน้องนั้นจะอยู่ที่เต็นท์ที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตรจากตรงนี่นะ เอาล่ะ ไปพักกันได้ เวลาหนึ่งทุ่มตรงไปพร้อมกันที่ชายหาดข้างหน้านะ เดินไปแค่หน่อยเดียวคงจำได้ใช่ไหม ไปได้เลย ยกเว้นน้องตังเม”
อ้าวเพ่ ได้ไง แล้วเมื่อทุกคนได้เข้ากระท่อมน้อยกันไปครบแล้ว เหลือเพียงฉันกับพี่ป๊อปปี้
“น้องตังเมครับ”
“หึ”
“คือว่า คือ คือ”
“คืออะไรค่ะ”
“เออ เออ”
“เอออะไรอีกล่ะค่ะเพ่”
“เออ คือว่า วันนี้น้องใช้อุปกรณ์อะไรหรอครับ พี่ใช้เรือเดินทางมาที่เกราะแต่กลับไม่พบน้องว่ายน้ำเลย ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มน้องก็เหมือนกัน ทำไมพี่ไม่สังเกตเห็นเลย พอพี่มาถึงเกราะ กลับพบว่ากลุ่มน้องบางคนก็มาถึงแล้ว ทั้งๆที่พี่ใช้เรือเนี๊ยนะ กลับมาถึงก่อน ระหว่างทางทั้งๆที่พี่ก็ออกเรือมาก่อน ทำไมไม่มีกลุ่มน้องบนผิวน้ำ ถ้าดำน้ำก็ต้องขึ้นมาสูดอากาศอยู่แล้ว แต่ทำไม” พี่ป๊อปปี้ถามยาวเป็นสายการบินสายกรุงเทพ สุวรรณภูมิ(มีที่ไหนอีกล่ะเนี๊ย)
“ก็ ดำน้ำไงค่ะ ดำน้ำมา และตอนที่เราขึ้นมาสูดอากาศนะพี่อยู่ที่ไหนจะไปรู้เหรอ และที่มาถึงก่อนก็เพราะเราว่ายน้ำกันเก่งมากค่ะ จบนะคะ น้องอย่างพักบ้างแล้ว”จบการสนทนาฉันเดินหันหลังและเข้าไปในกระท่อมทันที
“นี่ตังเม เธอจะให้เราบอกเพื่อนๆว่ายังไงกัน”มะปรางถาม
“ก็เรื่องของพวกเธอ แต่ห้ามเกี่ยวข้องหรือบอกใครเกี่ยวกับหญ้าเงือกปลาเป็นอันขาด เข้าใจน่ะ”
แล้วฉันก็เดินมาที่เตียงที่ยังว่างอยู่เตียงเดียวริมประตู ว่าไปแล้วกระท่อมนี่ก็ใหญ่พอใช้ได้เลย ดูแล้วน่าสบาย มีห้องน้ำด้วย ฉันจัดสัมภาระให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เบ็ดเสร็จ 45 นาที เท่านั้น แต่พอออกมาก็โนว่าสะอุจระหูออกมาเต้นแทงโก้เยย แต่ยังเหลือเวลาอีกมาก ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มก็เรียงแถวเข้าใช้บริการห้องน้ำ ฉันลุกจากเตียงที่นั่งมากว่าสองวินาทีได้ ทำให้แอนซึ่งนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียวที่อาบน้ำคนแรกและเสร็จก่อนใครลุกขึ้นถาม
“ไปไหนหรอ”
“ออกไปเที่ยวรอบๆเกาะหน่อยนะ อยู่ยังงี้น่าเบื่อ ไม่ต้องห่วงยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ เดินรอบเกราะได้สามรอบเลย พอหนึ่งทุ่มถ้าฉันยังไม่กลับละก็ไปก่อนเลยฉันอาจอยู่ที่นั่นแล้ว”
จบประโยค ฉันก็คว้ากระเป๋าก่อกวนแล้วออกเดินไปนอกกระท่อม พบว่ายังไม่มีใครเลยที่มา ฉันเดินไปเรื่อยๆ มาถึงเต็นท์ที่กางทิ้งไว้ดูแล้วคงเป็นเต็นท์ที่พักของน้องใหม่ที่ไม่ใช่กลุ่มฉันแน่นอน ฉันเดินเที่ยวท่องไปเรื่อยๆ ก็เจอนั่น นี่ เยอะแยะบนเกราะ ทำให้ฉันไม่มีอารมณ์ก่อกวนเลย ฉันเจอหมู่บ้านที่เรียกว่าน้อย แล้วก็เดิน เดิน เดินมาถึงหน้าชายหาดบริเวณที่พี่ป๊อปปี้นัดไว้ตอนหนึ่งทุ่ม แต่ยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง ฉันจึงนั่งรอแถวนั้น พอหนึ่งทุ่มก็เข้ากิจกรรม ฉลองก็ว่าได้มีการแกล้งกลุ่มที่แพ้แล้วก็ย่างนั้น ปิ้งนี้ กินกัน ประมาณสี่ทุ่มก็แยกย้ายกันเข้านอน จบไปอีกวันแล้วนะ
“ป๊อก ครืดดด อ๊ากก ปิ๊บ ตูมมม แป้น แป้น ปี้น ปิ้น ตูม กรี๊ดดด ว้ายยย ~!@#$%^&*()_+-={}[]:”?><”
มิ้มกับฟ้าหันหน้ามาหาฉันและเราทั้งสามก็ “ว่ะ ฮะ อ่า เกมการก่อกวนสำเร็จ” แล้วนักศึกษาทั้งหลายก็วิ่งกรูกันลงมาจากรถทันที ส่วนเราทั้งสามก็ยังคงหัวเราะ สะใจ ไร้ซึ่งความปราณี ฮิ้ว!
“น้องตังเม นี่วีรกรรมน้องตังเมหรอครับ”พี่ป๊อปปี้พูดอย่างรู้ทัน
“^U^ V ”
“งั้นแสดงว่าใช่แน่นอนซินะ รู้ไหม โทโมะกับเขื่อนร้อง ว้ายย แล้วกอดกันกลมเลย”
“เชื่อค่ะ ว่าแต่เราต้องต่อเรือไปอีกหรอค่ะ”
“ป่าวหรอก”
“อ้าว ที่นี่ก็ไม่น่าจะใช้ เกราะผีเสื้อสมุทร นะค่ะ จะให้ว่ายน้ำข้ามทะเลไปหรอ”
“ใช่ครับ แต่เกราะผี้เสื้อเฉยๆ ครับ ไม่มี สมุทร ^ ^”
“อืมใช้ได้ ว่าแต่เอาจริงอ่ะเพ่” ฉันหันไปถามเพื่อความแน่ใจอีกที
“แน่นอนครับ เอาล่ะ น้องๆทุกคนลงมากันครบแล้วก็มาเข้าแถวเรียง 10 แถว นะครับ เร็วหน่อยครับ”
พี่ป๊อปปี้บอกง่ายๆ ไม่เป็นไรฉันมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เหล่าเพื่อนคนอื่นสิ เมื่อเหล่าบรรดาเพื่อนๆมาเข้าแถวกันครบแล้ว โดยที่ฉันอยู่คนหน้าสุด แถวที่ 1 ตามด้วยมิ้ม ฟ้า อัม กวาง นัส ยัยโอ่งทมิฬ ยัยไฝ่รูปหัวใจ แล้วก็นายอ้นอ้อนแอ้น แหมแต่ล่ะคนก็รู้สึกว่าจะกวนๆกันทั้งนั้น
“เข้าแถวครบกันแล้วนะครับ แต่ล่ะแถวก็มีสมาชิก 9 คนให้แต่ละแถวจำหน้าสมาชิกในแถวกันไว้นะครับ ที่นี่เป็นท่าเรือ ต้องข้ามไปเกราะผีเสื้อโดยเรือใช้ไหมครับ”
“ครับ/ค่ะ”
“มันก็ไม่สนุกสิครับ น้องๆขนสัมภาระของน้องๆไปที่เรือนั่นนะครับเดียวพี่จะขนไปไว้ที่เกราะให้ แต่..น้องจะว่ายน้ำกันไปที่เกราะกันนะครับ มองไปข้างหน้าจะเห็นเกราะนั้นนะครับ ที่อยู่ไกลเล็กน้อย เป็นการดูว่า แถวไหนจะไปถึงเกราะก่อนกัน แถวที่ไปถึงเกราะก่อนจะมีรางวัลให้ ส่วนแถวไหนไปถึงทีหลังก็คงต้องมีการลงทัณฑ์นิดหน่อยนะครับ ที่สำคัญสมาชิกต้องครบนะครับ พร้อมรึยังครับ ภายใน 1 ชั่วโมงต้องถึงทุกคนนะครับ ห้ามผิดกติกานะ พร้อมแล้วออกสตาร์ทเลยครับ”ว่าแล้วพี่ป๊อปปี้ก็เดินมาตบหลังฉันเบาๆพร้อมยิ้มแบบมีเลศนัยให้ทีหนึ่งก่อนจะเดินไปหาเพื่อนของเขาทั้งหลายนั้น ส่วนเพื่อนๆก็โดดน้ำกันตูมตาม ตามกันไปเรื่อยๆ
“ใครว่ายน้ำไม่เป็นมั้ง”ฉันหันหลังไปถามสมาชิกในแถว
“^ ^l”ยัยไฝ่รูปหัวใจยกมือ
“เธอชื่ออะไร แล้วก็เธอด้วย”ฉันถามยัยไฝ่รูปหัวใจและยัยโอ่งทมิฬ
“แอน”ยัยไฝ่ตอบ
“มะปราง”ยัยโอ่งทมิฬตอบ
“งั้นทุกคนรับนี้ไปก่อนนะ”ฉันบอกและคว้าเอาหญ้าเงือกปลามา 9 ก้อน
“อะไรอ่ะ เธอคงไม่แกล้งเรานะ”นายอ้นอ้อนแอ้นท้วง
“จะบ้าหรอ ก็เราต้องว่ายน้ำไม่ใช่ใกล้ๆนะ และฉันก็ไม่อยากโดนลงโทษด้วย ต้องนี่ หญ้าเงือกปลา”
“เฮ้ย! ไปหามาได้ยังไงอ่ะ อัมเคยรู้มาแต่ว่ามันมีในนวนิยายนะ แฮรี่ พอตเตอร์ก็ใช้หญ้าเงือกปลาในการประลองเวทไตรภาคี แต่ไม่ยักกะรู้ว่ามันมีจริง” อัมพูดขึ้น และกวางก็ทำท่าเห็นด้วย
“ก็ง่ายๆ ฉันนะสุดยอดอยู่แล้วก็ในเมื่อแฮรี่มีเค้าโครงเรื่องจริงอยู่บ้างฉันเลยลองหาอุปกรณ์ที่มีจริงในโลก และหญ้าเงือกปลาก็เป็นเพียงชิ้นหนึ่งเท่านั้น และตกลงจะเอาไหม”
“เอาก็เอา ช่วยอธิบายมันหน่อยสิเราไม่อยากตาย”ยัยโอ่งทมิฬเอ่ย
“นี่คือหญ้าเงือกปลา มันจะช่วยให้หายใจใต้น้ำได้ มองดูใต้น้ำได้ เมื่อกลืนมันลงไป จะมีเหงือกปลา และพังผืดโผล่มา สรุปก็เป็นลูกผสมปลาไป 1 ชั่วโมงน่ะ ส่วนแอนเมื่อกลืนมันลงไปแล้วมาอยู่ใกล้ๆฉันนะ”
เมื่อฉันแจกหญ้าเงือกปลาให้ครบทุกคนแล้ว ฉันก็บังคับให้ทุกคนกลืนมันเข้าไป ทุกคนก็ลงน้ำกันไปด้วยท่าทีที่ดูแล้วคงทรมานน่าดู แต่แค่แป๊บเดียวนะ แล้วทุกคนก็ดำน้ำว่ายไปเป็นกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว ยกเว้นฉันกับแอนที่ยังไม่ได้กลืน
“พร้อมนะ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
“กลืนลงไปแล้วมาอยู่ใกล้ๆฉัน”
ว่าแล้วแอนก็กลืนมาลงไปแล้วฉันก็กลืนตาม ฉันโอบเอวแอนแล้วพาแอนวิ่งลงทะเลไป แอนสะบัดอย่างทรมานนิดหน่อยแต่ฉันไม่เพราะฉันชินแล้วกับการกลืนหญ้าเงือกปลา แอนค่อยๆมีเหงือกปลางอกออกมาที่ตรงกรามและพังผืดก็ค่อยๆปรากฏขึ้นที่มือและเท้า ตามด้วยฉัน ฉันมองแอนแล้วลองปล่อยเอวแอน แทนที่แอนจะลองใช้พังผืดนั้นว่ายน้ำไปแต่กลับไม่ และกอดฉันแน่น เฮ้ย!! ฉันผู้หญิงเหมือนกันนะเฟ้ย แต่ธรรมดาฉันไม่เคยโอบเอวหรือแม้แต่จับมือเลยนะ
“ลองว่ายดูซิ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
แอนว่ายท่าไม่ได้เรื่องเลย ปานนี้ทุกคนคงไปได้ครึ่งทางแล้วมั้ง ฉันเข้าไปกอดแอนให้อยู่ในระดับน้ำที่พอเหมาะจะไม่ให้คนอื่นที่ว่ายอยู่บนหัวฉันเห็นมันจะเสียภาพคนอย่างฉัน แล้วก็ว่ายไปกับแอนและก็ค่อยๆเลยเหล่าเพื่อนๆคนอื่นไป จนเห็นเหล่าเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มของฉันไหวๆ แต่แอนสะกิดฉันก่อนที่จะว่ายไปถึง
“อะไร”
เฮ้ย! นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น เมื่อฉันหันหน้าไปหาแอน หน้าฉันกับหน้าแอนห่างกันแค่ไม่กี่เซน ตาจ้องตา เฮ้ย!ผู้หญิงด้วยกันนะ บ้าแล้ว แอนกระพริบตาปิ๊บๆสามทีก่อนจะละสายตาไปจากฉันและส่งสายตาเหมือนบอกให้ดูข้างล่าง ฉันมองดูตาม ปรากฏภาพที่สวยขั้นเทพ แนวปาการังหลากสี ปลาน้อยๆ ลายน่ารักกำลังเล่นว่อนแอบกับเพื่อนๆอยู่ แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบเหล่าปาการังทำให้ดูสวยมากยิ่งขึ้น
“อยากลงไปดูเหรอ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
ฉันยกนาฬิกาของฉันขึ้นมา นาฬิกาเรือนนี้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพยังไง มันก็ทำงานได้เสมอ ยังเหลือเวลาอีกมากเกินพอสมควร ฉันจึงพาแอนลงไปดูเหล่าแนวปาการังและปลาตัวน้อยๆใกล้ๆ แอนทำท่าสนใจจนสะดุดตา จนฉันค้างและยิ้มน้อยๆออกมา เฮ้ย! ผู้หญิงด้วยกันนะ นี่เป็นอะไรเนี๊ย หน้าตายัยนี่ก็แค่พอดูได้นะ ฉันคว้ากล้องถ่ายรูปออกมาจากกระเป๋า แน่นอนกล้องกันน้ำ ฉันสะกิดแอนให้หันมาแล้ว
“แฉ๊ะ!”
“O_O”
“นี่ อยากถ่ายรูปปะ”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
แล้วก็ต่อกันอีกหลาย แฉ๊ะ เลย ก็ดีแหะ ฉันดูนาฬิกาอีกครั้งพบว่าเราใช้เวลาไปมาก และเหล่าเพื่อนๆที่ฉันกับแอนว่ายผ่านมา มีบางคนก็ว่ายเลยไปแล้ว ถึงสมาชิกในกลุ่มฉันจะไปถึง แต่หญ้าเงือกปลาก็ทำหน้าที่ของมันตามเวลา ฉะนั้นก็ขึ้นจากน้ำในสภาพยังงั้น เขาจะว่าเป็นสัตว์ประหลาดเอาได้ แล้วยังพวกนั้นมันจะกล้าเหรอ ฉันสะกิดแอนทันที
“แอน ไปเถอะ แล้วเดียวค่อยมาดูทีหลัง”
(- -)(_ _) (--)(_ _)
ฉันโอบแอนและพาว่ายน้ำไปเรื่อยๆ นี่ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 10 นาทีที่หญ้าเงือกปลาจะหยุดทำงานและ คงถึงฝั่งพอดี แต่ทันใดนั้น แอนก็เกิดอาการชักกะตุก เป็นอะไรอีกเนี๊ย เฮ้ย! นะ..นั้น เหงือกปลาแอนหายไป พังผืดก็ไม่มี แต่ฉันยังมี หรือว่าของแอนจะหยุดทำงานแล้ว นี่ก็ลึกพอสำควรจะต้องรีบขึ้นเหนือน้ำ แต่ฉันยังมีเหงือกปลา ก็ไม่สามารถหายใจแบบคนธรรมดาได้ ส่วนแอนต้องหายใจแบบคนปกติแล้ว จะดันแอนขึ้นไป แล้วเราล่ะ ไหนจะเพื่อนที่ตามมาข้างหลังอีก บ้าเอ้ย!
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจาก ถ่ายอากาศในน้ำก็ต้อง จุ๊บ 1..2..3..นั้นไงทำไปแล้ว 1..2..3..4..5..6..7..8..9 ฉันรีบถอนริมฝีปากออก บ้าเอ้ย!ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่หนา แอนก็ตะลึงแต่ก็หายไปแป๊บหนึ่งฉันก็ต้องถ่ายอากาศไปเรื่อย จนใกล้ถึงฝั่ง บัดนี้หญ้าเงือกปลาของฉันก็หยุดทำงานมั้งแล้ว เป็นอันว่า ฉันก็ต้องขึ้นบกให้เร็วที่สุด ฉันรีบว่ายน้ำอย่างรำบากไปให้ถึงฝั่งโดยที่ลืมไปเลยว่าฉันกำลังโอบแอนอยู่ แอนก็ไม่ทำอะไรเลยนอนจากงีบ งีบใต้น้ำเนี๊ยนะ แหม ขี้เซาจังนะเราเนี๊ย ใกล้แล้วๆๆ อีกนิด เฮอ ถึงแล้วว่าแต่ แอน แอนตื่นได้แล้ว
“แอนตื่นได้แล้วอย่ามัวขี้เซาไปหน่อยเลย ที่สำคัญเรามาเป็นกลุ่มที่หนึ่งเลย เฮ้ย! ตื่นซิ”
“ไอ้บ้า นี่ใครเขาบ้าพอที่จะนอนใต้น้ำได้เหมือนเธอล่ะ อ้นว่าแอนนะ จมน้ำ ดูแลยังไงหะ รู้งี้ฉันเป็นคนพาแอนมาดีกว่าไหม และเธอต้องรับผิดชอบ”นายอ้นอ้อนแอ้นและเพื่อนในกลุ่มวิ่งมาหา ฉันมองไปรอบๆนอกจากกลุ่มฉันแล้วก็มีกลุ่มอื่นอีก4-5 คน เอาก็เอาว่ะ ต้องปฐมพยาบาล ฉันพยายามกดหนมน้มเพื่อให้น้ำที่แอนกระดกทะเลกินไปเมื่อกี้ออกมา แต่ไม่ได้ผล สงสัยต้องอีกรอบแล้วมั้ง เอาว่ะ 1..2..3..จุ๊บ ฉันก้มลงผายปอดให้ ครั้งแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากทุกคนยกเว้นแอนกับฉันที่หายใจเข้าเฮือกใหญ่และกลั้นหายใจไปตามๆกัน ตะลึง งงงังกับท่าทีที่ฉันทำลงไป พวกนี้บ้ารึไงฟะ ครั้งที่สอง แอนเหมือนเดิม แต่พวกคนอื่นหายใจเข้าเฮือกที่สองใหญ่ๆ และตาก็แทบถล่นออกมาอยู่แล้ว ครั้งที่สาม
“แค่ก แค้ก แคก”เย้!แอนพ้นน้ำออกมาแล้ว แต่ทำไมต้องพ้นใส่หน้าฉันด้วยหะ
“แอน เป็นไงมั้ง” ฉันรีบยิงคำถาม
“ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะ”
“อืม ไม่เป็นไร นี่พวกเธอทั้งหลายหายใจออกได้แล้ว เดียวตาย ตานะแทบถล่น น่ากลัว”
“นี่เธอสองคน”ยังทำท่าตะลึงอยู่
“อะไรหรอ”ฉันถาม
“น้องครับ น้องมาตรงเวลากันดีนะครับกลุ่มไหนมาถึงก่อนเอ่ย แล้วกลุ่มที่ยังมากันไม่ครบรอเพื่อนอยู่ริมชายหาดนี่ก่อนนะ แล้วค่อยไปพร้อมกันกับรุ่นพี่คนอื่นๆนะ ส่วนกลุ่มที่ครบแล้วตามพี่มา”พี่ป๊อปปี้และรุ่นพี่อีกหลายคนวิ่งมา ฉันพยุงแอนลุกขึ้นและเดินตามพี่ป๊อปปี้และเพื่อนๆในกลุ่มที่เป็นกลุ่มที่ 1 และยังเป็นกลุ่มเดียวที่มาถึงครบก่อน พี่ป๊อปปี้พามาที่ภูเขากระเป๋าที่เหล่ารุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ใส่เรือมา
“น้องหาสัมภาระตัวเอง แล้วตามพี่มา”
ฉันและเพื่อนๆต่างแบกกระเป๋าของตัวเองที่มากกว่าปกติ ธรรมดาเพื่อนคนอื่นเขาเอามาแค่กระเป๋าเดียว แต่นี่ทำไมกลุ่มฉันมันมีตั้งสาม สี่กระเป๋าว่ะ พอเดินตามพี่ป๊อปปี้มาถึงบ้านพัก(มั้ง)หลังไม่ใหญ่แต่ก็เป็นบ้านพักที่ดูแล้วกลุ่มฉันสามารถอยู่ได้ 9 คนเลยนะเนี๊ย หรือว่า เราจะได้อยู่ที่นี่ ดีแหะ แต่ ทำไมพี่พาน้องเดินเลยบ้านพักไปล่ะ ไม่ได้พักที่นี่หรอ พี่ป๊อปปี้เดินต่อเข้าไปในป่าลึกนิดหน่อย พบกับกระท่อมน้อยหลังบักใหญ่
“ที่นี่คือ ที่ที่พี่จะให้กลุ่มน้องพักกันนะครับ พี่กับเพื่อนๆจะพักกันที่บ้านพักที่เราเดินผ่านมา มีอะไรก็ไปหาได้ ส่วนเพื่อนๆของน้องนั้นจะอยู่ที่เต็นท์ที่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตรจากตรงนี่นะ เอาล่ะ ไปพักกันได้ เวลาหนึ่งทุ่มตรงไปพร้อมกันที่ชายหาดข้างหน้านะ เดินไปแค่หน่อยเดียวคงจำได้ใช่ไหม ไปได้เลย ยกเว้นน้องตังเม”
อ้าวเพ่ ได้ไง แล้วเมื่อทุกคนได้เข้ากระท่อมน้อยกันไปครบแล้ว เหลือเพียงฉันกับพี่ป๊อปปี้
“น้องตังเมครับ”
“หึ”
“คือว่า คือ คือ”
“คืออะไรค่ะ”
“เออ เออ”
“เอออะไรอีกล่ะค่ะเพ่”
“เออ คือว่า วันนี้น้องใช้อุปกรณ์อะไรหรอครับ พี่ใช้เรือเดินทางมาที่เกราะแต่กลับไม่พบน้องว่ายน้ำเลย ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มน้องก็เหมือนกัน ทำไมพี่ไม่สังเกตเห็นเลย พอพี่มาถึงเกราะ กลับพบว่ากลุ่มน้องบางคนก็มาถึงแล้ว ทั้งๆที่พี่ใช้เรือเนี๊ยนะ กลับมาถึงก่อน ระหว่างทางทั้งๆที่พี่ก็ออกเรือมาก่อน ทำไมไม่มีกลุ่มน้องบนผิวน้ำ ถ้าดำน้ำก็ต้องขึ้นมาสูดอากาศอยู่แล้ว แต่ทำไม” พี่ป๊อปปี้ถามยาวเป็นสายการบินสายกรุงเทพ สุวรรณภูมิ(มีที่ไหนอีกล่ะเนี๊ย)
“ก็ ดำน้ำไงค่ะ ดำน้ำมา และตอนที่เราขึ้นมาสูดอากาศนะพี่อยู่ที่ไหนจะไปรู้เหรอ และที่มาถึงก่อนก็เพราะเราว่ายน้ำกันเก่งมากค่ะ จบนะคะ น้องอย่างพักบ้างแล้ว”จบการสนทนาฉันเดินหันหลังและเข้าไปในกระท่อมทันที
“นี่ตังเม เธอจะให้เราบอกเพื่อนๆว่ายังไงกัน”มะปรางถาม
“ก็เรื่องของพวกเธอ แต่ห้ามเกี่ยวข้องหรือบอกใครเกี่ยวกับหญ้าเงือกปลาเป็นอันขาด เข้าใจน่ะ”
แล้วฉันก็เดินมาที่เตียงที่ยังว่างอยู่เตียงเดียวริมประตู ว่าไปแล้วกระท่อมนี่ก็ใหญ่พอใช้ได้เลย ดูแล้วน่าสบาย มีห้องน้ำด้วย ฉันจัดสัมภาระให้เรียบร้อยแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เบ็ดเสร็จ 45 นาที เท่านั้น แต่พอออกมาก็โนว่าสะอุจระหูออกมาเต้นแทงโก้เยย แต่ยังเหลือเวลาอีกมาก ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มก็เรียงแถวเข้าใช้บริการห้องน้ำ ฉันลุกจากเตียงที่นั่งมากว่าสองวินาทีได้ ทำให้แอนซึ่งนอนอยู่บนเตียงเพียงคนเดียวที่อาบน้ำคนแรกและเสร็จก่อนใครลุกขึ้นถาม
“ไปไหนหรอ”
“ออกไปเที่ยวรอบๆเกาะหน่อยนะ อยู่ยังงี้น่าเบื่อ ไม่ต้องห่วงยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ เดินรอบเกราะได้สามรอบเลย พอหนึ่งทุ่มถ้าฉันยังไม่กลับละก็ไปก่อนเลยฉันอาจอยู่ที่นั่นแล้ว”
จบประโยค ฉันก็คว้ากระเป๋าก่อกวนแล้วออกเดินไปนอกกระท่อม พบว่ายังไม่มีใครเลยที่มา ฉันเดินไปเรื่อยๆ มาถึงเต็นท์ที่กางทิ้งไว้ดูแล้วคงเป็นเต็นท์ที่พักของน้องใหม่ที่ไม่ใช่กลุ่มฉันแน่นอน ฉันเดินเที่ยวท่องไปเรื่อยๆ ก็เจอนั่น นี่ เยอะแยะบนเกราะ ทำให้ฉันไม่มีอารมณ์ก่อกวนเลย ฉันเจอหมู่บ้านที่เรียกว่าน้อย แล้วก็เดิน เดิน เดินมาถึงหน้าชายหาดบริเวณที่พี่ป๊อปปี้นัดไว้ตอนหนึ่งทุ่ม แต่ยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง ฉันจึงนั่งรอแถวนั้น พอหนึ่งทุ่มก็เข้ากิจกรรม ฉลองก็ว่าได้มีการแกล้งกลุ่มที่แพ้แล้วก็ย่างนั้น ปิ้งนี้ กินกัน ประมาณสี่ทุ่มก็แยกย้ายกันเข้านอน จบไปอีกวันแล้วนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ