Love Devils
-
เขียนโดย รีบอร์น
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.39 น.
5 ตอน
1 วิจารณ์
8,633 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 16.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) บทเริ่มต้น2(end)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"อย่ามา พูดเป็นเล่นไปนะ นาย...นายต้องอ้ำฉันเล่นแน่ๆ"
"เธอยังจะหลอกตัวเองไปเพื่ออะไร"
"!!!!"
เขามองหน้าของฉันด้วยสายตาสมเพชถึงแม้ว่าใบหน้ารวมๆแล้วเขาจะเจ็บปวดมากก็ตาม โชยะมองหน้าฉันอย่างหวาดระแวงก่อนประคองร่างโซลอย่างระมัดระวัง หลอก...ใช่...ฉันกำลังหลอกตัวเองอยากจะเชื่อแบบนั้นอยากจะหลอกตัวเอง ฉันยิ้มอย่างสับสนก่อนหันไปทางทั้งสองคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มด้วยความสับสน
"ฉันไม่ได้หลอกตัวเองนะ...พวกนายต่างหากที่ปั่นหัวฉัน"
"หลอกตัวเองอยู่เห็นๆทั้งที่หลักฐานมันก็ออกจะชัดเจนแบบนั้น"
"ฉัน ฉันไม่เชื่อ"
"ฮึ...ไงก็ลองซัดโชยะติดผนังเล่นซักรอบสิ"
"...เอ๊..."
โชยะทำหน้าเลิกลั่กเหมือนกับว่าเขาไม่อยากจะลองดีเท่าไร ฉันมองทั้งสองที่มองหน้าฉันเป็นตาเดียว 'โกหก...โกหกชัดๆอย่างฉันเนี่ยนะ' ฉันที่ทนรับกับสิ่งที่ได้รับรู้ไม่ไหว รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาล เสียงของพวกนักเรียนกระทบเข้าโซนประสาทจนปวดจี๊ด...เสียงเหล่านี้มันช่างทรมานคนที่ได้ยินจริงๆ 'ทำไม ทำไม ทำไม' ฉันได้แต่พำถามตัวเองอย่างทรมานแม้จะหลบมาในที่ๆน่าจะพ้นเสียงของพวกเขาเหล่านั้นแล้วก็ตาม แต่เสียงที่เคยกระทบเข้ามาในโซนประสาทก็ยังตามมาหลอกหลอนไม่รู้จบ
"จะนั่งหดหัวอยู่ในนี้อีกนานไม ยัยหน้าโง่"
"..."
"เธอหลบเลี่ยงหรือหนีมันไม่พ้นหรอก เพราะมันคือของๆเธอและเป็นตัวตนของเธอ"
"ทำไมกัน ทำไมต้องเป็นฉัน"(Y_Y)
ฉันกอดเข่าร้องไห้ ไม่เอาแล้วหลอกตัวเองไม่ไหวแล้ว ฉันได้แต่นั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น อารมณ์ในตอนนี้และวินาทีนี้มันไม่สามารถแบกรับความเป็นจริงนี้ได้ ขณะที่นั่งร้องไห้อย่างทรมานนั้นเสียงของโซลก็ดังขึ้นทำลายความเงียบและเสียงสะอึกสะอื้นของฉัน
"เพราะเธอ...ถูกมันเลือกยังไงล่ะ ไม่มีใครปราถนาที่จะเป็นผู้เหนือกว่ามนุษย์นักหรอกนะ"
"แม้แต่นายด้วยไงเหรอ"
"ก็ไม่แน่นะ...แต่ลองยอมรับแล้วเผชิญกับโลกใบเก่าในตัวตนใหม่ของเธอดูสิ"
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร รอยยิ้มอ่อนโยนที่กำลังปลอบประโลมฉันนั้นแม้ว่าดวงตาของฉันจะพล่านมัวด้วยน้ำตาก็ตามแต่กับมองเห็นรอยยิ้มนั้นอย่างชัดเจน มือหนายื่นมาที่เบื้องหน้า ฉันมองมือนั้นด้วยความลังเล ก่อนจะปัดมือนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วลุกวิ่งออกไปจากห้องเก็บของ แม้ว่าจะทรมานที่เสียงเหล่านั้นยังกระทบโซนประสาทอย่างไม่หยุดหย่อนแต่ฉันจะไม่ยอมรับความเป็นจริงนี้เด็ดขาด มันก็แค่ฝัน!!!
"กลับมาแล้วค่ะ"
ฉันส่งเสียงให้แม่ที่อยู่บ้านรู้ว่าฉันผู้เป็นลูกสาวกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของความเงียบไม่มีแม้แต่เสียงของฝีเท้า ไม่มีเสียงตอบกลับมาแม้แต่คำเดียว ฉันเดินดูไปทั่วบ้านอย่างสงสัยภายในใจเริ่มกังวลเล็กน้อยความกลัวเข้าเกาะกินหัวใจที่เต้นรัวริกที่ละนิด เสียงของโทรทัศน์ภายในห้องดังลอดออกมา ปลายเท้าที่คุ้นเคยของแม่นั้นแข็งทื่อ...ฉันมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง ร่างของผู้เป็นแม่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน ใบหน้าที่แสดงอาการหวาดกลัวนั้นทำให้ฉันพลอยหวาดกลัวไปด้วยไม่น้อย ดวงตาที่เบิกกว้างนั้นมีแต่ความกลัว ร่างของฉันที่แข็งทื่อวิ่งเข้าหาร่างนั้นอย่างอัตโนมัติ
"แม่"!!!
"แม่ค่ะ แม่...แม่อย่าแกล้งหนูแบบนี้สิค่ะ แม่ค่ะ"
ร่างของผู้เป็นแม่เย็นเฉียบและแข็งทื่อยิ่งกว่าหิน แม้จะตะโกนจนเสียงแหบแห้งแค่ไหนร่างเบื้องหน้าก็หาได้ฟื้นขึ้นมาไม่ น้ำตาของฉันอาบพวงแก้มจนชุ่มชื่น เสียงปลายเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาหยุดอยุ่เบื้องหลัง ใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะของฉันมันดังจนแม้แต่ตัวฉันเองก็รำคาญ หวังว่าจะเป็นพ่อของฉันหวังแบบนั้น แม้ว่าใจอยากจะหันไปมองด้านหลังอย่างเกินทนแต่ร่างที่แข็งทื่อก็กลับไม่ฟังคำสั่ง จนร่างของชายวัยกลางคนถูกโยนมาด้านซ้ายมือของฉัน ใบหน้าที่หวาดกลัวไม่ต่างจากแม่นั้นฉันให้ฉันหัวใจสลาย...
"พ่อค่ะ"
ร่างของพ่อที่ชุ่มโชนไปด้วยเลือด ยังคงมีความอุ่นเล็กน้อย '...พ่อของฉันแม่ของฉัน...ไม่จริง'
"หลอกตัวเองไปจะได้อะไรกัน"
"!!!"
"ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องอาลัยอาวรณ์ แค่คนตายเอง"
ชายเบื้องหน้าของฉัน ยิ้มพอใจก่อนแกว่งมีดไปมาอย่างชำนาญ ผมสีทองที่มีเลือดกระเด็นของเขาทำให้ฉันหวาดผวาแต่อีกใจก้เคืองแค้น ความโกรธพุพล่านไปทั่วร่างกายฉันกำหมัดแน่นน้ำตาท่อาบพวงแกเฮือดแห้งไปเพียงพริบตาก่อนที่ความรู้สึกทั้งหมดจะกลั้นออกมา
"สารเลว"
ฉันที่กำหมัดแน่นสะบัดมืออย่างแรง ความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาคือความโกรธแค้น เจ็บปวดฉันลุยขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเดินตรงเข้าไปซัดร่างที่กระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง ร่างนั้นเริ่มสะบัสะบอม เลือดที่กระอักออกมาทำให้ฉันได้สติ หวาดผวา...แต่อีกใจคิดว่ามันยังน้อยไปกับชีวิตของพ่อแม่ที่มันได้พรากไปจากฉัน มันยังน้อยไป...น้อยไปจริงๆ
"สมแล้วที่เป็นถึงเผ่าพันธุ์หายาก"
"!!!"
ตูม!!
ฉันสะบัดมือเหมือนกับว่าปัดธาตุอากาศอย่างแรง ร่างที่ยังมีเรี่ยวแรงนั้นกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรงอีกครั้ง ร่างของชายผู้นั้นแอ่นตัวอย่างทรมานเลือดที่กระอักออกมาทำให้ฉันสะใจ สะใจจริงๆ
"แก...เลวที่สุด รีบตายๆไปซะ"
ตูม!
ฉันซัดร่างนั้นอีกสองสามครั้ง ร่างนั้นเริ่มนิ่งไป ไร้ที่ท่าว่าจะเอ่ยปากพูดอีก ฉันหยุดสะบัดมือก่อนยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา ยิ้มอย่างเจ็บปวดน้ำตาที่เฮือดแห้งไปกลับมาเปียกชุ่มใบหน้าอีกครั้ง ฉันเงยหน้าขึ้นบนเพดานก่อนปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างบ้าคลั่งความรู้สึกที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักไป ช่างเจ็บปวดอะไรอย่างนี้ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่มุมห้องข้ามศพของชายที่ฉันได้ลงมือฆ่าไปอย่างเงียบๆ สายตาของฉันยังคงมองไปที่ศพของพ่อแม่อย่างเงียบๆแต่ในใจมันปวดหนึบ เสียงฝีเท้าหนักๆของใครซักคน ไม่สิเสียงฝีเท้าของใครอีกหลายๆคนกำลังดังเข้าใกล้ห้องนั่งเล่นที่ฉันกำลังอยู่ เสียงในใจของพวกเขา...ไม่มี...ไม่ได้ยินเสียงในใจของพวกเขาเลยแม้แต่คำเดียว ฉันรีบลนลานหาที่ซ่อนอย่างเลิกลั่ก หวาดกลัว...
ครืด!
ประตูบานเลื่อนที่สภาพออกเก่าถุกเลื่อนเปิดอย่างรวดเร็ว ฉันนั่งกอดเข่าในมุมเดิมแต่น้ำตากลับไหลรินลงมา 'ฉันต้องตายแน่ๆ' เสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนก้าวฉับๆเข้ามาใกล้ฉันก่อนหยุดลงตรงหน้า มือหนาลูบไล้ผมของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันสะดุ้งโหยงก่อนค่อยๆเงยหน้ามองคนที่กำลังปลอบประโลมฉันอยู่อย่างหวาดระแวง
"เธอปลอดภัยแล้ว..."
"อึก"
ฉันมองโซลที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ก่อนโผเข้ากอดอย่างดีใจและหวาดกลัว ฉันร้องไห้ออกมาจนเสื้อสูทสีดำของเขาเปียกชุ่ม เขาลูบหลังฉันอย่างปลอบโยนแม้จะพยายามข่มใจไม่ให้ร้องซักเพียงไหนแต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ร้องไห้แทบเป็นสายเลือด..
"ดื่มน้ำก่อนนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันรับน้ำจากมือของชายผมทองที่มากกับโซลและโชยะอย่างเชื่องช้า แต่ก็ไม่ได้จิบมันลงไปเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าคอจะแห้งแค่ไหนฉันก็ไม่สามารถจิบมันลงได้เลย ฉันค่อยๆหันไปมองร่างของพ่อแม่ที่นอนนิ่งไม่ไหวติง มองกี่ครั้งน้ำตาก็รินไหล ฉันกำแก้วในมือแน่น จนแก้วในมีเริ่มมีเสียงของการร้าว แต่ฉันก็ยังคงบีบมันแน่นจนแก้วในมือแตกคามือ
"ชิมงจัง..."
"ทำไมกัน...พ่อกับแม่ของฉันเกี่ยวข้องอะไร"
"ไว้พวกเราจะเล่าที่หลังนะครับ"
"ตอนนี้...เธอพร้อมจะเผชิญโลกใบใหม่ด้วยตัวตนใหม่หรือยัง"
โซลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าฉันเอ่ยขึ้นมาก่อนยิ้มละมุน ฉันมองเขาอย่างลังเลทั้งที่ฉันก็เคยปฎิเสธเขาไป ปฎิเสธอย่างไม่ใยดีแท้ๆ
"ฉัน"
"ไปกับพวกเราสิ..."
"..."
ฉันมองมือที่ยื่นมาก่อนมองไปรอบๆตัว เหล่าชายหนุ่มทั้งสองที่อยู่ด้านข้างยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะแตะไหล่ของฉันเบาๆ
"ฉัน...ไม่รู้จักพวกนายมาก่อน ไม่รู้ด้วยว่าฉันเป็นใครกันแน่แต่ว่าตอนนี้ ฉันพร้อมที่เผชิญโลกใบใหม่ที่นายเอ่ยถึง...เพราะไงชอบแนะนำด้วยค่ะ"
ฉันยื่นมือไปวางลงบนมืออีกฝ่ายอย่างลังเล แต่ในใจของฉัน...พร้อมแล้ว ฉันพร้อมที่ก้าวเดินแล้ว ก้าวเดินเส้นทางสายใหม่ทอดทิ้งเส้นทางชีวิตที่ถูกพรากไป ไม่อาลัยอาวรณ์จะไม่เสียดายไม่เสียใจภายหลัง เพราะฉันได้เลือกเส้นทางแล้วเส้นทางงที่ฉันควรจะเดิน
"ฝากตัวด้วยค่ะ"
ฉันโค้งให้ทุกคนก่อนจะยิ้มทั้งน้ำตา ดีใจและเสียใจแม้ว่าจะเสียหลายๆสิ่งไปแต่ก็ได้หลายสิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นมาทดแทน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะในวันนี้และวินาทีนี้ฉันจะค่อยๆฝังตรึงลงไปในความทรงจำอย่างมั่นคง...
_________
โปรดติดตามตอนต่อไป
"เธอยังจะหลอกตัวเองไปเพื่ออะไร"
"!!!!"
เขามองหน้าของฉันด้วยสายตาสมเพชถึงแม้ว่าใบหน้ารวมๆแล้วเขาจะเจ็บปวดมากก็ตาม โชยะมองหน้าฉันอย่างหวาดระแวงก่อนประคองร่างโซลอย่างระมัดระวัง หลอก...ใช่...ฉันกำลังหลอกตัวเองอยากจะเชื่อแบบนั้นอยากจะหลอกตัวเอง ฉันยิ้มอย่างสับสนก่อนหันไปทางทั้งสองคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มด้วยความสับสน
"ฉันไม่ได้หลอกตัวเองนะ...พวกนายต่างหากที่ปั่นหัวฉัน"
"หลอกตัวเองอยู่เห็นๆทั้งที่หลักฐานมันก็ออกจะชัดเจนแบบนั้น"
"ฉัน ฉันไม่เชื่อ"
"ฮึ...ไงก็ลองซัดโชยะติดผนังเล่นซักรอบสิ"
"...เอ๊..."
โชยะทำหน้าเลิกลั่กเหมือนกับว่าเขาไม่อยากจะลองดีเท่าไร ฉันมองทั้งสองที่มองหน้าฉันเป็นตาเดียว 'โกหก...โกหกชัดๆอย่างฉันเนี่ยนะ' ฉันที่ทนรับกับสิ่งที่ได้รับรู้ไม่ไหว รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาล เสียงของพวกนักเรียนกระทบเข้าโซนประสาทจนปวดจี๊ด...เสียงเหล่านี้มันช่างทรมานคนที่ได้ยินจริงๆ 'ทำไม ทำไม ทำไม' ฉันได้แต่พำถามตัวเองอย่างทรมานแม้จะหลบมาในที่ๆน่าจะพ้นเสียงของพวกเขาเหล่านั้นแล้วก็ตาม แต่เสียงที่เคยกระทบเข้ามาในโซนประสาทก็ยังตามมาหลอกหลอนไม่รู้จบ
"จะนั่งหดหัวอยู่ในนี้อีกนานไม ยัยหน้าโง่"
"..."
"เธอหลบเลี่ยงหรือหนีมันไม่พ้นหรอก เพราะมันคือของๆเธอและเป็นตัวตนของเธอ"
"ทำไมกัน ทำไมต้องเป็นฉัน"(Y_Y)
ฉันกอดเข่าร้องไห้ ไม่เอาแล้วหลอกตัวเองไม่ไหวแล้ว ฉันได้แต่นั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น อารมณ์ในตอนนี้และวินาทีนี้มันไม่สามารถแบกรับความเป็นจริงนี้ได้ ขณะที่นั่งร้องไห้อย่างทรมานนั้นเสียงของโซลก็ดังขึ้นทำลายความเงียบและเสียงสะอึกสะอื้นของฉัน
"เพราะเธอ...ถูกมันเลือกยังไงล่ะ ไม่มีใครปราถนาที่จะเป็นผู้เหนือกว่ามนุษย์นักหรอกนะ"
"แม้แต่นายด้วยไงเหรอ"
"ก็ไม่แน่นะ...แต่ลองยอมรับแล้วเผชิญกับโลกใบเก่าในตัวตนใหม่ของเธอดูสิ"
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร รอยยิ้มอ่อนโยนที่กำลังปลอบประโลมฉันนั้นแม้ว่าดวงตาของฉันจะพล่านมัวด้วยน้ำตาก็ตามแต่กับมองเห็นรอยยิ้มนั้นอย่างชัดเจน มือหนายื่นมาที่เบื้องหน้า ฉันมองมือนั้นด้วยความลังเล ก่อนจะปัดมือนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วลุกวิ่งออกไปจากห้องเก็บของ แม้ว่าจะทรมานที่เสียงเหล่านั้นยังกระทบโซนประสาทอย่างไม่หยุดหย่อนแต่ฉันจะไม่ยอมรับความเป็นจริงนี้เด็ดขาด มันก็แค่ฝัน!!!
"กลับมาแล้วค่ะ"
ฉันส่งเสียงให้แม่ที่อยู่บ้านรู้ว่าฉันผู้เป็นลูกสาวกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของความเงียบไม่มีแม้แต่เสียงของฝีเท้า ไม่มีเสียงตอบกลับมาแม้แต่คำเดียว ฉันเดินดูไปทั่วบ้านอย่างสงสัยภายในใจเริ่มกังวลเล็กน้อยความกลัวเข้าเกาะกินหัวใจที่เต้นรัวริกที่ละนิด เสียงของโทรทัศน์ภายในห้องดังลอดออกมา ปลายเท้าที่คุ้นเคยของแม่นั้นแข็งทื่อ...ฉันมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง ร่างของผู้เป็นแม่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน ใบหน้าที่แสดงอาการหวาดกลัวนั้นทำให้ฉันพลอยหวาดกลัวไปด้วยไม่น้อย ดวงตาที่เบิกกว้างนั้นมีแต่ความกลัว ร่างของฉันที่แข็งทื่อวิ่งเข้าหาร่างนั้นอย่างอัตโนมัติ
"แม่"!!!
"แม่ค่ะ แม่...แม่อย่าแกล้งหนูแบบนี้สิค่ะ แม่ค่ะ"
ร่างของผู้เป็นแม่เย็นเฉียบและแข็งทื่อยิ่งกว่าหิน แม้จะตะโกนจนเสียงแหบแห้งแค่ไหนร่างเบื้องหน้าก็หาได้ฟื้นขึ้นมาไม่ น้ำตาของฉันอาบพวงแก้มจนชุ่มชื่น เสียงปลายเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาหยุดอยุ่เบื้องหลัง ใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะของฉันมันดังจนแม้แต่ตัวฉันเองก็รำคาญ หวังว่าจะเป็นพ่อของฉันหวังแบบนั้น แม้ว่าใจอยากจะหันไปมองด้านหลังอย่างเกินทนแต่ร่างที่แข็งทื่อก็กลับไม่ฟังคำสั่ง จนร่างของชายวัยกลางคนถูกโยนมาด้านซ้ายมือของฉัน ใบหน้าที่หวาดกลัวไม่ต่างจากแม่นั้นฉันให้ฉันหัวใจสลาย...
"พ่อค่ะ"
ร่างของพ่อที่ชุ่มโชนไปด้วยเลือด ยังคงมีความอุ่นเล็กน้อย '...พ่อของฉันแม่ของฉัน...ไม่จริง'
"หลอกตัวเองไปจะได้อะไรกัน"
"!!!"
"ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องอาลัยอาวรณ์ แค่คนตายเอง"
ชายเบื้องหน้าของฉัน ยิ้มพอใจก่อนแกว่งมีดไปมาอย่างชำนาญ ผมสีทองที่มีเลือดกระเด็นของเขาทำให้ฉันหวาดผวาแต่อีกใจก้เคืองแค้น ความโกรธพุพล่านไปทั่วร่างกายฉันกำหมัดแน่นน้ำตาท่อาบพวงแกเฮือดแห้งไปเพียงพริบตาก่อนที่ความรู้สึกทั้งหมดจะกลั้นออกมา
"สารเลว"
ฉันที่กำหมัดแน่นสะบัดมืออย่างแรง ความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาคือความโกรธแค้น เจ็บปวดฉันลุยขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเดินตรงเข้าไปซัดร่างที่กระแทกเข้ากับผนังอย่างแรง ร่างนั้นเริ่มสะบัสะบอม เลือดที่กระอักออกมาทำให้ฉันได้สติ หวาดผวา...แต่อีกใจคิดว่ามันยังน้อยไปกับชีวิตของพ่อแม่ที่มันได้พรากไปจากฉัน มันยังน้อยไป...น้อยไปจริงๆ
"สมแล้วที่เป็นถึงเผ่าพันธุ์หายาก"
"!!!"
ตูม!!
ฉันสะบัดมือเหมือนกับว่าปัดธาตุอากาศอย่างแรง ร่างที่ยังมีเรี่ยวแรงนั้นกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรงอีกครั้ง ร่างของชายผู้นั้นแอ่นตัวอย่างทรมานเลือดที่กระอักออกมาทำให้ฉันสะใจ สะใจจริงๆ
"แก...เลวที่สุด รีบตายๆไปซะ"
ตูม!
ฉันซัดร่างนั้นอีกสองสามครั้ง ร่างนั้นเริ่มนิ่งไป ไร้ที่ท่าว่าจะเอ่ยปากพูดอีก ฉันหยุดสะบัดมือก่อนยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา ยิ้มอย่างเจ็บปวดน้ำตาที่เฮือดแห้งไปกลับมาเปียกชุ่มใบหน้าอีกครั้ง ฉันเงยหน้าขึ้นบนเพดานก่อนปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างบ้าคลั่งความรู้สึกที่สูญเสียคนอันเป็นที่รักไป ช่างเจ็บปวดอะไรอย่างนี้ฉันนั่งนิ่งอยู่ที่มุมห้องข้ามศพของชายที่ฉันได้ลงมือฆ่าไปอย่างเงียบๆ สายตาของฉันยังคงมองไปที่ศพของพ่อแม่อย่างเงียบๆแต่ในใจมันปวดหนึบ เสียงฝีเท้าหนักๆของใครซักคน ไม่สิเสียงฝีเท้าของใครอีกหลายๆคนกำลังดังเข้าใกล้ห้องนั่งเล่นที่ฉันกำลังอยู่ เสียงในใจของพวกเขา...ไม่มี...ไม่ได้ยินเสียงในใจของพวกเขาเลยแม้แต่คำเดียว ฉันรีบลนลานหาที่ซ่อนอย่างเลิกลั่ก หวาดกลัว...
ครืด!
ประตูบานเลื่อนที่สภาพออกเก่าถุกเลื่อนเปิดอย่างรวดเร็ว ฉันนั่งกอดเข่าในมุมเดิมแต่น้ำตากลับไหลรินลงมา 'ฉันต้องตายแน่ๆ' เสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนก้าวฉับๆเข้ามาใกล้ฉันก่อนหยุดลงตรงหน้า มือหนาลูบไล้ผมของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันสะดุ้งโหยงก่อนค่อยๆเงยหน้ามองคนที่กำลังปลอบประโลมฉันอยู่อย่างหวาดระแวง
"เธอปลอดภัยแล้ว..."
"อึก"
ฉันมองโซลที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ก่อนโผเข้ากอดอย่างดีใจและหวาดกลัว ฉันร้องไห้ออกมาจนเสื้อสูทสีดำของเขาเปียกชุ่ม เขาลูบหลังฉันอย่างปลอบโยนแม้จะพยายามข่มใจไม่ให้ร้องซักเพียงไหนแต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ร้องไห้แทบเป็นสายเลือด..
"ดื่มน้ำก่อนนะ"
"ขอบคุณค่ะ"
ฉันรับน้ำจากมือของชายผมทองที่มากกับโซลและโชยะอย่างเชื่องช้า แต่ก็ไม่ได้จิบมันลงไปเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าคอจะแห้งแค่ไหนฉันก็ไม่สามารถจิบมันลงได้เลย ฉันค่อยๆหันไปมองร่างของพ่อแม่ที่นอนนิ่งไม่ไหวติง มองกี่ครั้งน้ำตาก็รินไหล ฉันกำแก้วในมือแน่น จนแก้วในมีเริ่มมีเสียงของการร้าว แต่ฉันก็ยังคงบีบมันแน่นจนแก้วในมือแตกคามือ
"ชิมงจัง..."
"ทำไมกัน...พ่อกับแม่ของฉันเกี่ยวข้องอะไร"
"ไว้พวกเราจะเล่าที่หลังนะครับ"
"ตอนนี้...เธอพร้อมจะเผชิญโลกใบใหม่ด้วยตัวตนใหม่หรือยัง"
โซลที่ยืนอยู่เบื้องหน้าฉันเอ่ยขึ้นมาก่อนยิ้มละมุน ฉันมองเขาอย่างลังเลทั้งที่ฉันก็เคยปฎิเสธเขาไป ปฎิเสธอย่างไม่ใยดีแท้ๆ
"ฉัน"
"ไปกับพวกเราสิ..."
"..."
ฉันมองมือที่ยื่นมาก่อนมองไปรอบๆตัว เหล่าชายหนุ่มทั้งสองที่อยู่ด้านข้างยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะแตะไหล่ของฉันเบาๆ
"ฉัน...ไม่รู้จักพวกนายมาก่อน ไม่รู้ด้วยว่าฉันเป็นใครกันแน่แต่ว่าตอนนี้ ฉันพร้อมที่เผชิญโลกใบใหม่ที่นายเอ่ยถึง...เพราะไงชอบแนะนำด้วยค่ะ"
ฉันยื่นมือไปวางลงบนมืออีกฝ่ายอย่างลังเล แต่ในใจของฉัน...พร้อมแล้ว ฉันพร้อมที่ก้าวเดินแล้ว ก้าวเดินเส้นทางสายใหม่ทอดทิ้งเส้นทางชีวิตที่ถูกพรากไป ไม่อาลัยอาวรณ์จะไม่เสียดายไม่เสียใจภายหลัง เพราะฉันได้เลือกเส้นทางแล้วเส้นทางงที่ฉันควรจะเดิน
"ฝากตัวด้วยค่ะ"
ฉันโค้งให้ทุกคนก่อนจะยิ้มทั้งน้ำตา ดีใจและเสียใจแม้ว่าจะเสียหลายๆสิ่งไปแต่ก็ได้หลายสิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นมาทดแทน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะในวันนี้และวินาทีนี้ฉันจะค่อยๆฝังตรึงลงไปในความทรงจำอย่างมั่นคง...
_________
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ