RabbiT เหยื่อ.รัก.ร้าย
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 18.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) Little rabbiT 17 : จับเหยื่อชำเรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความBy nooonaa
Little rabbiT 17 : จับเหยื่อชำเรา
+Little rabbiT+
พี่ฟินย์หวงผมด้วยละ
อ่า...มันรู้สึกดีพิลึกเนอะ
นี่ๆ อย่าหาว่าผมเพ้อนะ ผมก็แค่ขอช่วงเวลาสั้นๆที่ผมจะมีความสุขในเรื่องนี้
เรื่องของผมกับพี่ฟินย์
หลังจากเมื่อเช้าที่เราทะเลาะกันไปยกใหญ่แล้ว พี่เขาก็ไม่พูดอะไรต่ออีก ผมเลยกลับเข้าไปแต่งตัวแบบเดิมที่พี่เขาต้องการ แต่พอออกมา...ผมก็ได้เห็นรอยยิ้มพอใจที่มุมปากของอีกคนทันที และนั่นก็ทำให้อีกคนกลับมาเย็นชาเหมือนเดิมที่เคยเป็น แถมยังพูดอะไรแปลกๆใส่ผมอีก
'เหี้ย มึงแม่งเจ๋งว่ะ'
มันคืออะไรครับ...ใครรู้ก็ช่วยบอกผมหน่อยเถอะ
แต่ในเมื่อพี่ฟินย์ทำกิริยาแบบนั้นเพราะผม ผมก็ควรจะทำให้พี่เขาสบายใจบ้าง ไม่มากก็น้อย...มันก็ยังดีกว่า
วันนี้ผมก็มาเรียนตามปกติครับ โดยที่ตาก็คอยสอดส่องหาอีกคนจนน่าปวดหัว ก็ใจมันกลัวว่าจะเจอพี่จีนที่คณะแล้วจะไปต่อไม่ได้ ยิ่งถ้าพี่เขารู้ว่าผม...เออ ผิดสัญญา...พี่จีนคงจะเกลียดผมมาก ดังนั้นผมขอหลบพี่เขาตอนนี้...ดีกว่าไปหลบตาพี่เขาตอนนั้น
เห้อ...ทำไมมันวุ่นวายดีจังเนอะ ผมว่าตัวผมเองก็ไม่เคยทำบาปอะไร ทำไมมันถึงมีเรื่องเยอะแยะไปหมดเลยเนี่ย
"...ฐา นี่ นายศรัณฐา"
"คะ ครับ!" ผมละสิ่งที่คิดทันทีที่เสียงทุ้มเรียกชื่อผม ก่อนจะหันไปขานรับอาจารย์ที่ปรึกษาที่ขอให้ผมมาช่วยนั่งจัดชีทการเรียนการสอนในคาบหน้า
"เหม่อไปไหนกัน ผมเรียกคุณตั้งนาน" อาจารย์ท่านดุผมเล็กน้อยพร้อมกับมองหน้าผมผ่านทางแว่นกรอบบาง ผมเลยยิ้มขอโทษท่านก่อนจะลุกขึ้นไปหา
"ขอโทษครับ แล้วอาจารย์มีอะไรรึป่าวครับ" ผมถามพลางยิ้มหน้าแป้นแล้นใส่..เหมือนกับว่าผมไม่รู้ตัวว่าผิดอะไร อาจารย์ท่านก็ไม่ว่าอะไรต่อแต่ดันชี้ไปทางด้านหลังตัวเอง
กองหนังสือ?
"คุณช่วยเอามันไปคืนที่ห้องสมุดของมหาลัยที ผมลืมไปคืน"
ห๊ะ! ว่าอะไรนะ!
โห ง่ายจังครับท่าน แค่ให้ผมมานั่งเย็บชีทก็สุดๆแล้วนะ ยังจะให้ผมไปคืนหนังสืออีก
นี่ผมจะไม่บ่นนะ ถ้าหนังสือมีแค่เล่มสองเล่ม แต่นี่มันมีตั้งห้าหกเล่ม แถมยังหนาเท่าฝ่ามือผมอีก
ตายแน่
"ครับ"
แต่ก็ต้องยอมทำอะ ก็ท่านเป็นอาจารย์นี่น่า
ผมรับคำท่านก่อนจะกลับมาเย็บเอกสารต่อ พอเสร็จก็รีบแบกหนังสือพวกนั้นไปที่ห้องสมุด เพราะวันนี้ผมนัดกับพี่ฟินย์ไว้ตอนสามโมงเย็น แล้วถ้าไปช้าล่ะแย่เลย ยิ่งไม่มีโทรศัพท์อยู่
ตอนแรกพี่ฟินย์ก็จะพาไปซื้อครับ แต่มันรู้สึกเกรงใจยังไงก็ไม่รู้เพราะมันไม่ใช่เงินของเรา ผมเลยปฏิเสธพี่เขาไป พี่เขาเลยยกโทรศัพท์ของตัวเองให้แทน แต่ผมก็ปฏิเสธอีก เพราะผมดันรู้สึกว่า...ของๆใคร ใครก็ต้องรัก ดังนั้นพี่เขาคงจะรักมันเหมือนกัน
แล้วนั่นก็คือเรื่องราวที่ทำให้ผมไม่มีโทรศัพท์ แถมยังโดนโมโหใส่ที่คิดมากอีก
ก็ผมกังวลนี่นา
แต่จะว่าไป...ทำไมทางมันไกลจังอะ เดินมาต้องนานก็ยังไม่ถึงสักที เหนื่อยแล้วนะ
ปึก!
"เห้ยๆ คนนั้นน่ะ ช่วยเก็บลูกบอลที"
อยู่ๆก็มีลูกบอลกลิ้งมาโดนขาผมแต่ดันกระเด้งกลับและกลิ้งห่างออกไปไกลจากตัวอยู่หลายเมตร ผมก็หยุดมองตามลูกบอลหวังจะช่วยเก็บตามที่เจ้าของร้องขอ แต่ของในมือมันก็หนักเกินไปที่ผมจะเดินไปเก็บให้ ผมเลือกที่จะก้มหัวขอโทษพลางเดินต่อไป แต่สิ่งที่ผมทำกลับกระตุ้นต่อมโมโหของเจ้าของคนนั้น เพราะร่างหนาตะโกนด่าผมว่าไร้น้ำใจจนหน้าผมนี่ชาไปเกือบครึ่ง แต่ก็ยังทำใจแข็งทำเป็นไม่ได้ยินก่อนจะเดินไปต่อ
"ไอ้ห่า! มึงกล้าเดินหนีกูหรอสัด!"
ปึก!!
อะ!
ตุบ!
เจ็บ!
แต่แล้วตัวผมทั้งตัวก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับหนังสือของอาจารย์ที่ตกกระจัดกระจายไม่ต่างกัน มันเป็นผลมาจากแรงอัดของลูกบอลที่กระแทกเข้าที่แขนผมอย่างจังเมื่อกี้ เลยทำให้ผมล้มลงไปกองกับพื้นไม่เป็นท่า พร้อมกับเสียงกร่นด่าของใครบางคนที่อยู่ไม่ห่างออกไปจากผม สงสัยเขาคนนั้นต้องโดนลูกหลงไปด้วยแน่
"โอ้ย! ไอ้สัด ใครเตะมาวะ!"
แต่ทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนี้ด้วย แค่ผมไม่ช่วยเก็บเองนะ แล้วที่ผมไม่ช่วยก็เพราะผมไม่สะดวกที่จะทำ ไม่ใช่ผมแร้งน้ำใจสักหน่อย แล้วทำไมมันรู้สึกชาไปทั้งแขนแถมยังแสบที่มือแบบนี้
อะ! เลือด
ผมมองตามที่รู้สึกถึงความแสบก็เห็นเลือดที่ไหนซิบออกมาตรงฝ่ามือก่อนที่เสียงหัวเราะแห่งความสะใจจากคนพวกนั้นก็ดังลั่นเข้าหูผม เพียงแค่นั้นผมก็แบะปากอยากจะร้องไห้ในทันที เพราะมันรู้สึกเจ็บใจที่โดนแกล้งทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดและเจ็บใจที่ตัวเองลุกขึ้นไปสู้กับพวกบ้านั่นไม่ได้
"ซาร์!" แต่แล้วก็มีเสียงเรียกชื่อผมอย่างตกใจ ก่อนที่ผมจะเห็นร่างสูงของพี่ฟินย์วิ่งมาทางผม พี่มันดูรนรานและโกรธที่เห็นผมหน้าขมำอยู่ที่พื้น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นและก้มลงเก็บหนังสือที่ตกพื้นให้
"พี่ฟินย์..."
"เจ็บป่าววะ" มือใหญ่ที่เหลือจากการอุ้มกองหนังสือของผมไว้ที่สีข้างเหมือนมันเบาหวิวมาก ก็เข้ามาช่วยปัดฝุ่นให้ออกจากตัวผม แถมสำรวจตัวจนทั่ว ผมนี่แทบอยากจะปล่อยโฮออกมาแล้ววิ่งเข้ากอดอีกคนจริงๆ
"เจ็บอ่า พะ พี่ฟินย์...เลือดออกด้วย" ผมยื่นมือที่เลอะไปด้วยเลือดให้อีกคนดูเพราะตอนนี้ผมอยากจะให้อีกคนปลอบสักคำให้หายเจ็บใจ ซึ่งร่างสูงเองก็จิ๊ปากทันทีที่เห็นก่อนพี่มันจะเดินกลับไปที่โต๊ะพร้อมกับที่พี่ทิววิ่งสวนออกไปหาไอ้พวกบ้าที่เตะบอลใส่ผมเมื่อกี้
"ไอ้เหี้.ย! มึงตาย!!" ผมมองตามพี่ทิวที่วิ่งตรงดิ่งไปหาพวกนั้นด้วยท่าทีที่น่ากลัวมาก ก่อนร่างสูงจะดิ่งเข้ากระทืบไอ้กลุ่มนั้นวุ่นวายไปหมด ผมมองแล้วก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นที่พวกบ้าพวกนั้นจะได้โดนบ้าง ส่วนพี่ฟินย์เองก็เดินกลับมาหาพร้อมกับลากผมให้ออกมาจากตรงนั้นทันที
"พี่ฟินย์...ผมเจ็บขา" มันรู้สึกตึงๆที่ต้นขาแปลกๆ แถมยังแสบไปทั้งหัวเข่า แต่อีกคนก็ไม่หันกลับมามองผมเลยสักนิด เอาแต่ลากแล้วก็ลาก
"ผะ ผมเจ็บ เดิน ไม่ไหว"
ทำไมพี่ถึงไม่สนใจผม...ผมไม่ไหวที่จะเดินแล้วนะ
พอเดินห่างออกมาได้สักพอประมาณ พี่ฟินย์ก็จับผมนั่งกับม้านั่งข้างทางเดินก่อนจะทิ้งกองหนังสือในอ้อมกอดยังไม่ใยดี จนมันหล่นลงกับพื้นกระจัดกระจายอีกครั้งพร้อมกับมือใหญ่เข้ามาคว้ามือผมไปดู
"สัดเอ๊ย!" เสียงสบถที่แสดงถึงความโมโหอย่างเห็นได้ชัดเมื่อตาคมเห็นแผลถลอกที่ฝ่ามือ ผมเองก็สะดุ้งสุดตัวเพราะความตกใจ ก่อนที่พี่มันจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวของตัวเองมาเช็ดคราบฝุ่นให้ออกจากแผลอย่างแผ่วเบา
"พี่ฟินย์...เดี๋ยวผ้าจะเลอะเอานะ" ผมรั้งมือใหญ่ที่กำลังจะเช็ดคราบเลือด แต่พี่เขาก็ปัดมือผมออกก่อนจะดุใส่ผม
"ช่างมันเถอะน่า แค่ผ้าเช็ดหน้าเอง แล้วนี่ยังเจ็บอยู่มั้ย" แววตาพี่ฟินย์ดูเย็นลงเยอะเมื่ออยู่ตรงหน้าผม เหมือนกับอารมณ์โกรธเมื่อกี้ได้ลดลงบ้างแล้ว ผมเลยส่ายหน้ารัวให้ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"แค่พี่เป็นห่วงผม...ผมก็หายเจ็บแล้ว"
"หึ มึงเนี่ยน้า แล้วกูยิ้มแบบนี้ให้กูอีกและ" พี่มันเองก็ขำเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ
ก็ผมชอบยิ้มให้พี่นี่นา
"แล้วเจ็บตรงอื่นอีกมั้ย"
ตรงอื่นงั้นหรอ
"ขา" ผมชี้ไปที่หัวเข่าตัวเองก่อนที่อีกคนจะมองตาม แล้วนั่นผมถึงจะได้เห็นว่ากางเกงตัวเองนั้นขาดเล็กน้อย สงสัยมันจะขาดเพราะล้มไถลไปเมื่อกี้แน่
ฟู่
แต่แล้วลมอุ่นๆก็ถูกเป่ารดบนเข่าผมเบาๆก่อนที่มือใหญ่ที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่จะค่อยๆพับขากางเกงผมขึ้นจนเห็นแผลข้างใน แล้วนั่นผมก็ค่อยเริ่มรู้สึกถึงความโกรธของอีกคนทันที
"เออ! ผมไม่เจ็บแล้วครับ" ผมรีบบอกอีกคนเมื่อเห็นสีหน้าตรึงเครียด แต่พี่มันกลับทำแค่จิ๊ปากใส่ก่อนจะเช็ดฝุ่นตรงแผลออกอีกครั้ง โดยที่ผมทำได้เพียงแค่นั่งอมยิ้มมีความสุขแต่แอบกังวลอยู่นิดหน่อย
ก็ดูสิ...พี่ฟินย์ดูอบอุ่นดีชะมัด
"เจ็บจรงไหนอีก" เสียงเย็นถามอีกครั้งเมื่อจัดการกับแผลตรงนั้นเสร็จ
"ไม่ครับ แค่ปวดแขนนิดหน่อย" มันเริ่มปวดหนึบๆแล้วครับ สงสัยจะช้ำแน่ พี่ฟินย์เลยมองเลยมาทางแขนที่ผมยกให้ดูก่อนที่พี่มันจะควักโทรศัพท์ออกมาโทร ผมก็มองการกระทำนั้นอย่างสงสัย ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะเริ่มขยับเมื่อปลายสายนั้นกดรับ
"มึง กระทืบไอ้พวกนั้นเสร็จยังวะ" เสียงพี่ฟินย์ดูเย็นชาขึ้นถนัด จนผมเผลอถอยออกห่างเพราะความกลัว
พี่ฟินย์โมโหอีกแล้ว
"กูฝากหักแขนมันด้วย...เออ หักแม่งทุกคนนั่นแหละ ยิ่งคนเตะกูเอาทั้งสองข้างเลยมึง"
เอื้อก
"พี่ฟินย์!." นี่พี่คิดจะทำอะไรเนี่ย
"อย่ามองกูแบบนั้น กูไม่กลับไปกระทืบมันเองก็บุญพวกมันแล้วเถอะ" ร่างสูงดุผมทันทีที่เห็นผมเขยิบตัวออกห่าง แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาเช็ดแผลให้ผมต่อ
"พี่ไม่ถามผมหน่อยหรอ ว่าทำไมพวกนั้นถึงเตะบอลใส่ผมน่ะ ผมอาจจะเป็นคนผิดก็ได้นะ" ผมเหลือบตามองอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่พี่มันกลับสวนขึ้นมาทันควันก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บหนังสือที่ตัวเองทิ้งและเดินจากผมไปทันที
"กูไม่จำเป็นต้องฟัง เพราะเมียกูถูกเสมอ"
ฉ่า!
ดะ ได้ยินมั้ย พะ พี่เขาเชื่อใจผม
ประโยคนั้นเล่นเอาผมหุบยิ้มตัวเองไม่ลง จนต้องยอมปล่อยมันออกมาอย่างไม่อาย มันรู้สึกดีพิลึกที่พี่เขาเห็นผมสำคัญกว่าใคร ยิ่งพี่เขาทำเพื่อผมนี่อีก มันก็ยิ่งทำให้ผมมีความสุข
ขอบคุณนะครับที่เข้าข้างผม ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ผมอาจจะเป็นคนผิด
และขอบคุณนะครับที่ดีกับผม ถึงแม้ว่าตังพี่เองจะไม่ได้รักผมเลยสักนิด
ไม่นานพี่ฟินย์ก็เดินกลับมาก่อนจะยื่นใบเสร็จคืนหนังสือให้ ผมเองก็รับมันมาพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ แต่มือใหญ่กลับไม่ยอมปล่อยใบเสร็จนั้นออกจากมือแถมยังเอ่ยถามผมเสียงเขียว
"ไอ้ห่าเจ้าของหนังสือนี่ใครกันวะ ถึงกล้าใช้เมียกูแบกหนังสือมาคืน!"
อ่า!
ทำไมอารมณ์พี่ขึ้นลงไวมากเถอะ ผมตามไม่ทันแล้วนะ
"อาจารย์ที่ปรึกษาครับ ท่านฝากให้ผมมาคืน" ผมเลยตอบความจริงออกไปแต่เสียงที่ตอบนี่เบาซะจับคำไม่ได้ แต่พี่มันกลับขยำใบเสร็จนั่นจนยับคามือก่อนจะขบกรามตัวเองแน่น
"พี่ฟินย์...อย่าอารมณ์เสียสิครับ ผมอาสามาคืนให้เองนะ อาจารย์เขาไม่ได้ใช้ผมนะ" ให้ตายเถอะ ทำไมพี่ต้องโกรธขนาดนี้ด้วย
ผมเลยกระตุกเสื้อพี่มันสองสามทีพร้อมกับดึงให้อีกคนเข้ามาใกล้ จนตอนนี้ร่างสูงคร่อมตัวผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาดุเองก็เหล่ต่ำลงมาที่หน้าผมก่อนจะถอนหายใจออกยาว
"พี่ฟินย์ อย่าอารมณ์เสียสิ"
แต่แล้วใบหน้าหล่อก็ดูคลายความโกรธลงก่อนจะถอนหายใจออกดังเฮือก ผมเลยมองตาดุคู่นั้นจนมั่นใจว่าพี่เขาระงับอารมณ์ตัวเองได้แล้ว จึงเอื้อมมือไปจับมือใหญ่ตรงหน้าแล้วดึงเบาๆเป็นสัญญาณให้อีกคนเข้ามาใกล้อีกนิด ก่อนที่ร่างสูงจะยอมทรุดลงนั่งยองๆตรงหน้าผม
"อย่าโกรธผมนะ"
"มึงเนี่ยน้า ใจดีกับเขาไปทั่ว" พี่มันถอนหายใจออกยาวเหมือนปลงกับนิสัยผมอย่างไรอย่างนั้น แถมยังตบแก้มผมเบาๆเหมือนหมั่นเขี้ยวผมมาก
"ก็ผมปฏิเสธเขาไม่เป็นนี่" จะให้พูดยังไงละ ในเมื่อเขาขอให้เราช่วย
"เออๆ กูรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าทีหลังมึงต้องแบกของหนักหรือทำอะไรก็แล้วแต่ โทรเรียกกูไปทำแทนเข้าใจมั้ย"
เอ๋?
เรียกไปทำแทนงั้นหรอ
อ่า...เอาอีกแล้ว ปล่อยยางใส่ผมอีกแล้ว แค่นี้ก็ดิ้นไปไหนไม่ได้แล้วเถอะพี่ฟินย์ ยังไงมันก็ติดหนึบอยู่ตรงนี้อยู่แล้วล่ะ
"ขอบคุณนะครับพี่ฟินย์ ที่ดูแลผมดีขนาดนี้"
"มันหน้าที่ของกูที่ต้องดูแลเมียตัวเองอยู่แล้ว"
อีกแล้ว!
"พอๆ พอเลยครับ พี่จะหยอดผมแบบนี้จนมดมันขึ้นเลยมั้ย" ต้องเบรกครับ แบบนี้มันไม่ไหวหรอก ยิ่งอีกคนมีอิทธิพลต่อผมมากเท่าไหร่ หัวใจผมก็ยิ่งอ่อนแอกับคำหวานๆเหล่านั้นมากเท่านั้น
ผมทำเป็นดันใบหน้าหล่อให้หันไปทางอื่น เพราะไม่อยากจะให้เห็นอาการเขินของตัวเอง แต่พี่ฟินย์กลับคว้าคอผมแล้วกดต่ำจนริมฝีปากเราสองคนแตะกันเบาๆ
"หึ กูจะหยอดจนมึงยอมคืนคำว่า 'แฟน' ให้กับกู"
"พี่ฟินย์!"
นี่พี่ยังคิดเรื่องนั้นอยู่อีกหรอ ทั้งๆที่ผมก็ยอมพี่ทุกอย่าง ยอมให้พี่พูดคำว่าเมียด้วยซ้ำไป แต่พี่แค่อยากให้ผมคืนคำว่าแฟนให้แค่นั้นอะนะ
มันเป็นเพราะว่าคำนั้นมันสำคัญสำหรับพี่มากใช่มั้ย
ตึกตักๆ
ผม...ดีใจจัง
"ขอบคุณนะครับที่ให้ความสำคัญกับคำนั้น" พอคิดก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
"ขอบคุณที่พี่เปลี่ยนตัวเองเพื่อผม" ถึงมันจะไม่มาก แต่ผมก็ดีใจนะ
"ชิ! นี่กูแสดงออกเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ"
"ห๊ะ! อะไรนะครับ พี่พูดอะไรน่ะ ผมไม่ค่อยได้ยินเลย" พี่เขาพูดเบามาก เบาจนผมไม่ได้ยินในสิ่งที่พี่มันพูด เหมือนกับว่าพี่เขากำลังบ่นกับตัวเองอยู่อย่างไงอย่างนั้น
"ไม่มีอะไรหรอก ปะ เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวกูนวดแขนให้ ป่านนี้คงช้ำจนเป็นสีม่วงแล้วมั้ง" ผมพยักหน้ารับก่อนที่อีกฝ่ายจะพลิกตัวหลังมาทางผม
"อะไรหรอ"
"ขึ้นมาสิ" ขึ้นหลังพี่น่ะหรอ หมายถึงๆ ผมจะได้ขี่หลังพี่อะนะ
อ่า วันนี้มันวันดีอะไรกันนะ
"เอ้า รีบขึ้นมาสิ" พี่ฟินย์เร่งให้ขึ้นหลังตัวเองเมื่อผมยังคงนิ่งไม่ขยับ ผมเลยรีบกอดคออีกคนแน่นก่อนที่แขนแกร่งจะเอื้อมมาช้อนขาไม่ให้ผมตกลงไป
"เกาะแน่นๆล่ะ"
"อื่อ" ผมจะเกาะไม่ปล่อยเลย...คอยดู
ตลอดทางที่พี่เขาแบกผมไปที่รถของตัวเอง ผมก็เอาแต่มองเสี้ยวหน้าหล่อนั่นพร้อมกับหัวใจที่เต้นสั่นระรัว เพราะเหมือนกับเวลานี้มีเพียงแค่ผมกับพี่ฟินย์เท่านั้น
อ่า ให้ตายเถอะ ถ้าวันนี้ผมสามารถซื้อเวลาได้ ผมก็อยากซื้อช่วงนี้ให้นานที่สุด นานเท่าที่คนอย่างผมจะเกี่ยวรั้งพี่ให้เป็นของผม
แต่มันก็คงไม่มีทาง
ไม่นานเราสองคนก็มาถึงรถ พี่เขาก็ย่อตัวให้ผมลงก่อนจะเปิดให้ผมเข้าไปนั่งก่อนที่ตัวจะเดินไปขึ้นรถอีกฝั่งพร้อมกับถามถึงอาหารมื้อเย็นทันที
"หิวป่าว อยากกินอะไรมั้ย"
"อะไรก็ได้ครับ"
"งั้นทำกินที่ห้องละกัน" ผมพยักหน้ารับก่อนจะนั่งเงียบเมื่อไม่รู้จะพูดอะไร พี่เขาเองก็เอาแต่เหล่มองผมตลอดทาง จนมันรู้สึกเขิน แต่ก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไร จนเรามาถึงห้อง...พี่ฟินย์ก็ให้ผมรีบไปอาบน้ำจะได้ออกมาทำแผลให้มันดีๆ ผมเลยทำตามแบบที่เรียกว่าเต็มใจสุดๆ พอเสร็จผมก็เดินออกมาหาอีกคนที่อยู่ตรงห้องนั่งเล่น ก่อนจะเห็นแผ่นหลังกว้างกำลังง่วนอยู่หน้าเตา
"ทำอะไรอยู่หรอครับ หอมเชียว" ผมยื่นจมูกไปดมความหอมที่อยู่ตรงหน้าร่างสูง แต่กลับถูกอีกฝ่ายดันให้ผมออกห่าง
"อย่าเข้ามาใกล้ เดี๋ยวตัวมึงก็เหม็นหรอก" ร่างสูงเข้ามาบังกลิ่นตรงหน้าผมก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบจานมาตักข้าวในกระทะแล้วหันมาตักนู้นตักนี่จนจานนั้นดูสวยและน่าอร่อยที่สุด
"ข้าวคลุกกะปิ"
เสียงทุ้มดูภูมิใจนำเสนอจานตรงหน้ามาก ก่อนจะยื่นมันมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับดันเก้าอี้ออกให้ผมนั่งตรงที่ตัวเองเพิ่งวางจานลงไป
"นั่งกินเลยมึง ครั้งแรกของกู"
ครั้งแรก?
เออ...จะกินได้มั้ยครับ
แต่ผมก็ไม่กล้าถามอย่างที่ใจคิดเพราะกลัวจะทำร้ายจิตใจอีกคนเกินไป เลยต้องจำใจหยิบช้อนขึ้นมาแล้วตักมันเข้าปากอย่างช่วยไม่ได้
"อร่อยป่าว" ตาคมจ้องผมเขม็งเมื่อผมตักคำแรกเข้าปากได้ แต่เพียงแต่ข้าวมันตกถึงลิ้น ผมก็ร้องซี๊ดแล้วครับ
"เค็มอ่า..."
อ่า...แสบลิ้น
ผมคายคำนั้นออกมาแทบไม่ทันก่อนจะคว้าแก้วน้ำมาดื่มจนหายแสบ พี่ฟินย์เองก็มองหน้าผมเลิกลักแต่ก็ไม่รู้จะช่วยอะไร จนพี่มันลองชิมดูบ้าง
"แค่กๆ"
สำลักทันที
"น้ำครับพี่" ผมรีบยื่นแก้วน้ำอีกใบให้ก่อนจะวิ่งไปลูบแผ่นหลังกว้างจนเจ้าตัวดีขึ้น
"ไหวมั้ยครับ"
"อืม" พี่มันยกมือขึ้นหยุดไม่ให้ผมลูบหลังต่อก่อนที่ตัวเองจะเดินไปคว้าขวดเบียร์อันใหญ่มาดื่มแทน
คงจะคันคอน่าดู
"มื้อนี้คงไม่ไหวว่ะ" ร่างสูงพูดเหมือนบ่นแต่เล่นเอาผมกั้นขำแทบไม่อยู่ ผมเลยอาสาที่จะทำอาหารให้
"เดี๋ยวผมทำอาหารเย็นให้นะครับ"
"มึงอาบน้ำแล้วนะ เดี๋ยวตัวก็เหม็นหรอกมึง"
"เหม็นก็อาบใหม่ได้นี่ครับ ดีกว่าให้ท้องพี่กับผมร้องนะ" ผมพูดติดตลกจนอีกคนอดไม่ไหวที่จะเดินมาขยี้หัวผมเล่น ผมเองก็ต้องรีบปัดมันพลันวันก่อนจะวิ่งหนีไปอีกฝั่งของห้องครัว
"พอแล้วครับ ชอบแกล้งผมอยู่เลย" พอหลุดออกมาได้ ผมก็รีบปัดผมตัวเองให้หายยุ่งก่อนจะเดินมาดูของในตู้เย็น โดยที่อีกฝ่ายก็หันมาจัดการกับข้าวคลุกกะปิแสนเค็มของตัวเอง
พี่เขาเทข้าวลงถังก่อนจะหันมาล้างอันที่ตัวเองทำสกปรก ผมเองก็ยิ้มให้เวลาพี่เขาหันมามองสบตากัน จนอีกคนทำเสร็จก็เดินไปยืนรอผมข้างหลัง
นี่พี่จะกดดันผมทางอ้อมหรอ
"รอเดี๋ยวนะครับพี่ฟินย์ ผมทำเดี๋ยวเดียวแหละ" ผมพูดไปทำไป แต่พี่เขาก็ไม่ตอบอะไรกลับมา เอาแต่ยืนมองอยู่อย่างนั้นจนผมเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาจริงๆ เลยต้องหันกลับไปมองพี่เขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร่างสูงกลับอยู่ห่างจากผมเพียงแค่ฝ่ามือกั้น
"อะ! พี่ฟินย์!" ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเซล้มคมำไปหากะทะร้อนตรงหน้า แต่โชคยังดีที่แขนแกร่งคว้าเอวผมไว้ทัน ไม่งั้นหน้าได้สุกของจริงแน่
"ฟู่...เกือบไปแล้ว" ผมเป่าปากตัวเองอย่างโล่งอกก่อนจะผลักอีกคนให้ออกห่าง แต่พี่เขาดันไม่ยอมปล่อย กลับใช้แรงดึงเอาตัวผมออกมาแล้วเอื้อมมือไปปิดเตาแก๊สตรงหน้าเฉย
"พะ พี่ฟินย์...พี่จะทำอะไรน่ะครับ"
อะไรน่ะ อยู่ๆก็มาลากเขาออกมา แล้วอย่างนี้จะกินอะไรกัน
"....."
แต่พี่เขากลับเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมา จนผมนั้นโดนลากมาถึงโซฟาตรงห้องนั่งเล่นก่อนจะถูกจับกดคอลงบนเบาะ ผมเองก็ตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆก็โดนทำแบบนี้ เลยพยายามปัดมือใหญ่ให้ออกแต่มันก็ไร้ผลสำหรับผู้ชายคนนี้ เพราะเพียงแค่พี่มันจับมือผมได้ก็พลิกมาจับกดเข้าที่กลางหลังแทน
"อ๊ะ! พี่ฟินย์! ผมเจ็บนะ! หะ เห้ย! พะ พี่ฟินย์! อ๊า..." อยู่ๆมือใหญ่ก็ตรงเข้ามาเลิกเสื้อผมขึ้นพร้อมกับปลายลิ้นร้อนที่ฉ่ำนั้นลงมาละเลงทั่วกลางหลัง ผมเองก็เสียวซี๊ดจนต้องครางเสียงอ๊า แล้วทุกอย่างรอบตัวผมก็หมุนช้าลง
อื่อ
และแล้วสิ่งที่ปิดกลั้นระหว่างประตูชัยและปืนใหญ่ก็ถูกทำลาย ร่างสูงทำทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและนิ่มนวล ผมเลยทำได้แค่ยึดเบาะโซฟาไว้แน่น เพื่อรองรับแรงกระแทกของหัวกระสุนอันใหญ่ ยิ่งภายในนั้นยอมศิโรราบเพราะความเสียวซ่าน อีกฝั่งก็ยิ่งทะลวงเข้ามาไม่ยั้ง
"พี่ฟินย์...อะๆ อ่า อึกอ๊า...."
"สวบๆพั่บๆ อืม...สวบๆ อ่า..."
"อ๊ะ! พี่ฟินย์ ยะ อย่าแรง ผะ ผมรับไม่ไหว อึก!"
ไม่ว่าผมจะขอร้องอ้อนวอนเท่าไหร่พี่เขาก็ยังไม่สนใจ กลับรั้งสะโพกผมให้สูงขึ้นก่อนที่แขนหนาจะอุ้มผมขึ้นแล้วจับแขนผมเท้าเข้ากับพนักโซฟา ก่อนจะลงแรงกระแทกกลับเข้ามาอีกครั้ง ผมนี่แทบจะล้มพับลงไปกองกับเบาะ แต่มือใหญ่ก็ยังจะไวที่จะดึงผมให้ทนรับอารมณ์รุนแรงนั้นต่อ
อึก!
ผมจะไม่ไหวแล้วนะ!
อึก อะ อ๊ะ!
ทั้งตัวผมสั่นคลอนไปหมด จนเริ่มรู้สึกมึนหัวและตาก็พร่ามัว มันมีแต่น้ำตาที่ค่อยๆไหลเพราะความจุกเล็กน้อย แต่มันก็ดันมีความสุขมากกว่าเข้ามาปะปน ก่อนที่เสียงนุ่มจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหู พร้อมกับขยับบั้นท้ายตัวเองช้าลง
"มึงนี่สวยจริงๆเลยว่ะ แม่ง! เล่นเอากูเกือบทุ่มแรงใส่หมด"
อะไรนะ! นี่พี่ยังใส่แรงไม่หมดงั้นหรอ! แค่นี้ผมก็จะกระอักเลือดตายแล้วนะ แล้วพี่ยังจะมาบอกว่านี่ยังไม่เต็มร้อยงั้นหรอ
แย่ แย่แน่
"พอเถอะครับ มันจุกแล้ว" พอสิ่งใหญ่คับช่องนั้นขยับช้าจนเกือบจะหยุดเพราะอีกฝ่ายเอาแต่แทะเล็มทั่วผิว ผมก็รับดันอกอีกคนให้ออกห่างพร้อมกับหดสะโพกหนี แต่พี่เขาก็ยังดื้อที่จะทรมานผมต่อ โดยสิ่งที่เขาจะทำต่อไปมันก็ยิ่งทำให้ผมเจ็บ
"อึก! อ๊า!"
มือใหญ่ต่างตรงเข้ามาบีบเค้นลูกตุ้มแฝดเล็กจนผมต้องเกร็งเท้าแน่น พร้อมกับแท่งอุ่นขนาดใหญ่ต่างก็แข่งเข้ามาทำให้ผมเสียวจากด้านหลัง ผมเลยต้องซบหมอบราบไปพนักโซฟาอีกครั้ง และต้องยอมโอนอ่อนแรงทั้งหมดให้กับเจ้าชีวิตของผม
"อืม...."
ยังก็หนีไปไหนไม่พ้นหรอก ถ้าพี่ยังป้อนแรงปรารถนาใส่ผมไม่ยั้งแบบนี้ เพราะมันกำลังทำให้ผมชอบความเจ็บและความหรรษาจากจังหวะสวาทนี้
ผมขอยอมแพ้
"อ๊า...."
++++++++++++++++++++++++++++++
140424
"ไอ้พี่ฟินย์! คุณพี่แม่งจะหื่นเกินไปปะ!!" ไรท์ลุกขึ้นมาชี้หน้าไอ้บ้าที่กำลังนั่งกอดอกแล้วไล่ตามองน้องซาร์ของไรท์อย่างหื่นกระหาย โดยทิ้งไรท์ให้ยืนบ้าอยู่คนเดียว
แม่ง! กัดหัวให้ขาดซะดีมะ!
"ถ้าพี่ยังหื่นกับน้องแบบนั้น ไรท์จะไม่ทนแล้วนะ!"
เอาสิมึง!
"เวลากูหื่นนี่หื่นบนหัวมึงรึไง"
เอื้อก!
อ๊าก! ดูพี่มันสวนดิ
"ไม่บนหัว แต่มันเหนื่อยไรท์นะ! เข้าใจมั้ย!" ยังไงก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่อง แต่แม่งพี่มึงช่วยมาทะเลาะกับกูก่อนได้ป่าววะ เอาแต่ล้วงอะไรใต้เสื้อน้องเขาอะ
"อ๊ะ! พี่ฟินย์...อย่าครับ"
อ๊าก!
"ไอ้พี่ฟินย์!"
จะหื่นไปแล้ว! อ้าก! สนใจที่ฉันด่าหน่อยสิว่ะ!
"อืม...หอม"
"อ๊า ตรงนั้น..."
เออ...สภาพนี้ ไรท์ควรจะไปปะ
เออ! ไปก็ได้!
"ไปแล้วก็ล็อกห้องด้วย"
ยังจะสั่งอีกนะ!
"เชอะ!"
เห้อ โชคดีนะน้องซาร์ พี่ไรท์ช่วยได้แค่นี้จริงๆ
"อ๊า..พี่ฟินย์ แรงๆ..."
เออ...คงไม่ต้องช่วยอะไรแล้วมั้ง?
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ