Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]
10.0
เขียนโดย เช้าตรู่
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.
20 chapter
5 วิจารณ์
39.64K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) Big Mama Chapter 11
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 11
“เดวิลนี่เหลวไหลชะมัด ชั้นเข้าใจว่าชั้นบอกให้ติดต่อเดวิลให้ตั้งแต่วันที่ชั้นมาถึงแล้วนะอีจุน ทำไมป่านนี้หมอนั่นยังไม่โผล่หัวมาหาชั้นอีก หรือว่าถูกดอลล์ฆ่าตายไปแล้ว!” ตอนนี้อีจุนกำลังถูกรุ่นเก้าเล่นงานอยู่ที่ห้องทำงานส่วนตัว ตอนนี้อีจุนก้มหน้าจนแทบจะมุดลงพื้นไปแล้ว รุ่นเก้ายังคงเดินอยู่รอบๆ ตัวของตนและไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานง่ายๆ
“ผมพยายามติดต่อเดวิลทุกทางแล้วครับรุ่นเก้า แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนเรื่องกลายเป็นเหยื่อของ ดอลล์ของตระกูลยงไปหรือยังนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ และยังยืนยันอะไรไม่ได้ครับ” อีจุนตอบกลับไปเสียงสั่น ยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับรุ่นเก้าอยู่ดี
“ไปดูที่คอนโดหมอนั่นรึยัง!”
“ถึงอยากจะไปที่นั่น แต่ถ้าเป็นคนนอกจะเข้าออกที่คอนโดนั้นไม่ได้เลยครับรุ่นเก้า”
“งั้นต่อสายถึงเจ้าของคอนโดให้ชั้นเดี๋ยวนี้ ชั้นจะจัดการเอง” เมื่อเจอหนทางที่จะติดต่อกับเดวิลได้แล้ว รุ่นเก้าหรือคิม แจจุงก็รีบสั่งการทันที
อีจุนรีบทำตามคำสั่งที่ได้รับด้วยการรีบหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับเจ้าของคอนโดหรูที่เดวิลเป็นเจ้าของห้องอยู่ให้กับรุ่นเก้า ก่อนที่รุ่นเก้าจะพิโรธแล้วคนที่เดือดร้อนจะเป็นอีจุนเสียเอง
“เดวิลอา......” คนที่ยังคงนอนกลิ้งอยู่บนเตียง ลากเสียง เสียงอ่อน เสียงหวาน เรียกเจ้าของชื่อที่กำลังง่วนอยู่กับการทำความสะอาดปืนและอาวุธของตนอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของห้องนอน ก่อนที่ร่างเปลือยเปล่า ขาวโพลนตัดกับผาห่มสีดำสนิทนั้นจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงทรงกลมขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องนอน ที่แยกออกมาเป็นส่วนตัวจากส่วนอื่นๆ ของคอนโดหรู ใจกลางเมือง
“ครับ” ขานรับสั้นๆ ทั้งที่ไม่ยอมเงยหน้า คนตัวเล็กก็เลยหน้างอเพราะขัดใจ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนขาลงจากเตียง ก้มลงไปหยิบเอาเสื้อของอีกคนขึ้นมาสวมเพียงลวกๆ เท่านั้น แล้วเดินเข้าไปหา กอดคอร่างหนาเอาไว้จากด้านหลัง กดคางมนลงบนสันไหล่กว้าง ก่อนจะประทับกลีบปากลงที่แก้มกร้านของร่างหนาแผ่วเบา
“มอร์นิ่ง”
ร่างหนาผิวเข้ม หันไปสบตากับร่างบางที่ตื่นมาออดอ้อนแต่เช้า มือข้างเดียวกับไหล่ยกขึ้นแล้วกดศีรษะได้รูปนั้นเข้ามาใกล้ ก่อนที่ตนจะเป็นฝ่ายกดปากหยักของตนเข้ากับปากอิ่มน่าสัมผัสนั้นหนักหน่วง สอดลิ้นเข้าไปภายในปากอิ่ม ดูดกลืนความหอมหวานภายในจนแทบจะหมดสิ้น
ร่างเล็กทุบที่อกกว้างเบาๆ ก่อนจะถอนริมฝีปากตัวเองออกเสียเอง แล้วยิ้มหวานให้อดีตคนรักที่ตอนนี้สถานะยังไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะอะไรกันแน่
“วันนี้เดวิลไม่ออกไปไหนเหรอ”
ร่างหนายิ้มตอบกลับไปแล้วคว้ามือสวยขึ้นมากดจูบ
“ถ้ารุ่นเก้าไม่เรียก ก็คงไม่ต้องออกไปไหนหรอก”
“พูดเหมือนรุ่นเก้ากลับญี่ปุ่นอย่างนั้นแหละ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เค้ากลับมา....ทำไม..” ร่างเล็กกลั้นใจถามถึงบุคคลที่สามออกไปด้วยความอยากรู้ เหตุผลที่รุ่นเก้ายอมกลับมาญี่ปุ่น มีแค่ไม่กี่เรื่อง แต่มันก็ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเรื่องนั้นจริงๆ หรือเปล่า ไม่มีใครเดาใจรุ่นเก้าของตระกูลจางได้เลยสักคน และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีใครสามารถต่อกรกับรุ่นเก้าได้เหมือนกัน
“ก็ยังไม่รู้ว่ากลับมาทำไม แต่ถึงจะรู้....ชั้นก็ไม่บอกดอลล์หรอก ลืมไปแล้วรึไงว่าเราเป็นศัตรูกันน่ะ...หื้ม...” มือใหญ่เกาคางมนเล่น ก่อนจะลากให้อีกคนอ้อมโซฟามาฝั่งตน ดึงลงนั่งที่ตักกว้างโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตัวเล็กแอบหยิบเอามีดติดมือมาด้วย
สองแขนเล็กคล้องคอร่างหนา แล้วกดปลายแหลมของมีดลงที่ท้ายทอย หากออกแรงเพียงนิดมีดเล็บนั้นก็คงจมหายลงไปกับลำคอแกร่งนั้นเป็นแน่
ร่างหนาเงยหน้าขึ้นสบสายตากับร่างเล็กที่ยังคงลงน้ำหนักที่มือเท่าเดิม ไม่มีผ่อนแรงเลยสักนิด และเขาก็รู้สึกได้ว่าปลายมีดบาดเนื้อของเขาแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมขัดขืนหรือปัดมีดออกทั้งที่สามารถทำได้
“ถ้าจะฆ่าก็ทำเลยโยจัง...”
“......................” ร่างเล็กพูดไม่ออก ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองอยากจะร้องไห้ขึ้นมาได้นะ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตอนนี้แก้มเต็มไปด้วยน้ำตาเสียแล้ว
“_____ชั้นตาย งานของนายก็เสร็จ ความลับทุกอย่างที่รุ่นแปดอยากให้มันเป็นความลับตลอดไป มันก็จะได้เป็นความลับตลอดไปอย่างที่รุ่นแปดต้องการ”
“ทำไมงานของชั้นจะต้องเป็นนายด้วย...นายรู้มั้ยว่านายคืองานที่ยากที่สุด....เดวิล....”
มือใหญ่เช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวแผ่วเบา พร้อมทั้งจูบซับน้ำตาที่หางตากลมโตนั้นด้วย ร่างเล็กกดหน้าผากมนลงกับหน้าผากของอีกคน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกดจูบที่หน้าผากนั้นแทน สูดหายใจเข้าและผ่อนออกช้าๆ น้ำตายังคงรินไหลอาบแก้มไม่หยุด
“ชั้นทำไม่ได้หรอกเดวิล...ชั้นฆ่าเดวิลไม่ได้”
“ยอดรัก...ถ้าคุณไม่ทำ ผมจะต้องตายด้วยมือของคนอื่น ผมบอกคุณแล้วนี่ ถ้าผมต้องตาย ผมจะตายด้วยมือคุณเท่านั้น”
“ชั้นไม่น่ากลับมาเลย ชั้นไม่น่ารับงานนี้จากพี่รองเลย...ตอนที่ชั้นรับงานนี้ ชั้นมั่นใจว่าชั้นทำได้ ชั้นแน่ใจว่าชั้นไม่ได้รักเดวิลแล้ว จนกระทั่งชั้น...”
“จนกระทั่งเราได้เจอกันอีกครั้ง...ใช่มั้ย” ดูจุนพูดต่อจากนั้น แล้วโอบกอดร่างเล็กๆ ที่สั่นเทาเพราะแรงสะอื้นนั้นไว้แน่น พรมจูบที่กลุ่มผมนุ่มไม่หยุด
ไม่มีใครอยากได้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดูจุนรู้ดีว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นนั้นทุกคนต่างเลือกแล้วแล้วก็พร้อมที่จะรับผลที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม
“ทำยังไงจะฆ่ามันได้ มีใครบอกกูได้บ้างมั้ย” เสียงผู้ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในบ้านถามขึ้นกลางห้องประชุม ที่เรียกลูกน้องมาประชุมกันเพื่อหาทางจัดการกับศัตรูที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง คนที่จุนฮยองมั่นใจว่าเขาจะไม่กลับมาอีกหลังจากที่พี่ชายของตนตาย
“นายครับ มิสเตอร์แอนดรูว์ไม่ใช่ศัตรูที่เราจะล้มได้ง่ายๆ นายก็ทราบดีนี่ครับ” แทคยอนพูดขึ้น และรีบก้มหน้าลมมองตักตัวเองทันที ก่อนที่ดวงตาดุจพญาอินทรย์นั้นจะจ้องมาที่ตน
“เพราะกูรู้ไง กูถึงได้เรียกพวกมึงมาน่ะ คนที่พอจะพึ่งพาได้อย่างโยจังก็หายหัว!”
“นายต้องลงมือเองแล้วล่ะครับ” แทคยอนกลั้นใจพูดขึ้น
“แทคยอน มึงส่งคนไปจับตาดูมันเอาไว้ ติดตามมันทุกฝีก้าวอย่าให้พลาด รายงานกูทุกๆ ชั่วโมง ที่สำคัญ ส่งคนไปเฝ้าตระกูลจางเอาไว้ด้วย แต่อย่าให้คนที่นั้นรู้ตัวว่าเราแฝงตัวอยู่”
“ครับนาย!” แทคยอนรับคำแล้วรีบลุกไปทำตามที่เจ้านายสั่ง
“ส่วนที่บ้านนี้ เพิ่มเวรยามเป็นสองเท่า โดยเฉพาะบริเวณสวนหลังบ้าน” หันไปสั่งกับหัวหน้าเวรยามที่เข้าประชุมด้วย
“รันจังชอบอยู่ที่สวนกุหลาบที่สุด เพราะฉะนั้นที่ตรงนั้นกูจะต้องมั่นใจว่าจะปลอดภัยสำหรับรันที่สุด เข้าใจกันดีแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน!” พูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น นายใหญ่ของพรรคก็เดินออกจากห้องประชุมไปก่อน ก่อนจะตามด้วยลูกน้องที่ต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามคำสั่ง
ร่างหนาเดินผ่านส่วนต่างๆ ของคฤหาสน์หลังมหึมาไปโดยไม่แยแส แต่แล้วขาก็กลับหยุดก้าวเดินเมื่อเห็นใครอีกคนกำลังง่วนกับการทำบางสิ่งอยู่ในครัว
จุนฮยองค่อยๆ เดินเข้าไปในครัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้คนใช้สองสามคนที่อยู่เป็นลูกมือให้ออกไป แล้วตัวเองก็ก้าวไปยืนแทนที่
“ยูโกะ เดี๋ยวช่วยส่งผ้าเช็ดมือให้ทีนะ” เสียงหวานเอ่ยบอกกับคนที่ตนคิดว่าเป็นสาวน้อยที่อยู่ช่วยงานมาตั้งแต่ต้น มือเรียวรอรับเอาผ้าเช็ดมือนั้นด้วย
“ผ้าเช็ดมือ เร็วๆ สิยูโกะ” ร่างบางย้ำอีกครั้ง มือก็กระดิกขึ้นลงด้วย
“หาไม่เจอ มันอยู่ตรงไหนน่ะ” เสียงเข้มดังขึ้นแทนที่จะเป็นผ้าเช็ดมือ ทำให้คนที่กำลังตั้งใจทำซูชิสารพัดหน้าอยู่ต้องรีบหันกลับมาตามเสียง แล้วก็เห็นว่าคนเจ้าเล่ห์ยืนยิ้มกริ่มอยู่ใกล้ๆ
“เข้ามาทำไมนะ!”
“ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามากวนหรอกน่า เดินผ่านแล้วเห็นว่าอยู่ในครัว เลยอยากรู้ว่าทำอะไร ก็เลยเข้ามาดู ตกลงว่าทำอะไร” ขยับเข้าไปใกล้ร่างบาง จนทำให้อีกคนต้องขยับถอยหลังไปติดขอบโต๊ะ มองผ่านไหล่เล็กไปดูว่ามีอะไรอยู่บนโต๊ะ
“ทำซูชิเหรอ”
“เห็นเป็นทาโกยากิรึไงล่ะ!” แว้ดขึ้นพร้อมทั้งผลักร่างหนาๆ นั้นออกมาห่าง แล้วก็รีบหันกลับไปสนใจกับซูชิต่อ
“ทำให้ใครน่ะ กินเองก็ไม่น่าจะทำเยอะขนาดนี้” ยังคงไม่ยอมออกห่าง ขยับเข้าไปหาเหมือนเดิม เกยคางมนกับไหล่เล็กทั้งที่อีกคนเขาไม่ได้เต็มใจจะให้เกยเลยสักนิด
ร่างบางหน้าบึ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่สนใจคนเจ้าเล่ห์ที่ไหล่ซ้ายของตน ปล่อยให้เกยไปแบบนั้นล่ะ เบื่อเดี๋ยวก้หยุดเอง เราไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ซะอย่าง
“ถามว่ารันจังทำให้ใคร...ไอ้แทคยอนเหรอ”
“เปล่านี่”
“งั้นทำให้ใคร หรือว่าจะทำไปฝากไอ้บอร์ดี้การ์ดที่ชื่ออีจุนอะไรนั่น!” พอนึกไปถึงมารหัวใจอีกตัวที่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กคนนี้จะรักหนักหนา ไม่รู้ว่ามันมีดีอะไร ที่สำคัญเทียบอะไรกับเขาไม่ได้เลยซักนิด
“อย่าลากอีจุนเข้ามายุ่ง!”
“แตะนิดแตะหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ รักมันมากรึไง!” มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กไว้ ออกแรงบีบแน่นโดยไม่รู้ตัว ความโกรธทำให้จุนฮยองทำรุนแรงกับคนตัวเล็กบ่อยครั้ง ร่างบางพยายามบิดข้อมือตัวเองภายในมือใหญ่นั้นเพื่อหวังจะให้พ้นจากพันธนาการ จับจ้องมองดวงตาของอีกคนด้วยแววตาที่ไหวระริก
“มึงรู้อยู่แก่ใจว่ากูรักใคร! ทำไมต้องยัดเยียดคนนั้นคนนี้ให้กู แล้วไอ้ซูชิบ้าๆ เนี่ย กูก็ตั้งใจทำให้ “ใคร” ! ด้วย เห็นว่าใครมันเอาแต่ทำงาน ข้าวปลาไม่ยอมกิน!! ถ้าใครมันไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว!” ร่างบางบิดมือครั้งสุดท้ายจนหลุดออกจากมือใหญ่ได้ แล้วตัวเองก็หุนหันออกจากครัวไปทันที
“ไอ้คนทุเรศ!” ร่างบางพ่นคำด่าออกมาอีกคำหลังจากหนีออกมาจากครัวได้แล้ว
จู่ๆ ร่างหนาก็เหมือนไฟช็อตไปทั่วร่าง รู้สึกดีใจจนเผลอยิ้มออกมา ทำไมถึงรู้สึกว่า “ใคร” คนนั้นเป็นตัวเองก็ไม่รู้ หันไปมองดูส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่บนโต๊ะ มองซูชิหน้าต่างๆ ที่ร่างบางบรรจงทำให้อย่างดีแล้วที่ยิ้มกว้างอยู่แล้ว ก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก หยิบขึ้นมากินแล้วก็ยิ้มไปด้วย นี่ถ้าหากว่าแก้มเขาแตกเพราะยิ้มจริงๆ รันจังก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดนะ
“อร่อยชะมัด” พูดขึ้นทั้งที่ซูชิยังอยู่เต็มปากนั่นล่ะ ก่อนจะคว้าเอาซูชิทั้งถาดติดมือมาด้วย ใจจริงก็อยากจะตามไปง้อซักหน่อย แต่รู้ว่าเข้าหาตอนนี้ คนตัวเล็กก็คงไม่ยอมฟังอะไรอยู่ดี
“นายควรจะไปง้อนายแม่ซักหน่อยนะครับ ฝากซูชิเอาไว้กับผมก่อนก็ได้” แทคยอนที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดพูดขึ้นทันทีที่เจ้านายเดินออกมาจากครัวแล้ว
“แอบดูเจ้านายคุยกันน่ะมันเป็นสันดานที่ไม่ดีนะแทคยอน”
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับนาย ผมแค่จะเข้ามาดูแลนายแม่ตามปกติหลังจากที่จัดการงานที่นายสั่งเรียบร้อยแล้ว แต่พอดีว่าเห็นนายอยู่ในครัวกับนายแม่สองคน ผมก็เลยแค่ยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ด้านนอกก็เท่านั้นครับ”
“แต่ก็เป็นความคิดที่ดี กูควรจะไปง้อรันซักหน่อย ฝากนี่ด้วย...แต่ห้ามกิน เพราะนี่ของกู!” ยื่นถาดซูชิให้แทคยอน ชี้หน้ากำชับจนลูกน้องแทบจะหลุดหัวเราะออกมา แต่แทคยอนก็ทำได้แค่พยักหน้ารับคำสั่งเจ้านายเท่านั้น
“ผมไม่กินของ ของ “ใคร” หรอกครับนาย ตามสบายเลยครับ เดี๋ยวซูชิเนี่ยผมจะเอาขึ้นไปเก็บให้ที่ห้องทำงาน” แทคยอนล้อเจ้านายตัวเองก่อนจะรีบขึ้นไปชั้นบนก่อนที่จะเจ็บตัวเพราะเจ้านาย
“เดี๋ยวเหอะมึง!”
“ดูเหอะแบล็คโรส ดูคนบ้าคนนั้นเหอะ! ไอ้เราก็ตั้งใจทำให้ ยังมีหน้าไปลากอีจุนมาเกี่ยวอีก จะทำให้อีจุนได้ไง ในเมื่อนายแม่อยู่ที่นี่น่ะ! ยิ่งแก่ยิ่งเพี้ยน! ไม่ก็ทำงานมากไปก็เลยเพี้ยนหนัก!” ร่างบางหนีมาบ่นกับแมวแสนรักเพียงลำพังที่สวนกุหลาบหลังบ้าน
“คุยกับแบล็คโรสไปก็เท่านั้นแหละ แมวฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอก” พูดจบก็นั่งลงข้างๆ ร่างบาง เอื้อมมือไปลูบหัวแบล็คโรสเล่นไปด้วย แต่ก็ถูกร่างบางปัดมือออกจากแมวสุดที่รักแทบจะในทันที ร่างหนาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหยิบเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อโค้ทที่สวมอยู่ แล้วยื่นไปตรงหน้าร่างบาง
“จำได้มั้ยนี่อะไร”
ร่างบางมองของสิ่งนั้นอยู่สักพักก็หันไปหาร่างหนาที่ส่งยิ้มน่าหมั่นไส้มาให้ คิ้วเรียวขมวดหากันแน่น จำได้สิ ฮยอนซึงจำมันได้แม่นเลยล่ะ สร้อยข้อเท้าเส้นเล็กๆ ที่จี้เป็นกุหลาบเคลือบด้วยสีดำ เส้นที่ตนอยากได้ตอนที่ไปเดินงานชมซากุระด้วยกัน และก็จำได้ว่าจุนฮยองแย่งซื้อมันตัดหน้าตนไป
“จำได้! แล้วทำไม!” เชิกหน้าสวยขึ้น ทำเป็นไม่สนใจสร้อยเส้นนั้น
“ตั้งใจซื้อให้ รู้ว่าชอบ” ร่างหนาพูดออกมาตรงๆ “แต่ตอนนั้นที่ไม่ให้ได้เพราะรันกำลังโมโห ต่อให้พี่ให้ยื่นให้แล้วก็บอกซื้อให้ รันก็คงขว้างมันทิ้งอยู่ดี” ร่างหนาพูดต่อ ประโยคหลังต่อจากนั้นมันจริงอย่างที่ร่างหนาพูด เพราะถ้าหากว่าจุนฮยองให้ตอนนั้น ฮยอนซึงก็โยนมันทิ้งไปจริงๆ นั่นแหละ
“มาให้ตอนนี้ก็โยนทิ้งเหมือนกันนั่นแหละน่า! ไม่ได้อยากได้ซักหน่อย คิดไปเอง!” ร่างบางหันมาเถียงปากยื่นปากยาว
“ปากแข็ง” หลังจากพูดจบ ร่างหนาก็นั่งคุกเข่าลงต่อหน้าร่างบาง มือใหญ่หมายจะยื้อเอาข้อเท้าเล็กนั้นมาใกล้ตน แต่ว่าร่างบางกลับดึงกลับมาเสียก่อน
“จะทำอะไรน่ะ!”
“จะใส่ให้ไง”
“ไม่ต้อง!”
“ก็กูบอกว่าจะใส่ให้!” ว่าแล้วก็ดึงข้อเท้าร่างบางกลับ ล็อคเอาไว้แน่นก่อนจะใส่สร้อยข้อเท้าเส้นเล็กๆ นั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ร่างบางจะขัดขืน
ร่างบางก้มลงมองข้อเท้าตัวเองที่เพิ่งถูกประดับด้วยสร้อยข้อเท้าราคาเส้นถูกๆ ลอบยิ้มกับตัวเองบางเบา แล้วค่อยๆ เหลือบตาไปสบตากับร่างหนาที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้า
“ใครให้ ตอบแทนที่อุตส่าห์ทำซูชิให้ใคร” ยืดขึ้นเล็กน้อยแล้วกดจูบลงที่ปากอิ่มแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“อีกซักพักก็เข้าบ้านได้แล้วนะ เย็นกว่านี้หมอกจะลง เดี๋ยวจะไม่สบาย” พูดจบร่างหนาก็เดินเข้าไปภายในตัวบ้านพร้อมรอยยิ้ม
รู้ผลอยู่แล้วว่าเด็กดื้อของเขาหายงอนแล้วล่ะ
ร่างบางมองตามไปจนกระทั่งแผ่นหลังกว้างนั้นลับตาไป ถึงได้กลับมาคุยกับแบล็คโรสต่อ
“ง้อด้วยของถูกๆ คิดว่าจะหายงอนง่ายๆ รึไง เนอะแบล็คโรสเนอะ....”
...แต่ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะเป็นแค่ของถูกๆ แต่รันก็ชอบ...ชอบมากด้วย....
“กว่าจะรับโทรศัพท์กูได้นะเดวิล นึกว่าตายห่าไปแล้ว!” เสียงหวานดังมาตามสายทำให้ร่างสูงสะดุ้งแทบสุดตัว จำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่ารุ่นเก้ากลับมาญี่ปุ่นแล้วสินะ
“ขอโทษครับรุ่นเก้า พอดีผมยุ่งๆ”
“ยุ่งเรื่องตุ๊กตาของมึงอยู่สินะ รีบๆ จัดการมันให้เรียบร้อยซะ แล้วก็กลับบ้าน กูมีเรื่องจะคุยด้วย!”
“จัดการ....จัดการแบบไหน...งั้นเหรอครับ” ร่างสูงถามกลับ เพราะไม่เข้าใจความหมายที่รุ่นเก้าพูด
“ถ้าจะให้ผมฆ่าดอลล์...ผม...”
“กูรู้อยู่แล้วล่ะว่ามึงทำไม่ได้ ก็ไม่ได้จะให้ฆ่าให้ตายซักหน่อย”
“ครับ?”
“แบบนี้ก็เหมือนฆ่าอยู่แล้วนี่ นักฆ่าที่ทำใจฆ่าเหยื่อไม่ได้เพราะรัก นั่นก็คือจุดจบของนักฆ่าแล้วนี่...หึ!”
“ครับรุ่นเก้า” ร่างสูงคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า “ครับ” เท่านั้น จึงได้ตอบกลับไปสั้นๆ แล้วหันไปมองร่างเล็กๆ ที่ผล็อยหลับไปเมื่อช่วงบ่าย และตอนนี้ก็ยังคงหลับสนิท
“ปล่อยให้นอนไปแบบนั้นแหละ เขียนโน้ตบอกไว้แล้วก็รีบเอาหัวมึงมาหากูซะ!” สั่งแค่นั้นก็วางสายไปเลย
ร่างสูงทำตามที่เจ้านายสั่งอย่างว่าง่าย กำลังจะหยิบเอากระดาษโน้ตมาเขียนข้อความบอกคนที่ยังคงหลับสนิท แต่แล้วดวงตากลมโตนั้นกลับเปิดขึ้นเสียก่อน
“ใครโทรมา” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นเพียงแผ่วเบา ร่างสูงยิ้มบางเบาส่งให้แล้วลูบผมนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงไปกดจูบที่หน้าผากมน
“เจ้านายน่ะครับ ผมต้องออกไปพบนายก่อน แล้วจะรีบกลับ”
“อืม...” ร่างเล็กส่งยิ้มบางเบากลับเช่นกัน “รีบกลับบ้านนะ”
“ครับ” รับคำสั้นๆ จูบที่หน้าผากของร่างเล็กอีกครั้ง ก็รีบหยิบเอาเสื้อโค้ทมาสวมแล้วรีบออกจากห้องเพื่อตรงไปหาเจ้านายทันที
ร่างเล็กปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง แล้วก็ผล็อยหลับไป....
“เดวิลนี่เหลวไหลชะมัด ชั้นเข้าใจว่าชั้นบอกให้ติดต่อเดวิลให้ตั้งแต่วันที่ชั้นมาถึงแล้วนะอีจุน ทำไมป่านนี้หมอนั่นยังไม่โผล่หัวมาหาชั้นอีก หรือว่าถูกดอลล์ฆ่าตายไปแล้ว!” ตอนนี้อีจุนกำลังถูกรุ่นเก้าเล่นงานอยู่ที่ห้องทำงานส่วนตัว ตอนนี้อีจุนก้มหน้าจนแทบจะมุดลงพื้นไปแล้ว รุ่นเก้ายังคงเดินอยู่รอบๆ ตัวของตนและไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานง่ายๆ
“ผมพยายามติดต่อเดวิลทุกทางแล้วครับรุ่นเก้า แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ ส่วนเรื่องกลายเป็นเหยื่อของ ดอลล์ของตระกูลยงไปหรือยังนั้น ผมไม่ทราบจริงๆ และยังยืนยันอะไรไม่ได้ครับ” อีจุนตอบกลับไปเสียงสั่น ยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับรุ่นเก้าอยู่ดี
“ไปดูที่คอนโดหมอนั่นรึยัง!”
“ถึงอยากจะไปที่นั่น แต่ถ้าเป็นคนนอกจะเข้าออกที่คอนโดนั้นไม่ได้เลยครับรุ่นเก้า”
“งั้นต่อสายถึงเจ้าของคอนโดให้ชั้นเดี๋ยวนี้ ชั้นจะจัดการเอง” เมื่อเจอหนทางที่จะติดต่อกับเดวิลได้แล้ว รุ่นเก้าหรือคิม แจจุงก็รีบสั่งการทันที
อีจุนรีบทำตามคำสั่งที่ได้รับด้วยการรีบหาเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับเจ้าของคอนโดหรูที่เดวิลเป็นเจ้าของห้องอยู่ให้กับรุ่นเก้า ก่อนที่รุ่นเก้าจะพิโรธแล้วคนที่เดือดร้อนจะเป็นอีจุนเสียเอง
“เดวิลอา......” คนที่ยังคงนอนกลิ้งอยู่บนเตียง ลากเสียง เสียงอ่อน เสียงหวาน เรียกเจ้าของชื่อที่กำลังง่วนอยู่กับการทำความสะอาดปืนและอาวุธของตนอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของห้องนอน ก่อนที่ร่างเปลือยเปล่า ขาวโพลนตัดกับผาห่มสีดำสนิทนั้นจะลุกขึ้นนั่งบนเตียงทรงกลมขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องนอน ที่แยกออกมาเป็นส่วนตัวจากส่วนอื่นๆ ของคอนโดหรู ใจกลางเมือง
“ครับ” ขานรับสั้นๆ ทั้งที่ไม่ยอมเงยหน้า คนตัวเล็กก็เลยหน้างอเพราะขัดใจ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนขาลงจากเตียง ก้มลงไปหยิบเอาเสื้อของอีกคนขึ้นมาสวมเพียงลวกๆ เท่านั้น แล้วเดินเข้าไปหา กอดคอร่างหนาเอาไว้จากด้านหลัง กดคางมนลงบนสันไหล่กว้าง ก่อนจะประทับกลีบปากลงที่แก้มกร้านของร่างหนาแผ่วเบา
“มอร์นิ่ง”
ร่างหนาผิวเข้ม หันไปสบตากับร่างบางที่ตื่นมาออดอ้อนแต่เช้า มือข้างเดียวกับไหล่ยกขึ้นแล้วกดศีรษะได้รูปนั้นเข้ามาใกล้ ก่อนที่ตนจะเป็นฝ่ายกดปากหยักของตนเข้ากับปากอิ่มน่าสัมผัสนั้นหนักหน่วง สอดลิ้นเข้าไปภายในปากอิ่ม ดูดกลืนความหอมหวานภายในจนแทบจะหมดสิ้น
ร่างเล็กทุบที่อกกว้างเบาๆ ก่อนจะถอนริมฝีปากตัวเองออกเสียเอง แล้วยิ้มหวานให้อดีตคนรักที่ตอนนี้สถานะยังไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าอยู่ในฐานะอะไรกันแน่
“วันนี้เดวิลไม่ออกไปไหนเหรอ”
ร่างหนายิ้มตอบกลับไปแล้วคว้ามือสวยขึ้นมากดจูบ
“ถ้ารุ่นเก้าไม่เรียก ก็คงไม่ต้องออกไปไหนหรอก”
“พูดเหมือนรุ่นเก้ากลับญี่ปุ่นอย่างนั้นแหละ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เค้ากลับมา....ทำไม..” ร่างเล็กกลั้นใจถามถึงบุคคลที่สามออกไปด้วยความอยากรู้ เหตุผลที่รุ่นเก้ายอมกลับมาญี่ปุ่น มีแค่ไม่กี่เรื่อง แต่มันก็ยืนยันไม่ได้ว่าเป็นเรื่องนั้นจริงๆ หรือเปล่า ไม่มีใครเดาใจรุ่นเก้าของตระกูลจางได้เลยสักคน และยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีใครสามารถต่อกรกับรุ่นเก้าได้เหมือนกัน
“ก็ยังไม่รู้ว่ากลับมาทำไม แต่ถึงจะรู้....ชั้นก็ไม่บอกดอลล์หรอก ลืมไปแล้วรึไงว่าเราเป็นศัตรูกันน่ะ...หื้ม...” มือใหญ่เกาคางมนเล่น ก่อนจะลากให้อีกคนอ้อมโซฟามาฝั่งตน ดึงลงนั่งที่ตักกว้างโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตัวเล็กแอบหยิบเอามีดติดมือมาด้วย
สองแขนเล็กคล้องคอร่างหนา แล้วกดปลายแหลมของมีดลงที่ท้ายทอย หากออกแรงเพียงนิดมีดเล็บนั้นก็คงจมหายลงไปกับลำคอแกร่งนั้นเป็นแน่
ร่างหนาเงยหน้าขึ้นสบสายตากับร่างเล็กที่ยังคงลงน้ำหนักที่มือเท่าเดิม ไม่มีผ่อนแรงเลยสักนิด และเขาก็รู้สึกได้ว่าปลายมีดบาดเนื้อของเขาแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมขัดขืนหรือปัดมีดออกทั้งที่สามารถทำได้
“ถ้าจะฆ่าก็ทำเลยโยจัง...”
“......................” ร่างเล็กพูดไม่ออก ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองอยากจะร้องไห้ขึ้นมาได้นะ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าตอนนี้แก้มเต็มไปด้วยน้ำตาเสียแล้ว
“_____ชั้นตาย งานของนายก็เสร็จ ความลับทุกอย่างที่รุ่นแปดอยากให้มันเป็นความลับตลอดไป มันก็จะได้เป็นความลับตลอดไปอย่างที่รุ่นแปดต้องการ”
“ทำไมงานของชั้นจะต้องเป็นนายด้วย...นายรู้มั้ยว่านายคืองานที่ยากที่สุด....เดวิล....”
มือใหญ่เช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวแผ่วเบา พร้อมทั้งจูบซับน้ำตาที่หางตากลมโตนั้นด้วย ร่างเล็กกดหน้าผากมนลงกับหน้าผากของอีกคน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกดจูบที่หน้าผากนั้นแทน สูดหายใจเข้าและผ่อนออกช้าๆ น้ำตายังคงรินไหลอาบแก้มไม่หยุด
“ชั้นทำไม่ได้หรอกเดวิล...ชั้นฆ่าเดวิลไม่ได้”
“ยอดรัก...ถ้าคุณไม่ทำ ผมจะต้องตายด้วยมือของคนอื่น ผมบอกคุณแล้วนี่ ถ้าผมต้องตาย ผมจะตายด้วยมือคุณเท่านั้น”
“ชั้นไม่น่ากลับมาเลย ชั้นไม่น่ารับงานนี้จากพี่รองเลย...ตอนที่ชั้นรับงานนี้ ชั้นมั่นใจว่าชั้นทำได้ ชั้นแน่ใจว่าชั้นไม่ได้รักเดวิลแล้ว จนกระทั่งชั้น...”
“จนกระทั่งเราได้เจอกันอีกครั้ง...ใช่มั้ย” ดูจุนพูดต่อจากนั้น แล้วโอบกอดร่างเล็กๆ ที่สั่นเทาเพราะแรงสะอื้นนั้นไว้แน่น พรมจูบที่กลุ่มผมนุ่มไม่หยุด
ไม่มีใครอยากได้เรื่องนี้เกิดขึ้น ดูจุนรู้ดีว่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นนั้นทุกคนต่างเลือกแล้วแล้วก็พร้อมที่จะรับผลที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม
“ทำยังไงจะฆ่ามันได้ มีใครบอกกูได้บ้างมั้ย” เสียงผู้ที่ทรงอำนาจมากที่สุดในบ้านถามขึ้นกลางห้องประชุม ที่เรียกลูกน้องมาประชุมกันเพื่อหาทางจัดการกับศัตรูที่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง คนที่จุนฮยองมั่นใจว่าเขาจะไม่กลับมาอีกหลังจากที่พี่ชายของตนตาย
“นายครับ มิสเตอร์แอนดรูว์ไม่ใช่ศัตรูที่เราจะล้มได้ง่ายๆ นายก็ทราบดีนี่ครับ” แทคยอนพูดขึ้น และรีบก้มหน้าลมมองตักตัวเองทันที ก่อนที่ดวงตาดุจพญาอินทรย์นั้นจะจ้องมาที่ตน
“เพราะกูรู้ไง กูถึงได้เรียกพวกมึงมาน่ะ คนที่พอจะพึ่งพาได้อย่างโยจังก็หายหัว!”
“นายต้องลงมือเองแล้วล่ะครับ” แทคยอนกลั้นใจพูดขึ้น
“แทคยอน มึงส่งคนไปจับตาดูมันเอาไว้ ติดตามมันทุกฝีก้าวอย่าให้พลาด รายงานกูทุกๆ ชั่วโมง ที่สำคัญ ส่งคนไปเฝ้าตระกูลจางเอาไว้ด้วย แต่อย่าให้คนที่นั้นรู้ตัวว่าเราแฝงตัวอยู่”
“ครับนาย!” แทคยอนรับคำแล้วรีบลุกไปทำตามที่เจ้านายสั่ง
“ส่วนที่บ้านนี้ เพิ่มเวรยามเป็นสองเท่า โดยเฉพาะบริเวณสวนหลังบ้าน” หันไปสั่งกับหัวหน้าเวรยามที่เข้าประชุมด้วย
“รันจังชอบอยู่ที่สวนกุหลาบที่สุด เพราะฉะนั้นที่ตรงนั้นกูจะต้องมั่นใจว่าจะปลอดภัยสำหรับรันที่สุด เข้าใจกันดีแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน!” พูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น นายใหญ่ของพรรคก็เดินออกจากห้องประชุมไปก่อน ก่อนจะตามด้วยลูกน้องที่ต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามคำสั่ง
ร่างหนาเดินผ่านส่วนต่างๆ ของคฤหาสน์หลังมหึมาไปโดยไม่แยแส แต่แล้วขาก็กลับหยุดก้าวเดินเมื่อเห็นใครอีกคนกำลังง่วนกับการทำบางสิ่งอยู่ในครัว
จุนฮยองค่อยๆ เดินเข้าไปในครัวให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้คนใช้สองสามคนที่อยู่เป็นลูกมือให้ออกไป แล้วตัวเองก็ก้าวไปยืนแทนที่
“ยูโกะ เดี๋ยวช่วยส่งผ้าเช็ดมือให้ทีนะ” เสียงหวานเอ่ยบอกกับคนที่ตนคิดว่าเป็นสาวน้อยที่อยู่ช่วยงานมาตั้งแต่ต้น มือเรียวรอรับเอาผ้าเช็ดมือนั้นด้วย
“ผ้าเช็ดมือ เร็วๆ สิยูโกะ” ร่างบางย้ำอีกครั้ง มือก็กระดิกขึ้นลงด้วย
“หาไม่เจอ มันอยู่ตรงไหนน่ะ” เสียงเข้มดังขึ้นแทนที่จะเป็นผ้าเช็ดมือ ทำให้คนที่กำลังตั้งใจทำซูชิสารพัดหน้าอยู่ต้องรีบหันกลับมาตามเสียง แล้วก็เห็นว่าคนเจ้าเล่ห์ยืนยิ้มกริ่มอยู่ใกล้ๆ
“เข้ามาทำไมนะ!”
“ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามากวนหรอกน่า เดินผ่านแล้วเห็นว่าอยู่ในครัว เลยอยากรู้ว่าทำอะไร ก็เลยเข้ามาดู ตกลงว่าทำอะไร” ขยับเข้าไปใกล้ร่างบาง จนทำให้อีกคนต้องขยับถอยหลังไปติดขอบโต๊ะ มองผ่านไหล่เล็กไปดูว่ามีอะไรอยู่บนโต๊ะ
“ทำซูชิเหรอ”
“เห็นเป็นทาโกยากิรึไงล่ะ!” แว้ดขึ้นพร้อมทั้งผลักร่างหนาๆ นั้นออกมาห่าง แล้วก็รีบหันกลับไปสนใจกับซูชิต่อ
“ทำให้ใครน่ะ กินเองก็ไม่น่าจะทำเยอะขนาดนี้” ยังคงไม่ยอมออกห่าง ขยับเข้าไปหาเหมือนเดิม เกยคางมนกับไหล่เล็กทั้งที่อีกคนเขาไม่ได้เต็มใจจะให้เกยเลยสักนิด
ร่างบางหน้าบึ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่สนใจคนเจ้าเล่ห์ที่ไหล่ซ้ายของตน ปล่อยให้เกยไปแบบนั้นล่ะ เบื่อเดี๋ยวก้หยุดเอง เราไม่สนใจ ไม่ตอบโต้ซะอย่าง
“ถามว่ารันจังทำให้ใคร...ไอ้แทคยอนเหรอ”
“เปล่านี่”
“งั้นทำให้ใคร หรือว่าจะทำไปฝากไอ้บอร์ดี้การ์ดที่ชื่ออีจุนอะไรนั่น!” พอนึกไปถึงมารหัวใจอีกตัวที่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กคนนี้จะรักหนักหนา ไม่รู้ว่ามันมีดีอะไร ที่สำคัญเทียบอะไรกับเขาไม่ได้เลยซักนิด
“อย่าลากอีจุนเข้ามายุ่ง!”
“แตะนิดแตะหน่อยนี่ไม่ได้เลยนะ รักมันมากรึไง!” มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กไว้ ออกแรงบีบแน่นโดยไม่รู้ตัว ความโกรธทำให้จุนฮยองทำรุนแรงกับคนตัวเล็กบ่อยครั้ง ร่างบางพยายามบิดข้อมือตัวเองภายในมือใหญ่นั้นเพื่อหวังจะให้พ้นจากพันธนาการ จับจ้องมองดวงตาของอีกคนด้วยแววตาที่ไหวระริก
“มึงรู้อยู่แก่ใจว่ากูรักใคร! ทำไมต้องยัดเยียดคนนั้นคนนี้ให้กู แล้วไอ้ซูชิบ้าๆ เนี่ย กูก็ตั้งใจทำให้ “ใคร” ! ด้วย เห็นว่าใครมันเอาแต่ทำงาน ข้าวปลาไม่ยอมกิน!! ถ้าใครมันไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้ว!” ร่างบางบิดมือครั้งสุดท้ายจนหลุดออกจากมือใหญ่ได้ แล้วตัวเองก็หุนหันออกจากครัวไปทันที
“ไอ้คนทุเรศ!” ร่างบางพ่นคำด่าออกมาอีกคำหลังจากหนีออกมาจากครัวได้แล้ว
จู่ๆ ร่างหนาก็เหมือนไฟช็อตไปทั่วร่าง รู้สึกดีใจจนเผลอยิ้มออกมา ทำไมถึงรู้สึกว่า “ใคร” คนนั้นเป็นตัวเองก็ไม่รู้ หันไปมองดูส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่บนโต๊ะ มองซูชิหน้าต่างๆ ที่ร่างบางบรรจงทำให้อย่างดีแล้วที่ยิ้มกว้างอยู่แล้ว ก็ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก หยิบขึ้นมากินแล้วก็ยิ้มไปด้วย นี่ถ้าหากว่าแก้มเขาแตกเพราะยิ้มจริงๆ รันจังก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดนะ
“อร่อยชะมัด” พูดขึ้นทั้งที่ซูชิยังอยู่เต็มปากนั่นล่ะ ก่อนจะคว้าเอาซูชิทั้งถาดติดมือมาด้วย ใจจริงก็อยากจะตามไปง้อซักหน่อย แต่รู้ว่าเข้าหาตอนนี้ คนตัวเล็กก็คงไม่ยอมฟังอะไรอยู่ดี
“นายควรจะไปง้อนายแม่ซักหน่อยนะครับ ฝากซูชิเอาไว้กับผมก่อนก็ได้” แทคยอนที่เห็นเหตุการณ์โดยตลอดพูดขึ้นทันทีที่เจ้านายเดินออกมาจากครัวแล้ว
“แอบดูเจ้านายคุยกันน่ะมันเป็นสันดานที่ไม่ดีนะแทคยอน”
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับนาย ผมแค่จะเข้ามาดูแลนายแม่ตามปกติหลังจากที่จัดการงานที่นายสั่งเรียบร้อยแล้ว แต่พอดีว่าเห็นนายอยู่ในครัวกับนายแม่สองคน ผมก็เลยแค่ยืนดูแลความเรียบร้อยอยู่ด้านนอกก็เท่านั้นครับ”
“แต่ก็เป็นความคิดที่ดี กูควรจะไปง้อรันซักหน่อย ฝากนี่ด้วย...แต่ห้ามกิน เพราะนี่ของกู!” ยื่นถาดซูชิให้แทคยอน ชี้หน้ากำชับจนลูกน้องแทบจะหลุดหัวเราะออกมา แต่แทคยอนก็ทำได้แค่พยักหน้ารับคำสั่งเจ้านายเท่านั้น
“ผมไม่กินของ ของ “ใคร” หรอกครับนาย ตามสบายเลยครับ เดี๋ยวซูชิเนี่ยผมจะเอาขึ้นไปเก็บให้ที่ห้องทำงาน” แทคยอนล้อเจ้านายตัวเองก่อนจะรีบขึ้นไปชั้นบนก่อนที่จะเจ็บตัวเพราะเจ้านาย
“เดี๋ยวเหอะมึง!”
“ดูเหอะแบล็คโรส ดูคนบ้าคนนั้นเหอะ! ไอ้เราก็ตั้งใจทำให้ ยังมีหน้าไปลากอีจุนมาเกี่ยวอีก จะทำให้อีจุนได้ไง ในเมื่อนายแม่อยู่ที่นี่น่ะ! ยิ่งแก่ยิ่งเพี้ยน! ไม่ก็ทำงานมากไปก็เลยเพี้ยนหนัก!” ร่างบางหนีมาบ่นกับแมวแสนรักเพียงลำพังที่สวนกุหลาบหลังบ้าน
“คุยกับแบล็คโรสไปก็เท่านั้นแหละ แมวฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอก” พูดจบก็นั่งลงข้างๆ ร่างบาง เอื้อมมือไปลูบหัวแบล็คโรสเล่นไปด้วย แต่ก็ถูกร่างบางปัดมือออกจากแมวสุดที่รักแทบจะในทันที ร่างหนาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหยิบเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อโค้ทที่สวมอยู่ แล้วยื่นไปตรงหน้าร่างบาง
“จำได้มั้ยนี่อะไร”
ร่างบางมองของสิ่งนั้นอยู่สักพักก็หันไปหาร่างหนาที่ส่งยิ้มน่าหมั่นไส้มาให้ คิ้วเรียวขมวดหากันแน่น จำได้สิ ฮยอนซึงจำมันได้แม่นเลยล่ะ สร้อยข้อเท้าเส้นเล็กๆ ที่จี้เป็นกุหลาบเคลือบด้วยสีดำ เส้นที่ตนอยากได้ตอนที่ไปเดินงานชมซากุระด้วยกัน และก็จำได้ว่าจุนฮยองแย่งซื้อมันตัดหน้าตนไป
“จำได้! แล้วทำไม!” เชิกหน้าสวยขึ้น ทำเป็นไม่สนใจสร้อยเส้นนั้น
“ตั้งใจซื้อให้ รู้ว่าชอบ” ร่างหนาพูดออกมาตรงๆ “แต่ตอนนั้นที่ไม่ให้ได้เพราะรันกำลังโมโห ต่อให้พี่ให้ยื่นให้แล้วก็บอกซื้อให้ รันก็คงขว้างมันทิ้งอยู่ดี” ร่างหนาพูดต่อ ประโยคหลังต่อจากนั้นมันจริงอย่างที่ร่างหนาพูด เพราะถ้าหากว่าจุนฮยองให้ตอนนั้น ฮยอนซึงก็โยนมันทิ้งไปจริงๆ นั่นแหละ
“มาให้ตอนนี้ก็โยนทิ้งเหมือนกันนั่นแหละน่า! ไม่ได้อยากได้ซักหน่อย คิดไปเอง!” ร่างบางหันมาเถียงปากยื่นปากยาว
“ปากแข็ง” หลังจากพูดจบ ร่างหนาก็นั่งคุกเข่าลงต่อหน้าร่างบาง มือใหญ่หมายจะยื้อเอาข้อเท้าเล็กนั้นมาใกล้ตน แต่ว่าร่างบางกลับดึงกลับมาเสียก่อน
“จะทำอะไรน่ะ!”
“จะใส่ให้ไง”
“ไม่ต้อง!”
“ก็กูบอกว่าจะใส่ให้!” ว่าแล้วก็ดึงข้อเท้าร่างบางกลับ ล็อคเอาไว้แน่นก่อนจะใส่สร้อยข้อเท้าเส้นเล็กๆ นั้นให้เร็วที่สุด ก่อนที่ร่างบางจะขัดขืน
ร่างบางก้มลงมองข้อเท้าตัวเองที่เพิ่งถูกประดับด้วยสร้อยข้อเท้าราคาเส้นถูกๆ ลอบยิ้มกับตัวเองบางเบา แล้วค่อยๆ เหลือบตาไปสบตากับร่างหนาที่ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้า
“ใครให้ ตอบแทนที่อุตส่าห์ทำซูชิให้ใคร” ยืดขึ้นเล็กน้อยแล้วกดจูบลงที่ปากอิ่มแผ่วเบา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“อีกซักพักก็เข้าบ้านได้แล้วนะ เย็นกว่านี้หมอกจะลง เดี๋ยวจะไม่สบาย” พูดจบร่างหนาก็เดินเข้าไปภายในตัวบ้านพร้อมรอยยิ้ม
รู้ผลอยู่แล้วว่าเด็กดื้อของเขาหายงอนแล้วล่ะ
ร่างบางมองตามไปจนกระทั่งแผ่นหลังกว้างนั้นลับตาไป ถึงได้กลับมาคุยกับแบล็คโรสต่อ
“ง้อด้วยของถูกๆ คิดว่าจะหายงอนง่ายๆ รึไง เนอะแบล็คโรสเนอะ....”
...แต่ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะเป็นแค่ของถูกๆ แต่รันก็ชอบ...ชอบมากด้วย....
“กว่าจะรับโทรศัพท์กูได้นะเดวิล นึกว่าตายห่าไปแล้ว!” เสียงหวานดังมาตามสายทำให้ร่างสูงสะดุ้งแทบสุดตัว จำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร เบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่ารุ่นเก้ากลับมาญี่ปุ่นแล้วสินะ
“ขอโทษครับรุ่นเก้า พอดีผมยุ่งๆ”
“ยุ่งเรื่องตุ๊กตาของมึงอยู่สินะ รีบๆ จัดการมันให้เรียบร้อยซะ แล้วก็กลับบ้าน กูมีเรื่องจะคุยด้วย!”
“จัดการ....จัดการแบบไหน...งั้นเหรอครับ” ร่างสูงถามกลับ เพราะไม่เข้าใจความหมายที่รุ่นเก้าพูด
“ถ้าจะให้ผมฆ่าดอลล์...ผม...”
“กูรู้อยู่แล้วล่ะว่ามึงทำไม่ได้ ก็ไม่ได้จะให้ฆ่าให้ตายซักหน่อย”
“ครับ?”
“แบบนี้ก็เหมือนฆ่าอยู่แล้วนี่ นักฆ่าที่ทำใจฆ่าเหยื่อไม่ได้เพราะรัก นั่นก็คือจุดจบของนักฆ่าแล้วนี่...หึ!”
“ครับรุ่นเก้า” ร่างสูงคิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า “ครับ” เท่านั้น จึงได้ตอบกลับไปสั้นๆ แล้วหันไปมองร่างเล็กๆ ที่ผล็อยหลับไปเมื่อช่วงบ่าย และตอนนี้ก็ยังคงหลับสนิท
“ปล่อยให้นอนไปแบบนั้นแหละ เขียนโน้ตบอกไว้แล้วก็รีบเอาหัวมึงมาหากูซะ!” สั่งแค่นั้นก็วางสายไปเลย
ร่างสูงทำตามที่เจ้านายสั่งอย่างว่าง่าย กำลังจะหยิบเอากระดาษโน้ตมาเขียนข้อความบอกคนที่ยังคงหลับสนิท แต่แล้วดวงตากลมโตนั้นกลับเปิดขึ้นเสียก่อน
“ใครโทรมา” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นเพียงแผ่วเบา ร่างสูงยิ้มบางเบาส่งให้แล้วลูบผมนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงไปกดจูบที่หน้าผากมน
“เจ้านายน่ะครับ ผมต้องออกไปพบนายก่อน แล้วจะรีบกลับ”
“อืม...” ร่างเล็กส่งยิ้มบางเบากลับเช่นกัน “รีบกลับบ้านนะ”
“ครับ” รับคำสั้นๆ จูบที่หน้าผากของร่างเล็กอีกครั้ง ก็รีบหยิบเอาเสื้อโค้ทมาสวมแล้วรีบออกจากห้องเพื่อตรงไปหาเจ้านายทันที
ร่างเล็กปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง แล้วก็ผล็อยหลับไป....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ