Thank For Your Smile...น้ำตา...ความฝัน...ความหวัง
-
เขียนโดย MightySoul
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.50 น.
26 บท
0 วิจารณ์
29.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 11.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) บทที่ 22 สี่สาวรวมตัว (แก้ไขเนื้อหา)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 22
สี่สาวรวมตัว
ฉันมองใบหน้าที่คล้ายจะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของฟีลก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ สายตาของเขาใสซื่อจนแทบจะถ่ายทอดทุกอย่างออกมาผ่านดวงตาคู่นั้น
“ริกะ” อยู่ดีๆฮานะก็เข้ามากระซิบที่หูเบาๆ
“ห๊ะ อะไร” ฉันที่พึ่งได้สติคืนกลับมารีบหันไปถามฮานะที่รออยู่ด้วยรอยยิ้มแปลกๆที่ดูแล้วน่าขนลุก
“เฮอะ ยัยบ้า เหม่อมองฟีลไม่วางสายตาเลยนะ”
“มะ...ไม่ได้มองสักหน่อย” สายตาเหน็บแนมของเพื่อนสาวทำให้ฉันนิ่งไม่กล้าพูดอะไรต่อ นอกจากเงียบและได้แต่สวดภาวนาในใจว่าเพื่อนสาวจะไม่คิดอะไรมากก็เท่านั้น
ฉันเดินเข้าไปในตัวโรงแรมเพื่อหมายจะขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 20 เพื่อเข้าห้องพักผ่อน ถึงแม้ฉันจะเคยเห็นประติมากรรมที่ล้ำค่าสวยงามที่ถูกตกแต่งไว้ทั่วโรงแรมแห่งนี้มาบ้างแล้ว แต่ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความหรูหรางดงาม ที่ทางโรงแรมได้ตระเตรียมไว้ให้ผู้มาพักอาศัยได้เชยชม
ขนาดฉันยังตกตะลึงกับความสวยงามของโรงแรมแห่งนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฟีลกับพลอย ที่ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆ โดยเฉพาะพลอย ที่เอาแต่หลบอยู่หลังฟีลไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา ทำเอาคนที่พบเห็นต่างพากันประหลาดใจ
ฉันนำทางฟีลขึ้นมาที่ชั้น 20 เพราะห้องของเรานั้นติดกัน ตลอดทางเดินถึงห้องถูกปูด้วยพรมสีฉูดฉาดสะอาดตา ที่บ่งบอกถึงความมีระดับของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
“ฟีล นายอยู่ห้องนี้” ฉันชี้ไปที่ห้องหมาย 20/13 ซึ่งตรงกับหมายเลขที่ถูกระบุไว้บนคีย์การ์ดของฟีล
“ขอบคุณมากครับ พี่สาว” พวกฟีลเสียบบัตรลงช่องอ่านด้วยอาการที่คล้ายบ้านนอกเข้ากรุง ทำให้กว่าที่ฟีลจะหาทางเปิดประตูได้ ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งนาที
“ฮานะ ออกมาได้แล้ว” เสียงตะโกนเบาๆถูกส่งไปถึงเพื่อนสาวที่แอบอยู่ในมุมอับของโรงแรม ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงไม่มีทางเห็นว่ามีใครแอบหลบอยู่ตรงนั้น
สาวร่างโปร่ง สูง ราวนางแบบ ค่อยๆแอบคลานออกมาช้าๆอย่างไม่เหลือมาดกุลสตรี
“พวกฟีล เข้าห้องแล้วเหรอ”
ฉันพยักหน้าตอบฮานะ สาเหตุที่ต้องให้ฮานะหลบพวกฟีลเอาไว้ ก็เป็นเพราะแผนคงแตกแน่ถ้าฟีลรู้ว่าฉันอาศัยอยู่ห้องเดียวกับฮานะ
บัตรสีเงินถูกเสียบเข้าไปในเครื่องอ่านอย่างเชี่ยวชาญ ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ประตูก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างของฉันและฮานะจะรีบหายเข้าไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น
ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่ประตูห้องถูกปิดลง ซึ่งหมายความว่าพวกเธอปลอดภัยจากสถานการณ์เสี่ยงแผนแตกมาแล้วนั้นเอง
“อู๊ย ร้อน” ฉันรีบถอดวิกที่สร้างความรำคาญมาตั้งแต่เริ่มใส่ ปรากฏให้เห็นถึงผมดำยาวสลวยที่ถูกปลดปล่อยลงมา แว่นกันแดดที่ปกปิดดวงตากลมใสถูกถอดออก เครื่องสำอางที่แต่งจนหน้าเตอะถูกล้างจนไม่เหลือคราบ พลางให้เห็นถึงใบหน้าที่ไร้ซึ่งสิ่งเจือปนใดๆ
ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อนาโอะอีกแล้ว บัดนี้ผู้หญิงที่ชื่อ ริกะ ได้ถูกนำกลับมาอีกครั้ง
“เธอนี่ชอบหาเรื่องใส่ตัวจริงๆน้า ริกะ” เพื่อนสาวพูดเหน็บแนมทันทีหลังจากที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ
“แต่มันก็น่าสนุกใช่มั้ยล่ะ”
ฮานะไม่ปฎิเสธ แต่กลับยิ้มแทนคำตอบ
“ฮานะ...เอาล่ะนะ”
ฮานะตาเบิกโพลง
“ยัยบ้าริกะ อย่าเล่นบ้าๆนะ” ยังไม่ทันฮานะจะพูดจบ ร่างของริกะก็กระโจนเข้ามาใส่ จนฮานะต้องรีบม้วนตัวหลบการจู่โจม
“เตียงนี้เป็นของฉัน”
“ยัยบ้า ริกะ โตป่านนี้แล้วยังเล่นอย่างนี้อยู่อีกเหรอ”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แกแกล้งฉันมาตลอด ไล่ฉันลงไปนอนกับพื้นทุกครั้ง ครั้งนี้ฉันขอเอาคืนบ้างก็แล้วกัน” ฉันนอนกางแขนขาราวกับกำลังพยายามโอบอุ้มเตียงขนาดใหญ่นี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
“เฮอะ แบบนี้ก็สนุกสิ” ฮานะส่งสายตาเอาจริง ก่อนที่เธอจะกระโจนเข้ากระแทกเพื่อหมายจะให้ฉันตกเตียงลงไปนอนกับพื้น แต่ด้วยกำลังของเราทั้งสองที่ใกล้เคียงกัน ทำให้บัดนี้เตียง กลับกลายเป็นพื้นที่สงครามขนาดย่อมๆ
แต่ในขณะที่ฉันและฮานะกำลังเล่นอะไรที่เหมือนเด็ก 5 ขวบเขาเล่นกัน ก็ได้มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาจนฉันและฮานะต้องยุติสงครามไว้ชั่วคราว
“ฮานะ เธอไปดูสิ” เพื่อป้องกันไม่ให้แผนแตก เพื่อความแน่นอนฉันจึงต้องใช้ฮานะให้ไปเปิดประตูห้องแทน ซึ่งฮานะก็เข้าใจในเหตุผล ก่อนที่เธอจะลุกจากเตียงไปที่ประตูห้อง
ฮานะสอดส่องสายตาเข้าไปที่ตาแมว ทันทีที่ฮานะเห็นว่าคนที่อยู่หน้าประตูเป็นใคร ก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตู
“ว่าไง อากิ พลอย เข้ามาก่อนสิ”
“ค่ะ พี่ฮานะ” อากิตอบด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ผิดกับพลอยที่ไม่พูดอะไร
หลังจากที่ฉันเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องทั้งสองคนเป็นใคร ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ว่าไง อากิ พลอย มาทำอะไรห้องนี้ล่ะ”
“พี่ริกะใจร้าย ทิ้งหนูไว้ในห้องเปล่าๆคนเดียว น่ากลัวจะตาย” อากิพูดเพราะเธอต้องถูกจับแยกไปนอนในห้องเดี่ยวชั้น 19
เมื่อได้คำตอบจากอากิ ฉันก็หันไปมองพลอยที่อ้ำๆอึ้งๆเหมือนกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะพูดดีหรือเปล่า
“คะ...คือ พี่ฟีลเขา...ขออยู่ในห้องคนเดียวสักพักหนึ่งน่ะค่ะ”
“อยู่ในห้องคนเดียว?” ฉัน อากิ รวมถึงฮานะ อุทานออกมาพร้อมกัน
พลอยพยักหน้า “นี่หนูมารบกวนพวกพี่รึเปล่าค่ะเนี้ย” สายตาขี้อายไร้ซึ่งความมั่นใจ ทำให้พลอยดูน่ารักขึ้นไปอีกระดับ
“ไม่หรอกๆพลอย ดีซะอีก ไม่งั้นห้องหรูๆสวยๆคงเละแน่ๆ” ฉันมองไปที่ฮานะเชิงขอทำสนธิสัญญาสงบศึก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ฮานะต้องการอยู่เช่นเดียวกัน
พลอยและอากิไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด แต่ก็คล้ายว่าพวกเธอจะไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
“แล้วทำไมอยู่ดีๆฟีลถึงอยากอยู่คนเดียว จนถึงขนาดไล่น้องสาวออกมาจากห้องอย่างนั้นล่ะ”
“นั้นสิ ฟีลไม่น่าเป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้นนี่นา” ฮานะเสริมข้อสงสัยของฉันอย่างรู้ใจ
เราทั้งสองคนจ้องมองไปยังเด็กสาวตรงหน้าที่คล้ายจะเป็นคนเดียวที่สามารถให้คำตอบเราได้ดีที่สุดในตอนนี้
พลอยสบตากับเราเป็นพักๆ คล้ายไร้ซึ่งความมั่นใจ “คือ...หนูก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันน่ะค่ะ แต่บางครั้งพี่เขาก็จะเป็นแบบนี้ขึ้นมาบ่อยๆ”
ฉันไม่ได้คาดคั้นอะไรจากเด็กสาวตรงหน้าต่อไปอีก เพราะสายตาของเธอเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นคือทั้งหมดที่เธอรู้แล้ว
“อยู่ดีๆก็อยากอยู่คนเดียวงั้นเหรอ” ฮานะทวนคำพูดของพลอยซ้ำไปมา แต่ก็เหมือนมีอะไรดลใจให้พวกเราทั้งสี่หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกัน
ฉันลองมองไปยังเพื่อนสาว รวมถึงอากิ และพลอย ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเธอกำลังคิดสิ่งเดียวกับที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้
“คะ...คงไม่ใช่อะไรแนวนั้นหรอกมั้งคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อากิหัวเราะกลบเกลื่อน แน่นอนพวกเราไม่มีใครรู้แน่นอนว่าฟีลกำลังทำอะไรอยู่ในห้องคนเดียวกันแน่ พวกเราในที่นี้...ไม่มีใครรู้เลย นอกจากฟีลเพียงคนเดียว
พวกเราทั้งหมดพยายามปัดความคิดเรื่องฟีลออกไป ก่อนที่อากิจะเสียมารยาทกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง ผิดกับพลอย ที่จ้องมองมาที่ฉันเป็นเชิงขออนุญาต
เมื่อฉันพยักหน้า พลอยก็ค่อยๆนั่งลงบนเตียงช้าๆอย่างเรียบร้อย แสดงถึงความเป็นกุลสตรีแตกต่างจากอากิโดยสิ้นเชิง
“ฟีลนี่โชคดีจริงๆเลยนะ ที่มีน้องสาวดีๆแบบนี้” คำพูดที่ฮานะพูดออกมา ทำให้เด็กสาวหน้าแดงก่ำ
“ริกะ นี่มันใกล้ได้เวลารายการวิทยุของเราแล้วไม่ใช่เหรอ” ฮานะอุทานออกมาทันทีที่มองนาฬิกาสุดหรูที่ถูกแขวนประดับไว้บนฝาผนังเข้ากับบรรยากาศห้องพัก
“จะ...จริงด้วยสิ พลอย อากิ ฟังวิทยุกันมั้ย?” ฉันเอ่ยปากเชื้อเชิญเด็กสาวทั้งสอง แน่นอนทั้งพลอยและอากิต่างก็พยักหน้าตอบรับ
ฮานะพยายามค้นหาสัญญาณวิทยุ แต่ดูเหมือนว่าโรงแรมแห่งนี้จะตั้งอยู่ไกลจากสถานีมากเกินไป สุดท้ายพวกเราจึงต้องฟังผ่านอินเทอร์เน็ตแทน
ฉันรู้สึกได้จริงๆ ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกออกไป บางสิ่งบางอย่างที่งานคอนเสิร์ตหลายๆครั้งที่ผ่านมาไม่เคยมี ฉันไม่อาจรู้ได้เลยสิ่งนั้นคืออะไร...แต่ที่แน่ๆฉันคงจะได้เห็นมันในไม่ช้านี้ และชีวิต คงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สี่สาวรวมตัว
ฉันมองใบหน้าที่คล้ายจะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของฟีลก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ สายตาของเขาใสซื่อจนแทบจะถ่ายทอดทุกอย่างออกมาผ่านดวงตาคู่นั้น
“ริกะ” อยู่ดีๆฮานะก็เข้ามากระซิบที่หูเบาๆ
“ห๊ะ อะไร” ฉันที่พึ่งได้สติคืนกลับมารีบหันไปถามฮานะที่รออยู่ด้วยรอยยิ้มแปลกๆที่ดูแล้วน่าขนลุก
“เฮอะ ยัยบ้า เหม่อมองฟีลไม่วางสายตาเลยนะ”
“มะ...ไม่ได้มองสักหน่อย” สายตาเหน็บแนมของเพื่อนสาวทำให้ฉันนิ่งไม่กล้าพูดอะไรต่อ นอกจากเงียบและได้แต่สวดภาวนาในใจว่าเพื่อนสาวจะไม่คิดอะไรมากก็เท่านั้น
ฉันเดินเข้าไปในตัวโรงแรมเพื่อหมายจะขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 20 เพื่อเข้าห้องพักผ่อน ถึงแม้ฉันจะเคยเห็นประติมากรรมที่ล้ำค่าสวยงามที่ถูกตกแต่งไว้ทั่วโรงแรมแห่งนี้มาบ้างแล้ว แต่ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความหรูหรางดงาม ที่ทางโรงแรมได้ตระเตรียมไว้ให้ผู้มาพักอาศัยได้เชยชม
ขนาดฉันยังตกตะลึงกับความสวยงามของโรงแรมแห่งนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฟีลกับพลอย ที่ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวๆ โดยเฉพาะพลอย ที่เอาแต่หลบอยู่หลังฟีลไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผู้คนที่เดินผ่านไปมา ทำเอาคนที่พบเห็นต่างพากันประหลาดใจ
ฉันนำทางฟีลขึ้นมาที่ชั้น 20 เพราะห้องของเรานั้นติดกัน ตลอดทางเดินถึงห้องถูกปูด้วยพรมสีฉูดฉาดสะอาดตา ที่บ่งบอกถึงความมีระดับของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
“ฟีล นายอยู่ห้องนี้” ฉันชี้ไปที่ห้องหมาย 20/13 ซึ่งตรงกับหมายเลขที่ถูกระบุไว้บนคีย์การ์ดของฟีล
“ขอบคุณมากครับ พี่สาว” พวกฟีลเสียบบัตรลงช่องอ่านด้วยอาการที่คล้ายบ้านนอกเข้ากรุง ทำให้กว่าที่ฟีลจะหาทางเปิดประตูได้ ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งนาที
“ฮานะ ออกมาได้แล้ว” เสียงตะโกนเบาๆถูกส่งไปถึงเพื่อนสาวที่แอบอยู่ในมุมอับของโรงแรม ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงไม่มีทางเห็นว่ามีใครแอบหลบอยู่ตรงนั้น
สาวร่างโปร่ง สูง ราวนางแบบ ค่อยๆแอบคลานออกมาช้าๆอย่างไม่เหลือมาดกุลสตรี
“พวกฟีล เข้าห้องแล้วเหรอ”
ฉันพยักหน้าตอบฮานะ สาเหตุที่ต้องให้ฮานะหลบพวกฟีลเอาไว้ ก็เป็นเพราะแผนคงแตกแน่ถ้าฟีลรู้ว่าฉันอาศัยอยู่ห้องเดียวกับฮานะ
บัตรสีเงินถูกเสียบเข้าไปในเครื่องอ่านอย่างเชี่ยวชาญ ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที ประตูก็ถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างของฉันและฮานะจะรีบหายเข้าไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น
ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากที่ประตูห้องถูกปิดลง ซึ่งหมายความว่าพวกเธอปลอดภัยจากสถานการณ์เสี่ยงแผนแตกมาแล้วนั้นเอง
“อู๊ย ร้อน” ฉันรีบถอดวิกที่สร้างความรำคาญมาตั้งแต่เริ่มใส่ ปรากฏให้เห็นถึงผมดำยาวสลวยที่ถูกปลดปล่อยลงมา แว่นกันแดดที่ปกปิดดวงตากลมใสถูกถอดออก เครื่องสำอางที่แต่งจนหน้าเตอะถูกล้างจนไม่เหลือคราบ พลางให้เห็นถึงใบหน้าที่ไร้ซึ่งสิ่งเจือปนใดๆ
ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อนาโอะอีกแล้ว บัดนี้ผู้หญิงที่ชื่อ ริกะ ได้ถูกนำกลับมาอีกครั้ง
“เธอนี่ชอบหาเรื่องใส่ตัวจริงๆน้า ริกะ” เพื่อนสาวพูดเหน็บแนมทันทีหลังจากที่ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ
“แต่มันก็น่าสนุกใช่มั้ยล่ะ”
ฮานะไม่ปฎิเสธ แต่กลับยิ้มแทนคำตอบ
“ฮานะ...เอาล่ะนะ”
ฮานะตาเบิกโพลง
“ยัยบ้าริกะ อย่าเล่นบ้าๆนะ” ยังไม่ทันฮานะจะพูดจบ ร่างของริกะก็กระโจนเข้ามาใส่ จนฮานะต้องรีบม้วนตัวหลบการจู่โจม
“เตียงนี้เป็นของฉัน”
“ยัยบ้า ริกะ โตป่านนี้แล้วยังเล่นอย่างนี้อยู่อีกเหรอ”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แกแกล้งฉันมาตลอด ไล่ฉันลงไปนอนกับพื้นทุกครั้ง ครั้งนี้ฉันขอเอาคืนบ้างก็แล้วกัน” ฉันนอนกางแขนขาราวกับกำลังพยายามโอบอุ้มเตียงขนาดใหญ่นี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
“เฮอะ แบบนี้ก็สนุกสิ” ฮานะส่งสายตาเอาจริง ก่อนที่เธอจะกระโจนเข้ากระแทกเพื่อหมายจะให้ฉันตกเตียงลงไปนอนกับพื้น แต่ด้วยกำลังของเราทั้งสองที่ใกล้เคียงกัน ทำให้บัดนี้เตียง กลับกลายเป็นพื้นที่สงครามขนาดย่อมๆ
แต่ในขณะที่ฉันและฮานะกำลังเล่นอะไรที่เหมือนเด็ก 5 ขวบเขาเล่นกัน ก็ได้มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาจนฉันและฮานะต้องยุติสงครามไว้ชั่วคราว
“ฮานะ เธอไปดูสิ” เพื่อป้องกันไม่ให้แผนแตก เพื่อความแน่นอนฉันจึงต้องใช้ฮานะให้ไปเปิดประตูห้องแทน ซึ่งฮานะก็เข้าใจในเหตุผล ก่อนที่เธอจะลุกจากเตียงไปที่ประตูห้อง
ฮานะสอดส่องสายตาเข้าไปที่ตาแมว ทันทีที่ฮานะเห็นว่าคนที่อยู่หน้าประตูเป็นใคร ก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตู
“ว่าไง อากิ พลอย เข้ามาก่อนสิ”
“ค่ะ พี่ฮานะ” อากิตอบด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ผิดกับพลอยที่ไม่พูดอะไร
หลังจากที่ฉันเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องทั้งสองคนเป็นใคร ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ว่าไง อากิ พลอย มาทำอะไรห้องนี้ล่ะ”
“พี่ริกะใจร้าย ทิ้งหนูไว้ในห้องเปล่าๆคนเดียว น่ากลัวจะตาย” อากิพูดเพราะเธอต้องถูกจับแยกไปนอนในห้องเดี่ยวชั้น 19
เมื่อได้คำตอบจากอากิ ฉันก็หันไปมองพลอยที่อ้ำๆอึ้งๆเหมือนกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะพูดดีหรือเปล่า
“คะ...คือ พี่ฟีลเขา...ขออยู่ในห้องคนเดียวสักพักหนึ่งน่ะค่ะ”
“อยู่ในห้องคนเดียว?” ฉัน อากิ รวมถึงฮานะ อุทานออกมาพร้อมกัน
พลอยพยักหน้า “นี่หนูมารบกวนพวกพี่รึเปล่าค่ะเนี้ย” สายตาขี้อายไร้ซึ่งความมั่นใจ ทำให้พลอยดูน่ารักขึ้นไปอีกระดับ
“ไม่หรอกๆพลอย ดีซะอีก ไม่งั้นห้องหรูๆสวยๆคงเละแน่ๆ” ฉันมองไปที่ฮานะเชิงขอทำสนธิสัญญาสงบศึก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ฮานะต้องการอยู่เช่นเดียวกัน
พลอยและอากิไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด แต่ก็คล้ายว่าพวกเธอจะไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
“แล้วทำไมอยู่ดีๆฟีลถึงอยากอยู่คนเดียว จนถึงขนาดไล่น้องสาวออกมาจากห้องอย่างนั้นล่ะ”
“นั้นสิ ฟีลไม่น่าเป็นคนที่มีนิสัยแบบนั้นนี่นา” ฮานะเสริมข้อสงสัยของฉันอย่างรู้ใจ
เราทั้งสองคนจ้องมองไปยังเด็กสาวตรงหน้าที่คล้ายจะเป็นคนเดียวที่สามารถให้คำตอบเราได้ดีที่สุดในตอนนี้
พลอยสบตากับเราเป็นพักๆ คล้ายไร้ซึ่งความมั่นใจ “คือ...หนูก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันน่ะค่ะ แต่บางครั้งพี่เขาก็จะเป็นแบบนี้ขึ้นมาบ่อยๆ”
ฉันไม่ได้คาดคั้นอะไรจากเด็กสาวตรงหน้าต่อไปอีก เพราะสายตาของเธอเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นคือทั้งหมดที่เธอรู้แล้ว
“อยู่ดีๆก็อยากอยู่คนเดียวงั้นเหรอ” ฮานะทวนคำพูดของพลอยซ้ำไปมา แต่ก็เหมือนมีอะไรดลใจให้พวกเราทั้งสี่หน้าแดงขึ้นมาพร้อมกัน
ฉันลองมองไปยังเพื่อนสาว รวมถึงอากิ และพลอย ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเธอกำลังคิดสิ่งเดียวกับที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้
“คะ...คงไม่ใช่อะไรแนวนั้นหรอกมั้งคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อากิหัวเราะกลบเกลื่อน แน่นอนพวกเราไม่มีใครรู้แน่นอนว่าฟีลกำลังทำอะไรอยู่ในห้องคนเดียวกันแน่ พวกเราในที่นี้...ไม่มีใครรู้เลย นอกจากฟีลเพียงคนเดียว
พวกเราทั้งหมดพยายามปัดความคิดเรื่องฟีลออกไป ก่อนที่อากิจะเสียมารยาทกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง ผิดกับพลอย ที่จ้องมองมาที่ฉันเป็นเชิงขออนุญาต
เมื่อฉันพยักหน้า พลอยก็ค่อยๆนั่งลงบนเตียงช้าๆอย่างเรียบร้อย แสดงถึงความเป็นกุลสตรีแตกต่างจากอากิโดยสิ้นเชิง
“ฟีลนี่โชคดีจริงๆเลยนะ ที่มีน้องสาวดีๆแบบนี้” คำพูดที่ฮานะพูดออกมา ทำให้เด็กสาวหน้าแดงก่ำ
“ริกะ นี่มันใกล้ได้เวลารายการวิทยุของเราแล้วไม่ใช่เหรอ” ฮานะอุทานออกมาทันทีที่มองนาฬิกาสุดหรูที่ถูกแขวนประดับไว้บนฝาผนังเข้ากับบรรยากาศห้องพัก
“จะ...จริงด้วยสิ พลอย อากิ ฟังวิทยุกันมั้ย?” ฉันเอ่ยปากเชื้อเชิญเด็กสาวทั้งสอง แน่นอนทั้งพลอยและอากิต่างก็พยักหน้าตอบรับ
ฮานะพยายามค้นหาสัญญาณวิทยุ แต่ดูเหมือนว่าโรงแรมแห่งนี้จะตั้งอยู่ไกลจากสถานีมากเกินไป สุดท้ายพวกเราจึงต้องฟังผ่านอินเทอร์เน็ตแทน
ฉันรู้สึกได้จริงๆ ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกออกไป บางสิ่งบางอย่างที่งานคอนเสิร์ตหลายๆครั้งที่ผ่านมาไม่เคยมี ฉันไม่อาจรู้ได้เลยสิ่งนั้นคืออะไร...แต่ที่แน่ๆฉันคงจะได้เห็นมันในไม่ช้านี้ และชีวิต คงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ