คุณหนูหน้าร้ายกับสาวใช้หน้าปลวก(yuri)

-

เขียนโดย rinjung

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.10 น.

  8 chapter
  0 วิจารณ์
  18.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) การกลับมา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
                                                การกลับมา“อ่ะค่อก แค่ก คุณแม่ลองพูดอีกทีซิค่ะ “บุษบาสำลักน้ำอย่างกะทันหัน ต้นเหตุก็มาจากคำพูดของมารดานั่นเอง
“คุณแม่ต้องล้อบุษเล่นแน่ๆ”กลอยแก้วส่ายหน้าไปมาช้าๆ ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มที่ชี้ชะตาชีวิตของเธอ
“หน้าแม่ดูเหมือนคนล้อเล่นอย่างนั้นเหรอ”บุษบากระพริบตาถี่ๆ นี่เธอไม่ได้หูฝากไปจริงๆ สิ่งที่แม่พูดมาเป็นความจริงทุกอย่างจริง
 “ทำไมบุษต้องปลอมตัวด้วยละคะ ไปในแบบบุษบาแบบนี้ไม่ได้เหรอคะ ลองคิดดูถ้าพิมพ์รู้ว่าเราร่วมมือกันหลอก พิมพ์ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คนที่จะซวยก็เป็นบุษอยู่ดี"บุษบาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาคว้าหมอนใบเล็กมากอดอย่างครุ่นคิด
 “ขืนลูกไปแบบนี้จะได้ถูกพิมพ์ปล้ำเอานะซิ แม่ไม่อยากให้ลูกของแม่เสียตัวให้กับผู้หญิงหรอกนะ ลูกก็โตเป็นสาวแล้วไม่ใช่เด็กน้อยแบบแต่ก่อนแล้ว กว่าลูกจะปราบมือกับพิมพ์ได้ คงจะ..”
 “เอาเถอะค่ะ  บุษจะลองเก็บเอาไปคิดแล้วกัน”บุษบาถอนหายใจพลางคิดถึงภาพวันก่าๆ เด็กหน้าตามอมแมมกะโปโล ชอบไล่ตีเด็กผู้ชายที่ชอบมารังแกเธออยู่บ่อยๆ จนได้แผลกลับบ้านแถบทุกวัน ป่านนี้เด็กคนนั้นหน้าตาจะเป็นยังไงบ้างนะ คงโตเป็นสาวสะพรั่ง คงจะสวยไม่เบา แล้วทิ้งมาดเด็กเกเรไปแล้วหรือยังนะ แค่เพียงคิดว่าจะได้เจอก็ดีใจจนเนื้อเต้น แต่การพบเจอกลับเปิดเผยตัวตนไม่ได้ 
 
“ว้าย คุณหนู จะทำอะไรคะ ปล่อยนะคะ”มุรินดาร้องลั่นเมื่อเสื้อผ้าของตัวเองถูกกระชากออกจากร่างอย่างรวดเร็วเหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกปิดร่างกายส่วนบนเอาไว้เท่านั้น สองแขนของสาวใช้ที่ปัดป้องคุณหนูตัวแสบรีบกอดปกป้องตัวเองโดยอัตโนมัติ
“คุณหนูค่ะ อย่าทำอะไรดาวเลยนะคะ”หญิงสาวร่างบางเอ่ยปากอ้อนวอนน้ำตาซึมตาคู่สวยเต็มไปด้วยความกลัว
“หยุดนะ ยัยพิมพ์”เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงขู่ของมารดารินลดาหยุดชะงักทันที รีบผละออกจากสาวน้อยร่างบาง
“คุณแม่”รินดลาเรียกชื่อมารดาเบาๆ ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาดุของมารดาที่กำลังจ้องมาทางเธอ
“ทำอะไรของแก แกทำบ้าอะไรของแก”รินลดาจ้องมองหญิงสาวที่หนีออกไปจากห้องอย่างเสียดาย อุตส่าห์วางแผนงาบตอนที่มารดาไม่อยู่ ไหงกลับมาเร็วอย่างนี้ เหยื่ออันโอชะกำลังเข้าปากแล้วเชียว
“เปล่าค่ะ พิมพ์ก็แค่หยอกเขาเล่นๆ แต่เขาทำเป็นตีโพยตีพายไปเอง”
“เมื่อไหร่ลูกจะเลิกทำตัวแบบนี้สักที แม่เบื่อเต็มทีแล้ว ลูกก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่ชอบแต่ทำไมยังจะทำอีก ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะ แม่ชักจะทนลูกไม่ไหวแล้วจริงๆ”เดือนหยาดระอาใจที่ต้องตักเตือนอะไรซ้ำๆ อยู่เป็นประจำ และก็ไม่ได้ทำให้ลูกสาวของเธอเปลี่ยนแปลงเลย
“ทีคุณพ่อทำไมยังทำได้ แต่ทำไมหนูถึงทำไม่ได้”รินลดาพูดทั้งน้ำตาคลอ
 เพี้ยะ!!! ฝ่ามือเดือนหยาดฟาดลงใบหน้าสวยอย่างไม่ตั้งใจ  รู้สึกตกใจไม่น้อยเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือขนาดนี้
“คุณแม่ใจร้าย คุณแม่ใจร้าย ฮือ ฮือ”รินลดาร้องให้โฮหนีออกไป เดือนหยาดเหมือนหมดแรงทรุดลงตรงนั้น
“คุณผู้หญิง เป็นอะไรไปคะ มาคะ นั่งตรงนี้ก่อน ส้วมจะไปหายาดมมาให้นะคะ”สาวใช้รีบเข้ามาพยุงให้ไปนั่งปลายเตียงก่อนจะหายไปสักพักและกลับมาพร้อมยาดม
“ดาวไปไหนซะแล้วละ อย่าบอกนะว่าเก็บกระเป๋าหนีไปอีกแล้ว”เดือนหยาดสูดยาดมเข้าเต็มแรงราวกับจะสูดดมกลิ่นหอมให้หมดในคราวเดียวกัน
“ค่ะ คุณนาย บอกว่าให้รอก่อนก็ไม่ยอมค่ะ จะไปท่าเดียว”
“มะรืนนี้จะมีคนเข้ามาทำงานใหม่ เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อย”ถึงเวลาที่เดือนหยาดจะลงมือดัดนิสัยแสนดื้อดึงของบุตรสาวสักที หากปล่อยนานเกินไปรังแต่จะเป็นปัญหา 
ช่วงบ่ายของวันต่อมา…
เสียงโวยวายเฮฮาครึกครื้นดังลั่นมาจากริมสระน้ำหลังบ้าน แข่งกับเสียงร้องเพลงจังหวะสนุกสนานที่ดังสนั่นไม่แพ้กัน แม้ห้องรับแขกจะอยู่ห่างจากสระว่ายน้ำแต่ก็สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ส้วมสาวใช้ประจำบ้านนั่งปรนนิบัติพัดวีเดือนหยาดที่ลมจับครั้งแล้วครั้งเล่ากับความโกลาหลวุ่นวายภายในบ้าน ตอนนี้บ้านหลังนี้ไม่ต่างอะไรกับสวนสนุก หญิงสาวมากหน้าหลายตาวิ่งเข้าวิ่งออกไม่คิดจะเกรงใจตนเลยสักนิด มิหนำซ้ำแต่ละคนยังสาละวนอยู่กับตู้เย็นหยิบจับของกินได้ตามใจชอบ จนพื้นบ้านเปียกแชะไปทั่วจากในตัวบ้านไปจนถึงริมสระน้ำและยังมีขวดบรรจุแอลกอฮอล์วางเกะกะอยู่บนพื้น
“พี่พิมพ์ขา หวานว่าเราขึ้นห้องกันดีกว่านะคะ”เสียงแหบพร่าของสาวสวยที่อยู่ข้างกายรินลดากระซิบประโยคดังกล่าวลงเข้าที่หูด้วยน้ำเสียงที่เซ็กซี่ ทำนิ้วปูไต่ไล่ไปตามแขนขาสะเปะสะปะ
“ขึ้นหลังพี่ซิค่ะ”รินลดากระซิบตอบยืนขึ้นหันหลังให้สาวเซ็กซี่กระโดดขึ้นขี่หลังในอาการมึนเมาขาอ่อนปวกเปียกพันกันจนผลักดันให้ตัวเซไปเซมาจนสุดท้ายต้องหล่นลงไปในสระน้ำ สาวสวยที่มาร่วมงานหันมามองกันเป็นตาเดียวก่อนจะเสียงหัวเราะดังขึ้นเกรียวกราว
“โธ่ พิมพ์ขา ไม่ทันเท่าไหร่ ก็ป๊อดซะแล้ว”รินลดาผุดขึ้นมาจากสระน้ำว่ายมายังขอบสระเอื่อยช้า แนบหน้าพิงกับขอบสระ
 
รินลดาหญิงสาวร่างโปร่งบางอยู่ในชุดว่ายน้ำสีฟ้าอ่อนแนบไปกับเรือนร่างสวยสมบูรณ์ ดูสวยเฉี่ยวเปรี้ยวจี๊ดดวงตากลมโตราวไข่ห่าน ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเป็นธรรมชาติ คิ้วโก่งดกดำ จมูกโด่งเชิดรั้นอย่างคนเอาแต่ใจ ริมฝีปากเรียวบางได้รูปรับกับใบหน้าเรียวเล็ก ผมประบาคลอเคลียไหล่สวยแม้เธอจะอยู่เหมือนกับลูกแมวน้อยตกน้ำแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยยิ่งหย่อนแต่อย่างใด
 
รินลดาเงยหน้าขึ้นมองบางคนที่ยืนกอดอกมองเธออยู่กระพริบตาสามครั้งเพื่อปรับม่านตาที่พร่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ใบหน้าบูดเบี้ยวของคนที่มองจ้องเธออย่างกับเกลียดชังมาแต่ชาติปางไหน ทำให้เธอต้องเงยหน้าหัวเราะร่วน
“แกนะแก สภาพดูไม่ได้เลย โตจนป่านนี้แล้วทำไมชอบทำให้แม่แกปวดหัวอยู่เรื่อยเลย”สายป่านกระชากแขนเรียวโผล่พ้นจากน้ำแล้วออกแรงลากขึ้นจากสระ
“ฉันไม่ได้จุดธูปเชิญแกมาสักหน่อย โผล่มาหลอกมาหลอนทำไม”เสียงบ่นอ้อแอ้ดังอยู่เพียงแค่ลำคอแต่คนฟังพอจับประเด็นได้
“เพี้ย!!”มือเรียวของผู้มาเยือนฟาดลงกับต้นขาขาวของเพื่อนสาวตัวแสบอย่างแรง
“อุ๊บ๊ะ เห็นขาฉันเป็นอะไรเนี๊ยะ ถ้าจะตีแบบนี้ไปเลย ไปดวลกันที่สนามหน้าบ้าน”รินลดาพลิกตัวนอนหงายมองท้องฟ้าโปร่งการมองเห็นของเธอเรือนลางลงทุกที เปลือกตาหนักอึ้งถูกทับให้หลับสนิทไม่นานสมองปิดโหมดการใช้งาน
“ไอ้พิมพ์ เฮ้ย ตื่นซิ โธ่เอ๊ย ดูซิ แล้วจะแบกยังไงไหวละ”สายป่านส่องสายตาตามสาวๆมาช่วยพาตัวรินลดาเข้าบ้าน แต่มองดูแล้วทุกคนต่างอยู่ในอาการเดียวกันจะไปหวังพึ่งใครให้มาช่วยแบกพาเพื่อนตัวแสบเข้าห้องได้
“ปล่อยให้นอนอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องแบกไปไหนทั้งนั้น”เดือนหยาดทอดสายตามองลูกสาวที่เมาไม่ได้สติอย่างเวทนา
“แต่ว่า...มันจะดีเหรอคะ”สายป่านท้วง
“ดีที่สุดแล้วละ  มาหาพิมพ์มีอะไรหรือเปล่า หรือแม่ลูกสาวตัวดีไปก่อเรื่องอะไรไว้อีก”เดือนหยาดทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้มองดูสาวสวยในชุดว่ายน้ำวางสายตาไล่จนสาวสวยเหล่านั้นเดินหายไปทีละคน
“ไม่มีอะไรหรอกคะ คุณป้า วันนี้พิมพ์ไม่ได้ไปเรียน น้ำก็เลยมาดูว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“ก็เป็นอย่างที่เห็นละ ตั้งแต่โตมาไม่เคยทำอะไรให้ป้าภูมิใจสักเรื่องเลย”เดือนหยาดพูดแล้วถอนหายใจ ตนจะแบกรับเรื่องราวแย่ๆ แบบนี้ไปได้อีกนานสักเท่าไหร่ วงเวียนของปัญหามันวนซ้ำไปซ้ำมาจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ปัญหานี้หลุดปัญหานั้นก็รุมเร้าสับเปลี่ยนไปมา
“คุณป้าใจเย็นเถอะค่ะ น้ำว่าเราคงจะต้องหาทางออกที่ดีได้อย่างแน่นอน”สายป่านเริ่มประโยคด้วยการให้กำลังใจเดือนหยาดพยักหน้ารับเบาๆ
 
“อึ้มมมมมมมม”นัยน์ตาปรือขึ้นช้าๆ ปวดเนื้อปวดตัวราวกับว่ามีของหนักหลายชิ้นกำลังสุมหัวกันทับตัว เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วสติสัมปชัญญะถูกเรียกให้กลับมา อาการปวดร้าวที่หัวศีรษะลาดไปถึงหัวไหล่ รับรู้ได้สิ่งรอบๆกาย แต่นี่มันไม่ใช่ในห้องนอนของเธอนี่ ตาคู่หวานเบิกโพล่ง ก้มลงสำรวจตัวเองที่ยังอยู่ในสภาพเดิม บรรยากาศที่เงียบสงบเหมือนกับป่าช้า ทุกคนหนีกลับกันหมดแล้วทิ้งเธอไว้ให้นอนอยู่ริมสระคนเดียวทั้งคืนทำแบบนี้ได้อย่างไร ระหว่างนั้นสายตาของเธอสังเกตไปตามตัว เจ้ายุงตัวดีคงจะเจาะเลือดของเธอไปกินจนอิ่มท้องทิ้งรอยแดงเป็นตุ่มอยู่ทั่วตัว
“ตื่นแล้วเหรอ รู้สึกได้บุญขึ้นมาบ้างไหม นอนบริจาคเลือดให้ยุงมันกินทั้งคืน”สายป่านเอ่ยขึ้นมาจากทางด้านหลังดวงตาสั่นระริกกำลังเพ่งเล็งเพื่อนสาวที่พูดจาทำให้อารมณ์เสีย
“ไอ้เพื่อนทรยศ ทำไมไม่พาฉันไปนอนข้างบน จะรอให้ยุงมันมาหามฉันลงโลงหรือไง”เสียงดังขึ้นตามอารมณ์เอ่ยหน้าตาขึงขังใส่อารมณ์เต็มที่
“ไปอาบน้ำซะเถอะ ทนไม่ได้กับหน้าตาแกตอนนี้”สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาซีดโทรม ริมฝีปากซีดเซียว เห็นแล้วก็น่าตกใจถ้าไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนคงจะนึกว่าผีเดินได้ตอนกลางวัน
“จำไว้เลยนะ คราวหน้าแกถูกผู้ชายตามจีบ จะบอกว่าแกโสด จีบได้ คอยดูเถอะ”
“อ้าว แบบนี้เขาเรียกว่าคนพาล เกี่ยวอะไรกันด้วยละ เรื่องนั้นกับเรื่องนี้”สายป่านถลาตามหลังรินลดาไปติดๆ เพื่อเอาใจเพื่อนสนิทให้ทำตัวติดกับเธอเป็นปาทองโก๋จะได้กีดกันพวกผู้ชายที่ตามจีบเธอไม่เว้นแม้แต่ระยะห่างให้ได้มีเวลาส่วนตัว
“นี่ ขอเข้าไปหน่อยซิ เค้าไม่ได้ตั้งใจนะ เมื่อคืนแม่ตัวอ่า บอกเขาว่าไม่ต้องพาตัวเองกลับห้อง ให้นอนอยู่ตรงสระน้ำ มันไม่ใช่ความผิดเค้าสักหน่อย”สายป่านเคาะประตูเรียกขณะที่หูยังแนบฟังเสียงจากด้านใน
“เดี๋ยวหูแกจะเน่า”สายป่านได้ยินแล้วหน้าเหวอรีบผละตัวออกจากประตู
“เข้ามาเลย เชิญตามสบาย อ้อ ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยจัดห้องให้หน่อยนะ มันรก ไม่มีที่นอน”
“ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ”สายป่านทำบ่นปากอุบอิบลงมือทำความสะอาดอย่างไม่เต็มใจนัก ตาข้างหนึ่งชายไปมองเจ้าของห้องที่กำลังนั่งอ่านหนังสือสบายใจแกล้งเดินเอาขนไก่ไปปัดไล่ที่
“หลบหน่อยซิ ตรงนี้ฝุ่นเยอะ”รินลดาขยับตัวนิดหน่อยแต่สายป่านก็ปัดขนไก่มาเรื่อยๆจนสังเกตได้ว่าถูกเพื่อนรักแกล้ง
“แกล้งฉันเหรอ พรุ่งนี้ฉันจะให้สาวๆของฉันจับแกแก้ผ้า”รินลดาวิ่งไล่จับจนหอบเข่าพับนั่งอยู่กับที่
“ที่เหลือจัดการเองนะ ฉันกลับละ”สายป่านรื้อข้างของที่จัดเก็บเอากองไว้ที่เดิม ยิ้มกริ่มเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี
“เพื่อนบ้า ไว้ใจไม่ได้เลย สั่งให้ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง เชอะ ฝากไว้ก่อนเถอะ”รินลดาเก็บกวาดของในห้องด้วยตัวเองแต่ระหว่างนั้นสายตาต้องหยุดนิ่งกับสิ่งหนึ่งที่เธอไม่ได้หยิบมันขึ้นมากอดนานจนจำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดได้กอดมันเมื่อไหร่
เมื่อสิบปีก่อน…
“แงๆ ฮือๆ”เด็กหญิงวัยห้าขวบกำลังร้องให้อยู่สนามเด็กเล่นของโรงเรียน เด็กน้อยคนนั้นร้องให้โยเย น้ำตาใสๆไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อน อาบเต็มแก้มสองข้างผมเปียที่ถูกถักไว้ยุ่งเหยิงเหมือนถูกดึง เด็กน้อยนั่งร้องให้ท่ามกลางเด็กชายสองสามคนที่ยืนหัวเราะอย่างชอบใจ แถมยิ้มอย่างภูมิใจที่แย่งตุ๊กตาหมีพูห์สีฟ้ามาได้ แต่ก็ไม่ได้ชอบใจอะไรมันหรอกแต่เพราะอยากแกล้งเล่นสนุกๆเท่านั้น
“ร้องให้เลย ร้องให้เยอะๆ ไม่มีใครมาช่วยหรอก ไอ้ลูกไม่มีพ่อ”เด็กชายผมจุกเยาะเย้ยเด็กหญิงตัวน้อยอย่างสนุกปาก
“ฉันจะฟ้องหมูอ้วน ว่าพวกนายแย่งตุ๊กตาฉัน”เด็กน้อยปาดน้ำตาของตัวเองพูดไปสะอื้นไป รีบวิ่งไปหาเด็กน้อยตัวมอมแมมที่กำลังวิ่งเข้ามาหาและไปยืนแอบอยู่ด้านหลัง
“พวกนายทำอะไรเพื่อนฉัน”เสียงดังก้องจากเด็กหญิงหน้าตามอมแมมวัยเดียวกันจะโกนใส่พวกเด็กชายจอมเกเรด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโห
“ฮา ฮา นี่เหรอวะ หมูอ้วน แห้งยังกับนาผี”เด็กชายตัวโตที่สุดของกลุ่มถามขึ้น
“…”เด็กหน้าตามอมแมมไม่ตอบอะไรกระชากแขนเด็กชายตัวใหญ่กว่าและเหวี่ยงให้ล้มลงแล้วชี้หน้าเด็กชายตัวแห้งสองคนที่อยู่ข้างๆจนวิ่งแจ้นหนีไปคนละทิศทาง
“ฮือ ฮือ แกต่อยฉัน ฉันจะไปฟ้องแม่ ไอ้นาผี ฮือ ฮือ แม่จ๋า”เด็กชายตัวใหญ่ร้องให้เสียงดังและวิ่งหนีไปด้วยความกลัว เด็กหน้าตามอมแมมจึงเดินไปหยิบตุ๊กตาและยื่นให้
“รักหมูอ้วนจัง ขอบคุณนะที่ช่วย บุษให้ตุ๊กตาตัวนี้นะ”เด็กหน้ามอมแมมกระโดดด้วยท่าทางดีใจกอดตุ๊กตาเอาไว้แน่น 
เพียงแค่ย้อนเวลาไปเมื่อวันวาน ยิ่งทำให้ยิ่งคิดถึงคิดถึงเด็กน้อยช่างงอแงร้องให้วันละหลายเวลา แต่ว่าช่างเป็นเด็กที่ออดอ้อนและมีน้ำใจ  แค่เพียงคิดไปน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม แม้แต่วันที่จากกันก็จากกันอย่างกะทันหันไม่ได้ร่ำลา อยากจะรู้ว่าเด็กขี้งอแงคนนั้นจะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า หรือว่าลืมกันไปแล้ว
“บุษ บุษอยู่ที่ไหน คิดถึงพิมบ้างหรือเปล่า”รินลดาเพ้อถึงเพื่อนที่เธอรักที่สุดในวัยเด็กเสียงแผ่วน้ำตาเริ่มเอ่อริมขอบตารอเวลาร่วงออกมาพลางกระชับตุ๊กตาหมีพูตัวสีฟ้ามากอดไว้กับอกแน่น
 
ตื๊ด ตื๊ด เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้รินลดาต้องกลบกลืนน้ำตา
“คุณแม่อยู่ที่ไหนคะ”รินลดาพูดขึ้นเสียงเบาๆ ทั้งที่น้ำตากำลังไหล
“เสียงอู้อี้ เป็นอะไรหรือเปล่า”เดือนหยาดขมวดคิ้วนิดๆเพราะคนปลายสายน้ำเสียงผิดปกติ
“หนูเพิ่งตื่นนะคะ”รินลดาใช้หลังมือเช็ดน้ำตาพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แค่เพียงคิดถึงคนคนเดียวทำให้เธอต้องมีน้ำตาขนาดนี้เชียวหรือ
“แม่หาคนใช้ใหม่ให้แกได้แล้ว อย่าสร้างปัญหาอีกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแม่จะส่งแกไปขี่หลังควายที่บ้านนอก“
“แต่หนู.....”รินลดาดันร่างลุกขึ้นยืนอย่างเร็วกำลังจะประท้วงแต่ปลายสายกลับตัดสายทิ้งไปก่อน
“คุณแม่นะคุณแม่  ทำไมต้องหาสาวใช้มาเพิ่ม แค่ส้วมคนเดียวก็พอแล้ว”รินลดาทุบมือลงหมอนอย่างแรงตามประสาคุณหนูเอาแต่ใจ
 “ว้าย เดี๋ยวก็ตีหัวแตกเลย เข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียง”รินลดายกมือขึ้นเขกหัวส้วมเบาๆ แต่ส้วมรู้ทันเบี่ยงตัวหลบทันที
“ก็เห็นคุณหนูมองหาอะไรก็ไม่รู้ เลยอยากจะช่วยนะคะ”
“อยากช่วยใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น ช่วยไปเก็บกระเป๋าของแกออกไปจากบ้านฉัน”
“อูย ไม่ช่วยแล้วถ้าเป็นแบบนี้ ไปดีฟ่า ฟิ้ววว”ส้วมพูดพลางวิ่งหนีไปอย่างเร็วกลัวจะถูกไล่ออกจริงๆ
“คอยดูนะ ถ้าอีกคราวนี้จะจับปล้ำให้หนีแทบไม่ทันเลย คอยดู”รินลดากัดฟันกรอดๆ นอกจากส้วมที่เป็นลูกของป้าอิ่มคนเก่าคนแก่ของบ้านแล้วเธอไม่อยากได้สาวใช้หน้าไหนทั้งนั้น ไม่อยากเห็นไม่อยากเจอ เกลียด เกลียดคำว่าคนใช้ เพราะคำว่า  สาวใช้ บิดาเลยต้องทอดทิ้งเธอและมารดาไป ไปกับสาวใช้หน้าสวยคนนั้น
 
รุ่งเช้าของวันใหม่...
"คุณหนูค่ะ อาหารเช้าค่ะ"เสียงหวานนุ่มกระซิบเบาๆ  รินลดาลืมตาโพล่งเบิกตาเจ้าเล่ห์ แสยะยิ้มที่มุมปาก
"ชื่ออะไรละเธอนะ"รินลดาถามเสียงไม่เป็นมิตรนัก ดันตัวลุกขึ้นช้าๆ ตะปมเข้ากอดด้านหลังของสาวใช้คนใหม่ให้ตกใจเล่น
"แก้วค่ะ คุณหนู"บุษบายิ้มร้าย ยังไม่เห็นหน้าเธอละซิ ถ้าเห็นขึ้นมาคงร้องดังเป็นนกหวีด
“ชื่อเพราะจัง”รินลดากระซิบลงต้นหูนุ่มและงับเบาๆ หยอกล้อ ประกายตาคู่สวยส่องแพรวพราว
"คะ คุณหนูค่ะ"แก้มขาวเหมือนหยวกร้อนผ่าวตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกำลังพยายามเรียกสติกลับคืนมาเพราะยังต้องเปิดศึกกับหมูอ้วนไปอีกนาน ตอนนี้ชักจะเชื่อคำที่แม่ของเธอพูดขึ้นมาแล้วละซิ
 “หมูอ้วนตัวแสบ คอยดูนะจะทำให้เป็นหมูปิ้งเลย”บุษบาพูดกับตัวเองลอบยิ้มเบาๆ
รินลดาทำหน้าตาเล็กๆ เหมือนคนเจ้าเล่ห์ จับไหล่บุษบาให้หมุนมาหาแต่แล้ว เมื่อได้เห็นหน้าบุษบาถึงกับ..
 "เหว๋อ คะ คนหรือผีวะเนี่ย"รินลดาหมุนตัวบุษบาให้หันมาหาแต่แล้วก็รีบถอยหนีทั้งที่ไม่ทันตั้งหลักเลยล้มลงไปกับพื้นทันที หน้าตาที่ดูหวาดกลัวเหมือนแก้วหน้าม้าหลุดออกจากจอไม่มีผิดเพี้ยน บุษบาอยากจะหัวเราะออกมาเสียงดังๆ ตะกี้นี้ยังกอดเธออยู่เลย พอได้เห็นหน้าเท่านั้น ทุกอย่างเปลี่ยนในแวบตาเดียว ขนาดตอนที่เธอตัดสินใจแต่งหน้าตาให้เป็นแบบนี้ก็ยังกลัวตัวเองเหมือนกัน แล้วคนอื่นจะขนาดไหน
 "หมูอ้วน เอ้ย คุณหนูเป็นอะไรไหมค่ะ ให้บุษ เอ่อ ให้แก้วช่วยนะคะ"บุษบาหลุดปากเรียกออกมา แต่ตอนนี้รินลดาไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตากลัวบุษบา เอามือปิดปากตัวเองเกือบจะหลุดปากพูดชื่อจริงของตัวเอง
"ยัยปลวก อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ ออกไปให้พ้นนะ  ผู้หญิงอะไร หาความสวยไม่ได้เลย ขี้เหร่ที่สุดของที่สุด ยัยแก้วหน้าม้า ยัยอัปลักษณ์ คุณแม่ไปเอาเธอขึ้นมาจากหลุมไหนกันเนี่ย"ริลดาขดตัวนั่งสั่นอยู่ข้างเตียงพลางตะโกนด่าคลานไปแอบริมเตียงชะงักหน้าขึ้นไปมองบุษบาสีหน้าส่อแววหวาดกลัวยิ่งทำให้บุษบาชอบใจ ไม่เปลี่ยนเลยยัยหมูอ้วนของเธอ ยิ่งตอนโกรธยิ่งมีมาดนักเลงเหมือนวัยเด็กไม่มีผิด น่ารักชะมัด!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา